ปู้ววว ปิสสสส ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!!! ไรท์กลับมาแล้วค่าาาาา รีดขาาาาาา >[]<!!! อร๊ายยยยย! ดีใจแฮงค่ะ น้ำตาไหลพราก TUT ไรท์ต้องขออภัยอีกร้อยเที่ยวค่ะ
ที่ทิ้งช่วงนานมากๆ อีกแล้วววว ง่อวววว สอบและงานมันเยอะจริงๆ เลยค่ะ ไรท์กำลังปรับตัวอยู่ค่ะ
และกิจกรรมก็น่ารำคาญค่ะ (อุ๊บบ
เดี๋ยวโดนสโมสรเตะ 555555)
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ วันนี้ไรท์คงจิไม่ฝอยมากนะเออ 5555 เพราะปล่อยว่างมานานแล้ว จะให้รีดไปอ่านกันเลยก็แล้วกันนะคะ ^^
ว่างๆ
รีดสามารถไปเร่งและกระตุ้นไรท์(?) ได้ที่เฟสของไรท์เลยค่ะ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< จิ้มโล้ดค่าาา
คาร์ลผู้นั่นจะทำอะไรอเล็คน้อยๆ
ของเรา อย่าให้เสียเวลา
ไปอ่านกันเล้ยค่าาาา >{}<!!
------------------------------------------------------------------------------------------
“ผมตามดูคุณมาโดยตลอดเลยรู้ไหม?”
เค้าว่า อเล็คชักสีหน้าตื่นตระหนกปนไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก “และน่าเสียดายที่การกระทำของผมดูเหมือนจะไร้ผลตั้งแต่เริ่มต้น...”
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งซึ่งเป็นเจ้าของห้องกลับมายิ้มอีกครั้ง รอยยิ้มแสยะแย้มขึ้นที่มุมปากสีสดนั้น
“...เพราะคุณเองก็มีคนที่ใฝ่ฝันอยู่แล้ว แต่ก็นะ อย่างที่เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า แม็กนัส เบน น่ะ
มีแฟนที่หมายมั่นปั้นมือกันอยู่แล้ว”
มิคาเอลเอ่ยชื่อของแม็กนัสด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ ก่อนเค้าจะเคลื่อนกายเข้ามาหาอเล็คในที่สุด
“ใช่ ตอนแรกผมก็วางหมากไว้ กะให้มันเป็นอย่างนั้น”
มิคาเอลทรุดตัวลง คุกเข่าลงตรงหน้าของอเล็ค
แล้วนิ้วเรียวยาวที่เคยพรมบนคีย์บร์อดก็ถูกยกขึ้นไปละเลียดบนแก้มใสแต่ทว่าเย็นเชียบของอเล็คอย่างแสนรักเคล้าทะนุถนอม
“และคุณควรจะได้เจ็บปวดเพราะเค้า พร้อมกับตัดใจจากเค้าไปเสีย....” อเล็คสั่น
เมื่อนิ้วไร้ความรู้สึกน่าไว้วางใจนั้นลากไล้ลงมาตามผิวแก้มของเจ้าตัว “แต่ว่า...เอลซ่านั่นน่ะ
เธอมันโง่เหลือเกิน โง่เกินไป
และก็อยากที่จะทำร้ายคุณมากเกินไป” มิคาเอลละมือออกมา
แล้วทำสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเล็กน้อย
เมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สามที่เค้าเองก็ไม่เคยคิดที่จะเห็นหัว
“ผมเลยต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และเสียใจเป็นอย่างที่สุด
ที่จะต้องทำให้ร้านของคุณปิดตัวลง”
ร่างสูงโปร่งนั่งลงข้างร่างบางที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างตื่นตกใจ
“อะไรนะ!?
คุณ...คุณพูดอย่างนั้นหมายความว่าอย่างไร?
คุณ คุณมีส่วนทำให้มัน...”
“ผมเสียใจ แต่ใช่ ผมเป็นคนทำให้เค้ายอมขายมันเอง ด้วยตัวเลขในบัญชีของเอลซ่า ไม่ใช่ผมที่อยากทำแบบนั้นแต่เป็นเธอ
ผมพยายามห้ามเธอแล้วแต่เธอก็ยังคงรั้นเกินไป......เธอสั่ง ผมเลยจำเป็นต้องทำ”
เค้าว่าแล้วเอื้อมมือไปหมายจะสัมผัสที่แก้มเนียนใสของร่างบางอีกครั้ง
แต่ทว่าอีกฝ่ายหนึ่งกลับเบี่ยงตัวหนี
“คุณทำแบบนั้นได้ยังไง! แล้วทำไมคุณจะต้องทำตามที่เธอสั่งด้วย....เธอจ้างคุณอย่างนั้นหรือ?”
อเล็คหัวหมุนติ้วและจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เธอเป็นพี่สาวของผม”
มิคาเอลตอบ
และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่าในตอนที่เค้ายอมทำตามคำขอของผู้เป็นพี่สาวด้วยผลประโยขน์อันเกี่ยวข้องกับการจับจ้องอเล็คเป็นเจ้าของนั้น
และดูเหมือนมันก็ไม่ได้ทำให้เค้าดูเป็นคนดีขึ้นมาเลย
มิคาเอลเสแสร้งและไม่สนใจว่าอเล็คจะเชื่อหรือไม่
ร่างบางซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาระยะห่าง
โดนเบียดให้เข้าไปติดกำแพงอีกฝั่งหนึ่งของเตียงอย่างเสียมิได้ สองมือของอเล็คยกขึ้นกอดเข่าไว้และจ้องมองมิคาเอลอย่างระแวดระวัง
“ผมคิดว่าผมรู้จักคุณ”
อเล็คเอ่ยเสียงเบา บ่งบอกว่าร่างบางนั้นหัวใจสลายเป็นอย่างยิ่ง เค้าโดนหลอกอย่างยับเยิน
และเด็กหนุ่มข้างห้องที่เค้ารู้จักก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้ารู้สึกเหมือนชีวิตถูกดึงรั้งให้พังทลายลงอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ
แต่มิคาเอลไม่สนอะไรรอบตัวของร่างบางที่ตัวสั่นระริกอยู่ตรงหน้าทั้งนั้น ที่เค้าสนก็คืออเล็ค....อเล็คคนเดียวเท่านั้น
และเค้าจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อเล็คอีกแล้ว….จะไม่ยอม
พวกนั้นมันสวะชัดๆ
นอกจากจะเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจแล้วก็ยังหาดีไม่ได้….ไม่มี ไม่มีหรอก
คนพวกนั้นน่ะมันสารเลว
ไม่มีใครที่เป็นเหมือนอเล็คของเค้าอีกแล้ว....ไม่มี อเล็คคนเดียวเท่านั้นที่แตกต่าง และเค้ารักมาก....
รักจนเจียนจะคลั่ง
“แน่นอนสิ ผมรู้จักคุณ”
ร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลไหม้ว่าเสียงคลายเหม่อลอย
แต่เค้ากลับยืดตัวขึ้นและไม่ได้พยายามขยับเข้าไปหาอเล็คอีกแล้ว มิคาเอลหยุดแล้วพูดขึ้น “ผมดูคุณอยู่”
อเล็คเลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง
คำพูดของมิคาเอลกำลังทำให้เจ้าตัวรู้สึกกลัวมากขึ้นทุกที....ดูอยู่อะไรกัน
“ผมดูคุณอยู่ตลอดเลยล่ะอเล็ค ไม่มีอะไรที่ผมไม่รู้ เพราะผมอยากที่จะอยู่ใกล้ๆ คุณ....”
มิคาเอลไม่ได้ยิ้ม
เค้าหรี่ตาลงในระดับที่ปรกติแล้วยืดแขนไปหาอเล็คใช้ปลายนิ้วเช็ดไปที่หางตาซึ่งปริ่มน้ำของร่างบางผิวขาวดุจหิมะที่เค้าแสนหลงใหล และด้วยความที่ว่ารู้ดี
ว่าอเล็คคงหนีเค้าไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะหมดทางหนี
มิคาเอลจึงใช้นิ้วปัดไปมาอย่างอ้อยอิ่ง “....และใครที่คิดจะทำร้ายคุณ
มันจะต้องเจอดี”
มิคาเอลมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นโมโหอย่างเก็บกดราวกับโกรธแค้นแทนร่างบางที่ถูกทำร้าย
อเล็คสะดุ้งสุดตัวเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะโดนทำร้ายอีก ไม่ว่าอะไรในตอนนี้ก็ทำให้เค้านึกถึงวันนั้นที่ถูกแม็กนัสรังแกได้ตลอด มันฝังลึกถึงใจของร่างบาง
“ฝนไม่เคยหยุดตก
ก็เหมือนกับน้ำตาของคุณนั่นล่ะอเล็คที่ไม่เคยหยุดไหล ผมจะปกป้องคุณเอง” มิคาเอลยิ้ม
แต่ทว่ากลับโดนต่อต้านจากบุคคลที่เค้าคิดอยากจะปกป้องเสียนี่
“ไม่...อึก ผมไม่ต้องการ” เสียงที่ติดออกจะสั่นเครือกล่าวออกมาอย่างกล้าๆ
กลัวๆ แต่ถึงอย่างไร สิ่งนี้ที่มิคาเอลหยิบยื่นให้ ร่างบางก็ไม่ต้องการมัน...ไม่ต้องการแน่นอน
และคำพูดนั้นทำให้คนที่มีอาการของโรคอารมณ์สองขั้วอย่างมิคาเอลต้องชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ
“อย่าโกหกสิอเล็ค ผมไม่ชอบคนโกหกนะ” เค้าจิปาก
และอเล็คก็ว่าใส่เค้า
“ไม่ใช่ผม คุณนั่นแหละที่โกหก! หลอกผมกับคนอื่นๆ
และทำร้ายคนอื่นโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัวว่ามันเลวร้ายแค่ไหน....”
ปึกก!
“เงียบไปเลย!”
เค้าไม่สามารถทนฟังอเล็คพร่ำบอกว่าเค้าเป็นเหมือนคนรอบข้างที่รู้สึกจงเกลียดจงชังจนเข้าไส้พวกนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
ดังนั้นมิคาเอลจึงใช้กำปั้นทุบไปที่ฟูกนอนเบื้องหน้าอย่างสุดจะทน
เป็นเหตุให้ร่างบางตรงหน้าต้องสะอึกและสะดุ้งโหยงสุดตัวไปเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับอันตรายอะไร
เพราะอีกเหตุผลหนึ่งมิคาเอลก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายอเล็คอยู่แล้ว
เค้าแค่อยากให้อเล็คเข้าใจ
และหยุดเอ่ยเปรียบเค้าว่าเป็นเหมือนคนพวกนั้นเสียที
“อย่ามาบอกผมว่าผมโกหก ถ้าคุณยังไม่เคยเจอการโกหกที่น่ารังเกียจของคนสกปรกข้างนอกนั่น”
มิคาเอลมีสีหน้าเจ็บปวด “ที่ผมทำทั้งหมดนั่นก็เพื่อคุณ....เพื่อคุณคนเดียว
ผมกำลังปกป้องคุณจากคนที่น่ารังเกียจพวกนั้นอยู่อย่างไรล่ะ”
ชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าอ่อนทอเสียงสีประกายขาวใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปรกหน้าของร่างบางออกและเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้เพราะกลัวจัดของอเล็คอย่างห่วงหาและเฝ้าปลอบประโลมไม่หยุด
มิคาเอลสลัดความดำมืดที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ออกไป
ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนเช่นนั้นของเค้าเกิดขึ้น นั่นเป็นอาการปรกติของคนอารมณ์สองขั้ว
แต่อเล็คไม่ต้องการ ร่างบางพร่ำบอกว่า ไม่
พร้อมทั้งพยายามกระเถิดตัวหนีแม้ว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้เมื่อเค้าตัวติดกำแพงแล้วก็ตาม
มิคาเอลหวังอยากที่จะสัมผัสผิวขาวเนียนดุจหิมะนี้ของร่างบางมานานแล้ว แต่ทว่าก็กลับโดนปฏิเสธ
“อย่า....ได้โปรดเถอะ...”
อเล็คเบี่ยงกายหนี แล้ว ยกมืออันสั่นเทาขึ้นบังไว้ ร่างบางผู้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นที่รักมากแค่ไหนรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจและมองไม่เห็นว่าตัวเค้าจะหาทางออกไปได้อย่างไร
อเล็คแค่อยากออกไป ออกไปจากที่นี่ นี่ไม่ใช่คาร์ลที่เค้ารู้จักเลย เป็นใครก็ไม่รู้ที่ดูน่าเกรงกลัวกว่ามากมายนัก
และก็คงจะไม่มีใครที่สามารถช่วยอเล็คได้ในตอนนี้เป็นแน่แท้
“ได้โปรดเถอะ ปล่อยผมไป...ผมกลัว”
อเล็คยื่นเจตจำนงอย่างไร้เดียงสา
เพราะเค้ากลัวมากจริงๆ
แต่มิคาเอลก็ยังคงยืนยันว่าจะเป็นคนดูแลอเล็คเอง
“ไม่เอาน่าอเล็ค คุณไม่จำเป็นต้องกลัวไปหรอก ผมจะดูแลคุณเอง” เค้าว่า “ผมปกป้องคุณนะ”
“อึก ฮะ ฮึก....”
“อย่าร้องไห้นะอเล็ค ได้โปรดเถอะ.....อย่าร้องไปเลย” ร่างสูงโปร่งขยับเข้ามาหา
ทำเป็นไม่สนใจอาการสะดุ้งหนีของอีกคนแล้วประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นไว้ ก่อนจะใช้นิ้วโป้งทั้งสองเกลี่ยน้ำใสๆ
ออกไปอย่างนึกสงสาร แต่อเล็คกลับเจ็บหัวใจ....
‘อย่าร้องไห้นะอเล็ค...’
แม็กนัสเคยบอกเค้าไว้ว่าอย่างนั้น
และเสียงของแม็กนัสก็ดังก้องขึ้นในหัวใจของร่างบาง ทำให้ในเวลานี้อเล็คคิดถึงแม็กนัสเหลือเกิน
แม้รู้ว่าไม่ควรคิด
แต่คนเดียวที่จะปกป้องและดูแลเจ้าตัวได้ก็มีแค่แม็กนัสเท่านั้น แค่แม็กนัสคนเดียว
แม็กนัส ช่วยด้วย ได้โปดเถอะ เอาฉันออกไปจากที่นี่ที....อเล็คอ้อนวอนในใจแม้จะหลับตาปี๋ไม่อยากรับรู้ถึงสัมผัสจากมือเย็นเชียบของมิคาเอลอยู่ก็ตาม บรรยากาศในห้องนี้ทำให้อเล็คแทบจะหายใจไม่ออก
“ผมปกป้องคุณเสมอเลยรู้ตัวไหม”
ชายหนุ่มที่เคยบอกว่าตัวเองชื่อคาร์ล ละมือออกมาเพื่อให้ร่างบางได้ฟังชัดๆ
จวบจนร่างที่ว่านั้นยอมปรือตาขึ้นมามองเค้าเสียที
มิคาเอลก็เริ่มพูดต่ออย่างต้องการชี้ให้อเล็คเห็น
“มองดูสิ ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน” เค้าว่าและผายมือนำสายตาของอเล็คไป
เป็นภาพของร่างบางในอิรยาบทต่างๆ....
แต่ละภาพอเล็คไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ รูปทุกรูปซึ่งถูกจัดวางเอาไว้ในที่ๆ
มิคาเอลทำกิจวัตรประจำวันอยู่บ่อยๆ
ร่างสูงโปร่งจัดการตัดแต่งใส่กรอบรูปไว้อย่างเรียบร้อยราวกับว่าหวงแหนมันมาก และยังไม่นับรวมกับไฟล์ภาพมหาศาลที่เค้าเก็บไว้อย่างดีด้วยอีกต่างหาก
มิคาเอลคลั่งไคล้อเล็คอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ภาพนั้น ภาพนี้
เจ้าของไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่ากำลังถูกจับตาดูอยู่ อเล็คหยุดการร่ำร้องที่อยากจะออกไปในใจชั่วขณะ สมองร่างบางหยุดสั่งการ
และดวงตาสีฟ้าสวยราวกับขวดแก้วนั้นก็จอบจ้องไปยังรูปของตัวเองที่ซ่อนอยู่ตามทุกๆ
ที่จนเจ้าตัวที่เอาแต่กลัวไม่ทันได้สังเกตเห็นเลย
ก่อนอเล็คจะตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม
และตอนนั้นเอง
ร่างบางเพิ่งจะสำเหนียกได้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างห้องของเค้าไม่ใช่คนปรกติอีกต่อไปแล้ว การกระทำของคาร์ลที่เค้าไม่รู้จัก และคำพูดที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมามันช่างฟังดูน่าขนลุกและแอบแฝงไปด้วยหลายสิ่ง อเล็คพูดอะไรไม่ออก
ได้แต่ก้มหน้ามองผ้าปูที่นอนสีสะอาดตาที่เค้าไม่กล้าแตะต้องแม้จะถูกนำมาวางไว้บนนั้นอย่างนุ่มนวลตั้งแต่แรกที่ไม่ได้สติแล้วก็ตาม
หลังจากที่ดูรูปพวกนั้นแล้ว ร่างบางก็เอาแต่กอดตัวเองแน่นขึ้น รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องมากขึ้นทุกที ถึงแม้ว่าจะมีใบหน้าของมิคาเอลซึ่งหล่อเหลาอย่างที่ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
ค่อยเฝ้าสบตาสีฟ้าสวยสดคู่นั้นอยู่ก็ตาม
มิคาเอลยิ้มร่า
ก่อนจะอ้าแขนออกน้อยๆ “คุณเห็นแล้วใช่ไหม?” ท่าทางเค้ายินดีปรีดา
“ก็เพราะงั้นไง
ผมถึงบอกว่าผมปกป้องคุณได้” ร่างโปร่งว่าและเยื้องกายเข้ามาหาอเล็ค ร่างบางขยับไปด้านข้างเล็กน้อยแต่ก็โดนกอดไว้จนได้ในที่สุด
ร่างกายอันสั่นเทาพยายามผลักไสแต่ทว่ามิคาเอลก็แรงเยอะและแข็งแรงมากเกินกว่าที่อเล็คเห็นแต่ภายนอก
สันกล้ามเนื้อที่ปรากฏชัดของร่างสูงโปร่งเมื่อเทียบกับของอเล็คแล้ว ก็ไม่ต้องถกเถียงถึงเรื่องใครแพ้ใครชนะเลย
“อ๊ะ! อึก....อย่า ได้โปรด อย่า...” อเล็คร้องเสียงหลง เมื่อจู่ๆ
มิคาเอลก็เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองให้มาสวมกอดอยู่ที่ด้านหลังของอเล็คเสียอย่างนั้น สองมือที่ปัดป้ายของร่างบางถูกรวบไว้ด้วยมือของมิคาเอลแบบข้างต่อข้าง
อเล็คไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังจะทำอะไร แต่ที่รู้ๆ
เจ้าตัวกำลังกลัวและแสดงอาการต่อต้านอย่างถึงที่สุด
ร่างสูงโปร่งผมสีน้ำตาลไหม้ นำคางขึ้นมาเกยลาดไหล่อันสั่นเทาซึ่งถูกสวมทับด้วยเสื้อยืดกับสเวตเตอร์ที่เอียงกระเท่เล่นั้นไว้
พร้อมทั้งแนบแก้มของตัวเองเข้ากับแก้มใสเปื้อนน้ำตาของอีกคนหนึ่งไปด้วย
“ทำไมคุณถึงไม่ยอมมองผมเลยล่ะอเล็ค?” เค้าส่งเสียงถามอย่างใคร่สงสัย แต่ก็มิอาจปิดแววของความขำขันอย่างเอ็นดูไปได้มิด
มิคาเอลชอบเวลาที่อเล็คอาย มันทำให้อีกฝ่ายหนึ่งดูน่ารักมากที่สุด แต่เค้าก็ไม่รู้เลยว่าอเล็คกำลังมีความรู้สึกที่สะพรึงกลัวเค้าอยู่
มิใช่เขินอายเลย....
ร่างบางขยับยุกยิกและส่ายหน้า “มะ ไม่...ไม่...ไม่เอา”
“ผมชอบตาของคุณนะ มันสวยมาก...สวยมาก สวยมากกว่าใครทั้งหมด” มิคาเอลกล่าว
ริมฝีปากของเค้าเคลือบรอยยิ้มที่สุดแสนจะประทับใจ
แต่อเล็คไม่ต้องการ
“และที่ผมชอบมากที่สุดคือ
ตาของเราโทนสีเดียวกัน
มันวิเศษที่สุดเลยรู้ไหม” มิคาเอลกอดอเล็ค ทั้งๆ ที่มือทั้งสองของเค้าก็ยังคงไม่ยอมปล่อยออกจากการเกาะกุม
แต่อเล็คไม่ชอบ....
ร่างบางไม่ได้ประทับใจกับการแสดงออกว่าคลั่งไคล้เช่นนี้เลย
มันเกินขอบเขตที่ร่างบางจะนึกเอาไว้ได้ว่าคนๆ หนึ่งจะทำได้มากขึ้นขนาดนี้....มิคาเอลทำให้อเล็คกลัวและสับสนกระวนกระวาย
“ปล่อยผมไปเถอะ...นะ....ได้โปรด
ฮึก...อึก...ผม..ผม..ผมกลัว” อเล็คว่าอย่างหมดหนทางอีกครั้ง เพราะในสภาพอารมณ์ของมิคาเอลไม่เคยน่าไว้วางใจ อีกฝ่ายหนึ่งคิดจะทำอะไรก็ได้ อเล็คไม่มีทางรู้เลย
“ไม่ ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คุณออกไปข้างนอกนั่นหรอกนะ!”
ร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาผิดจากลุคแรกที่อเล็ครู้จักกดเสียงต่ำลงรอดไรฟันออกมา
“พวกโสมม น่ารังเกียจ ที่คิดไม่ดีกับคุณ” เค้าเคียดแค้น
แล้วมิคาเอลก็เปลี่ยนไปเป็นรวบข้อมืออเล็คไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของเค้า แล้วใช้ข้างที่เพิ่งละออกมา
จับช้อนไปที่ค้างมนของร่างที่อยู่ด้านหน้าอย่างอ่อนโยนถึงแม้จะถูกขัดขืนก็ตาม
“ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรคุณได้...เข้าใจใช่ไหม
ผมจะปกป้องคุณเอง ปกป้องจากคนที่น่ารังเกียจพวกนั้น พวกสวะ หลอกลวง
ผมจะจัดการกับทุกคนที่คิดจะทำร้ายคุณ....ผมจะทำมันเอง“
“อึก อ่า” อเล็คร้องเสียงแผ่วอย่างผวาหนัก
“ฮึก...ฮืออ..ไม่”
แต่มิคาเอลไม่สนใจ
เค้าเอื้อมไปหยิบรีโมทขึ้นมาแล้วเปิดรายการทีวีที่เค้าอัดไว้ ห่างออกไปจากเตียงเพียงห้าฟุตเท่านั้น แล้วมิคาเอลก็กอดอเล็คไว้แนบอก...แน่นขึ้น ด้วยอีกเหตุหนึ่ง
เค้าก็ต้องการให้ร่างบางเห็นมันด้วย....มันคือผลงานของเค้า ผลงานที่เค้าทำเพื่ออเล็ค
พอทีวีเริ่มรายการที่ถูกอัดไว้ได้ไม่นาน อเล็คก็ต้องสะดุ้งเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องของเอลซ่า มันคือคลิปของเอลซ่ากับแม็กนัสที่กำลังเป็นข่าวใหม่อยู่ในตอนนี้ ร่างบางจ้องมันอย่างไม่เชื่อสายตา แม้จะกลัวอยู่ก็ตาม แต่การกระทำของนักแสดงสาวที่เค้าแทบไม่รู้จักก็สร้างความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงให้กับเค้าได้เป็นอย่างมาก
และดูท่าทางเธอคงจะโดนเล่นเสียย่อยยับไปเลย
วิดีโอวนกลับมาเล่นซ้ำ และร่างบางรู้สึกกลัวขึ้นมากทุกครั้งที่เห็นหน้าแม็กนัสในทีวี
กลัว กลัวว่าจะไม่ได้เจอแม็กนัสอีก อเล็คอยากให้แม็กนัสมาช่วย
แค่แม็กนัสเท่านั้นที่จะทำให้ร่างบางเนื้อตัวสั่นระริกนี้อุ่นใจได้
จนกระทั่งมิคาเอลที่ยิ้มร่าอย่างไม่เป็นมิตรนักกระชับอ้อมกอดของตัวเอง
แล้วกระซิบเสียงยินดีใส่หูของร่างบางในอ้อมกอด
“ใช่ ยัยนั่นบ้ามากเลยคุณว่าไหม เธอสมควรโดน...เธอมันบ้า ร้ายกาจ
และที่ไม่น่าให้อภัยก็คือ เธอคิดจะทำร้ายคุณ เพราะงั้นเอลซ่าก็เลยสมควรต้องโดนแฉ ผมทำเองล่ะ ผมทำเพื่อคุณเลยนะ”
“อึก...แต่เธอเป็นพี่สาวของคุณนะ....”
อเล็คว่าเสียงสั่นเครือ และไม่เชื่อว่ามิคาเอลจะทำแบบนี้กับพี่สาวของตนเองได้
“ช่างปะไร ผมไม่สนเธอ....ผมเกลียดเธอจะตาย เธอมันก็โสเภณีเหมือนกับแม่ของเธอนั่นแหละ”
มิคาเอลหมายถึงแม่ของตัวเอง “ผมสนแค่คุณเท่านั้นอเล็ค....เห็นไหม
ผมพยายามปกป้องคุณและผมจะทำกับทุกคนที่ทำร้ายคุณแบบนี้ จะไม่ให้มันยิ้มได้อีก...แม้แต่ครั้งเดียว”
เค้าว่า
และจูบแก้มซับน้ำตาให้อเล็คหนึ่งที
ร่างบางหลับตาปี๋และตัวสั่น
ริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่กดลงมาให้ความรู้สึกแปลกประหลาดซึ่งอเล็คไม่ชอบมันเอาเสียเลย ร่างบางยังคงพร่ำบอก “....เธอเป็นพี่ของคุณ”
ในขณะที่จิตใจอันเปราะบางรู้สึกเสียขวัญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทำไม ทำไมกัน
ทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นกับอเล็คด้วย....
“เพราะคุณเป็นคนสำคัญนะอเล็ค ผมถึงได้ทำเพื่อคุณ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคุณได้อีกแล้ว จะไม่ยอม...”
ร่างสูงโปร่งละมือออกมาข้างหนึ่งแล้วใช้มันเสยไปที่เส้นไหมสีดำลื่นมือซึ่งหล่นลงมาปรกหน้าของอเล็ค มิคาเอลดูอ่อนโยน และช่างดูแล
พร้อมทั้งยังทะนุถนอมอเล็คเป็นอย่างมาก
“ผมเห็นคุณทำทุกอย่างเลย...คุณดูแลคนอื่นมามากแล้วรู้ไหม
ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนดูแลคุณเอง” แต่ทว่าหลังจากจบประโยคอันแสนอาทรนั้นแล้ว
เรื่องราวบางอย่างก็กลับมาเตือนความจำให้เค้าเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นหวงแหนอย่างคุกคาม
“หลังจากที่ผมได้ทำพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว”
คราวนี้มิคาเอลหันตัวอเล็คมาหาเค้า แล้วจับไปที่ไหล่ขาวซึ่งมีสเวตเตอร์ร่นลงมาข้างหนึ่ง
ชายหนุ่มผู้มีสมองอัจฉริยะแต่ทว่าสภาพจิตใจโดนทำร้ายตั้งแต่เด็กๆ
มองเห็นชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเพียงไม่กี่ปีแต่ทว่าใบหน้ากลับดูอ่อนเยาว์มากกว่าเค้าอยู่ตรงหน้า
น้ำตาเปรอะหน้า
จมูกโด่งเป็นสันสวยถูกเคลือบด้วยสีแดงและมันระเรื่อลามไปยังแก้มใสซึ่งไม่เคยปราศจากน้ำตานั้นเลย
ดวงตาใสเปล่งประกายราวกับลูกแก้วถูกเคลือบด้วยของเหลวที่เอ่อล้นออกมา
มิคาเอลชะงักค้าง จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล
นี่แหละคือร่างบางที่เค้าอยากปกป้อง และปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้าเองก็อดไม่ได้เลยที่จะบอกว่าชอบใบหน้าในตอนลำบากใจระคนหวาดกลัวแบบนี้ของอเล็คมากแค่ไหน
ใช่ เค้านี่แหละ จะปกป้องอเล็คเอง....
“ผมปล่อยให้ไอ้หมอนั่นแตะต้องคุณไปแล้ว....”
มิคาเอลว่า ออกแรงบีบเล็กน้อยตามอารมณ์ที่จู่ๆ
ก็ฉุนเฉียวขึ้นเมื่อนึกถึงวันที่เค้าตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอเล็คนอนซมอยู่ในห้องของ
แม็กนัส เบน
อเล็คนิ่วหน้า
และไม่เข้าใจการกระทำอันผวนผันของมิคาเอล
“บอกผมสิ ว่ามันทำอะไรคุณบ้าง? เจ้าแม็กนัสที่คุณเอาแต่คิดถึงมันน่ะมันทำอะไรคุณ!”
ร่างสูงโปร่งเขย่าไหล่บางพลางตะคอกใส่
อเล็คหดคอหนีแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
อีกทั้งยังตกใจอีกด้วยว่าเหตุใดมิคาเอลจึงรู้เรื่องของคืนนั้น ที่เค้าเจอแม็กนัสซึ่งกำลังเมามายเข้า
“ปละ...อ๊ะ! ปล่อยผมนะ คุณ..อึก...อย่า ผมจะ....ผมเจ็บ....”
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยย!! อะไรนะคะมิคาเอล!! คาร์ล!! สโตคเกอร์อเล็ค!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกก แม็กนัสไปไหนตามมาด่วนค่ะ.....มาด่วนเลยยยย >{}<
อร๊ายยยยยยย
จะมากไปแล้วนะคะ
ตามอเล็คยิ่งกว่าแฟนคลับของอิตาเบนแล้วยังจะมาฉุดอเล็คของไรท์อีกกกก >< //สักพักโดนแม็กนัสแทง...เอื้อกกกก// โอเคค่ะ
อเล็คของแม็กนัสสส ง่า แว้ๆๆๆๆๆ
555555555 ฮึ๊ยยย บ้าจริง Ray – Aund จะหัวเราะออกอยู่ได้อย่างไร! อเล็คน้อยๆ กำลังตกที่นอน เอ้ย! ที่นั่งลำบากอยู่นะ ไม่ได้ๆๆๆๆ ค่ะ จะต้องไปช่วยอเล็คแล้วล่ะค่ะ //วิ่งชนห้องมิคาเอล โดนไฟช็อต//
อ๋อยยย เห็นทีตัวไรท์เองคงจะไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ ต้องมาเอาใจช่วยอเล็คน้อยๆ
ของเราแล้วล่ะค่ะรีดๆ ขาาาาา >{}< แล้ว คาร์ล หรือ มิคาเอล จะเผยตับอะไรออกมาอีกต่อไป ต้องติดตามใน Part หน้าแล้วล่ะค่ะ
><
ฮาาา รู้ตัวว่าตัวเองมาข้ามากเลยค่ะพักนี่ TUT
กราบขอโทษและกราบขอบคุณรีดทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ที่ยังตามอ่านกัน ขอบคุณค่าาาา...........รักรีดนะค้าาาา >3<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น