วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[SF - RonalSi] + [Part 1] The Storm...พายุโหมกระหน่ำ – Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 1]


อร๊าาาาาา! RonalSi! RonalSi! >{}< //ถือพู่// มาลงแล้วค่าา  ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีรีดๆ ทุกท่านอย่างเป็นทางการค่ะ  แว็บมาอีกแล้วสำหรับฟิค RonalSi อิอี๊วววว >< ไรท์ละหัวใจกระชุ่มกระชวยยยย  แต่ว่าเรื่องนี้มันสมชื่อจริงๆ ค่ะ 555+ //ชั่วร้าย//

คาแรกเตอร์นี้เนี่ยไรท์อยากเห็นเหมียวเป็นมานานแล้วค่ะ แล้ว He ก็จะโดนเฮียโด้.....อร๊ายยย ละไว้ในฐานที่ต้องอ่านกันค่ะ >< ไม่พูดและ  ไปอ่านกันเลยค่าาาา

ปล. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงเลยค่ะ ไรท์ฟินล้วนๆ 555+


---------------------------------------------------------------------------------------


สายตาคมประดุจเหยี่ยวทอดมองออกไปยังกลางสนามหญ้าสีเขียวขจี ซึ่งถูกย้อมด้วยสีส้มของแสงอาทิตย์ในวันศุกร์ที่เด็กทุกคนในเวลานี้ก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วด้วยใจจดจ่ออยากให้วันนี้หมดไปเร็วๆ  แต่ทว่าเด็กที่อยู่ชมรมฟุตบอลของโรงเรียนกลับไม่ใช่อย่างนั้น

ทุกเย็นวันจันทร์  พุธ  และศุกร์เด็กในชมรมทุกคนจะต้องอยู่เย็นเพื่อซ้อมและทำกิจกรรมของทางชมรม  และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน  แต่ต่างกันที่ว่าในเร็ววันนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียนเกิดขึ้น  ผู้ที่เป็นทั้งตัวจริงและตัวสำรองซึ่งเป็นตัวแทนของทางโรงเรียนจึงต้องอยู่ซ้อมกันและค่อนข้างจะจริงจังเป็นพิเศษเพราะใกล้ถึงวันแข่งขันแล้ว

  พวกที่ได้ลงแข่งในทีมหรือจะพูดให้ถูกก็คือพวกที่ฝีมือดีจะได้ใช้สนามหญ้ากว้างใหญ่ของโรงเรียนวิ่งไล่ลูกหนังไปตามสนามและสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย......ซึ่งส่วนมากแล้วตัวแทนของโรงเรียนนั่นก็คือพวกรุ่นพี่ในชมรมนั่นเอง  พวกรุ่นน้องถึงฝีมือจะแจ้งเกิดแต่ก็หมดสิทธิ์

และก็เช่นกันสำหรับรุ่นน้องถึงแม้จะไม่ได้วิ่งในสนามแต่ก็จำเป็นจะต้องอยู่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรุ่นพี่ ในยามที่พวกเค้าต้องการความช่วยเหลือ

“เฮ้ ขอน้ำหน่อยสิ”

“โอ๊ย ไม่ไหวขาฉันแข็งชะมัดเลย....นวดให้ที”

“น้อง......ขอน้ำมันมวยหน่อย”

“เฮ้ยยย  ลูกกลิ้งไปนอกสนามแล้วว!

“ขอผ้าเย็นถังหนึ่ง!

และอีกสารพัดที่รุ่นพี่นักกีฬาสุดฟิตจะบัญชา ให้รุ่นน้องสรรค์หามาให้........อ๋อ ใช่ รุ่นน้อง น่ะนะไม่ใช่ พวกรุ่นน้อง

“เฮ้  ไปเก็บบอลมาให้ทีสิ.....มันไปกองอยู่ตรงนั่นมากเกินไปแล้วนะ นายก็น่าจะรู้หนิว่าต้องเอามันกลับไปใส่ตาข่าย  จะต้องให้ฉันออกปากบอกเองหรือไง  ไม่ได้เรื่องจริงๆ .....อย่ามัวแต่เอาใจประจบประแจงไอ้เจ้าพวกนั่นมันมากนักสิ  นายกำลังจะลืมหน้าที่หลักของตัวเองอยู่นะรู้ตัวไหม” จู่ๆ รุ่นพี่คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาแล้วท้าวเอวพูดเสียงมีอารมณ์นิดๆ กับรุ่นน้องที่กำลังแบกกระติกน้ำใบใหญ่เกินขนาดตัวของเค้าอยู่

รุ่นน้องคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน และไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใดเพราะเค้าเต็มใจที่จะทำ ที่เข้าชมรมฟุตบอลมานี่ก็เพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง  และเด็กหนุ่มก็คิดว่าการฝึกซ้อมหนักๆ และการทำหน้าที่เป็นเด็กข้างสนามที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ

“ครับ....ได้ครับรุ่นพี่  เดี๋ยวผมจะไปเก็บเดี๋ยวนี้เลย” ร่างเล็กๆ ยกไหล่ขึ้นพร้อมกับยกกระติกน้ำให้ลอยขึ้นสูงจากพื้นก่อนจะค่อยๆ เดินโยกเยกอย่างรีบเร่งแต่ทว่าระมัดระวังเอากระติกน้ำไปเก็บไว้ในที่ของมัน นั่นก็คืออีกฝั่งหนึ่งของสนาม...........

เหตุที่ต้องยกข้ามสนามไปก็เพราะมีรุ่นพี่หลายคนที่อยู่อีกฝั่งออกปากสั่งเค้า  เด็กหนุ่มก็เลยต้องทำการยกกระติกน้ำเย็นๆ มาประเคนให้ถึงที่ และขนาดของมันก็เลี้ยงน้ำคนได้ทั้งกองทัพเลยทีเดียว

เมื่อทำการยกกระติกน้ำใบใหญ่เท่าถังเก็บน้ำมาไว้ข้างสแตนเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มก็เริ่มออกวิ่งไปเก็บลูกบอลที่กองเกลื่อนอย่างที่รุ่นพี่คนล่าสุดว่าเอาไว้  แต่คงเป็นเพราะรีบมากเกินไปเด็กหนุ่มร่างเล็กจึงเกือบชนเข้ากับคนที่นั่งอยู่บนสแตนชั้นล่างสุด

“อุ๊บ!.....เอ่อ ขอโทษครับพี่...เอ่อ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ถึงแม้จะไม่ได้ชนเข้าจริงๆ แต่อาการเลิกลั่กของเด็กหนุ่มก็บอกได้เลยว่าเค้าหวั่นเกรงประธานชมรมฟุตบอลคนนี้มากแค่ไหน  และชื่อของเค้าก็ถูกกลืนหายไปราวกับน้ำกรดกัดกร่อน หลังจากที่เด็กหนุ่มเอ่ยคำว่าพี่....เพียงเพราะเด็กหนุ่มไม่กล้าที่จะเอ่ยมันออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นนิ่งเงียบ ยังคงจ้องมองเด็กหนุ่มต่อไป จนคนที่อายุน้อยกว่าต้องเป็นฝ่ายวิ่งเบี่ยงออกไปเสียเอง  และสายตาคมประดุจเหยี่ยวนั้นก็จ้องมองเด็กหนุ่มคนนั้นต่อไป

“เฮ้ย ฉันเห็นนายจ้องตาเป็นมันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว......ข้องใจอะไรว่ะ? น้องคนนี้ฉันจองนะเว้ย.....ขยันดีแถมยังน่ารักอีกต่างหาก” เสียงของเพื่อนข้างกายเค้าดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดูในตอนหลัง  ร่างสูงของประธานชมรมไม่ได้โต้เถียงอะไรเพียงแค่เอ่ยออกมาสั้นๆ ด้วยเสียงทุ้มต่ำแต่ทว่าเยือกเย็น

“เปล่า”

ตัดไปที่กลางสนาม..........

ฮิ้ววว! น้องลีโอคนเก่งขยันจริงๆ ......น่ารักที่สุดเลยอ่ะ!” เสียงโห่แซวดังมาจากข้างประตูในขณะที่เด็กหนุ่มวิ่งหลุนๆ ข้ามสนามมาพร้อมกับตาข่ายเก็บบอลที่เริ่มจะเข้ามาพันตัวเค้าเสียเอง

เด็กหนุ่มเพียงแต่ส่งยิ้มให้เท่านั้น และเค้าไม่รู้เลยว่ายิ้มของตัวเองน่ารักขนาดไหนในสายตาของพวกพี่ๆ จึงทำให้เค้าเป็นขวัญใจของรุ่นพี่หลายๆ คนในชมรมไปโดยไม่รู้ตัว

มือเล็กๆ พยายามแกะตัวเองออกมาจากตาข่ายแล้วเริ่มยัดลูกบอลเข้าตาข่ายอย่างทุลักทุเล  จนเค้าเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของตาข่ายเก็บบอลรึเปล่า  ร่างเล็กๆ ยื้อหยุดกับตาข่ายอยู่นานจนเสียงทุ้มเข้มดังขึ้น

นั่นนายจะเก็บบอลหรือเก็บตัวเองน่ะ....เลือกเอาสักอย่างสิ”

พอเด็กหนุ่มหันควับไปอย่างรวดเร็วก็เจอเข้ากับคนที่เค้าคุยด้วยน้อยที่สุด “อะ เอ่อ....ผมกำลังพยายามอยู่ครับ  พยายามอยู่  แค่......มันติด....” มือเล็กพยายามแกะเส้นตาข่ายที่พันกับเชือกรองเท้าของตัวเองออก

ร่างสูงของประธานชมรมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเข้าไปกระชากตาข่ายออกมาจากตัวเด็กหนุ่มแล้วออกแรงดึงจนเส้นที่พันกับรองเท้าคู่เล็กตึงแน่น  มันหลุดออกมาจากกันในที่สุด และตาข่ายบางส่วนก็ขาดออกจากกันด้วย แต่ก็ถือว่ายังใช้การได้

“เอ่อ ขอบคุณครับ” ถึงแม้ลักษณะการช่วยเหลือจะไม่ได้น่าขอบคุณเลย  แต่เด็กหนุ่มก็อ้อมแอ้มตอบไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเค้าเล็กลง

..............เวลาอยู่กับพี่โรนัลโด้ก็เป็นแบบนี้ทุกทีนั่นแหละ...............

เพราะอีกคนหนึ่งได้เป็นถึงประธานชมรมฟุตบอลของโรงเรียนชั้นนำแห่งนี้และแถมยังมีทักษะการเล่นฟุตบอลที่เยี่ยมยอดขนาดหาตัวจับยากอีกต่างหาก  เค้าจึงเป็นเสมือนไอดอลของเด็กหนุ่มไปโดยปริยาย

............เพราะงั้นเค้าก็เลยตัดสินใจเข้าชมรมฟุตบอลแห่งนี้..............

แต่ทว่ารุ่นพี่กลับค่อนข้างจะมีโลกส่วนคัวสูง และจะไม่ค่อยคุยกับเด็กที่อายุน้อยกว่า  หากจะเห็นว่าชายคนนี้เปิดปากพูดคุยแบบธรรมดาก็เห็นจะมีเพียงแต่ตอนที่อยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันเท่านั้น  แต่ถึงกระนั้นรุ่นพี่ร่างสูงผิวสีแทนตรงหน้าก็เหมือนกับเป็นต้นแบบที่สักวันหนึ่ง ลีโอเนล   เมสซี่ คนนี้จะต้องเป็นอย่างเค้าให้ได้

ร่างเล็กผงกหน้าขอบคุณรุ่นพี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรวบเอาหูของตาข่ายเก็บฟุตบอลมาไว้ในอุ้มมือน้อยๆ ซึ่งบัดนี้มีรอยแดงเป็นปื้นอยู่เต็มฝ่ามือซึ่งมาจากการแบกกระติกน้ำข้ามสนามไปข้ามสนามมา  ร่างเล็กๆ ที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามกีฬาตัวโคร่งและกางเกงกีฬาสีดำตัวเก่งกำลังจะเคลื่อนกายลากตาข่ายหนักอึ้งไปเก็บไว้ในที่ของมัน  แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มชวนให้หยุดหายใจก็ดังขึ้น

“เดี๋ยว...”

“อ๊ะ ครับ”

“เพื่อนของนายหายไปไหนหมด” โรนัลโด้ถามเสียงเรียบราวกับมันเป็นแบบทดสอบ

“เอ่อ....พวกเค้าคงมีเรื่องสำคัญต้องไปทำล่ะมั่งครับ เห็นสตีฟบอกว่าที่บ้านเค้ากำลังจะมีน้องและเค้าก็เลยต้องไปเฝ้าแม่ที่....โรง...พ..ยา..บาล.....” เสียงเล็กขาดช่วงและเบาลงจนขาดหายไปในท้ายประโยคเมื่อหันไปเจอสายที่จ้องมองมาราวกับว่าเค้ากำลังทำความผิด

ผิดแล้ว เพื่อนนายไม่มีใครอยากจะอยู่เป็นเด็กรับใช้ในเย็นวันศุกร์กันหรอก ที่บอกนายและฉันมันก็เป็นแค่ข้ออ้าง  และเด็กในชมรมก็ไม่มีใครติดธุระสักคน” เสียงเข้มคมชัดทุกถ้อยคำและการเน้นย้ำคำสุดท้ายก็ราวกับจะบอกว่า มีเพียงเด็กหนุ่มนามเมสซี่เท่านั้นที่เป็นเด็กรับใช้ของรุ่นพี่เพียงคนเดียวในสนาม

เมสซี่ก้มหน้ามองมือของตัวเอง เค้ากำลังกำตาข่ายเก็บบอลอยู่และเมื่อยามคลายมือออกก็เผยให้เห็นรอยแดงจากอาการที่เรียกว่าพุพอง  เด็กหนุ่มไม่ตอบเพียงแต่ก้มมองมือตัวเอง

“แล้วทำไมนายไม่กลับบ้านไป......ฉันเชื่อว่าเพื่อนของนายก็ชวนนายกลับบ้านโดยหาข้ออ้างกับฉันเหมือนกันใช่ไหม” โรนัลโด้ยกมือขึ้นกอดอก

เมสซี่เม้มริมฝีปากเน้นก่อนจะพยักหน้าตอบน้อยๆ “ใช่ครับ...”

“แล้วทำไมนายไม่กลับ”

“ผม...ผมคิดว่ารุ่นพี่น่าจะมีคนคอยช่วย  ถ้าผมไม่อยู่ใครจะเป็นคนยกกระติกน้ำให้รุ่นพี่  ใครจะหาผ้าเย็นมาให้  แล้ว...ใครจะนวดให้ตอนที่พวกพี่ปวดขา........ผมคิดว่า ผมน่าจะพอช่วยได้....” ตลอดประโยคเสียงอ้อยอิ่ง เด็กตัวเล็กไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ผู้น่าเกรงขามเลย  ทุกคำที่เด็กหนุ่มพูดออกไปฟังดูแผ่วเบาจนน่าใจหาย

“นายคิดว่านาย...น่าจะพอช่วยได้ ยังงั้นเหรอ?” ร่างสูงเลิกคิ้วแล้วทำหน้าที่เค้าเรียกกันว่า หงุดหงิด

“คะ ครับ”

“งั้นนายก็เอาตาข่ายเก็บบอลที่เหลือไปเก็บไว้ในที่ของมันด้วยล่ะกันนะ” ร่างสูงตบหน้าขาก่อนจะโน้มตัวลงมาสั่งเด็กหนุ่มเสียงชัดเจน  เมสซี่เงยหน้าขึ้นมาแล้วรับคำอย่างเสียไม่ได้

“คะ ครับผม” ก่อนที่ร่างสูงจะทำหน้าพอใจแบบที่เมสซี่ก็ไม่แน่ใจนักว่าพอใจจริงหรือเปล่า แล้วประธานของชมรมก็วิ่งเข้าไปในสนามแล้วเริ่มซ้อมผลัดบอลกับเพื่อน

เมสซี่หันหลังกลับไปมอง ตาข่ายเก็บบอล สามใบที่บรรจุลูกบอลอยู่เต็มตาข่ายที่มุมอัฒจันทร์อย่างตกใจนิดๆ แล้วก็ต้องเดินคอตกไปลากทั้งหมดนั่นกลับไปเก็บในห้องเก็บอุปกรณ์  และเนื่องด้วยในสนามตอนนี้มีรุ่นพี่ทุกคนซึ่งกำลังซ้อมกันอยู่อย่างจริงจัง  เด็กหนุ่มตัวเล็กจึงตัดสินใจลากตาข่ายอ้อมสนามไปเสียดีกว่า............เดี๋ยวจะไปกวนพวกพี่ๆ เค้าเสียเปล่าๆ...............

มือที่ไม่เคยได้ทำงานหรือยกของหนักมาก่อนก็เกิดอาการพองมากยิ่งกว่าเดิม  แต่เด็กหนุ่มก็ทำเป็นไม่สนใจมันแล้วกัดฟันลากตาข่ายต่อไป จนกระทั่งเกิดแรงฉุดกระชาก แย่งตาข่ายบอลทั้งหมดให้หลุดออกจากมือเค้า

น้องลีโอ....เดี๋ยวพี่จะช่วยเอง  ให้เด็กตัวเล็กๆ ลากของหนักขนาดนี้ข้ามสนามได้ยังไงเนี่ย มือเล็กๆ จะช้ำซะหมด” รุ่นพี่ที่วิ่งเลยออกมาจากสนามด้านในยิ้มแฉ่งให้แก่เค้า หลังจากที่เจ้าตัวทำการแย่งภาระทุกอย่างออกจากมือของเค้าไปเสียหมด

“เอ่อ พี่เนย์มาร์ไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวผมเอาไปเก็บเอง....พี่เนย์มาร์กลับไปซ้อมเถอะครับ นี้มันงานของเด็กเก็บบอลนะครับ” เมสซี่เลิกลั่กและพยายามแย่งตาข่ายกลับมา แต่ทว่าไม่ประสบผมสำเร็จ

“ไม่เอาน่าเบบี้...เดี๋ยวพี่จะจัดการเอง เรายืนอยู่เฉยๆ เถอะ” ว่าแล้วเฮียเนย์ก็ทำการวิ่ง 4 x 100 เมตรผสมกับลากของหนักพุ่งไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำทักท้วงใดๆ ของเด็กเจ้าของสัมภาระเลยสักคำ   เมสซี่ยืนมองพลางกลืนน้ำลายลงคออย่ายากลำบาก

แล้วถ้าพี่โรนัลโด้รู้เค้าจะว่ายังไงล่ะเนี่ย.........เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างหวั่นๆ แล้วรุ่นพี่แสนใจดีก็วิ่งกลับมาหาเค้าอย่างรวดเร็วพลางยีหัวเล็กๆ เล่นอย่างเอ็นดู

“อย่าทำอะไรที่มันเกินตัวมากนักล่ะ  ตัวเล็กๆ อย่างนี้เดี๋ยวจะแย่เอาซะก่อนได้ลงสนามจริงๆ นะ”

“ฮ่าๆๆ ไม่หรอกครับ  อีกอย่างคงจะอีกนานเลยกว่าผมจะได้ลงสนามโรงเรียนเหมือนกับพวกพี่ๆ ..........ขอบคุณมากครับ” เด็กน้อยยิ้มจนตาหยีแล้วกุมมือของตัวเองเอาไว้  เนย์มาร์ยิ้มตอบไปอย่างรู้สึกอยากหยิกแก้มเข้าสักทีหนึ่ง แล้วเค้าก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในสนาม  แต่หลังจากพ้นสายตาของรุ่นน้องมาแล้วสีหน้าหนักใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเนย์มาร์

“นายมันเกินไปจริงๆ” เค้าว่า....แต่หาได้พูดถึงเด็กคนนั้น  แต่กลับเป็นคนที่เค้าวิ่งเข้ามาหาแทน

“นายใช้เค้าหนักเกินไปนะคริส” ร่างสูงที่ถูกพูดด้วยก็เพียงแค่หันมองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและความร้อนจากแสงแดดเท่านั้น

“อะไร” เสียงของร่างสูงผิวสีแทนค่อนข้างห้วน เพราะไม่ได้สนใจเพื่อนข้างๆ เท่าใดนัก

“ฉันหมายถึงเด็กคนนั้น  นายใช้เค้าหนักเกินไป เค้าตัวเล็กกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำนาย....เฮ้ย ฟังฉันอยู่ป่ะเนี่ย?” เนย์มาร์มีสีหน้าอยากเตะคนขึ้นมาทันทีที่โรนัลโด้วิ่งออกไปแล้วแย่งบอลมาจากเพื่อนคนอื่น  ชายหนุ่มผิวสีเข้มกว่าส่ายหน้าอย่างระอาช้าๆ ก่อนที่จะวิ่งตามประกบลูกบอลเช่นคนอื่นๆ ในบริเวณนั้น

ส่วนเด็กที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในชมรมก็ยังคงทำหน้าที่ที่ไม่มีวันจบสิ้นของตัวเองต่อไป  โดยที่เค้าไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาคมกริบของประธานชมรมกำลังจ้องมองเค้าอยู่เป็นระยะๆ

จนกระทั่งได้เวลาที่ทุกคนทำการซ้อมเสร็จสิ้นเสียที แต่นั่นก็เป็นเวลาย่ำเย็นพอสมควรแล้ว  ร่างเล็กกำลังเก็บข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ของเค้าลงในกระเป๋าสะพายใบเล็กของเค้า  รุ่นพี่ผมบล์อนคนหนึ่งก็ทักขึ้นด้วยสีหน้ายินดี

“เลิกซ้อมแล้วน่าลีโอ กลับบ้านได้แล้วล่ะ....วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ”

“ครับ ไม่เป็นไรครับผมยินดีทำอยู่แล้ว.....” แต่ยังไม่ทันที่รุ่นพี่คนเดินจะได้กล่าวอะไรต่อก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มเสียก่อน

“วันนี้นายจะยังกลับบ้านไม่ได้เมสซี่

เมสซี่สะดุ้งเฮือก เพราะเสียงนั้นใกล้ตัวเค้ามาก  ร่วมทั้งรุ่นพี่คนเดิมด้วยที่มีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่พอได้รับสายตาเชือดเฉือนที่ส่งมาก็จำเป็นต้องถอยกรูแล้วหันกลับไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองต่อทันที  เด็กหนุ่มหันไปข้างหลัง

“นายจะต้องไปเก็บกวาดสนามให้เรียบร้อยก่อนที่คนทำความสะอาดจะมา และห้ามใครช่วยนายเด็ดขาด”

“ตะ แต่ว่าพี่...เอ่อ ผม...คือว่ามันจะ...”

อย่ามาแต่กับฉัน......นี่ฉันยังไม่ร่วมที่เนย์มาร์มาช่วยนายอีกนะ”

แล้วร่างเล็กก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกแล้วเดินคอตกกลับเข้าสนามไปอย่างเสียไม่ได้  ท่ามกลางสายตาแห่งความเห็นใจของคนทั้งชมรมที่เหลืออยู่

“พวกนายทุกคนเสร็จแล้วก็กลับบ้านไป อย่ามัวลีลา.....พรุ่งนี้เราต้องมาซ้อมกันแต่เช้า” โรนัลโด้สั่งชัดและไม่มีใครกล้าขัดขืนหรือปฏิเสธ ทุกคนจำต้องยอมรีบอานน้ำ เก็บของแล้วกลับบ้านไป

เมสซี่เดินกลับไปที่สนาม ซึ่งบัดนี้มีเศษขยะและผ้าเย็นที่ใช้แล้วเกลื่อนอยู่เต็มขอบสนาม เด็กหนุ่มลงมือเก็บอย่างรวดเร็วและพบว่ามันเสร็จเร็วกว่าที่เค้าคิดไว้ เพราะโชคดีที่ผ้าเย็นชุดนี้เป็นแบบสำหรับใช้ครั้งเดียวทิ้ง เค้าจึงไม่จำเป็นจะต้องซักแล้วตาก นั่นคงจะใช้เวลาเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว

และเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เด็กหนุ่มร่างเล็กก็เดินลากกระเป๋าลงมาจากอัฒจันทร์แล้วเหวี่ยงมันขึ้นบ่าอย่างเหนื่อยอ่อน............พรุ่งนี้เค้าก็จะมาช่วยพวกรุ่นพี่อีกแน่นอน เพราะเมสซี่คนนี้ไม่เคยพลาดเลยสักนัดเดียว..............

ถึงแม้จะไม่มีคนเอ่ยชวนเค้าก็เถอะ  ลีโอเนล   เมสซี่ คนนี้ก็พร้อมที่จะออกจากบ้านมารออยู่ที่ข้างสนามแต่เช้าอยู่แล้ว

แขนเสื้อกล้ามกีฬาสีขาวเหลือบฟ้าตัวโคร่งขยับไปมาบนไหล่เล็กๆ ยามที่เจ้ากำลังเดินทางกลับแบบอย่างที่เคยเป็นเช่นทุกวัน  เด็กหนุ่มร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร ในมือข้างหนึ่งก็เกี่ยวเกาะลูกฟุตบอลลูกโปรดเอาไว้ข้างเอวเล็ก  กระเป๋าเป้ข้างหลังก็ส่ายไปมาเล็กน้อยยามเมื่อเด็กน้อยก้าวเดินไปบนถนนสายร้างผู้คนเส้นนี้ที่เค้าชอบใช้เพื่อเลี่ยงความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา

ซอยระหว่างบล็อกแคบๆ ทอดยาวอยู่ตรงหน้าเค้า ด้านข้างคือตึกพาณิชย์และอาร์พาร์ทเมนท์ที่แทบจะบีบตัวเข้าหากันได้อยู่แล้ว  แต่มันก็ยังเหลือพื้นที่ขนาดราวๆ สองเมตรให้เค้าได้เดินสบายๆ กลับบ้านทุกวัน

ใกล้ค่ำเต็มทีแล้วในขณะที่เมสซี่เดินอยู่ในซอยเล็กๆ นี้และคาดว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงที่นี่ต้องถูกปกคลุมไปด้วยความมืดเป็นแน่

..........และเค้าก็จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะอาหารที่แม่บอกเอาไว้ว่าวันนี้จะทำของโปรดของเค้าเสียเต็มโต๊ะไปเลย  เมื่อหวนนึกถึงคำพูดและสีหน้าอิ่มเอมของแม่ก่อนออกจากบ้าน เมสซี่ก็ยกยิ้มขึ้นอย่างสดใสราวกับตอนเด็กๆ ที่เค้าได้ไปเที่ยวสวนสนุกเป็นครั้งแรก

..................ชีวิตของเค้ามีความสุขเสมอ เพราะคนรอบข้างล้วนแต่รักเค้าและเค้าก็รักทุกคนมากด้วยเช่นกัน...............

แต่ทว่าวันนี้ต่างออกไป............

แต่แล้วขาเล็กๆ ก็พลันหยุดก้าวเดิน เมื่อมีกลุ่มคนที่ไม่รู้ว่ามาจากทางไหนขว้างทางเค้าอยู่  เมสซี่ชะงักกึกทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ทางกลับบ้านของเค้าไม่ใช่ทางนี้นี่ แล้วทำไม เอ่อ....ช่างเถอะ เค้าอาจมาบ้านเพื่อนก็ได้มั่งเห็นว่ามีเพื่อนอยู่แถวนี้นี่นะ.......ร่างเล็กคิดในใจขณะไม่ไหวติงใดๆ  เด็กหนุ่มยังคงจ้องมองเด็กชายที่อายุมากกว่าสามคนซึ่งขว้างทางเค้าอยู่....หรือเค้าขว้างทางอีกฝ่ายอยู่กันแน่?

เบื้องหน้า........หนึ่งคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเค้า และอีกสองที่อยู่ต่างโรงเรียนและแต่งตัวราวกับศิลปินฮิบฮอบก็ไม่ปาน กำลังยืนกังก้าจ้องเค้าอยู่

เมสซี่กลืนน้ำลายแล้วกระพริบตาหวาดๆ ก่อนจะคิดโยนความผิดให้ตัวเองว่า ดันไปขว้างคนพวกนี้เข้าเสียเองแล้วก้มหน้ายอมรับความผิด เค้าพยายามทำตัวเล็กๆ แล้วหาช่องว่างเดินผ่านคนพวกนี้ไปให้ได้แต่ทว่า...........

“เอ่อ...ขอโทษครับผมขอ....อ๊ะ!” เสียงสั่นๆ ที่กำลังจะเอ่ยขอทางอย่างสุภาพก็สะดุดขึ้นแล้วแทนด้วยเสียงร้องหลงอย่างตกใจของเด็กหนุ่ม  เมื่อหัวไหล่เล็กโดนผลักออกอย่างแรงจนทำให้เมสซี่ล้มลงไปก้นจั้มเบ้ากับพื้น  ลูกบอลนำโชคของเค้ากลิ้งกระดอนไปไกลจนไม่สามารถเอื้อมมือไปเก็บได้  ร่างเล็กมีสีหน้าหวาดกลัวมากกว่าเดิมเมื่อช้อนตามองคนที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหาเค้า

ชายคนนั้น.....ที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเค้า.....คุกเข่าลงตรงหน้า แล้ววางแขนลงบนเข่าที่ชันขึ้นเล็กน้อย เสียงที่ฟังดูชวนหายใจไม่ออกเอ่ยขึ้น

“นายกำลังจะกลับบ้านงั้นหรือ?” สายตาของชายหนุ่มคนนั้นลากไล่ไปทั่วตัวของเมสซี่ตั้งแต่ปลายเท้าที่ชนเข้าหากันไปจนถึงใบหน้าที่แสดงออกมาเลยว่ากำลังเสียขวัญอย่างแรงในขณะนี้

.

.

.

TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------


โอเคค่ะ  รีดคิดว่าใครจะออกมาช่วยเอ่ยย?  อิๆ ไรท์ไม่บอกหรอก [ถึงแกไม่ออก เค้าก็คงจะเดากันออกแหละ -_-“] 555+ เดี๋ยวไรท์จิมาเฉลยใน Part ต่อไปนะค่ะ ^^

อร๊ายย น้องเหมียวน่ารักไหมอ่าา เดี๋ยวไรท์จะลงตอนต่อไปที่เหมียวน่าแกล้งยิ่งกว่านี้อีกค่ะ 555

เม้มท์ให้ไรท์ชื่นใจกันหน่อยนะเออ  แล้วไรท์จะมีกำลังใจแต่งฟิค RonalSi ที่วางพล็อตไว้อย่างยิ่งใหญ่ในตอนแรกค่ะ [แต่พะเอิญว่ามันไม่ฟิน ความรู้สึกที่ผุดขึ้นมามันเป็นโมเม้นประมาณนี้อ่ะค่ะ แบบ The Strom นี่แหละค่ะ ไรท์เลยระบายยยซะจบไปเรื่องหนึ่งเลยนะเออ 55….ฟิค RonalSi เรื่องแรกที่ไรท์ได้บอกไว้นั้นก็รอหน่อยนะค่าาา]

รักรีดทุกท่านค่ะ  ปล. แปะเฟส >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<


*************************************************

ภาคสองมาแล้วนะคะ ^^ กดชื่อเรื่องเพื่อตามลิงค์ที่ซ่อนไว้ได้เลยค่าาา



----------------------------- อัพเดต วันที่ 11/2/16 --------------------------------

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



8 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

ชื่อเรื่องสุดยอดมากค่ะ และเดาว่ามันแลจะเป็นเช่นนั้นจริงๆเสียด้วย พล็อตนี้น่าสนใจมาก รู้สึกว่ามันแปลกใหม่ แต่โดนใจมากๆค่ะ ชอบคาแร็กเตอร์แต่ละคนแบบนี้มาก มันช่างเหมาะเจาะจริงๆ

อ่านไปรู้สึกได้ว่ารุ่นพี่อย่างโรนัลโด้นี่น่ากลัวมาก รู้สึกจะเชือดเฉือน กดดันรุ่นน้องสุดๆเลยนะ เหมือนจะมีออร่าความน่าหวาดเกรงแผ่ออกมา //ดูใช้ศัพท์
แต่ลีโอน่ารักมากค่ะ น่าแกล้งจริงๆด้วยแหละ -..- ส่วนเนย์มาร์เหมือนจะเป็นรุ่นพี่ที่แสนดี แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน(?) เพราะคริสเตียโน่คงไม่ยอมปล่อยให้เนย์มาร์ข้ามหน้าข้ามตาไปง่ายๆ

ถึงอย่างไรก็อย่าใจร้ายกับรุ่นน้องนักเลยย เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีของลีโอซะแล้วล่ะ...

รออ่านต่อนะคะ ตื่นเต้นๆ ;);)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ว่ะ ตื่นเต้นน น
คริสใช้งานน้องมากไปนะ ดูดิต้องกลับบ้านดึกเลยย;-;
มาช่วยน้องด้วยว้อยยพี่คริส
พี่เนย์เต๊าะเด็กหรอ เดี๋ยวเจอพี่คริสนะ 5555555
อัพต่อไวๆ นะค้า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากอ่านต่อแล้วครับผม .มากรี้ดแล้วจากไป
อีพต่อไวๆนะครับ ♥

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พี่โด้มาช่วยเดี๋ยวนี้.................น้องเมสจาแย่แล้วววววว
อยากอ่านต่อเเล้วอ่าาามาต่อเร็วๆน้าาา
จาก going aksorn

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไรท์สู้ๆ..555 จะลืมให้กำลังใจไรท์ไม่ได้เด็ดขาด
Going aksorn

โบว์ กล่าวว่า...

กี๊ซซซซซ เราชอบฟิคแบบนี้~~
ชอบจังที่ชายโด้ใจร้ายกับเหมียว 55555555

เหมียวน้อยผู้น่าสงสาร เกิดมามีกรรมตัวเตี้ย ยังจะโดนเขาใช้เป็นเบ๊อีก
โถถถถถ่ สามี~~ #ข้ามไป

โด้ใจร้ายไปแล้ววว สงสารน้องหน่อยเซ่ะ ขาสั้นๆแบบนั้นจะไปเดินกวาดนู้นกวาดนี่ เก็บนู้นเก็บนี่ไหวได้ไงงง
ฮ่าาาาา

สะดุดตรงพี่เนย์มาร์นิสๆ อ่านแล้วจั๊กจี้ สงสารน้องเนยเหตุใดฟิคหลายเรื่องถึงให้แกเป็นพี่
แกอ่านไทยออกแกคงน้อยใจแย่เลย 555555555

ชื่อฟิคเหมาะกะเนื้อเรื่องนี้มากก คือโด้แม่มพายุจริงๆ TvT

Pinn13 กล่าวว่า...

ตามมค่าา น่ารักมากเลยย พี้โด้อย่าใจร้ายกับเหมียวมากนะ5555555 ชอบแนวรุ่นพี่รุ่นน้องมากก มันน่ารักมากอิอิ ตามอ่านมาหลายเรื่องแล้วค่ะ พึ่งจะมีโอกาสได้เม้นท์ ขอโทษด้วยน้า ชอบทุกเรื่องเลยย เป็นกำลังใจให้นะคะ <3

PatchO_ZA กล่าวว่า...

หมอแมคคอยกับหนูเชคอฟยังไม่ได้อ่าน
The maze runner ก็ยังไม่ได้อ่าน

ขออ่านเรื่องนี้ก่อนนะคะฟฟฟฟฟ ชื่อเรื่องรู้สึกมันก๊าวใจ 55555
เห็นในเฟซอัพตอนที่ 2 แล้ว เราต้องลุยตอนแรกก่อนเดี๋ยวไม่รู้เรื่อง XD

ทำไมเมสซี่ดูน่ารักอ่า เป็นที่น่าเอ็นดูสุดๆเยยอ่า
แล้วทำไมพี่โด้ต้องใช้น้องหนักขนาดเน้
โดนดักฉุดแล้วมั้ยเห้ย อย่าทำอะไรเมสซี่คลุงนะ!!!

#กลิ้งไปอ่านตอนต่อไป