อร๊าาาา สวัสดีค่าา >{}<!! รีดเดอร์ผู้น่ารักทูกท่านนน
ไรท์มาแล้วค่ะ ไรท์มาแล้วว
กับตอนสุดท้ายของฟิคเรื่องนี้
ได้ข่าวมาว่าภาคสองเริ่มถ่ายทำกันแล้วค่าา เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็จะได้ดูกันต่อแล้ว
ฮิ้วววว//จุดพลุ//
แล้วพอถึงตอนนั้น ฟิคภาคสองเราก็จะได้ถูกปล่อยออกมาค่ะ [มีรีดเดอร์ท่านหนึ่งบอกมาว่ามินโฮไม่ตาย
อยู่คู่กะหนูโทมัสจนจบเล่มสี่เลยนะเออ....สำหรับข้อมูลนี้ต้องขอบคุณมากเลยค่ะ ><] ตอนแรกไรท์ก็งงๆ
ค่ะว่าเทเรซ่ามาตอนไหน แต่พอไปพอมาก็ตัดออกแมร่งเลย! ไม่สนใจและ
เพราะเดี๋ยวภาคสองเธอก็จะหายตัวไป ///แอ๊ก!! .....โดนตบหัวเพราะสปอยล์มาก
พอแล้วแก///
แฮ่ๆ สำหรับ Part นี้ซึ่งเป็นตอนจบของ
The Maze Runner ไรท์หวังว่ารีดทุกท่านคงจะชอบกันนะค่ะ เอ้า!! ไปอ่านกันเล้ยยย
-------------------------------------------------------------------------------------------------
“หยุดนะกัลลี่! นิวท์อยู่ข้างนอก
เค้าบอกว่า เอ่อ...ถ้านายต่อยมินโฮก็ถือว่าผิดกฎเหมือนกัน เค้าจะบอกเรื่องนี้กับอัลบี้แน่”
*************************************************************************************
อา ใช่
โทมัสผู้กล้าหาญ........
เค้าทำตัวกล้าหาญอีกแล้วในวันนี้ โดยการผลักประตูเข้ามา แล้วส่งเสียงขู่กัลลี่
ทำเอาหมอนั่นยอมหยุดจากผม
ก่อนจะมองหน้าโทมัสราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแล้วเดินออกไปอย่างไม่พอใจเลยล่ะ โทมัสถือว่ากล้าหาญมากทีเดียว....ผมคิดนะ
เพราะถ้านิวท์อยู่นี่จริงๆ ให้หมอนั่นเข้ามาพูดเองก็ได้
นิวท์ไม่หวาดกลัวกัลลี่อยู่แล้ว
แต่นี่เค้ากลับพุ่งเข้ามาเองและดูเหมือนผู้กล้าของผมจะดูหอบนิดๆ แฮะ
แต่กัลลี่ก็ถือว่าลูกหมาไม่ใช่น้อยเลย
เพราะคนที่โทมัสบอกว่าจะฟ้องน่ะยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงอยู่เลย.......เจ้าหมอนี่คงจะกลัวอัลบี้จนหัวหดจริงๆ
กัลลี่เดินออกไปแล้ว และผมก็ได้ยินเสียงของนิวท์จริงๆ
เค้าพูดอะไรบ้างอย่างที่ทำให้กัลลี่ยอมเดินตามไปแต่โดยดี
โดยมีนิวท์เดินตามหลังเหมือนเป็นผู้คุม
ผมยืนท้าวเอวแล้วนึกขำอยู่ในใจกับการที่กัลลี่โดนกำราบได้อย่างราบคาบโดยคนที่เค้าเคยสบประมาทเอาไว้อย่างมากมาย ผมก้มมองพื้นอมยิ้มอยู่คนเดียว
จนไม่รู้ว่าโทมัสมองผมอยู่นานแค่ไหนแล้ว.....ผมจึงเลิกยิ้มคนเดียวแล้วเปิดฉากพูดกับเค้า
"ขอบใจนะ
ที่นายเข้ามาห้ามหมอนั่นทันพอดีเลยน่ะ"
“เอ่อ.....อันที่จริงนิวท์จะเข้ามาบอกเองล่ะ แต่ฉันไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ถึงส่งฉันเข้ามาแทน”
ท้ายประโยคดูเหมือนเค้ากำลังจะโทษการตัดสินใจของนิวท์อยู่ยังไงยังงั้นเลย ผมกลั้วหัวเราะในลำคอ
“แต่ถ้านายบอกเค้าไปสักหน่อยว่าไม่อยากเข้ามา
เค้าก็คงจะยอมเดินมาบอกเองนะรู้ไหม”
ยังมีอีกหลายอย่างที่โทมัสต้องเรียนรู้เกี่ยวกับนิวท์.......ความซื่อของเค้าทำให้ผมอมยิ้มอีกแล้วในวันนี้
ผมกำลังจะพูดต่อถึงเรื่องกัลลี่ แต่พอมองใบหน้ามอมแมมนั้นแล้ว
ดูเหมือนเค้ามีอะไรบ้างอย่างจะบอกผม
ผมเผลอมองเค้าไปตรงๆ อย่างเสียมารยาทเป็นเหตุให้โทมัสจ้องผมกลับด้วยอารามตกใจ
“นายมีอะไรอยากจะคุยกับฉันรึเปล่า”
ผมถามเค้าในขณะที่เพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรจ้องเค้าไปแบบนั้น
โทมัสดูเหมือนกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่
และท้ายที่สุดเค้าก็ตัดสินใจเดินเข้ามาใกล้ผมสองสามก้าว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจเท่าท่าทาง
“ฉันขอบใจนายมากเลยนะที่ช่วยฉัน.....จาก
เอ่อ....คือฉันหมายถึงอยู่เป็นเพื่อนฉันน่ะ” เค้าดูไม่แน่ใจเอาเสียเลย
"เป็นเพื่อนหรือ?"
“.....ไม่ให้ฉันฝันร้ายน่ะ” ทีนี้ท่าทีมั่นใจของเค้าแฟบหายไปจนหมด
เหลือเพียงแต่เสียงเล็กๆ ที่ไม่แน่ใจในตัวเอง
ผมนิ่งไปแล้วมองเค้าอย่างต้องการให้เค้าอธิบายต่อ
โทมัสไหวไหล่ “เอ่อ คือฉัน....ตั้งแต่มาอยู่นี่คืนแรกฉันก็เอาแต่ฝันถึงเรื่องเดิมๆ
น่ะ ฝันว่าพวกเค้าส่งฉันมายังไงและมันเลวร้ายมาก.....แต่เมื่อคืน
เป็นคืนแรกที่ฉันไม่ได้ฝันถึงมัน”
“งั้นเหรอ” ผมพูดในขณะที่นั่งลงบนที่นั่งในห้องประชุมตามเค้า แต่สายตาของผมกลับเอาแต่มองเค้าอย่างค้นหา............ผมฟังเค้าพูดต่อ
“บางที...อาจเป็นเพราะความหนาวที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่เลยเอาแต่ฝันถึงเรื่องร้ายๆ
แต่เมื่อคืนฉันไม่รู้สึกหนาวเลย....” โทมัสหันมามองหน้าผมกลับ เหมือนต้องการจะบอกส่วนที่เหลือของประโยคโดยไม่ต้องเอ่ย ผมก็ถึงกับพูดต่อไม่ออกเลยทีเดียว........ผมไม่กล้าคิดไปว่าเค้ากำลังจะหมายถึงผมหรืออะไร
ผม เอ่อ ผมไม่......
“มินโฮ....มินโฮ”
“อะ ห๊ะ อะไร.....อ๋อ ใช่
ทำไมเหรอ....ฉันฟังนายอยู่” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเสียงกลั้นหัวเราะของเค้าที่ดังขึ้น
“โทษที....นายดูเหมือนเหม่อๆ นะ”
“อ๋อ คือ....” ผมใบ้กินอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนี้ผมคงดูเหมือนไอ้โง่สุดๆ ไปเลย
แต่โทมัสกลับยิ้มและระเบิดเสียงหัวเราะใส่ผม พาให้ผมที่นั่งมองอย่างงงๆ
พลอยขำไปด้วย เราหัวเราะกันอย่างไร้เหตุผลไปได้สักพักโทมัสก็หยุดหัวเราะลงเพราะท้องแข็งจนเหนื่อย
ผมลุกขึ้นแล้วพูดกับเค้า “เอาล่ะ
พรุ่งนี้นายจะได้ไปวิ่งกับฉัน” พร้อมกับจับมือโทมัสให้ลุกขึ้น
แต่แล้วเสียงกวนใจก็ดังขึ้น
“แต่ก่อนอื่นนายจะต้องไปลงหลุมกับเรา”
เสียงที่หน้าประตูเรียกให้ผมและโทมัสหันไปมอง
..........พวกของกัลลี่........
สองคนนั้นคงมาพาโทมัสไปขังไว้ที่หลุมเพื่อลงโทษ......เป็นเวลาหนึ่งคืน.....ผมเดินไปบังหน้าโทมัสไว้จากเจ้าพวกนั้น สองคนนั้นหยุดอยู่กับที่อย่างชั่งใจ สีหน้าของพวกมันดูไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“ฉันจะพาเค้าไปเอง” ผมพูด
ได้ยินเสียงอุทานในลำคอของโทมัสที่อยู่ข้างหลัง เจ้าสองคนนั้นดูช่างใจอีกรอบและนิ่งไป
มองหน้ากันเหมือนจะยอมทำตามที่ผมบอก แต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจ
“กัลลี่บอกว่าให้เราสองคนมาพาตัวเจ้าเด็กใหม่นี่ไปที่หลุม”
มันพูดเสียงแข็งแล้วจากนั้นก็เดินเข้ามา เหวี่ยงผมออกจากจุดยืนแล้วกระชากตัวโทมัสไป ผมวิ่งไปดึงแขนเจ้าหมอนั่นไว้
“อย่ายุ่งกับเค้า”
ผมพูดเสียงฟังดูเดือดดาลอีกครั้ง เมื่อเจ้าสองคนนี้กระชากโทมัสไปจนตัวปลิวและไม่สนใจว่าเค้าจะเจ็บหรือไม่
เจ้าคนที่โดนผมดึงแขนไว้ชักสีหน้าและสะบัดมือผมออก
ก่อนจะเข้ามาผลักผมลงพื้น
“อย่านะ!....เฮ้ อย่า!
อย่าทำอะไรเค้า” ผมได้ยินเสียงโทมัสพูดขึ้น
ผมจ้องเค้าอย่างไม่เข้าใจในสีหน้าที่เหมือนจะเป็นคนเจ็บปวดเสียเอง..........แล้วเจ้ายักษ์สองคนนั้นก็ดึงโทมัสออกไปทิ้งให้ผมนั่งอยู่กับพื้นอย่างไม่เข้าใจในสีหน้าของโทมัส
................เค้ากำลังจะบอกอะไรผมกันนะ............
********************************************************
มืดแล้ว........สีหน้าของโทมัสยังคงติดอยู่ในหัวผม
มันวกวนอยู่เรื่อยมาอย่างหาคำตอบไม่ได้........ถ้าเค้ากำลังจะบอกผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงล่ะก็
คงไม่ใช่เพราะสีหน้าแบบนั้นมัน....มากมายกว่านั้น
ความคิดหลายอย่างตบตีกันอยู่ในหัวของผมเริ่มจากสีหน้าของโทมัสในที่ประชุมเมื่อตอนกลางวัน
ภาพโทมัสในวงกต ภาพเค้าตอนวิ่งหนีโศกา ภาพเค้าเบียดตัวเข้ามาหาผมในวงกต
แล้วตามมาด้วยภาพเค้าที่กำลังจะเดินมาชนผม
หัวผมไล่ภาพของโทมัสไปจนถึงตอนแรกที่ผมเห็นเค้าแล้วมันก็ฉายซ้ำอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่สามารถอยู่เฉยๆ
และนอนหลับได้เลยทั้งๆ ที่ผมก็เป็นคนนอนง่ายแท้ๆ
แต่วันนี้สีหน้าของโทมัสมัน..........
ผมลุกออกจากเปลอย่างหัวเสีย กับความรู้สึกที่ตัวเองไม่เข้าใจ......ทั้งๆ
ที่คืนนี้ผมควรจะนอนเพราะต้องออกวิ่งแต่เช้าแท้ๆ แต่ผมกลับทำไม่ได้ การควบคุมตัวเองอย่างดีเยี่ยม ผมสูญเสียมันไปเสียแล้ว เปลของผมอยู่ห่างจากเปลของคนอื่นๆ
เมื่อผมลุกออกมาและหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่ตัวเองจึงไม่มีใครได้ยินผม
“บ้าเอ้ยไอ้กัลลี่....” ผมสถบเพราะเริ่มเข้าใจแล้วล่ะว่าผมอารมณ์เสียเพราะอะไร ในขณะที่ทุกคนในที่พักกำลังหลับสนิทกันอยู่บนเปลนั้นผมตัดสินใจเดินออกไป
แล้วมุ่งหน้าสู่หลุมซึ่งอยู่ห่างไปพอสมควร
..........กัลลี่ หมอนั้นสั่งลงโทษโทมัสอย่างไร้เหตุผมแถมยังส่งลูกน้องมาลากตัวโทมัสไปอีก ผมรู้แล้วว่าผมหงุดหงิดอะไร ผมไม่พอใจ....ที่โทมัสโดนกระทำแบบนั้น
เค้าน่าสงสาร สีหน้าที่หวาดกลัวในครั้งแรกที่เจอกัน
และสีหน้าที่ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเป็นห่วงเมื่อตอนกลางวัน
แต่เป็นสีหน้าที่แสดงว่าเป็นห่วงผม..........ใช่ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว
ผมวิ่งเหยาะๆ ไปถึงสถานที่ๆ
โทมัสอยู่ในเวลาไม่ช้า
ผมหยุดแล้วหลบเมื่อเห็น.....อ๋อ ชักนี่เอง เค้าคงเอามื้อค่ำมาให้โทมัส ผมนั่งมองพวกเค้าสองคนคุยกันจนกระทั่งเด็กอ้วนตุ๊ต๊ะคนนั้นเดินเช็ดน้ำตาออกไปจากหลุม.....เค้าคงคุยกันถึงเรื่องพ่อแม่
ชักเคยคิดถึงคนที่เค้าจำหน้าไม่ได้เสมอแล้วร้องไห้ออกมาอวดเราทุกคนในทุ่ง
เรื่องนั้นผมจำได้ดีแต่ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอก
เมื่อชักหายไปแล้วผมจึงวิ่งเข้าไปหาโทมัสและนำคบไฟอันหนึ่งไปด้วย พอผมโผล่หน้าไปเค้าก็ทำหน้าตกใจใส่ผมทันที
“มินโฮนายมาทำอะไรที่นี่!” เค้ากระซิบ
เสียงเหมือนผมตอนที่เราช่วยกันซ่อนอัลบี้แล้วโศกาโผล่มาเลยล่ะ
“ฉันแค่นอนไม่หลับน่ะ......ฉันมาหานาย”
ผมพูดและทำเค้านิ่งไปครู่หนึ่ง
โทมัสทำหน้าเหมือนเค้าไม่มีค่าอะไรให้ใครๆ ต้องคิดถึง ผมหงุดหงิด “ทำไมนายต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย”
“เอ่อ...ฉันไม่คิดว่านอกจากชักหรือนิวท์แล้ว
ก็คงไม่มีใครอยากมาหาฉันแล้วล่ะ” เค้ายิ้มแห้งๆ ใส่ผม
“เลิกพูดถึงเจ้าพวกนั้นสักที.....เอ่อ
ฉันหมายถึง....ฉันมาหานาย เพราะแค่อยากคุยกับนายน่ะ”
“อะไรกัน เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับ
แล้วคืนนี้นายก็นอนไม่หลับอย่างนั้นหรือ” เค้ายิ้มเมื่อเห็นผมทำหน้าบิดเบี้ยวในแสงไฟ ผมถอนหายใจออกมา....อย่างน้อยเค้าก็พูดกับผมแล้ว
และเลิกพูดถึงเจ้าพวกนั้นจริงๆ สักที
ผมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเข้าเรื่อง
“เอาล่ะ....นาย
เมื่อตอนกลางวันในที่ประชุมตอนที่พวกของกัลลี่มาเอาตัวนายน่ะทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง....เป็นห่วงฉันงั้นเหรอ”
ผมพูดตรงเกินไปรึเปล่านะ ดูท่าโทมัสจะอ้าปากค้างไปเลย และเค้าก็หลบหน้าผมซะอย่างนั้น
“ฉันแค่...แค่ไม่อยากให้นายเจ็บตัวน่ะ
พวกของกัลลี่ชอบใช้แต่กำลังและพรุ่งนี้นายต้องวิ่ง....”
“แล้วนายล่ะ ไม่ต้องวิ่งกับฉันงั้นเหรอ....ไม่จำเป็นต้องไปก้มหัวให้พวกพันธุ์นั้นหรอกน่า
พวกมันไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก....นายนั้นแหละที่พวกมันได้ใจ
เพราะเห็นว่าเป็นเด็กใหม่....อยู่เฉยๆ แล้วดูฉันจัดการแค่นั้นก็พอแล้ว” เมื่อผมพูดจบ
อยู่ๆ โทมัสก็เงียบไปแล้วจ้องมองผมผ่านลูกกรงซึ่งทำจากไม้แข็งแรง และในที่สุดเค้าก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมพูดไม่ออกบ้าง
“แล้วนายล่ะ เป็นห่วงฉันงั้นเหรอ”
เค้าเดินเข้ามาเกาะลูกกรงไม้แล้วพูดด้วยเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
แล้วมองเค้ากลับไป
สายตาเราสบกันอยู่แบบนั้น.....จะให้ผมพูดออกไปยังไงล่ะ “ก็เออน่ะสิ! ฉันเป็นห่วงนายโคตรๆ” งั้นเหรอ......คงไม่เวิร์ก แต่คงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าจะปิดบังความรู้สึก
เพราะพรุ่งนี้ผมจะต้องออกวิ่งไปกับเค้า
ผมพยักหน้าน้อยๆ “ใช่
ฉันเป็นห่วงนาย” ผมพูดแค่นั้นแล้วเค้าก็ลดมือลงจากลูกกรงไม้อย่างทำอะไรไม่ถูก แต่ผมกลับจับมือเค้าไว้เสียก่อน โทมัสมีสีหน้าตกใจในคราแรก แต่ก็ไม่ได้ดึงมือกลับไปแต่อย่างใด
“เฮ้” ผมเรียกเค้าให้หันมาสนใจผม
“ฉันเป็นห่วงนาย โอเค้....และฟังฉันนะ
ในวันพรุ่งนี้ที่นายจะได้วิ่งเข้าไปในวงกตมรณะนั่นกับฉัน ฉันอยากให้นายวิ่งไปอย่าหยุดจนกว่าฉันจะบอกว่าหยุด
และอย่าตกเป็นเหยื่อของโศกาเป็นอันขาด”
“ให้ฉันสัญญาเหรอ...”
“ไม่ นายต้องทำตามที่ฉันบอก”
ผมพูดตัดประโยคที่ฟังดูเลื่อนลอยของโทมัส แล้วสบตาเค้าอย่างมาดมั่นและแน่วแน่..........พอมาคุยกับเค้าแล้ว
ผมก็แน่ใจแล้วว่าที่ผมหงุดหงิดและนึกถึงเค้า ไม่อยากเห็นเค้าโดนทำร้ายนั้นเพราะอะไร เพราะผมต้องการปกป้องเค้านั้นเอง........ไม่เคยมีใครที่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าผมมาก่อน
และที่เค้าทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะต้องการแสดงให้ผมรู้ แต่เพราะนั้นคือสัญชาติญาณที่เค้าแสดงออกมาโดยธรรมชาติเมื่อเค้ากลัว...........
สีหน้าตื่นตระหนัก และตัวที่สั่นเทาเมื่อยามที่เค้ากลัวน่ะตรึงอยู่ในใจผม แต่กระนั้นเมื่อถึงเวลาที่คับขันจริงๆ
เค้าก็พร้อมที่จะกล้าหาญเพื่อสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง.....นี่ก็ตรึงอยู่ในใจของผมอยู่เหมือนกัน ใบหน้าของเค้าในตอนที่เห็นผมแบกอัลบี้กลับเข้ามา
และความสับสนที่ประเดประดังอยู่บนใบหน้าของเค้าก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้ามาคิดจะช่วยผมและอัลบี้
ถึงแม้จะต้องติดอยู่ในวงกตด้วยกันก็ตาม..........เค้าไม่ลังเลเลยที่จะทำมัน
เมื่อมีความกล้าหาญย่อมมีความกลัว และผมคิดว่าผมควรปกป้องเค้า........โทมัสทำให้ผมรู้สึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในรอบสามปี
หรือตั้งแต่ผมจำอะไรได้นั้นแหละ
นอกจากแผนที่ในวงกตนั้นแล้วภาพของเค้าก็วนเวียนอยู่ในหัวของผมตลอด......สัมผัสที่ท้ายทอยนุ่มๆ
ของเค้าในคืนที่ผมกอด ผมยังคงจำได้ดี
ตัวเค้าเล็กและบอบบางมากกว่าที่ผมคิดไว้......และยามเมื่อผมกอดเค้า
ผมเองก็รู้สึกดี
โทมัสมีแววตาเป็นประกายในความมืด
“ได้ ฉันจะทำ” เค้าพูด รับปากผมเสียงนักแน่น
ผมได้ยินเสียงสายลม และใบหญ้าของทุ่งที่ลู่กระทบกันจนเกิดเสียง.....เปลวไฟของคบเพลิงไหวไปตามกระแสลมเบาบางที่เอื่อยมา
ผมปล่อยมือจากโทมัสแล้วหันไปแก้เชือกผูกลูกกรงไม้ออก
“นั่นนายจะทำอะไรน่ะมินโฮ!” โทมัสท้วง แต่ไม่ทันเสียแล้วล่ะ ผมแก้เสร็จแล้ว.........ผมเปิดลูกกรงไม้แข็งแรงนั่นออก
เห็นสีหน้างงงวยของโทมัสที่ยืนอยู่ในหลุมมืดๆ ผมจึงกระโดดลงไป
โทมัสมีสีหน้าประหลาดใจมากกว่าเดิม
ถอยห่างออกจากผมเพราะไม่รู้ว่าผมทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ผมรั้งแขนเค้าไว้แล้วเป็นฝ่ายเดินเข้าไปใกล้เค้าเสียเอง
โทมัสไหล่กระตุกและเริ่มสั่น.......ผมกำลังทำเค้ากลัวอยู่สินะ
“นายจะทำอะไร....”
“เฮ้
นายไม่ต้องกลัวหรอก.....ฉันไม่ได้ทำอะไรนาย” ผมพูดในขณะที่เกี่ยวเอวของเค้าเอาไว้แล้วออกแรงเพียงเล็กน้อยให้ตัวเราใกล้ชิดกัน โทมัสไม่ได้ขัดขืนผมแต่เค้าผละใบหน้าออกห่างจากผมเมื่อเราต่างรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน
เค้ากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง สายตาของเค้าเป็นประกายและเต็มไปด้วยแววของความสงสัย
“มินโฮ” เค้าส่งเสียงเรียกผมให้หลุดออกจากภวงค์ด้วยเสียงที่แหบพร่า
ถ้าผมฟังไม่ผิดน่ะนะ.......
ผมเบนสายตามองออกไปด้านนอก ดูว่ามีใครเดินผ่านมารึเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าในบริเวณนี้มีเพียงผมกับโทมัส
ผมจึงเบียดตัวเข้าหาเค้ามากขึ้น ทำให้โทมัสห่อไหล่เข้าหากันแล้วก้มมองส่วนล่างที่ติดกันของเรา
“เอ่อ มิน.....” โทมัสพูดได้แค่นั้น
ก่อนผมจะจูบเค้า.......ริมฝีปากอุ่นร้อนของผมทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางของอีกคนอย่างเบาบาง
และแปรเปลี่ยนเป็นความหนักหน่วงที่ผมกดย้ำลงไป
โทมัสอึ้งจนเบิกตาโพลงในตอนแรก แต่พอผมไม่ได้ละออกมาเค้าก็ยอมอยู่เฉยๆ และหลับตาพริ้มรับจูบของผมในที่สุด...........ผมรู้สึกดีใจที่เป็นแบบนั้น
ที่เค้ายอมรับจูบของผม..........
ผมจึงละออกมาอย่างนึกเสียดาย มีเสียงเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากของเราถูกดึงออกจากกัน
แต่ไม่ต้องรอนานผมประกบปากเข้าไปใหม่ แต่คราวนี้.....ผมเข้าไปสำรวจเค้าข้างในด้วย
ลิ้นของผมไล่สำรวจโพรงปากของโทมัสอย่างนุ่มนวล
ไปตามแนวฟันและเพดานปากของเค้า ผมลากลิ้นไปทั่วบริเวณดังกล่าว ก่อนจะเข้าไปไล่เกี่ยวกับลิ้นเล็กที่หลบผมอยู่
ผมไล่ต้อนจนจับได้แล้วชักนำเค้าให้เต้นรำไปกับผมในโพรงปากของกันและกัน
มือของผมเลื่อนมาจับเค้าเข้าที่สะโพกและเอวผอมบาง
ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาเป็นท้ายทอยและแผ่นหลังบางตามลำดับ ผมเหมือนจะพาเค้าเต้นรำจริงๆ เพราะเอวของเรากำลังเอนเอียงไปทางนู่นทีทางนี้ที เราต่างผลัดกันลูบไล้และขย้ำเสื้อผ้าของกันและกันอย่างแผ่วเบา
ผมแอบล้วงมือเข้าไปใต้สาบเสื้อของโทมัสและสัมผัสผิวเนียนนุ่มของเค้า
เราโรมรันกันจนโทมัสหมดอากาศหายใจพยายามดึงริมฝีปากกลับนั่นแหละ ผมจึงยอมปล่อยเค้าและคิดเสียดายอยู่ลึกๆ เค้าหอบแหกกับการแบ่งลมหายใจในครั้งนี้
หน้าผากของเค้าพิงอยู่บนหน้าผากของผมอย่างเหนื่อยอ่อน
ผมก็เช่นกันแต่ผมแค่ตื่นเต้นไม่ได้เหนื่อย........โทมัสยิ้มแล้วหลุดหัวเราะออกมา
จนผมต้องเบนสายตาขึ้นมองเค้าแล้วสุดท้ายก็ยิ้มตามอย่างเสียไม่ได้ ผมกอดรอบตัวของเค้าไว้
“เอาล่ะ....ฉันคงต้องออกไปแล้ว
แต่ไม่ต้องกลัว...ฉันจะอยู่ข้างนอกนี่กับนาย
แค่ต้องระวังไว้ว่าพวกกัลลี่จะกลับมาดูเมื่อไรก็เท่านั้น”
ผมพูดออกไปเสียงอ่อนโยน เมื่อโทมัสมีสีหน้าหม่นหมองลงตอนที่ได้ยินว่าผมต้องออกไป ผมปลอบเค้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปอย่างเงียบเชียบแล้วผูกเชือกกลับไว้เหมือนเดิม ผมไม่อยากทำแบบนี้เลยสาบานได้.....อยากจะเข้าไปนอนกอดเค้าให้หายหนาวเหมือนเมื่อคืนก่อนเสียด้วยซ้ำ
แต่ทำไม่ได้ ผมก่อความรู้สึกและความสัมพันธ์นี้กับโทมัสแล้ว
และจะไม่ให้ใครรู้เด็ดขาดจนกว่าเราจะได้ออกไปจากที่นี่
..........ใช่ เราจะออกไปจากนรกบ้าๆ นี่ด้วยกัน.........
ผมสัญญากับตัวเองในใจเงียบๆ แล้วเอนตัวพิงกับลูกกรงไม้ สอดมือเข้าไปจับกับโทมัส นานพอสมควรก่อนผมจะบอกให้เค้านอนพักได้แล้ว
เพราะพรุ่งนี้เราต้องใช้แรง
เค้ายอมนอนแต่โดยดี โทมัสมองมาทางผมจนเค้าหลับไปและผมเองก็เฝ้ามองเค้าเช่นกัน......เราทั้งคู่หลับไปในคืนนั้นด้วยกันอีกครั้ง
*******************************************************************
เช้ามืดของวันรุ่งขึ้น............
เด็กหนุ่มเอเชียร่างสูงแข็งแรงตื่นขึ้น
แล้วออกมาจากหลุมก่อนที่จะมีคนมาปล่อยตัวเด็กหนุ่มร่างผอมบางออกไป เค้าวิ่งกลับไปที่พักและเตรียมตัวที่จะวิ่งอย่างเงียบๆ
อยู่ในที่ของเค้าอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน
เค้าดูมาดมั่นและมีความหวังอย่างสูงสุดในวันนี้ แต่แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเค้า
“เฮ้ มินโฮ...” เพื่อนที่มาใหม่เรียก เจ้าของชื่อเพียงแต่หันกลับไปมองเท่านั้นแต่นั่นก็ถือว่าคนเรียกได้รับการตอบรับมาแล้ว
“.....ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย” เค้าพูดก่อนจะเดินนำมินโฮออกมา แล้วเดินต่อไปยังที่ๆ
ปลอดคน
“นายมีอะไรงั้นเหรอนิวท์”
เด็กหนุ่มเชื้อสายเอเชียถามขึ้นเมื่อพวกเค้ามายืนอยู่ในจุดที่นิวท์ต้องการ
“เมื่อคืนนายไปไหนมา”
นิวท์ถามเสียงเรียบ เค้าดูเหมือนคอยสอดส่องทุกอย่างของทุ่งไปซะหมด มินโฮกระพริบตาแล้วมองนิวท์อย่างพยายามอ่านใจเค้า
แต่มินโฮก็ยอมตอบไปตามตรงเพราะคิดว่านิวท์เป็นคนไม่ชอบถามซอกแซก
“ฉันไปหาโทมัสที่หลุมมา แค่ไปบอกเค้าว่าควรทำยังไงตอนวิ่ง”
“ฉันคิดว่าแค่ วิ่ง เค้าก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ”
มินโฮชักสายตากลับไปมองเพื่อนผมสีบล์อนเมื่อคำพูดที่ตัดประโยคเค้ามันฟังดูคุกคามเอามากๆ
นิวท์พูดต่อไป
“นายทำผิดกฎนะมินโฮ”
มินโฮหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “ฮ่ะ
นี่นายคลั่งกฎตามกัลลี่ไปแล้วหรือ”
แต่ทว่านิวท์ไม่ขำด้วย “.....ฉันหมายถึงที่นายแก้เชือกกรงแล้วเข้าไปจูบโทมัสน่ะ”
และได้ผล เค้าทำลายอารมณ์ขันหลงฤดูของมินโฮไปจนหมดสิ้น เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำจ้องกลับไปอย่างตื่นตกใจ
และไปเจอเข้ากับสายตาที่วาวโรจน์ไม่แพ้กัน
“นาย...” มินโฮพูดรอดไรฟัน
“ใช่ ฉันมองอยู่ ฉันมองเค้าอยู่ตลอดนั่นแหละ
จนกระทั่งหมอนั่นเบียดวงกตเข้าไปหานาย...หาที่ตายชัดๆ แต่พวกนายก็รอดมาได้ และฉันก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ให้โทมัสคลาดสายตาไปได้อีก.....แต่พอกลับมาหมอนั่นก็เริ่มเปลี่ยนไป.....”
นิวท์บีบเปลือกตาเข้าหากันเพ่งมองมินโฮอย่างจ้องจะจับผิด
“......เอาแต่พูดถึงเรื่องนาย
บอกว่านายเป็นฮีโร่และอบอุ่น
รู้ไหมตอนแรกฉันก็งงๆ กับไอ้คำว่าอบอุ่นของหมอนั่นนะ แต่ว่าพอเห็นเมื่อคืนแล้วฉันก็เข้าใจกระจ่างเลยทีเดียว”
นิวท์เดินเข้ามาใกล้มินโฮมากขึ้นอย่างคุกคาม
“นายคิดจะทำอะไรนิวท์.....บอกทุกคนงั้นเหรอ”
มินโฮยังคงยืนปักหลักอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง ไม่ได้เดินถอยหลังไปไหนเมื่อนิวท์เดินเข้ามา
“ไม่.....ฉันไม่คิดจะทำอะไรหรอก แต่ฉันดูแลโทมัสอยู่ นายอย่ามายุ่ง”
“อะไร....นายกำลังจะบอกว่านายหลงรักโทมัสงั้นเหรอ”
มินโฮเอนศีรษะถาม ถึงทีที่เค้าจะต้องถือไพ่เหนือกว่าบ้างแล้ว และนิวท์ก็ถอยออกไปเล็กน้อยแล้วรู้สึกเหมือนมีคนฟาดหัวเค้าด้วยท่อนซุง
มินโฮยังคงพูดต่อไปอย่างเอาแต่ใจ
“แล้วไง...ถ้านายคิดได้ ทำไมฉันจะคิดไม่ได้ แต่มันต่างกันตรงไหน....รู้ไหม” มินโฮยกนิ้วขึ้นเช็ดจมูก
“.....มันต่างกันตรงที่ว่า เค้ายอมรับฉันไง”
นิวท์เส้นเลือดปูดขึ้นที่ข้างขมับ แต่ก็ยังคงสะกดอารมณ์ไว้....เค้าค่อนข้างใจเย็น
“แต่นายจะไม่ได้คิดอย่างนั้นนานหรอกมินโฮ” เด็กหนุ่มผมบล์อนพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้น
ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกไป เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้ เค้าอาจจะทำผิดกฎอีกคนหนึ่งก็ได้..........(เรื่องกฎใครจะไปสน
แต่ที่นิวท์สนตอนนี้คือ เค้าไม่อยากให้ใครนอกจากมินโฮรู้เรื่องนี้ก็เท่านั้น
รวมถึงโทมัสด้วย)
เด็กหนุ่มเชื้อสายเอเชียแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองเบาๆ
แล้วออกวิ่งไปยังทุ่งเมื่อเสียงเปิดประตูของวงกตดังขึ้น........
เค้าจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก
ไม่ยอมแน่ๆ ถึงจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่แต่นิวท์ก็น่าอันตรายไม่น้อยเลย.........มินโฮจะได้ออกไปพร้อมกับโทมัส
เค้าได้สัญญาไว้แล้วและจะทำมันให้ได้........จะมีเพียงความตายเท่านั้น
ที่พรากพวกเค้าออกจากกันได้
เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำยังคงวิ่งต่อไป.........
วิ่งไปยังวงกตที่อีกไม่กี่ชั่วโมงพวกเค้าจะได้ออกไปจากนรกซึ่งแสนโหดร้ายนี่จริงๆ
และต่อจากนั้น มันจะโหดร้ายยิ่งกว่า.............
.
.
.
FIN
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยย ชอบกันไหมอ่าาา >//< มี Love Scenes แล้วตบท้ายด้วยฉากหักมุมด้วย แต่จะหักมุมมากกว่านี้แน่นอนค่ะ
ไรท์สัญญาพอภาคสองมาไรท์แพลนไว้เรียบร้อยและค่ะ 555+ //หัวเราะชั่วร้าย//
อร๊ายยยย นิวท์---! .........ความลับของนิวท์มีไรท์คนเดียวเท่านั้นที่รู้และมันลับกว่านี้เอามากๆ
เลยค่ะ 555 [สักพักแว่วเสียงมีดลอย......ไรท์หลบได้อย่างว่องไว]
แอ่....แปะเฟสค่ะ หากท่านใดต้องการติดตามความเคลื่อนไหว ตื๊ดๆๆๆ
ก็เข้ามาเป็นเพื่อนกะไรท์ได้เลยค่าา ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<
ยินดีรับเจ้าค่ะ
และขอฝากฟิคเรื่องอื่นๆ
ไว้ในอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะคะ
และหากท่านใดยังอินกับความรักท่ามกลางความลุ้นระทึกอยู่ล่ะก็ ไรท์ขอแนะนำ
ฟิค The Hunger Game2 The Impossible –
Finnick x Peeta ค่ะ จิ้มเลยยย
เรื่องนี้เป็นฟิคเก่านำมาเล่าใหม่
สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยอ่าน เรื่องนี้ไรท์ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมากเลยค่ะ
[จะมีภาคต่อกะเค้าเหมือนกันนะเออ
// กระซิบ]
ฮู๊ยยยย
อยากให้อ่นกันน่ะ ไรท์ชอบบบบบ >{}< อ่านกันนะคะ อ่านน้าาาา
[สักพักหนึ่งมีดที่เพิ่งหลบไปวนกลับมาที่เดิม] อั๊กก! ไปก่อนนะค่ะรักรีดทุกท่านค่ะ
ด้วยรักและแรงหื่น -..-
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
เอื่อ ..ฟินตายค่ะ 5555555 มินโฮุกไวดีแท้
แต่ตอนจบนี่หักมุมแบบ นิวททท์ ฉันว่าแล้วฟฟฟฟฟ สนุกมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
อะหืมมมม อย่างมินโฮนี่คือสตาร์ทตัวออกแรงมาก เล่นเอาตกใจเลย แต่ที่ตกใจกว่าคือนิวท์เนี่ยแหละ อืมมมมม
อยากเห็นจังแฮะว่านิวท์จะรุกโทมัสยังไง หึหึหึ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด /พึ่งมาอ่านค่ะ ฮาา
สนุกมากค่าาา ไรต์เตอร์แต่งสนุกมากกกก อ่านมา 4 พาร์ท ไม่เจอคำผิดเลย เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
แอบเซ็งฉากจูบตอนจบ ๕๕๕๕ ตอนแรกนึกว่าจะได้อ่าน NC-18 แต่ท้ายที่สุดก้เป็นเพียง PG-15 แม่ยกนี่หดเลยค่ะ... หมายถึงขา ๕๕๕๕๕๕๕ ช่วงนี้หน้าหนาวค่ะ ขาหดเลย------ #จบเถอะ
อิอิ จะคอยติดตามค่า XD
จบแบบนี้แอบเชียร์ 3P เลยได้มั้ย 55555555555555
3P! 3P! 3P !! จะได้ไม่มีใครต้องเจ็บปวด รวมถึงรีดด้วย 555 รักทั้งพี่ทั้งน้องเลยค่า
อยากเห็นนิวท์รุก ! แอร๊ยย คิดภาพไม่ออก มินโฮรุกไวจริงอะไรจริง
ปกติชอบสายตะวันตก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้สึกว่ามินโฮดึงดูดมากก //มิน่าโทมัสเราถึงยอมสินะ -.,-
ภาคสองจะมาแล้ว แอบมาอ่านภาค 1 (ฉบับวาย) ทบทวนความจำ 555555
ไวไฟกันจริงๆคู่นี้ 55555,มินโฮรุกรุนแรงมากแต่ชอบ -.,-
ไม่พอๆ ยังจะไปแอบหากันในหลุม!55 จูบกันด้วยอีก ฟินตายคามือถือ
แถมสุดท้ายนิวท์ก็มาบอกกะมินโฮว่าชอบโทมัส.. เอาล่ะสิ มีคู่แข่งแล้วว อยากเห็นนิวท์เมะ
โทมัสนี่เนื้อหอมจริงงง
แสดงความคิดเห็น