กลับมาแล้วค่าาาาา
หลังจากความทรงจำในวัยเด็กที่แสนหวานในตอนที่แล้ว ในตอนนี้จะเป็นที่ทั้งคู่โตแล้ว
ทำงานกันแล้วนะค๊ะ^^ ตอนนี้เขียนไปไม่ยอมหยุดเลยค่ะ
ฟินจัด
....อิตรงที่เจซมันเป็นห่วงอเล็คนี่แหละค่ะ....................น่าสงสารอเล็คอ่าาาาาา
TT0TT ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
.....ให้พร่ำเพ้อนานเดี๋ยวเค้าจะเผยซะหมดเปลือก 55555555......
ป.ล.
รักรีดเอดร์ทุกคนนะคะ ^^
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------
----------------------
ปัจจุบัน............(ทำงานแล้ว)
+ (ไวเหมือนโกหก......นี่เค้าไม่เรียนไฮสคลูกันแล้วใช่ไหม!?)
‘นายแบบหนุ่มสุดหล่อ แม็กนัส เบน มีรักที่หวานชื่นจนใครๆ
ก็ต้องอิจฉา กับนางเองสาวชื่อดัง เอลซ่า.......ล่าสุดทั้งคู่ได้จูงมือกันไปเที่ยวปารีสอย่างลับๆ กับสองต่อสอง
แต่มีหรือข่าวในวงในของเราจะหาภาพสุดสวีต มาให้พวกเราๆ
ได้อิจฉาตาร้อนกันเล่นๆ ไม่ได้’ เสียงผู้ประกาศข่าวกลอสซิปสาวดังบาดแก้วหูคนทั้งร้าน
ซึ่งสามารถเรียกความสนใจขงคนเหล่านั้นได้ไม่น้อยเลย อเล็คหันไปสนใจอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ภาพแม็กนัสบนทีวีก็ทำให้เค้าไม่สามารถละสายตาออกมาจากจอภาพนั้นได้เลย
“อเล็ค.......อเล็ค! ยกไปเสิร์ฟ!” เสียงจากทางเคาเตอร์ดังขึ้น
ทำให้อเล็ครู้สึกเหมือนถูกแตะออกมาจากภวังค์ของตัวเอง
“อ๊ะ! คร้าบๆ” ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบกุลีกุจอยกของไปเสิร์ฟตามออเดอร์
ในขณะที่ทำหน้าที่ก็มีร้อยยิ้มบางๆ
คอยส่งให้กับลูกค้าตลอด รวมทั้งการบริการอย่างใส่ใจ
ทำให้อเล็คกลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรได้ไม่ยากนัก...........อเล็คทำงานด้วยความขยันขันแข็งไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งนาฬิกาชี้บอกเวลา 9.45 น.
“เจซ......ฉันฝากที่เหลือด้วยนะ”
คนตัวขาวเดินมาที่เคาเตอร์ ถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้ววางไว้
“อะไรกัน......อยู่ช่วยสักหน่อยไม่ได้หรือ
ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามากันเยอะแล้วนะ” เจซที่จัดอาหารตามออเดอร์อยู่ชะโงกหน้าออกมา
“นี่มันเวลาพักของฉัน
และอีกอย่างลูกค้าก็เยอะทุกวันแหละน่า” อเล็คแหวใส่
เจซทำหน้าเซ็ง “ได้ๆ.....ถ้าคุณบีพอทท์ถามหา
ฉันจะบอกว่านายไปย่านดาว์ทาวน์....อีกแล้ว ล่ะกันนะ”
“ยุ่งน่า”
อเล็คปาผ้ากันเปื้อนเมื่อครู่ใส่หน้าเจซ เค้ายิ้มและเดินไปหลังร้าน
เพื่อไปชงกาแฟสูตรพิเศษที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลอง เว้นก็แต่..............
ใช้เวลาไม่นานนัก
อเล็คก็เดินออกมาหน้าร้านแล้วโบกแท็กซี่ไปย่านดาว์ทาวน์ตามคาด อเล็คชงกาแฟร้อนพอสมควร เพราะเมื่อมันไปถึงมือคนดื่มก็คงจะอุ่นพอดี
พร้อมกับคุกกี้สูตรเด็ดของร้าน คนตัวเล็กนั่งอยู่เงียบๆ
อย่างสงบเสงี่ยม.........ใบหน้าดูมีความสุขและอิ่มเอม สายตาก็สอดส่องออกไปนอกกระจก
...........ย่านนี่โอ่อาฬชะมัดเลย
ต้องเป็นคนดังหรือคนมีตังค์เท่านั้นที่จะอยู่ได้........อย่างเค้าก็คงต้องรอเก็บตังค์สักสามชาติล่ะมั่ง
กว่าจะได้มานอนที่นี่...............
เมื่อมาถึงที่หมาย
อเล็คก็ลงรถอย่างรวดเร็ว เข้าไปยังตึกของคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง
กรอกข้อมูลการมาที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แล้วรีบดิ่งขึ้นลิฟต์ไปให้ทันเวลาเหมือนเดิม..............
ติ่ง........!
ลิฟต์เปิดที่ชั้นสิบสอง
อเล็คเดินต่อไปไม่กี่ห้อง ก็ถึงห้องที่เค้าต้องการจะมา
............10.00 น.
...........
หน้าประตูเขียนว่า ‘แม็กนัส เบน’
อเล็ดสูดหายใจเล็กน้อย
ก่อนจะกดกริ่งที่ประตูนั้นสองสามครั้ง ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก
พร้อมกับชายหนุ่มผมดำยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง สวมเพียงกางเกงยีนส์เนื้อผ้าดี
ปกปิดช่วงล่าง หน้าตาหมอนี่ดูงัวเงี่ยเหมือนเพิ่งตื่นมาหมาดๆ
“มีอะไร”
เจ้าของห้องใช้แขนท้าวขอบประตูไว้
อเล็คยักไหล่ “อรุณสวัสดิ์........ฉันเอากาแฟมาให้.....เอ่อ
ฉันหมายถึงฉันเอากาแฟของทางร้านมาให้น่ะ” อเล็คยื่นแก้วกาแฟและกล่องใส่คุกกี้ให้แม็กนัส
ร่างสูงรับมันไว้พยักหน้ารับน้อยแล้วพูดว่า “อืม ขอบใจนะ”
แล้วหันหลังกลับ อเล็คแอบยิ้มอยู่คนเดียวโดยไม่ให้ร่างสูงมีโอกาสรู้
แทบทุกเช้าอเล็คจะเดินไปหลังร้าน
ไปชงกาแฟสูตรพิเศษที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลอง เว้นก็แต่........แม็กนัส เบน.........ใช่ กาแฟถ้วยนี้
อเล็คชงให้แม็กนัสเพียงคนเดียวเท่านั้น และดูท่าเจ้าตัวจะชอบมันมากๆ ด้วย
แต่อเล็คก็อ้างไปว่าแฟนคลับที่ร้านฝากมาให้ทุกทีไป
แม็กนัสนำกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะที่ใกล้ที่สุด
แล้วเดินกลับมาหาคนที่ยืนมองเท้าตัวเองอยู่ที่หน้าประตู “นายจะไม่เข้ามาในห้องหน่อยหรือ”
อเล็คสะดุ้งราวกับมีคนมาผลักเค้าเข้าที่ข้างหลัง
“อะ
เอ่อ ไม่หรอก มันจวนจะหมดเวลาพักของฉันแล้วล่ะ”
แม็กนัสถอนหายใจเบาๆ “เฮ้อ.....นายน่ะจบการบริหาร
เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาเพื่อเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านลาเฟ่เล็กๆ เนี่ยนะ
เชื่อเค้าเลย”
“ช่างฉันเถอะน่า........ฉันกำลังซึมซับประสบการณ์
เดี๋ยวอีกหน่อยฉันจะต้องมีร้านเป็นของตัวเองแน่” อเล็คหันมาทำคิ้วชี้ใส่อีกคนที่ยืนท้าวประตูอยู่จุดเดิม
“ฮ่าๆๆ
งั้นเหรอ.....ฉันจะค่อยดูล่ะกันนะ” คนตัวสูงยืนหัวเราะเสียงสดใส........เป็นเสียงหัวเราะที่อเล็คหลงรัก
ไม่ต่างไปจากตอนเด็กๆ เลยสักนิด..........
แต่น่าเสียดายที่เวลาของเค้าในวันนี้หมดลงแล้ว
“ฉันจะกลับแล้วเจ้าบ้าแม็กนัส”
อเล็คหมุนตัวแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าอยู่นานกว่านี้เค้าจะต้องแย่แน่ๆ
คงอาจจะเผลอทำตัวเหมือนตอนอยู่มัธยม.....ทำตัวเหมือนกับว่าชอบ หมอนั่นออกไปให้เห็นอีกแหงๆ
แต่เดินห่างออกมาได้ไม่กี่ก้าว
เสียงโทรศัพท์ของแม็กนัสก็ดังขึ้น อเล็คได้ยินแม็กนัสรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล.........เอลซ่า
ว่าไงครับ แน่นอนครับ ผมว่างอยู่แล้ว คืนนี้หรือ.....ครับ
ไปสิครับ.....วันนี้คุณก็ทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้ผมอีกแล้วนะ
ผมอยากรู้จังว่าคุณแอบเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร เฮ้!....ทำเสียงแบบนั้นหมายความว่าไง.....ใช่ก็คุณนั้นแหละ หึๆ ไม่เอาน่าคืนนี้ผมไปอยู่แล้ว ครับ แล้วเจอกันครับนางฟ้าของผม” น้ำเสียงของแม็กนัสดูร่าเริงตลอดการสนทนา แล้วเสียงปิดประตูก็ดังขึ้น
อเล็คยอมรับว่าเค้าอิจฉาผู้หญิงที่ชื่อเอลซ่าเล็กๆ
เธอเป็นผู้หญิงที่แม็กนัสสนใจ เอาใจใส่ ดูแล และเค้าก็รักเธอเสมอ
เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกในความคิดของอเล็คเลย
..........ทำอาหารเช้าไว้รอแล้วอย่างนั้นหรือ
เธอทำอาหารเป็นรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย........
อเล็คเดินมาหน้าลิฟต์แล้วกดปุ่ม
แปะ.....แปะ.....
บางอย่างหยดลงบนหลังมือของเค้า
อเล็คใช้นิ้วแตะใบหน้าตัวเอง
.........ร้องไห้อีกแล้ว
ทำไมต้องร้องไห้อีกแล้วล่ะ........
นายจะเป็นเด็กขี้แยไปถึงเมื่อไรกัน จากนี้นายจะต้องร้องไห้คนเดียว
ไม่มีแม็กนัสมาคอยปลอบให้นายหยุดร้องเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะ
เข้าใจหน่อยสิ..........
ลิฟต์เปิดออกแล้ว อเล็คเดินเข้าไป เค้าไม่สามารถห้ามน้ำตาของตัวเองได้เลยจริงๆ
.......แต่อเล็คก็ยังเนียนได้อีก พอออกมาจากลิฟต์เค้าก็เก็บอาการไว้เรียบร้อย
น้ำตาไม่มีเล็ด..........เหตุการณ์ดูสงบเรียบร้อย
จนถึงตอนที่อเล็คก้าวเข้ามาในแท็กซี่คันเดิมที่เค้าบอกให้จอดรอไว้ก่อน
“อ้าว.....พ่อหนุ่มไปทำอะไรมา
ร้องไห้มารึ?” ลุงหนวดมองผ่านกระจกหลัง
ว๊ากกกก! รู้ได้ไงเนี่ยยยย
“อะ
เออ บังเอิญฝุ่นมันเข้าตาน่ะครับ ไม่มีอะไร แฮ่ๆ ^^ ”
น่าน......เนียนน้ำขุ่นๆ เป็นคำแก้ตัวที่อนุบาลมากกกก
“เออๆ
.........ไม่มีอะไร งั้นลุงออกรถแล้วนะ ^^”
“ฮะ”
แห่ม........ลุงก็ไม่ได้ทักต่อเล้ย
เหตุผลนั้นน่ะมันใช้ได้ที่ไหนกัน........
อเล็คใช้วิชาเนียนระดับอนุบาล
นั่งหน้านิ่งบนเบาะหลัง จนกระทั่งถึงร้านลาเฟ่
และพร้อมกันนั้นก็หมดเวลาพักสามสิบนาทีของค้าพอดี อเล็คเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปในร้านด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง
“มาแล้วๆ.......เอาล่ะ
ทำงานกันต่อ” พูดปลุกใจกับตัวเอง
พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนอย่างรวดเร็ว แล้วเจซก็เดินผ่านมาทางเค้าพอดี
“กลับมาแล้วงั้นเหรอ”
“อืม”
“นี่อเล็ค
ถามจริงดิ
นายไม่เบื่อบ้างหรือ.....ต้องเอากาแฟไปให้คนที่ไม่คิดจะสนใจนายเลย.......ทุกๆ
วันน่ะ” เจซมายืนอยู่ตรงหน้าอเล็ค
คำถามนั้นทำเอาคนตัวบางรู้สึกจุกที่หน้าอกจนพูดอะไรไม่ออก และความใกล้ชิดจนชวนหายใจไม่ออกโดยการที่เจซยืนแบบรู้สึกได้ถึงลมหายใจนั้นอีก
อเล็คไม่ชินกับการใกล้ชิดไม่ว่าจะอะไร ใคร หรือยังไงก็ตาม
“........” คนถูกถามเงียบ ก้มหน้าชิดอกราวกับเด็กที่โดนจับได้ว่าทำความผิด “ฉะ ฉัน......”
ให้ตายสิเจซ
นายเป็นพ่อฉันรึไง........เอาหน้านายนออกไปนะ จ้องกันแบบนี้ฉันจะตอบได้ยังไงเล่า! คิดไม่ออกโว้ย.....[>[]<]!!
อเล็คขี้อายโวยวายในใจ
บางครั้งเจซก็ชอบทำท่าทางน่ากลัว ทำหน้าตาน่ากลัว ทำเสียงขึงขังหงุดหงิดน่ากลัว
และทั้งหมดนั้นอเล็คซานเดอร์ก็ไม่ชอบมันเอาซะเลย
นะ น่ากลัว
กริ๊ง.......
แล้วเสียงกระดิ่งช่วยชีวิตอเล็คก็ดังขึ้น
“อ๊ะ......ลูกค้ามาแล้ว
เดี๋ยวฉันไปรับออเดอร์ก่อนนะ.......อุ๊บ!” อเล็คกำลังจะเดินไปทำหน้าที่อย่างว่า
แต่ก็ต้องชนเข้ากับหน้าอกแกร่งของคู่สนทนาเมื่อครู่
“เจซหลบไป”
อเล็คบอก
เจซฉวยเอากระดาษกับปากกามาจากอเล็ค
“เดี๋ยวฉันไปเอง
หน้าตานายตอนนี้ถ้าให้ไปรับออเดอร์ พวกลูกค้าคงจะต้องอดใจไม่ไหวแน่น”
ขณะพูดร่างสูงผมบล์อนก็ไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าที่บ่งบอกถึงการร้องไห้มาหมาดๆ
ของอีกคนเลย และน้ำเสียงกับหน้าตาของเจซก็ดูหงุดหงิดสุดๆ ซึ่งอเล็คก็ไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนร่วมงานเลยสักนิด
“อะไรของเค้า........” อเล็คมองตามเพื่อนร่างสูงไปอย่างไม่เข้าใจ และลูกค้าที่เจซเข้าไปรับออเดอร์ก็ทำให้อเล็คต้องเบิกตาแทบทะหลน
............ร่างสูงสะโอดสะองในชุดสูดโทนขาวอย่างไม่เป็นทางการ
มากับเพื่อนชายผมทองอีกคนหนึ่ง คนหลังนี่เค้าไม่สนใจหรอก เพราะพอรู้จักอยู่บ้าง
แต่ร่างสูงชุดขาวที่กำลังทำหน้าบูดเหมือนกินแตนอยู่ตรงนั้นต่างหากที่อเล็คสนใจจนแทบจะร้องออกมาเสียงหลง.....................
แม็กนัสสสสสสสสสสส!! อเล็คอ้าปากค้าง
มาได้ยังไงเนี่ยยยยย! แย่แล้วถ้าเค้ารู้ว่าฉันทำงานอยู่ที่นี่ล่ะ........อ๊าก! อเล็คทำอะไรสักอย่างเซ่!...... ร่างบางผิวขาวซีดมีท่าทีกระวนกระวาย
ผิวขาวๆ ของเค้าเริ่มกลายเป็นสีชมพูแล้ว แต่สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลก็คือ
อเล็คไม่จำเป็นต้องร้อนตัวขนาดนั้น เพราะมันไม่ได้ทำให้ใครตายเลยสักนิด
คงเป็นเพราะความเคยชินที่ต้องคอยหลบอยู่ใต้เงาของคนอื่น
ทำให้อเล็คต้องกระวีกระวาดหาที่หลบ
“.......เข้าหลังร้าน” โชคดีเป็นของเล็ค
เค้าหันไปเห็นเด็กสาวร่างอ้วนกำลังยกพายที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ
มาเรียงไว้หน้าร้านพอดี ผ้ากันเปื้อนของเธอดูสกปรกเต็มไปด้วยคราบแยม
เพราะเธอเป็นผู้ช่วยของเชฟนั่นเอง “.......ฮาร์โมนี่
เธอทำแทนหน้าร้านให้ทีนะ ฉันจะไปช่วยรอนแทนเธอเอง”
“อะ ออ
ได้สิ.....เธอรู้สึกไม่ดีหรืออเล็ค” ฮาร์โมนี่ถามออกไปเพราะเป็นห่วงเพื่อนตัวเล็ก(กว่าเธอมากๆ)
“เปล่าหรอก
เปล่าๆ......เธออยู่หลังร้านเดินไปเดินมาท่าทางคงจะเหนื่อยสินะ เดี๋ยวฉันช่วยเอง
เธออยู่นี่คอยจัดอาหารตามออเดอร์เถอะนะ ^^”.....”
อเล็คพูดดูลนๆ
เด็กสาวตุ้ยนุ้ยไม่ได้สังเกตอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับและขอบคุณในความใจดีของเพื่อนร่วมงานเท่านั้น
แต่ขอบคุณยังไม่ทันจบประโยคหนุ่มร่างเล็กก็รีบวิ่งเข้าหลังร้านไปทันที
หลังจากที่เปลี่ยนตัวกันเสร็จ
เจซที่ไปรับออเดอร์ก็กลับมาพอดี ร่างสูงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “อ้าว......ฮาร์โมนี่
แล้วอเล็คไปไหนล่ะ”
“อ๋อ
เค้าขอให้ฉันมาอยู่หน้าร้านแทนน่ะ....คอยจัดอาหารตามออเดอร์เพราะเค้าคิดว่าฉันเหนื่อยมากแล้ว
เลยไปช่วยเจ้ารอนอยู่หลังร้านแทนน่ะ......อเล็คนี่น่ารักแถมยังใจดีอีกเนอะ”
ฮาร์โมนี่จัดอาหารตามออเดอร์
ส่วนเจซตอนนี่ตวัดสายตามองไปยังลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่เมื่อกี้นี้ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เพื่อนของเค้าต้องไปหลบอยู่หลังร้าน
แล้วร่างสูงของเจซเดินดุ่มๆ ไปหลังร้านทันที
..........หลังร้านที่แสนวุ่นวาย........
“นี่รอน
เค้กเตานี้ได้ทีแล้วนะ........เออ เจซ........” ร่างบางกำลังก้มดูสปอร์นเค้กที่อยู่ในเตาเงยหน้ามาเจอผู้มาใหม่เข้า
เสียงที่พูดอย่างแจ่มใสเมื่อกี้ ฟังดูเบาลงไปอย่างถนัดตา
เจซยืนอยู่ตรงขอบประตู
แขนแข็งแรงของเค้ากระแทกเข้ากับขอบประตู “นายเป็นอะไร”
เจซพูดเสียงเย็น
“อะ
ปละ เปล่านี่ ฉันไม่ได้...”
“เพราะหมอนั้นใช่ไหม.......เค้าคงทำนายร้องไห้บ่อยๆ
สิท่า ถึงไม่กล้าสู้หน้าแบบนี้” โดยพื้นฐานแล้วเจซเป็นคนค่อยข้างปากร้าย
พอรู้สึกโมโหขึ้นมาเค้าก็เลยเผลอพูดแรงๆ ใส่หน้าอเล็คเข้า และสำหรับคำพูดนั้นอเล็คก็เถียงไม่ออก..............เค้าไม่กล้าสู้หน้าแม็กนัสจริงๆ..............
“ฉันแค่.....แค่......แค่ไม่อยากให้เค้ารู้ว่าทำงานที่นี่”
อเล็คลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแต่ใบหน้ากลับก้มต่ำลง ............ทั้งๆ
ที่เจซเป็นแค่เด็กไฮสคลูแท้ๆ แต่กลับทำให้รุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วอย่างเค้ารู้สึกเย็นวาบขึ้นมาได้........ช่างน่ากลัวจริงๆ..................
เจซพุ่งเข้าไปกอดอเล็คอย่างแผ่วเบาผิดกับท่าทางหงุดหงิดตอนแรกอย่างลิบลับ
“นายจะไปแคร์คนแบบนั้นทำไม.......นายก็มีคนที่แคร์นายเหมือนกันนะ”
“นายหมายความว่าไง
ฉันไม่เข้าใจ.....” เสียงของเจซฟังดูปวดร้าว
แต่อเล็คก็ไม่ได้สังเกตถึงมันเลยสักนิด
“นายห้ามร้องไห้เพราะหมอนั้นอีกเข้าใจไหม”
เสียงเจซเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาราวกับจะออกคำสั่ง
และอีกคนก็ต้องตบคำรับปากด้วย ร่างสูงกว่าออกแรงกอดรัดแน่นขึ้น
“อะ
เออ เจซฉัน.....”....หายใจไม่ออก ทั้งสองกอดกันนานพอสมควร
จู่ๆ
เจซก็คลายอ้อมกอดและผละออกมา จับไหล่ทั้งสองของอเล็คไว้ให้ประจันหน้ากับเค้า “ฉันถือว่านายตกลง”
“อะ ฮะ
อะไรนะ....” สีหน้าอเล็คดูสับสนทั้งคำพูดและการกระทำของเจซเค้าไม่เข้าใจเลย......ที่บอกว่าแคร์น่ะ
แบบเพื่อนร่วมงานงั้นใช่ไหม.........
เจซเฝ้ามองใบหน้าอ่อนเดียงสาของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก
อเล็คเป็นคนที่อ่อนโยนและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เค้าเคยรู้จักมา
และรอยยิ้มของอเล็คสวยงามเสมอ
มันทำให้โลกดูสดใสและน่าอยู่ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
แต่เสียดายที่อเล็คไม่ค่อยได้เป็นเช่นนั้นสักเท่าไร
ต้นเหตุทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าแม็กนัส เบน! คนที่ย้ำยีหัวใจของอเล็คอย่างไม่สนใจว่าคนร่างบางที่น่าสงสารนี้จะเป็นอย่างไร
ทุกครั้งที่อเล็คหยิบยื่นน้ำใจให้ หมอนั่นก็จะปฏิเสธมันอย่างเลือดเย็น..........
เค้ายังจำมันได้ดี วันนั้นอเล็คชวนเจ้าหมอนั้นไปเที่ยว
แต่หมอนั้นกลับพาแฟนที่ชื่อเอลซ่าไปด้วย และวันนั้นเป็นวันเกิดของอเล็ค........ใช่
เค้ารู้ ทำไมวันนั้นเค้าจะไม่อยู่ด้วย เจซแอบตามอเล็คไปเพราะเป็นห่วง
คนทั้งร้านเสนอว่าจะจัดวันเกิดให้อเล็คหลังจากปิดร้านเสร็จ
(แน่นอนครอบครัวของอเล็คก็ไม่คิดว่านี้เป็นวันที่ควรหาของขวัญเล็กๆ ให้อเล็ค
เพราะพวกเค้าไม่เคยคิดจะสนใจมันเลย) แต่อเล็คก็ปฏิเสธ
บอกว่ามันเป็นการรบกวนทุกคนมากเกินไป……………
..............ไม่อยากให้ทุกคนจัดวันเกิดให้
แต่แท้จริงแล้วเพราะต้องการจะไปเที่ยวกับแม็กนัส............
คืนนั้นที่พร์าคมีจัดนิทรรศการประจำปีพอดี
คารวานและเครื่องเล่นต่างๆ
ถูกตั้งไว้กลางพร์าคพร้อมกับไฟแสนสวยและสว่างไสวประดับไปทั่วงาน
มันดูโรแมนติกอย่างไม่ต้องสงสัย
แม็กนัสพาเอลซ่าไปนั่งชิงช้าสวรรค์........อเล็คนั่งรออยู่ข้างล่าง
แม็กนัสพาเอลซ่าเดินเที่ยวทั่วงาน.........อเล็คเดินตามอยู่ข้างหลัง
ตามหลังสองคนนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัดสินใจผละออกมา
และนั่งอยู่ที่ม้านั่งโดดเดี่ยวในมุมสลัว เจซจำมันได้ขึ้นใจ ถึงแม้มันจะมืดแค่ไหน……………
...........วันนั้นเป็นวันเกิดของอเล็ค
และอเล็คร้องไห้............
หยาดน้ำตาใสยามไหลออกมาจากดวงตาสวย
มันกระทบเป็นประกายล่อกับเสียงไฟที่ห่างออกไป
.......และเด่นชัดในความมืด......อเล็คร้องไห้อย่างนัก สะอื้นอยู่นานมาก
ครอบครัวไม่สนใจ............
ปฏิเสธการที่คนทั้งร้านอุตส่าห์จะจัดงานวันเกิดให้
เพียงเพื่อมาหาคนๆ เดียว..................
แต่มันกลับทำให้อเล็คยิ่งเจ็บ.............
เจซไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกได้อีกต่อไป เค้าเดินออกไปทำเหมือนบังเอิญมาเจออเล็ค
แต่มันไม่สำคัญเท่าการที่เค้าสวมกอดร่างบางที่ตัวสั่นเทาเพราะความเสียใจและความผิดหวัง
เค้าพร่ำบอกคำปลอบโยน บอกว่ามันจะไม่เป็นไร และเช็ดน้ำตาให้อเล็ค
แต่น้ำตานั้นก็ไม่เคยจางหายไปเลย เค้ามอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้อเล็คแต่รู้สึกว่ามันคงยังไม่พอ
คนน่าสงสารยังคงร้องไห้โฮซุกกับอกของเค้า
ตัวสั่นเทาราวกับโดนพายุหิมะซัดโหมกระหน่ำ
อ้อมกอดของเจซดูหนาวเหน็บไปเลย
อเล็คร้องไห้ไม่หยุด มันทำให้เค้ารู้สึกเจ็บไปด้วย ความเสียใจของอเล็คทำให้เจซร้องไห้ตามไปด้วยในคืนนั้น
เค้าจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้าแม็กนัส เบนนั้นเด็ดขาด!!!
............
“เอาล่ะ
ถ้านายจะอยู่ในนี้ก็อยู่ไปเถอะ”
ดีแล้ว........ เจซพูดเสียงอ่อนโยน
พลางลูบไปที่กลุ่มผมสีดำขลับ อเล็คเอ็ด “นี่! ฉันเป็นพี่นายนะ”
เจซยิ้มบางๆ “หึๆ
ฉันสูงกว่านายตั้งครึ่งฟุต.....”
“ไม่เกี่ยวซะหน่อย!”
อเล็คพองลมแก้ม ริมฝีปากสีสดยื่นออกมาเล็กน้อย เจซมองภาพนั้นอย่างเอ็นดู
.......เนี่ยนะ
พี่......
“โอเคๆ
ฉันยอมแพ้.......ตั้งใจอบขนมต่อไปล่ะ” เจซยกมือทำท่ายอมแพ้
และเดินออกไปจากหลังร้านทิ้งให้อเล็คที่ยังฉุนอยู่ไม่หายยืนปากยื่นอยู่คนเดียว
“ชิ...เจ้าเด็กโข่ง...” อเล็คบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะเดินกลับไปช่วยรอนต่อ
.
.
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อิแม็กนัส--ตบแมร่งเล้ยยยย!!!
>>> อิฉันทนไม่ไหวแล้วววววว >0<
นังเอลซ่าก็ด้วยเช่นกัน
ตบหัวล้างน้ำมันเลย (เอาน้ำล้างเท้า) จี๊ดค่ะจี๊ดดดดดดดด
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
ขอตัวลาก่อนนะค่ะ คุมตัวเองไม่ไหวแล้วค่ะ
........อย่าลืมไปเม้ม
พูดคุย และกระทืบlike ที่ Fic สป็อค เคิร์ก กันด้วยนะคะ
^^
ลาโลกแล้วค่ะ ลาโลก
เพราะ MaLec ทำพิษ
-*-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น