อร๊ายยยยยยย สวัสดีค่ะรีดๆ ทั้งหลายของไรท์ หลังจากที่ลง Part แรกไปแล้วเกิดคำถาข้อสงสัยอย่างมากมายเป็นเสียงเดียวกันว่า...เป็นใครกันที่มาหาเหมียว? อ๊ากกก เราจะมาเฉลยกันใน part นี้ค่ะรีดขาาาาา
แต่ก่อนอื่นไรท์อยากจะบอกไรท์ติดเพลง The Lazy song ของ
Bruno mars มากๆ เลยค่ะ
//สักพักโดนรีดตบ...มันเกี่ยวกันไหมแก!
แค่อารมณ์ก็คนละเรื่องกันเลย//
55555 คลายเครียดดีจริงๆ เลยค่ะ ลิงของบรูโน่หลุดมากเลยค่ะ รัวทุกตัวเลย 55555 บรูโน่ก็น่าร๊ากกก น่ารักก >///< อร๊ายๆๆ อยากได้ผู้ชายตัวเล็กๆ
มาเลี้ยงที่บ้านทันทีเลยค่ะ 5555 //บรูโน่ตัวนิดเดียวนุ ไปร้องเพลงให้ Victoria Secret ยังยืนบนบันไดตั้งสามขั้นแหนะ
55555 สูงแค่ 165 เองนิเนอะ 55555 ชอบค่ะไรท์ชอบบบ พ่อคุณตัวเล็กดี 55//
พอ! นอกเรื่องงง!! อัลไลเนี่ยหาาา......ปล่อยไรท์ไปค่ะ
555 ไรท์หลงบรูโน่ตั้งแต่เพลง Miror
แล้วค่ะ ตอนแรกยังไม่ได้ดู MV
ฟังเสียงนึกว่าผู้หญิง 555555 //ยัง...ยังไม่จบ// โอเคค่ะ เอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ ปล่อยไรท์ให้อยู่กับบรูโน่ไปก่อนนะคะ 555555
------------------------------------------------------------------------------------------------
“ไงลีโอ
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
.
.
****************************************************************************
.
.
ร่างเล็กมีสีหน้าสงสัยและไม่คาดคิด
“พี่เนย์มาร์”
ชายหนุ่มผิวสีเข้ม
บ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าเค้าไม่ใช่คนในพื้นที่นี้ เค้าใส่เสื้อยืดสีน้ำตาลเข้ม
หลังจากที่เสื้อโค้ทสีดำคลับตัวใหญ่ของเค้าโดนแม่ของร่างเล็กรบเร้าให้ถอดออกและฉุดกระชากออกไปแขวนไว้ที่ราวได้สำเร็จในที่สุด
โดยที่เนย์มาร์ก็ยิ้มให้อย่างเกรงใจไม่น้อยเลย
และชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ลีโอเนล เมสซี่
ที่เอาแต่ทำตาโตไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยหลังจากนั้น
“ลีโอ” แม่ของเด็กหนุ่มเรียก
รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่ลูกชายของเธอมีคนมาหาถึงบ้าน
และนั่นเรียกสติให้ร่างเล็กที่ยืนจับราวบันไดอยู่ได้เป็นอย่างดี
“คะ ครับ”
เมสซี่หันมาหาแม่ด้วยสีหน้าที่ตื่นตัว
แต่กลับโดนแม่เอียงใบหน้าใส่
“พาพี่เค้าไปที่ห้องสิลูก บางทีเค้าอาจมีเรื่องอยากคุยกับลูกนะ”
ก่อนหญิงที่ไม่ใคร่อยู่ในวัยสาวแล้วจะหันมาส่งยิ้มเป็นมิตรให้แก่ร่างสูงโปร่งของหนุ่มชาวบราซิล
ที่ซึ่งยิ้มโชว์ฟันมีเขี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์มัดใจสาวๆ ส่งกลับมาให้ แม่ของเมสซี่ดูชอบใจเนย์มาร์เป็นอย่างมากก่อนจะหันไปมองลูกชายที่ยอมเดินลงมาจากบันไดขั้นสุดท้ายอย่างซื่อๆ
“ไง หวัดดีลีโอ”
เนย์มาร์เอ่ยทักอย่างเป็นมิตรเช่นเดิม และยังไม่หุบยิ้มน่ามองนั้นลง
ร่างเล็กของรุ่นพี่ที่โดนบุกเข้ามาหาถึงบ้านก็วาดยิ้มตอบกลับไปน้อยๆ
“หวัดดีฮะ”
เมสซี่ยักไหล่และแม่ของเค้าก็เอาผ้าเช็ดโต๊ะไปเก็บในครัว
“ผมไม่คิดว่าพี่จะมาที่นี่....”
“โอ้ว ขอโทษนะพี่น่าจะบอกก่อน มันคงรบกวนน่าดูเลย เพียงแต่ว่าพี่ไม่มีเบอร์ของลีโอก็เท่านั้นเอง”
เนย์มาร์ยักไหล่กลับไป และพูดติดตลกอย่างอารมณ์ดี
เช่นที่เมสซี่เพิ่งจำได้ว่าเจ้าตัวชอบบุคลิกด้านนี้ของรุ่นพี่ร่างโปร่งมากแค่ไหน เมสซี่หัวเราะน้อยๆ
ในตอนที่หญิงคนเดียวในบ้านอุทาน ในระหว่างที่เร่งฝีเท้ามาหาสามี
“อุ๊ย ตายแล้ว
พระเจ้าที่รักฉันเกือบลืมไปเสียสนิทเลย” สามีของเธอหันมามอง
ก่อนเธอจะหันไปขอโทษแขกที่ดันเสียงดังเสียมารยาทแล้วเอ่ยกับลูกชายอย่างนึกช่วยไม่ได้
“โอ้ ลีโอแม่เพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้ต้องไปโบสถ์
และแม่ต้องไปเอาของบางอย่างจากร้านที่ฝากไว้เมื่อสองวันที่แล้ว หวังว่าตอนนี้ร้านคงยังไม่ปิดนะ.....โธ่เอ้ย
ดันลืมเสียได้ บ้าจริง”
เธองึมงำกับตัวเองในท้ายประโยค
“ให้ผมไปเอามาให้ไหมฮะ”
ร่างเล็กของเด็กหนุ่มทำเสียงตื่นตัว ต้องการจะเสนอตัวออกไปช่วยผู้เป็นแม่เต็มที่
เพราะแต่ไหนแต่ไรมาร่างเล็กก็เป็นลูกที่ดีอยู่แล้วเสมอมา
เนย์มาร์หันมามองเมสซี่โดยที่ร่างของเด็กหนุ่มก็ไม่รู้ตัวเลย
“โอ้ว ไม่ต้องหรอกจ๊ะ เดี๋ยวแม่กับพ่อจะไปเอง.....เอ่อ เราต้องคุยกับเจ้าของร้านด้วยเรื่องของอีกหลายๆ
อย่างที่เราจะต้องไปรับขากลับจากโบสถ์ในวันพรุ่งนี้น่ะจ๊ะ” แม่ของเค้าบอก
พร้อมกับสามีที่รุดหน้าไปหยิบเสื้อคลุมจากราวแขวนมาให้เธอ พวกเค้าลืมไปเสียสนิทจริงๆ ด้วย ถ้าหากร้านปิดก่อนล่ะก็ต้องแย่แน่ๆ เลย
เมสซี่อ้าแขนน้อยๆ แล้วโบกมือให้
“เอ่อ งั้นก็โชคดีนะฮะ ผมหวังว่าร้านคงยังไม่ปิดตอนนี้”
เด็กหนุ่มอวยพรแม่ที่ส่งยิ้มให้เค้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากบ้านไป แต่ก็มิวายแว่วเสียงบ่นสามีไปด้วย
“ทำไมคุณถึงไม่เตือนฉัน ถ้าเราไปไม่ทันฉันจะโทษคุณ.......”
เนย์มาร์มองตามประตูที่ปิดลงและเลิกคิ้วตามผู้เป็นแม่ที่ไปไวมาไวของรุ่นน้องซึ่งยืนยิ้มเจื้อนๆ
อยู่ข้างหลัง
ร่างสูงโปร่งหันกลับมาหาเมสซี่
“เอ่อ....แม่ผมก็พูดไปเรื่อยน่ะครับ แม่ไม่เคยหยุดพูดเลย
และนั่นก็เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของแม่.....ขอโทษด้วยฮะ ถ้าทำพี่รู้สึกแปลกๆ”
เด็กหนุ่มผู้น่าตาแช่มชื่นเอ่ยยิ้มๆ พลางยักไหล่
แต่ทว่าใบหน้าขาวใสน่ามองนั้นก็ดูเศร้าหมองลงไปเสียถนัดตา
เนย์มาร์สบตากับรุ่นน้องที่ยิ้มน้อยๆ
อยู่ตรงหน้า
เตะความคิดในใจจากการสังเกตท่าทางของเด็กน้อยไว้ แล้วเปลี่ยนมาเป็นยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ถ้าแม่พี่เป็นแบบนี้บ้างก็คงดี”
เค้าหัวเราะในลำคอ
ก่อนจะแว่วได้ยินเสียงเช่นนั้นจากเด็กหนุ่มตรงหน้าบ้าง
แต่ทว่าร่างเล็กกลับมีเสียงที่สดใสน่าฟังกว่าเค้ามากนัก
เมสซี่ยิ้มมากขึ้น
ก่อนจะผายมือไปที่เก้าอี้น้อยๆ “แล้วพี่มีธุระอะไรหรือครับ?”
เด็กหนุ่มเชิญรุ่นพี่ร่างสูงโปร่งที่ทำตัวสุภาพเสมอแม้จะอยู่กับรุ่นน้องแต่เพียงสองคนให้ทำตัวตามสบาย
เมสซี่เดินมานั่งที่เก้าอี้ของโต๊ะกินข้าวในห้องครัว
มันทำให้เจ้าตัวรู้สึกดีเสมอที่ได้หย่อนกายไว้บนเก้าอี้ไม้ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย
เนย์มาร์เดินตามแล้วนั่งลง
“พี่นึกว่าจะไม่ได้เจอลีโอแล้วซะอีก พี่นึกว่ามาผิดทางแล้ว”
ร่างเล็กหัวเราะน้อยๆ อีก แล้วเอ่ยเสียงสดใสขึ้น “ผมก็ดีใจที่เจอพี่ครับ”
และดูท่าทางเด็กน้อยตรงหน้าร่างสูงจะไม่เคยได้หัวเราะเลยตั้งแต่หายหน้าหายตาไป
“พี่ก็ดีใจที่ได้เจอ...”
เนย์มาร์จ้องมองเด็กหนุ่มน่ารักที่เคยทำตัวขยันขันแข็งอยู่ข้างสนามอย่างคิดถึง
ก่อนเค้าจะสูดหายใจเข้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามออกไปอย่างตรงประเด็น
“.....ที่โรงเรียนมีอะไรทำให้ลีโอรู้สึกไม่พอใจอย่างงั้นหรือ” เค้าถาม แต่เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านกลับตีสีหน้าใหม่ใส่เค้า รอยยิ้มประดับริมฝีปากบางอมชมพูหายไป ใบหน้าขาวใสนั้นฉายแววสะเทือนใจออกมาอย่างปิดไม่มิด เนย์มาร์น่าจะมองไม่ผิด
“พี่ไม่สบายใจมากที่ลีโออยู่ๆ
ก็หายไป คนอื่นๆ
ที่โรงเรียนก็ด้วย.....เพื่อนๆ ของลีโอพวกนั้นอยากรู้ว่าทำไมลีโอถึงหายไป”
เนย์มาร์พูดอย่างประนีประนอม ไม่เร่งรัดเด็กน้อยที่นั่งตัวแข็งอยู่ตรงหน้าเค้าด้วยคำพูด
“พี่ไม่สบายใจมากลีโอรู้ใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยย้ำถึงความรู้สึกของตัวเอง
ก่อนเด็กหนุ่มจะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้
“ขอโทษนะครับที่ทำให้พี่กับคนอื่นๆ เป็นห่วง”
เมสซี่ก้มมองนิ้วมือที่เกี่ยวกันไปมาบนโต๊ะอาหารของตนเอง เจ้าตัวใช้นิ้วถูกไปบนเล็บอีกข้างหนึ่งของตัวเองอย่างเคยชินในยามที่รู้สึกไม่สามารถบ่ายเบี่ยงได้
และใช่ว่าเนย์มาร์จะชอบสถานการณ์น่ากระอักกระอวลเช่นนี้
และยิ่งมันกำลังจะเกิดขึ้นกับรุ่นน้องผู้น่ารักของเค้าแล้ว ชายหนุ่มกลับนึกโทษตัวเองเสียเป็นเท่าตัว
ที่การมาครั้งแรกของเค้าทำให้เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านต้องเป็นกังวล
“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกลีโอ ลีโอไม่ใช่คนผิด ไม่ผิดอะไรเลยทั้งนั้น เพียงแค่ว่าพี่อยากรู้ว่าอะไรทำให้ลีโอหายไป”
เมสซี่ช้อนสายตามองมาทางเนย์มาร์เล็กน้อย
“มีอะไรที่นั่นไม่ดีทำให้เราไม่สบายใจรึเปล่า?......ทุกคนเป็นห่วงลีโอนะ”
ชายหนุ่มมองดูเด็กหนุ่มขบเม้มริมฝีปากเล็กน้อย
แล้วรอเมสซี่เอ่ยคำออกมาบ้าง..........ไม่ใช่ว่าเนย์มาร์มาที่นี่ตามคำสั่งของคนอื่น
เค้าเพียงแค่เป็นห่วงและคิดถึงเด็กหนุ่มผู้เป็นดั่งเทวดาตัวน้อยๆ
ของชมรมเพียงเท่านั้น
ทุกคนก็ต่างเห็นตรงกันว่าการที่เมสซี่หายไปทำให้อะไรๆ ดูสดใสน้อยลง
ไม่เคยมีเด็กหนุ่มคนไหนที่จะสามารถทำให้ทุกคนยิ้มตามได้ทุกครั้งที่มองใบหน้าขาวใสอันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้นได้มากไปกว่าเมสซี่อีกแล้ว และเด็กหนุ่มคนดังกล่าวก็เป็นขวัญใจของทุกๆ
คนรวมถึงเค้าด้วย
ถึงแม้ว่าเนย์มาร์จะไม่ออกตัวแรงเหมือนเพื่อนจอมปากมากในชมรมของเค้าหลายๆ
คนก็ตามเถอะ
“เอ่อ ผม.....” ร่างเล็กเอ่ยปากในที่สุด
แต่แล้วเจ้าตัวก็พบว่าตัวเองไม่รู้จะพูดคำใดต่อให้เป็นประโยคไปดี เมื่อบอกกล่าวความจริงออกไปไม่ได้..........ความจริงที่ใครก็ตามจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“คือว่าผม.....”
เนย์มาร์ตั้งใจฟัง
แม้ไม่อยากจะกดดันรุ่นน้องก็ตาม
“ผม....”
“ไม่ต้องห่วงลีโอ ไม่ว่ามันจะเป็นเหตุผลอะไรพี่รับได้เสมอ”
ชายหนุ่มเอ่ยเสริมขึ้นในที่สุด
และเค้าไม่ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนของตัวเองได้ขืนใจรุ่นน้องที่นั่งเอ่ยตะกุกตะกักน่าเห็นใจอย่างเหลือแสนที่อยู่ตรงนี้เลย
จึงรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยกับการที่เด็กว่าง่ายอย่างเมสซี่จะไม่ยอมพูดออกมา
พวกเค้าทุกคนในชมรมล้วนอยากทราบสาเหตุของการลาออกจากโรงเรียนของร่างเล็กล้วนทั้งสิ้น เว้นเสียแต่โรนัลโด้
ใช่
พอข่าวเรื่องการย้ายโรงเรียนของเด็กหนุ่มเป็นที่แพร่สะพัดไปทั่ว
ทุกคนก็มีท่าทีงุนงงไปหมดตามๆ กัน
เมสซี่รักฟุตบอลมาก
รักมากที่สุดเท่าที่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งจะทำได้ แต่การลาออกโดยละทิ้งโอกาสดีๆ อย่างนี้มันไม่ใช่เลย
ในเย็นวันนั้นที่รู้ข่าวเนย์มาร์รีบตรงเข้าไปถามเพื่อนร่างสูงซึ่งเป็นประธานชมรมทันทีว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นรู้ข่าวเรื่องรุ่นน้องร่างเล็กที่แสนขยันขันแข็งคนนี้หรือไม่
“รู้สิ” โรนัลโด้เลิกคิ้วแล้วพยักหน้าน้อยๆ
ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากเช่นการนัดซ้อมฟุตบอลของพวกเค้า
“แล้วเค้าได้มาบอกนายบ้างรึเปล่า?” ชายหนุ่มชาวบราซิลเอ่ยถามอีก น้ำเสียงก็ยังคงไม่หายตื่นเต้นตกใจ
แต่สิ่งที่เค้าได้กลับมาคือการหันมามองหน้านิ่งแล้วไม่มีสีหน้าว่าอยากจะเอ่ยอะไรมากมายอีกเลยของโรนัลโด้
“แล้วมันใช่เรื่องของฉันรึไง” ก่อนเพื่อนร่างสูงที่พูดจาไร้ความใส่ใจเกินเหตุจนน่าหมั่นไส้จะเดินออกไป ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองเนย์มาร์ที่ตีหน้าไม่พอใจอยู่ข้างหลัง
ไม่รู้ว่าเหตุใดโรนัลโด้จึงได้ดูไร้หัวใจกับเด็กหนุ่มที่แสนเชื่อฟังคนนี้นัก
ยังไม่นับท่าทางไม่ยินดียินร้ายกับการเสียสมาชิกในชมรมไปเสียด้วย ทั้งๆ ที่เมสซี่ก็มีรายชื่อเป็นนักเตะตัวจริงในชุดที่สอง
ซึ่งนั่นหมายความว่าโรนัลโด้จะต้องหัวเสียเป็นอย่างมากที่สมาชิกระดับตัวเต็งหายไป
แต่ทว่านี่กลับเกินความคาดหมายของเนย์มาร์ไปมากโข เมื่อโรนัลโด้กลับมีท่าทีเพิกเฉยและไม่หยี่ระ
ร่างเล็กไปเสียอย่างนั้น
โรนัลโด้ดูแปลกไปมาก
และหลังจากวันที่ข่าวแพร่กระจายเพื่อนร่างสูงที่ดำรงตำแหน่งของประธานชมรมฟุตบอลก็เงียบครึมขึ้นมาก ทุกคนหวาดกลัวโรนัลโด้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
ฝ่ายนั้นมักจะมีท่าทางนิ่งเงียบดูไม่พอใจที่คนในชมรมทำได้ไม่ดีเสมอ
แต่สุดท้ายแล้วก็กลับเดินออกไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น
ไม่ลงโทษหรือตักเตือนบุคคลอ่อนซ้อม
ราวกับว่าโรนัลโด้ไม่เป็นตัวเองของตัวเอง
..........รึว่าไม่สิ
กลายร่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมไปเสียแล้วล่ะสิไม่ว่า..........
ถ้าไม่บอกตัวเองว่าคิดฟุ้งซ่านมากเกินไปแล้ว
เนย์มาร์ก็คงจะหลงคิดไปว่าเพื่อนร่างสูงของเค้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลาออกของเด็กหนุ่มเป็นแน่แท้..........แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ
หมอนั่นจะทำอะไรให้เมสซี่ผู้มอบชีวิตให้กับฟุตบอลลาออกจากโรงเรียนและทิ้งชมรมไปได้
ไร้สาระจะตายไป
แต่ที่มาที่ว่าเหตุใดเด็กหนุ่มจึงได้ถอนตัวออกมานั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่
ชายหนุ่มเชื้อสายบราซิลเข้มข้นกำลังรอฟังคำแถลงไขของร่างเล็กตรงหน้าอยู่
“คะ
คือว่ามันเป็นความต้องการของแม่ผม...น่ะฮะ”
และในที่สุดประโยคของคำตอบก็หลุดออกมาจากปากน้อยๆ
ที่ไม่ชอบการโกหกนั้นออกมาจนได้
และการเอ่ยเรื่องไม่จริงออกไปก็ทำให้เด็กหนุ่มแทบจะอยู่ไม่สุขเลย
มือเล็กๆ
เหมือนกับเด็กน้อยนั้นยกขึ้นมาเกาท้ายทอยเล็กน้อย
ก่อนจะลามไปหลังคอบริเวณใต้คอเสื้อ
และเนย์มาร์ก็เลิกคิ้วขึ้น
พร้อมกับเอื้อมมือออกไปจับมือเล็กอ่อนนุ่มของอีกฝ่ายไว้
เมสซี่นิ่งค้างและรู้สึกงุนงงไม่น้อยที่จู่ๆ
เนย์มาร์ก็จับมาที่มือซึ่งอยู่หลังท้ายทอยขาวจัดของเจ้าตัว
แต่แล้วร่างเล็กก็ต้องเบิกตากว้างแล้วเริ่มตัวสั่น
“ลีโอ”
เนย์มาร์เรียกชื่อของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา จนเสียงฟังดูเหม่อลอย
ร่างเล็กของรุ่นน้องกลัดกลืนของเหลวลงคอไป
ในตอนที่รุ่นพี่ฝั่งตรงข้ามปล่อยเจ้าตัว
แล้วใช้มือลูบต้นคอขาวนวลนั้นอย่างเบามือ
เมสซี่ตัวสั่นเทิ่มพยายามจับมือของรุ่นพี่ออกอย่างสุภาพ แต่ทว่าอีกคนหนึ่งกลับลุกขึ้นจากเก้าอี้
ปัดมือของร่างเล็กที่พยายามดึงมือของเค้าออกน้อยๆ
เนย์มาร์ลูบต้นคอขาวเนียนที่ปรากฏเป็นรอยจ้ำสีอ่อนตาลงมา แล้วเลิกคอเสื้อยืดที่เมสซี่สวมใส่อยู่นั้นอย่างถือวิสาสะออก
เผยให้เห็นรอยจ้ำด้านในที่เด่นชัดยิ่งกว่า
“เกิดอะไรขึ้นลีโอ!”
เนย์มาร์โพล่งขึ้น
และปล่อยมือออกเมื่อเมสซี่ผุดลุกขึ้นยืนบ้าง
นี่มันรอยจูบ!
“อะ อา....”
เด็กหนุ่มกุมท้ายทอยตัวเองแล้วถอยจากจุดยืนไปเล็กน้อยอย่างตื่นตกใจ “ผม ผม...อึก
ผม.....” เด็กหนุ่มละล่ำละลัก
พูดอะไรไม่ออก และน้ำตาก็รื้อขึ้นมาเมื่อความแตกเสียแล้ว
“มันเกิดอะไรขึ้นลีโอ?”
เนย์มาร์ถามย้ำไปเมื่อตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
และเค้าก็คิดปะติปะต่อได้ว่าสิ่งนี้มันอาจเกี่ยวข้องกับการลาออกจากโรงเรียนของเมสซี่ด้วยหรือไม่
“อึก...คือผม....”
เด็กหนุ่มน้ำตาร่วงลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
ความกลัวก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเริ่มกัดกินหัวใจของเมสซี่..........กลัว กลัวเหลือเกินว่าเรื่องจะแดงขึ้น
และบานปลายจนพ่อกับแม่รู้เข้า
เนย์มาร์ไม่ได้ว่ากระไรมาก
แต่กลับเดินอ้อมมาหารุ่นน้องร่างเล็กตัวจ้อยแล้วจับไปที่ชายเสื้อยืดขนาดตัวเล็กหนานุ่มนั้น
“ดะ เดี๋ยวก่อนครับพี่เนย์มาร์....อึก เดี๋ยวก่อน!”
เมสซี่คว้าจับมือที่กำชายเสื้อของตัวเองไว้แน่นไม่ยอมให้เนย์มาร์ทำได้ดั่งใจคิด ในขณะที่ร้องไห้กลัวสถานการณ์จนตัวสั่น
“ไม่เป็นไรลีโอ พี่ไม่ได้ทำอะไร”
ร่างสูงโปร่งเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงสุดหัวใจ
ครั้งแรกที่เค้าเห็นเด็กหนุ่มน้ำตาร่วงลงมา เค้าใจสั่น
ความเป็นห่วงมากมายเพิ่มยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
แต่ทว่าเนย์มาร์เมื่อเห็นรอยจูบประปรายอันแปลกตานั้น
เค้าก็ไม่สามารถนั่งอยู่อย่างใจเย็นได้
..........นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้กับเด็กหนุ่มผู้อ่อนเดียงสาของเค้ากัน..........
“ไม่เอา...ฮึก...อย่าทำนะครับ
อย่าเปิด...” เมสซี่ส่ายหน้ารัว
เจ้าตัวกลัวเกินไปที่จะให้คนอื่นเห็น ถึงแม้ว่าคนๆ
นั้นจะเป็นเนย์มาร์ก็ตาม..........เรื่องแบบนี้จะให้ใครรู้ได้ยังไงกัน ไม่
ไม่ได้เด็ดขาด
และเมื่อไม่ได้รับความร่วมมือที่ดี ร่างสูงโปร่งของรุ่นพี่จึงจำใจต้องจับตัวร่างเล็กของรุ่นน้องไว้
ก่อนจะพาตัวมาที่โต๊ะอาหารแล้วดันร่างของเมสซี่ให้ราบลงไป
“อื้ออ! พี่เนย์....”
เมสซี่ขืนตัวไว้สุดแรงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ร่างกายที่สั่นเทาสูบเอาเรี่ยวแรงส่วนหนึ่งของเจ้าตัวไป เมสซี่จิกเล็บสั้นๆ ทั้งสองข้างลงบนพื้นโต๊ะที่แข็งแต่เรียบลื่นของโต๊ะอาหาร เนย์มาร์หักห้ามใจ ไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น ก่อนมือแข็งแรงจะจับชายเสื้อยืดตัวหนา ถลกมันขึ้นเพื่อพิสูจน์ข้อข้องใจมาจนถึงระดับคอของร่างเล็ก เมสซี่หลับตาปี๋พร้อมทั้งน้ำตาที่จู่ๆ
ก็ไหลบ่าออกมาอีกอย่างหมดหนทางหนี
และภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของร่างสูงโปร่งผิวสีเข้มนั้น
ก็ทำเอาเค้าเลิกชายเสื้อค้างไว้แบบนั้นอยู่นานทีเดียว เนย์มาร์ขมวดคิ้วแน่น ผูกมันเป็นปม
แล้วมีสีหน้าตกตะลึงพลางหงุดหงิดไม่พอใจ
เพราะหน้าท้องแบนราบขาวเนียนน่าสัมผัสของเด็กหนุ่มที่นอนตัวสั่นเทิ้มอยู่ตอนนี้นั้น
เต็มไปด้วยรอยจูบและรอยกัดนับสิบรอยเห็นจะได้
ซึ่งปรากฏเด่นชัดอยู่ต่อสายตาของชายหนุ่ม
ถึงจะคิดในแง่ดีอย่างไรก็คงจะเห็นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้ว..........
มือเล็กๆ
พยายามร่นชายเสื้อตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
และก็ได้รับความยินยอมจากรุ่นพี่ที่ทำหน้าช็อคเสียจนกลัวว่าจะพูดอะไรไม่ได้อีกเลย
เมสซี่ยันตัวลุกขึ้นมานั่งอยู่บนโต๊ะอาหารและไม่ได้วิ่งหนีรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้เรื่องบางอย่างอันแสนสำคัญไปไหนแต่อย่างใด
..........เนย์มาร์แค่กำลังคิด คิดว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ และอยู่ๆ ภาพใบหน้าอันเย็นชาของเพื่อนร่างสูงก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเค้าโดยอัตโนมัติเสียอย่างนั้น ใบหน้าคมสันได้รูปของโรนัลโด้
แต่ถูกแสดงอาการออกมาอย่างเมินเฉย
และกำลังหันศีรษะกลับไปโดยไม่สนใจคำถามของเนย์มาร์..........
และที่ต้นคอของโรนัลโด้ เนย์มาร์ก็สังเกตเห็นรอยข่วนบางๆ
ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว
ในเย็นของวันจันทร์วันที่เมสซี่ไม่ได้มาโรงเรียนเป็นวันแรก
ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มชาวบราซิลเริ่มคิดในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังนั่งใช้ฝ่ามือปิดหน้าปิดตาร้องไห้
..........ไหนจะยังรอยเล็บมากมายที่ต้นแขนของโรนัลโด้อีกล่ะ...........
เนย์มาร์คว้ามือของเมสซี่ขึ้นมาดู เด็กหนุ่มสะดุ้งปนสะอื้น
..........เล็บโดนตัดไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังยาวอยู่ตามลำดับของเวลา
ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงสองอาทิตย์ที่แล้ว
ไม่จริงน่า! เป็นไปไม่ได้!..........ชายหนุ่มคิดสบถในใจ แต่ทว่าก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ทุกอย่างเด่นชัดอยู่ได้
ถึงจะไม่ได้สนิทจนถึงขั้นเพื่อนซี้เพราะโรนัลโด้มีโลกส่วนตัวสูงมาก
แต่เนย์มาร์ก็เคยเห็นสีหน้าที่เพื่อนร่างสูงมองรุ่นน้องร่างเล็กตรงหน้านี้มาก่อนว่าเป็นเช่นไรและมันก็ค่อนข้างบ่อยเสียด้วยซ้ำ อีกฝ่ายมองเมสซี่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบแกมหงุดหงิด ไม่มีการทำดีด้วย ไม่มีการปราณีเหมือนเช่นคนอื่นๆ ทั้งๆ
ที่เมสซี่ก็ตัวเล็กและดูอ่อนแอที่สุดในชมรมแท้ๆ..........รึว่าโรนัลโด้จะเห็นว่าเด็กหนุ่มเป็นเพียงเด็กบอบบางที่สมควรโดนเขี่ยออกไป
“คริสเป็นคนทำใช่ไหม!?”
เค้าถามออกไป เนย์มาร์ไม่เคยอ้อมค้อม
จนความตรงไปตรงมานั้นทำเอาร่างเล็กที่น้ำตาไหลไม่หยุดทำหน้าตื่นตระหนกแล้วนิ่งอึ้งไปเลย เมสซี่พยายามปฏิเสธแต่ตอนนี้เนย์มาร์ดูน่ากลัวเหลือเกินสำหรับเค้า
เด็กหนุ่มไม่ต้องการให้รุ่นพี่อีกคนหนึ่งโกรธเค้าเพียงเพราะเค้าโกหก
แต่ทว่ามันก็หนักหนาเกินไปที่จะยอมรับความจริง..........ความจริงที่น่าอาย
“ใช่รึเปล่าลีโอ? ตอบพี่สิ!” เนย์มาร์ยังคงไม่ปล่อยมือนั้น
และเขย่าย้ำถามต่อไป
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก
ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตานั้นหันไปทางอื่นทั้งแรงสะอื้น
จนเนย์มาร์รู้สึกผิดไปไม่น้อยที่เอ่ยออกไปเสียงดังขนาดนั้น..........เด็กคนนี้ยังคงอ่อนต่อโลกและเปราะบาง.........แต่ทว่าสิ่งเหล่านั้นคงจะโดนตีจนแตกกระจายไปแล้วเมื่อรอยดูดเม้มที่ปรากฏอยู่บนร่างกายนี้ได้ถูกสร้างขึ้น
เมสซี่ไม่ตอบ
เด็กหนุ่มเพียงแต่พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองไว้เท่านั้น
แต่ว่านั่น.....ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีแล้วว่าความคิดของเนย์มาร์นั้นเป็นจริงมากเพียงใด
และทันใดนั้นเองสมองของเค้าก็บีบตัวเข้าหากันแล้วเต้นตุ้บๆ ด้วยความโกรธ
ชัดแล้ว แม้ไม่ตอบ
ความเป็นจริงก็ประจักษ์แจ้งแล้ว.........เนย์มาร์ไม่ได้นึกโกรธเมสซี่เลยสักนิดเดียว
แต่กลับกัน
เค้ากลับสงสารเด็กหนุ่มจับใจที่ต้องไปเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นซึ่งถูกกระทำโดยคนที่เค้าเองก็คาดไม่ถึง!
คริส!..........ร่างสูงโปร่งขบกรามแน่น
ทำใจแข็งเก็บความเกรี้ยวกราดที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนักนั้นไว้ในใจ แล้วปล่อยข้อมือที่เป็นรอยแดงของเมสซี่อย่างอ่อนโยน
ก่อนจะมอบอ้อมกอดอันอ่อนโยนยิ่งกว่าให้เด็กหนุ่มที่ร้องไห้ฟูมฟายพร่ำบอกคำอ้ำๆ
อึ้งๆ ราวกับต้องการกล่าวคำขอโทษ
ก่อนร่างสูงโปร่งของเนย์มาร์จะคว้าเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของตัวเองออกจากบ้านของเด็กหนุ่มไป ท่ามกลางความประหวั่นพรั่นพรึงและความใจหวิวของรุ่นน้องที่ยังคงนั่งตัวสั่นเพราะแรงสะอื้นอยู่บนโต๊ะอาหาร
เมสซี่เกิดคำถามที่ค้างคาใจเหลือเกิน
ตั้งแต่เนย์มาร์เอ่ยปากถามเมื่อครู่นี้..........เค้ารู้ได้ยังไงกัน?
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊าาาาา ปรากฏว่าเป็นเนย์ค่ะ 55555 มีรีดทายถูกด้วยนะเออ >< อร๊ายๆๆๆๆ เนย์รู้เรื่องนี้แล้วอ่าาาา ทำไงดีๆๆๆ ทำไงดีคะรีดด อุ
อันที่จริงต้องถามเหมียวนี่เนอะ
แต่ก็นั่นล่ะค่ะ
อิเนย์คงจะไม่ทำให้น้องลำบากใจหรอกค่ะ
แต่ไรท์ขอบอกไว้ก่อนเลยค่ะนะคะ ในซีรี่ย์ Falling In Love Again นี้
เนย์มาร์เราปรกติดีนะคะ สติปัญญาสมบรูณ์มากกว่าเรื่องอื่นๆ
ที่ผ่านมา และเป็นผู้เป็นคนมากกว่าเรื่องวุ่นวายฯ
และรุ่นพี่เฟี้ยวฯ นะคะ 55555 //ห้าวิต่อมา
เนย์มาร์เดินมาต่อยไรท์// 555555 เรื่องนี้เค้าโอเคค่ะ ดูเป็นคนที่ดูมีภูมิน่าดูเลยค่ะ และเป็นคนที่รู้นิสัยเฮียขึ้นมาระดับหนึ่งค่ะ
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ลึกถึงสิ่งที่เฮียเค้าคิดอยู่ก็ตาม แต่เฮียเนย์ก็อ่านปฏิกิริยาที่เฮียโด้กำลังจะทำต่อไปได้ค่ะ
และเค้าก็จะคอยปรามเวลาเฮียโด้ทำเกินไปตลอดค่ะ (แต่ก็รู้เนอะ เฮียเราไม่ฟัง -*-)
ว่างๆมาพูดคุยกับไรท์ได้ค่ะ
ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสของไรท์เองค่ะ จิ้มโล้ดค่าาา
และพบกันที่ Part ต่อไปนะคะ เฮียเนย์เค้าจะออกไปไหนกัน ทำไมถึงใยดูเร่งรีบขนาดนั้น แล้วเมื่อไรพระเอกของเราจะลงจอเสียที!! รู้สึกรีดๆ จะรอนานกันแล้วสินะคะ
55555 เดี๋ยวจะได้เจอเฮียกันแน่ๆ
เลยค่ะ อดใจอีกนิดเดียวเท่านั้นนะเออ
รักรีดทุกท่านมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ส่งจูบ…….^3^
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
4 ความคิดเห็น:
หว่าาาาา ทายผิดแฮะ นึกว่าจะใช่สะอีก
แต่เฮียเนย์ก็ช่างสังเกตุใช่ย่อย
เป็นเนย์มาร์ก็ดีแล้ว เพราะรุ่นพี่คนนั้นเขาคงจะไม่มาที่บ้านลีโอหรอก...หมายถึงว่า อย่างน้อยก็ตอนนี้. ล่ะนะ... ในที่สุดเนย์มาร์ก็รู้เรื่องแล้ว แถมยังรู้อีกว่าใครเป็นคนทำ รุ่นพี่โรนัลโด้เอง
เนย์มาร์รู้แล้วจะทำอย่างไรต่อ ไปโวยวายกับคริส ทำเฉยๆไว้ หรือจะทำอย่างไร ฯลฯ. ต่่นเต้นค่ะ อ่านแล้วคิดตามภาพนี่มาเป็นฉากๆ มันเครียดจริงอะไรจริงอ้า จะว่าไปพระเอกเรื่องนี้คนอ่านอยากเจอเหมือนกันนะ ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้ แล้ว. ความลงความลับอะไรไม่มีในโลก มาเร็วๆ. 555
นุ้งเนย์ของพี่เมสนี่เองนึกว่าใครค่ะ >< เธอช่างสังเกตมาก 55555 ไม่ใช่พาร์ทหน้าเป็นน้องเนย์ไปไฟท์กับพี่โด้นี่มันเลยนะคะ 555
พี่เนยย์ ชอบพี่เนย์แบบนี้มากๆเลย แลดูพึ่งได้55555555555555
จัดการเฮียคริสเลย! ทำให้เหมียวร้องไห้
แงงง อัพต่อไวๆนะค้า ติดตามค่า😍
แสดงความคิดเห็น