วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 26] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec



 ปู้ววว ปิสสสส  ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!!!  ไรท์กลับมาแล้วค่าาาาา รีดขาาาาาา >[]<!!!  อร๊ายยยยยดีใจแฮงค่ะ  น้ำตาไหลพราก TUT  ไรท์ต้องขออภัยอีกร้อยเที่ยวค่ะ ที่ทิ้งช่วงนานมากๆ อีกแล้วววว  ง่อวววว  สอบและงานมันเยอะจริงๆ เลยค่ะ  ไรท์กำลังปรับตัวอยู่ค่ะ และกิจกรรมก็น่ารำคาญค่ะ (อุ๊บบ  เดี๋ยวโดนสโมสรเตะ 555555)

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ  วันนี้ไรท์คงจิไม่ฝอยมากนะเออ 5555 เพราะปล่อยว่างมานานแล้ว  จะให้รีดไปอ่านกันเลยก็แล้วกันนะคะ ^^  

ว่างๆ รีดสามารถไปเร่งและกระตุ้นไรท์(?) ได้ที่เฟสของไรท์เลยค่ะ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<  จิ้มโล้ดค่าาา 


คาร์ลผู้นั่นจะทำอะไรอเล็คน้อยๆ ของเรา  อย่าให้เสียเวลา ไปอ่านกันเล้ยค่าาาา  >{}<!!


------------------------------------------------------------------------------------------


“ผมตามดูคุณมาโดยตลอดเลยรู้ไหม?” เค้าว่า อเล็คชักสีหน้าตื่นตระหนกปนไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก “และน่าเสียดายที่การกระทำของผมดูเหมือนจะไร้ผลตั้งแต่เริ่มต้น...”  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งซึ่งเป็นเจ้าของห้องกลับมายิ้มอีกครั้ง  รอยยิ้มแสยะแย้มขึ้นที่มุมปากสีสดนั้น

“...เพราะคุณเองก็มีคนที่ใฝ่ฝันอยู่แล้ว  แต่ก็นะ อย่างที่เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า แม็กนัส   เบน น่ะ มีแฟนที่หมายมั่นปั้นมือกันอยู่แล้ว” มิคาเอลเอ่ยชื่อของแม็กนัสด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ  ก่อนเค้าจะเคลื่อนกายเข้ามาหาอเล็คในที่สุด “ใช่  ตอนแรกผมก็วางหมากไว้ กะให้มันเป็นอย่างนั้น” มิคาเอลทรุดตัวลง คุกเข่าลงตรงหน้าของอเล็ค  แล้วนิ้วเรียวยาวที่เคยพรมบนคีย์บร์อดก็ถูกยกขึ้นไปละเลียดบนแก้มใสแต่ทว่าเย็นเชียบของอเล็คอย่างแสนรักเคล้าทะนุถนอม

“และคุณควรจะได้เจ็บปวดเพราะเค้า  พร้อมกับตัดใจจากเค้าไปเสีย....” อเล็คสั่น เมื่อนิ้วไร้ความรู้สึกน่าไว้วางใจนั้นลากไล้ลงมาตามผิวแก้มของเจ้าตัว “แต่ว่า...เอลซ่านั่นน่ะ เธอมันโง่เหลือเกิน โง่เกินไป  และก็อยากที่จะทำร้ายคุณมากเกินไป” มิคาเอลละมือออกมา แล้วทำสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเล็กน้อย เมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สามที่เค้าเองก็ไม่เคยคิดที่จะเห็นหัว

“ผมเลยต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง  และเสียใจเป็นอย่างที่สุด ที่จะต้องทำให้ร้านของคุณปิดตัวลง” ร่างสูงโปร่งนั่งลงข้างร่างบางที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างตื่นตกใจ

อะไรนะ!? คุณ...คุณพูดอย่างนั้นหมายความว่าอย่างไร?  คุณ  คุณมีส่วนทำให้มัน...”

“ผมเสียใจ  แต่ใช่ ผมเป็นคนทำให้เค้ายอมขายมันเอง ด้วยตัวเลขในบัญชีของเอลซ่า  ไม่ใช่ผมที่อยากทำแบบนั้นแต่เป็นเธอ  ผมพยายามห้ามเธอแล้วแต่เธอก็ยังคงรั้นเกินไป......เธอสั่ง ผมเลยจำเป็นต้องทำ” เค้าว่าแล้วเอื้อมมือไปหมายจะสัมผัสที่แก้มเนียนใสของร่างบางอีกครั้ง แต่ทว่าอีกฝ่ายหนึ่งกลับเบี่ยงตัวหนี

“คุณทำแบบนั้นได้ยังไง! แล้วทำไมคุณจะต้องทำตามที่เธอสั่งด้วย....เธอจ้างคุณอย่างนั้นหรือ?” อเล็คหัวหมุนติ้วและจับต้นชนปลายไม่ถูก

“เธอเป็นพี่สาวของผม” มิคาเอลตอบ  และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่าในตอนที่เค้ายอมทำตามคำขอของผู้เป็นพี่สาวด้วยผลประโยขน์อันเกี่ยวข้องกับการจับจ้องอเล็คเป็นเจ้าของนั้น และดูเหมือนมันก็ไม่ได้ทำให้เค้าดูเป็นคนดีขึ้นมาเลย 

มิคาเอลเสแสร้งและไม่สนใจว่าอเล็คจะเชื่อหรือไม่

ร่างบางซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาระยะห่าง โดนเบียดให้เข้าไปติดกำแพงอีกฝั่งหนึ่งของเตียงอย่างเสียมิได้  สองมือของอเล็คยกขึ้นกอดเข่าไว้และจ้องมองมิคาเอลอย่างระแวดระวัง

“ผมคิดว่าผมรู้จักคุณ” อเล็คเอ่ยเสียงเบา บ่งบอกว่าร่างบางนั้นหัวใจสลายเป็นอย่างยิ่ง  เค้าโดนหลอกอย่างยับเยิน  และเด็กหนุ่มข้างห้องที่เค้ารู้จักก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้ารู้สึกเหมือนชีวิตถูกดึงรั้งให้พังทลายลงอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ

แต่มิคาเอลไม่สนอะไรรอบตัวของร่างบางที่ตัวสั่นระริกอยู่ตรงหน้าทั้งนั้น  ที่เค้าสนก็คืออเล็ค....อเล็คคนเดียวเท่านั้น

และเค้าจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อเล็คอีกแล้ว….จะไม่ยอม

พวกนั้นมันสวะชัดๆ นอกจากจะเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจแล้วก็ยังหาดีไม่ได้….ไม่มี  ไม่มีหรอก  คนพวกนั้นน่ะมันสารเลว  ไม่มีใครที่เป็นเหมือนอเล็คของเค้าอีกแล้ว....ไม่มี  อเล็คคนเดียวเท่านั้นที่แตกต่าง และเค้ารักมาก....

รักจนเจียนจะคลั่ง

“แน่นอนสิ ผมรู้จักคุณ” ร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลไหม้ว่าเสียงคลายเหม่อลอย  แต่เค้ากลับยืดตัวขึ้นและไม่ได้พยายามขยับเข้าไปหาอเล็คอีกแล้ว  มิคาเอลหยุดแล้วพูดขึ้น “ผมดูคุณอยู่”

อเล็คเลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง  คำพูดของมิคาเอลกำลังทำให้เจ้าตัวรู้สึกกลัวมากขึ้นทุกที....ดูอยู่อะไรกัน

“ผมดูคุณอยู่ตลอดเลยล่ะอเล็ค  ไม่มีอะไรที่ผมไม่รู้  เพราะผมอยากที่จะอยู่ใกล้ๆ คุณ....” มิคาเอลไม่ได้ยิ้ม  เค้าหรี่ตาลงในระดับที่ปรกติแล้วยืดแขนไปหาอเล็คใช้ปลายนิ้วเช็ดไปที่หางตาซึ่งปริ่มน้ำของร่างบางผิวขาวดุจหิมะที่เค้าแสนหลงใหล  และด้วยความที่ว่ารู้ดี ว่าอเล็คคงหนีเค้าไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะหมดทางหนี  มิคาเอลจึงใช้นิ้วปัดไปมาอย่างอ้อยอิ่ง “....และใครที่คิดจะทำร้ายคุณ มันจะต้องเจอดี

มิคาเอลมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นโมโหอย่างเก็บกดราวกับโกรธแค้นแทนร่างบางที่ถูกทำร้าย  อเล็คสะดุ้งสุดตัวเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะโดนทำร้ายอีก  ไม่ว่าอะไรในตอนนี้ก็ทำให้เค้านึกถึงวันนั้นที่ถูกแม็กนัสรังแกได้ตลอด  มันฝังลึกถึงใจของร่างบาง

“ฝนไม่เคยหยุดตก  ก็เหมือนกับน้ำตาของคุณนั่นล่ะอเล็คที่ไม่เคยหยุดไหล  ผมจะปกป้องคุณเอง” มิคาเอลยิ้ม  แต่ทว่ากลับโดนต่อต้านจากบุคคลที่เค้าคิดอยากจะปกป้องเสียนี่

“ไม่...อึก  ผมไม่ต้องการ” เสียงที่ติดออกจะสั่นเครือกล่าวออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ   แต่ถึงอย่างไร  สิ่งนี้ที่มิคาเอลหยิบยื่นให้  ร่างบางก็ไม่ต้องการมัน...ไม่ต้องการแน่นอน

และคำพูดนั้นทำให้คนที่มีอาการของโรคอารมณ์สองขั้วอย่างมิคาเอลต้องชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ “อย่าโกหกสิอเล็ค ผมไม่ชอบคนโกหกนะ” เค้าจิปาก  และอเล็คก็ว่าใส่เค้า

“ไม่ใช่ผม คุณนั่นแหละที่โกหก! หลอกผมกับคนอื่นๆ และทำร้ายคนอื่นโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัวว่ามันเลวร้ายแค่ไหน....”

ปึกก!

“เงียบไปเลย!

เค้าไม่สามารถทนฟังอเล็คพร่ำบอกว่าเค้าเป็นเหมือนคนรอบข้างที่รู้สึกจงเกลียดจงชังจนเข้าไส้พวกนั้นได้อีกต่อไปแล้ว  ดังนั้นมิคาเอลจึงใช้กำปั้นทุบไปที่ฟูกนอนเบื้องหน้าอย่างสุดจะทน  เป็นเหตุให้ร่างบางตรงหน้าต้องสะอึกและสะดุ้งโหยงสุดตัวไปเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับอันตรายอะไร เพราะอีกเหตุผลหนึ่งมิคาเอลก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายอเล็คอยู่แล้ว

เค้าแค่อยากให้อเล็คเข้าใจ และหยุดเอ่ยเปรียบเค้าว่าเป็นเหมือนคนพวกนั้นเสียที

“อย่ามาบอกผมว่าผมโกหก ถ้าคุณยังไม่เคยเจอการโกหกที่น่ารังเกียจของคนสกปรกข้างนอกนั่น” มิคาเอลมีสีหน้าเจ็บปวด “ที่ผมทำทั้งหมดนั่นก็เพื่อคุณ....เพื่อคุณคนเดียว  ผมกำลังปกป้องคุณจากคนที่น่ารังเกียจพวกนั้นอยู่อย่างไรล่ะ”

ชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าอ่อนทอเสียงสีประกายขาวใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปรกหน้าของร่างบางออกและเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้เพราะกลัวจัดของอเล็คอย่างห่วงหาและเฝ้าปลอบประโลมไม่หยุด

มิคาเอลสลัดความดำมืดที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ออกไป  ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนเช่นนั้นของเค้าเกิดขึ้น  นั่นเป็นอาการปรกติของคนอารมณ์สองขั้ว

แต่อเล็คไม่ต้องการ  ร่างบางพร่ำบอกว่า ไม่ พร้อมทั้งพยายามกระเถิดตัวหนีแม้ว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้เมื่อเค้าตัวติดกำแพงแล้วก็ตาม   มิคาเอลหวังอยากที่จะสัมผัสผิวขาวเนียนดุจหิมะนี้ของร่างบางมานานแล้ว  แต่ทว่าก็กลับโดนปฏิเสธ

“อย่า....ได้โปรดเถอะ...” อเล็คเบี่ยงกายหนี แล้ว ยกมืออันสั่นเทาขึ้นบังไว้  ร่างบางผู้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นที่รักมากแค่ไหนรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจและมองไม่เห็นว่าตัวเค้าจะหาทางออกไปได้อย่างไร

อเล็คแค่อยากออกไป  ออกไปจากที่นี่  นี่ไม่ใช่คาร์ลที่เค้ารู้จักเลย  เป็นใครก็ไม่รู้ที่ดูน่าเกรงกลัวกว่ามากมายนัก  และก็คงจะไม่มีใครที่สามารถช่วยอเล็คได้ในตอนนี้เป็นแน่แท้ 

“ได้โปรดเถอะ  ปล่อยผมไป...ผมกลัว” อเล็คยื่นเจตจำนงอย่างไร้เดียงสา  เพราะเค้ากลัวมากจริงๆ  แต่มิคาเอลก็ยังคงยืนยันว่าจะเป็นคนดูแลอเล็คเอง

“ไม่เอาน่าอเล็ค  คุณไม่จำเป็นต้องกลัวไปหรอก  ผมจะดูแลคุณเอง” เค้าว่า “ผมปกป้องคุณนะ”

“อึก ฮะ ฮึก....”

“อย่าร้องไห้นะอเล็ค  ได้โปรดเถอะ.....อย่าร้องไปเลย” ร่างสูงโปร่งขยับเข้ามาหา  ทำเป็นไม่สนใจอาการสะดุ้งหนีของอีกคนแล้วประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นไว้  ก่อนจะใช้นิ้วโป้งทั้งสองเกลี่ยน้ำใสๆ ออกไปอย่างนึกสงสาร  แต่อเล็คกลับเจ็บหัวใจ....

อย่าร้องไห้นะอเล็ค...

แม็กนัสเคยบอกเค้าไว้ว่าอย่างนั้น  และเสียงของแม็กนัสก็ดังก้องขึ้นในหัวใจของร่างบาง  ทำให้ในเวลานี้อเล็คคิดถึงแม็กนัสเหลือเกิน  แม้รู้ว่าไม่ควรคิด  แต่คนเดียวที่จะปกป้องและดูแลเจ้าตัวได้ก็มีแค่แม็กนัสเท่านั้น   แค่แม็กนัสคนเดียว

แม็กนัส ช่วยด้วย  ได้โปดเถอะ เอาฉันออกไปจากที่นี่ที....อเล็คอ้อนวอนในใจแม้จะหลับตาปี๋ไม่อยากรับรู้ถึงสัมผัสจากมือเย็นเชียบของมิคาเอลอยู่ก็ตาม  บรรยากาศในห้องนี้ทำให้อเล็คแทบจะหายใจไม่ออก

“ผมปกป้องคุณเสมอเลยรู้ตัวไหม” ชายหนุ่มที่เคยบอกว่าตัวเองชื่อคาร์ล  ละมือออกมาเพื่อให้ร่างบางได้ฟังชัดๆ   จวบจนร่างที่ว่านั้นยอมปรือตาขึ้นมามองเค้าเสียที  มิคาเอลก็เริ่มพูดต่ออย่างต้องการชี้ให้อเล็คเห็น

“มองดูสิ  ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน” เค้าว่าและผายมือนำสายตาของอเล็คไป

เป็นภาพของร่างบางในอิรยาบทต่างๆ....

แต่ละภาพอเล็คไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ  รูปทุกรูปซึ่งถูกจัดวางเอาไว้ในที่ๆ มิคาเอลทำกิจวัตรประจำวันอยู่บ่อยๆ  ร่างสูงโปร่งจัดการตัดแต่งใส่กรอบรูปไว้อย่างเรียบร้อยราวกับว่าหวงแหนมันมาก  และยังไม่นับรวมกับไฟล์ภาพมหาศาลที่เค้าเก็บไว้อย่างดีด้วยอีกต่างหาก

มิคาเอลคลั่งไคล้อเล็คอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

ภาพนั้น  ภาพนี้  เจ้าของไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่ากำลังถูกจับตาดูอยู่  อเล็คหยุดการร่ำร้องที่อยากจะออกไปในใจชั่วขณะ  สมองร่างบางหยุดสั่งการ  และดวงตาสีฟ้าสวยราวกับขวดแก้วนั้นก็จอบจ้องไปยังรูปของตัวเองที่ซ่อนอยู่ตามทุกๆ ที่จนเจ้าตัวที่เอาแต่กลัวไม่ทันได้สังเกตเห็นเลย  ก่อนอเล็คจะตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม

และตอนนั้นเอง  ร่างบางเพิ่งจะสำเหนียกได้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างห้องของเค้าไม่ใช่คนปรกติอีกต่อไปแล้ว  การกระทำของคาร์ลที่เค้าไม่รู้จัก  และคำพูดที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมามันช่างฟังดูน่าขนลุกและแอบแฝงไปด้วยหลายสิ่ง  อเล็คพูดอะไรไม่ออก  ได้แต่ก้มหน้ามองผ้าปูที่นอนสีสะอาดตาที่เค้าไม่กล้าแตะต้องแม้จะถูกนำมาวางไว้บนนั้นอย่างนุ่มนวลตั้งแต่แรกที่ไม่ได้สติแล้วก็ตาม

หลังจากที่ดูรูปพวกนั้นแล้ว  ร่างบางก็เอาแต่กอดตัวเองแน่นขึ้น  รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องมากขึ้นทุกที  ถึงแม้ว่าจะมีใบหน้าของมิคาเอลซึ่งหล่อเหลาอย่างที่ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ค่อยเฝ้าสบตาสีฟ้าสวยสดคู่นั้นอยู่ก็ตาม

มิคาเอลยิ้มร่า ก่อนจะอ้าแขนออกน้อยๆ “คุณเห็นแล้วใช่ไหม?” ท่าทางเค้ายินดีปรีดา “ก็เพราะงั้นไง  ผมถึงบอกว่าผมปกป้องคุณได้” ร่างโปร่งว่าและเยื้องกายเข้ามาหาอเล็ค  ร่างบางขยับไปด้านข้างเล็กน้อยแต่ก็โดนกอดไว้จนได้ในที่สุด  ร่างกายอันสั่นเทาพยายามผลักไสแต่ทว่ามิคาเอลก็แรงเยอะและแข็งแรงมากเกินกว่าที่อเล็คเห็นแต่ภายนอก  สันกล้ามเนื้อที่ปรากฏชัดของร่างสูงโปร่งเมื่อเทียบกับของอเล็คแล้ว ก็ไม่ต้องถกเถียงถึงเรื่องใครแพ้ใครชนะเลย

อ๊ะ! อึก....อย่า  ได้โปรด อย่า...” อเล็คร้องเสียงหลง  เมื่อจู่ๆ มิคาเอลก็เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองให้มาสวมกอดอยู่ที่ด้านหลังของอเล็คเสียอย่างนั้น  สองมือที่ปัดป้ายของร่างบางถูกรวบไว้ด้วยมือของมิคาเอลแบบข้างต่อข้าง

อเล็คไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังจะทำอะไร  แต่ที่รู้ๆ เจ้าตัวกำลังกลัวและแสดงอาการต่อต้านอย่างถึงที่สุด

ร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลไหม้ นำคางขึ้นมาเกยลาดไหล่อันสั่นเทาซึ่งถูกสวมทับด้วยเสื้อยืดกับสเวตเตอร์ที่เอียงกระเท่เล่นั้นไว้ พร้อมทั้งแนบแก้มของตัวเองเข้ากับแก้มใสเปื้อนน้ำตาของอีกคนหนึ่งไปด้วย “ทำไมคุณถึงไม่ยอมมองผมเลยล่ะอเล็ค?” เค้าส่งเสียงถามอย่างใคร่สงสัย  แต่ก็มิอาจปิดแววของความขำขันอย่างเอ็นดูไปได้มิด

มิคาเอลชอบเวลาที่อเล็คอาย  มันทำให้อีกฝ่ายหนึ่งดูน่ารักมากที่สุด  แต่เค้าก็ไม่รู้เลยว่าอเล็คกำลังมีความรู้สึกที่สะพรึงกลัวเค้าอยู่ มิใช่เขินอายเลย....

ร่างบางขยับยุกยิกและส่ายหน้า “มะ ไม่...ไม่...ไม่เอา”

“ผมชอบตาของคุณนะ  มันสวยมาก...สวยมาก  สวยมากกว่าใครทั้งหมด” มิคาเอลกล่าว  ริมฝีปากของเค้าเคลือบรอยยิ้มที่สุดแสนจะประทับใจ

แต่อเล็คไม่ต้องการ

“และที่ผมชอบมากที่สุดคือ ตาของเราโทนสีเดียวกัน  มันวิเศษที่สุดเลยรู้ไหม” มิคาเอลกอดอเล็ค ทั้งๆ ที่มือทั้งสองของเค้าก็ยังคงไม่ยอมปล่อยออกจากการเกาะกุม

แต่อเล็คไม่ชอบ....

ร่างบางไม่ได้ประทับใจกับการแสดงออกว่าคลั่งไคล้เช่นนี้เลย มันเกินขอบเขตที่ร่างบางจะนึกเอาไว้ได้ว่าคนๆ หนึ่งจะทำได้มากขึ้นขนาดนี้....มิคาเอลทำให้อเล็คกลัวและสับสนกระวนกระวาย

“ปล่อยผมไปเถอะ...นะ....ได้โปรด ฮึก...อึก...ผม..ผม..ผมกลัว” อเล็คว่าอย่างหมดหนทางอีกครั้ง  เพราะในสภาพอารมณ์ของมิคาเอลไม่เคยน่าไว้วางใจ  อีกฝ่ายหนึ่งคิดจะทำอะไรก็ได้ อเล็คไม่มีทางรู้เลย

ไม่  ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คุณออกไปข้างนอกนั่นหรอกนะ!” ร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาผิดจากลุคแรกที่อเล็ครู้จักกดเสียงต่ำลงรอดไรฟันออกมา “พวกโสมม  น่ารังเกียจ  ที่คิดไม่ดีกับคุณ” เค้าเคียดแค้น

แล้วมิคาเอลก็เปลี่ยนไปเป็นรวบข้อมืออเล็คไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของเค้า  แล้วใช้ข้างที่เพิ่งละออกมา จับช้อนไปที่ค้างมนของร่างที่อยู่ด้านหน้าอย่างอ่อนโยนถึงแม้จะถูกขัดขืนก็ตาม “ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรคุณได้...เข้าใจใช่ไหม  ผมจะปกป้องคุณเอง ปกป้องจากคนที่น่ารังเกียจพวกนั้น พวกสวะ  หลอกลวง  ผมจะจัดการกับทุกคนที่คิดจะทำร้ายคุณ....ผมจะทำมันเอง“

“อึก อ่า” อเล็คร้องเสียงแผ่วอย่างผวาหนัก “ฮึก...ฮืออ..ไม่”

แต่มิคาเอลไม่สนใจ  เค้าเอื้อมไปหยิบรีโมทขึ้นมาแล้วเปิดรายการทีวีที่เค้าอัดไว้  ห่างออกไปจากเตียงเพียงห้าฟุตเท่านั้น  แล้วมิคาเอลก็กอดอเล็คไว้แนบอก...แน่นขึ้น  ด้วยอีกเหตุหนึ่ง เค้าก็ต้องการให้ร่างบางเห็นมันด้วย....มันคือผลงานของเค้า  ผลงานที่เค้าทำเพื่ออเล็ค

พอทีวีเริ่มรายการที่ถูกอัดไว้ได้ไม่นาน  อเล็คก็ต้องสะดุ้งเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องของเอลซ่า  มันคือคลิปของเอลซ่ากับแม็กนัสที่กำลังเป็นข่าวใหม่อยู่ในตอนนี้  ร่างบางจ้องมันอย่างไม่เชื่อสายตา  แม้จะกลัวอยู่ก็ตาม  แต่การกระทำของนักแสดงสาวที่เค้าแทบไม่รู้จักก็สร้างความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงให้กับเค้าได้เป็นอย่างมาก และดูท่าทางเธอคงจะโดนเล่นเสียย่อยยับไปเลย

วิดีโอวนกลับมาเล่นซ้ำ  และร่างบางรู้สึกกลัวขึ้นมากทุกครั้งที่เห็นหน้าแม็กนัสในทีวี

กลัว  กลัวว่าจะไม่ได้เจอแม็กนัสอีก  อเล็คอยากให้แม็กนัสมาช่วย  แค่แม็กนัสเท่านั้นที่จะทำให้ร่างบางเนื้อตัวสั่นระริกนี้อุ่นใจได้

จนกระทั่งมิคาเอลที่ยิ้มร่าอย่างไม่เป็นมิตรนักกระชับอ้อมกอดของตัวเอง แล้วกระซิบเสียงยินดีใส่หูของร่างบางในอ้อมกอด

“ใช่  ยัยนั่นบ้ามากเลยคุณว่าไหม  เธอสมควรโดน...เธอมันบ้า  ร้ายกาจ  และที่ไม่น่าให้อภัยก็คือ เธอคิดจะทำร้ายคุณ  เพราะงั้นเอลซ่าก็เลยสมควรต้องโดนแฉ  ผมทำเองล่ะ  ผมทำเพื่อคุณเลยนะ”

“อึก...แต่เธอเป็นพี่สาวของคุณนะ....” อเล็คว่าเสียงสั่นเครือ และไม่เชื่อว่ามิคาเอลจะทำแบบนี้กับพี่สาวของตนเองได้

ช่างปะไร  ผมไม่สนเธอ....ผมเกลียดเธอจะตาย  เธอมันก็โสเภณีเหมือนกับแม่ของเธอนั่นแหละ” มิคาเอลหมายถึงแม่ของตัวเอง “ผมสนแค่คุณเท่านั้นอเล็ค....เห็นไหม ผมพยายามปกป้องคุณและผมจะทำกับทุกคนที่ทำร้ายคุณแบบนี้  จะไม่ให้มันยิ้มได้อีก...แม้แต่ครั้งเดียว” เค้าว่า  และจูบแก้มซับน้ำตาให้อเล็คหนึ่งที

ร่างบางหลับตาปี๋และตัวสั่น  ริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่กดลงมาให้ความรู้สึกแปลกประหลาดซึ่งอเล็คไม่ชอบมันเอาเสียเลย   ร่างบางยังคงพร่ำบอก “....เธอเป็นพี่ของคุณ” ในขณะที่จิตใจอันเปราะบางรู้สึกเสียขวัญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ทำไม  ทำไมกัน  ทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นกับอเล็คด้วย....

“เพราะคุณเป็นคนสำคัญนะอเล็ค  ผมถึงได้ทำเพื่อคุณ  ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคุณได้อีกแล้ว  จะไม่ยอม...” ร่างสูงโปร่งละมือออกมาข้างหนึ่งแล้วใช้มันเสยไปที่เส้นไหมสีดำลื่นมือซึ่งหล่นลงมาปรกหน้าของอเล็ค  มิคาเอลดูอ่อนโยน และช่างดูแล พร้อมทั้งยังทะนุถนอมอเล็คเป็นอย่างมาก

“ผมเห็นคุณทำทุกอย่างเลย...คุณดูแลคนอื่นมามากแล้วรู้ไหม ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนดูแลคุณเอง” แต่ทว่าหลังจากจบประโยคอันแสนอาทรนั้นแล้ว  เรื่องราวบางอย่างก็กลับมาเตือนความจำให้เค้าเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นหวงแหนอย่างคุกคาม

“หลังจากที่ผมได้ทำพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว” คราวนี้มิคาเอลหันตัวอเล็คมาหาเค้า แล้วจับไปที่ไหล่ขาวซึ่งมีสเวตเตอร์ร่นลงมาข้างหนึ่ง

ชายหนุ่มผู้มีสมองอัจฉริยะแต่ทว่าสภาพจิตใจโดนทำร้ายตั้งแต่เด็กๆ มองเห็นชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเพียงไม่กี่ปีแต่ทว่าใบหน้ากลับดูอ่อนเยาว์มากกว่าเค้าอยู่ตรงหน้า น้ำตาเปรอะหน้า  จมูกโด่งเป็นสันสวยถูกเคลือบด้วยสีแดงและมันระเรื่อลามไปยังแก้มใสซึ่งไม่เคยปราศจากน้ำตานั้นเลย  ดวงตาใสเปล่งประกายราวกับลูกแก้วถูกเคลือบด้วยของเหลวที่เอ่อล้นออกมา

มิคาเอลชะงักค้าง  จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล

นี่แหละคือร่างบางที่เค้าอยากปกป้อง  และปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้าเองก็อดไม่ได้เลยที่จะบอกว่าชอบใบหน้าในตอนลำบากใจระคนหวาดกลัวแบบนี้ของอเล็คมากแค่ไหน

ใช่  เค้านี่แหละ จะปกป้องอเล็คเอง....

“ผมปล่อยให้ไอ้หมอนั่นแตะต้องคุณไปแล้ว....” มิคาเอลว่า  ออกแรงบีบเล็กน้อยตามอารมณ์ที่จู่ๆ ก็ฉุนเฉียวขึ้นเมื่อนึกถึงวันที่เค้าตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอเล็คนอนซมอยู่ในห้องของ แม็กนัส   เบน

อเล็คนิ่วหน้า และไม่เข้าใจการกระทำอันผวนผันของมิคาเอล

“บอกผมสิ  ว่ามันทำอะไรคุณบ้าง?  เจ้าแม็กนัสที่คุณเอาแต่คิดถึงมันน่ะมันทำอะไรคุณ!” ร่างสูงโปร่งเขย่าไหล่บางพลางตะคอกใส่  อเล็คหดคอหนีแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น  อีกทั้งยังตกใจอีกด้วยว่าเหตุใดมิคาเอลจึงรู้เรื่องของคืนนั้น ที่เค้าเจอแม็กนัสซึ่งกำลังเมามายเข้า

“ปละ...อ๊ะ!  ปล่อยผมนะ คุณ..อึก...อย่า  ผมจะ....ผมเจ็บ....”


.


.


.


TBC.


------------------------------------------------------------------------------------


อร๊ายยยยยย!!  อะไรนะคะมิคาเอล!!  คาร์ล!!  สโตคเกอร์อเล็ค!!  อ๊ากกกกกกกกกกกกกก  แม็กนัสไปไหนตามมาด่วนค่ะ.....มาด่วนเลยยยย >{}<

อร๊ายยยยยยย จะมากไปแล้วนะคะ  ตามอเล็คยิ่งกว่าแฟนคลับของอิตาเบนแล้วยังจะมาฉุดอเล็คของไรท์อีกกกก ><  //สักพักโดนแม็กนัสแทง...เอื้อกกกก//  โอเคค่ะ  อเล็คของแม็กนัสสส  ง่า แว้ๆๆๆๆๆ 555555555  ฮึ๊ยยย  บ้าจริง Ray – Aund จะหัวเราะออกอยู่ได้อย่างไรอเล็คน้อยๆ กำลังตกที่นอน  เอ้ย! ที่นั่งลำบากอยู่นะ  ไม่ได้ๆๆๆๆ ค่ะ  จะต้องไปช่วยอเล็คแล้วล่ะค่ะ  //วิ่งชนห้องมิคาเอล โดนไฟช็อต//

อ๋อยยย  เห็นทีตัวไรท์เองคงจะไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ  ต้องมาเอาใจช่วยอเล็คน้อยๆ ของเราแล้วล่ะค่ะรีดๆ ขาาาาา >{}<   แล้ว คาร์ล หรือ มิคาเอล จะเผยตับอะไรออกมาอีกต่อไป  ต้องติดตามใน Part หน้าแล้วล่ะค่ะ ><

ฮาาา  รู้ตัวว่าตัวเองมาข้ามากเลยค่ะพักนี่  TUT  กราบขอโทษและกราบขอบคุณรีดทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ที่ยังตามอ่านกัน  ขอบคุณค่าาาา...........รักรีดนะค้าาาา >3<

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund


ไม่มีความคิดเห็น: