วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[Fic – The Hunger Game] + [Part 5] The Possible – Finnick x Peeta




//มีความหล่อค่ะ อร๊ายยยยย >{}< //

อร๊ายยยย  กราบบบ (ร.รัวๆ แบบ พี่ต้า Fedfe) สวัสดีรีดๆ ทุกท่านค่ะ  สัปดาห์นี้มารัวๆ เลยค่ะ  ถือว่าชดเชยที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไรท์ไม่ได้ลงด้วย

ฟินนิคกลับมาแล้วค่ะ และหัวใจเค้ากำลังถวิลหาพีต้าอย่างสุดหัวใจ  รีดๆ มาเอาใจช่วยเค้าไปด้วยกันนะคะ >//<  วันนี้มาแปลก มาสั้นๆ -*-

Part นี้จะตัดไปตัดมาบ่อยหน่อยนะคะ  เป็น Part ของฟินนิคกับพีต้าสลับกันค่ะ  ให้ได้เห็นของทั้งสองคนเนอะ  ว่าฟินนิคที่แคปปิตอลและพีต้าที่เขต 12  พวกเค้ากำลังทำอะไรกันอยู่



---------------------------------------------------------------------------



ฟินนิคฟื้นขึ้นมา  ในใจก็อยากจะไปหาพีต้าแล้ว  ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งปลอดภัยดีหรือไม่  แต่เค้าก็ยังคงกลับไปไม่ได้  ฟื้นแล้วแต่ยังคงไม่แข็งแรงพอ  และยารักษาของเพื่อนไทกรีสก็รักษาแผลเป็นให้เค้าได้อย่างเหลือเชื่อราวกับได้เกิดใหม่

มันเกือบจะเหมือนช่วงเวลาดีที่สุดในชีวิตเค้า  ใช่ เกือบดีที่สุด......เค้ารู้  ถึงแม้จะฟังดูเหมือนคนไม่รู้จักบุญคุณแต่ฟินนิคจะรู้สึกดีมากกว่านี้ถ้าได้เห็นพีต้า  นานแล้วที่ความโหยหาเพราะคิดถึงไม่ได้ถูกเติมเต็ม  ร่างสูงอยากเหลือเกินที่จะได้พบหน้าเด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าอ่อนโยนของเค้า  หลังจากฟื้นได้สามวันบีสตันก็อนุญาตให้ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงได้  มันยากกว่าที่เค้าคิดไว้ การก้าวเดินด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร้าไม่ใช่สิ่งที่รออยู่ดั่งที่หวัง

วันแรกเค้าออกห่างจากเตียงได้แค่ก้าวเดียว ก่อนจะโดนบีสตันหัวเราะเยาะใส่  ฟินนิคมองหมอของเค้าด้วยความว่างเปล่า  เธอคงรู้อยู่แล้วว่าเค้าจะยังไม่แข็งแรงนักเลยยอมปล่อยให้ร่างสูงได้ฝืนเพื่อให้เธอได้ความสำราญ

วันที่สองฟินนิคเดินได้สามก้าว  เสียงหัวเราะของหญิงแก่บันทึกความเคลื่อนไหวนั้นได้อย่างดีเยี่ยม  มันยังชัดอยู่ในหูของร่างสูงอยู่เลย วันที่สามเค้าจึงไม่ได้ลุกออกจากเตียงของตัวเองอีก

แต่วันที่ห้า ชายหนุ่มร่างสูงหน้าอกเปลือยเปล่ากลับเดินออกจากร้านของไทกรีสไปสูดอากาศยังลานโล่งกว้างข้างนอกในช่วงเวลาปลอดคนได้ด้วยความสุดรู้ของบีสตัน  หญิงแก่ที่กำลังยกยาตามเวลามาให้ฟินนิคก็ต้องงุนงงไปเมื่อพบเข้ากับความว่างเปล่าภายในห้องของเค้า

“ฉันนึกว่าเธอจะฆ่าตัวตายไปแล้วเสียอีก” บีสตันเหน็บแนม ในมือก็ถือแก้วยามาด้วย  แต่ฟินนิคยิ้มแล้วหันมาหาหญิงที่แก่ราวๆ กับแม่นมของเค้าที่ตายไปแล้วในฮังเกอร์เกมส์ครั้งคอว์เตอร์เควลย์ แล้วพูดว่า

“ผมขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ไหม?” เค้าดูสดชื่นและรู้สึกดีที่ได้ก้าวเดินอย่างแข็งแรง  เป็นครั้งแรกที่หมอเจ้าของไข้เห็นสีหน้าแบบนั้นจากคนไข้ของเธอ

“เธอแน่ใจว่าเธออยากจะปีนบันไดลิงขึ้นไปดูดาวตอนนี้น่ะหรือ?” บีสตันเดินเข้ามาเทียบข้างแล้วยื่นแก้วยาที่ฟินนิคทำใจคุ้นชินกับมันได้แล้วให้

เค้ารับมาแล้วบอกว่า “ยังก่อน  ตอนนี้อาจจะยังก่อน” แล้วเริ่มดื่มมันอย่างนุ่มนวลที่สุดเพื่อไม่ให้อ้วกออกมา

“ฮึ  ก็แหงล่ะ” หญิงผมหงอกแต่แต่งตัวจัดจ้านข้างๆ ว่า “แต่ฉันต้องยอมรับว่าตกใจมากที่เธอเดินออกมาได้ไกลขนาดนี้  แข็งแรงดีแล้วอย่างงั้นหรือ?” เธอรู้อาจฟังดูโง่ที่คนเป็นหมออย่างเธอจะถาม 

ฟินนิคยักไหล่ ดื่มยาหมดแล้ว “ก็...ผมเดินออกมาจากเตียงได้แล้วนี่”

แต่บีสตันไม่อยากให้เค้าฝืนนัก “อะไรทำให้เธอต้องรีบร้อนถึงขนาดนี้นักหือ?” เธอเอ่ย รู้ว่าต้องมีเหตุผลเสมอสำหรับการพาร่างกายที่กำลังมีโครงสร้างอ่อนๆ ของกล้ามเนื้อออกมาสูดอากาศไกลขนาดนี้  ฟินนิคดูร่างเล็กลงกว่าเดิมไปถนัดตา  ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็ดูเหมือนไม่ใช่เค้าเนื่องจากเป็นเพราะการระเบิดที่กัดกินร่างกายบางส่วนของเค้าไป  แต่ก็นั่นแหละที่เหลือเชื่อ  บีสตันช่วยเค้าไว้ได้  ทำให้เค้าดูเหมือนคนทั่วไปอีกครั้ง  ไร้แผลเป็น  ไร้แผลไฟไหม้  ไร้ร่องรอยใดๆ ที่เกิดจากการเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่ง

ต้องขอบคุณการปลูกถ่ายเซลล์อันชาญฉลาดและการศัลยกรรมอันแสนวิเศษของเธอในเรื่องนี้

ฟินนิคที่กอดอกยิ้มกับเส้นขอบฟ้าสีน้ำเงินหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า “ผมมีคนที่ต้องไปหา เค้าคิดว่าผมตายแล้ว  และผมต้องไปบอกเค้าในเรื่องนี้” ร่างสูงรู้สึกถึงรูขุมขนที่เรียงตัวอยู่ตามแขนของตัวเอง

“คราวหลังหัดแต่งตัวก่อนออกจากห้องเสียบ้างนะ” หญิงแก่เค้นเสียงดังฮึก่อนจะเดินออกไป



*****************************************************************************



หลายวันผ่านไป  จากวันเป็นสัปดาห์  จากสัปดาห์เป็นเดือน  ฟินนิคแข็งแรงขึ้น  เค้าวิ่ง  วิดพื้น  ออกกำลัง  ฝึกร่างกาย  ฝึกการต่อสู้และทุกอย่างที่เค้ารู้จัก  ร่างสูงไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเค้าอยู่ที่นั่นและโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทกรีสให้ยืมใช้ดาดฟ้าของเธอได้ตามใจชอบ  หนุ่มชาวประมงจากเขต 4 จึงมีความเป็นส่วนตัวอย่างถึงที่สุดเท่าที่เค้าต้องการ

ทุกๆ วันฟินนิคจะใส่เสื้อมีฮู้ดคลุมศีรษะออกไปและกลับเข้ามาเหงื่อชุ่มตัวในค่ำของทุกวัน  เค้าอาศัยอยู่ในห้องนอนสำหรับแขกที่ดีที่สุดของไทกรีส  ดีที่สุดเท่าที่เธอจะจัดให้เค้าได้  ชายหนุ่มรับทั้งหมดไว้ด้วยน้ำใจถึงแม้เค้าจะไม่ต้องการความหรูหรามากนักก็ตาม แต่ถึงกระนั้นบีสตันก็ยังคอยบ่นถึงความเรียบง่ายเกินไปของเค้าอยู่ดี

ไม่  อันที่จริงบีสตันต่างหากที่หัวสูงมากเกินไป......ฟินนิคคิดในตอนที่ถูกเหน็บเรื่องอาหาร

“เธอดูแข็งแรงดีแล้วนะ” หมอประจำไข้ของร่างสูงปีนดาดฟ้าตามขึ้นมาหลังเค้าอยู่บนนี้ได้สามสิบนาที  ในตอนที่หญิงแก่แบกสังขารขึ้นมาได้เค้าก็เหงื่อชุ่มตัวไปแล้ว  ร่างสูงหยุดมือที่กำลังจับไม้ยาวสิบห้าฟุตแล้วหันมาหาเธอ

“ครับ ผมก็คิดว่าอย่างนั้น” พร้อมพินิจดูร่างกายของตัวเอง  ฟินนิคตัวสูง  ผมบล์อน  ผิวสีแทนเหมือนเดิมแต่ทว่าตอนนี้กลับดูล่ำกว่าเดิมมากเกินกว่าที่ใครๆ ในเขต 13 จะจำได้  ฟินนิคไม่ชอบความไร้วินัย เค้าอยากที่จะเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาถึงแม้จะไม่มีพิซคีปเปอร์หรือความป่าเถื่อนแล้วก็ตาม  แต่การกวดขันตัวเองให้ออกกำลังมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ทำให้เค้ารู้สึกดี

“อ่า” บีสตันเดินเข้ามาใกล้เค้าแล้วตบบ่าเบาๆ “ฉันแค่จะมาบอกว่าเธอคงจะไม่ต้องพึ่งฝีมือของฉันแล้วล่ะ” ก่อนจะยิ้มอย่างหญิงชราแล้วกลับออกไปทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอยู่คนเดียวเช่นที่เค้าทำแบบนั้นในทุกๆ เย็น

ที่จริงบีสตันไม่จำเป็นต้องถ่อมาถึงนี่เพื่อบอกเรื่องนี้เลย แต่เธอพียงแค่อยากลองและคิดว่าหลังจากนี้จะไม่ปีนตามคนไข้ขึ้นมาที่นี่อีกแล้ว......เรื่องยากๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนหนุ่มสาวจะดีกว่า  เธอคงไม่เหมาะกับการออกกำลังขาและแขนซะแล้ว

ชายหนุ่มหันกลับไปมองหญิงแก่ผู้มีพระคุณจนเธอปีนลงบันไดลับสายตาไปที่ขอบของดาดฟ้า  เค้าเหยียดไม้ในมือขึ้นตั้งฉากกับพื้นแล้วหันกลับไปมองทิศตะวันตก  แสงสีส้มอ่อนสาดต้องใบหน้าคมเข้มของบุตรแห่งท้องทะเล  นึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าเด็กหนุ่มที่เค้าคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจะกำลังมองมันอยู่อย่างเช่นเค้ารึเปล่าหนอ  ก่อนร่างสูงจะสูดหายใจเข้าช้าๆ อย่างเต็มปอด

“พีต้า” ฟินนิคกระซิบ เค้าหันไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าเพียงตัวคนเดียว  ดวงอาทิตย์ย้อมให้เส้นขอบฟ้าและตึกระฟ้าเป็นสีส้มระอุตา แต่กลับทำให้เค้ากลายเป็นเพียงเงาร่างดำมืดอันแสนโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่กำลังเชยชมความงามของมันอยู่

“นายอยู่ไหนนะพีต้า?” ร่างสูงเอ่ยรำพันกับดวงตะวันราวกับว่ามันจะบอกเค้าได้  กี่เดือนกันแล้วนะที่เค้าอยู่ที่นี่  กี่เดือนกันแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้าพีต้า  ชายหนุ่มนึกถามตัวเองว่าทนคิดถึงเด็กหนุ่มคนนั้นได้อย่างไรกัน?  แต่พอวนกลับมาถามตัวเองเช่นนั้นแล้วความรู้สึกแทบขาดใจก็เข้ามาถาโถมใส่อกของเค้าจนรู้สึกเจ็บ  ฟินนิคยังคงจำสัมผัสเมื่อจูบพีต้าในวันนั้นได้

มันไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก เพราะตอนนั้นเค้ากำลังตื่นเต้น  แต่ถ้าหากได้จูบกับพีต้าอีกครั้งหนึ่งฟินนิคมั่นใจว่ามันจะต้องดีกว่านั้นแน่นอน

หวังว่านายจะปลอดภัย......ร่างสูงเตะปลายไม้ขึ้นฟ้าแล้วเริ่มฝึกต่อ



****************************************************************************************



หลังจากถูกแคทนิสตัดใจไม่ช่วยและระเบิดเค้าท่ามกลางฝูงอสุรกายพวกนั้น  ฟินนิค   โอแดร์ ถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นคนที่ตายแล้ว 

ทุกคนคิดว่าชายหนุ่มจากเขต 4 ตายแล้ว แม้แต่พีต้า เค้าอ้างว้างและเศร้าใจ

เมื่อพีต้าถูกพบหลังจากวันที่สโนว์ถูกจับได้  ไม่นานชายแก่ที่เป็นเพียงแค่อดีตประธานธิบดีก็ถูกพิพากษา  สโนว์ถูกฝูงชนฆ่าตายหลัง อัลม่า   คอยน์ ถูกแคทนิสฆ่าไม่กี่นาที  เพราะม็อคกิ้งเจย์คิดได้ว่าเธอควรดับวงจรทรราชนี้ให้จบสิ้นเสียที....แต่เชื่อเถอะ เธอเองก็ไม่ชอบคอยน์อยู่เป็นทุนเดิมแล้วเหมือนกัน

แคทนิสจึงถูกส่งตัวกลับไปบ้านที่เขต 12  และใช้ชีวิตสุดท้ายที่เธอต้องการอยากจะได้อยู่ที่นั่น  ถึงแม้อาจดูใจร้ายไปหน่อยที่ให้เธอกลับไปบ้านที่แม่และน้องสาวเคยอาศัยอยู่ด้วย  จนมีอยู่หลายครั้งที่แคทนิสเกือบเป็นบ้าเพราะคิดถึงพวกเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็รู้สึกสงบใจและปลอดภัยเป็นเมื่อได้กลับบ้านหลังจากหายเสียสติแล้ว

และในตอนที่ฟินนิคพักรักษาตัว  พีต้าก็กลับไปเขต 12 ไปหาเเคทนิส  เด็กหนุ่มคิดว่าการกลับบ้านเป็นผลดีต่อเค้าที่สุดแล้ว            พีต้าแค่อยากให้แคทนิสเลิกรู้สึกผิดที่ทิ้งเค้าไว้คนเดียวจนถูกจับตัวไปในตอนที่เขตอพยพโดนถล่มเสียที  เค้าเก็บดอกไม้มาให้เธอในวันแรก  และปลูกต้นไม้ที่ทางเดินเต็มไปหมดในวันต่อๆ มา  พีต้าเป็นคนอ่อนโยนดั่งเดิม อย่างที่เป็นมาตลอดและไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย  ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เค้าจะคิดถึงฟินนิคเสมอ  เพราะฟินนิคคือคนที่ย้ำเตือนว่าเค้าควรเป็นตัวของตัวเองและทำในสิ่งที่ตัวเองรัก  พีต้าทำเพื่อฟินนิค  หากฟินนิคไม่เอ่ยปากว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี  พีต้าก็คงจะไม่มีกะใจที่จะทำมัน  การประกอบกิจวัตรทำให้พีต้าคิดถึงฟินนิคมากขึ้นทุกวัน  จนกระทั่งหลายเดือนต่อมา.....

“นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปกับฉัน?” แคทนิสถาม ในขณะที่เธอคล้องสายธนูใส่หลัง

พีต้ายิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหน้า “ไม่ล่ะ  เธอออกไปล่า” เด็กหนุ่มบอก  รอยยิ้มที่ดูจนใจนั้นพูดกับแคทนิสว่าเค้าไม่สามารถตามไปเพื่อดูเธอทำแบบนั้นได้  และนั่นทำให้แคทนิสเกือบคิดว่าพีต้าเป็นมังสวิรัสไปแล้ว  ทุกครั้งที่ออกไปล่าเธอจะเป็นคนจัดการกับเนื้อเองทุกครั้งก่อนพีต้าจะทำอาหาร เค้าบอกเธอว่าเค้าทำไม่ได้เพราะมันทำให้นึกถึงแคปปิตอลเก่า

“งั้นก็ตามใจ” เธอก้มลงมัดเชือกรองเท้า  ยืดตัวขึ้นมาแล้วมองเค้าอีกก่อนเดินออกไป

“นายไม่ควรไปที่นั่นคนเดียว” เธอว่า  แต่พีต้าหันมาแล้วยิ้มอีก

“ไม่เอาน่า มันก็แค่ที่โล่ง...ห่างจากที่นี้ไปแค่ห้านาทีเอง” อันที่จริงแคทนิสเรียกมันว่า ที่โล่งของพีต้า เพราะเค้าปลูกดอกไม้ที่นั่น  มันเป็นแปลงผักและดอกไม้เล็กๆ ของเค้า

 “งั้นฉันจะไปหานายหลังเสร็จแล้วกัน” หญิงสาวก็พูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไป  โดยที่ไม่รู้เลยว่าพีต้าไม่ชอบให้เธอหอบสัตว์คอพับคออ่อนเพราะตายแล้วพวกนั้นมาที่แปลงของเค้ามากแค่ไหน  มันทำให้เด็กหนุ่มยิ้มแหย่ๆ และกลืนน้ำลายเมื่อเห็นเลือดหยดลงบนพื้นหญ้า

แต่จะอย่างไรก็ตาม  นอกจากนั้นหนุ่มเบเกอร์รี่ก็ค่อนข้างขุ่นเคืองใจนิดหน่อยที่แคทนิสไม่ยอมห่างเค้าเลย  เธอไม่ไว้ว่างใจ สีหน้าเธอบอกว่าอย่างนั้น  อาจไม่ได้มีแค่เราอยู่ที่นี่แคทนิสเคยพูดขึ้นมาลอยๆ ในตอนที่พีต้าบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเค้าแล้ว  เด็กหนุ่มไม่แน่ใจว่าเธอรู้รึเปล่าว่าเฮย์มิชก็อยู่ที่นี่ด้วยถัดออกไปที่ฝั่งตรงข้าม  ซึ่งชายขี้เมาคนนั้นก็เอาแต่เก็บตัวเงียบในช่วงนี้เพราะเมาเหล้า



******************************************************************************



ผมบอกลาบีสตันและไทกรีสในวันรุ่งขึ้นหลังบีสตันบอกว่าผมหายดีแล้วเมื่อสองวันก่อน  ผมไม่อยากจากไปเร็วนัก มันดูเห็นแก่ตัวที่รีบร้อนจากไปเมื่อผมแข็งแรงดีแล้ว  ผมขอบคุณไทกรีสจากใจและบอกบีสตันว่าผมคงตอบแทนเธอได้ไม่หมด  หมอของผมบอกว่าเธอไม่สนใจแต่ไทกรีสกลับร้องไห้  พร้อมกับทำให้หัวใจผมหยุดเต้นไปชั่วขณะด้วยการบอกว่า

“พีต้าคงจะได้หายเศร้าเสียที  เธอต้องรีบไปหาเค้านะ ฉันอยากให้เค้าเจอเธอ” ไทกรีสค้ำไหล่ที่ต่ำกว่าของบีสตันพลางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหางตา

ผมยิ้มให้เธอ “แน่นอน ผมจะไปหาเค้าแน่นอน” แล้วกระชับสายกระเป๋าสะพายหลังให้เข้าที่ถึงแม้มันจะไม่หนักก็ตาม “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างไทกรีส  บีสตัน  ขอบคุณ

ไทกรีสโถมเข้ามากอดผม เธอปล่อยสะอื้นออกมาในที่สุด  ผมตบไหล่ปลอบเธอก่อนกระซิบ “ขอบคุณมาก ผมจะไม่ลืมคุณเลย” เธอร้องไห้ออกมาอีกและค่อนข้างนานกว่าเธอจะปล่อยผมเองในที่สุด  ก่อนผมจะเข้าไปกอดบีสตันที่ทำเป็นกอดอกหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สนใจบ้าง  เธอดูเป็นหญิงแก่ที่ใจแข็งแต่ไม่มีคนใจแข็งคนไหนที่ทำเป็นใจแข็งใส่คนที่กำลังบอกลาหรอก

ผมจึงกอดเธอแน่นและบอกแบบเดียวกันกับไทกรีส “อ้อ แล้วก็อย่าปาร์ตี้ให้มากเกินไปล่ะ  คุณควรดูแลตัวเองบ้างผมเป็นห่วงนะ” และไม่ลืมบอกเสริมไปอีกเพราะไทกรีสเคยบอกอยู่บ่อยครั้งว่าบีสตันไม่แก่ตามอายุของตัวเองเลยแม้แต่น้อย  และแทบจะทันทีผมก็โดนชกต้นแขนกลับมา  คิดเอาไว้ว่าจะต้องโดนเธอด่าอีกชุดแถมกลับมาด้วยเป็นแน่แต่กลับรู้สึกเพียงแค่ลมหายใจที่แรงและติดขัดขึ้น 

แม้แต่บีสตันก็ยังร้องไห้เงียบๆ อย่างไม่ยอมรับในความอ่อนไหวของตัวเองเมื่อผมจากไป  ผมดีใจที่หมอของผมร้องไห้ให้ตัวเอง

“ผมจะคิดถึงพวกคุณ”

ผมขอบคุณพวกเธอจากใจและความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี  และถึงกระนั้นไทกรีสก็ยังคงยืนยันว่าไม่มีอะไรที่ผมต้องตอบแทน

“เพราะเธอทำเพื่อพวกเราทุกคนแล้วฟินนิคที่รัก ไม่มีอะไรที่เธอต้องกังวลอีกต่อไป  อันที่จริงพาเน็มควรรู้มากกว่าที่พวกเค้ารู้ในตอนนี้ เกี่ยวกับการเสียสละของเธอที่ถึงแม้ฉันเองก็ยังรู้สึกว่ามันน่าทึ่ง” ซึ่งเรื่องเหล่านั้นเธอก็ฟังมาจากพีต้าอีกทีหนึ่งในตอนที่เครสสิด้าพาหน่วย 415 เข้ามาหลบภัย  ไทกรีสเป็นคนบอกผมเอง

ผมบอกลาพวกเธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วขึ้นรถไฟเที่ยวที่เร็วที่สุดเพื่อเดินทางไปยังเขตแห่งถ่านหินและไฟ



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------



ไปเลยฟินนิคไปเลยยยยยยยยย  ส่งพลังไปให้เต็มร้อยค่ะ  พีต้ากำลังเศร้าหนักนะคะ  และแคทนิสก็จิตตกหนักเลยค่ะ  นางบ้าไปแล้ว  อะไรจะมาคอยระแวงว่าพีต้าจะไม่ปลอดภัย  เธอน่าจะตายในสงครามนะยะ  ขี้ระแวงงี้.....จูๆ ไม่เอาดิ  อย่ากัดชะนีในที่สาธารณะ 555  ปล.ไรท์จะเป็นคนยิงเธอแล้วระเบิดซ้ำเองค่ะ 5555

ฟินนิคแมนของเราใกล้เข้าไปแล้วค่ะ  เอาใจช่วยเค้าด้วยนะคะ และ Part มีเรื่องที่ดีต่อใจรีดๆ แฟนคลับของทั้งสองคนนี้ด้วยค่ะ ><  รอติดตามนะค้า  ขอบพระคุณทุกท่านอย่างยิ่งจริงๆ ค่ะ

ดิส อิส อะ มาย เฟส แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด




สองคนนี้อย่ามาจีบกันตรงนี้นะ เดี๋ยวยิ้ม  เดี๋ยวชูนิ้วโป่ง  //โดนแทง// 55555



ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



ไม่มีความคิดเห็น: