กิ๊กกิ้ววววว สวัสดีค่ะ
เพิ่งสร้างบล็อกเป็นของตัวเองครั้งแรก และตั้งใจอยากกระพือFicในอุดมคติ?ของตัวเองเต็มที่เลยค่ะ............อันที่จริง
SF เรื่องนี้มีอิทธิพลมาจากเรื่อง Fic (KirkSpock) How High the Moon ไม่รู้จะพูดยังไงเช่นกันแต่...NCCCCCCC!!!!!
เรื่องนี้มีด้วย แต่กว่าจะ...กัน ปาไปเกือจบ(จริงๆ)
เรื่องนี้ค่อนข้างประทับใจค่ะ ชอบมากๆ สป็อคหวงจิมมากๆ
แม้กระทั่งแต่กับหมอก็เหอะ คิคิ น่ารักอ่ะ..^^
และด้วยความที่ว่า
Ray เป็นคนมัก Nc หลายๆ
(ไม่ค่อยบ่งบอกเลย ว่าตัวเองหื่นเพียงใด -..-) มันเลยคาใจค่ะ ก็เลยขออนุญาติเเต่ง SF
เรื่องนี้มาเป็นภาคต่อของ How High the Moon ในเรื่องของความหฤหรรษ์นะค่ะ เหอๆ เชิญรับชมได้เลยค่าาาา m_
_m
ป.ล.
Part สุดท้าย Nc กระฉูดดดดดดดดดด
วะฮะฮ่าาาา ....อุ เเค่กๆ สำลักน้ำลายตัวเองงง
พอเเล้ว!!! ....ไร้สาระ ///โดนไล่ฟาด/// จบการเวิ่นเว่อออออ
เดี๋ยววววววววววว!
ใครอยากอ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นก็อ่าน เรื่อง Fic (KirkSpock) How High the Moon ก่อนได้เลยค่าา...จิ้มโลด แต่ถ้ายังไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรค่ะ
รู้เรื่องเหมือนกัน How High the Moon จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพบรักของกัปตันใจกล้าแต่น่ารักและวัลแคนแน่นหลักการค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------
ภายในตึกวิทยาศาสตร์ของสตาร์ฟลีต..............................
ร่างสูงของชาววัลแคนนั่งทำงานอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ
........เงียบจริงๆ
เพราะในห้องที่เค้ากำลังนั่งทำงานอยู่นั่นมีเค้าเพียงคนเดียว
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครอยากเข้ามาทำงานกะดึกในคืนวันศุกร์แบบนี้หรอก เพราะนี่ก็เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์
ทุกๆ คนก็อยากไปปลดปล่อยและดื่มฉลองกัน หลังจากลุยงานกันมาแล้วตั้งห้าวัน
ยามรักษาความปลอดภัยของตึก
ซึ่งเดินขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยอยู่เป็นประจำ ก็ได้เดินเข้ามาแวะเวียนเช็คความเป็นอยู่
ของบุคคลซึ่งสำคัญที่สุดอีกคนหนึ่งของยาน Enterprise
พุงโลที่ถูกรัดด้วยเครื่องแบบ เดินนำหน้าเข้าไปในห้องแลปใหญ่ ภายในถูกแบ่งแยกเป็นบล็อกเล็กๆ
เพื่อใช้สำหรับเก็บและศึกษาตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตหายาก
หนึ่งในบล็อกนั้น ร่างผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีเข้ม กำลังก้มๆ เงยๆ
อยู่กับการทดลองสารบางอย่างกับสิ่งมีชีวิต แปลกประหลาด
ใบหูแหลมของเค้าไวต่อเสียง
จึงทำให้รู้ว่ามีผู้มาเยือนตั้งแต่ก่อนก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้ว แต่เค้าก็ยังคงทำงานของตัวเองต่อไป
เพราะการมาของยามประจำตึกนั้น อยู่ในการคำนวณอันหลักแหลมของเค้าแล้วว่ามันจะเกิดขึ้น
“คุณสป็อค........ยังไม่กลับอีกหรือครับ” ลุงยามผิวดำทักขึ้นอย่างเป็นมิตร
“ครับ” ร่างสูงตอบตรงคำถาม..........มาก -_-“
“นี่คืนวันศุกร์นะครับ ทุกๆ
คนก็ออกไปฉลองกันหมด พรุ่งนี้ก็พักผ่อน คุณก็น่าจะออกไปพักผ่อนหรือสนุกบ้าง
ผมเห็นคุณทำงานกะดึกทุกวันศุกร์เลยก็ว่าได้” ลุงเค้าหวังดี อยากให้คนบ้างานอย่างสป็อคได้พักผ่อนบ้าง
“เช่นเดียวกับคุณครับ ที่จะขึ้นมาตรวจสอบความเป็นไปของชั้นที่เจ็ดนี้
ในเวลา 20.45 น. ของทุกๆ คืน” อย่างที่รู้กันว่าชาววัลแคนแน่นหลักการเอามากๆ
เค้าสามารถคำนวณความเป็นไปของทุกอย่างได้เป็นอย่างดี (คนรึหุนยนต์นี่............-_-)
“คร้าบบ งั้นก็ตามใจ ผมไม่กวนใจคุณแล้วก็ได้
ตอนนี้เพื่อนบนยาน Enterprise ของคุณคงกำลังมันส์กันสุดเหวี่ยงอยู่แหงๆ”
ลุงยามพูดลอยๆ พลางเดินออกไปจากแลปของวัลแคนหนุ่ม
สป็อคหยุดมือที่กำลังทำงานอยู่ทันที คำพูดทิ้งท้ายของยามวัยสี่สิบห้า ทำให้เค้ารู้สึกกังวลถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมาตะหงิตๆ
หลังจากนั้น....... สป็อคก็รู้สึกถึงความคิดถึงและความตัดพ้อของอีกคนหนึ่ง ก็แหงล่ะ
ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกของเค้าตอนนี้เลย
เป็นของอีกคนหนึ่งที่เค้ารู้สึกเป็นห่วงตะหงิตๆ
เมื่อกี้นี้นั่นแหละ.......................
++++++++++++*****+++++++++++
ถ้าคุณทำงานในสตาร์ฟลีต คุณคงรู้จักคนๆ นี้ดี
ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร
หรืออยู่ที่ไหน........
............ก็คงไม่พ้นการถูกจับจ้องไปได้
แต่นั้นเป็นเรื่องที่เราจะพูดถึงต่อจากนี้ต่างหาก
ก่อนที่กัปตันใจกล้าแห่งยาน USS Enterprise จะ...............เอ่อ.............เอาเป็นว่าตอนนี้
เค้ากำลังนั่งสั่งเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์ประจำของเค้ากับลูกเรือ
ตาสี ฟ้าเปล่งประกายแวววาว
ตอนนี้ดูหมองลงไปถนัดตา จิม เคิร์ก
นั่งจิบเครื่องดื่มอย่างเหม่อๆ ดูก็รู้ว่าต้องกำลังคิดถึงคนอื่นอยู่แน่ๆ
เสียงถอนหายใจ ถูกพ่นออกมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วในคืนนี้ ถ้าไม่มีใครบอกก็คงไม่รู้ว่านี่คือกัปตันเจมส์
ทีไบเรียส เคิร์ก แห่งยาน Enterprise ผู้ที่ซึ่งทำให้เกิดปาร์ตี้ได้ทั้งๆ
ที่ไม่ใช่ปาร์ตี้ สนุกกับปาร์ตี้ได้สุดเหวี่ยงกว่าใครทั้งหมด
“ขอนั่งด้วยได้ไหมค่ะ” สาวสวยรูปร่างเพรียวบางคนหนึ่งเข้ามาทักเค้า
เคิร์กหันไปส่งยิ้มแบบฉบับประจำตัวให้ “ตามสบายครับคนสวย”
หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเริ่มหย่อนตัวลงกับเก้าอี้ข้างๆ เคิร์ก เธอรู้ตั้งแต่เดินเข้ามา
รู้ตั้งแต่เห็นแผ่นหลังและเรือนผมสีทองยุ่งเหยิงนั่นแล้ว ว่าเค้าต้องเป็นกัปตันเจมส์
ที. เคิร์ก แน่ๆ สาวต่างดาวจงใจจะเข้ามาออ่ยเพื่อทดสอบคำร่ำลือของผู้ชายคนนี้โดยเฉพาะ
แต่ก็ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น คืนนี้มีสาวเข้ามาแวะเวียนทักทายเค้าอยู่ไม่มีหยุดหย่อน...........ก่อนที่เธอจะเข้ามาทักซะอีก
แต่คืนนี้เคิร์กไม่ได้ตอบรับสาวๆ คนใดเลยซักคน เพราะตอนนี้ในใจของเค้ากำลังว้าวุ่นอย่างหนัก พอคิดถึงหน้าม้าเต่อๆ
กับหูแหลมๆ นั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดหนักเข้าไปอีก
“คุณมาคนเดียวหรือคะ.....คืนนี้” สาวเจ้าเริ่มเข้าประเด็นส่งสายตาเย้ายวนไปให้เคิร์กทันที
“ก็ไม่เชิงครับผมมากับเพื่อนๆ
เจ้าพวกนั้นไปสิงกันอยู่ทางฝั่งนู้นแน่ะ” เคิร์กเพยิดเพย้อไปทางฝั่งตรงข้ามบาร์ที่เค้ากับสาวเจ้านั่งอยู่
ทั้งหมอแมคคอย
ซูลู เชคอฟ สก็อต
และอูฮูร่า จับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะพลู บ้างก็กำลังดื่ม
บ้างก็โชว์ฝีมือการแทงลูกอย่างสุดสะวิง เห็นได้ชัดว่ากัปตันเคิร์กคนนี้จงใจปลีกตัวออกมาจากกลุ่มชัดๆ
“คืนนี้ฉันเหงาจังค่ะ” เธอพูดพลางใช้ฝ่ามือเรียวเล็กลูบไปที่ต้นแขนของเคิร์ก
“งั้นเหรอครับ” ถ้าเป็นยามปกติเค้าคงไม่ปล่อยให้เธอเหงาแน่ๆ
แต่คืนนี้เค้ารู้สึกหมดอาลัยตายอยาก อย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าของหนุ่มผมทองบ่งบอกเลยว่า กำลังไม่มีความสุข
สาวต่างดาวร่างเล็กลุกขึ้น แล้วหมุนเก้าอี้ของอีกคนให้หันหน้ามาหาเธอ
แล้วขึ้นไปคร่อมบนหน้าตักของกัปตันหนุ่ม
มันเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดามากสำหรับจิม เคิร์ก แต่หมอแมคคอยที่นั่งดื่มเงียบๆ
อยู่ฝั่งตรงข้ามนี้สิ ตอนนี้ตาโตเท่าไข่ห่านไปเรียบร้อยแล้ว
หมอใหญ่ของยาน Enterprise พรวดพราดลุกจากที่นั่ง แล้วรีบเดินเข้ามากระชากตัวสาวใจกล้าออกมาจากตัวเคิร์กทันที
“ว๊ายยย! อะไรเนี่ย”
“ขอประทานโทษเถอะคุณผู้หญิง
คุณไม่เห็นเหรอหมอนี่กำลังซึมมากขนาดไหน คืนนี้คุณไปหาคนอื่นเถอะ”
แมคคอยพูดใส่เธอหน้าตาเฉย
สาวร่างเล็กหันไปกล่าวโทษคนที่ไม่ได้พูดอะไรเลย “คุณไม่เห็นบอกว่ามีคนคอยหวงคุณอยู่ด้วย”
แล้วเธอก็หันมาถลึงตาใส่สุภาพบุรุษแดนใต้ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
ก่อนจะเดินสะบัดก้นออกไป
“ไอ้โบนส์..........” หนุ่มผมทองหัวยุ่งกลอกตาใส่เพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเรียนของเค้า
แล้วหันเก้าอี้กลับไปเท้าแขนบนบาร์เหมือนเดิม
ร่างสูงของหมอแมคคอยนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กัน แล้วหันไปพูดกับเพื่อนที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก
“นายรอมันทั้งคืน.......ไอ้หูแหลมนั่นก็ไม่โผล่มาหรอก ออกไปสนุกซะทีเถอะน่า”
“ฉันก็เกือบจะได้สนุกอยู่แล้วนั้นไง” เคิร์กตอบพลางชี้นิ้วโป้งไปข้างหลัง
“นายจำไม่ได้รึไง ครั้งสุดท้ายที่นายไปยุ่งกับสาวต่างดาวน่ะ
มันเป็นยังไง”
“โอรีออนเหรอ”
“ใช่.........ไงล่ะ ยิ่งกว่าซัดสองแปดห้าเข้าไปทั้งลังซะอีก”
(อื่ม BAN 285 เหล้าสียี่ห้อนี้
พ่อของไรเตอร์กับแก็งค์ของเค้าชอบกินกัน...ไม่รู้มันอร่อยตรงไหน : Ray - Aund)
“ไม่เอาน่า นั้นมันผ่านมาตั้งสามเดือนแล้วนะ” ใช่ ตั้งแต่เค้าได้ผูกเป็นคู่พันธะกับ...........................สป็อค
เค้าก็ไม่ได้เกี้ยวสาวไหนขึ้นเตียงอีกเลย เหตุผลที่เค้าซังกะตายในคืนนี้ก็เพราะ
วันนี้เป็นวันครบรอบที่เค้าทั้งสองได้ผูกพันธะกันมาเป็นเวลาสามเดือน........สามเดือนแล้ว
ฉันรอนายอยู่นะสป็อค............รอนายอยู่!!!
รึว่าเจ้าหุ่นยนต์นั่นจะจำไม่ได้หว่า หรือบางทีเรื่องพรรค์นี้
อาจจะไม่ได้อยู่ในสมองวัลแคนอย่างหมอนั่นเลยก็ได้.........ห๊ะ...............อะไรนะ!
ฮึ่ม!.......น่าโมโหจริงๆ ...................ไอ้หูแหลมเอ้ยยย!!! ><
(หนูเคิร์กทนไม่ไหวแล้วนะ : Ray - Aund)
ว่าแล้วเคิร์กกี้ขี้น้อยใจก็สั่งคาร์ดาเชี่ยน ซันไรส์ มาสามแก้วรวด
“โว้ว......จิม นั่นนายสั่งมาอาบเรอะ” หมอแมคคอยถึงกับต้องเบรกไว้
“เปล่าเว้ย” แต่เบรกหมอคงจะแตก
เพราะตอนนี้คนไข้รายพิเศษของเค้า กระดกคาร์ดาเชี่ยน ซันไรส์
รวดเดียวหมดสามแก้วติดกันเลย
“ให้มันน้อยๆ หน่อยจิมมี่ กระดกประสดชีวิตขนาดนี้
นี่แสดงว่านายเลิกรอแล้วใช่ไหม” หมอแมคคอยถาม
.......กรึ๊บ ไม่สิ.........ต้องเรียกว่ายกดั๊มซะขนาดนั้น
คงจะโมโหไอ้หู้แหลมเลือดเขียวนั่นแล้วจริงๆ
“รออะไร ฉันไม่ได้รอหนิ..........เอ่อ
ใช่ ฉันรอฤกษ์อยู่ ได้ฤกษ์ออกไปมันส์แล้วโว้ย”
หัวยุ่งสั่งคาร์ดาเชี่ยน ซันไรส์ มาอีกสองแก้ว
กระดกหายไปแก้วหนึ่ง แล้วหยิบอีกแก้ว เดินไปหาเพื่อนๆ
ที่รวมกันอยู่ที่โต๊ะพลู
หมอแมคคอยถลันตามคนตัวเล็กไปแทบไม่ทัน
“จิม จิมม!.........คืนนี้ฉันสั่งงดแอลกอฮอล์นาย!!....!” พยายามตะโกนแข่งกับเสียงเพลง......(......ไปเหอะ : Ray – Aund)
“ม่าย ไม่ ไม่...โบนส์........คืนนี้นายต้องเมากับฉัน”
กัปตันตัวเล็กยกแก้วในมือขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง แล้วยัดที่เหลือเข้าปากโบนส์เพื่อนรัก ................ทีเดียวหมดจอก
แมคคอยใช้หลังมือเช็ดปากที่คละคลุ้งไปด้วยคาร์ดาเชี่ยน แล้วจ้องคนที่ยัดมันเข้าปากเค้าเขม็ง
เหมือนอยากจะจับเจ้าหมอนี่แก้กางเกง ให้เหลือแต่ชั้นใน
แล้วพ่อจะจัดการตีก้นมันให้ลายไปเลย........มันน่านัก
“ไปเร็วโบนส์..........” เคิร์กดึงหมอแมคคอยไปข้างหน้า
แต่ดูเหมือนแขนของแมคคอยจะคอยพยุงเค้าไม่ให้เซจนล้มลงไปซะมากกว่า
“เอ่อ เอ่อ” ให้ตายสิวะ..........คืนนี้สงสัยต้องคุมเข้ม
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้น เคิร์กจะไม่ได้ดื่มอะไรอีก แต่คาร์ดาเชี่ยน ซันไรส์
สี่แก้วก็เป็นน้ำเมาอย่างดี ที่ทำให้กัปตันเมาเยิ้มได้ตลอดงานเลยทีเดียว
“เย เย่.....เย้.......ย....”
ตอนนี้เจมส์ ที. เคิร์ก กำลังเด้งหน้า เด้งหลังอยู่บนตักหนาของนายแพทย์แมคคอย
ผู้ซึ่งตอนนี้ต้องใช้แขนทั้งสองข้างรัดกัปตันตัวน้อยไว้ให้อยู่บนตัก เพื่อไม่ให้ไปเด้งหน้า เด้งหลังใส่ใครที่ไม่ใช่เค้าเข้า
“นายจับฉัน ทามมาย...ย
โบนส์....มาม่ะ..เราไปสนุกกันดีฝ่าา” พูดแล้วก็ทำท่าจะเด้งออกจากตักของป๊ะป๋า(?)ให้ได้อีกรอบ จนคนตัวสูงกว่าต้องออกแรงดึงให้หัวทองตัวน้อยกลับเข้ามาในออ้มอกเหมือนเดิม
“จ้าๆ ดิ้นอยู่บนตักฉันนี่แหละ มันส์ดีสุดแล้ว”
ดูท่าทางคงจะงอนเจ้าหนูผีเลือดเขียวนั้นแล้วจริงๆ เห็นมานักต่อนักแล้ว ไอ้พวกที่เฮิร์ตๆ แบบนี้
เผลอเมื่อไร มันต้องไปสั่งเหล้ามาซดอีกแน่นอน ...........ไม่ได้ๆ
ต้องเฝ้าไว้ไม่ให้คลาดสายตา......ฮึ่ม.......
แต่หมอใหญ่ก็ไม่รู้เลยว่ามีคนแอบมองเค้าอยู่
หนุ่มน้อยเชคอฟที่นั่งคุยอยู่กับซูลู อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแมคคอยเท่าไรเลย เพียงแค่มองตรงมาข้างหน้าก็เห็นหน้ากันแล้ว
กำลังมองดูหมอแปลงร่างเป็นเก้าอี้ให้กัปตันของเค้านั่งเล่นอยู่
อันที่จริงเด็กหนุ่มลอบมองหมอแมคคอยตั้งแต่เข้าบาร์มาแล้ว หรือจะพูดให้ถูกก็คือ
เชคอฟคนนี้แอบมองหมอแมคคอยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วต่างหาก ด้วยความที่ว่าหมอเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นๆ อยู่เสมอ รวมทั้งเค้าด้วย
แม้ว่าเชคอฟจะทำหน้าที่เป็นคนรายงานสิ่งต่างๆ บนยาน
นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ได้เดินไปไหน แต่พอเดินไปไหนมาไหนทีไร ก็เป็นต้องเดินเตะนู้นสะดุดนี่อยู่เป็นประจำ แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเชคอฟน่ะซุ้มซ้ามขนาดไหน
จะมีก็แต่ซูลู และแน่นอนคุณหมอลีโอนาร์ด แมคคอย
ที่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเวลาเด็กหนุ่มไปทำเปิ่นจนเกิดอุบัติเหตุเข้า
“นายน่ะ หัดระวังซะบ้างซิ
ถ้าลื่นล้มหัวฝาดไป....จ้อไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบห๊า”
หมอมักจะพูดพลางใช้มือขยี้หัวฟูฟ่อง(?)ของเชคอฟอย่างหมั่นเคี้ยว
.........ก็หมอไง..........
เชคอฟได้แต่เก็บคำพูดไว้ในใจ “ขอบคุณครับ ผมไปได้รึยังครับ”
“เดี๋ยว นั่นข้อศอกนายช้ำหนิ....ไหน
มานี่สิ.........ฉันบอกแล้วไงเวลาล้มน่ะอย่าใช้ศอกแหลมๆ
รับน้ำหนักตัว เดี๋ยวมันก็จะ.....บลาๆ......บลา..” แล้วก็เรื่อยเปื่อย........ยาวเลย แต่ทุกคำที่ออกมาจากปากคุณหมอก็มีแต่คำตักเตือนที่แฝงความห่วงใยมาด้วยทั้งนั้น
นี่ไง
หมอที่เค้าหลงใหล ด้วยความที่ว่าแมคคอยเอาใจใส่คนไข้ของเค้าอยู่เสมอ
ทำให้เชคอฟรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีหมออยู่ใกล้ๆ พอรู้ตัวอีกทีก็คิดถึงหมอแมคคอยตลอดเวลา
ไปซะแล้ว
ตาดวงน้อยๆ มองดูนายแพทย์หนุ่มกับเพื่อนผมทองอย่างละห้อย จะมีโอกาสสักครั้งไหมนะ
ที่เค้าจะได้ทำอะไรแบบนั้นบ้าง....................อยากทิ้งตัวลงบนตักอบอุ่นของคนที่เค้าใฝ่ฝันบ้างจัง............................
เชคอฟใจลอยอยู่ได้ไม่นาน เสียงของซูลูที่อยู่ข้างๆ
ก็ดึงเอาความสนใจของเค้าไป
“นี่...นายฟัง.........เฮ้ เชคอฟ นายโอเครึเปล่า” คนถามมีท่าทางเป็นห่วง
“อะ อ๋อ....เปล่า....เปล่า ไม่มีอะไรหรอกฮะ
คุณซูลู............ผมสบายดี”
“ถ้านายรู้สึกไม่ดีก็บอกฉันนะ.......ฉันจะได้พานายออกข้างนอก” ซูลูย้ำด้วยความเป็นห่วงอีกเช่นเคย
“เป็นห่วงกันซะขนาดนี้ คืนนี้พวกนายเป็นคู่เดทกันรึไงเนี่ย”
นายสก็อตตี้ที่กำลังเมากรึ้มๆ ชี้นิ้วมาที่เชคอฟกับซูลู
ซูลูไม่ว่ากระไร
แต่เชคอฟรีบส่ายหน้าดิก ปฏิเสธทันที “ไม่ใช่ๆๆ
ไม่ใช่นะครับ”
หน้าตาเชคอฟตอนนี้จริงจังแบบสุดๆ ทำให้คนรอบโต๊ะพลูพากันหัวเราะชอบใจเด็กหนุ่มกันใหญ่ เว้นก็แต่เคิร์กเมาเยิ้มที่หันไปหาสก็อตตี้ในจังหวะที่หมอแมคคอยกำลังเผลอไปสนใจเชคอฟอยู่นั่น
“นายพอมีอะไรที่มันแรงๆ
หน่อยไหม............ฉันอยากได้มาย้อมใจสักแก้ว”
“มีสิ นี่เลย...บูมบูม ชอตท์ บรัมมิ่ง
........แก้วนี้ฉันยกให้นายเพื่อน................เอิ๊ก..ก...ดื่มให้มันลืมไอ้เจ้าสป็อคขี้เก๊กนั่นไปเล้ยย”
ดูเหมือนสก็อตตี้จะกุไม่กลับแล้ว ต้นกลแห่ง Enterprise ยกแก้วที่มีเหล้าสีเขียวอมฟ้าให้เคิร์กเพื่อนรัก
“แรงกระแทกจาย...ย...”
“ยังไง”
“ไอ้แก้วจิ๋วๆ แก้วนี่ยิ่งกว่าเตกีล่าเจ็ดแก้วรวมกับบรั่นดีอีกเป็นขวดเลยนาา.........ร๊าบรองแก้วเดียว
คืนนี้นายนอนได้โดยไม่ต้องมีเจ้านั่นนอนข้างๆ
เลยด้วยซ้ำ......เอิ๊ก....”
“อืมม รู้จายย” เคิร์กชี้หน้าสก็อตตี้แล้วหัวเราะคิกๆ
ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าสีสวยมาจากอีกคน แต่คนที่ได้แก้วไปนั่นกลับเป็นหมอแมคคอยซะนี่
“ไม่ต้องเลยไอ้หนู” ทันใดนั้นหมอคนเก่งก็กระดกเทของเหลวสีสวยลงคอตัวเองไปคนเดียวหมดแก้ว
สก็อตตี้มองแล้วอ้าปากค้าง........กินหมดแก้วเลย........ แล้วกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก
...........พรุ่งนี้คอยฟังข่าวบ้าๆ
ของหมอแมคคอยล่ะกันน้า..............
“นายยังไหวไหมเพื่อน” เคิร์กหันไปตบหน้าเพื่อนหมอแรงๆ
“อืม.....นายเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย........ปวดหัวชะมัด” หมอแมคคอยหันไปมองสก็อตตี้อย่างคาดโทษ
“ก็ฉันกำลังจะบอกนายอยู่นี่ไง......ว่าต้องค่อยๆ
จิบ ไม่ใช่กระดกหมดแบบนั้น” สก็อตตี้หันไปมองแก้มบูมบูม
ชอตท์ บรัมมิ่ง แล้วหันกลับมามองหน้าหมอ “ไม่เป็นไรนะเพื่อน ตอนแรกก็จะปวดหัวจี๊ดๆ
แบบนี้แหละ แต่พอผ่านไปสักพัก
มันก็จะโอเคเอง...........” .............นายก็จะเหมือนล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์เลยล่ะ
“โอเคกะผีน่ะสิ” แมคคอยสวนขึ้นมาทันควัน
ตอนนี้หัวเค้าปวดตุ้บๆ ไปหมดแล้ว
ยิ่งกว่าสูดฟีโรโมนของพวกโอรีออนซะอีก หมอแมคคอยคลายมือออกมาจากเคิร์ก
แล้วใช้มันกุมขมับตัวเองแทน ..........แถมยังรู้สึกร้อนขึ้นมาซะด้วยสิ...............
เคิร์กใช้จังหวะนี้ ขยับตัวออกจากหมอเพื่อนรัก ปล่อยให้หมอปวดหัวไปนั่นแหละ
ส่วนเค้า...........จะไปลั๊นลาที่ฟลอร์เต้นรำ!............
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
กิ๊กกิ้ววววว สวัสดีค่ะ เพิ่งสร้างบล็อกเป็นของตัวเองครั้งแรก และตั้งใจอยากกระพือFicในอุดมคติ?ของตัวเองเต็มที่เลยค่ะ............อันที่จริง SF เรื่องนี้มีอิทธิพลมาจากเรื่อง Fic (KirkSpock) How High the Moon ไม่รู้จะพูดยังไงเช่นกันแต่...NCCCCCCC!!!!! เรื่องนี้มีด้วย แต่กว่าจะ...กัน ปาไปเกือจบ(จริงๆ) เรื่องนี้ค่อนข้างประทับใจค่ะ ชอบมากๆ สป็อคหวงจิมมากๆ แม้กระทั่งแต่กับหมอก็เหอะ คิคิ น่ารักอ่ะ..^^
ป.ล. Part สุดท้าย Nc กระฉูดดดดดดดดดด วะฮะฮ่าาาา ....อุ เเค่กๆ สำลักน้ำลายตัวเองงง
พอเเล้ว!!! ....ไร้สาระ ///โดนไล่ฟาด/// จบการเวิ่นเว่อออออ
เดี๋ยววววววววววว! ใครอยากอ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นก็อ่าน เรื่อง Fic (KirkSpock) How High the Moon ก่อนได้เลยค่าา...จิ้มโลด แต่ถ้ายังไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรค่ะ รู้เรื่องเหมือนกัน How High the Moon จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพบรักของกัปตันใจกล้าแต่น่ารักและวัลแคนแน่นหลักการค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------
ฉันรอนายอยู่นะสป็อค............รอนายอยู่!!!
6 ความคิดเห็น:
ทดสอบคอมเม้นต์.............
กรี๊ดดดดดดดดดดด จะมีคนอ่านบล็อกเราไหมนะ.........อยากว่าแต่อ่าน
เค้าจะหาเจอกันรึเปล่าเหอะ -..-
อรั้ยยยย~~~~
เราชอบคู่นี้มากกกกก เราดูจิมว่าเคะมากถึงแม้ในหนังนางจะฟันเรียบ 5555555
ไรท์อ่านฟิคคู่นี้บล็อคเดียวกับเค้าเลยยยย
เราชอบฟิคโทนี่สตีฟของคนนี้มากกก อ่านไปนี่แบบทั้งน้ำตาทั้งความหวานของคู่นี้มันลงตัวจริงๆ 555555
สป็อคชอบปล่อยให้จิมอยู่คนเดียว
ระวังเถอะนางจะไปหาคนอื่น 5555555555
ชักอยากเห็นวัลแคนหึง คึคึ ><'
อร๊ายยยย คุณกัปตันน่าร๊ากกก
มีงอนด้วยอ่ะ >_< อิอิ
ชอบคู่นี้มากอ่ะ หาไม่ค่อยเจอเท่าไร
ไรท์ทำฝันเราเป็นจริงงงงง กรี๊ดดดดดด ^_^
อยากอ่าน how high the moonอ่ะค่ะฮือออๆๆ ลิงค์เข้าไม่ได้อ่าาาา เศร้ามากเลย TT
อยากอ่าน how high the moon อีกมากๆเลยครับแต่กดแล้วมันอ่านไม่ได้ครับไรท์ อยากอ่านอีกมากๆเลย ไรท์โปรดเมตตาTT
เข้าลิ้ง how high the moon ไม่ได้อ่าาาาาาาาา������
แสดงความคิดเห็น