วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

[SF - ควันหลงบอลโลก] + [Part1] สีเทียน - CR. x Thiago


            แฮ่ะๆ  แอบดอดมาอีกหนึ่งเรื่องค่ะสำหรับ “ควันหลงบอลโลก” อันที่จริง Ray ก็แต่งจบมาตั้งนานแล้วค่ะ //ผั๊วะ!! แล้วทำไมแกถึงเพิ่งมาลงตอนนี้>>โดนรีดเดอร์ฟาดหลัง// เอ่อออ....ก็มันเพิ่งผ่านฤดูกาลสอบของไรท์มาหมาดๆ นี่เองค่ะ เลยเพิ่งมาลงงงง   มิว่ากันเนอะ แฮ่ๆ ^^*

            เรื่องนี้ก็อย่างที่ทุกท่านรู้นะค่ะว่าเป็น Part ของซีอาร์และติอาร์โก้ในเรื่องนี้ทั้งคู่โตกันแล้วค่ะ ซีอาร์อายุ 17 ปี  และน้องติอาร์ก็อายุ 15 ปีค่ะ ^^ กำลังน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเลยค่ะ อร๊ายยยย!! >//<

            5555 แฟนคลับ หมอ+น้อง  แม็กนัส + อเล็ค ก็รอหน่อยนะเจ้าค่าาาาา M_ _M

            --------------------------------------------------------------------------------------------

          ณ โรงเรียนมัธยม Y ในแคลิฟอร์เนีย...................

ที่โรงเพาะชำของโรงเรียน  โดมเรือนแก้วขนาดใหญ่สะท้อนแสงแดดยามเย็นเป็นสีส้ม ทำให้ผู้ที่มองมารู้สึกแสบตาได้ไม่ยากนัก ซึ่งต่างจากผู้ที่อยู่ข้างใน นอกจากจะมีร่มเงาให้หลบแดดร้อนของตอนเย็นแล้วยังมีอากาศที่สดชื่นไว้สูดให้เต็มปอดอีกด้วย

ในนั้น.....เด็กหนุ่มวัยสิบห้ากำลังขะมักเขม้นกับการพรวนดินต้มไม้ในความรับผิดชอบของเค้าอยู่ ซึ่งต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ ในชั้นเรียนที่ไม่แม้แต่จะกลับมารดน้ำก่อนกลับบ้านด้วยซ้ำ  จนต้องเดือดร้อนเด็กหนุ่มสุดขยันคนนี้ต้องรดน้ำต้นไม้เผื่อให้ทุกวัน  แต่วันนี้แปลกไป เมื่อมีรุ่นพี่ชายหนุ่มคนหนึ่งทำทีเหมือนบังเอิญเข้ามาแล้วหาเรื่องคุยตีสนิทกับหนุ่มน้อย

..............ก็ให้ตาย ใครมีโอกาสก็ต้องฉวยตีซี้ไว้ก่อนทั้งนั้นแหละ  นี่ลูกคนดังระดับโลกเชียวนะ!...........

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มกริ่มเมื่อก้าวเดินเข้ามาทักทายได้สำเร็จ และนั่งลงข้างๆ เด็กหนุ่มที่กำลังมองโลกสดใส

“แล้ว......ติอาร์โก้ ชอบต้นไม้อะไรมากที่สุดล่ะครับ” รุ่นพี่วัยสิบแปดปี จงใจเว้นช่วงในคำแรกเพื่อให้ดูเหมือนว่าเค้ากำลังครุ่นคิดอยู่ แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของเค้านั่นเอง

เด็กหนุ่มซึ่งยังคงง่วนอยู่กับการพรวนดิน ไม่ได้ละสายตาขึ้นมามองแต่อย่างใด  แต่กระนั้นก็ยังคงตอบกลับไปด้วยเสียงที่แจ่มใสเช่นทุกครั้ง “อืม ก็ไม่รู้สิฮะ อันที่จริงผมชอบทุกๆ ต้นเลยน่ะครับ แฮ่ะๆ ^^

“อ่อ....งั้นสินะครับ” แบรนดันพูดเสียงเหมือนเห็นชอบด้วย แต่มุมปากของเค้าก็ยกยิ้มขึ้นอย่างช้าๆ พลางมองไปที่ศีรษะของเด็กน้อยซึ่งกำลังพรวนดินให้ต้นไม้อยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว............ลูกของเมสซี่เชียวนะ................

ดูๆ แล้วก็ไม่น่าเป็นเด็กหลอกยากอะไรหรอกนะ  ดูเหมือนจะใสซื้อเกินไปสำหรับฉันซะด้วยซ้ำ...........แบรนดันคิดในใจในขณะที่เค้าพยายามใช้ตัวโอบเข้าไปใกล้ๆ ติอาร์โก้มากยิ่งขึ้น และทำให้ดูเหมือนว่าเค้ากำลังจะช่วยเด็กน้อยพรวนดินอยู่

“ดินตรงนี้ยังต้องพรวนอีกหน่อยนะครับติอาร์โก้” รุ่นพี่ต่างวัยพูดเสียงอารีในขณะที่มุมปากก็กระตุกไม่หยุด 

นานๆ ทีเห็นเด็กว่านอนสอนง่ายก็ดีเหมือนกันแฮะ ถ้าได้เจ้าเด็กนี่มาไว้ข้างๆ ล่ะก็  ฉันต้องดังมากขึ้นกว่าโดยไม่ต้องสงสัยแหงๆ เลย  แถมยังมีอะไรมาให้ทำแก้เซ็งอีกต่างหาก.......จะทำอะไรดีน้า ทำให้หลงรักแล้วค่อยปั่นหัว  หรือให้ซื้อนู่นซื้อนี่มาให้ดีนะ  อืมม แต่ถ้าทำตัวน่ารักแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่แน่แฮะ.....หึๆ

สีหน้าของหนุ่มผมสีน้ำตาลไหม้บ่งบอกเลยว่ากำลังหลงระเริงกับความคิดของตัวเองแค่ไหน  จนกระทั่งติอาร์โก้ที่แทงส้อมฉึกๆ ลงหน้าดินงัดเอาก้อนดินแข็งๆ ขึ้นมาประทะเข้ากับหน้าของทั้งสองเข้านั่นแหละ แบรนดันถึงได้เลิกทำหน้าเพ้อฝัน  และเค้าก็ไม่ชอบการโดนดินดีดใส่หน้าเอาเสียด้วยสิ ชายหนุ่มกำลังจะเผลอตัวตวาดออกไป

“อ๊ะ! ......ขอโทษฮะ ผมขอโทษ!” แต่เสียงใสๆ ที่ฟังดูรู้สึกผิดนั้นก็ทำให้เค้าเกิดเปลี่ยนใจกระทันแบบแซงทางโค้งขึ้นมา ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์จึงหันไปยิ้มหล่อให้เด็กที่รู้สึกไม่ดีก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเอ็นดู “โอ้  ไม่เป็นไรครับ...เรื่องแค่นี้เองสบายมาก”

แต่ถึงกระนั้น ติอาร์โก้ก็ยังคงไม่หายรู้สึกผิด  ร่างที่นั่งชันเข่ากับพื้นจึงยืนขึ้นจนเต็มความสูง แล้วตามมาด้วยอีกคนที่เอ่ยไปแล้วว่า ไม่เป็นไร

“มีอะไรเหรอติอาร์.........” เสียงเสแสร้งขาดหายไป พร้อมกับดวงตาที่ลุกวาวของแบรนดัน  เมื่ออยู่ๆ ติอาร์โก้ได้ใช้มือปัดเศษดินบนตัวของเค้าออกไป  ปัดผ่านอย่างเบาบางและนุ่มนวล  มีบางช่วงที่มือขาวนั้นเผลอปัดผ่านผิวหนังของเค้าและแบรนดันก็รู้สึกได้เลยว่า แม้แต่มือที่จับอุปกรณ์ทำสวนบ่อยๆ ก็ยังคงเนียนนุ่มมากกว่าสาวๆ คนไหนที่เค้าเคยควงมา

.................แบรนดันชักติดใจเด็กน่ารักคนนี้ซะแล้วสิ..............

ชายหนุ่มซึ่งอายุมากว่าระบายยิ้มและประกายวิบวับที่เปล่งมาจากดวงตานั้นก็จ้องมองไปยังขมับของเด็กหนุ่มซึ่งมีเศษดินเล็กๆ ติดอยู่ซึ่งมันกำลังกลายเป็นคราบดินเมื่อเหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลลงมา

“ติอาร์โก้..”

“ครับ”

“อยู่นิ่งๆ นะ...” แบรนดันพูด และเอื้อมมือไปหมายจะเช็ดรอยดังกล่าวให้เด็กหนุ่มที่ยืนทำตาใสไม่รู้เรื่องอยู่ตรงหน้า

แต่แล้ว.........

อะแฮ่มม!!

.........เสียงกระแอ้มทุ้มต่ำก็ดังขึ้นท่านกลางความตื่นตกใจของทั้งสอง  เป็นเหตุทำให้พวกเค้าต้องหันควับไปมองอย่างรวดเร็ว.........อีกคนหนึ่งกดด่าในใจ  แต่อีกคนหนึ่งกลับยิ้มร่าด้วยความดีใจแล้ววิ่งโผเข้าไปหาผู้ที่เพิ่งมาใหม่เสียอย่างนั้น.........

พี่ซีอาร์!” ติอาร์โก้วิ่งเข้าไปหาคนที่ทำลายบรรยากาศดีๆ สำหรับแบรนดัน แล้วกระโดดโผเข้ากอดคนๆ นั้นทันทีราวกับว่าติอาร์โก้ไม่ใช่เด็กอายุสิบห้าอีกต่อไปแล้ว แต่กลับไปเป็นเด็กอายุเพียงแค่ห้าขวบแทน  แบรนดันอ้าปากน้อยๆ

ใครว่ะนั้นน่ะ!......หนุ่มผมสีน้ำตาลไหม้คิดอย่างขุ่นเคืองถึงเหตุผลที่ทำให้ติอาร์โก้ลืมเค้าไปอย่างง่ายดายเหลือเกิน

“พี่ซีอาร์ไม่มีซ้อมบอลต่อเหรอฮะ” แบรนดันเห็นติอาร์โก้ยิ้มให้เจ้าหนุ่มที่เพิ่งมาใหม่นั่น และไอ้หมอนั่นที่มีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนในชีวิตนี้ไม่เคยมีเพื่อนเลย  ก็ยิ้มออกมาน้อยๆ

มันยิ้มให้กว้างกว่านี้ไม่ได้รึไงว่ะ.....กลัวปากฉีกรึไง......แบรนดันคิด เค้ายังยิ้มได้กว้างและจริงใจ(แบบเสแสร้ง)กว่าหมอนั่นเป็นไหนๆ แต่ทำไมติอาร์โก้ถึงวิ่งรี่ไปหาหมอนั่นยังกะเด็กเจอรถไอศกรีมเสียอย่างนั้นล่ะ........และชายหนุ่มผมสีน้ำตาลไหม้คงไม่ได้ทันสังเกต ว่าสำหรับสาวๆ แล้วรอยยิ้มที่แย้มกลีบปากน้อยๆ ของซีอาร์นั่นดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลขนาดไหน มันทำให้คนเงียบขรึมคนนี้น่าค้นหาเป็นอย่างมาก

“ไม่หรอก  วันนี้พี่ไม่มีซ้อม” เสียงทุ้มเข้มที่ผ่านการแตกเสียงหนุ่มมาแล้วกล่าวตอบกลับไป

และทั้งสองยังคงสนทนาต่อไปโดยที่มีติอาร์โก้เป็นฝ่ายพูดซะส่วนมาก  จนลืมไปแล้วว่ามีคนสามคนที่อยู่ในโรงเพาะแห่งนี้

บุคคลที่สามคิ้วกระตุกแล้วชูมือขึ้นเหนือหัวเหมือนกำลังจะบอกว่า “เฮ้ ฉันอยู่ตรงนี้....ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณ” ซึ่งก็ได้รับการตอบรับมาโดยการถูกมองด้วยหางตาจากซีอาร์  และแบรนดันก็คิ้วกระตุกและรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม  เมื่อไอ้หนุ่มที่ไม่ยอมแนะนำตัวเองคนนั้น ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาเกลี่ยรอยเปื้อนตรงขมับนั้นให้ติอาร์โก้......แทนที่จะเป็นเค้าที่ได้ทำหน้าที่นั้น!

ซีอาร์ยกยิ้มให้ติอาร์โก้อย่างเอ็นดู........แต่แท้จริงแล้วกำลังส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้แบรนดันที่หน้าเหวออยู่น่ะสิไม่ว่า

ซีอาร์ส่งสายตาไปหาแบรนดันประมาณว่า......นี่ของฉัน....... แล้วยังมีหน้าหันกลับไปพูดกับติอาร์โก้ต่อหน้าตาเฉยราวกับว่าแบรนดันไม่มีตัวตนอยู่ในที่นี่เสียด้วยซ้ำ

มันจะมากไปแล้วนะไอ้หมอนี่

“ไอ้...” แบรนดันคำรามรอดผ่านไรฟัน แต่ทว่า..........

“พี่แบรนดัน  ผมกลับก่อนนะครับ ต้องไปแล้ว.....ขอบคุณมากนะครับ” ติอาร์โก้หันมายิ้มตาแทบหยี ก่อนจะเดินตัวติดกันไปกับไอ้หนุ่มผิวสีแทนคนนั้น ท่ามกลางความอึ้งตะลึงของแบรนดันผู้มากเล่ห์

หนุ่มผมน้ำตาลไหม้อ้าปากค้าง

อะไรฟระ!! ไม่เคยมีใครมองข้ามเสน่ห์อันเลอเลิศของฉันมาก่อนเลย....แล้ว แล้วมันเป็นใคร! ไอ้สีผิวตะเข็บชายแดนเเม็กซิโกนั่นมันเป็นใคร! โผล่หัวเข้ามาแย่งซีนฉันอย่างง่ายดายแล้วก็พาติอาร์โก้ออกไปเฉยเลย! .........โอ๊ย เกิดมาไม่เคยตกต่ำขนาดเน้ -- !!!........แล้วแบรนดันก็เริ่มทึ่งหัวตัวเอง  เหมือนจิตหลุดหรือเสียสติไปชั่วขณะมากกว่าสูญเสียความมั่นใจ


***********************************************************


หลังจากที่พาติอาร์โก้ออกมาจากรังงูเห่าได้แล้ว  ซีอาร์ก็พาเด็กหนุ่มมุ่งหน้าสู่บ้านด้วยฝีเท้าที่เร็วกว่าปรกติ.........

..............ถ้าไปช้ามากกว่านั้นอีกนิดเดียว ไอ้หัวงูนั่นก็คงจะได้สัมผัสติอาร์โก้ โดยที่ติอาร์โก้ก็คงจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายกำลังคิดชั่วอะไรอยู่.............

ซีอาร์จ้ำฝีเท้าให้ไวขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ที่เค้าเองก็ยังไม่เข้าใจ

นายหงุดหงิดอะไรนะซีอาร์........แต่ยิ่งถามตัวเอง ชายหนุ่มร่างสูงก็ยิ่งขมวดปมคิ้วหนักกว่าเดิม  ทั้งๆ ที่เค้าเองก็สามารถไปหยุดไว้ได้ทันแท้ๆ  และยังสามารถหยามหน้าไอ้หมอนั่นเต็มๆ ได้เสียด้วยซ้ำ

“พี่ซีอาร์.....พี่ซีอาร์ จะรีบไปไหนรึเปล่าฮะ” เสียงใสๆ ดังขึ้นทำลายความเงียบที่มีแต่เพียงเสียงจ้ำเดิน.........ติอาร์โก้เม้นปากแน่นเมื่อซีอาร์หยุดเดินเอาเสียดื้อๆ แล้วหันหน้ากลับมามองเค้า

..............แววตาของพี่ชายเรียบเฉย แต่ติอาร์โก้คิดไปเองรึเปล่า ว่ามันแฝงไปด้วยประกายของความเย็นชา..........

ตอนนี้เด็กหนุ่มเริ่มประวิงแล้วว่า เค้าไปทำอะไรให้พี่ชายคนนี้ไม่พอใจรึเปล่า........... ติอาร์โก้จึงกระพริบตาถี่ๆ แล้วหันมองไปทางอื่น อย่างไม่กล้าสบตากับสายตาคมที่มองนิ่งมาทางเค้า

..............พี่ซีอาร์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย.........

“อะ เอ่อ ถ้าพี่ซีอาร์มีธุระต้องรีบไปต่อ เดี๋ยวติอาร์กลับบ้านคนเดียวก็ได้ฮะ......” ติอาร์โก้รู้สึกได้เลยว่าตัวเค้ากำลังสั่นนิดๆ เพราะความรู้สึกไม่คุ้นชินกับพฤติกรรมที่แปลกไปของพี่ชาย  แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้ยืนยันออกไปว่าเค้าสามารถกลับบ้านคนเดียวได้จริงๆ ข้อมือเล็กก็ถูกมือใหญ่ของพี่ชายคว้าเอาไว้ แล้วฉุดให้ออกเดินต่อ......ด้วยความเร็วที่คงที่.........

ซีอาร์มีช่วงขาที่ยาวกว่าจึงทำให้ติอาร์โก้ต้องแทบวิ่งเมื่อข้อมือของเค้าโดนฉุดให้เดินตามหลังไปด้วย

“อะ อา พี่ซีอาร์....พี่ซีอาร์ฮะ คือ....” ติอาร์โก้พูดเสียงตะกุกตะกักเมื่อต้องก้มมองดูทางไปด้วย พูดไปด้วย  เด็กหนุ่มเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ “พี่ซีอาร์เป็นอะไรรึเปล่าฮะ” ติอาร์โก้พูดเสียงเบา แต่ทว่ากลับชัดเจนในหูของซีอาร์

ร่างสูงหกฟุตสามชะงักเล็กน้อยแต่ไม่ได้หยุดเดิน ก่อนจะตอบออกไป “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก....วันนี้เห็นว่าอาลีโอกลับมาแล้วนี่ พี่ก็เลยคิดว่าติอาร์คงอยากจะเจอป๊ะป๊าเร็วๆ” เค้าพูดแค่นั้น ไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามองเต็มๆ ด้วยซ้ำ แต่จังหวะการเดินเริ่มช้าลง จนเปลี่ยนมาเป็นปรกติสำหรับติอาร์โก้

นี่ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย.....ซีอาร์สบถในใจส่ายหน้าให้ตัวเองอย่างหัวเสีย  นี่เค้ากำลังคิดอะไรอยู่.....ติอาร์โก้ใสซื่อขนาดไหน ตัวเค้าเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ  ไม่ใช่ติอาร์โก้หรอกที่เค้าควรจะโกรธ

น้องไม่รู้เรื่องซีอาร์  ใจเย็นๆ แล้วเลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้ว!........นี่เค้ากำลังหึงอยู่อย่างนั้นหรือ  บ้าน่า!

ทั้งสองเดินเคียงข้างกันมาเรื่อยๆ อย่างเงียบๆ  และด้วยเหตุที่ว่าพี่ชายขี้หึงลดจังหวะการเดินลงแล้ว ติอาร์โก้จึงสามารถเดินข้างๆ อีกคนหนึ่งได้  และทั้งๆ ที่ซีอาร์ก็ไม่ได้ออกแรงจับข้อมือเล็กนั่นแล้ว  ติอาร์โก้เองก็สามารถดึงออกไปได้.......แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่ทำ  หนำซ้ำยังคงปล่อยไปอีกคนหนึ่งซึ่งอายุมากกว่าเลื่อนนิ้วมือลงไปเกาะเกี่ยวกับนิ้วมือเล็กๆ ของเค้าอีกต่างหาก

ซีอาร์ทำหน้าสะลดในทันที...........ใช่ ติอาร์โก้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ตัวเค้าเองนี่มันแย่จริงๆ ที่ทำตัวไม่ดี ทำให้น้องต้องรู้สึกแย่............

ซีอาร์กระชับมือที่เกาะกุมกันให้แน่นขึ้น แล้วหันไปมองอีกฝ่ายที่ตั้งใจเดินอยู่น้อยๆ แล้วทั้งสองก็ออกเดินไปตามทางซึ่งมุ่งหน้าสู่บ้านของติอาร์โก้


----------------------------------------------------------------------------


------------------------------------------------------


------------------------------


ทั้งซีอาร์และติอาร์โก้มาถึงที่หมายในเวลาต่อมา ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามคาด...........

............ลีโอเนล   เมสซี่กลับมาแล้ว..........

และก็เป็นไปตามความคาดหมายของซีอาร์ด้วยเช่นกัน..................

“อ้าว  ว่าไงไอ้ลูกชาย!

“หวัดดีครับป๋า” ชายหนุ่มร่างสูงโบกมือขึ้นตอบพ่อของเค้าที่พอมาถึงปุ๊บ ก็โผล่หน้าออกมาหาปั๊บ

..............พ่อของติอาร์โก้อยู่ที่ไหน พ่อของเค้าก็อยู่ที่นั่นแหละ.............

โรนัลโด้ซึ่งยิ้มหน้าบานอยู่ที่หน้าประตูถูกผลักกระเด็นออกมาจากจุดยืนพร้อมกับเสียงเอ็ด

ผลักก!!

อุ๊บ!.....โธ่ ที่ระ..... เอ้ย! ลีโอ ผลักฉันทำไมอ่าา” ร่างสูงที่โดนไหล่ชนเอามือลูบปากตัวเองแทบไม่ทัน

“ก็นายเกะกะนี่.......ถอยออกไป” ในตอนแรกที่โรนัลโด้เกือบจะหลุดปากออกมา เมสซี่ทำตาลุกวาว ก่อนที่จะโล่งอกเมื่อร่างสูงที่เค้าเพิ่งชนไป แก้คำพูดได้อย่างรวดเร็ว

นายเอาอีกแล้วนะ.......เค้าส่งสายตาไปให้ร่างสูงที่ยืนจุปากตัวเองอยู่

ก็มันเผลออ่ะ  ขอโทษคร้าบบ.......แล้วคริสเตียนโน้   โรนัลโด้ก็ส่งสายตาหงอยๆ กลับมา  ทำให้ลีโออดรู้สึกผิดน้อยๆ ไม่ได้  เพราะช่วงหลังๆ มานี้ร่างสูงผิวสีแทนที่ตัวติดกันยังกะปลาท่องโก๋ชอบหลุดพฤติกรรมที่บ่งบอกให้คนอื่นรู้เสียจริงๆ ว่า พวกเค้ากำลังคบกันอยู่ เดี๋ยวก็หลุดบอกเรียกที่รักบ้างแหละ  ชอบจูบเค้าในที่ห้ามจูบบ้างล่ะ  จนคนอื่นๆ พากันรู้สึกแหม่งๆ กันไปหมดแล้ว  เค้าเลยอดไมได้ทั้งบ่นจนปากฉีก กระหน่ำตีแบบไม่ยั้งใส่คนที่กำลังพาเราดิ่งเหว

“ป๊ะป๊า กลับมาแล้วเหรอฮ่าา” แต่ยังไม่ทันได้ส่งสายตาขอโทษกลับไป ลูกชายที่รักของเค้าก็วิ่งเข้ามากอดเค้าอย่างแนบแน่นเสียแล้ว

ลีโอกอดตอบอย่างรักใคร่ระคนเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง  ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วผละออกมาจากอ้อมกอดของลูกชาย

ลีโอพูดขึ้น เสียงฟังดูค่อนข้างเฉียบขาด (แค่ค่อนข้าง) “ติอาร์โก้ พ่อบอกแล้วไงว่าให้เรียกพ่อว่าพ่อได้แล้ว  เราโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว  ไหนลองเรียกพ่อซิ.....”

ป๊ะป๊า...” ติอาร์โก้ทำหน้าหงอย

เรียกป๊ะป๊าไม่ดีตรงไหนกัน ก็ผมเรียกมายังงี้ตั้งนานแล้วหนิ......เด็กหนุ่มหน้ามุ้ยคิดในใจ

“เฮ้อ...ติอาร์โก้สิบห้าแล้วนะลูก” คุณพ่อนักฟุตบอลทำหน้าละเหี่ยใจ ก่อนจะยกมือขึ้นท้าวอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี  ฝั่งคริสเตียนโน้ก็เดินออกมาหาลูกชายของตนบ้าง และปล่อยให้สองคู่พ่อลูกที่แสนจะน่ารักยืนคุยกันต่อไป  ร่างสูงของนักฟุตบอลเดินมาหยุดอยู่ข้างลูกชายที่มีเค้าหล่อเหล่าไม่แพ้พ่อ แล้วคริสเตียนโน้ก็ยกมือขึ้นท้าวเอวเช่นเดียวกันกับลีโอ แต่ทว่าสีหน้าเค้าในตอนนี้กำลังยิ้มออกมาอย่างนึกสนุกปนเอ็นดูคู่พ่อลูกที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเค้า

ทั้งคริสเตียนโน้และซีอาร์ต่างยืนฟังการสนทนาอยู่ที่ใต้ต้นไม้  ซึ่งให้ร่มเงายามเมื่อแสงอาทิตย์ยามเย็นส่องแสงต้องลงมา..........อีกคนหนึ่งท้าวเอว อีกคนหนึ่งกอดอก  ทำให้ทั้งสองดูเหมือนพี่น้องกันอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

“ก็ผมก็......ก็เรียกป๊ะป๊ามาตั้งนานแล้วนี่นา” เด็กหนุ่มที่หน้าตาแทบจะถอดแบบออกมาจากผู้เป็นพ่อเปี๊ยบ มองหน้าผู้เป็นพ่อราวกับเรื่องนี้มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับเค้า

.............เรียกเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ?................

“ติอาร์โก้เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะ” ลีโอกลอกตาขึ้นฟ้า แล้วถอนหายใจ  สายตาที่เค้าส่งกลับไปค่อนข้างชัดเจน

.................ไม่ได้!............

“โธ่  ป๊ะป๊า.......ก็ผม......ก็...ผม......” เมื่อไม่สามารถรอดผ่านมาได้เช่นทุกครั้ง  และครั้งนี้มีหวังเค้าคงต้องยอมจำนนแล้วเป็นแน่แท้  เด็กหนุ่มที่ยืนต่อรองอยู่จึงเหลือบตาใสๆ ที่มีน้ำคลออยู่นิดๆ ขึ้นไปมองพ่อของตน ก่อนจะหลุบต่ำลง  และริมฝีปากบนก็หุบเข้าไปข้างในแลกกับริมฝีปากล่างที่ยื่นออกมาน้อยๆ

คู่พ่อลูกผิวสีเซ็กซี่ที่ยืนดูอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ก็พร้อมใจกันขยับปากออกมาว่า “อ้าว”

แต่คนที่เป็นพ่อของเด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในบ้านนี่สิ อึ่งกิมกิไปเรียบร้อยแล้ว..........นี่เค้ากำลังจะทำลูกชายร้องไห้รึเนี่ย!?............

“พอแล้วติอาร์โก้ ไม่ต้องร้อง......จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ ป๊ะป๊าไม่ว่าแล้ว” ลีโอประคองหน้าของลูกชายสุดที่รักขึ้นมา แล้วรีบเช็ดหางตาชื่นๆ ให้

...............ให้ตายสิ ไม่ใจอ่อนไม่ได้เลย.............

“เอ๊า!!” ทีนี้ผู้ชมติดขอบสนามถึงกับอุทานออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย........เปลี่ยนใจง่ายจังแฮะ.........

“ป๊ะป๊า” ติอาร์โก้เรียกย้ำ ลีโอยิ้มให้ แล้วโลกของเด็กหนุ่มก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม คริสเตียนโน้ยกยิ้มขึ้นอย่างขบขัน

..................เห็นไหมล่ะ ก็บอกแล้วไงว่านี่คือคู่พ่อลูกที่แสนจะน่ารัก...............

ทีนี้ร่างสูงของนักฟุตบอลดีกรีฮอตตลอดกาลก็หันมาบอกกับลูกชายของตนบ้าง “เฮ้....วันนี้ค้างนี้นะ”

“แต่ผมไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยน”

“เอาเสื้อพ่อก็ได้”

“เสื้อป๋าซักรึยัง?” ถามเสียงเรียบ

“ซักแล้วโว้ย!” คริสเตียนโน้พูดเสียงดัง

ไอ้นี่ ให้ยืมแล้วก็มากเรื่องจริง เหมือนจงใจกวน -ติ๊ด-
           
.

.

.

.

TBC.

----------------------------------------------------------------------------

อ๊าาา ซีอาร์กวน-ติ๊ด- เงียบนะเนี่ย 555 ก็ถ่ายสำเนามาจากพ่อเป๊ะอ่ะแหละค่ะ

ปิดเทอมเราเป็นไทแล้วค่ะ!!! >[]<  Yessss!! ฟิคกระจายยยย

ติดตามความเคลื่อนไหวและความคืบหน้าของไรท์ได้ที่ FB >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ค่ะ ความคืบหน้าของฟิคในบล็อกไรท์ก็ติดตามได้ที่นี่เลยค่ะ

รักรีดทุกคนนะค่ะ...จุ๊บ
            ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




2 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

O_o แบรนดันนี่มารยาเสียเหลือเกิน ดีที่เจ้าเสือมาทันนะเนี่ย (แน่ใจหรือ - -?)

ไปค้างที่บ้านเขาแล้วจะเป็นยังไงล่ะ พอจะคาดการณ์ได้ลางๆ รอตอนต่อไปปนะคะ -///- แต่ที่แน่ๆเหมือนคนที่จะดีใจที่สุดคงจะเป็นพี่โด้ล่ะซินะ
ส่วนเหมียวอ้ะ ให้ลูกเรียกป๊ะป๋าไปเถอะเนอะ ดูพี่โด้ซะก่อน เจ้าเสือเอะอะก็ป๋าๆๆ 5555

โบว์ กล่าวว่า...

กี๊ซซซซซ ติอาร์โก้น่ารักง้าาาา
คู่พ่อลูกนี่น่ารักกันจริงๆ คู้โด้ซีอาร์นี่แลดู หื่นๆ
คู่เมสซี่ติอาร์โก้นี่ลูกแกะชัดๆ 555555

อยากเห็นลูกแกะโดนสิงโตกินจุงงง~
แบรนดันตอแหลมาก 5555555

แต่นอกฟิคนี่เหมือนโด้กำลังโดนแย่งไปจากเหมียว คือแบบทั้งถั่วน้อย ทั้งอิเบล ทั้งนุ้งเจมส์

โอ้ยยยย เห็นแล้วอยากไปกระชากจริงๆ รอประมาณวันที่ 25-26ตุลา เหอะแก เดี๋ยวสามีภรรยาคู่นี้ก็เจอกันนน

ปอลิง ตอนนี้เหมียวเป็นของเนยยย ยิงได้ทีไรเป็นต้องจับอุ้ม กอด ลูบหัว คือแบบพี่อัลไลลล เนย์มาร์มิสน 5555555

รออ่านพาร์ทต่อไปเน้อออ เป็นกำลังใจให้น้ะค้ะ :)