กริ๊ววววววววววววววววววววววววว มาต่อกันแล้วว >0< (โดนไล่ปารองเท้า//ทำไมเอ็งมานานจัง)
5555 โทษทีค่ะ ตอนนี้กำลังเร่งเขียนเรื่อง [SF - TMI] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus xAlec อยู่ค่ะ
เราอยากให้เสร็จเป็รเรื่องๆ ไปก่อน แต่ก็จะลงเรื่องอื่นอีกแหละ 55555 บ้าจริงเลยเรา
แต่ก่อนจะทำให้เสร็จบริบรูณ์
กะว่าจะลงของหมอกะน้องทิ้งทวนซะหน่อยค่ะ เดี๋ยวจะลืมกัน 5555
ถ้าอบากอ่านหมอกะน้องอีกก็ ให้กำลังใจกันเยอะๆ
นะค่าาา ช่วยไลท์ ช่วยเม้มในบล็อก หรือในเฟสได้เลยค่ะ >>แฟนฟิคออลลีวู้ด<<
รึแฟนเพจ เราก็มี >>Fic สป็อค เคิร์ก<<
แต่ถ้าเฟสจะดีกว่าค่ะ เพราะแฟนเฟจฟิคป็อคเคิร์ก
เราจะลงของคู่นี้(มีคู่อื่นมานิดหนึ่ง)โดยเฉพาะ เฟสเกาะติดทุกอย่างค่ะะะะะ
ปล. ถ้าพิมพ์ผิดมั่ง เบลอมั่งก็อย่าว่ากันนะค่ะ
เพิ่งมานั่งเปิดพิมพ์เเละลงเมื่อกี้เองค่ะ แฮ่ๆๆ รักทุกคนค่าาาาาา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่1
ทันทีที่ขึ้นรถได้ซูลูก็เอาแต่ถามเชคอฟซอกแซกเกี่ยวกับเรื่องของเมื่อคืน
ซึ่งคำถามส่วนมากก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวหนุ่มน้อยเองเป็นแน่
เริ่มด้วย...........
“นายโอเครึเปล่าเชคอฟ
หมอแมคคอยไม่ได้ทำ........เอ่อ ฉันหมายถึง เค้าไม่ได้ให้นายนอนบนโซฟาหรอกใช่ไหม!?”
“เอ่อ........เปล่าฮะ”
เชคอฟตอบ
“...............” ซูลูนิ่ง ดูเหมือนคำตอบแผ่วๆ
เมื่อกี้นั้นคงไม่พอ
“ผมนอนบนเตียงครับ”
เชคอฟเงยหน้าขึ้นเพื่อขยายความเมื่อครู่ และซูลูดูพอใจขึ้น
“แล้วเมื่อคืนตอนนายออกจากบาร์ไป
ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ........ ติดต่อนายก็ไม่ได้
แล้วดึกขนาดนั้นออกไปส่งหมอแมคคอยคนเดียวเนี่ยนะ......ให้ตายสิ เชคอฟ
ฉันแทบบ้าไปเลยตอนนายหายไป
นายคงไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นห่วงนายแค่ไหน........เที่ยวตามหานายซะทั่ว
ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่มีใครเห็นนายเลยสักคน” ซูลระบายซะยาวเหยียด
ปากก็พูดไป ส่วนมือใหญ่ก็บีบเข้าที่หัวไหล่เล็กราวกับควบคุมสติตัวเองไม่ได้
..............เค้ารู้สึกโกรธมากๆ
ที่เชคอฟหายไปโดยที่เค้าไม่รู้อะไรเลย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
และเค้าเองก็จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก…………..
เด็กน้อยเองก็เช่นกัน......นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ซูลูดูโมโหมากขนาดนี้
มากกว่าตอนที่จับได้ว่าเค้าทำจานแตก แล้วแอบเก็บเศษจานออกไปเอง
จนมือต้องเต็มไปด้วยบาดแผล ซะอีก
ซูลูก็ยังคงบีบหัวไหล่นั้นอยู่จนเนื้อผ้าบริเวณนั้นเริ่มยับย่น
เมื่อเค้าได้พูดออกไปแล้วว่าเป็นห่วงเด็กน้อยแค่ไหน เชคอฟก็เอาแต่นิ่ง
จนซูลูเริ่มใจหวิว มือที่บีบหัวไหล่อยู่ก็เริ่มผ่อนแรงลง
..................เค้าคงจะพูดแรงเกินไป..................
“เชคอฟ........”
“...ฟืด......”
“หือ.......-.-”
.............เอ๋................
“.......ฟืด...”
“เชคอฟ”
ซูลูช้อนคางของเชคอฟให้เงยหน้าขึ้นมาหาเค้า
ว๊ากกก! ตูว่าแล๊วววว!
คางน้อยๆ
สั่นอยู่บนฝ่ามือแกร่ง ริมฝีบากสีชมพูที่ขบเม้มเข้าหากันก็กำลังสั่นเช่นเดียวกัน ถ้ามองสูงขึ้นไปอีกนิด
คุณก็จะเห็นดวงตากลมโตสีเข้ม และคลอหน่วยเต็มไปด้วยน้ำตา
ว๊ากกก! เชคอฟ!
“...ฟืดด...”
จมูกน้อยๆ ขยับนิดหน่อย จากการสูดน้ำมูกของเจ้าตัวเอง
“โอ่ว
ขอโทษเชคอฟ ฉัน.....” เมื่อรู้ตัวซูลูก็รีบขอโทษขอโพย
.......เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ .........
“อึก.....ฮึก..ก...”
แต่เหมือนยิ่งพูดยิ่งยุ .......ยิ่งซูลูปลอบมากขึ้นเท่าไร
เชคอฟก็ปล่อยสะอื้นออกมามากขึ้นเท่านั้น (หนูเชคอฟ
หนูร้องไห้ง่ายไปไหมลูก.....:
Ray - And)
น้ำตาเม็ดน้อยเล็ดออกมาจากหางตาของเด็กน้อยอย่างน่าสงสาร
ซูลูจึงลดระดับลงมาให้ใกล้ใบหน้าของเชคอฟมากยิ่งขึ้น พลางใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตานั้น
ให้จางหายไป “พี่ขอโทษเชคอฟ........พี่ขอโทษ.......ไม่เอาน่า
อย่าร้องไห้........พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษนะ.........”
เสียงซูลูปลอบประโลมอย่างนุ่นนวลอยู่เคียงข้างเชคอฟ
ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่เคยมีใครได้ยินจากฮิคารุ ซูลู เลยแม้สักครั้งเดียว
“หยุดร้องไห้ซะที่รัก.......
อย่าร้อง.......น้ำตาน่ะไม่เหมาะหรอก.........” ซูลูใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างลูบไปที่ข้างขมับของอีกคนเบาๆ
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกจุดขึ้นเพื่อปลอบประโลมเด็กน้อย
“เชื่อพี่นะ.......”
เชคอฟพยักหน้ารัวๆ พลางใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ
ซูลูดึงแขนนั้นออก แล้วแทนที่ด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนสีเข้มของเค้าเอง
ไม่รู้ว่านานเท่าไรกว่าเชคอฟจะหยุดร้อง
แต่คนที่เช็ดก็ไม่ได้หยุดมือเลยสักนิด
...........ลองให้เชคอฟได้ร้องไห้สิ
หยุดง่ายๆ กันซะที่ไหน...........
แค่มีเรื่องให้สะเทือนใจนิดเดียว
ก็สะกิดต่อมน้ำตาของเด็กคนนี้ให้ไหลกระเจิงออกมาได้ง่ายๆ เลยทีเดียวล่ะ
.............นับภาษาอะไรกับเรื่องโดนดุ..........
(ซูลูนายก็รู้....แล้วยังจะไปดุน้องอีก.......-0- : Ray - Aund)
“..ฟืด....ผมขอโทษ...ฟืด...ขอโทษฮะ”
“ไม่เป็นไร.....
นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ซูลูยิ้มให้เด็กน้อยที่นั่งตาบวมอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เอาล่ะ
ทีนี้.....จะบอกพี่ได้ไหม ว่าเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง” ซูลูพูดอย่างใจเย็น
“ผม......ผมขอโทษที่ปิดมือถือครับ
นั่นเป็นเพราะว่าผมไม่อยากให้อะไรมารบกวนสมาธิตอนผมขับรถ.......................อุ๊บ!....” เด็กน้อยใช้มือตะปบปากตัวเอง
แต่ไม่ทันเสียแล้ว เค้าเผลอพูดคำว่าขับรถออกไปเสียแล้ว เชคอฟทำหน้าตาเลิกลั่ก ในขณะที่ซูลูหูผึ่งชักสีหน้า
สะบัดสายตามามองเค้าแบบทันทีทันใด
“นายว่าอะไรนะ......นายขับรถเหรอเชคอฟ”
ซูลูพูดเสียงเย็น
“เอ่อ......ฮะ”
เชคอฟทำหน้าเหยเก
..........โดนฆ่าแน่เลยเรา...........
ซูลูทำหน้าเหมือนมีคนชนท้ายรถเค้า
และอ้าปากกำลังจะฟูดอะไรบ้างอย่าง .........เชคอฟกัดริมฝีปากแน่นรอรับระเบิดลง
“..........”
“............”
แต่ผิดคาด
ซูลูเงียบลง หุบปากเก็บไว้ แล้วหันกลับไปหาพวงมาลัยแทน
เฮ้ออ.......เชคอฟแอบลอบถอนหายใจเบาๆ บางทีซูลูอาจไม่โกรธเค้าแล้วก็ได้
“คุณซูลู.......ไม่โกรธผมเหรอฮะ”
เชคอฟเม้มปาก ทำตาโต แล้วยื่นหน้าไปหาอีกคนอย่างมีหวัง
ไม่
ไม่โกรธนายหรอกเชคอฟ........แต่เกลียดตัวเองที่ทำให้นายรู้จักกับพวงมาลัย ทำไมฉันถึงไม่เลือกเชื่อสัญชาติญาณตัวเองนะ........ใช่
แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเชคอฟไม่ถูกกับพวงมาลัยยยยย ถึงจะเป็นต้นหนที่ยอดเยี่ยมก็เถอะ
แต่.......ฮึ่ม!! ........หมอแมคคอย
ถ้าจบเรื่องนี้แล้ว ผมจะกลับไปคิดบัญชีกับคุณแน่
โทษฐานทำให้เชคอฟพาตัวเองไปตาย..........!
ซูลูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเก็บอาการอยู่เงียบๆ เด็กน้อยเลยทึกทักเอาเองว่าผู้ปกครองไม่โกรธและอนุญาตให้เค้าขับรถได้แล้ว
ซูลูสแกนปลายนิ้วทั้งห้าบนจอใสๆ
“คุณซูลู.........ผมขอขับรถได้ไหมครับ”
เชคอฟยิ้ม
“ไม่”
ซูลูสตาร์ทรถ แล้วออกตัวทันที
สงสัยผู้ปกครองจะยังไม่หายโกรธ............เชคอฟกลับมาทำหน้าจ๋อยเหมือนเดิมอีกแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------
----------------------
สัญญาณไฟบนเครื่องปรับอากาศกำลังเซตตัว
มันกลายเป็นไฟสีแดงจุดเล็กๆ และค้างไว้แบบนั้น แมคคอยนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกำลังมองดูจุดไฟสีแดงที่ไร้การกระพริบ
แล้วร่างสูงจึงตัดสินใจวางถ้วยกาแฟที่เพิ่งจิบ ลงบนโต๊ะเตี้ยๆ
ข้างหน้า
เค้าทำการปิดมันเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว............ตั้งแต่ตอนที่ซูลูเข้ามาแล้วพาเชคอฟออกไป..............ไม่มีหตุผลอะไรที่ต้องเปิดใช้มันอีก
ก็เค้ามันเป็นคน ECO ตัวพ่อนี่นา
อยู่คนเดียวแล้วจะเปิดทำไม เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติดีกว่า
มันดีต่อสุขภาพกว่าเยอะ..........
อย่างตอนที่จิมมาค้างบ้าน
(เพราะเมาค้าง) กัปตันหัวทองยังโวยวายเลยว่าทำไมถึงไม่เปิดแอร์ปล่อยให้มันร้อนตับแลบอยู่ได้
‘มีแต่นายคนเดียวนั่นแหละที่ร้อนตับแลบจิม.......ที่นี่
28 c๐ ไม่ได้สะกิดให้เหงื่อออกเลยสักกะติ๊ดเดียว’ แล้วเจ้าของบ้านก็พูดกลับไปแบบนั้นทุกทีที่โดนเพื่อนซี้บ่นเรื่องเครื่องปรับอากาศ
แต่วันนี้ประหลาด ไม่รู้ทำไมเค้านึกคึกอะไรขึ้นมา
เปิดเครื่องปรับอากาศไปที่ 23 c๐
............เปิดเย็นเป็นประวัติกาล................ (ไม่ได้ว่านะหมอ....: Ray- Aund)
เพื่อให้เจ้าหนูรัสเซียตัวน้อยนั่นได้นั่งดู TV LED Double Full HD ขนาด 65 นิ้ว อยู่บนโซฟาตัวโปรดของเค้าอย่างเย็นฉ่ำ แต่พอเจ้าซูลูเข้ามา
(แบบเสียมารยาทสุดๆ)
ไม่รู้ทำไมมันจะกดอะไรนักหนา แค่ครั้งเดียวก็รู้เรื่องแล้วโว้ย คนจะคุยกันไม่ได้รึไงห๊ะ............ร่างสูงได้แต่กู้ร้องในใจอย่างเซ็งๆ
(แล้วทำไมไม่พูดออกไปตั้งแต่ตอนนั้นล่ะหมอ......หึๆ เดี๋ยวมีโชคเลือด : Ray - Aund)
พอซูลูเข้ามาพูดๆๆๆๆๆ
แบบกะจะเปิดสงครามเย็นและสงครามร้อนกับเค้าได้เลย ทำหน้าหาเรื่อง แล้วก็พาเชคอฟออกไป
เท่านั่นแหละเครื่องปรับอากาศก็ถูกปิดทันที.............
...............เหมือนไม่รู้ว่าจะเปิดไปเพื่อใคร เค้ามันไม่ใช่พวกขี้ร้อนหรอกนะ
เหมือนเปิดเครื่องปรับอากาศเพียงเพื่อให้เชคอฟได้รู้สึกสบายตัวก็เท่านั้น...............
ก็เท่านั้นเอง
ยิ่งคิดก็ยิ่งถามตัวเอง
ยิ่งถามตัวเองก็ยิ่งหาคำตอบไม่ได้
นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย.........แมคคอยถอนหายใจออกมาเสียงดัง
“บางที
อาจจะเปิดเพราะกลัวเด็กมันโยเยก็ได้” นั่นคิดไปนั่น
แมคคอยพูดกับตัวเอง แล้วกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด
“อากาศมันร้อนไม่เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก”
นั่นคิดได้ยังไง (กี่ปีแล้วหมออออ เชคอฟกี่ปีแล้ว........ห้าขวบรึ! บ้าน่า......จะคิดอะไรก็ให้มันสมเหตุสมผลกว่านี้หน่อยเซ่!! >0< : Ray - Aund)
ไม่ไหวจะเคลียร์กับความคิดของตัวเอง
เพราะมันตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมด
ลีโอนาร์ด แมคคอย
จึงตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองซะที...............ทำให้หัวตัวเองเย็นลงซะบ้างเถอะ....................
แมคคอยถอดเสื้อผ้าออก
เข้ามาในห้องน้ำแล้วเปิดผักบัว ให้สายน้ำเย็นๆ รดใส่หัวของตัวเอง ร่างสูงเพียงอยากจะให้สายน้ำเย็นชะล้างเอาความสกปรกออกไป.............
............อาจร่วมถึงความสกปรกที่เค้าได้ทำลงไป..............
แต่ถึงกระนั้นก็มิอาจทำให้เค้าลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้
...................เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเค้า..................
...................มันเป็นความผิดพลาดของเค้าเอง..................
ใช่ ถ้านายไม่เมา
มันก็คงไม่เกิดขึ้นแมคคอย..............
------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------
---------------------------------------
++++++++
เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ++++++++++++
ร่างสูงกำยำตามแบบฉบับคนแดนใต้
เดินวนเวียนอยู่ในห้องของตัวเองมาได้สักพักหนึ่งแล้ว มือให้ยกขึ้นจับท้ายทอยของตัวเองอยู่เป็นระยะๆ
ท่าทางของเค้าดูเหมือนคนที่กำลังคิดไม่ตก
ที่หน้าบ้านของเค้ากำลังมีแขก ซึ่งคนๆ
นั้นก็เป็นคนที่เค้ารู้จักดี เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานกันนั่นเอง แมคคอยรู้ว่าแขกที่หน้าบ้านของเค้ามาเพื่ออะไร............
มาตามหาเด็กชายหัวนุ่นคนหนึ่งที่ไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนี้.............
และเด็กชายหัวนุ่นที่ว่านั้นก็นอนอยู่บนเตียงของเค้านี่เอง............
สิ่งแรกที่เค้าต้องพูดคืออะไรนะ..........แมคคอยจำไม่ได้เสียแล้ว
ในขณะที่ร่างสูงของนายแพทย์กำลังกดด่าตัวเองและคิดหาคำพูดทักทายเด็กน้อยอยู่นั้น
ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็เริ่มขยับ นายแพทย์ใหญ่หันไปมองทันที
อา
เชคอฟตื้นแล้ว
.
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หนูเช!!
ตื้นเร็วจังลูกกกก หมอยังเกาหงอกอยู่เลย เอ็า งานเข้าแล้วหมอ....
จะบอกน้องยังไงล่ะนี่
ติดตามได้ในตอนต่อไปที่อยู่บนเส้นทางฝันค่ะ
-_-*
5555555555
อย่างเพิ่งฆ่าเค้าน๊าาาาาาาาาาาา
M >0< M !!!!!
อยากอ่านกันเร็วๆ
ก็ให้กำลังใจและความคิดเห็นกันมาเยอะๆ นะค่ะ
รักรีดเดอร์มากมาย.................
ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund -..-
1 ความคิดเห็น:
เก็บกดค่ะ...กว่าจะหาเวลาอ่านได้ ชีวิตช่วงนี้วุ่นวายสุดๆ เลยค่ะ (บ่นๆๆๆๆ บลาๆๆๆ)<<//<
1. “เค้าไม่ได้ให้นายนอนบนโซฟาหรอกใช่ไหม!?” <<< คำถามนี้อันตรายอยู่นะคะซูลู
“เอ่อ........เปล่าฮะ” <<< ค่ะ...ไม่ได้นอนบนโซฟาหรอกค่ะซูลู แต่...
“ผมนอนบนเตียงครับ” <<< นั้นแหละ น้องไม่ได้โกหกสักหน่อยเนอะ แค่ไม่บอกรายละเอียดแบบเจาะลึกเฉยๆ -.-
2.ซูลูค่ะ ถ้าจะรักน้องหวงน้องขนาดนั้นเราแนะนำให้คุณทำตัวเป็นพระรองที่ดีค่ะ คือ...ปล่อยน้องไปซะเถอะค่ะ อารมณ์แบบ"ถ้าเธอมีความสุขแม้ต้องปล่อยเธอไปชั้นก็จะทำ" ไรงี้อะคะ(ซูลู : น้ำเน่า...*ยกดาบจ่อคอ*)
3.หมอคะ...ถ้ามันคิดมากนักแล้วจะติดมันไปตั้งแต่แรกทำไมคะแอร์นั้นน่ะ? *แว่วเสียงมีดปลิว*
“อากาศมันร้อนไม่เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก” <<< ตรงนี้ฮามาก 55555 หมอคะ ไม่ชงนมผงเอนฟาโปรใส่ขวดนมให้น้องด้วยเลยดีมั้ยค่ะ เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน *รู้สึกคราวนี้จะเป็นเสียงเครื่องเฉาะกระโหลกแหะ*
4.น้องขี้แย น้องน่ารัก รักน้องงงงงงงง >3<
5.จะได้รู้แล้วว่าหมอพูดไรกับน้อง แต่...ค้าง อ้าาาาาาาาาา เค้าจะอ่านๆๆๆๆๆๆ *ดิ้นพล่าน*
6.รักไรท์เตอร์ค่ะ Fightinggggg!!!!
แสดงความคิดเห็น