วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

[FIC - TMI]+[Prat 2] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec


กลับมาแล้วค่าาาาา หลังจากความทรงจำในวัยเด็กที่แสนหวานในตอนที่แล้ว ในตอนนี้จะเป็นที่ทั้งคู่โตแล้ว ทำงานกันแล้วนะค๊ะ^^  ตอนนี้เขียนไปไม่ยอมหยุดเลยค่ะ ฟินจัด ....อิตรงที่เจซมันเป็นห่วงอเล็คนี่แหละค่ะ....................น่าสงสารอเล็คอ่าาาาาา TT0TT ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ .....ให้พร่ำเพ้อนานเดี๋ยวเค้าจะเผยซะหมดเปลือก 55555555......

ป.ล. รักรีดเอดร์ทุกคนนะคะ ^^

----------------------------------------------------------------------------------------------------------


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------------------------------------

----------------------


ปัจจุบัน............(ทำงานแล้ว) + (ไวเหมือนโกหก......นี่เค้าไม่เรียนไฮสคลูกันแล้วใช่ไหม!?)

นายแบบหนุ่มสุดหล่อ แม็กนัส  เบน  มีรักที่หวานชื่นจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา กับนางเองสาวชื่อดัง เอลซ่า.......ล่าสุดทั้งคู่ได้จูงมือกันไปเที่ยวปารีสอย่างลับๆ กับสองต่อสอง  แต่มีหรือข่าวในวงในของเราจะหาภาพสุดสวีต มาให้พวกเราๆ ได้อิจฉาตาร้อนกันเล่นๆ ไม่ได้’ เสียงผู้ประกาศข่าวกลอสซิปสาวดังบาดแก้วหูคนทั้งร้าน  ซึ่งสามารถเรียกความสนใจขงคนเหล่านั้นได้ไม่น้อยเลย อเล็คหันไปสนใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ภาพแม็กนัสบนทีวีก็ทำให้เค้าไม่สามารถละสายตาออกมาจากจอภาพนั้นได้เลย

อเล็ค.......อเล็คยกไปเสิร์ฟ!” เสียงจากทางเคาเตอร์ดังขึ้น ทำให้อเล็ครู้สึกเหมือนถูกแตะออกมาจากภวังค์ของตัวเอง

อ๊ะคร้าบๆร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบกุลีกุจอยกของไปเสิร์ฟตามออเดอร์

ในขณะที่ทำหน้าที่ก็มีร้อยยิ้มบางๆ คอยส่งให้กับลูกค้าตลอด รวมทั้งการบริการอย่างใส่ใจ ทำให้อเล็คกลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรได้ไม่ยากนัก...........อเล็คทำงานด้วยความขยันขันแข็งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนาฬิกาชี้บอกเวลา 9.45 น.

เจซ......ฉันฝากที่เหลือด้วยนะคนตัวขาวเดินมาที่เคาเตอร์ ถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้ววางไว้

อะไรกัน......อยู่ช่วยสักหน่อยไม่ได้หรือ ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามากันเยอะแล้วนะเจซที่จัดอาหารตามออเดอร์อยู่ชะโงกหน้าออกมา

นี่มันเวลาพักของฉัน และอีกอย่างลูกค้าก็เยอะทุกวันแหละน่าอเล็คแหวใส่

เจซทำหน้าเซ็ง ได้ๆ.....ถ้าคุณบีพอทท์ถามหา ฉันจะบอกว่านายไปย่านดาว์ทาวน์....อีกแล้ว ล่ะกันนะ

ยุ่งน่าอเล็คปาผ้ากันเปื้อนเมื่อครู่ใส่หน้าเจซ เค้ายิ้มและเดินไปหลังร้าน เพื่อไปชงกาแฟสูตรพิเศษที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลอง  เว้นก็แต่..............

ใช้เวลาไม่นานนัก อเล็คก็เดินออกมาหน้าร้านแล้วโบกแท็กซี่ไปย่านดาว์ทาวน์ตามคาด  อเล็คชงกาแฟร้อนพอสมควร เพราะเมื่อมันไปถึงมือคนดื่มก็คงจะอุ่นพอดี พร้อมกับคุกกี้สูตรเด็ดของร้าน  คนตัวเล็กนั่งอยู่เงียบๆ อย่างสงบเสงี่ยม.........ใบหน้าดูมีความสุขและอิ่มเอม   สายตาก็สอดส่องออกไปนอกกระจก

...........ย่านนี่โอ่อาฬชะมัดเลย ต้องเป็นคนดังหรือคนมีตังค์เท่านั้นที่จะอยู่ได้........อย่างเค้าก็คงต้องรอเก็บตังค์สักสามชาติล่ะมั่ง กว่าจะได้มานอนที่นี่...............

เมื่อมาถึงที่หมาย อเล็คก็ลงรถอย่างรวดเร็ว  เข้าไปยังตึกของคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง กรอกข้อมูลการมาที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แล้วรีบดิ่งขึ้นลิฟต์ไปให้ทันเวลาเหมือนเดิม..............

ติ่ง........!

ลิฟต์เปิดที่ชั้นสิบสอง อเล็คเดินต่อไปไม่กี่ห้อง ก็ถึงห้องที่เค้าต้องการจะมา

............10.00 น. ...........

หน้าประตูเขียนว่า ‘แม็กนัส   เบน

อเล็ดสูดหายใจเล็กน้อย ก่อนจะกดกริ่งที่ประตูนั้นสองสามครั้ง  ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับชายหนุ่มผมดำยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง  สวมเพียงกางเกงยีนส์เนื้อผ้าดี ปกปิดช่วงล่าง  หน้าตาหมอนี่ดูงัวเงี่ยเหมือนเพิ่งตื่นมาหมาดๆ

มีอะไรเจ้าของห้องใช้แขนท้าวขอบประตูไว้

อเล็คยักไหล่ อรุณสวัสดิ์........ฉันเอากาแฟมาให้.....เอ่อ ฉันหมายถึงฉันเอากาแฟของทางร้านมาให้น่ะอเล็คยื่นแก้วกาแฟและกล่องใส่คุกกี้ให้แม็กนัส ร่างสูงรับมันไว้พยักหน้ารับน้อยแล้วพูดว่า อืม ขอบใจนะแล้วหันหลังกลับ อเล็คแอบยิ้มอยู่คนเดียวโดยไม่ให้ร่างสูงมีโอกาสรู้

แทบทุกเช้าอเล็คจะเดินไปหลังร้าน ไปชงกาแฟสูตรพิเศษที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลอง เว้นก็แต่........แม็กนัส   เบน.........ใช่  กาแฟถ้วยนี้ อเล็คชงให้แม็กนัสเพียงคนเดียวเท่านั้น และดูท่าเจ้าตัวจะชอบมันมากๆ ด้วย  แต่อเล็คก็อ้างไปว่าแฟนคลับที่ร้านฝากมาให้ทุกทีไป

แม็กนัสนำกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะที่ใกล้ที่สุด แล้วเดินกลับมาหาคนที่ยืนมองเท้าตัวเองอยู่ที่หน้าประตู นายจะไม่เข้ามาในห้องหน่อยหรือ

อเล็คสะดุ้งราวกับมีคนมาผลักเค้าเข้าที่ข้างหลัง อะ เอ่อ ไม่หรอก มันจวนจะหมดเวลาพักของฉันแล้วล่ะ

แม็กนัสถอนหายใจเบาๆ เฮ้อ.....นายน่ะจบการบริหาร เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาเพื่อเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านลาเฟ่เล็กๆ เนี่ยนะ  เชื่อเค้าเลย

ช่างฉันเถอะน่า........ฉันกำลังซึมซับประสบการณ์ เดี๋ยวอีกหน่อยฉันจะต้องมีร้านเป็นของตัวเองแน่อเล็คหันมาทำคิ้วชี้ใส่อีกคนที่ยืนท้าวประตูอยู่จุดเดิม

ฮ่าๆๆ งั้นเหรอ.....ฉันจะค่อยดูล่ะกันนะ” คนตัวสูงยืนหัวเราะเสียงสดใส........เป็นเสียงหัวเราะที่อเล็คหลงรัก ไม่ต่างไปจากตอนเด็กๆ เลยสักนิด..........

แต่น่าเสียดายที่เวลาของเค้าในวันนี้หมดลงแล้ว ฉันจะกลับแล้วเจ้าบ้าแม็กนัสอเล็คหมุนตัวแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว  ถ้าอยู่นานกว่านี้เค้าจะต้องแย่แน่ๆ คงอาจจะเผลอทำตัวเหมือนตอนอยู่มัธยม.....ทำตัวเหมือนกับว่าชอบ หมอนั่นออกไปให้เห็นอีกแหงๆ

แต่เดินห่างออกมาได้ไม่กี่ก้าว เสียงโทรศัพท์ของแม็กนัสก็ดังขึ้น อเล็คได้ยินแม็กนัสรับโทรศัพท์

ฮัลโหล.........เอลซ่า ว่าไงครับ แน่นอนครับ ผมว่างอยู่แล้ว คืนนี้หรือ.....ครับ ไปสิครับ.....วันนี้คุณก็ทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้ผมอีกแล้วนะ ผมอยากรู้จังว่าคุณแอบเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร  เฮ้!....ทำเสียงแบบนั้นหมายความว่าไง.....ใช่ก็คุณนั้นแหละ  หึๆ ไม่เอาน่าคืนนี้ผมไปอยู่แล้ว ครับ แล้วเจอกันครับนางฟ้าของผมน้ำเสียงของแม็กนัสดูร่าเริงตลอดการสนทนา แล้วเสียงปิดประตูก็ดังขึ้น

อเล็คยอมรับว่าเค้าอิจฉาผู้หญิงที่ชื่อเอลซ่าเล็กๆ เธอเป็นผู้หญิงที่แม็กนัสสนใจ เอาใจใส่ ดูแล และเค้าก็รักเธอเสมอ เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกในความคิดของอเล็คเลย

..........ทำอาหารเช้าไว้รอแล้วอย่างนั้นหรือ เธอทำอาหารเป็นรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย........

อเล็คเดินมาหน้าลิฟต์แล้วกดปุ่ม

แปะ.....แปะ.....

บางอย่างหยดลงบนหลังมือของเค้า อเล็คใช้นิ้วแตะใบหน้าตัวเอง

.........ร้องไห้อีกแล้ว ทำไมต้องร้องไห้อีกแล้วล่ะ........

นายจะเป็นเด็กขี้แยไปถึงเมื่อไรกัน  จากนี้นายจะต้องร้องไห้คนเดียว ไม่มีแม็กนัสมาคอยปลอบให้นายหยุดร้องเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะ เข้าใจหน่อยสิ..........

ลิฟต์เปิดออกแล้ว  อเล็คเดินเข้าไป เค้าไม่สามารถห้ามน้ำตาของตัวเองได้เลยจริงๆ .......แต่อเล็คก็ยังเนียนได้อีก พอออกมาจากลิฟต์เค้าก็เก็บอาการไว้เรียบร้อย น้ำตาไม่มีเล็ด..........เหตุการณ์ดูสงบเรียบร้อย จนถึงตอนที่อเล็คก้าวเข้ามาในแท็กซี่คันเดิมที่เค้าบอกให้จอดรอไว้ก่อน

อ้าว.....พ่อหนุ่มไปทำอะไรมา ร้องไห้มารึ?” ลุงหนวดมองผ่านกระจกหลัง

ว๊ากกกกรู้ได้ไงเนี่ยยยย

อะ เออ  บังเอิญฝุ่นมันเข้าตาน่ะครับ ไม่มีอะไร แฮ่ๆ ^^ ” น่าน......เนียนน้ำขุ่นๆ เป็นคำแก้ตัวที่อนุบาลมากกกก

เออๆ .........ไม่มีอะไร งั้นลุงออกรถแล้วนะ ^^

ฮะแห่ม........ลุงก็ไม่ได้ทักต่อเล้ย เหตุผลนั้นน่ะมันใช้ได้ที่ไหนกัน........

อเล็คใช้วิชาเนียนระดับอนุบาล นั่งหน้านิ่งบนเบาะหลัง จนกระทั่งถึงร้านลาเฟ่ และพร้อมกันนั้นก็หมดเวลาพักสามสิบนาทีของค้าพอดี  อเล็คเปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปในร้านด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง

มาแล้วๆ.......เอาล่ะ ทำงานกันต่อพูดปลุกใจกับตัวเอง พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนอย่างรวดเร็ว  แล้วเจซก็เดินผ่านมาทางเค้าพอดี

กลับมาแล้วงั้นเหรอ

อืม

นี่อเล็ค ถามจริงดิ นายไม่เบื่อบ้างหรือ.....ต้องเอากาแฟไปให้คนที่ไม่คิดจะสนใจนายเลย.......ทุกๆ วันน่ะเจซมายืนอยู่ตรงหน้าอเล็ค คำถามนั้นทำเอาคนตัวบางรู้สึกจุกที่หน้าอกจนพูดอะไรไม่ออก และความใกล้ชิดจนชวนหายใจไม่ออกโดยการที่เจซยืนแบบรู้สึกได้ถึงลมหายใจนั้นอีก อเล็คไม่ชินกับการใกล้ชิดไม่ว่าจะอะไร ใคร หรือยังไงก็ตาม

“........” คนถูกถามเงียบ ก้มหน้าชิดอกราวกับเด็กที่โดนจับได้ว่าทำความผิด ฉะ ฉัน......

ให้ตายสิเจซ นายเป็นพ่อฉันรึไง........เอาหน้านายนออกไปนะ จ้องกันแบบนี้ฉันจะตอบได้ยังไงเล่าคิดไม่ออกโว้ย.....[>[]<]!!

อเล็คขี้อายโวยวายในใจ บางครั้งเจซก็ชอบทำท่าทางน่ากลัว ทำหน้าตาน่ากลัว ทำเสียงขึงขังหงุดหงิดน่ากลัว และทั้งหมดนั้นอเล็คซานเดอร์ก็ไม่ชอบมันเอาซะเลย

นะ น่ากลัว

กริ๊ง....... แล้วเสียงกระดิ่งช่วยชีวิตอเล็คก็ดังขึ้น

อ๊ะ......ลูกค้ามาแล้ว เดี๋ยวฉันไปรับออเดอร์ก่อนนะ.......อุ๊บ!” อเล็คกำลังจะเดินไปทำหน้าที่อย่างว่า แต่ก็ต้องชนเข้ากับหน้าอกแกร่งของคู่สนทนาเมื่อครู่

เจซหลบไปอเล็คบอก

เจซฉวยเอากระดาษกับปากกามาจากอเล็ค เดี๋ยวฉันไปเอง  หน้าตานายตอนนี้ถ้าให้ไปรับออเดอร์ พวกลูกค้าคงจะต้องอดใจไม่ไหวแน่นขณะพูดร่างสูงผมบล์อนก็ไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าที่บ่งบอกถึงการร้องไห้มาหมาดๆ ของอีกคนเลย และน้ำเสียงกับหน้าตาของเจซก็ดูหงุดหงิดสุดๆ ซึ่งอเล็คก็ไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนร่วมงานเลยสักนิด

อะไรของเค้า........” อเล็คมองตามเพื่อนร่างสูงไปอย่างไม่เข้าใจ  และลูกค้าที่เจซเข้าไปรับออเดอร์ก็ทำให้อเล็คต้องเบิกตาแทบทะหลน

............ร่างสูงสะโอดสะองในชุดสูดโทนขาวอย่างไม่เป็นทางการ มากับเพื่อนชายผมทองอีกคนหนึ่ง คนหลังนี่เค้าไม่สนใจหรอก เพราะพอรู้จักอยู่บ้าง แต่ร่างสูงชุดขาวที่กำลังทำหน้าบูดเหมือนกินแตนอยู่ตรงนั้นต่างหากที่อเล็คสนใจจนแทบจะร้องออกมาเสียงหลง.....................

 แม็กนัสสสสสสสสสสส!! อเล็คอ้าปากค้าง

มาได้ยังไงเนี่ยยยยยแย่แล้วถ้าเค้ารู้ว่าฉันทำงานอยู่ที่นี่ล่ะ........อ๊ากอเล็คทำอะไรสักอย่างเซ่!...... ร่างบางผิวขาวซีดมีท่าทีกระวนกระวาย ผิวขาวๆ ของเค้าเริ่มกลายเป็นสีชมพูแล้ว  แต่สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลก็คือ อเล็คไม่จำเป็นต้องร้อนตัวขนาดนั้น เพราะมันไม่ได้ทำให้ใครตายเลยสักนิด คงเป็นเพราะความเคยชินที่ต้องคอยหลบอยู่ใต้เงาของคนอื่น ทำให้อเล็คต้องกระวีกระวาดหาที่หลบ

“.......เข้าหลังร้านโชคดีเป็นของเล็ค เค้าหันไปเห็นเด็กสาวร่างอ้วนกำลังยกพายที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ มาเรียงไว้หน้าร้านพอดี ผ้ากันเปื้อนของเธอดูสกปรกเต็มไปด้วยคราบแยม เพราะเธอเป็นผู้ช่วยของเชฟนั่นเอง “.......ฮาร์โมนี่ เธอทำแทนหน้าร้านให้ทีนะ ฉันจะไปช่วยรอนแทนเธอเอง

อะ ออ ได้สิ.....เธอรู้สึกไม่ดีหรืออเล็คฮาร์โมนี่ถามออกไปเพราะเป็นห่วงเพื่อนตัวเล็ก(กว่าเธอมากๆ)

เปล่าหรอก เปล่าๆ......เธออยู่หลังร้านเดินไปเดินมาท่าทางคงจะเหนื่อยสินะ เดี๋ยวฉันช่วยเอง เธออยู่นี่คอยจัดอาหารตามออเดอร์เถอะนะ ^^”.....อเล็คพูดดูลนๆ เด็กสาวตุ้ยนุ้ยไม่ได้สังเกตอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับและขอบคุณในความใจดีของเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่ขอบคุณยังไม่ทันจบประโยคหนุ่มร่างเล็กก็รีบวิ่งเข้าหลังร้านไปทันที

หลังจากที่เปลี่ยนตัวกันเสร็จ เจซที่ไปรับออเดอร์ก็กลับมาพอดี ร่างสูงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย อ้าว......ฮาร์โมนี่ แล้วอเล็คไปไหนล่ะ

อ๋อ เค้าขอให้ฉันมาอยู่หน้าร้านแทนน่ะ....คอยจัดอาหารตามออเดอร์เพราะเค้าคิดว่าฉันเหนื่อยมากแล้ว เลยไปช่วยเจ้ารอนอยู่หลังร้านแทนน่ะ......อเล็คนี่น่ารักแถมยังใจดีอีกเนอะฮาร์โมนี่จัดอาหารตามออเดอร์ ส่วนเจซตอนนี่ตวัดสายตามองไปยังลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่เมื่อกี้นี้ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เพื่อนของเค้าต้องไปหลบอยู่หลังร้าน แล้วร่างสูงของเจซเดินดุ่มๆ ไปหลังร้านทันที

..........หลังร้านที่แสนวุ่นวาย........

นี่รอน เค้กเตานี้ได้ทีแล้วนะ........เออ เจซ........ร่างบางกำลังก้มดูสปอร์นเค้กที่อยู่ในเตาเงยหน้ามาเจอผู้มาใหม่เข้า เสียงที่พูดอย่างแจ่มใสเมื่อกี้ ฟังดูเบาลงไปอย่างถนัดตา

เจซยืนอยู่ตรงขอบประตู แขนแข็งแรงของเค้ากระแทกเข้ากับขอบประตู นายเป็นอะไรเจซพูดเสียงเย็น

อะ ปละ เปล่านี่  ฉันไม่ได้...

เพราะหมอนั้นใช่ไหม.......เค้าคงทำนายร้องไห้บ่อยๆ สิท่า ถึงไม่กล้าสู้หน้าแบบนี้โดยพื้นฐานแล้วเจซเป็นคนค่อยข้างปากร้าย พอรู้สึกโมโหขึ้นมาเค้าก็เลยเผลอพูดแรงๆ ใส่หน้าอเล็คเข้า และสำหรับคำพูดนั้นอเล็คก็เถียงไม่ออก..............เค้าไม่กล้าสู้หน้าแม็กนัสจริงๆ..............

ฉันแค่.....แค่......แค่ไม่อยากให้เค้ารู้ว่าทำงานที่นี่อเล็คลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแต่ใบหน้ากลับก้มต่ำลง ............ทั้งๆ ที่เจซเป็นแค่เด็กไฮสคลูแท้ๆ แต่กลับทำให้รุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วอย่างเค้ารู้สึกเย็นวาบขึ้นมาได้........ช่างน่ากลัวจริงๆ..................

เจซพุ่งเข้าไปกอดอเล็คอย่างแผ่วเบาผิดกับท่าทางหงุดหงิดตอนแรกอย่างลิบลับ นายจะไปแคร์คนแบบนั้นทำไม.......นายก็มีคนที่แคร์นายเหมือนกันนะ

นายหมายความว่าไง ฉันไม่เข้าใจ.....เสียงของเจซฟังดูปวดร้าว แต่อเล็คก็ไม่ได้สังเกตถึงมันเลยสักนิด

นายห้ามร้องไห้เพราะหมอนั้นอีกเข้าใจไหมเสียงเจซเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาราวกับจะออกคำสั่ง และอีกคนก็ต้องตบคำรับปากด้วย ร่างสูงกว่าออกแรงกอดรัดแน่นขึ้น

อะ เออ เจซฉัน.....”....หายใจไม่ออก ทั้งสองกอดกันนานพอสมควร

จู่ๆ เจซก็คลายอ้อมกอดและผละออกมา จับไหล่ทั้งสองของอเล็คไว้ให้ประจันหน้ากับเค้า ฉันถือว่านายตกลง

อะ ฮะ อะไรนะ....สีหน้าอเล็คดูสับสนทั้งคำพูดและการกระทำของเจซเค้าไม่เข้าใจเลย......ที่บอกว่าแคร์น่ะ แบบเพื่อนร่วมงานงั้นใช่ไหม.........

เจซเฝ้ามองใบหน้าอ่อนเดียงสาของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก อเล็คเป็นคนที่อ่อนโยนและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เค้าเคยรู้จักมา และรอยยิ้มของอเล็คสวยงามเสมอ มันทำให้โลกดูสดใสและน่าอยู่ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว แต่เสียดายที่อเล็คไม่ค่อยได้เป็นเช่นนั้นสักเท่าไร ต้นเหตุทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าแม็กนัส เบนคนที่ย้ำยีหัวใจของอเล็คอย่างไม่สนใจว่าคนร่างบางที่น่าสงสารนี้จะเป็นอย่างไร ทุกครั้งที่อเล็คหยิบยื่นน้ำใจให้ หมอนั่นก็จะปฏิเสธมันอย่างเลือดเย็น..........

เค้ายังจำมันได้ดี  วันนั้นอเล็คชวนเจ้าหมอนั้นไปเที่ยว แต่หมอนั้นกลับพาแฟนที่ชื่อเอลซ่าไปด้วย และวันนั้นเป็นวันเกิดของอเล็ค........ใช่ เค้ารู้ ทำไมวันนั้นเค้าจะไม่อยู่ด้วย เจซแอบตามอเล็คไปเพราะเป็นห่วง คนทั้งร้านเสนอว่าจะจัดวันเกิดให้อเล็คหลังจากปิดร้านเสร็จ (แน่นอนครอบครัวของอเล็คก็ไม่คิดว่านี้เป็นวันที่ควรหาของขวัญเล็กๆ ให้อเล็ค เพราะพวกเค้าไม่เคยคิดจะสนใจมันเลย) แต่อเล็คก็ปฏิเสธ บอกว่ามันเป็นการรบกวนทุกคนมากเกินไป……………

..............ไม่อยากให้ทุกคนจัดวันเกิดให้ แต่แท้จริงแล้วเพราะต้องการจะไปเที่ยวกับแม็กนัส............

คืนนั้นที่พร์าคมีจัดนิทรรศการประจำปีพอดี คารวานและเครื่องเล่นต่างๆ ถูกตั้งไว้กลางพร์าคพร้อมกับไฟแสนสวยและสว่างไสวประดับไปทั่วงาน มันดูโรแมนติกอย่างไม่ต้องสงสัย 

                แม็กนัสพาเอลซ่าไปนั่งชิงช้าสวรรค์........อเล็คนั่งรออยู่ข้างล่าง

แม็กนัสพาเอลซ่าเดินเที่ยวทั่วงาน.........อเล็คเดินตามอยู่ข้างหลัง ตามหลังสองคนนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัดสินใจผละออกมา และนั่งอยู่ที่ม้านั่งโดดเดี่ยวในมุมสลัว เจซจำมันได้ขึ้นใจ ถึงแม้มันจะมืดแค่ไหน……………

...........วันนั้นเป็นวันเกิดของอเล็ค และอเล็คร้องไห้............

หยาดน้ำตาใสยามไหลออกมาจากดวงตาสวย มันกระทบเป็นประกายล่อกับเสียงไฟที่ห่างออกไป .......และเด่นชัดในความมืด......อเล็คร้องไห้อย่างนัก สะอื้นอยู่นานมาก

ครอบครัวไม่สนใจ............

ปฏิเสธการที่คนทั้งร้านอุตส่าห์จะจัดงานวันเกิดให้ เพียงเพื่อมาหาคนๆ เดียว..................

แต่มันกลับทำให้อเล็คยิ่งเจ็บ.............

เจซไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกได้อีกต่อไป  เค้าเดินออกไปทำเหมือนบังเอิญมาเจออเล็ค แต่มันไม่สำคัญเท่าการที่เค้าสวมกอดร่างบางที่ตัวสั่นเทาเพราะความเสียใจและความผิดหวัง เค้าพร่ำบอกคำปลอบโยน บอกว่ามันจะไม่เป็นไร และเช็ดน้ำตาให้อเล็ค แต่น้ำตานั้นก็ไม่เคยจางหายไปเลย  เค้ามอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้อเล็คแต่รู้สึกว่ามันคงยังไม่พอ คนน่าสงสารยังคงร้องไห้โฮซุกกับอกของเค้า ตัวสั่นเทาราวกับโดนพายุหิมะซัดโหมกระหน่ำ

อ้อมกอดของเจซดูหนาวเหน็บไปเลย อเล็คร้องไห้ไม่หยุด มันทำให้เค้ารู้สึกเจ็บไปด้วย ความเสียใจของอเล็คทำให้เจซร้องไห้ตามไปด้วยในคืนนั้น

เค้าจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้าแม็กนัส  เบนนั้นเด็ดขาด!!!

............

เอาล่ะ ถ้านายจะอยู่ในนี้ก็อยู่ไปเถอะ

ดีแล้ว........ เจซพูดเสียงอ่อนโยน พลางลูบไปที่กลุ่มผมสีดำขลับ อเล็คเอ็ด นี่ฉันเป็นพี่นายนะ

เจซยิ้มบางๆ หึๆ ฉันสูงกว่านายตั้งครึ่งฟุต.....

ไม่เกี่ยวซะหน่อย!” อเล็คพองลมแก้ม ริมฝีปากสีสดยื่นออกมาเล็กน้อย  เจซมองภาพนั้นอย่างเอ็นดู

.......เนี่ยนะ พี่......

โอเคๆ ฉันยอมแพ้.......ตั้งใจอบขนมต่อไปล่ะเจซยกมือทำท่ายอมแพ้ และเดินออกไปจากหลังร้านทิ้งให้อเล็คที่ยังฉุนอยู่ไม่หายยืนปากยื่นอยู่คนเดียว

ชิ...เจ้าเด็กโข่ง...” อเล็คบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะเดินกลับไปช่วยรอนต่อ


.
.
.
.
.
TBC.


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


อิแม็กนัส--ตบแมร่งเล้ยยยย!!! >>> อิฉันทนไม่ไหวแล้วววววว >0<

นังเอลซ่าก็ด้วยเช่นกัน  ตบหัวล้างน้ำมันเลย (เอาน้ำล้างเท้า) จี๊ดค่ะจี๊ดดดดดดดด

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!! ขอตัวลาก่อนนะค่ะ คุมตัวเองไม่ไหวแล้วค่ะ

........อย่าลืมไปเม้ม พูดคุย และกระทืบlike ที่ Fic สป็อค เคิร์ก กันด้วยนะคะ ^^

ลาโลกแล้วค่ะ ลาโลก เพราะ MaLec ทำพิษ -*-



ไม่มีความคิดเห็น: