วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

[Fic - Star Trek] + [Part 5] You Or You? - McCoy x Chakov [After Rain 3]



            มาแล้วค่ะ  มาแล้ว.....มาแบบกระชันติดกันเลยยยย ฮิๆๆ  เรามาลุ้นกันค่ะว่าสองเพื่อนซี้จะทำอย่างไรเมื่อหนูเชคอฟเข้ามาแล้ว

ไปอ่านกันเลยค่าาาา  อยากเมาท์แต่ปีใหม่นี้ไรท์มึนๆ ไงไม่รู้ค่ะ  ไหนจะจัดงาน  ไหนจะเขียนฟิค  พิสูจน์อักษรแบบมึนๆ (ซึ่งอันนี้ไรท์ก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดกันแน่นะคะ//อ้าววว!//)  อูยยยยย ปีใหม่นี้ไรท์จะเค้าดาวกับเพื่อนและลูกหมาอีกสามตัวค่ะ 5555

เมาท์ยาวแบบไร้สาระ -_-^

เอาเป็นว่าเลิกสนใจไรท์  แล้วไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ  หวังว่าจะหายคิดถึงหมอกะน้องน้าาาาา

ปล. สำหรับรีดท่านที่รอเรื่องนี้อยู่  ไรท์ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอนาน M_ _M


-----------------------------------------------------------------------------------------


บทที่ 5


เยี่ยม  พระเจ้าเฮงซวยลงโทษฉันอีกแล้ว!.......แมคคอยขบเขี้ยว แต่ทว่าในใจกลับแตกต่าง  ความรู้สึกกระวนกระวายแย่งชิงพื้นที่กันอยู่ในจิตใจของเค้าอย่างมั่วซั่ว  ซึ่งมันเกิดขึ้นในรอบหลายๆ ปีเลยทีเดียว

และเค้ากับเพื่อนซี้ที่กำลังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก..............

“ฮ่าๆๆ เอาล่ะเชคอฟ  นายนั่งตรงนี้นะเจ้าหนูฉันรู้ว่าวันนี้นายรับศึกหนักมา  เพราะกระแทกกับแกนวาร์ปแล้วกระแทกกับพื้นอีกทีนี่มันคงจะแย่มากๆ เลยสินะ  ทำตัวตามสบายสิเจ้าหนู!......โอ้ว  โทษที ฉันตบแรงไปหน่อยน่ะ” กัปตันคนเก่งพูดเสียงติดจะร่าเริงแบบโลกสวยตลอดประโยค  แม้กระทั่งเค้าเผลอตบไหล่ของเด็กหนุ่มแรงเกินไปจนคนอายุน้อยกว่าทำหน้าเสีย  จิมก็ยังคงโลกสวยอยู่

แมคคอยคิดในใจ.........เออ! ขอบใจมากจิม แกทำให้สถานการณ์ยิ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากขึ้นไปอีก

ร่างสูงของนายแพทย์ยืนถือ PADD นิ่งอยู่กับที่  มองดูเพื่อนซี้ตัวแสบของเค้าลากเชคอฟเข้ามานั่งบนเก้าอี้สำหรับคนไข้แล้วดันเก้าอี้ติดล้อนั่นเข้ามาหาตัวเค้า  แมคคอยเห็นเชคอฟฝืนตัวไว้ แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรก็ตาม

แมคคอยขยับปาก “ไอ้เวร”

จิมขยับตอบ “ฉันช่วยนายนะเพื่อน”

แมคคอยเหลือกตาใส่ “ช่วยกะผีน่ะสิ! เหมือนเค้ากำลังจะบอกยังงั้น

จิมยิ้มใส่หน้าระรื่นราวกับว่านั้นคือคำชมสุดหวานหูจากโบนส์เพื่อนยาก  แล้วหยุดเก้าอี้ความเร็วสูงของเค้าโดยไม่บอกเชคอฟ  ทำให้เด็กหนุ่มที่เกาะที่ท้าวแขนแน่นเกือบหน้าขมำ

กัปตันผมบล์อนโลกสวยกำลังคิดว่า  เค้าเองก็เริ่มหมดความอดทนกับความก่ำกึ่งของเพื่อนหมอมามากแล้วเช่นกัน  และคนที่ไม่จัดเจนเรื่องความรักเช่นเพื่อนของเค้าควรจะได้ปรมจารย์ผู้ช้ำชองคอยบอกทางให้  อย่างเช่นที่จิมกำลังทำอยู่ในตอนนี้.................

................นั่นคือ กำลังหาเรื่องให้แมคคอยขย่มคอแบบนอกรอบ.............

นายต้องเดินหน้าสู้อุปสรรค์สิไอ้โบนส์!......จิมคิดในใจและส่งมันไปให้แมคคอยทางสายตา  ก่อนจะหมุนเก้าอี้ของต้นกลอายุน้อยให้หันกลับมาหาเค้า  กัปตันแห่งยาน Enterprise โน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อท้าวแขนกับเก้าอี้  ดวงตาสีฟ้ากระจ่างที่ใครๆ เห็นก็ต้องหลงใหล เปล่งประกายอยู่เบื้องหน้าเชคอฟและฉายแววซุกซนออกมาอย่างปิดไม่อยู่

“ขอให้สนุกนะเจ้าหนู  โบนส์จะดูแลนายเอง” เค้าพูด  แต่เชคอฟกลับรู้สึกเหมือนอยากหายตัวไปเสียให้ได้เมื่อจิมยืดตัวขึ้นจนเต็มความสูงแล้วบอกเป็นนัยว่าจะเดินออกไปจากห้องล่ะนะ

เจ้าหนูรัสเซียทำตาโตแล้วเผยอริมฝีปากเหมือนจะพูดอะไรบ้างอย่าง  เพียงแค่รอให้กัปตันคนดีของเค้ารับฟังเพียงเท่านั้น   ไทบีเรียส  เคิร์กเห็น  แต่ว่าแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียแล้วหันไปยกยิ้มส่งกำลังใจให้กับแมคคอยที่อยู่ด้านหลังของเชคอฟ

โชคดีนะเพื่อน ฉันช่วยนายได้แค่นี้แหละ......จิมส่งสัญญาณทางสายตา

แมคคอยเลยให้รางวัลด้วยการชูนิ้วกลางให้หนึ่งที  โดยที่เชคอฟก็ไม่เห็นอีกเช่นกัน  จิมเอียงศีรษะแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิมราวกับสัญลักษณ์นั้นเป็นคำว่า “ขอบคุณนะเพื่อน” ของโบนส์  และกัปตันพราวเสน่ห์ก็ทำท่าเหมือนมีคนสะกิดเค้าที่หัวเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าเหรอหรา

“เอาะ อ่อ!....ฉันต้องไปแล้วนะเพื่อน  ดูเหมือนสป็อคจะเรียกหาฉันแล้วล่ะ  สงสัยจะมีอะไรให้จุบุๆ กันอีกแหงเลย  ฮ่าา – ฮ่าาา ......แหม สมกับเป็นแฟนฉันจริงๆ เลยแฮ่ะ” จิมปั้นสีหน้าที่ใครดูก็รู้เลยว่าเสแสร้งยกเว้นแต่กับเชคอฟผู้ใสซื่อ  แล้วเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

“วัลแคนอยากทุกๆ 7 ปีเฟ้ย  ไม่ใช่ทุกๆ 7 ชั่วโมง” แต่ร่างสูงผู้อยู่หลังสุดก็ไม่วายหลุดปากตอกกลับไปอย่างอดไม่ได้ตามประสาคนปากไว  เป็นเหตุให้เชคอฟที่ได้แต่นั่งมองร่างของกัปตันจนลับตาไป หลุดยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้

หมั่นไส้มันมาตั้งแต่เมื่อกี้และ  ขอหน่อยเหอะ........แมคคอยแย่งเขี้ยว  แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วเมื่อจิมหายไป  ความหงุดหงิดของเค้าก็แฟบลงทันที..............

....................เมื่อทั้งห้องพยาบาลเหลือไว้เพียงแค่เค้ากับเชคอฟสองคน.................

เอาไงล่ะแมคคอย  ไอ้จิมมันทิ้งระเบิดไว้ในหวอดของนายแหนะ........ส่วนหนึ่งในจิตใต้สำนึกเค้ากำลังเซ็ง  และอีกส่วนหนึ่งกำลังคิดหาหนทางไปต่ออยู่  และในเวลาอันรวดเร็วเค้าก็พบว่ามันไม่ยากเกินความสามารถของเค้าที่ลอกเลียนแบบมาจากจิมได้

เมื่อรวบรวมสรตะและตัดสินใจอย่างรวดเร็วเยี่ยงคนเป็นหมอได้แล้ว  แมคคอยก็เดินเข้าไปลากพนักพิงเก้าอี้ด้านหลังที่เชคอฟนั่งอยู่แล้วพาเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ทันที  ร่างสูงทำตามหน้าที่ของเค้าไปโดยมีเด็กหนุ่มที่เกร็งยิ่งกว่าเดิมเป็นคนไข้อยู่ข้างๆ  แมคคอยสไลด์ PADD ดูภาพเอ็กซ์เรย์ไปมา  แล้วตวัดสายตาขึ้นมามองเชคอฟที่ก็จ้องมองเค้าอยู่โดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

..............เหมือนรอผลตรวจโรคเอดส์............

ทั้งห้องเงียบกริบ  แม้แต่เชคอฟก็ยังหยุดหายใจ  ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เพราะเด็กหนุ่มเข้ามาทำการเอ็กซ์เรย์แล้วนับครั้งไม่ถ้วน เค้าคุ้นเคยกับขั้นตอนดีจนไม่ต้องให้คนเป็นหมอบอก  ตลอดการตรวจนี้จึงเงียบไปโดยปริยายเมื่อไม่มีใครอยากปริปาก

“นายกระดูกร้าว” แมคคอยเปิดสนามพูดคนแรก  และเชคอฟดูจะลงด้วยไม่ได้เพราะเค้าไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี  เว้นซะแต่...............

“ครับผม....” ดวงตากลมโตฉายแววสั่นระริก

“นายจะต้องเข้าเฝือก  ฉันจะให้ยาสมานกระดูกกับนาย.....แค่วันเดียวเท่านั้นที่นายจะต้องใส่เฝือก และเดี๋ยวฉันจะเป็นคนเอามันออกให้นายเอง  ไม่ต้องกลัวล่ะว่ามันจะเกะกะนายตอนท้าวแผงควบคุมของสถานี” บลาๆๆ แมคคอยร่ายบทตามผลตรวจเอ็กซเรย์

 “แล้วจิมมันรู้ได้ไงว่านายไปโดนอะไรมา” และแมคคอยก็ถือโอกาสถาม  เมื่อสิ่งนี้ก็เป็นข้อข้องใจของเค้าจริงๆ อยู่เหมือนกัน

“เอ่อ....กัปตันเห็นผมหกล้มครับ”

“เห็นนายหกล้ม?  ตอนไหน” แมคคอยเริ่มทำหน้าขึงแล้วถามเสียงเย็น  เชคอฟทำอะไรไม่ได้ จึงต้องตอบไปตามความจริงท่าเดียว

“คงจะ....ก่อนที่จะมาพบคุณน่ะครับ” เชคอฟทำตาเหมือนเจอแดดจ้า

แมคคอยทำหน้าเหมือนมีคนขโมยงานเค้าไป “แล้วนายก็เพิ่งจะมาเอาตอนนี้น่ะเหรอ!

เชคอฟห่อไหล่งุ้ม  และกดหลังเข้ากับเก้าอี้  แมคคอยพ่นไฟต่อไป

“นายมัวรออะไรอยู่น่ะห๊ะ! ต้องรอให้ฉันเดินออกจากห้องไปเจอนายก่อนรึไง.......ถึงจะบอกฉันน่ะ  ให้ตายสิ   ถ้ามันแย่ยิ่งกว่านี้ขึ้นมาจะว่ายังไง....” ร่างสูงนั่งลงบนขอบโต๊ะ  ก่อนจะอ้าปากราวกับจะพูดอะไรบ้างอย่างต่อ  แต่เค้ากลับกอบโกยเอาออกซิเจนและไนโตรเจนในอากาศเข้าไปแทน ก่อนจะเปลี่ยนมันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์แล้วพรูออกมา

“เฮ้อ....” แมคคอยหนักใจ  เพราะรู้ว่าไม่ควรดุเชคอฟมากนัก......เด็กคนนี้ยังเด็กมาก  เด็กกว่าทุกคนที่ทำงานบนยานด้วยเสียด้วยซ้ำ  การทำแบบนั้นจะทำให้เชคอฟกลัวและไม่กล้าเข้าห้องพยามบาล

แมคคอยบอกตัวเองแบบนี้ทุกครั้งที่ต้องรักษาให้เด็กจอมซุ่มซ่ามอย่างเชคอฟ แม้แต่ตอนที่หลังจากเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นก็ตาม  เมื่ออยู่ในห้องพยาบาลแล้วร่างสูงแดนใต้คนนี้ก็ยังคงเป็นหมอแมคคอยที่ขึ้นชื่อเรื่องปากเสียงโดยตรงอยู่ดี............แต่ไม่  เค้าจะไม่ดุเด็กที่อายุไม่ถึงยี่สิบหรอกนะ  นั่นมันดูจะเกินไปหน่อย

“ผมขอโทษฮะ” ในที่สุดเด็กหนุ่มก็พูดขึ้นบ้าง  เมื่อเห็นโอกาสว่าคนที่ตรวจอาการเค้าเงียบลงแล้ว

คำพูดของเชคอฟทำให้แมคคอยถอนหายใจอีกรอบ  สีหน้าคนเป็นหมอดูอ่อนใจ

“โอเค ก็ได้.........แต่คราวหน้านายต้องสัญญาว่าห้ามอิดออดอีกถ้าต้องมาห้องพยาบาล” แมคคอยวาง PADD ลงบนพื้นโต๊ะข้างตัว แล้ววางแขนลงบนตักตัวเอง

เชคอฟพยักหน้างกๆ เหมือนคนง่วงนอน  แล้วจากนั้นหมอแมคคอยก็เริ่มต้นขั้นตอนการเข้าเฝือกที่แสนรวดเร็วแต่เรียบร้อยเช่นมืออาชีพ  ราวกับว่าเค้าทำมันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว (ซึ่งนั่นก็ค่อนข้างจริงทีเดียว)

หลังจากเสร็จแล้วโดยไม่มีบทสนทนาเพิ่มเติมมากนัก  ร่างสูงเจ้าของห้องก็ลงมือเก็บของที่นำออกมาใช้เล็กน้อย  แต่พอเดินกลับมากำลังจะบอกกำหนดการถอดเฝือกและข้อควรระวังในระหว่างนี้  แมคคอยกลับเห็นเพียงเด็กหนุ่มที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงอย่างเหนื่อยอ่อนแทน..........

..........ใช่  ท่าทางเชคอฟดูเป็นอย่างนั้นจริงๆ แขนทั้งสองข้างฟาดอยู่บนเตียงแพทย์นุ่มๆ พร้อมกับใบหน้าอ่อนเดียงสาที่ซบหันข้างมาหาคนที่เพิ่งเดินเข้ามา  เชคอฟนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ เตียงแพทย์เพียงไม่ถึงห้านาทีเท่านั้นที่แมคคอยห่างไป  เด็กรัสเซียตัวจ้อยก็หลับไปเสียแล้ว

แมคคอยไม่เสียงดังใส่เมื่อเห็นเชคอฟนอนไม่เป็นที่  ไม่ปลุกเด็กหนุ่มเสียด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่นั้นคือสิ่งแรกที่เค้าจะทำเมื่อเห็นคนอื่นนอนเอาตัวพาดเตียงครั้งเก้าอี้ครึ่งแบบนี้แท้ๆ

ร่างสูงนิ่งชะงักไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า  มือที่ยก PADD ค้างไว้กลางอากาศราวกับถูกกดปุ่มหยุดไว้  สายตาคมสีเข้มกวาดมองไปที่เด็กซึ่งยึดเอาเตียงแพทย์ครึ่งหนึ่งของเค้าไว้  แมคคอยสูดหายใจเข้าลึก  ก่อนจะวาง PADD ไว้แล้วเดินตรงไปหาเด็กหนุ่ม

ร่างของเชคอฟถูกยกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเบามือสู่กลางอากาศ  แขนน้อยๆ ห้อยไปมาอย่างไร้เรี่ยวแรงเพราะกำลังหลับ  และศีรษะที่ผงกไปข้างหลังมากเกินไปของเชคอฟก็ทำให้แมคคอยต้องกระดกวงแขนตัวเองขึ้นสูงเพราะกลัวว่าอีกคนหนึ่งจะหายใจลำบากและตื้นเอาได้

แมคคอยอุ้มเชคอฟขึ้นไปนอนราบบนเตียงแพทย์อย่างเบามือ  ให้เด็กหนุ่มนอนได้อย่างสบายขึ้น  เชคอฟไม่ขยับเขยื้อนตัวเปลี่ยนท่าไปไหนเลย......แม้แต่นิดเดียวก็ไม่  มีเพียงอกเล็กๆ ที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอเท่านั้นที่แมคคอยสังเกตได้

เชคอฟคงเพลียมากจากการที่ไม่ได้พักผ่อน.........

ร่างสูงซึ่งเป็นหมอ  ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ มองดูรอยคล้ำใต้ตาและใบหน้าเรียวเล็กที่ดูหมองลงไปถนัดตาของเชคอฟ.........ต้นกลอายุน้อยคนนี้ดูเหมือนไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว

มิน่าทำไมถึงได้ทำตาหยีๆ อยู่ตลอดเวลา นอนไม่พอนี่เอง.........แมคคอยคิดในใจ  ก่อนจะเป็นฝ่ายประคองหัวเชคอฟขึ้นแล้ววางให้อยู่ในท่านอนที่ถูกต้องและสบายที่สุด  ร่างสูงจัดนู่นจัดนี่ให้เด็กหนุ่มอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มกายให้เค้า

บางทีเจ้าหนูนี่อาจจะคิดมากเรื่องเดียวกับเราอยู่ก็ได้.........แมคคอยคิดในใจถึงเหตุผลที่ทำให้เชคอฟต้องอดหลับอดนอน

..............รึว่านอนไม่หลับกันแน่?.........

ไม่ได้แล้ว  ฉันจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ จะต้องทำอะไรสักอย่าง  เจ้าหนูนี่ไม่โอเคซะแล้ว

แมคคอยที่ยืนท้าวแขนทั้งสองข้างกับขอบเตียงที่เชคอฟนอนอยู่ คิดใคร่ครวญกับตัวเองเงียบๆ

แต่ถ้าคิดในข้อดี............

อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องบอกให้เจ้าหนูนี่ระวังนู่นระวังนี่ทั้งๆ ที่เค้าทำไม่ได้แล้วล่ะ  เพราะตื่นขึ้นมาก็คงจะถึงกำหนดการถอดเฝือกพอดี

แมคคอยตัดสินใจเดินออกไป  ดวงตาสีเข้มที่ดูหงุดหงิดและอ่านไม่ออก แต่บัดนี้ดูอ่อนลงเป็นอย่างมาก  จ้องมองร่างของเด็กหนุ่มที่นอนอย่างสุขสบายอยู่บนเตียงแพทย์นุ่มนิ่มเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนมือแกร่งที่เชี่ยวชาญการแพทย์ที่สุดจะดึงรูดม่านสีขาวบังแสงให้เด็กหนุ่ม  พร้อมทั้งสั่งคอมพิวเตอร์ลดแสงลงให้เหลือเพียงสิบเปอร์เซ็นอีกต่างหาก

และร่าสูงคิด  เค้าจะไม่ยอมปลุกเจ้าหนูรัสเซียจอมจุ้นหัวฟูคนนี้เด็ดขาด ถ้าหากเจ้าตัวไม่ได้ตื่นเอง


-----------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------


---------------------------------


----------------------------------


--------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ตึด......

“......”

ตึด......

“......”

ตึด........

“........”

ตึด......

“.......”

“คุณซูลู  ผมขอแนะนำให้คุณลดค่าความกดอากาศภายใต้ท่องยานด้วย  เนื่องจากมันส่งเสียงเตือนคุณมาสิ 11 ครั้งก่อนหน้าเมื่อ 33.5 วินาทีที่แล้วแล้วครับ  และผมเชื่อว่านั่นอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ....”

เสียงราบเรียบดังขึ้นด้านหลังของเค้า  ทำให้ชายลูกครึ่งเอเชียต้องเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ยืดตัวตรงแล้วหันไปมองคนเรียกสติเค้าเพียงครึ่งหนึ่ง  ก่อนจะจรดนิ้วลงบนสถานีแล้วปรับค่าความกดอากาศให้ลดลง

“อ่อ ครับ  ขอโทษครับผู้การ” ซูลูพูดขณะลดค่าดังกล่าว

ตอนนี้เป็นช่วงพักห้านาทีของเชคอฟ  เค้าเลยต้องควบคุมสถานีทั้งสองด้วยตนเอง  แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น การแยกประสาทสัมผัสและคอยสังเกตการเตือนมาตรวัดต่างๆ ไม่ใช่ปัญหาของเค้าเลย  แต่สิ่งที่ทำให้ฮิคารุ  ซูลูกำลังคิดถึงอยู่ก็คือคนที่อยู่ข้างเค้าแต่หายไปตอนนี้........

เชคอฟ

“จากความคิดเห็นของผม  การเหม่อลอยในเวลางานนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นคุณซูลูกรุณามีสมาธิกับหน้าที่ของคุณด้วย” ชายคนเดิมที่รูปร่างหน้าตาคล้ายมนุษย์โลกแต่หูของเค้านั้นแหลมและมีหน้าม้าเต่อลอยอยู่เหนือคิ้วชี้ๆ นั่น พูดซ้ำขณะมือไพ่หลัง  เค้าดูทรงความรู้และจริงจังกับทุกเรื่อง

“ครับ  แน่นอนครับผู้การ” ซูลูตอบเสียงเรียบกลับไป  ในใจเค้าไม่ได้สนใจสิ่งที่สป็อคพูดออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

วัลแคนหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงรับเมื่อประโยคของซูลูจบลง  แล้วเดินกลับไปเข้าประจำที่ของตัวเองบ้าง

ซูลูวางแขนลงกับสถานีแล้วถอนหายใจออกมา  กลับเข้าสู่โหมดเหม่อลอยอีกครั้ง........เค้าไม่แน่ใจ ว่าจะบอกเชคอฟเรื่องนั้นดีหรือเปล่า  แต่ลึกๆ แล้วในใจซูลูอยากบอกให้เชคอฟรู้ แม้มันอาจทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตกใจไม่น้อยก็ตาม

หรืออาจเก็บไว้ก่อน  แล้วค่อยบอกทีหลัง........

หลังจากที่มันสายไปแล้วงั้นเหรอซูลู!.......กำปั้นแข็งๆ ทุบกับสถานีจนเกิดเสียงแต่นั่นก็เบามากพอที่จะทำให้เค้าได้ยินเพียงแค่คนเดียว

ภาพที่กัดกินความสุขในใจเค้าหวนปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง  ยิ่งทำให้แววตาของซูลูแข็งกร้าวขึ้น  เค้าขบกรามแน่น  และกำปั้นก็กดลงบนสถานีอย่างไม่กลัวพัง............ใบหน้าของเค้าดูไม่ชอบใจภาพในหัวเสียเท่าไหร่

และตอนนี้ซูลูอยากรู้ว่าเชคอฟอยู่ที่ไหน!

มันเลยเวลามาหลายนาทีแล้ว  ทำไมเชคอฟยังไม่มาอีก........ซูลูค่อนข้างแน่ใจว่าเชคอฟเป็นคนรักษาเวลา เพราะน้องชายต่างสายเลือดของเค้าเป็นแบบนี้เสมอ

ความร้อนรนบวกกับภาพที่รบกวนจิตใจของเค้า  ทำให้ซูลูเริ่มทนไม่ไหว........ภายในใจเค้าร้อนรุ่ม เพราะเค้าสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ให้อะไรเกิดขึ้นกับเชคอฟอีกเป็นอันขาด.................

...............ไม่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนที่ฉันอยู่ด้วย

เมื่อเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว ฮิคารุ   ซูลูจึงลุกขึ้นจากสถานีประจำการและหันไปบอกให้ลูกเรือลำดับถัดไปซึ่งอยู่ข้างๆ ดูแลรักษาการแทนให้ที

เธอดูงงเล็กน้อยเมื่อซูลูพูดเช่นนั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิดก่อนเดินเข้าเทอร์โบลิฟต์ไป  แล้วเธอก็ทำหน้าไม่สู่ดีนักเมื่อต้องรับผิดชอบเพิ่มเป็นสามสถานีในเวลาเดียวกัน


**************************************************************


ถ้าถามว่าซูลูรู้ไหม  ว่าเชคอฟอยู่ที่ไหน?

ใช่ รู้....รู้สิ  เค้ารู้อยู่แล้วว่าเชคอฟอยู่ไหน   ก็เชคอฟไปที่นั่นตลอดนั่นแหละน่า!

ร่างของหนุ่มเอเชียคงเดินฝุ่นตลบไปแล้วถ้าหาก Enterprise ปูทางด้วยลูกรัง  ซูลูเดินไม่สนใจสิ่งรอบข้างตรงไปยังทางที่ใครๆ บนยานก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี  แล้วบานประตูก็เลื่อนออกจากกันอย่างอัตโนมัติ เมื่อเค้าเดินเข้าไปในห้องที่เขียนว่า ห้องพยาบาล

เมื่อซูลูเดินเข้าไปก็ต้องชะงักเล็กน้อย แล้วมองไปรอบห้องด้วยความแปลกใจ  เมื่อห้องทั้งห้องมืดสลัว เค้าแทบมองไม่เห็นตัวเองด้วยซ้ำ  ทุกอย่างรอบตัวดูเลือนรางมาก

เมื่อครู่  ในระหว่างทางที่เดินมา  ซูลูสวนกับพวกของนางพยาบาลดูแล้วก็คงจะเป็นช่วงเวลาพักของพวกเธอทุกคน  ดังนั้นทั้งห้องนี้ก็น่าจะเหลืออยู่แค่เพียงหมอที่เก่งที่สุดของยาน ..........ใช่ ถ้าหากไม่นับร่วมเชคอฟด้วย แต่ตอนนี้ซูลูไม่เห็นน้องของเค้าเลย

และตอนนี้ชายเอเชียกำลังคิด ว่าแมคคอยกำลังจ้องจะเอาคืนเค้าที่เสียมารยาทในบ้านของเจ้าตัวอยู่รึเปล่า  เพราะที่นี่เงียบอย่างน่าสงสัย  และน่าสงสัยที่สุด

ไอ้เบื้อก!....นี่ใช่เวลาพักของนายหรือไง” เสียงคำรามเบาๆ ดังรอดออกมาจากข้างหลังของซูลู

และซูลูก็เจอเข้ากับเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนเก้าอี้  หันหน้าหงุดหงิดมาหาเค้า แต่ไม่ได้หันตัวมา

แมคคอยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ติดล้อประจำตัวใช้เท้าถีบขอบโต๊ะไสเก้าอี้ออกมาจากฉากกั้นโต๊ะทำงานของเค้า  แล้วก็เจอเข้ากับซูลูที่ยืนเหมือนหาป้ายบอกทางอยู่ทางขาวมือของเค้า  ในมือแมคคอยยังถือปากกา PADD อยู่ขณะพูดรอดไรฟันออกไป  ในใจเค้าไม่ต้องการปลุกให้เชคอฟตื่น

................หรือไม่ต้องให้ซูลูรู้ก็จะดีมากเลย  เพราะเจ้าซามูไรจอมทะเล่อทะล่านี่จะต้องปลุกคนไข้ของเค้าเป็นแน่แท้เลยทีเดียว...............

และแมคคอยก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นซูลูอยู่ที่นี่  ไม่มีใครต้องดูแลสถานีหรือยังไง?  เจ้าซามูไรไร้มารยาทนี่ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ทิ้งอะไรมาเฉยๆ ไม่ใช่หรือ

ไอ้หนูผีนั่นปล่อยมันออกมาได้ไงว่ะเนี่ย..........แมคคอยยังคงถือปากกาค้างกลางอากาศ  ในขณะรอประโยคแรกของซูลู

และซูลูก็พูดออกมาเสียงดังฟังชัดเจน  จนแมคคอยยกฝ่ามือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเสียงดังฉาด

“ผมมาหาเชคอฟ!


.


.


.


TBC.


------------------------------------------------------------------------------------------

ปาดโถ๊ ----- !!  ซูลูเจ้าขาาาา  หมอเค้าอุตส่าห์เงียบ  จาไปตะโกนเสียงดังทามมายล่ะค่าาาา –{}- 

มาเป็นเพื่อนกับไรท์และติดตามความเคลื่อนไหวของฟิคเรื่องต่างๆ ได้ที่นี่เลยค่ะ จิ้มเลยยยย


รออ่านตอนต่อไปกันด้วยนะค่าาา  รักรีดทุกท่านที่สุดเลยค่ะ ^3^

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray -  Aund


3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กรี๊ดดดดดดดดดดหนุกมากกกกกค่ะไรท์//รักคู่เน๊
รอPart 6อยู่น้าาาาาคร้าบบบบบบบ

Ray - Aund กล่าวว่า...

อร๊ายยยยยยย รีดขาาาาา //ร้องโหยหวน ปานพี่น้องที่หากันจนเจอ// ไรท์ขอโทษจริงๆ เลยนะคะที่ไม่ได้ลงของหมอกับน้องนานขนาดนี้ มันเป็นเพราะตัวไรท์เองค่ะ ชอบโลเล หลงเข้าไปในป่าพิศวง ไปเจอคู่นู่นคู่นี้ ตื่นตาตื่นใจจนแต่งไปหลายคู่เลยค่ะ แฮ่ๆๆ
แต่หมอกับน้องไรท์ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ เข้าไปแต่งอยู่เรื่อยๆ ค่ะ แต่ยังไม่ได้อัพเพิ่มเลยค่ะ ง่อวววว ขอโทษจริงๆ นะคะ ถ้าพร้อมแล้วจะลง Part 6 และ Part ต่อๆ ไปให้นะคะ ปัจจุบันเรื่องปัจจุบันก็ยังไม่มีเวลาลงเลย แต่พ้นช่วงยุ่งไปแล้วก็คาดว่าน่าจะว่างค่ะ ง่าาา ต้อง So Sorry จริงๆ นะคะที่ล่าช้าาา M_ _M
ปล. ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รักรีดเลยค่ะ 5555

Unknown กล่าวว่า...

ฟิคสนุกค่ะ รอลุ้นมาก เอาตรงๆเราจิ้นซูลูเชคอฟนะ สองคนนี้สนิทกันดี แต่พอหมอมาคั่นแล้วมันกร๊าวอ่ะค่ะ ฮาาาา รออ่านตอนต่ไปนะคะ ติดอมแงมเลย ขอมาเม้นตอนนี้ตอนเดียวนะคะ