วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[FIC - TMI]+[Prat 5] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec



Hello --- ! My Reader ที่น่ารักทุกคนนนนนนนน  Ray กลับมาแล้วค่ะ....กลับมาแล้วววว สำหรับแฟนๆ MaLec ทูกโคนน  ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลงตอนที่ 5 สักที -_-“ (โอยยย นึกว่าหายสาบสูญไปแล้วนะแก // รีดเดอร์บ่นเป็นเสียงเดียวกัน) 55555  อันที่จริงขอสารภาพเลยค่ะ ว่าRay เขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว  แต่พะเอิ๊ญญญ มีเรื่องใหม่ที่เราฟินขึ้นมาแล้วก็ดันคึก อยากลงซะงั้น ก็เลยลงยาวเลยค่ะ

            แม็กนัสกะอเล็คของเราก็เลยเพิ่งโผล่มา -_-^ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะที่เราเพิ่งมา M_ _M  เนื่องด้วยช่วงนี้งานระบาดยังกะเทศกาลและแถมด้วยฟินคู่อื่น หล๊ายยยต่อหลายคู่ (เอ่อนี่แหละที่แกน่าถีบ....ฟินเข้าๆ ออกๆ เขียนกระจุยไปถึงดาวอังคาร  แกจะเอากี่คู่กกันแน่ห๊ะ!!)

            ก็นั่นแหละค่ะ  Ray เลยต้องขอโทษทุกท่านด้วยประการทั้งปวงที่เบี้ยวมานานนนนนน  ขอโทษจริงๆ ค่ะ M_ _M

          ปล. เดี๋ยว NC หลุดโลกของคู่นี้ก็จะมาแล้วนะเอ่อออออออ


            ใครอยากติดต่อความเคลื่อนไหว รวมทั้งตามจิกก็มาเป็นเพื่อนกันที่เฟสได้เลยค่ะ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<



---------------------------------------------------------------------------------

นาย......นายโอเครึเปล่า  รอก่อนนะ ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละว่ายังไม่ทันขาดคำ  อเล็คก็รีบเก็บมือถือด้วยความลนลาน  แล้วล้วงเอาคีย์การ์ดในกระเป๋าออกมา ใช้มันรูดเปิดประตูห้องของแม็กนัส  อเล็ควางของที่ถือติดมือมาไว้บนโต๊ะเตี้ยข้างประตู

ร่างบางกวาดสายตาไปรอบห้อง ปราดแรกเค้าเห็นร่างสูงผิวสีเข้มนอนอยู่บนโซฟาชุดละแปดแสน....อย่าว่านอนเลย แม็กนัสกำลังจะพลิกตัวกลิ้งตกลงมาจากโซฟา!

แม็กนัส!!” อเล็ครีบถลาเข้าไปถีบร่างสูงกลับขึ้นไปบนโซฟาทันที

เจ้าบ้าเอ้ย!! เดี๋ยวก็เจ็บเอาหรอก.........อเล็คพูดเสียงดัง  เนื่องจากเค้ายังมีอาการตกใจอยู่ไม่หาย

อือออ...อแม็กนัสคราง

แม็กนัส......นายโอเครึเปล่าอเล็คเสียงอ่อนลงทันใด  เมื่อเอาแต่ดุคนที่ไม่ยอมระวังตัวเอง จนเกือบลืมไปเลยว่าตอนนี้ควรต้องเป็นห่วงมากกว่า  มือบางแตะเข้าที่ไหล่ของอีกคน

หัว.....ปวดหัว..ว..

ปวดหัวงั้นเหรออเล็คพึมพำกับตัวเองเบาๆ  เค้าพอจะรู้แล้วว่าคนที่นอนกุมหัวร้องโอดโอยอยู่ตอนนี้เป็นอะไร.............

..........เมื่อคืนคงจะดื่มหนักจนกลับดึกเลยสิท่า........

แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า เมาขนาดไหนก็ยังพยายามกลับมานอนที่ห้องตัวเอง

เป็นขี้เมาที่สำนักดีมากเลย แม็กนัส   เบน.......อเล็คคิดในใจ แล้วก็หลุดขำให้กับฉายาที่เค้าเพิ่งตั้งให้สดๆ ร้อนๆ  แต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียงครวญครางอีกระรอกของร่างสูง

นายคงจะแฮ็งค์สินะ........รอฉันแป็บล่ะกันอเล็คยิ้มบางๆ มองเพื่อนร่างสูงที่ทอดกายอยู่บนโซฟา  แม็กนัสพลิกตัวไปมาเช่นที่ทำอยู่บ่อยๆ  อเล็คพูดเนิบๆ อย่าตกโซฟา....แล้วแม็กนัสก็กลิ้งตัวกลับไปที่เดิมทันที

ห่างจากโซฟาไปไม่ไกลนักก็เป็นชุดห้องครัว ที่มีเคาเตอร์สีดำมันเงาหรูหราทอดตัวยาวเกือบหกเมตร  เรือนผมสีดำขลับของอเล็คผลุบๆ โผล่ๆ อยู่บริเวณนั้น  เค้าก้มลงคุกเข่ากับพื้น ใช้ปลายนิ้วกดไปที่ผนังซึ่งมีกล่องขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำขนาดกลางหลายสิบกล่องฝังอยู่ในผนัง หรือจะพูดให้ถูกมันคือตู้เก็บของเอนกประสงค์นั่นเอง  และที่สำคัญมันไม่มีที่จับหรือดึงออก ต้องเป็นคนเปิดเป็นเท่านั้นถึงจะง้างฝาตู้พวกนี้ได้............แน่นอน เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับแม่บ้านซูปเปอร์โนวาอย่างอเล็คเลยสักนิดเดียว

เพียงออกแรงกดเบาๆ ผนังสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกลาง มันก็เด้งออกมาเล็กน้อย  อเล็คยิ้มบางๆ ก่อนจะเปิดมันออกแล้วหยิบกล้วยหอมสีเหลืองนวลน่าทานออกมาจำนวนหนึ่ง..........ใช่แล้วช่องที่เค้าเลือกเปิด มันคือตู้เย็นเก็บอาหาร  เป็นหนึ่งในหลายช่องที่หน้าตาเหมือนๆ กัน  แต่อเล็คจำมันได้ดี และเค้ารู้สึกสนุกกับการกดให้ประตูเด้งออกมา แล้วกดเข้าไปใหม่เพื่อปิดมัน

อเล็คเปิดอีกสองสามช่อง เพื่อหาสิ่งที่เค้าต้องการสองสามอย่าง  ไม่นานอเล็คก็เดินกลับมาหาแม็กนัสพร้อมกับเครื่องดื่มแก้แฮงค์

แม็กนัส  ลุกขึ้นมาดื่มนี้ก่อนสิอเล็คพูดก่อนจะวางแก้วแล้วดึงแม็กนัสขึ้นมา

อือ....ปวดหัว..วแต่ร่างสูงก็ยังไม่วายงอแง เอามือกุมหัวตัวเองอยู่อย่างนั้น

เหอะน่า......เอา  อึ๊บอเล็คใช้วิธีเฉพาะ โดยการสอดแขนรั้งร่างของแม็กนัสไว้ ดึงร่างสูงขึ้นมา แล้วพูดให้กำลังใจจนร่างสูงยอมคลอยตาม  ยอมยืดตัวขึ้นพร้อมกับคำว่า ‘อึ๊บ’ (?)

ในที่สุดแม็กนัสก็อยู่ในท่านั่งเอียงๆ  คอก็ห้อยอยู่กับขอบโซฟา  อเล็คส่ายหน้าน้อยๆ อย่างอ่อนใจ แล้วสะกิดเพื่อนเบาๆ อีกครั้ง

เฮ้....นี่ ดื่มนี่ก่อนสิ มันจะทำให้นายดีขึ้นนะ.....

แต่ร่างสูงก็ยังคงเอาคอพาดกับขอบโซฟาเหมือนอย่างเดิม  มิหน้ำซ้ำยังหันหน้าหนีเค้าเสียนี่

อเล็คถอนหายใจ พลางอมยิ้ม “.......แป็บเดียว  ฉันสัญญาจากนั้นก็ตามมาด้วยแก้วที่ถูกยกขึ้นมาจ่อรอท่าอยู่แล้ว

และแล้ว แม็กนัสก็ยอมดื่มสิ่งนั้นแต่โดยดี  อเล็ควางแก้วไว้บนโต๊ะที่เดิมเมื่ออีกคนดื่มพอแล้ว

...........ทำท่าไม่อยากดื่ม แต่ก็เกือบหมดแก้วเลยนี่นา........

อเล็คยิ้มอย่างพอใจ  เพราะยิ่งดื่มมากเท่าไรก็จะยิ่งดีมากเท่านั้น  มันจะทำให้แม็กนัสรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเลยทีเดียว

ร่างสูงที่ถูกประเคนเครื่องดื่มแบบยกให้ถึงที่ ก็ใช้หลังมือปาดริมฝีปาก แล้วก็พาดคอไว้ที่เดิม

เอิ๊กก!” พร้อมกับสัญญาณที่บ่งบอกว่ากระเพาะได้รับมันลงไปแล้วอย่างเต็มที่

อเล็คอ้าปากค้างอย่างขัดใจ ก่อนจะกลอกตาหนึ่งตลบแล้วยกแก้วไปเก็บ

.........เป็นถึงเซเลบคนดัง แล้วยังมีหน้ามาเรอเสียงดังอยู่อีก........อเล็คคิดในใจอย่างหมั่นไส้

แล้วร่างบางก็หันไปเก็บกวาดล้างของที่เค้าใช้ทำเครื่องดื่มเมื่อครู่นี้  แล้วก็ตามเก็บเสื้อนอกที่เจ้าของเขวี่ยงทิ้งไว้กับพื้น

นายนี่นา.......ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเหมือนเดิมเลยจริงๆ  ถ้าฉันไม่อยู่ใครจะมาตามเก็บให้นายเนี่ยยยย เจ้าบ้าแม็กนัส...........อเล็คคิดในใจ

.............แล้วถ้าเค้าไม่อยู่  ก็ไม่มีใครค่อยปกป้องนายเหมือนกันนะอเล็ค.........แต่แล้วความคิดในส่วนก้นบึงก็เผยออกมา พาให้อเล็คหวั่นไหวอีกครั้ง  จนท้ายที่สุดเค้าต้องบอกกับตัวเองอีกครั้งว่า........แต่อีกหน่อย แม็กนัสก็คงจะไม่คอยอยู่ช่วยนายแล้วล่ะ  นายโตแล้ว ไม่มีใครมาแกล้งนายเหมือนตอนเด็กๆ ได้อีกแล้วนะ  และเค้าก็มีคนรักให้ดูแลเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วด้วย  พวกเค้าดูรักกันมาก ไม่นานก็คง.......จะได้แต่งงานกัน  อเล็คสูดหายใจเข้าเล็กน้อย  แม้มันจะทำให้เค้ารู้สึกปวดใจมากก็ตาม แต่มันก็เป็นข้อเท็จจริงและเป็นสิ่งที่เค้าต้องท่องจำให้ขึ้นใจ

และอเล็ครู้ ว่าแม็กนัสก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ต้องมีคนคอยดูแลเรื่องอาหาร  เรื่องความสะอาด  และเรื่องอื่นๆ ที่ผู้ชายนิสัยไม่ละเอียดอ่อนคนนี้จะไม่พึงทำ ห้องหับก็รกยังกะรังก็อตซิล่า  และถ้าไม่มีคนหามาให้มื้อเช้าถึงมื้อเย็นคนๆ นี่ก็จะไม่หากินเองโดยเด็ดขาด  ราวกับลืมไปเลยว่าตัวเองต้องกินอาหารเพื่อประทังชีวิต  และเหตุผลร้อยแปดอีกสารพัดที่อเล็คซานเดอร์คนนี้จะอดห่วงไม่ได้.....................

.................ด้วยเหตุนี้เอง ที่คนตัวเล็กจะต้องย่องเบาเข้ามาที่ห้องของเจ้าตัวแทบทุกคืน.............

อเล็คคิดว่าแม็กนัสเป็นเพียงคนเดียวที่เค้าเหลืออยู่  เพราะไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของเค้าเองก็โดนหมางเมินราวกับไม่มีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ  และเรื่องที่มักจะโดนโชคร้ายพุ่งเข้าใส่แบบไม่ยั้ง  แม้เรื่องนั้นจะทำให้อเล็คเสียใจอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงแม็กนัสที่เปรียบเสมือนแสงสว่างของเค้าแล้ว อเล็คก็สะลัดเรื่องนั้นทิ้งไปสิ้น  เหลือไว้เพียงความอบอุ่นและความใจดีของแม็กนัส.................

อเล็คโยนเสื้อนอกของคนตัวใหญ่ลงในช่องส่งซัก แล้วหันไปดูแม็กนัสอีกครั้งว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง  และดูท่าว่าร่างสูงสะโอดสะองเองก็เริ่มกลับมานั่งตัวตรงๆ ได้แล้วเช่นกัน  คนตัวเล็กก็เลยรีบวิ่งตัดความยาวของห้องไปหยิบกาแฟกับคุกกี้ที่เค้าตั้งใจจะเอามาให้และวางทิ้งไว้ตั้งแต่แรก มาให้คนตัวสูง

กึก....

อเล็ควางแก้วกาแฟและกล่องคุกกี้ไว้บนโต๊ะกระจกทรงเตี้ยเบื้องหน้าแม็กนัส  ร่างสูงที่นั่งกุมขมับอยู่ก็หันไปมองคนที่วางของไว้เมื่อครู่  เค้าทำหน้าเหยเกแล้วขมวดคิ้วหรี่ตาอย่างจับโฟกัสไม่ได้

อเล็คเหรอ.....แม็กนัสขมวดคิ้วหนักขึ้นกว่าเดิม

อืออเล็คหยุดอยู่กับที่ พร้อมมือที่เกี่ยวกันแน่น

นายมาทำอะไรที่นี่แม็กนัสที่เพิ่งสร่างเมาถามและจ้องเขม็ง

ฉัน  เอ่อ....เอากาแฟมาให้นายไงอเล็คพยายามคุ้มเสียงตัวเองให้ดูปรกติที่สุด

 “นาย  เมื่อกี้นาย......เอ่อ  ช่างมันเถอะ  นายเข้าห้องฉันมาได้ยังไง

อ๊ะซวยแล้วอเล็ค  ลืมไปซะสนิทเลยว่านายเข้าห้องแม็กนัสไม่ได้  เค้าไม่รู้ว่านายมีคีย์กราดนั่นนี่นา..........อเล็คหน้าซีด  จากที่ขาวอยู่แล้วก็ดูไร้ชีวิตชีวาอย่างหนัก  หัวใจหยุดซูบฉีดชั่วขณะ  ในเวลาแบบนี้ การคิดหาคำแก้ตัวเป็นเรื่องยากสำหรับอเล็ค

.....................เพราะเค้าโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย..............

อึก  อะ เอ่อ ฉัน.......อเล็ครู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีสีหน้าที่ไม่ดีนัก  เค้ากำลังคิดหาข้ออ้าดีๆ อยู่  แต่ยิ่งมีสายตาอันคมกริบจ้องอยู่แบบนี้ เค้าก็คิดอะไรไม่ออกหรอกนะ

จนกระทั่งเสียงทุ้มของอีกคนดังขึ้นอย่างหงุดหงิดจนทำให้คนตัวเล็กยืนอยู่ สะดุ้งขึ้นมา

อะไร

ฮึก!  อะ เอ่อ......ฉันอเล็คเผลอกระพริบตาแรงๆ เพราะตกใจกับเสียงของแม็กนัส

ฉันถามว่านายเข้ามาได้ยังไงคราวนี้ร่างสูงลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับร่างบางโดยตรง

ถึงแม้แม็กนัสจะไม่ใช่คนขี้โมโห ร่าเริงเสียส่วนมากด้วยซ้ำ  แต่เวลาที่เค้าหงุดหงิดหรือโมโหขึ้นมาล่ะก็ดูน่ากลัวสุดๆ เหมือนกัน

แม็กนัสยืนอยู่ตรงหน้าอเล็คที่หัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ

.........อย่าให้ความแตกนะอเล็ค  อย่าให้ความแตก

นายใช่คีย์การ์ดใช่ไหม.......แม็กนัสพูด “.......นายได้คีย์การ์ดห้องฉันมาได้ยังไง

อเล็คไม่พูด เพียงแต่ก้มหน้าหนีเท่านั้น  และท่าทีเหล่านั้นแม็กนัสรู้จักดี

............อเล็คโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย.........

ร่างสูงสูดหายใจเข้าลึกๆ นาย เอา คีย์ - การ์ด มาได้ -- ยังไงแม็กนัสเน้นเสียงทีละคำ  นั่นทำให้อเล็คที่จนมุมรู้สึกน้ำตาปริ่มขึ้นมา

นายอย่าโมโหแบบนี้สิแม็กนัส......ฉันกลัวนะ

ฉะ ฉะ ฉันขอมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ข้างล่าง........อเล็คตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด เพราะรู้ดีว่าหากยังคงปิดปากเงียบอยู่อย่างนี้ต่อไปจะไม่เป็นผลดีแน่  แต่ท้ายที่สุดแล้วประโยคสั่นพร่านั้นก็หยุดเอาเสียดื้อๆ โดยไม่มีคำใดต่อ

ร่างสูงรู้สึกรำคาญใจอยู่ไม่น้อย ที่เพื่อนตัวเล็กจะต้องมาละล่ำละเลือกตอบเค้า..........ทั้งๆ ที่พูดตามตรงตั้งแต่แรกก็ได้.........

รึว่านายยังไม่เลิกนิสัยเด็กๆ แบบเมื่อก่อนอีก.......

แม็กนัสจับเข้าที่แขนเรียวของเล็ค  รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เพราะขนาดของมันไม่ได้แตกต่างจากเมื่อสามสี่ปีก่อนเลยด้วยซ้ำ........ยังคงเล็กและบอบบางอยู่เหมือนเดิม  เหมือนตอนที่เค้าเคยฉุดเพื่อนร่างเล็กไปไหนมาไหนด้วยกัน ทั้งตอนที่เจ้าตัวเต็มใจและไม่เต็มใจ  แขนบอบบางนี้ก็จะมีแต่แม็กนัสคนเดียวเท่านั้นที่ได้สัมผัสมัน

แต่ทางด้านอเล็คกลับตัวสั่น เมื่อคิดว่าอาการนิ่งเงียบของแม็กนัสเกิดจากการที่เจ้าตัวโกรธ

............โกรธที่เค้าเข้ามาในห้องของแม็กนัสโดยพละการ...........

ฉันรู้ว่านายไม่อยากให้ฉันเข้ามาสินะ......ขนาดยืนคุยกับฉันต่อหน้าคนอื่นนายก็ยังไม่อยากเลย...........อเล็คตัวสั่นเทิ่มและเริ่มร้องไห้  สิ่งที่เค้าเกลียดก็คือการร้องไห้  แต่สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือ การโดนแม็กนัสเกลียด........อเล็คเลยเกลียดตัวเอง

ทำให้แม็กนัสไม่พอใจอีกแล้วอเล็ค  นายนี่มันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ เค้าอุตส่าห์ช่วยนายไว้ตั้งหลายครั้ง แค่ทำเรื่องให้เค้าพอใจแค่นี้นายก็ทำไม่ได้.....นายมันไม่เอาไหนอเล็ค ไม่เอาไหน........

ทำอะไรก็ถูกเมินเฉยไปซะหมด เพราะงั้นเค้าเลยพยายามอยู่ห่างๆ แม็กนัสไว้  ทั้งๆ ที่จริงแล้วอยากจะวิ่งเข้าไปหาร่างสูงนั่นใจจะขาด............อย่างที่เคยทำตอนเด็กๆ.............  แต่ก็ต้องฝืนใจตัวเองไว้ เพื่อความพอใจของแม็กนัสเอง

............ฉันอยากให้นายเป็นเหมือนเมื่อก่อนมากนะ  แต่ฉันรู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว  นายเองก็ต้องเปลี่ยนเพื่อตัวนายเอง.........ฉันนึกอยากเปลี่ยนแบบนายบ้าง  แต่ไม่ว่าจะพยายามสักกี่ครั้ง ฉันก็ไม่เคยทำได้เลย......

อเล็คยังคงยึดติดกับมิตรภาพวัยเด็กที่ร่างสูงผิวสีแทนตรงหน้านี่เปรียบเสมือนฮีโร่ของเค้า

......ฉันอยากให้นาย..........

อึก.......ฮึกก” ........ช่วยปลอบฉันเหมือนเมื่อก่อน........และท้ายที่สุดอเล็คก็เก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่ไหว  คนตัวเล็กทั้งเสียใจและกลัวว่าจะถูกผลักไสอีก จนต้องปล่อยน้ำตาออกมา

อเล็คนายหยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้นะ.....แม็กนัสพูด

ฮึก  ฮือออ.......อเล็คร้องไห้หนักกว่าเดิม

แม็กนัสถอนหายใจอย่างหนักหน่วง...........กลายเป็นว่าเค้ากำลังทำให้เพื่อนตัวเล็กร้องไห้อย่างงั้นหรือ.............

ให้ตายสิหยุดร้องไห้สักทีเถอะน่า......แม็กนัสคิดในใจ

อย่าทำให้สิ่งที่ฉันตั้งใจทำเพื่อนาย มันไม่ได้อะไรขึ้นมาสิ

ในขณะที่อเล็คกำลังตัวสั่นและร้องไห้เพราะความกลัวอยู่นั้น  แม็กนัสก็กำลังรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก..........ไม่พอใจตัวที่สงสารอเล็คมากเกินไป  ถ้าไม่คอยโอ๋มากเกินไปขนาดนี้ก็คงจะไม่เป็นแบบนี้หรอก..........

ขอบใจมากนะแม็กนัส ที่ช่วยมาเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ของเรา  ผู้จัดการดูพอใจมากเลยล่ะ แล้วก็ได้เสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเลยด้วย........เอางี้สิ  นายไม่ลองเซ็นสัญญากับทางเราเป็นเวลาสิบปีดูเลยล่ะ  พ่อกับแม่นายเค้าก็เห็นด้วยนะ คงจะดีใจมากที่ลูกชายหาเงินได้เก่งขนาดนี้........ระยะเวลาสิบปีนายจะมีเงินมหาศาลจนใช้ไม่หมดทั้งชาติเลยนะ.....ทำให้พ่อแม่สบาย  เป็นลูกกตัญญูคนไหนก็ทำกันทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ........

ต้องอย่างนี้สิ.......นายฉลาดมากที่เลือกแบบนี้  หลังเรียนจบแล้วนายคงจะไม่ว่างไปเลยล่ะ เพราะต้องวิ่งวุ่นรับทั้งงานรับทั้งเงินยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ......

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากนั้นเค้าก็มีงานมาให้ทำตลอด  อย่าว่าแต่หลังเรียนจบเลย ร่างสูงเองก็เกือบแย่เพราะมัวทำแต่งานจนไม่ได้สนใจเรื่องเรียนเลย..........เพราะอย่างงี้ไง ถึงต้องตีตัวออกห่าง  เพราะ ไม่ว่างเลยไม่มีเวลามาคอยอยู่เป็นเพื่อนอเล็ค  ถ้าจู่ๆ หมอนั่นล้มลงทั้งๆ ที่ไม่มีเค้าคอยฉุดมือให้ลุกขึ้นก็จะต้องแย่แน่ๆ  ถ้าวันนั้นเป็นวันที่เราต้องทำหน้าที่รับผิดชอบในชีวิตมากเกินไป..........ถ้าวันนั้นเราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว  ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วด้วย

หลังจากโดนทาบทามจากแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังแล้ว  แม็กนัสแทบไม่มีเวลาว่างเลย  นอกจากกลับเอาหัวมามุดหมอนที่บ้านแล้ว เวลาที่เหลือก็ยกให้งานหมด ทั้งถ่ายแบบและโฆษณา  จึงไม่มีเวลาให้เพื่อนตัวเล็กเลย

จะบอกว่าแม็กนัสสงสารอเล็คก็ได้  ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วร่างสูงสะโอดสะองเป็นคนที่ค่อนข้างรักความยุติธรรม เห็นคนอ่อนแอกว่าโดนรังแกไม่ได้และเพื่อตัวเล็กก็เข้าข่ายนั้นเสียด้วย  แม็กนัสจึงอดยืนมือเข้าไปช่วยอย่างเสียไม่ได้  แต่ด้วยความที่ว่าเค้าต้องออกไปทำงาน และไม่มีเวลาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แม็กนัสจึงคิดว่าเค้าควรปล่อยให้อเล็คอยู่คนเดียวอาจจะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องการก็ได้

อเล็คต้องเข้มแข็งและกล้าหาญเมื่อไม่มีเค้า  และพอเริ่มออกไปทำงานของตัวเองอย่างเต็มตัว  แม็กนัสคิดว่าจะไม่ได้เห็นอีกคนเดินตามตัวเองต้อยๆ อีกแล้ว  แต่ที่ไหนได้ อเล็คกลับมาวนเวียนอยู่หน้าห้องเค้าแทบทุกวัน  แล้วแถมวันนี้ยังเข้ามาในห้องเค้าแบบคาดไม่ถึงอีกต่างหาก!

คีย์การ์ดนั่นนายเอามาได้ยังไงอเล็ค......

ไม่ได้!...... แม็กนัสจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด.....นายจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด  ถ้าไม่พูดอะไร อเล็คก็จะไม่ยอมออกห่างจากนายสักทีสิ.................

อเล็ค  ฉันขอสั่งห้ามนายเข้ามาในห้องฉันอีกคำพูดตรงประเด็นแบบไม่ประนีประนอมของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับช็อค  อเล็คหยุดร้องแล้วหันมองแม็กนัส

นายโกรธฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ.........ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนะ  ฉันขอโทษที่เอาคีย์การ์ดห้องนายมา แต่ฉันก็ทำไปเพราะหวังดี........เพราะหวังดีกับนายนะ........


---------------------------------------------------------------------------------------

อ๊ากกกกกกก  แกจะเอายังไงแม็กนัสสสส  จะดูแลอเล็คหรือจะฆ่าเค้ากันเเน่ฟะ!!!

อึก สงสารตัวเล็กสุดหัวใจ

เม้นๆๆๆๆๆ กันด้วยนะค่าาาา^^

รักทุกท่านค่ะ
ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund -..-

ไม่มีความคิดเห็น: