กราบบบบบบบ สวัสดีรีดๆ สาวก
RonalSi ที่รักทุกท่านค่ะ
M_ _M //กราบแล้วเอียงตัวหลบรองเท้า// ต้องขออภัยอย่างมหาศาลจริงๆ เลยค่ะ ที่ไรท์หายไปนานมาก แบบหายไปเลยยยย.......ไรท์ต้องขอโทษจริงๆ
ค่ะ แบบว่าไร้สัญญาปรากฏบนจอเรดาห์
แม้แต่ในเฟสก็เงียบหา ไร้โพสต์
ขอโทษจริงๆ นะคะ แต่ไรท์ไม่ได้หายหรือถอดใจไปไหนเลยค่ะ เพียงแค่ว่าภาระกิจตอนนี้มันเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองค่ะ
และเวลาว่างที่เหลือไรท์ก็เอาไปปั่นฟิคค่ะ 555555
เพราะงั้นก็เลยยังว่างมาสักทีนะเออ
//รีดบอก...ฉันลืมไปแล้ว
ตอนล่าสุดเป็นไง ทิ้งไว้นานจัด -_-*//
เพิ่งจิได้แวบมาาาาา ฮาาาาาา
มาต่อกันในตอนที่นายกองนอยเออร์กะเหล่าลูกเสือทั้งสี่กำลังจะหารือกันว่าออกไปขอความช่วยเหลือดีหรือไม่นะคะ และ Part นี้เป็นตอนต่อจากนั้นค่ะ
เอาล่ะค่ะ ใครคิดถึงโด้เหมียวก็ไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}<!!
------------------------------------------------------------------------------------------------
“โอ๊ย
เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันสักที
เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะ....มานูเอลนายนำไปเลย ตอนนี้เราขยับมาอยู่ท้ายๆ แล้ว ถ้าจะไปล่ะก็ทางสะดวก.....ขอร้องเหอะ
ฉันอยากเจอลีโอ รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้แฮ่ะ”
เนย์มาร์พูดเสียงสุดจะทนกับความอัดอั้นที่เค้านั่งตบตีกับมันอยู่ แต่นอยเออร์ถอนหายใจ
.
.
********************************************************************************
.
.
..............ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ว่านี่มันแอบลักลอบออกไปเลยนะ พวกเค้าต้องจัดการกับอีกฝ่ายหนึ่งสองหรือสามคน ไม่ใช่แค่เชฟลูกเตะให้ได้เหมือนในสนาม........นั่นน่ะมันคนละเรื่องกันเลย
แต่ท้ายที่สุดแล้ว
ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันก็ไม่มีทางเลือกที่ดีที่สุดมากไปกว่านี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำอะไรสักอย่างบ้าง
นอยเออร์จึงพยักหน้าในที่สุด
“ถ้าเราไม่มีทางเลือกแล้ว......จะเอางั้นก็ได้”
“เยี่ยม!”
เนย์มาร์ที่ลุ้นจนตัวโก่งก็สมหวังในที่สุด
แล้วพวกเค้าก็เริ่มแผนการออกไปอย่างไม่มีขั้นตอนอะไรเลย.............
มันแสนจะธรรมดาและเรียบง่าย เป็นหลักการที่หนุ่มๆ เลือกใช้ และเนย์มาร์ก็เรียกมันว่า
“ปฏิบัติการดับเครื่องชน” เริ่มจากการที่พวกเค้าค่อยๆ
หายตัวไปจากที่ชุมนุมของบรรดาแขกหรือ
และเป็นเพราะโรงแรมตั้งอยู่บนที่สูงเหนือเชิงเขาขึ้นไปเพื่อเป็นจุดขายของโรงแรมและเรียกลูกค้า
จึงค่อนข้างห่างใกล้จากสำนักงานต่างๆ เหตุเพราะ CEO ของที่นี่ต้องการให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์แห่งริโอโดยเฉพาะ
แต่ทว่าความสะดวกสบายที่ครบครันก็มาพร้อมกับความปลอดภัยที่ไม่เพรียบพร้อมในเวลาเดียวกัน
ห้าหนุ่มบอยแบนด์ในตำนานเดินหลบสายตาของคนหมู่มากออกมาทางเขตแดนของโรงแรมแล้วช่วยกันจัดการชายถือปืนห้าคนอย่างเงียบเชียบที่สุด
(ถ้าหากโหวตว่าใครบ๊วยสุดก็คงจะเป็นเปเป้ที่ใช้มุขชี้ให้โจรดูนกชมไม้แล้วซัดเอาตอนเผลอ แต่เนย์มาร์ก็ไม่น้อยหน้าตามมาติดๆ
กับท่าสับหูเหิรหาวที่ใช้ทีเผลอของคู่ต่อสู้ตรงเข้าไปสับหูคู่กรณีให้เจ็บปวดด้วยเช่นกัน)
และไม่น่าเชื่อ
ด้วยความร่วมมือของพวกเค้า ทั้งห้าคนก็สามารถรอดพ้นออกมาได้
พร้อมกับสมุนโจรวิ่งตามมากันเป็นพรวน(?).........
“ฉันจะไม่ตายทีนี้ว้อยย
ฉันจะไปช่วยลีโอ....!” เนย์มาร์วิ่งมาเป็นอันดับสอง
แต่ไม่อาจเทียบเท่าเปเป้ที่วิ่งนำมาเป็นอันดับหนึ่งได้
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ! ว่าแต่ทำไมมันถึงไม่ยิงเราว่ะ”
“ให้มันมายิงตูดแกสิ!”
เนย์มาร์หันมาแหวใส่
พวกเค้าวิ่งด้วยความเร็วแสงของนักฟุตบอลลงเนินเขาจนมาถึงโค้งใหญ่แล้ว
พร้อมด้วยคอลเล็คชั่นโจรมากมายเกินจะสะสมไหว
มึลเลอร์ตะโกนตอบ
เค้าวิ่งปิดท้ายชไวนี่ “ก็พวกนั้นไม่อยากเสียงดังให้ตำรวจแห่มาไง! ไอ้พวกโง่!”
ชไวนี่หันมาพูดกับมึลเลอร์ “อย่างที่มานูเอลทำน่ะเหรอ”
เสียงเค้าดูไร้เดียงสาไม่เหมาะกับสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง
“พอสักทีบาสเตียน”
นั่นเสียงนอยเออร์ ร่างสูงที่สุดหันมาทางด้านหลังของตัวเอง
เสียงฟังดูเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ติดจะเบื่อหน่ายเล็กน้อย
“ห๊ะ อะไรนะบาสตี้”
มึลเลอร์ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอีก ในขณะที่พวกเค้าวิ่งพ้นโค้งใหญ่มาได้แล้ว
“ก็ตอนที่ไปช่วยฉันน่ะ
มีโจรคนหนึ่งจะยิงเรา มานูเอลก็เข้าไปแย่งปืนกันจนเสียงดังเปรี้ยง
ปร้างไปหมดเลยล่ะ แล้วนายก็ทำอะไรนะ.....อ๋อ
แล้วเค้าก็จัดการมันซะน้วมเลย”
ชไวนี่พูดยิ้มๆ เหมือนเค้าภูมิใจในตัวเพื่อนเอามากๆ ก่อนมึลเลอร์และคนอื่นๆ
จะถึงบางอ้อในที่สุด
“อ๋อ นายนี่เองที่ทำให้เกิดเสียงปืนลั่นซะสะนั่นฟ้านั่นน่ะ”
มึลเลอร์ชี้ไปที่นอยเออร์ที่ไหวไหล่ไปด้วยวิ่งไปด้วย และเปเป้ก็ตะโกนไล่หลังมา
“ชไวนี่!
นายโชคดีชะมัดที่มีคนดูแลดีขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายถึงยังโลกสวยมาจนถึงตอนนี้”
พูดความในใจแค่นั้น ก่อนทั้งห้าจะห่อตะบึงกันมาเกือบไมล์ครึ่งและพวกที่ตามมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดละเลยเช่นกัน
เนย์มาร์รู้สึกเซ็งสุดขีด “โธ่เอ้ย!! ฉันนึกว่าตำรวจมันจะมากันแล้วเหอะ.....ไปมุดหัวอยู่ไหนกันหมดว่ะ
ถ้าเจอนะฉันจะด่ามันให้ไม่รู้เรื่องเลย!”
“ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ? แกจะด่ามันว่าอะไรน่ะ”
เปเป้หันมาถามเนย์มาร์ซึ่งตอนนี้วิ่งมาเทียบเคียงเค้าแล้ว
“ฉันก็จะด่ามันว่า......” เนย์มาร์บอกอยู่ข้างหูเปเป้
เค้าพยักหน้าเห็นด้วย แล้วชายบราซิลก็เกิดนึกอะไรเจ๋งๆ ขึ้นมาได้
จึงหันไปตะโกนบอกนอยเออร์และมึลลอร์ที่อยู่หลังบ้าง ถึงสิ่งที่เค้าเตรียมจะจัดให้เมื่อเจอกัน
..........ถ้าตำรวจเจอก็คงจะงงกันไปเลยจริงๆ
ล่ะ............
“ว่าแต่....เอ่อ....นี่เราจะวิ่งจนไปถึงกรมตำรวจเลยรึไงฟ่ะเนี่ยยย!”
เปเป้ตะบันเสียงสติแตก เพราะเค้าเริ่มเหนื่อยแล้ว......และพวกผู้ร้ายถึกๆ
ข้างหลังก็ไม่ยักกะเหนื่อยด้วยเสียที
“ไม่! เราจะไม่ทำอะไรโง่ๆ
อย่างนั้นหรอกนะ.....พอเข้าเขตชุมชนเราจะขอโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ และพอถึงตอนนั้นแล้วพวกมันคงจะไม่โง่ตามเราลงไปในเขตชุมชนหรอก”
มึลเลอร์ตอบข้อข้องใจ ให้เปเป้เบาใจอยู่พักหนึ่ง
ก่อนจะพบว่าอีกหลายไมล์ทีเดียวกว่าพวกเค้าจะลงเขาไปได้!
ทั้งหมดวิ่งได้ประมาณห้าไมล์
โจรที่วิ่งลงเขาตามมาก็เริ่มเหนื่อยและเลิกตามกันไปเยอะแล้ว แต่บางคนในห้าหนุ่มผู้เป็นดั่งความหวังของคนหมู่มาก
ยังคงฟิตปั้ง.....บางคนน่ะนะ
“ฮา! ใครมันจะวิ่งสู้นักฟุตบอลอย่างเราได้ว่ะ.....ใช่ไหมไอ้
เฮ้ยย แกเป็นไรฟะเนี่ยย?!” เนย์มาร์ซึ่งกู่ร้องอย่างได้ชัย
หวังจะหันไปแทคทีมกับพันธมิตรชั่วคราวของเค้า แต่ก็ต้องตกใจแทบหยุดวิ่ง..........เมื่อเห็นเปเป้ที่แทบลืมตาไม่ขึ้น
เปเป้เหมือนคนเป็นโรคหอบ “จะตายแล้วว้อยย! อย่าว่าแต่มันเลยฉันนี่จะกลิ้งลงไปกะแกที่วิ่งอยู่อยู่แล้วเนี่ย!”
“เอ้า!
วิ่งเข้าไอ้หน้าหนอนวิ่งเข้า! เราจะไปช่วยลีโอกะคริสด้วยกันให้ด้ายยย!” เนย์มาร์แหกปากสะบัดหน้าให้กำลังใจเปเป้ และได้รับผลตอบแทนเป็นใบหน้าที่หันมาจนหัวเกือบหลุดของเปเป้
พร้อมกับสายตาชวนหาเรื่อง......แต่ช่วงท้ายประโยคของเนย์มาร์ก็ทำให้เค้าพอที่จะให้อภัยได้
เพราะอย่างน้อยเนย์มาร์ก็ไม่ได้เรียกเพื่อนเค้าอย่างเสียๆ
หายๆ แล้ว
เปเป้ห่อตะบึงอย่างสุดแรงเกิดฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง
และในที่สุดชายหนุ่มสุดแกร่งทั้งห้าก็สลัดกองโจรออกไปจนหมดด้วยระยะทางที่ไกลสุดใจ แล้วพากันทั้งวิ่งและกลิ้งจนลงเขามาได้ พวกเค้าหมดแรงแล้วจริงๆ
กับระยะทางที่เลิกนับไปแล้ว ทั้งห้าหยุด หอบ และท้าวกันและกัน
พยุงกันไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไปนอนกองกับพื้น
“โอยย อกชายโสดจะแตก
วิ่งจนปอดแหกไปหมดแล้วเนี่ยย”
เปเป้พาดคอหอบหายใจกับหลังมึลเลอร์ที่ใช้หัวยันหลังพยุงชไวนี่ไว้ ทั้งหมดดูหอบแฮ่กยิ่งกว่าอะไรจะเปรียบ
“บอกเลย...ฮา ฮา...วันนี้ฉันกะมางานเลี้ยง
ฮา ไม่ได้เตรียมตัวมาซ้อมบอล” นอยเออร์ปาดเหงื่อยด้วยหลังมือเป็นรอบที่ร้อยได้ แต่แล้วเค้าก็โดนแสงไฟบางอย่างสาดเข้าตา
ร่างสูงที่สุดและยืนท่าสมบรูณ์ที่สุดยกแขนขึ้นป้องแสง
ก่อนจะหยีตาสู้แสงนั้น จนกระทั่งเค้ากู่ร้องออกมาอย่างรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“นั่นตำรวจ! ตำรวจมาแล้วทุกคน!!
ตำรวจ!”
พวกที่เหลือพากันมองไปทางแสงไฟเคลื่อนที่ได้นั้น
...................ไฟหลายสิบดวงที่สาดส่องเข้ามาหาพวกเค้า
ราวกับว่าเค้าเป็นนักโทษในห้องสอบสวน
รถตำรวจและทหารหลายสิบคันวิ่งตรงมาทางพวกเค้า
ทั้งหมดโห่ร้องอย่างดีใจ
ต่างวิ่งเข้าไปกอดกันและกัน
มาแล้วในที่สุด
ก็มาสักที..............
นอยเออร์เป็นคนแรกที่ตะโกนออกไปอย่างหมดแรง
“ไอ้พวกบ้า! มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ!”
ภาษาเยอรมันชัดถ่อยชัดคำถูกพูดออกไปพร้อมกับแขนยาวแข็งแรงของผู้รักษาประตูสัญชาติเยอรมันที่ชูขึ้น.......เค้าพูดตามแบบที่เนย์มาร์บอกสคริปมาแป๊ะอย่างติดจะไม่พอใจด้วยที่เจ้าหน้าที่มาทำงานได้ล่าช้ามาก
และต้องทำท่าเหมือนดีใจสุดชีวิตด้วยนะเออเพื่อความเนียบเนียน
ก่อนจะตามมาด้วยยอดชายนายมึลเลอร์ที่วิ่งมาประกบด้านข้างแบบติดๆ
“ดูเบ็นเท็นอยู่รึไงทำไมถึงเพิ่งมา!.....ไอ้พวกบ้า มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ!” เค้าพูดแบบเดียวกันแต่ระเร็วและฟังดูหอบกว่า และบุคคลที่สามก็ตามมาติดๆ
“ไอ้พวกบ้า.....”
แต่แล้วเค้าก็โดนสกัดดาวรุ่งด้วยการจับไหล่แล้วปรามน้อยๆ มึลเลอร์ทำหน้าไม่เห็นด้วยกับเค้า
“พอเถอะบาสตี้ นายไม่ต้องพูดหรอก
อยู่กับโลกสวยของนายต่อไปน่ะดีแล้ว.....อย่าหยาบคายนะ ไม่เอา ไม่ดี” พร้อมกับจุปากเตือน
ชไวนี่ทำหน้าหงอย
“ไอ้พวกบ้า! มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ! ข้างในจะไส้แตกกันหมดอยู่แล้ว!”
เปเป้สุดจะกล่ำกลืนแล้ว เค้าตะเบ็งเสียงออกมาเป็นภาษาสเปน(ภาษาหลักของสโมสรเรอัล
มาร์ดริก)
เสียงดังที่สุด.......และแน่นอนในบรรดาตำรวจผิวเข้มทุกคนก็ไม่มีใครฟังพวกเค้าออกเลย
เพราะภาษาเยอรมันสำหรับความสามารถของตำรวจบราซิลแล้ว
= 0 และภาษาโปรตุเกตุนั้นก็เป็นภาษาหลักของชาวบราซิลมาแต่เก่าก่อน ดังนั้นเปเป้จึงต้องพรั่งพรูคำสบถและด่าทอออกมาเป็นภาษาอามีโก้.............
และปิดท้ายด้วยคนที่บอกให้พวกเค้าทั้งหมดพูด
“Help me!! Help me pleaseeee.....ช่วยด้วยครับ!
ข้างบนนั่นจะแย่อยู่แล้ว!”
เนย์มาร์วิ่งเข้าไปหาตำรวจด้วยทางท่าของคนที่อ่อนแรง(ซึ่งเกินเหตุ) แต่เพื่อนที่ยืนเหวอทันทีที่ได้ฟังประโยดของเนย์มาร์ก็ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ เจ้าตัวจึงหันมากระซิบกับเพื่อนๆ
ที่โดนหลอกให้หยาบคายใส่ตำรวจ
“ยังไงพวกนายก็ได้หลอกด่าพวกนั้นล่ะนะ....แมร่ง
ช้าฉิบ! ขอบใจนะที่ด่าส่วนของฉันเผื่อไปด้วยน่ะ”
ก่อนจะหันไปทำหน้าตาตื่นระคนยินดีกับหน่วยแรกที่เข้ามาถึงตัวเค้า
“คือเพื่อนผมเค้าดีใจมากน่ะครับ
ที่พวกคุณมา เค้าก็เลยเผลอพูดภาษาเง้าของตัวเองออกมาน่ะครับ”
นอยเออร์ มึลเลอร์
ชไวนี่ และเปเป้ปั้นหน้าเอ๋อใส่ตำรวจ
ไอ้ เอก-ประจบ โท-สอพลอ!!!!.........มันเป็นดอกเตอร์ด้านกลับกลอกได้สบายๆ
เลย รางวัลหน้าด้านอวอรด์ต้องยกให้มัน!!!!
.
.
ไอ้เนย์มาร์!!!!
เพื่อนสี่คนหยุดหอบแล้ว และกำลังทำหน้าหมั่นไส้เนย์มาร์อยู่...............
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------------------
เย้!!!! >{}< ในที่สุด! ตำรวจก็มาได้สักทีค่ะ! >< แต่ว่าประโยคดีใจอันปลดเปลื้องของชายหนุ่มก็อัดอั้นไม่น้อยเลยนะคะ
555555 //ไรท์ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
หากรีดท่านใดไม่ชอบคำหยาบคาย // เนย์มาร์ตัวแสบ 5555 หลอกกันได้นะ
และใน Part หน้า
เป็นของเฮียกับเหมียวค่ะ อูยยยย พูดถึงคู่พระนายของเราแล้วก็เจ็บปวดใจค่ะ เฮียก็โดนซ้อมสะบักสะบอม เหมียวก็ร้องไห้น้ำตาจะเป็นสายเลือดอยู่แล้ว หมดแรงแล้วด้วยยย TWT Part หน้าต้องติดตามให้ได้นะคะ ในที่สุดตำรวจก็มาถึงกันแล้ว และเหมียวจะรอดพ้นเงื้อมือของพวกเรียกค่าไถ่หรือไม่ ต้องติดตามค่ะ >< ติดตามให้ได้เลยนะค๊าาาา //ตื่นเต้นแทน 555//
คอมเม้นท์กันด้วยนะเออ ไรท์จะได้มีกำลังใจหนีงานมาลง Part ต่อไปเร็วๆ
(?) 55555555
ตอนนี้รีดที่ได้ลงรายชื่อรับการ์ดฉลองปิดฟิคกับไรท์ไป
คงจะได้กันเกือบหมดแล้วนะคะ
และสำหรับใครที่ไม่ได้ก็ต้องขอเรียนเลยค่ะว่า "น่าเสียดายมากกกกกกก“ เพราะมันเป็นฟิคของ รุ่นพี่เฟี้ยวกับแก็งค์น้องเฮี้ยวสุดซ่า ค่ะ เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกันเลยทีเดียวค่ะ มาเต็ม ทั้งความฮา ความน่ารัก(ของนุ้งเหมียว) และความตื่นเต้น พร้อมทั้ง NC ที่ชนิดว่ารีดหลายๆ
ท่านที่ได้แล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะว่า “สุดยอดมากก เต็มอิ่มจริงๆ”
เป็น NC ครั้งแรกของรุ่นพี่เฟี้ยวค่ะ
>< ท่านใดที่เป็นสาวก
RonalSi แล้วพลาดอีกอรรถรสหนึ่งอันแสนจะไม่ควรพลาด
มีความต้องการอยากจะฟินบ้าง (ฟินจริงๆ ค่ะ ตอนนี้แฟนคลับ RonalSi ของไรท์ ใครไม่พูดถึงรุ่นพี่เฟี้ยวถือว่าเอาท์ค่ะ มีแต่คนพูดถึงรุ่นพี่เฟี้ยวกันทั้งนั้นเลยค่ะ
เพราะมันฟินมากกกก 555)+(ไรท์กลับมาอ่านเอง ยังยาวเองค่ะ 555)
ทุกท่านที่สนใจอยากจะอ่าน
Fic
รุ่นพี่เฟี้ยวกับน้องเฮี้ยวสุดซ่า ฉบับเย็บเล่มแฮนเมค ซึ่งไม่มีการเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
และบทความหรือฟิคเรื่องนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่ทีอื่นนอกเหนือจากการรวมเล่มภายใต้ลิขสิทธิ์ของไรท์แน่นอนเลยค่ะ
(ต้องขออภัยที่ไม่เอาลงบล็อกนะคะ
เพราะภาษาค่อนข้างจะ แบบว่า ตามแบบรุ่นพี่เฟี้ยวเลยล่ะค่ะ...เหมือนเด็กม.ปลายประเทศไทยมาก
5555
ใครอยากอ่าน ก็สามารถเข้ามาติดต่อไรท์ได้เลยค่ะที่เฟสบุ๊ค
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< แล้วทักแชท หรือ In Box มาคุยกับไรท์ได้เลยค่ะ^^ ด้วยเหตุที่ว่าหมดโปรโมทชั่นแจกการ์ดแล้ว(?)
และไรท์จำเป็นต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์เพิ่มจึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายนะคะ
M >< M พูดตรงๆ
เลยค่ะ คือ ขาย ค่ะ //สมบททุนนักเรียนยากจน TUT//
ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกรีดทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามฟิคของไรท์
มากๆ เลยนะคะ >///< เลิ๊ฟ
ยูวววววววววว
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ปล.
ต้องขออภัยรีดท่านอื่นๆ ด้วยนะคะ ที่ไรท์ไม่ได้เอารูปของรีดขึ้นด้วย
TUT แต่มีหลายท่านมากๆ ที่ส่งรูปมาให้ไรท์ทั้งหน้าเฟสและในแชทค่ะ ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ ><
3 ความคิดเห็น:
เนย์ อีเจ้าเล่ห์! 5555 แผนแกนี่สุดจริงๆ แต่ก็ถือว่ามิชชั่นคอมพลีทเนอะ ชไวนี่คือมุ้งมิ้งสุดเจ้าหญิงดิสนีย์มากค่าาา ><
p.s.พาร์ทหน้ารอเหมียวกับพี่โด้ค่ะ หวังว่าจะมีคนไปช่วยทันนะ!!
ผมนี่ขำห้าหนุ่มบอยแบนด์จริงๆครัชแหม่..
คือมันใช่มาก! 555 พวกเขาเหมือนบอยแบนด์จริงๆนะคะจะว่าไปแล้วเนี่ย
อ่านแล้วรู้สึกว่าชไวนี่ออกจะน่ารักนาาโลกสวย(?)อย่างที่เพื่อนบอกหรือนี่ แต่ก็ดูน่ารัก ไร้เดียงสาอยู่ดี ไม่เหมือนอีกสี่คนนั้น ปล่อยเขาไปเถ๊อะ เถียงกันตลอดโดยเฉพาะเนย์มาร์และเปเป้ ถ้าไม่เถียงกันก็ไม่ใช่สองคนนี้เสียแล้ว -w-
ว่าแต่พ่อยอดชายคริสเตียโน่กับลีโอจะเป็นอย่างไรบ้างนะนี่ เริ่มเป็นห่วงเสียแล้วล่ะ...
สู้ๆๆ
ฮาาาาาาา บาสตี้น่ารักกก คิดถึงคู่นอล มึล บาสตี้ที่สุดดด
บาสตี้เหมาะกับบุคลิกโลกสวยจริงๆ 55555 นางดูเป็นคนแสดงความรู้สึกออกมาง่ายมาก ตอนยิ้มก็ยิ้มโลกสวยมากก ตอนร้องไห้นี่อยากจะเข้าไปปลอบบ //ปกติจะเห็นกัปตันลาห์มเราปลอบอยู่ >\\\< //ได้ข่าวว่านอกเรื่อง 5555
ชอบตอนที่นางกำลังจะพูดตามที่นังเนย์สอน แล้วมึลมาห้าม ฮาาา “ไม่เอา ไม่ดีนายไม่เหมาะกับมันหรอก" โอ้ย น่ารักกก <3
แสดงความคิดเห็น