สวัสดีค่ะ
รีดของไรท์ทูกท่านนนนนนน >< ไรท์กลับมาแล้วค่ะ
หลังจากที่การย้ายที่อยู่ชั่วคราวนี้มันช่างกัดกินและสูบกะจิตกะใจของไรท์ไปมากโขอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเสียจริง
-*-
ตอนนี้ไรท์กำลังปรับตัวค่ะ
มันยากมากสำหรับไรท์เพราะไรท์เหงาค่ะ
เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันก็ไปอยู่ที่อื่นจะจเอกันก็ต่อเมื่อเข้าเรียนเท่านั้น อยู่บ้านไรท์ก็เลยหงอยค่ะ กำลังใจหดเลยย TWT
ตอนนี้ฟัง See you again อยู่ค่ะ ทั้ง Ver. MV และ Billboard เลยค่ะ TUT คือสลดจิตมากเลยค่ะ ฟังเพลงมันส์ๆ
ก็ไม่สามารถเยี่ยวยาใจไรท์ได้ในตอนนี้ค่ะ
เปิด See you again ซ้ำไปซ้ำมา ฮาาาาา //ขอไรท์เวิ่นหน่อยนะคะ เหงามากเลยค่ะ
ไม่ได้เจอใครเลยค่ะ//
วันนี้เปิดเรียนวันแรกค่ะ รู้สึกกังวลเสียแล้วค่ะทั้งงานในคาบแรกและรับนองที่กำลังจะถึงนี้ค่ะ
TUT อ๊ากกกก
รับน้องงงง! ม่ายยยยยย //จิกหัวตัวเอง// ไรท์กลัวพี่โหดค่ะ ให้ล่ารายชื่อรุ่นพี่แล้วต้องเต้นก่อนเค้าถึงจะให้ด้วยค่ะ
//เห็นเค้ากระซิบบอกมาว่างั้นค่ะ// และเจอตารางค่าใช้จ่ายก็ช็อคเลยค่ะ อ๊ากกก หนูจะหมุนเงินทันไหมคะเนี่ยยย อย่าว่าแต่หมุนเลย เงินจะทานข้าวยังต้องเก็บไว้เลยค่ะ TUT งื้อออ บ้าจริงๆๆๆๆ
อยากเข้าไปคุยกับรีดๆ
มากเลยค่ะ แต่กลัวว่าจะรบกวนเนอะ
ตอนนี้รีดหลายๆ ท่านก็กำลังยุ่งอยู่ด้วยค่ะ อยากคุยมากเลยค่ะ แต่ทางนี้ทางนั้นก็ไม่มีเวลาด้วยเนอะ
//ไรท์นี่ตัวเป็นเกลียวทำงานบ้านทั้งวันค่ะ
อิพี่ชาย(ญาติ)ก็หางานให้ทำตลอดเลยค่ะ
ตัวทำที่อยู่รก น่าฆ่าทิ้งมากเลยค่ะ -*-//
คิดถึงและรักรีดทุกท่านมากเลยนะคะ พูดจริงจากใจเลยค่ะ ^^ ไรท์จะจำการลง Part นี้ไว้ค่ะ (และ Part ต่อจากนี้ไปอีก) เพื่อมองกลับมาย้อนดูว่าการเข้าเรียนปี
1 วันแรกเป็นอย่างไรค่ะ
ไรท์คิดถึงบ้านมากเลยค่ะ บอกตรงๆ
ค่ะ ที่นั่นมีทุกๆ คนที่คอยแต่งเติมจินตนาการและจุดประกายผลักดันแรงบันดาลใจให้ไรท์โดยที่พวกเค้าไม่รู้ตัวเลยค่ะ ไรท์รักพวกเค้ามากจริงๆ ค่ะ และร่วมทั้งรีดๆ ของไรท์ด้วย
ถึงแม้จะย้ายมาอยู่ที่อื่นแล้วไรท์ก็ยังคงคิดถึงรีดเหมือนรีดอยู่ข้างบ้านไรท์เลยค่ะ
5555 //โดนตบ// + //อ๊ากกก เมาท์มายาวมาก เพิ่งจะได้ใส่ “555” นี่แหละค่ะ -*-เพิ่งหัวเราะแห้ง//
คิดถึงสิ่งเก่าๆ มากมายจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ก็ยังฟัง See you again อยู่ค่ะ TWT //น้ำตากระซิก// ขอบคุณทุกท่านมากนะคะ ที่ยังคุย
ยังคอมเม้นท์ใต้โพสต์ของไรท์เพื่อให้ไรท์ไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียวค่ะ
ออกมาไกลบ้านแล้วไม่มีใครเข้าใจเราเท่าคนที่ไกลบ้านเหมือนกันค่ะ และรีดๆ
ที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จักไรท์เลยก็ยังอุตส่าห์ใจดีคุยกับไรท์เหมือนไรท์เป็นเพื่อนคนหนึ่ง
......ขอบคุณมากจริงๆ
ค่ะ....
อ๊าาาา ไรท์พูดอะไรของไรท์เนี่ยยยย ไปอ่านฟิคกันดีกว่าเนอะ ^^ ไรท์มาลงฟิค เฮียกะเหมียวนี่นาาาา 55555 ไปอ่านกันเลยค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------
“อา อ๊าาา! ฮ่ะ ฮ่าๆๆ
อย่าแกล้งผมสิ....เดี๋ยวผมล้มน้า...อาาา ฮ่าๆๆ อึก อย่า! เดี๋ยวผมปัดไปโดนคุณจะเจ็บเอา...ฮ่ะๆๆ เอานะ”
เมสซี่ตัวงอเหมือนคนโดนซ้อมในขณะที่พวกเค้าเดินไปถึงลานที่มีการแสดงความสามารถต่างๆ
ของคนเกือบทุกเพศทุกวัยที่ชอบโชว์ของ ในบริเวณก่อนถึงหาดโคปากาบานาของริโอ โรนัลโด้บอกว่าเมื่อก่อนมันเป็นแค่ถนนคลุ้งฝุ่นธรรมดาๆ
เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้กลายเป็นสวนสาธารณะหย่อมๆ ไปเสียแล้ว
ซึ่งในช่วงที่มีเทศกาลระดับโลกแบบนี้
ผู้คนที่ชอบเปิดหมวกแสดงความสามารถ เพื่อแลกกับเศษเงินจำนวนมหาศาลจากนักท่องเที่ยวนั้นก็ไม่เคยหาโอกาสให้เงินหลุดลอยไป
ด้วยการปล่อยเวลาไว้ให้ตัวเองพักบ้างเลยแม้แต่น้อย แต่ร่างเล็กกลับตื่นตาและรู้สึกทึ่งในตัวของพวกเค้าเป็นอย่างมาก
พวกเค้าทั้งสอง เดินชมความสามารถที่น่าทึ่งของแต่ละคนภายใต้หมวกและแว่นกันแดดสีดำ
ปกปิดรูปกาย
แต่ที่ดูจะตื่นตาตื่นใจมากเป็นพิเศษก็คงจะหนีไม่พ้น ลีโอเนล เมสซี่ เป็นแน่ ซึ่งร่างเล็กที่ซุกซนไปทั่วเกือบโดนไฟที่ถูกพ่นออกมาจากปากของชายร่างใหญ่ไม่ใส่เสื้อคนหนึ่งลนหัวเข้า แต่นับว่าโชคดีที่โรนัลโด้ดึงกลับมาได้ทัน
“เค้าจะพ่นน้ำให้ไฟพุ่งออกมาข้างหน้า เค้าไม่เห็นหรอกนะว่าใครอยู่ตรงนั้น
คุณเกือบได้ตัดผมใหม่แหนะรู้ไหม” ร่างสูงดุน้อยๆ จนอีกคนทำหน้าหงอยไปเลย แต่ก็แค่แป็บเดียวเท่านั้นเพราะเมสซี่ดึงแขนโรนัลโด้ไปดูคนๆ
หนึ่งที่ขี่จักรยานติดหลอดไฟนีออนได้อย่างยอดเยี่ยมราวกับว่าลืมเรื่องที่ตัวเองกำลังจะโดนไฟลนหัวไปแล้ว
หลังจากนั้นโรนัลโด้ก็พาคนที่ยังตื่นตาตื่นใจไม่หายไปใกล้อีกนิด
ที่ถนนซึ่งถูกปูไปด้วยกระเบื้องโมเสกสไตล์โปรตุเกตุละลานตา ที่นั่นบรรยากาศดีมาก แม้จะมีคนเดินอยู่เบาบางเพราะเวลานี้เป็นช่วงเวลาพักผ่อนของคนส่วนมาก แต่ตามทางของกระเบื้องก็สะท้อนถึงแสงซึ่งถูกประดับประดาไว้ด้วยไฟสีส้มซึ่งอยู่สูงขึ้นไปด้านบนศีรษะของทั้งสองคนจนเกิดความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ร่างสูงตั้งตัวเองเป็นไกด์
แล้วยอมพาเมสซี่ไปดูหาดโคปากาบานาตามที่เจ้าตัวขอเอาไว้ แล้วก็ต้องกอดอกยืนรออยู่บนหาด หลังจากที่ร่างเล็กยืนยันจะลงเอาช่วงล่างไปสัมผัสกับน้ำทะเลเย็นๆ
ในตอนกลางคืนให้ได้ โรนัลโด้ไม่ไปด้วย หนักแน่นกว่าด้วยคำพูดที่ว่า “คุณจะลงน้ำไม่ได้ มันเย็นมากนะ ผมไม่อยากให้คุณป่วยเพียงเพราะลงแช่น้ำตอนกลางคืนหรอก”
โรนัลโด้ปักลักอยู่ที่เดิม
และเมสซี่ก็ไม่กล้าไปต่อเพราะเค้ายังกลัว ‘อนาคอนด้า’ ที่พวกพี่ๆ
เคยขู่เอาไว้อยู่ ร่างเล็กจึงจำใจต้องเดินคอตกกลับมาหาร่างสูงซึ่งยิ้มกริ่มแล้วปลอบใจเค้าทีหลังว่า
“มาเล่นใหม่อีกทีวันหลังตอนกลางวันก็ได้นี่ แถมมีแดดให้อาบด้วย” ก่อนจะใช้มือประคองหลังคนกินแห้วไปที่เที่ยวแห่งใหม่
และพอมาถึงสถานที่แห่งใหม่ เมสซี่ก็ต้องถอดแว่นและหมวกออกไปในทันที
สะลัดคราบโจรน้อย(ผู้น่ารัก)ออกไปเมื่อเค้าเจอเข้ากับ กริชตูเรเดงโตร์
หรือรูปปั้นพระเยซูสูง 700 เมตร ที่ตั้งตระหง่าอยู่บนยอดเขากอร์โกวาโด
อย่างใกล้ชิด........เสียงไฟหลากสีเรืองขึ้นอยู่ด้านล่างของฐานรูปปั้น ทำให้เทวรูปของพระองค์ยิ่งดูสวยงามและสง่างามมากยิ่งเข้าไปอีก
ร่างสูงพาร่างเล็กมาที่ส่วนหย่อมเล็กๆ
ติดกับถนนคนเดินอันปลอดคนสัญจร ซึ่งหากนั่งมองจากตรงนี้ก็จะสามารถมองเห็นเทวรูปซึ่งอยู่สูงขึ้นไปในมุมที่ชัดเจนและสวยงามที่สุดในอีกมุมหนึ่ง
และมีอยู่ครั้งหนึ่งในขณะที่นั่งดูแสงไฟเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ
เมสซี่ก็ถามโรนัลโด้ว่าร่างสูงชอบสีอะไรมากที่สุด
โรนัลโด้ตอบว่าเค้าชอบสีแดง แต่ชอบที่จะให้รูปปั้นอาบไปด้วยแสงสีเหลืองมากกว่า
“ผมว่าสีนั้นเหมาะกับเพระองค์ที่กางแขนอยู่บนนั้นมากๆ
เลยล่ะ” ร่างสูงพูดพร้อมกับชี้ขึ้นไป......เค้าศรัทธาในพระเจ้า
และขอบคุณพระองค์ที่ทรงเล่นตลกกับเค้าในคืนนี้ ทำให้เค้าได้เจอกลุ่มคนติดอาวุธที่คิดร้ายต่อเค้า และทำให้เค้าได้พบกับลีโอที่เค้าไม่เคยรู้จัก.........
ใช่ และเค้าหลงรักลีโอที่เค้าไม่รู้จักคนนั้นไปเสียแล้ว
จากการชักนำของพระเจ้า..............
ที่นี่ไม่มีใครเดินผ่านมามากอย่างที่คิด(ใช่
ก็นี่มันกี่โมงแล้ว) ซึ่งร่างสูงก็พาร่างเล็กมานั่งดูอยู่ในจุดที่มองขึ้นไปเห็นพระองค์ได้อย่างชัดเจนที่สุด
เนื่องจากในช่วงเวลานี้อุทยานที่เปิดให้เข้าชมเทวรูปอย่างใกล้ชิดยังไม่เปิดให้คนเข้า พวกเค้าจึงนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวและเอนตัวขึ้นมองเทวรูปซึ่งเปลี่ยนสีไปมาอย่างตื่นตาตื่นใจ(สำหรับเมสซี่)
ร่างเล็กบอกว่าเค้าไม่เคยได้ดูกริชตูเรเดงโตร์ใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย เคยดูแต่ในทีวีและในรูปภาพ แต่พอมานั่งดูในเวลาที่เงียบสงบแบบนี้แล้ว ก็ทำให้ได้เห็นภาพอันสวยงามที่สุดภาพหนึ่งในชีวิต จนทำให้เค้ารู้สึกยอดไปเลย...........เมสซี่บอกเรื่องนี้กับโรนัลโด้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอันแสนชื่นมื่น ความสุขฉาบอยู่บนใบหน้าขาวอย่างเห็นได้ชัด
โรนัลโด้ยิ้มตอบด้วยความรู้สึกที่ดีไม่แพ้กัน ร่างสูงทอดมองด้านข้างของคนซึ่งนั่งอยู่ข้างเค้ามองขึ้นไปยังเทวรูปที่เปล่งประกายท่ามกลางความมืด ฉีกยิ้มกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของเมสซี่บ้าง ก่อนจะถามเจ้าตัวว่าอยากเห็นมุมที่สวยมากกว่านี้ไหม?
ร่างเล็กหันมาเลิกคิ้วและทำตาใสใส่เค้า........โรนัลโด้เกือบจะจำคำพูดแทบไม่ได้
“นี่ก็ดูเหมือนว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้วนะ ที่นั่นจะทำให้คุณเห็นทุกส่วนของเมืองได้เลยล่ะ
และถ้ายิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้นล่ะก็มันจะยิ่งสวยมากๆ เลยนะ........คุณอยากไปรึเปล่า”
ร่างสูงพูดเสียงเบาและถามความเห็นอย่างอ่อนโยน แล้วโรนัลโด้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลยเพราะเมสซี่เอาแต่มองหน้าเค้าด้วยสีหน้ากังวล ร่างเล็กเผลอสอดมือเข้าไปจับกับอีกคนหนึ่งอย่างเคยชินเมื่อยามที่เค้าเคยทำกับพี่ๆ
เวลาไม่แน่ใจและเป็นกังวล คิ้วเหนือดวงตากลมโตขึ้นไปขมวดมุ้นเข้าหากัน โรนัลโด้จับตอบทันที
“เราจะไปทันไหม” ดวงตากลมโตไหวไปมา เพราะนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของเค้าที่จะได้ดูมุมที่สวยที่สุดในริโอโดยที่ไม่มีใครคอยห้ามนุ่นห้ามนี่กับเค้า
โรนัลโด้จุดยิ้มขึ้นมาทันที แล้วกระชับมือเมสซี่เข้าหาตัวเอง “ทันสิ ” โรนัลโด้โชว์ฟันขาวก่อนจะฉุดพาร่างเล็กให้ลุกขึ้นตามตัวเองไป..........และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่โรนัลโด้ไม่ยอมปล่อยมือของเมสซี่ พวกเค้าวิ่งไป
วิ่งไป และไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงที่ๆ
โรนัลโด้ได้บอกเอาไว้..........
ภูเขาชูการ์โลฟ..........
คุณรู้ไหมว่าลีโอเนล เมสซี่ชอบกังวลอะไรที่ไม่ควรกังวล และเรื่องที่ควรกังวลบางทีก็กังวลมากไปหรือบางทีเค้าก็ไม่ได้กังวลถึงมันเลย.........
คุณรู้ไหม
โรนัลโด้เพิ่งรู้.........
“ผมบอกแล้วว่าเรามาทันแน่นอน”
ร่างสูงพูดในขณะที่เบื้องหน้าของพวกเค้าคือ......
เมืองริโอที่เต็มไปด้วยตึกสูงและอาคารต่างๆ
สูงต่ำซับซ้อนกันออกไป ยาวจรดหาดไปจนอีกฝั่งหนึ่งถึงอีกฝั่งหนึ่ง แสงสียังคงไม่ห่างหายไปไหน ถึงแม้ว่านี่ใกล้จะเช้าแล้วก็ตามเมืองริโอก็ยังคงครึ้กครื้นและมีสีสันอยู่เสมอดั่งที่เช่นที่เคยเป็นมา ถัดไปคือถนนกระเบื้องโมเสกที่ทั้งคู่ได้เดินผ่านกันมาแล้ว
ซึ่งถนนสายนั้นเคียงคู่ขนานกับชายหาดโคปากาบานาสีขาวสะอาดตา
ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้อ้อมกอดของพระเยซูซึ่งตั้งตระหง่าอยู่สูงขึ้นไปบนภูเขากอร์โกวาโดอันงดงาม...........
ทั้งหมดนั้นปรากฏอยู่ต่อหน้า ลีโอเนล เมสซี่ ผู้ซึ่งดวงตาเบิกกว้างอย่างอัศจรรย์ใจ
เค้าไม่เคยเห็นมุมที่สวยงามขนาดนี้ในริโอมาก่อนเลย......มันสวยมากกว่าอะไรที่เค้าเคยเห็นมาทั้งหมด ธรรมชาติที่สวยงามซึ่งสามารถลงตัวอยู่ในความพัฒนาอันก้าวไกลของมนุษย์ได้
ร่างเล็กยืนอยู่บนจุดชมวิวที่สูงที่สุดของภูเขาชูการ์โลฟ
หลังจากที่เค้าไม่รู้เลยว่าร่างสูงทำยังไงกับพนักงานเฝ้ากระเช้าอายุเกือบเจ็ดสิบปี จนชายแก่คนนั้นถึงยอมให้พวกเค้าลงกระเช้าแล้วพาขึ้นมาถึงที่นี่ได้ และเช่นเคยโรนัลโด้ไม่ยอมให้ข้อมูลส่วนนี้กับเค้าเลย
“ผมว่าคุณน่าจะมองมาที่ผมมากกว่าหาคำตอบที่ไม่สำคัญนะ”
เมื่อร่างเล็กถามไป กลับได้คำตอบที่มาพร้อมกับการเคลื่อไหวของโรนัลโด้ที่ขยับเข้ามาตรงหน้าเค้าแล้วจับมือทั้งสองของเค้าไว้........ร่างสูงกระซิบอยู่ข้างหู
และจนกระทั่งลงมาจากกระเช้าเมสซี่ก็ไม่ได้มีอาการกลัวความสูงจนขาอ่อนเหมือนครั้งก่อนๆ
อีกเลย
“ที่นี่กว่าจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาก็สายๆ
หน่อยน่ะ เรายังพอมีเวลากันอยู่”
โรนัลโด้พูดหลังจากที่ร่างเล็กซึมซับทัศนียภาพตรงหน้าได้พักหนึ่ง
ตอนนี้เวลาเกือบจะเช้าแล้ว
แต่เมืองยังคงถูกปกคลุมด้วยสีน้ำเงินเข้มแห่งราตรี เมสซี่เดินถอยออกมาแล้วหันไปหาร่างสูง.......ที่นี่เงียบและอากาศดี
“พอกลับไป พวกพี่ๆ จะต้องเฉ่งผมแน่เลย”
เมสซี่ยิ้ม แล้วพูดติดตลก
“เฉ่งคุณงั้นเหรอ ผมว่าพวกเค้ารักคุณมากเกินกว่าจะเฉ่งคุณจริงๆ
นะ” โรนัลโด้เอ่ย ในขณะที่เดินเข้ามาอยู่ข้างเค้าและยิ้มให้
มือแกร่งทั้งสองข้างจกเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างสบายใจ
“ฮ่ะๆ นั่นสินะ....พวกเค้าทำเหมือนจะดุผมกันหมดแต่สุดท้ายแล้วก็ทะเลาะกันเองตลอดเลย พวกเค้าชอบพูดเรื่องของผมแล้วก็เถียงกันเกี่ยวกับเรื่องของผม”
ชายหนุ่มทั้งสองคนมองออกไป ในขณะที่ร่างเล็กเองก็มีสีหน้าไม่เข้าใจและไม่สบายใจไปด้วย ที่หลายครั้งของการทะเลาะกันของพี่ๆ ในสโมสรมักจะเป็นเพราะหัวข้อของเค้า
ร่างสูงแตะไปที่ไหล่เล็กแล้วพาหันไปข้างหลัง
“พระอาทิตย์ขึ้นตรงนี้....” เค้าพูด เมสซี่พยักหน้ารับ สองมือเล็กๆ เกี่ยวกันไปมา
“เอ่อ...ผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณ
คุณยังไงดีที่พาผมออกมาที่นี่ ทั้งๆ
ที่คืนนี้คุณก็เจอมาหนักมาก ควรได้พักผ่อนแท้ๆ แต่คุณก็.....” คำพูดเนียมอายของร่างเล็กถูกกัดกร่อนไป
เมื่อร่างสูงหันมามองเค้าแล้วยิ้มละมุน
“ไม่เป็นไรหรอก ผมแค่อยากพาคุณมา”
“แล้วคุณไม่เจ็บตัวแล้วเหรอ”
“ไม่ ผมไม่เจ็บ....อย่างน้อยก็ลงเล่นในสนามได้สบายๆ
เลยทีเดียวล่ะ” โรนัลโด้ยักคิ้ว ขยิบตา แล้วโดนเมสซี่ยิ้มขำๆ
ใส่
“งั้นเหรอ ผมคิดว่าผมไม่เชื่อคุณนะ”
“ลีโอ...”
“หืม” อยู่ๆ โรนัลโด้ก็เรียกเค้า
ร่างเล็กหันมาตามเสียงที่เรียกหาเค้า เมสซี่เห็นใบหน้าของร่างสูงเหม่อมองออกไปข้างหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
จึงหันตามบ้าง แล้วเค้าก็แทบไม่กระพริบตาเลย...........
แสงสีชมพูพาดทับขอบฟ้าอันกว้างใหญ่ราวกับสีบนพู่กันที่ปาดบนผืนผ้าใบ
เป็นริ้วๆ ดูสวยงาม และแถบสีม่วงอมน้ำเงินซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีก........ความมืดถูกขับไล่ออกไปแล้ว
และแสงสว่างกำลังมาแทนที่
แสงสีชมพูที่เส้นขอบฟ้าเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ทันได้สังเกต สีรัตติกาลของยามราตรีเริ่มกลับกลายเป็นสีม่วงอ่อนและเข้มตามลำดับ สีส้มของดวงอาทิตย์เริ่มส่องแย้มออกมาให้เห็นแล้ว พวกเค้าจับมือกัน เมื่อยามสายลมอ่อนจากท้องทะเลพัดโชยเข้ามาปะทะใบหน้าของพวกเค้า
เสื้อนอกสีเข้มถูกพัดให้ลอยอยู่รอบตัวราวกับพวกเค้าลอยอยู่ในน้ำ
แว่วเสียงนกขานรับวันใหม่กันแล้ว
ในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่ถึงนาทีของแสงแรกแย้มแห่งวันใหม่ แสงสีส้มสดใสดันสีชมพูและม่วงขึ้นไปอีก กระทั่งใบหน้าของทั้งคู่ถูกสาดต้องด้วยแสงแดดอ่อนของวันใหม่ นครแห่งนี้กำลังจะตื่นอย่างเต็มที่ พร้อมกับดวงอาทิตย์ที่เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้ามา
“ว้าว...” สายลมไม่เคยห่างหายไปไหนยังคงพัดวนกลับมาหาพวกเค้า เมสซี่ผู้มีดวงตาเบิกกว้างราวกับเด็กๆ ก็เช่นกัน เค้ามองภาพตรงหน้าได้ไม่รู้เบื่อเลย จนกระทั่งร่างสูงกระซิบข้างหูให้เค้าหันไปดูภาพเมืองริโอในตอนรุ่งเช้าที่กำลังเรียงรายรับแสงอรุณรุ่งของพระอาทิตย์
เมสซี่เห็นท้องทะเลสีครามกว้างไกล
และเมืองที่เห็นเด่นชัดไปทุกรายละเอียด
เค้าเห็นคนหลายคนเดินอยู่บนถนนที่ทั้งสองเคยเดินผ่านมาด้วยกันเมื่อครู่นี้ ทิวมะพร้าวริมทะเลดูมีชีวิตชีวา.....และถัดไปคือรูปปั้นพระเยซูซึ่งครึ่งหนึ่งถูกอาบไปด้วยสีชมพูแห่งท้องนภา และเนื่องจากเช้าแล้วไฟประดับฐานจะถูกปิดลงแทนที่ด้วยแสงแห่งธรรมชาติ
ร่างเล็กยิ้มและหันมาพูดกับร่างสูงเสียงเบา เค้าดูอิ่มเอมเช่นเดียวกันกับคนที่กระชับฝ่ามือของเค้า
“ขอบคุณ”
“ผมดีใจที่คุณชอบมัน” โรนัลโด้ตอบ สิ่งตอบแทนที่เค้าพอใจที่สุด คือการได้อยู่กับร่างเล็กข้างๆ
คนนี้คนเดียวเพียงเท่านั้น
ร่างเล็กหันมาหาเค้า
“ผมคิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ”
โรนัลโด้เป็นคนดีเกินไปที่เมสซี่จะยอมให้เค้าเป็นเพียงแค่คนรู้จัก ที่ไม่นานก็จะลืมกันไป ร่างเล็กอยากให้มั่นใจว่าเค้าจะไม่มีทางลืมคนๆ
นี้เป็นอันขาดและก็ไม่อยากให้อีกคนหนึ่งลืมเค้าด้วยเช่นกัน
“ครับ แน่นอนครับ” โรนัลโด้ยิ้ม เค้าไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายได้รึเปล่า เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งหมดของชีวิตเค้า......คนๆ
นี้ทำให้เค้ารู้ว่าการมีความสุขไม่จำเป็นต้องมีสาเหตุ
เพียงแค่ได้อยู่กับคนที่รักก็พอแล้ว
“หลังจากจบบอลโลกแล้ว เราไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้อีกได้หรือเปล่า”
เมสซี่ถามอย่างไร้เดียงสา เจ้าตัวดูไม่แน่ใจนัก
“ได้สิ ถ้าคุณอยากไปนะ.....ว่าแต่พวกพี่ๆ ของคุณไม่ว่าหรอกเหรอ”
ถ้าหากได้ใกล้ชิดร่างเล็กอีก โรนัลโด้ยินดีเสมอ
เมสซี่ยิ้มแป้น “อืมม ไม่รู้สิ แต่ผมอยากไปกับคุณอีกนะ”
“แล้วคุณอยากอยู่กับผมหรือเปล่า”
“ฮ่าๆๆ อ๊ะ หา...เอ่อ คุณว่าอะไรนะ?”
“ผมแค่อยากรู้ว่า
คุณพอจะช่วยให้ผมยิ้มทุกวันแบบนี้ได้ไหม” สายตาของร่างสูงดูอ่อนโยน หลังจากที่เค้าสัมผัสแก้มของร่างเล็กด้วยมือทั้งสองของตัวเองอย่างที่เค้าชอบทำที่สุด
โรนัลโด้รู้
ว่าถ้าหากเค้าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปก็จะไม่มีโอกาสดีๆ เช่นนี้อีกเป็นครั้งที่สอง บางทีร่างเล็กอาจจะคิดว่าเค้ามีผู้คนคอบรายล้อมรอบตัว
แต่เมสซี่ก็ไม่เคยรู้สึกเลยเหมือนกันว่าเจ้าตัวนั้นถูกคนอื่นๆ เดินตามมากแค่ไหน และไม่เคยมีเวลาที่ร่างเล็กจะได้อยู่คนเดียวให้เค้าเดินเข้าไปหาบ้างเลย
และพอมาในเวลานี้
โรนัลโด้มั่นใจและรู้ตัวดีว่าเค้ากำลังจะพูดอะไรออกไป
“เอ่อ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังจะบอกผมเรื่องอะไรนะ”
เอาแล้ว....เมสซี่เริ่มหน้าแดงแบบสุดๆ
อีกแล้ว เมื่อเจอคำพูดที่ตรงใจของร่างสูง..............หากร่างสูงบอกว่าอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกดี
ร่างเล็กเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้เหมือนกันว่าการที่ได้อยู่กับอีกฝ่ายหนึ่งนั้นก็ทำให้รู้สึกดีไม่ต่างกันเลย..........เพียงแค่เค้าไม่อยากคิดไปเอง
ความอบอุ่นของร่างสูงนั้นแตกต่างจากผู้คนที่รายล้อมเค้า............
“เอ่อ บางทีคุณอาจจะไม่ชอบที่ผมพูดแบบนี้ก็ได้ ขอโทษนะ ผมคง....” โรนัลโด้ทำเสียงซึมเศร้า
“เอ่อ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมชอบคุณนะ” ร่างเล็กพูดไปตามตรง
และเพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดตรงไปหน่อย เค้าบอกปัดเป็นพัลวัน และโรนัลโด้ก็มองดูมันด้วยรอยยิ้มบางๆ
ที่มีไว้ให้เมสซี่เพียงคนเดียวเท่านั้น “เอ่อ...ไม่ใช่ ผมหมายถึง....คุณเป็นคนใจดีแล้วก็เก่งมากๆ ด้วย คุณใจดีมากที่ช่วยผม ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่คุณก็....ก็ช่วยผมไว้
และถ้าเป็นคนอื่น แน่นอนคุณก็ต้องช่วยพวกเค้าแน่และ.....”
“ไม่ลีโอ...” เสียงร่างสูงทุ้มนุ่มกว่าตอนปรกติ
“.....ผมช่วยคุณแค่คนเดียว”
ร่างสูงหยุดประโยคของคนช่างพูดไว้
และมองร่างเล็กด้วยสายตาแบบเดียวกันกับตอนที่พวกเค้าจูบกันในครั้งสุดท้าย แสงประกายระยิบจับตาของทั้งคู่เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มโอบท้องฟ้า......เมสซี่ไม่พูดต่อแล้ว
และมองกลับไปเช่นเดียวกัน
และใช่ อย่างที่โรนัลโด้เคยใช้คำนี้กับช่วงเวลาที่พวกเค้าอยู่ด้วยกันบ่อยๆ.............
..............เวลาหยุดหมุนชั่วขณะสำหรับคนทั้งคู่..............
บนภูเขาที่โดดเด่น แต่ทว่าเงียบสงบที่สุดในตอนนี้
“คุณจะพูดต่ออีกไหม เพราะผมไม่กล้าคิดต่อไป ด้วยตัวเองอีกแล้ว”
เมสซี่ยกคิ้วน่ารักของตัวขึ้น ในขณะที่เอื้อมขึ้นมาจับมือแกร่งที่เกาะกุมแก้มเนียนของตัวเองไว้
โรนัลโด้หัวเราะในลำคอ เหลือบตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนกำลังมองหาพระเจ้า
“โอ้ ลีโอ....มันชัดเจนด้วยความหมายของมันเอง”
โรนัลโด้ยิ้มและพูดแค่นั้นก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจูบกับคนที่ดูอ่อนต่อโลกเหลือเกินสำหรับเค้า
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยยยยยยย!
หวานอีกหนึ่ง Part >//< โอ๊ยยยยยย เฮียขาาา
ไรท์นี่จะแจกบัตรเชิญงานแต่งของเฮียกะเหมียวแทนอยู่แล้วนะคะ รีบๆ เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีเถ๊อะ รึถ้าเป็นกันแล้วก็กรุณาแถลงข่าวด้วยค่ะ พวกสาวก RonalSi อย่างเราๆ
จะได้ไม่ต้องมานั่งจิ้นจนปวดหัวนั่งฟินจนปวดใจอยู่อย่างนี้อีกกก จะเอาก็เอาเลยค่ะ อร๊ายยยยยยยยยยยย! >/////<
แต่ว่า อ๊ากกกกก! Part เป็น Part สุดท้ายแล้วค่ะ! T[]T Part…END ตัวใหญ่ๆ ว่าจะจบแล้วนะเออ นี่ก็จะร้องไห้ด้วยค่ะ รักเฮียเหมียวเหลือเกินนน อะไรๆ หลายๆ อย่างเกิดขึ้นก็เพราะเฮียกะเหมียวนะคะ
(ที่เกิดเคมีให้จิ้นกัน) ไรท์ต้องขอบคุณทั้งสองท่านด้วยค่ะ TUT //จรดมือแนบตัก//
เป็นคู่จิ้นที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ค่ะ
จนตอนนี้บล็อกของไรท์อู้ฟู่เรื่อง ฟิคเฮียเหมียวมากเลยค่ะ
และรีดๆ
ก็อย่างลืมคอมเม้นท์และติดตาม Part ต่อไปกันด้วยนะคะ มีเรื่องราวในตอนท้ายให้ได้เลิกคิ้ว(?)กันด้วยค่ะ
5555
แปะเฟสไรท์ค่ะ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของไรท์ได้เสมอเลยนะคะ
//ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเหมือนร้าง -=-// ไม่แน่อาจจะมีฟิค RonalSi ของเฮียกะเหมียวโผล่มาอีกก็ได้นะคะ
^^ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามค่ะ
M_ _M รักรีดทุกท่านมากนะคะ
>//<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
อร้ายยยยยยยย หมอนขาดไป8ใบแล้วค่ะไรท์ จิ้นหนักมาก -///- เอียหวานเกินไป เหมียวน่ารักเกินไป โอ้ยยย คนอ่านเขินแทนค่ะ >< บอกตรงๆค่ะ เราไม่อยากให้จบเลย ติดเรื่องนี้หนักมาก TT หวังว่าจะมีมาเรื่อยๆนะคะ
p.s. ไปอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ กับคนที่ไม่ค่อยคุ้นมันค่อนข้างยากจะปรับตัวค่ะ เราเข้าใจ แต่เราขอให้เราไนท์ผ่านไปได้เร็วๆนะคะ และใช้เวลาในรั้วมหาลัยในสนุกนะคะ!! ^^
อร้ายยยยยยยย หมอนขาดไป8ใบแล้วค่ะไรท์ จิ้นหนักมาก -///- เอียหวานเกินไป เหมียวน่ารักเกินไป โอ้ยยย คนอ่านเขินแทนค่ะ >< บอกตรงๆค่ะ เราไม่อยากให้จบเลย ติดเรื่องนี้หนักมาก TT หวังว่าจะมีมาเรื่อยๆนะคะ
p.s. ไปอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ กับคนที่ไม่ค่อยคุ้นมันค่อนข้างยากจะปรับตัวค่ะ เราเข้าใจ แต่เราขอให้เราไนท์ผ่านไปได้เร็วๆนะคะ และใช้เวลาในรั้วมหาลัยในสนุกนะคะ!! ^^
อร้ายยยยยยยย หมอนขาดไป8ใบแล้วค่ะไรท์ จิ้นหนักมาก -///- เอียหวานเกินไป เหมียวน่ารักเกินไป โอ้ยยย คนอ่านเขินแทนค่ะ >< บอกตรงๆค่ะ เราไม่อยากให้จบเลย ติดเรื่องนี้หนักมาก TT หวังว่าจะมีมาเรื่อยๆนะคะ
p.s. ไปอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ กับคนที่ไม่ค่อยคุ้นมันค่อนข้างยากจะปรับตัวค่ะ เราเข้าใจ แต่เราขอให้เราไรท์ผ่านไปได้เร็วๆนะคะ และใช้เวลาในรั้วมหาลัยในสนุกนะคะ!! ^^
คราวนี้เป็นไกด์รึ? ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้นับอาชีพของพ่อยอดชายคริสเตียโน่ไม่ถ้วนจริงๆนะคะเนี่ย ขอแซวหน่อย อิอิ เป็นได้ทู้กกอย่าง (สำหรับลีโอด้วยนะจ๊ะ >///<)
ตอนนี้หวานแบบอบอุ่นดีค่ะ แบบนี้ต้องขอบคุณเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ทำให้เราได้มาเจอกันจริงๆนะ มาถึงวันนี้ได้ก็นับว่าเกินคุ้มมาก ได้ยิ่งกว่า 'มิตรภาพ' จริงๆด้วยซิ จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกนะ
'...ผมช่วยคุณแค่คนเดียว' ท้ายประโยคนี้ช่างความหมายลึกซึ้งนะคะ ชอบค่ะ
ปล.อยากจะบอกว่าเปิด youtube ฟังเพลงที่ไรท์เตอร์บอกใน talk ไปด้วยล่ะ เพลงเพราะดีค่ะ
อร้ายยยยย คิดถึงมากอ่าTwT
เฮียแบบโรแมนติกเวอร์ แอบอิจฉาเมสเลย คิคิ
กัดหมอนขาดไปหลายใบละค่ะไรท์
อยากให้เฮียพาเหมียวไปเที่ยวอีกก ชอบพาร์ทนี้มากๆเลยค่ะ ❤️
แสดงความคิดเห็น