วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 4] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi


  
กราบสวัสดีทุกท่านค่ะ  ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า [Fic – RonalSi] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi เรื่องนี้ เป็นคนละเรื่องกับ [SF - RonalSi] The Storm...พายุโหมกระหน่ำ – Ronaldo x Messi นะคะ  The Storm ไรท์จะใช้ชื่อภาคของเค้าคือ Falling In Love Again ค่ะ เหมือนๆ กับ After Rain 1 , 2 , 3 ของ Star Trek นะคะ

เพราะฉะนั้นรีดบางท่านโปรดอย่าเพิ่งงงนะคะ  ไรท์นี่ก็เป๋อ  เพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ  ถ้าเกิดเป็นภาคต่อ จะมีชื่อภาคต่อหลังด้วยนะคะ.......คือไรท์กลัวรีดงงน่ะคะ

และใครอยากจะคุยกะไรท์หรือติดต่อความเคลื่อนไหวของฟิคต่างๆ ก็มาเป็นเพื่อนไรท์ได้เลยค่ะที่

>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  จิ้มเลยค่ะ          

ยังไงก็ขอโทษในความไม่สะดวกด้วยนะคะ...........ทีนี้รีดๆ ก็เชิญไปอ่านกันต่อได้เลยค่าาาาาา >{}<!!!


---------------------------------------------------------------------------------------


ย๊ากกกกกก!!

เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งดังลั่นเรียกร้องความสนใจของสองร่างที่เกี่ยวรัดกันอยู่ได้เป็นอย่างดี  โรนัลโด้หันหลังกลับไปมองต้นตอของเสียงอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับที่ร่างในอ้อมกอดกวาดตามองด้วยดวงตากลมโตอันตื่นตกใจ  และเมสซี่ก็เผลอขยำเสื้อนอกของโรนัลโด้อย่างแรง ซึ่งร่างเล็กได้คืนให้เจ้าตัวสวมใส่คืนไปก่อนหน้าแล้ว

“ย๊ากกกก!!” เสียงร้องประหลาดยังคงดังขึ้น  และเพียงเสี้ยวนาทีที่บุคคลปริศนาโผล่ออกมา โรนัลโด้ก็เห็นอีกคนหนึ่งซึ่งกักขฬะไม่แพ้กันโดดออกมาจากจุดเดียวกันกับคนแรกบ้าง  และเสียงร้องที่ฟังดูประหลาดยิ่งกว่า

................คนพวกนี้ต้องการอะไร...........

“พวกเค้าเป็นใครน่ะ.....” เมสซี่เสียงเบาหวิวคล้ายกระซิบ  ในขณะที่จ้องมองไปยังร่างของชายฉกรรจ์สูงใหญ่ที่วิ่งปรี่เข้ามาหาพวกเค้า

ร่างสูงที่โดนกำเสื้อนอกสูดหายใจเข้าอย่างรวดเร็วแล้วกอดรัดร่างเล็กของอีกคนหนึ่งไว้ก่อนจะม้วนตัวกลิ้งสามตลบไปด้านข้างอย่างปราดเปรียว  เมสซี่ที่กลิ้งหลุนๆ ไปด้วยเค้าเกร็งตัวแน่น  ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนร่างเล็กตั้งตัวไม่ทัน  กระทั่งตัวเค้าถูกยกให้ลอยขึ้น......เมสซี่รู้สึกเหมือนหูอื้อ  เสียงรอบตัวเค้าหลังจากเพิ่งกลิ้งเสร็จฟังดูอู้อี้

“....ขึ้น  ลุกขึ้น! เร็วเข้า  คุณคงจะไม่อยากให้พวกมันเดินมาบอกคุณหรอกนะว่าพวกมันเป็นใคร” มารู้สึกตัวอีกทีเมสซี่ก็รับรู้ว่าตัวเองกำลังโดนกำคอเสื้อให้ลุกขึ้นแล้วลากไปที่ประตูลิฟต์อย่างไม่ปราณีปราสัยแล้ว  โรนัลโด้ตะโกนใส่หูเค้าที่เพิ่งจะเริ่มได้ยินเสียง

คนทั้งสองที่กำลังจะหนีดูได้เปรียบกว่า เพราะพวกเค้าอยู่ใกล้ทางออกเป็นอย่างมาก การหนีจึงดูเป็นเรื่องง่าย.......และเมื่อเห็นดังนั้นซานโตสจึงยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด  เพื่อกันไม่ให้เหยื่อของเค้าหนีไป

และมันได้ผล  เสียงปืนส่งผลต่อประสาทรับรู้ของคนทั้งคู่ และพวกเค้าก็ก้มตัวลงอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ต้องนัดหมายใดๆ เลยแม้แต่น้อย  เมสซี่ยกมือขึ้นกุมหัวเล็กๆ ของตัวเองอย่างไม่รู้ตัวและการได้ยินเสียงปืนจริงๆ ครั้งแรกของเค้าก็ทำให้หัวใจเค้าหยุดเต้น

.................หูของเค้ากลับมาอู้อีกครั้ง  แล้วร่างกายเค้าก็ชาดิกเหมือนโดนมนต์สะกด..........

..............สำหรับชายหนุ่มที่โลกกว้างของเค้ามีแค่กีฬาฟุตบอลที่รักสุดหัวใจแล้ว  การออกมาเผชิญสถานการณ์จริง  ได้รับรู้จริง  และสัมผัสจริงในสถานการณ์อย่างนี้แล้วลืมไปได้เลยถ้าเค้าจะคิดอะไรออกเหมือนตอนอยู่ในสนามหญ้าสี่เหลี่ยมที่ปลอดภัย  โอ้พระเจ้า! เค้ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้ก่อการร้าย!

โจรทั้งสองหยุดอยู่กับที่ขณะมองดูปฏิกิริยาของเหยื่อ แล้วหนึ่งในนั้นก็ส่งสัญญาให้อีกคนหนึ่งพุ่งเข้าไปชิงตัวเป้าหมายที่ตกลงกันไว้

“ไป! แกไปจับมันมา  เดี๋ยวฉันจะจัดการกับเจ้านั้นเอง” โรนัลโด้ได้ยินเสียงกระชากโฮกฮากดังขึ้นผ่านหน้ากากของโจรทางด้านขาวมือ หลังจากพูดเสร็จมันหันหน้ามาทางเค้า

และร่างสูงก็เข้าใจในวินาทีนั้นเองว่าเป้าหมายที่พวกมันพูดถึงคือใคร

เมสซี่

................และไม่ว่าเหตุผลของพวกมันคืออะไร  มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่............

เมื่อคิดได้ดังนั้น  ด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด เพื่อให้เค้าทั้งสองรอดออกไปจากสถานการณ์นี้ได้อย่างปลอดภัย  ร่างสูงจึงผลักร่างเล็กที่ทำตัวไม่ถูกเข้าไปหลบอยู่ในดงไม้หนาทึบ ซึ่งห่างออกไปเพียงไม่กี่หลา

เมสซี่รู้สึกเหมือนตัวโคลงไปมาแล้วก็เจ็บที่หลังเพราะกระแทกอย่างแรงกับพื้นหญ้า  ร่างเล็กหน้าเบ้ ร่ำๆ อยากจะหันไปต่อว่าร่างสูงสักทีเสียให้ได้  แต่แล้วไหล่เล็กของเค้าก็ถูกรวบเอาไว้ ตามด้วยแรงเขย่าน้อยๆ

“คุณอยู่นี่  ห้ามออกไปนะ.....เดี๋ยวผมมา” โรนัลโด้พูด

เดี๋ยว! แล้วนั่นคุณจะไปไหน...... โรนัลโด้! เดี๋ยวก่อน....” แต่ทว่าร่างเล็กผู้เริ่มสั่นเทารู้สึกสับสนและมีทีท่าว่าจะไม่ให้ร่างสูงไป  เมสซี่ตั้งใจจะคว้าคอเสื้อของโรนัลโด้ไว้แต่ไม่ทัน  โรนัลโด้ทิ้งเค้าไว้ในพุ่มไม้หนาและร่างเล็กๆ ของเค้าก็สั่นเทามากขึ้นกว่าเดิม

................เค้าจะหนีไปหรือ?.............

.................ไม่  ไม่ใช่แบบนั้นหรอก  สายตาที่เด่นคมของเค้าไม่ได้บ่งบอกถึงความกลัวหรือปอดแหกเลยสักนิด..............

...........มันเหมือนจะบอกให้เมสซี่เชื่อใจอีกคนหนึ่งมากกว่า.............

................เพราะร่างสูงออกไปทำในสิ่งที่คิดว่าควรต้องทำ  โรนัลโด้รู้ดีว่าคนเช่นเมสซี่คงจะป้องกันตัวเองจากโจรพวกนั้นไม่ได้เป็นแน่

.............เพราะแค่เห็นเลือดก็เป็นลมแล้ว...........

(เลือดตัวเองเสียด้วยซ้ำ)

อย่างน้อยร่างสูงคิด......ตัวเค้าเองก็พอป้องกันตัวเองได้บ้าง ในคลาสเค้าได้คะแนนสูงสุดเลยทีเดียว  และมันคงจะดีถ้าเค้าสามารถทำอะไรได้สักอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น............

นั่นคือ เมสซี่ต้องไม่โดนพวกมันจับตัวไป...........

มาแนวนี้ก็รู้กันอยู่แล้ว  ว่าพวกคิดไม่ดีต่อสังคมจะทำยังไงเมื่อได้ตัวคนดังที่ทั่วโลกต่างจับตามองไปอยู่ในกำมือ

พวกไม่รู้จักจุดยืนของตัวเอง......ร่างสูงคิดในใจ ขณะเดินเข้าไปหาชายฉกรรจ์ที่พุ่งเข้ามาหาเค้าทั้งคู่...........

เมสซี่ที่นอนหมอบอยู่ท่าเดิมในพุ่มไม้ได้ยินเสียงกระแทก  เสียงร้อง  พื้นใต้ตัวของเค้าสั่นสะเทือนเล็กน้อย  เกิดการต่อสู้กันข้างนอกนั่น และเค้าไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  โรนัลโด้ที่ผลักเค้าเข้ามาในนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง  และเมสซี่ก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อเค้าได้ยินเสียงปืน  จากนั้นทุกอย่างก็เงียบไป.............

ไม่มีเสียงใดๆ เกิดขึ้น แม้กระทั่งเสียงต่อสู้  เสียงสายลมหวีดหวิวข้างหูของร่างเล็กหายไป........ทุกอย่างเงียบมาก  เงียบจนร่างเล็กๆ ที่ขดตัวอยู่ใจหาย...........

เมสซี่ท้าวมือกับพื้นหญ้าแล้วยกตัวขึ้นมา เค้าหยุดหายใจไปชั่วขณะ ในตอนที่ค่อยๆ พยายามจ้องผ่านพุ่มไม้ออกไป

“โอ้พระเจ้า” เค้าพูดเสียงเบา  อ่อนวอนต่อพระเจ้าขออย่าให้สิ่งที่เค้าคิดไว้เป็นจริง

ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ผ่านพุ่มไม้เลย  สายลมบนยอดตึกกลับมาอีกครั้ง มันพัดพาใบไม้รอบตัวเค้าให้พลิ้วไหวตามลมเช่นเดิม

จมูกและขอบตาของร่างเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อตัดผิวขาวที่บัดนี้เย็นยะเยือก  เมสซี่นึกสงสัยว่าเพื่อนนักฟุตบอลของเค้าอยู่ที่ไหนในตอนนี้  หรือเป็นอย่างไรบ้าง  ชายผมที่เพิ่งตัดสั้นของเค้าพลิ้วไหวเช่นเดียวกับใบไม้ใบเล็กใบน้อยที่อยู่รอบตัวเค้า

คุณอยู่ที่ไหน.......เมสซี่คิดในขณะที่เค้ากำลังจะร้องไห้ ไม่อาจคิดไปว่าโรนัลโด้จะตายไปแล้ว  มือเล็กกำลังจะแหวกพุ่มออกไปเพื่อพิสูจน์ทุกอย่าง.......แต่แล้วไหล่ของเค้าก็ถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา

และความเคลื่อนไหวแรกก็ได้บังเกิดขึ้น

“ฮึก...ฮ่ะ” เมสซี่ผวาหนักในตอนที่หันกลับมา  แล้วจากนั้นก็แทบหยุดหายใจ

“นี่ผมเอง  เราไปกันเถอะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น  พร้อมๆ กับที่ตัวของผู้มาใหม่เกิดหนักอึ้งเพราะแรงโถมตัวของคนที่คอยอยู่ในพุ่มไม้อย่างใจหายใจคว่ำ  เมสซี่เข้าไปกอดคนที่แตะไหล่เค้าอย่างรวดเร็ว  ในใจของร่างเล็กรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากที่อีกคนหนึ่งไม่เป็นอะไร

โรนัลโด้อึ้งไปเลยเมื่อโดนกอดเข้าแบบนั้น ในคราแรกร่างสูงชะงักค้าง  แต่แล้วเค้าก็กอดตอบร่างที่สั่นน้อยๆ ของเมสซี่แล้วกระซิบตอบ “ผมโอเค  ไม่เป็นไรแล้ว เราปลอดภัย....” โรนัลโด้พูดเสียงฟังดูหอบนิดหน่อย  ก่อนมือแกร่งจะออกแรงเล็กน้อยเพื่อผละร่างอีกคนหนึ่งออกมา

เราต้องออกไปจากที่นี่......นั่นคือสิ่งที่ร่างสูงตั้งใจจะพูดออกไปเพื่อเร่งเร้าให้พวกเค้าทั้งคู่ได้ออกไปอย่างปลอดภัย  แต่แล้วพอหันมาเจอหน้าของเมสซี่โรนัลโด้ก็พูดขึ้น

“คุณร้องไห้หรือ?!” ร่างสูงขมวดคิ้ว  ทำหน้าไม่เข้าใจ ราวกับเห็นลูกกวาดตกลงมาจากท้องฟ้า........ตอนแรกที่เค้าคิดจะพูดอะไร ตอนนี้ลืมไปแล้ว........

..........ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ออกไปต่อกรกับคนพวกนั้นแท้ๆ แต่กลับดูหวาดกลัวซะยิ่งกว่าคนที่ได้ออกไป...........

เมสซี่เอื้อมมือไปคว้าจับแขนแกร่งที่จับไหล่เค้าไว้ “ฮึก ผมนึกว่าคุณตายแล้ว.....” ร่างเล็กละลำละลักราวกับเค้าเองก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น.......ร่างสูงซึ่งรอดผ่านชายติดอาวุธสองคนมาได้อย่างเหลือเชื่อ.......

ร่างสูงดูไม่ใส่ใจ “ไม่  ผมอยู่นี่แล้วไง .....โอเค เราต้องไปกันแล้ว” ก่อนที่เค้าจะลุกขึ้นแล้วฉุดอีกคนหนึ่งติดมือขึ้นมาด้วย  เมื่อขาอันอ่อนแรงพาเค้าออกมาจากพุ่มไม้ เมสซี่เห็นชายฉกรรจ์สองคนที่พยายามจะวิ่งเข้ามาหาเค้าก่อนหน้า  นอนกองกันอยู่กับพื้น  ต่างคนต่างหมดสติ  และเค้าก็หันมาหาร่างสูง

“คุณทำได้ไง” เมสซี่หอบ  ดูไม่เชื่อสายตา......ชายสองคนนั้นตัวโตไม่ใช่เล่น

โรนัลโด้ยังคงไม่ใส่ใจอีกตามเคย  สายตาและฝีเท้าของเค้าจดจ้องไปที่ประตูลิฟต์

............ต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด  มันคงไม่ได้มีแค่นี้ พวกที่เหลือกำลังมา...........

ข้อมือเล็กที่ถูกฉุดดึงไปข้างหน้ายังคงไม่ได้รับการผ่อนแรง  ร่างสูงดูเร่งรีบ เค้ารู้ดีว่าผู้ก่อการร้ายที่ริโอมีข้อโจษจันเช่นไร  แต่อีกคนหนึ่งที่หายใจหายคอไม่ทั่วท้องก็เอ่ยถามขึ้นอีก

เฮ้....คุณสู้พวกนั้นได้ยังไงน่ะ” เสียงเล็กๆ ที่ติดค่อนข้างตะกุกตะกักเพราะต้องเร่งฝีเท้าตามให้ทันร่างสูงเอ่ยขึ้นอีก  ตอนนี้เค้าทั้งสองมาหยุดอยู่หน้าลิฟต์ที่ไม่ยอมเปิด  โรนัลโด้กระแทกมือลงกับแป้นกดอีกครั้งก่อนจะสบถออกมาเบาๆ กับตัวเอง

“บ้าเอ้ย....” มือแกร่งกระชับแน่นยิ่งกว่าเดิมจนเมสซี่ต้องนิ่วหน้า

“บางทีอาจมีคนใช้ลิฟต์อยู่ก็ได้นะ” ร่างที่เล็กกว่าพูด  โรนัลโด้หันกลับมามองหน้าเมสซี่ที่ทำหน้าซื่อๆ ตอบ ก่อนจะล้วงเอามือถือออกมาแล้วกดโทรออก

เสียงสัญญาณดังขึ้นอยู่นานทีเดียว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าปลายสายจะรับ  ร่างสูงสบถอีกรอบ แต่ร่างเล็กกลับมีแววตาไหวระริกขึ้นทุกขณะ  หัวใจเค้าเหมือนโดนบีบ เสียงปืนดังขึ้นในหูเค้าอีกครั้ง และหัวใจเค้าก็เจ็บขึ้นเหมือนตอนที่เค้ารู้สึกกลัวความสูง.........

............ตอนนี้เมสซี่กำลังเสียขวัญอย่างรุนแรง........

ร่างของนักฟุตบอลตัวเล็กทรุดลงกับพื้น พาให้ร่างสูงที่กุมมือเค้าไว้ทรุดลงตามมาด้วยอย่างเป็นห่วง

เฮ้ คุณโอเคไหม” โรนัลโด้ลดมือถือลงแล้วเลิกสนใจมันเสีย  เค้าถามเมสซี่ที่หอบหายใจหนักแล้วโบกมือหยอยๆ ใส่เค้า

“ไม่....ไม่.....ผมไม่เป็นไร...”

“โกหก ตัวคุณเย็นเชียบแถมยังสั่นไม่หยุดอีกต่างหาก  คุณเป็นอะไรรึเปล่า” โรนัลโด้ประคองไหล่ที่เริ่มลู่ลงของเมสซี่ขึ้นมา

ร่างเล็กหายใจแรงขึ้น อกเล็กกระเพื่อมขึ้นลง และดูท่าร่างสูงจะไม่ยอมละลดความพยายามที่จะหาคำตอบเลย “เอ่อ....ผม คือผมไม่ชอบเสียงปืนน่ะ มันทำให้ผมรู้สึกแย่....”

โรนัลโด้จ้องมองอีกคนอย่างค้นหา  เสียงสัญญาณยังคงดังขึ้นบ่งบอกว่าปลายสายยังไม่ได้ทำการรับ

“แล้วคุณล่ะไปหัดสู้กับชายถือปืนมาจากไหน” อยู่ๆ เมสซี่ก็ถามขึ้นอีก  โรนัลโด้มองใบหน้าไร้เล่ห์เลี่ยมนั้น ก่อนจะยกมือถือขึ้นแนบหูเช่นเดิม

ค่ายฤดูร้อนน่ะ” โรนัลโด้พูด  เมสซี่มีสีหน้างุนงงกว่าเดิม

ค่ายฤดูร้อนหรือ?” คนอายุน้อยกว่าทวนคำ

เสียงสัญญาณหายไปแล้ว ไม่มีการตอบรับ  โรนัลโด้จึงกดโทรซ้ำอีกครั้ง สายตาคมเบนไปสังเกตชายที่หมดสติอยู่ที่กลางดาดฟ้าอีกรอบหลังจากที่เค้าลอบสังเกตมาเป็นระยะๆ เผื่อทั้งคู่จะฟื้นขึ้นมา

“ใช่ คายฤดูร้อน.....คุณไม่เคยไปเหรอ” ร่างสูงชำเลืองมองร่างที่ต่ำกว่าเค้าเล็กน้อย  เมสซี่ส่ายหน้าช้าๆ ราวกับไม่อยากให้อีกคนหนึ่งสังเกตเห็น  และถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ก็ตามแต่ว่าเค้าก็รู้สึกอายเหมือนกัน เมื่อกำลังจะแสดงตัวออกไปว่าเชยสุดขั้ว........

“งั้นคุณก็หัดโต้ตอบคนพวกนั้นมาจากค่ายฤดูร้อนสินะ” เมสซี่ถามออกไปเสียงเบา  เค้ายังคงตกใจอยู่ไม่หายและรู้สึกน้อยใจไม่น้อยที่เค้าไม่ได้มีโอกาสเช่นนั้นบ้าง

สีหน้าและน้ำเสียงของร่างเล็กเหมือนกำลังจะบอกว่า “ฉันทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” โรนัลโด้จึงตบบ่าเล็กเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น

“ไม่เป็นไรน่า  ถ้าคุณได้เข้าแคมป์คุณก็ทำได้เหมือนผมทุกอย่างแหละ” ร่างสูงปลอบใจ

“แต่อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้กลัวเลือดหรือกลัวความสูง.....”

“ฮ่ะ คุณว่าอะไร” โรนัลโด้ฟังได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก เพราะอีกคนหนึ่งพูดอู้อี้เสียเหลือเกิน  แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อปลายสายที่ร่างสูงโทรเข้าไปก็รับเสียที

“ฮะ ฮัลโหลว่าไง  ตอนนี้นายอยู่ไหนเพื่อน!เสียงปลายสายฟังดูร้อนรน

“เอ่อ...บนดาดฟ้าน่ะ”

“บ้าเอ๋ย! ไปทำอะไรอยู่บนนั้น  นายไม่ได้ยินเสียงปืนรึไง! พวกการ์ดบอกว่ามันดังมาจากบนดาดฟ้า.....ตรงที่นายอยู่รึเปล่า”

“เอ่อ....ไม่  ถ้างั้นฉันก็คงจะไม่ได้โทรหานายแล้วล่ะ” โรนัลโด้พูดเสียงเรียบ น้ำสียงของเค้าไม่มีแววเลยว่ากำลังโกหกเพื่อนอยู่

“งั้นก็ดีแล้ว  บางทีมันอาจดังมาจากตึกข้างๆ  แต่ยังไงก็เหอะนายรีบออกมานะพวก  ตำรวจกำลังสั่งอพยพคนออกจากตึก.....เอ่อ ฉันหมายถึงแจกบัตรคิวแล้วให้คนเดินออกไปทีละคนน่ะ  ตำรวจที่นี่ทำงานกันยังไง  ช้าชะมัดยาดเลยให้ตายสิ”

“ได้ โอเค  เราจะรีบออกไป....”

“เราไหน? นายอยู่กับใครว่ะ.....สาวเหรอ?” เสียงปลายสายเปลี่ยนโทนสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อทันที........มันแอบเอาสาวไปคั่วบนดาดฟ้าตอนไหนกัน?

ไม่  ไม่ใช่ผู้หญิง.....เมสซี่น่ะ” มาถึงคราวนี้โรนัลโด้รู้แล้วว่าทำไมลิฟต์ถึงไม่ว่างใช้งาน

“อะไร๊! เมสซี่  ลีโอเนล  เมสซี่หรือว่ะ.....นายไปอยู่นั่นกะเค้าได้ไงน่ะ  กล้าคุ....”

“เปเป้....เปเป้!” โรนัลโด้เรียกซ้ำเมื่อจู่ๆ เสียงของเพื่อนเค้าเกิดขาดหายไป  ร่างสูงยกมือถือออกมาดู

--- ไม่มีสัญญาณ ---

โรนัลโด้กวาดตาไปอย่างไม่อยากจะเชื่อแล้วถอนหายใจออกมา

“ให้มันได้อย่างนี้สิ...”

“อะไรงั้นเหรอ” เมสซี่ที่นั่งดูอยู่ข้างๆ อย่างใจจดจ่อถามขึ้นเมื่อสีหน้าของร่างสูงไม่ได้บ่งบอกเลยว่ารู้สึกดี

มันตัดสัญญาณโทรศัพท์” เค้าพูดแค่นั้นก่อนจะปามือถือทิ้งไป  และก้มตัวลงล้วงเอามือถือของร่างเล็กออกมาแล้วปาทิ้งไปเช่นกัน

“เฮ้ นั่นของผมนะ  คุณทำบ้าอะไร!” เมสซี่เสียงดัง

“กันไม่ให้มันหาเราเจอไง.....พวกนั้นตัดสัญญาณโทรศัพท์เพื่อไม่ให้ใครโทรไปขอความช่วยเหลือได้ โดยเฉพาะคุณ และพวกมันก็จะแกะรอยมือถือคุณ  รวมทั้งผมด้วยเพราะมันรู้แล้วว่าผมอยู่กับคุณ...ทีนี้ มันคงดูไม่ไร้เหตุผลเกินไปนะ ถ้าผมจะปามือถือคุณทิ้ง” โรนัลโด้พูดเสียงไม่แยเส

เมสซี่อ้าปากค้าง “ว้าว..” เค้าอุทานออกมาเบาๆ “ค่ายฤดูร้อนสอนเรื่องนี้กับคุณด้วยรึเปล่า”

ร่างสูงยักไหล่ขณะมองลงมาหาเมสซี่ “ก็ประมาณนั้น” เค้าพูด และแววตาของเค้าดูเหมือนกำลังกลั้นยิ้ม


---------------------------------------------------------------------------------------


ฉากที่เหมียวหลบอยู่ในพุ่มไม้  ลุ้นน้อยลุ้นใหญ่ว่าเฮียจะรอดไหม.....ให้รีดๆ นึกภาพแบบสโลว์โมชั่นนะคะ ว่าใบไม้ต่างปลิวและพลิ้วไหวแบบช้าๆ ผมด้านหน้าของน้องเหมียวก็ปลิวน้อยๆ (เอาทรงสั้นปัจจุบันนะคะ! ไม่ใช่ทรงเจ้าหญิงเหมือนเมื่อก่อน เอานั่นยาวไปค่ะ.....เราอยู่กับปัจจุบันนะคะ 55+)

แล้วก็ฟังซาวด์ซึ้งๆ ของหนังเรื่อง Ost. Armageddon ไปด้วย  มันจะได้ฟีลมากๆ เลยค่ะ (ฮาาาา)  แบบว่าเหมียวรอการกลับมาของเฮียผู้เสียสละ อย่างใจจดใจจ่อนึกว่าเฮียจะสิ้นเสียแล้ว....อะไรเทือกนั้นน่ะค่ะ >///< //เป็นห่วงกันเกิ๊นนน//  แล้วพอเจอกันก็โถมเข้ามาใส่ ในตอนนาทีครึ่งของซาวด์ //รีดบอก ฉันจะไปเจออย่างที่แกบอกไหมเนี่ยย -_-“//

อูยยย ฉากนี่ภูมิจำเสนอค่ะ  แบบฉากสโลว์ ย้ำนะคะ นึกภาพตามแล้วต้องสโลว์  ให้คู่พระนางเค้าหน่อยค่ะ 555+

ตอนหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามกันได้ใน Part คะ //มาให้รีดค้าง เหอๆ ....สักพักรองเท้าลอย// รักรีดทุกท่านมากนะเคอะ จุบุๆ -3-

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund


4 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

นอกจากตอนที่แล้วพ่อยอดชายคุณคริสเตียโน่ เขาเหมือนจะเป็นหมอแล้ว ตอนนี้ก็ยังเหมือนเป็นบอร์ดี้การ์ดในหนังแอ็กชั่นอีกด้วย พับผ่าสิ! ;-)

ตอนนี้เกือบจะโรแมนติกแล้ว เกือบแล้ว...เกือบแล้ว... แต่ดันมาหัวเราะตอนคริสเตียโน่ปาโทรศัพท์นี่แหละค่ะ โทรศัพท์ตัวเองไม่พอ โทรศัพท์ลีโออีกแน่ะ มันเกี่ยวกันไหมหนอ. //แต่เหตุผลของเขาก็ฟังขึ้นอยู่มากทีเดียว// ดูจะให้ความสำคัญกับการปกป้องลีโอมาก แบบนี้แหละน่านับถือจริงๆ

เหมือนบอร์ดี้การ์ดต้องคอยปกป้อง(และต้องปกป้องไว้ให้ได้ด้วย) แต่ก็คุ้มใช่ไหมล่ะ เพราะได้ของแถมเป็นลีโอเข้ามากอดเสียด้วย ฮ่าา โรแมนติกนะคะเนี่ย อ่านไปยิ้มไป -///- เปิดเรื่องมาก็อย่างกับได้ดูหนังแอ๊กชั่น แต่มันยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ ไรท์บรรยายเห็นภาพจนเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆเลยทีเดียวเชียว อ่านแล้วตื่นเต้นค่ะ (สโลว์โมชั่นนั่นแหละ ก็มันสโลว์โมชั่นจริงๆๆ)

แต่ลองแบบนี้ก็อยากรู้อีกแล้วสิเออ เป็นกำลังใจให้เสมอ! สนุก น่าติดตามทุกตอนเลยค่ะ ยอดมากๆๆ (^^)b

Unknown กล่าวว่า...

ให้ตายเหอะ!! เฮียคะ เฮียแมนมาก ปกป้องเหมียวได้ด้วย สมเป็นพระเอกจริงๆ รีดปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล TT

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่ารักมาก!!! ว่าแต่เฮียไปค่ายอะไรมากันแน่!!!
คือค่ายฤดูร้อนมันสอนขนาดนี้เลยเหรอ5555

Unknown กล่าวว่า...

โอ่ยยยยย ชอบมากเลยค่ะไรด์T//////////T
คริสแมนมากอ่ะฮรืออออ เหมียวสนใจอยากไปค่ายมั่งสินะ. ชอบที่คริสร้อนรนอยากให้เหมียวปลอดภัย อริ้
รีบมาต่อไวๆนะค้า ชอบมากกกก❤️