วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[SF - Percy Jackson] + [Part 1] (Not) Just This Night....I Love U - Luke x Percy


สวัสดีค่าาาา  รีดที่น่ารักน่าหอมทุกท่าน...! ^3^  ไรท์กลับมาพร้อมกับ Fic เรื่องแรกๆ ที่ไรท์แต่ง [ก็แบบว่านานแล้วอ่ะน้าาา -w- ] ไรท์เขียนไว้ตั้งแต่พฤศจิกาปีที่แล้ว -_-“..........เอ๊ะ นี่มันปีหนึ่งเต็มๆ เลยหนิ! แฮ่ แห่ม.....นานจริงๆ เลยเรา  ไรท์เพิ่งมาสานต่อจนจบเมื่อปลายเมษานี่เองค่ะ  ก็แบบว่าช่วงก่อนหน้ามันยุ่งมักมากเลยนะค่ะ และไรท์ก็เพิ่งเปิดบล็อกด้วยเลยยังเงอะๆ งะๆ อยู่ค่ะ -^^-

SF – Luke x Percy เรื่องนี้ไรท์วางพล็อตไว้ให้เป็นตอนของภาคหนึ่งค่ะ นั่นคือ เพอร์ซี่  แจ็คสันกับสายฟ้าที่หายไปนั่นเอง....เป็นตอนหลังจากที่เรื่องวุ่นวายในเรื่องจบลงค่ะ  แล้วพ่อลุคก็ดอดไปอยู่ข้างโคร นอสค่ะ และแล้ววันหนึ่งเค้าก็พบว่าทดคิดถึงเพอร์ซี่ตัวน้อยไม่ได้อีกต่อไป  เค้าก็เลยแวะมาหาค่ะ และเรื่องราวนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น  ดั่งที่รีดๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ค่ะ ^^

และต้องขอบอกก่อนเลยค่ะว่า ไรท์เคยไปเวิ่นไว้ในบล็อกของคนอื่นค่ะ [เมื่อไหร ไรท์จำไม่ได้แหละ] ก็เค้าบอกว่าให้ต่อ...ไรท์ก็เลยจัดเลยค่ะ  เป็นแนวฮาระเบิดโน้ส   อุดมนิดๆ [ใครเคยดูเดี่ยวสิบน่าจะจำได้] เอาเป็นว่าไรท์มาจริงๆ จังๆ ในบล็อกของตัวเองล่ะกันนะคะ เพราะว่าสองคนนี้ปล่อยวางไม่ได้จริงๆ ค่ะ [ฮาาาา] .........เอาเป็นว่า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ  ไรท์อยู่อีกเดี๋ยวยาววว

ปล. เริ่มแรกจะออกมึนๆ หน่อยนะคะ เพราะตอนนั้นไรท์เพิ่งจับคีย์ค่ะ แต่ก็ไม่อยากลบมันออก....ช่วงหลังไรท์มาต่อในตอนที่เขียนไปหลายเรื่องแล้วค่ะ ^^


-------------------------------------------------------------------------------------


นานแล้ว...............

สักพักหนึ่งได้แล้วล่ะ ที่เค้ามานั่งรอเพอร์ซี่ให้กลับบ้านอยู่ตรงนี้..................

ร่างสูงแข็งแรงของลุค   คาเทนเลนนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านหมายเลขสองของบุตรแห่งโพไซดอน  เค้ามานั่งรออยู่นี่มาร่วมชั่วโมงแล้ว  นึกแปลกใจกับตัวเองอยู่ว่าทำไมเจ้าของบ้านหลังนี้ถึงยังไม่กลับมาสักที  ทั้งๆ ที่หมดเวลาซ้อมมาตั้งนานแล้วแท้ๆ

นายหายไปไหนเพอร์ซี่........คิ้วเข้มที่รับกับดวงตาสีน่าค้นหาเรียบตึง เมื่อลุคกวาดสายตาเพ่งมองเข้าไปในความมืดของป่า  จนในท้ายที่สุดเทพบนเขาโอลิมปัสก็ไม่ได้แกล้งเค้า  เมื่อเพอร์ซี่   แจ็คสันเดินเข้ามาในทางที่ทอดผ่านสู่ตัวบ้านพร้อมกับ....................

ลุคจ้องตาเขม็ง หลังจากที่กระโดดขึ้นนั่งบนข้อเท้าตัวเอง

...............แอนาเบธ............

...........เธอมาทำอะไรที่นี่........

ลุคยิ้มุมปาก  เมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมเพอร์ซี่จึงกลับบ้านไม่ตรงเวลา...............คงเป็นเพราะแอนาเบธ.............แล้วความคิดบ้าๆ ที่อยู่ในมุมมืดของจิตใจก็ทำให้ลุคกระตุกยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง  เค้ารอให้แอนาเบธบอกลาเพอร์ซี่แล้วกลับไป.....จนลับสายตา  จากนั้นเค้าก็กระโดดลงจากต้นไม้ตรงหน้าของเพอร์ซี่อย่างเหมาะเจาะ

เพอร์ซี่ดูตื่นตกใจมากที่เห็นเค้า  แล้วพยายามจะขัดขืนเมื่อเค้าเข้าไปจับ  แต่คนที่แรงเยอะกว่าก็รู้ๆ กันอยู่..............

"เพอร์ซี่ เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าฉันมีอะไรจะบอกนาย" แล้วร่างสูงก็ฉุดรั้งร่างเล็กเข้าไปบ้านหมายเลขสองทันที ท่ามกลางความงุนงงของนายแจ็คสัน

"อะไรนะ....ลุค อ๊ะ..." แต่ยังไม่ทันทีจะได้เอ่ยวลีใด ฝ่ามือแข็งแรงก็ผลักเข้าที่อกของเค้า จนทำให้เพอร์ซี่หงายหลังล้มลงกับเตียงนุ่ม

ลุคขึ้นไปคร่อมเพอร์ซี่ทันที ไม่เปิดโอกาสให้ร่างเล็กได้หนีไปไหน   เค้ารวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว

เพอร์ซี่สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือเย็นที่ไล่เข้ามาทางสาบเสื้อด้านหลัง

"ลุค...นี่นายจะทำอะไร......เห็นฉันสนุกกับนายรึไงกัน!" เพอร์ซี่ตะโกน

"อู่ว์  โมโหด้วยแฮะ.......เด็กที่ตามใครไม่ค่อยทันอย่างนายไม่น่าจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้นะ........ใช่ เพอร์ซี่ นายมันตามใครไม่ค่อยทันหรอก" ลุคยกยิ้มพลางส่ายหน้าช้าๆ เพอร์ซี่หน้าแดงเพราะความโกรธหรือเพราะความอายก็ไม่ทราบได้

"ฉันไม่ใช่....." เด็กชายเม้มปากแน่น

"ไม่ใช่อะไร.....ตอนที่นายได้หัวเมดูซ่าแล้วเข้าไปพักที่โรงเเรมนั่นน่ะ ทำไมฉันจะไม่เห็น...ตอนที่แอนาเบธหลอกจูบนาย" พอพูดถึงตอนนี้แล้วตาของลุคก็ฉายแววโรจน์   เพอร์ซี่ก็เช่นกันแต่ดวงตาของเค้าตกตะลึงกว่ามาก

"นายรู้ได้ยังไง..."

"ฉันแอบตามนายไป.....ตอนนั้นฉันแทบบ้าที่เห็นเธอขโมยจูบนาย  รู้ไว้นะแจ็คสัน.....ว่านายเป็นของฉัน" ว่าแล้วลุคก็ก้มลงไปจูบลึกล้ำกับบุตรแห่งโพไซดอนที่อ่อนประสบการณ์   และเป็นไปตามใจของร่างสูงที่ต้องการจะไล่ต้อนเด็กน้อยๆ   จนกระทั่งเพอร์ซี่ครางประท้วงเมื่อขาดอากาศหายใจนั่นแหละ  ลุคถึงยอมถอนปากออกมาอย่างนึกเสียดายสุดๆ

"นายมันบ้าไปแล้ว!" เพอร์ซี่น้ำตาคลอ จมูกและขอบตาของเค้าแดงไปหมดแล้ว

"คนรักกันแล้วทำแบบนี้เค้าไม่เรียกว่าบ้าหรอกเพอร์ซี่......." เด็กหนุ่มตาเบิกกว้าง

"ใช่  ฉันแอบมองนายมานานแล้วเพอร์ซี่  ตั้งแต่ที่นายเข้ามาฉันก็หมายตานายไว้เลย.......ฉันยอมรับนะว่าเสียใจเรื่องที่แอนาเบธจูบนาย แต่ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอก แค่จะเขี่ยเธอออกให้พ้นทางรักของเราเท่านั้นล่ะ...ที่รัก" ลุคกระซิบเสียงแผ่วทว่าใกล้หูเล็กๆ นั่นเกินไป เพอร์ซี่ขนลุกซุ่

"นายจะทำอะไรกับเธอน่ะ......อึก แต่ถึงยังไงเธอก็ได้จูบแรกของฉันไปนะ"

"ช้าก่อนๆ.......คนที่ได้น่ะไม่ใช่แอนนี่ แต่เป็นฉันเองจ๊ะ" ลุคส่งยิ้มด้วยแววตาซุกซน

"นาย!....เป็นไปไม่ได้ นายอย่ามาโกหก"

"คืนแรกที่นายมาถึงน่ะ....เอ่อ นายคงไม่รู้หรอกเพราะนายสลบเหมือดเลย...ฉันเข้าไปขอยาแก้ปวด แต่ก็ดันไปสะดุดกับนายที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงแพทย์   รู้ไหม นายน่ะน่าหลงใหลสุดๆ ไปเลย..." ลุคยิ้มอบอุ่นเหมือนเค้ากำลังนึกเอ็นดูคนที่อยู่ใต้ร่างเค้าอยู่ พลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับอีกคน  มีเพียงลมหายใจคั่นทั้งสองไว้

"และที่สำคัญ  ฉันฝันเห็นนายทุกคืนเลย...รู้ไหม" จมูกโด่งซุกไซ้รซอกคอขาวนิ่มของเพอร์ซี่  เสียงสูดลมหายใจของลุคดังขึ้นอย่างหมั่นเขี้ยว พร้อมกับเสียงลมหายใจที่ขาดสะดุดของเพอร์ซี่ ...............ตอนนี้มีเพียงเสียงของเค้าทั้งสอง  ท่ามกลางแสงจันทร์ข้างขึ้นที่สาดส่องมากระทบสิ่งของภายในบ้าน.......รวมถึงเค้าสองคนด้วย

"เดี๋ยวลุค...ไม่...อา...อย่า" เพอร์ซี่พูดเสียงสั่น ตอนนี้เค้าน้ำตารื้นขึ้นมาเพราะความกลัวแล้ว ลุคหยุดทันที เงยหน้าขึ้นมามองเด็กน้อย

"ชู่ว์....ไม่เอาน่าอย่าร้อง...ฉันจะไม่ทำร้ายนายนะ"

"นายกำลังทำอยู่นี่ไง!"

.....แหมะ...แหมะ...แหมะ....

น้ำตาใสๆ ไหล่ลงหางตาไปยังที่นอนนุ่มเบื้องหลัง ภาพนั้นทำให้ลุคยิ่งห้ามใจตัวเองไม่ได้เข้าไปใหญ่ ตอนแรกกะจะเเค่ฝากรอยรัก....แต่ตอนนี้คงต้องฝากความทรงจำไว้ด้วยซะแล้วล่ะ.....

"ฉันจะอ่อนโยน ฉันสัญญา"

แล้วเสียงร้องห้ามของเพอร์ซี่ก็ดังขึ้นแข่งกับเสียงฉีกเสื้อผ้าของเค้าเอง    แล้วจากนั้นสัมผัสจากนิ้วเย็นก็แปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ.......

            “ไม่.....ฮึก...” แม้จะอบอุ่นเพียงใดแต่เพอร์ซี่กลับสะอื้น สั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อโดนร่างสูงที่กำลังคร่อมทับเค้าอยู่ ก้มลงมาจูบซอกคอขาวและมือแกร่งของลุคก็กำลังแก้กางเกงยีนส์ตัวเล็กอยู่  ลุคแก้มันด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ใช้รวบข้อมือบางทั้งสองข้างของเพอร์ซี่ไว้เหนือหัว

            เพอร์ซี่กำลังสะอื้นไห้อยู่ภายใต้ร่างกำยำของลุค สันกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงของร่างสูงยืดหยุ่นขึ้นเมื่อต้องกางแขนทั้งสองข้างเพื่อแก้กางเกงและจับข้อมือของเพอร์ซี่ให้อยู่นิ่งๆ ในเวลาเดียวกัน

            ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหน้าของเด็กหนุ่ม มันช่างหนักหน่วงและเร่าร้อน บ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี  เพอร์ซี่หยุดนิ่ง ไม่ขัดขืน จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าที่ซึ่งอีกคนก็จ้องกลับเข้ามาในดวงตาสีแคริเบียนของเค้าเช่นกัน

            เพอร์ซี่หวังจะได้เห็นแววตาแห่งความเกรี้ยวกราด ดื้อรั้น หยิ่งผยอง และป่าเถื่อน  แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของลุคเมื่อยามจ้องมองเค้าคือ ความอ่อนโยน ความห่วงใย และความโหยหาระคนเอ็นดู

แต่สิ่งที่เด่นชัดที่สุด ที่ทำให้เด็กหนุ่มดวงตาไหวสั่นระริกก็คือ ความต้องการ............

.............ลุคกำลังต้องการ  อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นถ่ายทอดออกมาพร้อมกับลมหายใจร้อนๆ และอกที่กระเพื่อมขึ้นลงนั่น...............

เพอร์ซี่ตัวสั่น  ขยับตัวยุกยิกเหมือนต้องการถอยให้ออกห่างจากลุค  เมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่น่าไว้ใจ แต่ติดตรงที่มือทั้งสองของเค้าถูกล็อคไว้ จึงทำได้เพียงขยับตัวไปมาเท่านั้น

โอ้  ไม่เอาน่าเพอร์ซี่ นายจะกลัวอะไร นายก็รู้ว่าฉันไม่ทำอะไรนายหรอก..........” ลุคยิ้มพูดเสียงเย็น

“นายมันบ้าลุค นายคิดอะไรอยู่....ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เพอร์ซี่เสียงสั่นเครือ เค้าอยากจะออกคำสั่งให้ลุคปล่อยเค้าไปเดี๋ยวนี้ แต่เสียงที่สั่นเครือก็ทำให้ไม่รู้สึกเช่นนั้นเลยสักนิด มันยิ่งตอกย้ำว่าเค้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้..........

“เสียงนายดูไม่ค่อยมั่นใจเลยนะเพอร์ซี่” รอยยิ้มร้ายยังคงฉาบอยู่บนเรียวปากของลุค   คาลเทนแลน

“อึก...” เด็กหนุ่มใช้ฟันขบริมฝีปากล่างตัวเองเน้นจนมันห่อเลือด

...........ใช่ว่าอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นสักหน่อย...........

............สัตว์ประหลาดที่ว่าน่ากลัวร้อยแปดเพอร์ซี่   แจ็คสันและเพื่อนๆ ก็ปราบมาแล้ว.........

...........ใช่ เพอร์ซี่   แจ็คสันและเพื่อนๆ..........

...........แล้วถ้าไม่มีโกลเวอร์กับแอนาเบธล่ะ เค้าจะเป็นอย่างไร?

..............ทุกครั้งเพราะมีเพื่อนช่วย เค้าเลยผ่านพ้นทุกอย่างมาได้  หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือพวกนั้นคอยปกป้องเค้าอยู่ตลอดเวลาเลยตั้งหาก  ถ้าไม่มีสองคนนั้นแล้วเค้าจะเป็นยังไง

ใครจะปกป้องเค้า...............

โกลเวอร์ก็เป็นเซเทอร์.....เป็นผู้พิทักษ์ของเค้า

แอนาเบธก็เป็นลูกสาวของอธีนา......เธอเก่งทุกอย่าง เอาตัวรอดได้ และเผลอๆ อาจเก่งกว่าเค้าด้วยซ้ำไป

นายมีดีอะไรบ้างเพอร์ซี่...........เค้าคิดในใจ เริ่มสงสัยแล้วว่าที่โดนพ่อทอดทิ้งอาจเป็นเพราะเค้ามันไร้ประโยชน์  เป็นไอ้ขี้แพ้  ไร้ค่าในสายตาของพ่อ

...........แล้วนี่ยังมาโดนคนอื่นย่ำยีอย่างนี้อีกอย่างนั้นหรือ......

“อึก ....อึก” แล้วความคิดแย่ๆ ก็ถาโถมเข้ามาในใจของเด็กหนุ่ม น้ำตาใสๆ ก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

“เป็นอะไรไปเพอร์ซี่......” ลุคที่ตอนแรกชักสนุก เริ่มมีสีหน้างุนงงเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกของเพอร์ซี่

ใบหน้าของลุคเต็มไปด้วยความสงสัย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น จ้องมองไปที่ร่างน้อยๆ ซึ่งสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของเค้า

ไม่ได้แกล้งถึงกับต้องร้องไห้ขนาดนั้นสักหน่อยหนิ................

นิ้วเรียวกร้านแดดค่อยๆ เกลี่ยน้ำตาให้เด็กหนุ่มอย่างอ่อนละมุนราวกับผิวแก้มของเพอร์ซี่เป็นเพียงปุยนุ่นแสนเบาบาง

“นายเป็นอะไร.....” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวลราวจะปลอบขวัญ ซึ่งตอนนี้มือทั้งสองข้างของลุคก็เลิกเกาะแกะกับเพอร์ซี่แล้ว แต่หันมาท้าวแขนคร่อมตัวของเด็กหนุ่มเอาไว้แทน

“ฉันมันไร้ประโยชน์.....อึก.....พ่อเลยทิ้งฉัน ฉันมันไม่ดี ทำให้แม่ต้องลำบาก ไม่มีใครรักฉัน ไม่มีใครต้องการฉันเลย ฉันมัน ฮึก ฮือ....” เด็กหนุ่มขดตัวเข้าหากันราวกับเด็กทารก ใช้มือทั้งสองปิดบังใบหน้าเปื้อนน้ำตาของตัวเองไว้หลังจากระบายความอัดอั้นของตัวเองออกมา เพอร์ซี่ร้องไห้อย่างหนักจนตัวสั่น เสียงสะอื้นที่ไม่ได้รับการปิดกั้นใดๆ ดังไปทั่วทั้งบ้านหมายเลยสอง จนลุคกลัวว่าเด็กน้อยที่น่าสงสารนี้จะหายใจไม่ทันเพราะอาการสะอื้นจึงตัดสินใจล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วโอบกอดเด็กหนุ่มจากทางด้านหลังอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน

เพอร์ซี่สะดุ้งตัวในคราแรก แต่สัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนนั้นก็ทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างประหลาด

...........สัมผัสที่โหยหามานานแสนนาน..........

.......... ไม่เคยมีใครให้สัมผัสนี้กับเค้าเลยสักคน............

เสียงสะอื้นของเพอร์ซี่เบาลง ทั้งยังมึนงงอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น

“นายไม่ใช่ว่าไม่เหลือใครนะเด็กน้อย” แขนทั้งสองข้างของลุคกอดรัดเค้าไว้ราวกับจะห่อหุ้มร่างกายเล็กๆ นี้เอาไว้ให้อบอุ่นอยู่เสมอ ส่วนคางก็เกยไว้บนลาดไหล่ที่สั่นเทาของเค้า จากอุณหภูมิร่างกายและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดสร้างความอบอุ่นให้กับเพอร์ซี่อย่างยิ่งยวด ทั้งคำพูดและการกระทำของลุคตอนนี้ทำให้เค้าสับสนไปหมดแล้ว นี่ไม่ใช่ลุคที่เค้ารู้จักหรอกเหรอ............

“เป็นนายจริงๆ แน่หรือลุค.......”

ร่างสูงจับตัวเพอร์ซี่ให้หันมาหาเค้า จากนั้นจึงใช้นิ้วกร้านแดดเกลี่ยเข้าที่ข้างแก้มของคนที่ถามชวนเสียบรรยากาศ “ก็ฉันน่ะสิ นายคิดว่าเป็นใครกันหึ.........และคืนนี้ฉันจะทำให้นายลืมฉันไม่ลงเลยทีเดียวล่ะ” และคำท้ายประโยคก็ทำให้บุตรแห่งโพไซดอนยิ่งผะหวานัก

อันที่จริงฉันก็อยากจะปลอบใจนายอยู่หรอกนะ แต่ว่าอารมณ์มันก็ห้ามกันไม่ได้เหมือนกันแฮะ

“ห๋า นายว่าอะไรนะ.....” ยังพูดไม่ทันจบประโยค แผ่นหลังบางก็ถูกยกขึ้นจากที่นอนแล้วริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของอีกคนทันที ลิ้นร้อนถูกชักจูงให้เกี่ยวกระหวัดกันและกัน

เสื้อผ้าของทั้งสองถูกเหวี่ยงออกอย่างรวดเร็วด้วยน้ำมือของร่างสูงเอง  ผิวขาวเนียนของเพอร์ซี่ต้องกับแสงจันทร์

.........มันระเรื่อจนน่าสร้างรอยไว้ทั่วตัวเสียจริง..........

เมื่อคิดได้ดังนั้น ลุคก็โถมเข้าไปทั้งดูดทั้งเลียผิวเนียนใสนั้นทันที

อ๊ะ นายจะทำอะไรน่ะลุค ปล่อยฉันนะ ....อึก ขอร้องล่ะ....อ่า ไม่......” คนโตกว่าไม่ยอมฟังเสียง อีกทั้งยังใช้ลิ้นเลียหยอกล้อกับยอดอกของเด็กหนุ่มอีกต่างหาก มือใหญ่ก็ไม่น้อยหน้าลูบไล่และบีบคลึงอยู่ที่แผ่นหลังบาง เรื่อยลงมาจนถึงสะโพกมนนิ่มมือ แล้วจัดการขยำจนเด็กหนุ่มหน้าเบ้ “ไม่ ไม่เอา.....ลุค....อาา.....” บุตรแห่งเทพสมุทรพยายามดันอกคนข้างบนให้ออกไป

...........แค่นี้มันก็มากเกินไปแล้ว............

แต่คนถูกผลักไสกลับรวบตัวเค้าแน่นขึ้น แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาให้ร่างกายของทั้งสองได้แนบชิดกันขึ้นไปอีก

ตอนนี้ร่างสูงคึกยิ่งกว่ากระทิงโคคริสซะอีก...............

หยุดไม่ได้ซะแล้ว

ริมฝีปากร้อนของลุคก้มลงไปดูดดุนลิ้นของเพอร์ซี่อีกครั้ง

“ไม่ ลุค อึก...” คราวนี้บุตรแห่งเฮอร์มิสไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดไปได้อีก เค้าใช้มือจับต้นคอผอมบางของเพอร์ซี่แล้วระดมจูบเข้าไปอย่างหื่นกระหายราวกับว่ามธุรสนั้นเป็นน้ำจากสรวงสรรค์  เป็นเวลานานพอสมควรแต่ลุคก็ไม่ยอมถอนริมฝีปากออกมา เหมือนกำลังใช้ลิ้นควานหาสมบัติจากโพรงปากอีกคน จนน้ำใสๆ ไหลย้อนออกมาจากมุมปากของเพอร์ซี่

ในที่สุดลุคก็ยอมถอนปากออกมา เพราะกลัวว่าคนข้างล่างจะขาดใจตายซะก่อน  น้ำใสๆ  ไหลและยืดติดปากของทั้งสองคน  เพอร์ซี่หน้าแดง เค้าอยากจะเอาหัวโขกเตียงให้ได้ซะตอนนี้จริงๆ

โอเค เค้ายอมรับว่ามันก็มีคล้อยตามกันบ้าง แต่ถึงจะรู้สึกดียังไงมันก็ถึงเวลาต้องหยุดได้แล้ว

เด็กหนุ่มกำลังจะอ้าปากพูด แต่ลุคก็เข้าจู่โจมแบบสายฟ้าแลบอีกครั้ง

ลุคโถมตัวเข้าหาเพอร์ซี่มากขึ้น จนอาจเรียกได้ว่าเป็นการเบียด  สัมผัสของผิวที่เนียนนุ่มราวกับน้ำนม ซึ่งจะออกสีชมพูระเรื่อเมื่อโดนเค้าสัมผัส มันทำให้เค้าแทบคลั่ง...............

ร่างสูงยังคงเดินหน้าขโมยลมหายใจเด็กหนุ่มต่อไป ในขณะเดียวกันก็บดเบียดส่วนหน้าเข้ากับตรงนั้นของเพอร์ซี่ด้วย มันตั้งชันและกำลังขยายตัว  ดวงตาสีครามเบิกกว้าง ยิ่งเขินอายกว่าเดิมเมื่อของๆ เค้าทั้งสองสัมผัสกัน  แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือลุคใช้แขนข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่ใต้ขาเพอร์ซี่ ยกมันขึ้นเผยให้เห็นช่องทางสีชมพูที่ขมิบเข้าหากัน เมื่อสัมผัสอากาศเย็น  ลุครีบสอดขาเข้าไปทาบทับทันที

“อือ.....ไม่เอาลุค”

“หืม” แม้จะทำเสียงในลำคอเป็นเชิงตอบรับ แต่ลิ้นก็ยังคงสาละวนอยู่กับหัวไหล่เนียนของเพอร์ซี่

“ฉันกลัว........”

ลุคชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนหน้ามาจ้องตากับเด็กที่กลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนกไร้ขนอยู่ใต้ร่างของเค้า  เรียวปากร้ายจุดยิ้มอย่างเอ็นดู  และดวงตาคมก็จ้องมองมาราวกับเพอร์ซี่เป็นเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง

..............ใบหน้าคมกำลังบอกอย่างนั้น เพอร์ซี่พนันได้เลย

ลุค   คาเทนแลนยิ้มแล้วขำในลำคอเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า

“นายมันน่ารักเกินไปแล้วนะ....ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรแบบนี้แล้วยังมาทำตัวสั่นแล้วบอกฉันว่ากลัวอีก......สงสัยฉันคงต้องสอนให้นายเรียนรู้ทางร่างกายของฉันซะแล้วล่ะ” ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแล้วโถมตัวเข้าไป แต่ก็โดนเพอร์ซี่กันไว้ด้วยแขนเล็กๆ ทั้งสองข้าง
 
ลุคมองหน้าเพอร์ซี่แวบหนึ่งอย่างติดสงสัย  แต่แล้วก็เลื่อนใบหน้าคมไปกระซิบข้างใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ “แล้วนายจะชอบมัน......ฉันสัญญามันจะไม่เจ็บนักหรอก เชื่อใจฉัน  ฉันไม่เคยโกหกนาย.........” จมูกโด่งตรงเข้าไปซุกไซ้ลำคอที่เต็มไปด้วยรอยแดงนั้นอีกครั้ง จนเจ้าของต้องเอียงศีรษะมาอีกทาง

แล้วมือใหญ่ก็ลูบไล้เข้าสอดแนมแทบทุกซอกทุกมุมของเด็กหนุ่มที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่ในอ้อมกอดของเค้า

เพอร์ซี่ยังคงไม่หยุดขัดขืนแม้ร่างกายของเค้าจะตอบสนองการสัมผัสของคนร่างสูงเพียงใดก็ตาม

“อ้า...!” เพอร์ซี่สะดุ้งเสียงหลง เมื่อใบหูของเค้าถูกขบจนเป็นรอย เด็กน้อยจึงทั้งสะบัดหัวและหดคอหนีคนที่เอาแต่รังแกเค้าเต็มที่  “ไม่เอา....ลุค....ฉันไม่เอาแล้ว.....ได้โปรดเถอะ” ความร้อนที่สุมอยู่ภายในทำให้เพอร์ซี่ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย  แต่สิ่งที่เค้าไม่เข้าใจเลยสักนิดก็คือ.....ทำไมถึงรู้สึกต้องการ

“อ๊ะ!.....อึก” เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกฟันคมขบเข้าที่ไหล่อย่างแรง

“อืม....ฉันไม่ไหวแล้วเพอร์ซี่” ลุคเสียงแหบพร่า

เพอร์ซี่ไม่รู้ว่าลุคผละออกไปด้วยเหตุอะไร  แต่ไม่นานร่างสูงที่ควบคุมตัวเค้าก็กลับมาพร้อมกับ............กับอะไรสักอย่าง  เพอร์ซี่ไม่แน่ใจนัก........แต่ในขณะที่ร่างอ่อนปวกเปียกของเด็กหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นนั้น ร่างสูงที่เพิ่งกลับมาก็ผลักเค้ากลับไปที่เดิม

ตุ้บ!      

“อ๊ะ...!

“จะหนีไปไหนเพอร์ซี่........” ลุคพูดยิ้มเย็นพลางบีบเจลใสๆ ลงบนนิ้วเรียวกร้านแดดของตัวเอง

เพอร์ซี่หรี่ตามองสิ่งที่เคลือบอยู่บนนิ้วของลุคด้วยความช่วยเหลือจากแสงจันทร์สีนวล  แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความกระจ่างกับเพอร์ซี่เลย ถึงแม้จะมีแสงจันทร์ช่วย  แต่ทุกอย่างก็ดูเป็นสีน้ำเงินเข้มไปหมด

............ไม่ต่างอะไรจากความมืด  เพียงแต่ทั้งสองสามารถเห็นหน้าของกันและกันได้เท่านั้น..........

“นั่นอะไรน่ะ” เพอร์ซี่ถามเสียงเบา จนนึกแปลกใจตัวเองขึ้นมาไม่ได้ว่าทำไมเสียงของเค้าถึงฟังดูอ่อนแรงได้ถึงเพียงนี้

“ก็.....” ลุคชูนิ้วขึ้นมาให้มันโดนแสงจันทร์สาดส่อง แล้วพินิจดูพลางหมุนนิ้วไปรอบๆ “......มันแค่จะช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้นน่ะเพอร์ซี่  นายไม่ต้องไปสนใจหรอก” ว่าจบลุคก็มองไปยังร่างปวกเปียกที่อย่างอ่อนแรงเมื่อครู่ แล้วยิ้มมุมปากอย่างที่เพอร์ซี่ไม่ชอบ...........

.............ไม่ชอบมากๆ เลยด้วย

ลุคล้วงนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่น ไปยังช่องทางอ่อนนุ่มของเพอร์ซี่  เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกและหยุดหายใจชั่วขณะเมื่อรับรู้ถึงของเหลวเย็นๆ ที่ลุคแหย่เข้ามาในส่วนปกปิดของเค้า เมื่อได้สติและเริ่มรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บุตรแห่งเทพสมุทรก็ดิ้นพลาดพลางทุบตีอีกคนที่กำลังจาบจวงเข้ามาในตัวของเค้าอยู่

“ไม่  ไม่ๆๆๆ .....อย่านะ  ปล่อยฉัน!” เพอร์ซี่โวยวายราวกับโดนน้ำร้อนลวกและหดเกร็งรูนั้นตามสัญชาติญาณ

ในคราแรกลุคค่อนข้างตกใจกับเสียงโวยวายนั่น เพียงเพราะว่ามันดังและรัวเร็วมากกว่าที่เค้าคาดไว้หลายเท่านัก  แต่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างสูงที่ทาบทับก็ใช้มือเพียงข้างเดียวป้องปัดแขนขาที่ดิ้นไปมาของอีกคน  แต่ในขณะเดียวกันนิ้วเรียวยาวก็ยังคงคาอยู่ที่ช่องทางนั้นอยู่

“เฮ้ๆ....เฮ้ ชู่ว์....เพอร์ซี่.....” ลุคยกมือขึ้นมาตั้งท่าเตรียมจะปัดป้อง หากมือของเพอร์ซี่เกิดอยากสู้ขึ้นมาอีก และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

“....เพอร์ซี่...ไม่  ไม่เป็นไร....ไม่เป็นอะไรหรอก” คนผมบล์อนพยายามโน้มน้าว  แต่ทว่าคนที่เบะปากเตรียมจะร้องไห้กลับเอาแต่ส่ายหน้าและไม่ยอมเชื่อ

“ไม่...อยะ อย่าเอานิ้วเข้ามานะ.....อึก” เด็กหนุ่มใช้มือทั้งสองดันอกของร่างสูงขณะตนก็เบือนหน้าหนี

......................เพอร์ซี่กำลังร้องไห้...................

.

.

.

.

TBC.


---------------------------------------------------------------------------

อริ๊วววววว น้องทำตามสัญญาแล้วนะเคอะพี่แคร์-- >3< !!

และพอมาถึงตอนนี้ไรท์ก็เพิ่งรู้สัจธรรมแหละว่าไรท์มัน SM!!  จับ NC เมื่อไรเคะเป็นได้เจ็บตัว  เป็นโรคส่วนตัวที่แก้ไม่หายใช่ไหมค่ะเนี่ย TUT

ท่านใดเพิ่งเข้ามาอ่าน และที่อ่านมานานแล้วแต่ยังไม่ได้คลิกกะไรท์ก็มาเป็นเพื่อนกันได้ที่นี่เลยค่ะ  จิ้มเล้ย! >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  ไรท์จะรับแอดเสมอค่าาา

สำหรับวันนี้ไปแล้วนะค่ะ  [ไปทำงานต่อ...เริ่มเหนื่อยอีกแล้วค่ะ _ _] รักรีดทูกท่านเลยค่าาาา -3-

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray – Aund

7 ความคิดเห็น:

Rockettear กล่าวว่า...

เพอร์ซี่เอ๋ย แกก็เคลิ้มมาหลายรอบแล้ว ยอมซะทีเซ่! เดี๋ยวจับขึงเตียงขังลืมกับลุคเลยนิ ��

Unknown กล่าวว่า...

เพอร์ซี่ยอมลุคไปเถอะ

Unknown กล่าวว่า...

ลุค นาย... ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เหอๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดด ชอบมากเลยค่าาา หาอ่านยากมากกก
ขอบคุณมากๆ ที่เอามาลงให้ได้อ่านนะคะ ^_^

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
Unknown กล่าวว่า...

จะฝากรอยรักหรือฝากความทรงจำไว้ มันก็ฟังดูหื่นๆชอบกลทั้งนั้นแหละ
ไมพระเอกของไรท์ถึงได้แลดูหื่นแทบจะทุกคนอย่างนี้หละเนี่ย
(หรือว่าติดเชื้อความหื่นมาจากไรท์กันหมด??)
แต่ก็นะ ถ้าไม่หื่นก็ไม่ใช่ไรท์แล้วแหละ
เรื่องนี้ยังSMเบาๆอยู่นะ
ของจริงมันต้องเฮียโด้กับน้องเหมียว
แต่เค้าก็ฟินเอามากๆเลยนะตัวเอง
ก็น้องเพอร์ซี่ช่างน่ารักน่ากดซะขนาดนั้น #จงใจไม่มี 'อ'
ยอมๆลุคเค้าไปเถอะ
หึหึ แต่ระวังไว้หน่อยนะ ว่างๆเราจะเอากล้องไปแอบถ่าย หึหึ

โบว์ กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
Nunee Duangmanee กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก