//เริ่มด้วยโปสเตอร์ปล่อยของหนังเลย แฮ่ เพิ่งมาแปะค่ะ 555//
อร๊ายยยยยยยยยยย! กราบสวัสดีมิตรรักรีดที่เลิฟของไรท์ทุกท่านค่ะ >//< //โค้งหน้าติดพื้น// คิดถึงแรงเฟอร์เลยค่ะ นานมากเลยอ่าา ที่ไรท์นั่งจิ้มๆ อ่านๆ ทวนๆ แก้ๆ อยู่สำหรับเรื่องนี้ 5555555555 //กรรมของเธอ// ถ้าไม่มีงานต้องส่งอาจารย์หรือติดสอบ ไรท์จะเขียนเสร็จเร็วกว่านี้อีกค่ะ //เอานิ้วจิ้มกัน// จริงๆ นะเออ ตอนนี้เรื่องอื่นๆ ก็ยังอยู่ที่เดิมค่ะ The Maze Runner 2 เรื่องนี้เพิ่งเสร็จเป็นเรื่องแรกในรอบสองเดือนนี้เลยค่ะ
ไรท์ต้องขออภัยอย่างสูงเลยนะคะ ที่ล่าช้าไปมาก M_ _M ตอนนี้เสร็จแล้วและพร้อมลงแล้วค่ะ อิๆๆ
อย่างที่ได้ประกาศไปแล้วนะคะว่าภาคนี้จะจัดว่าเป็น “Fiction” กันเลยทีเดียว มิใช่ “Shot Fic” กันแล้วนะคะ >///< ที่ยาวเพราะไรท์ลากยาวมาตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องเลยค่ะ
และแอบสปอยล์ ภาคนี้จะมีตัวละครใหม่เข้ามาด้วยค่ะไม่ใช่ที่เพิ่มมาตามเนื้อเรื่องในหนังนะคะ
อันนั้นตายตัว ฮาาาา
อันนี้ไรท์เพิ่มเข้าไปเองค่ะ 555555
ละเลงทั่ว เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา
คนเขียนหนังสือเค้าคงพากันมาบีบคอไรท์กันหมดทั้งบางแน่ๆ เลยค่ะ 55555 อันนี้ก็เพื่อการดำเนินเรื่องในแบบของไรท์น่ะนะคะ
และต้องขอเรียนรีดๆ ก่อนเลยค่ะว่าให้อ่านให้จบก่อนนะคะว่าค่อยตั้งคำถามอย่างสงสัย อ่านๆ ไปอาจงงรึสงสัยว่า “เฮ้ยยย สิ่งนี้มาได้จะใด?” รึ “เอ๊ะ อันนี้มันยังไงฟะ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย งง
ไรท์มันเขียนอะไรของมัน?” เกิดคำถามนี้แล้วหันมามองไรท์ค่ะ ไรท์จะทำหน้าเหมือนพระพุทธศาสดาทำหน้าอรหันต์แล้วชูมือขึ้นทำท่าเบรกลมปราณแล้วเอ่ยว่า
......อ่านให้จบเรื่อง จนพบคำว่า ‘FIN’ ก่อนนะคะ แล้วคำถามเหล่านั้นของรีดที่รักอาจจะหายไปเองค่ะ
ด้วยประการฉะนี้แล ไรท์จึงอยากจะให้รีดอดรนทนรอและดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องของไรท์ไปก่อนค่ะ
(มันเหมือนในหนังรึเปล่าล่ะห๊ะ!!) ไม่ต้องยึดหลักความจริงทั้งในหนังหรือในหนังสือมากนักค่ะเพราะไรท์
5555555 //ลั่นตัวเอง// นึกอยากจะเขียนอะไรก็เขียนตามใจตัวเองค่ะ 55555 และมันอาจคุ้มค่ากับการรอคอยของรีดๆ
ไม่มากก็น้อยค่ะ ไรท์มั่นใจ //ยิ้มกว้าง//
เอาล่ะค่ะ ไรท์หายไปนานเนอะ พอกลับมาคุยกันอีกทีก็ฝอยยาวเลยค่ะ
5555555 //เหงามาก// ขออภัยอย่างมหาศาลค่ะที่ทำให้เสียเวลา
ถ้าอย่างนั้นเราอย่าเสียเวลากันอีกเลยดีกว่าเนอะ
ไปหามินโฮกับโทมัสกันเลยดีกว่าค่ะ >///< อย่าลืมนิวท์ด้วยนะเออ
5555555
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
“จำไว้นะ แม่รักลูก แม่รักลูกโทมัส”
.
.
“โทมัส โทมัส…”
“โทมัส!”
.
.
“โทมัส!” เจ้าของชื่อสะดุ้งขึ้น ตัวเค้าหดเกร็งด้วยสัญชาติญาณ ก่อนชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ปลุกเค้าจะคว้าไหล่ปวกเปียกนั้นไว้ก่อนจะย้ำอีก
“ตื่นเร็ว! เราต้องไปกันแล้ว เร็วเข้า!”
ใบหน้ายามนี้ของมินโฮไม่ได้ล้อเล่น ดังนั้นโทมัสจึงหน้าตาตื่นตามเสียงกระตุ้นของอีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นตามไปแต่โดยดี
เสียงเฮลิคอปเตอร์เหวี่ยงใบพัดดังลั่นไปทั่วหูของโทมัส มันฟังดูน่ากลัวเหมือนสถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด มีเสียงคนตะโกนแข่งกับใบพัดอย่างไม่ยอมแพ้ถึงแม้ว่าจะฟังดูวุ่นวายเพียงใดแต่เด็กที่เหลือรอดจากทุ่งทุกคนก็ได้ยินคำว่า
“พวกแครงค์” ก่อนเสียงปืนจะกราดยิ่งขึ้นมันดังประสานกันไร้ซึ่งความเป็นระเบียบ และถึงจะไม่รู้ว่าพวกแครงค์คืออะไรแต่เด็กชาวทุ่งทุกคนก็วิ่งสุดชีวิตไปที่ประตูใหญ่แข็งแรงซึ่งไม่บอกก็ร็ว่านั่นเป็นทางรอดเดียวของพวกเค้า แม้ว่าไม่รู้แน่ว่ามันคืออะไรหรือที่ไหน แต่ที่แน่ๆ มันเป็นคนละโลกกันเลยกับที่พวกเค้าเพิ่งจากมา
ที่นี่มีคนเยอะแยะเต็มไปหมด
เป็นคนมีเลือดเนื้อและปรกติเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนพวกนั้นไม่ใช่อย่างที่ชาวทุ่งเคยรู้จักมาเสียทีเดียว.....พวกผู้ใหญ่ ถือปืน
และดูไม่ตื่นเต้นเท่าไรนักเมื่อเห็นพวกเค้าที่เพิ่งมาใหม่ คนที่นี่เหมือนเคยเจอสถานการณ์ประมาณมาก่อนแล้วและดูไม่ตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นพวกเค้าเลยโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั่นไม่สำคัญหากคนเหล่านี้คอยช่วยเหลือไม่ให้เด็กหนุ่มทุกคนต้องตาย
หลังจากหาทางออกจากวงกตและสูญเสียไปอย่างมากมาย
พวกเค้าก็ได้รับการพาตัวออกมาจากนรกบ้าๆ นั่น
ซึ่งไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้า....
“นายต้องโกหกฉันแน่”
นิวท์พูดในตอนที่ผู้ชายถือปืนใส่เครื่องแบบตัวใหญ่ยักษ์พาพวกเค้ามาขังไว้ในห้องเก็บของ หลังจากที่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็นได้ไม่นานนัก เดาว่านิวท์เองก็คงยังไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดอะไรด้วยซ้ำ เค้าระแวดระวังเสมอแต่เวลาที่มีให้กลับน้อยเกินไป
แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้สำหรับห้องขัง
ในเมื่อมีอาหารมากมายเหลือเฟือจนถูกทิ้งเกลื่อนพื้นให้กินกันจนอิ่มแปล้
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี”
นิวท์พูด ขว้างถุงอาหารที่ยังมีของเหลืออยู่ลงพื้นเพราะอิ่มมากแล้ว
“แต่นายทำอะไรไม่ได้” มินโฮว่าและนิวท์ยอมเงียบไป เค้าพูดถูก...เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก่อนจะไม่มีใครพูดอะไรอีกและประตูก็ถูกเปิดขึ้น
พร้อมกับชายที่อยากให้ทุกคนเรียกเค้าว่า “คุณแจนสัน” พาทัวร์ในที่ๆ ใหม่นี้ซึ่งไม่น่าอภิรมย์นักในความคิดของเด็กๆ ยังมีการก่อสร้างกันอย่างไม่หยุดไม่หย่อน ก่อนชายเนื้อตัวสะอาดสะอ้านที่ชื่อแจนสันจะบอกว่าควรจัดการกับกลิ่นของเด็กทุ่งทุกคนเสียที
และพวกเค้าก็ได้อาบน้ำหลังอิ่มท้องและทัวร์คราวๆ
จากแจนสัน ทุกคนดูผ่อนคลายและชอบเป็นอย่างมากที่ได้ชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาดซึ่งมีใช้อย่างไม่จำกัด ฟรายเสียงดังและยืนยันความสดชื่นได้ดีที่สุด ก่อนชายหนุ่มที่รั้งนำกลุ่มเพื่อนในการสุมหัววางแผนออกจากวงกตจะเป็นคนเดียวในห้องอาบน้ำที่กลัดกลุ้มอีกทั้งยังเหม่อลอยก่อนจะมีคนเข้ามาในห้องอาบน้ำของเค้าแล้วบอกให้โทมัสเงียบ มินโฮไม่ใส่เสื้อผ้าเหมือนกับคนอื่นๆ
ชายหนุ่มสองคนพูดคุยอะไรบ้างกันอย่างลับๆ โดยที่ม่มีใครรู้ว่ามินโฮหายตัวไปจากห้องอาบน้ำของตัวเอง
กระทั่งเสร็จสิ้นไป
เด็กชาวทุ่งทุกคนก็ถูกพามาที่ห้องพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและฉีดสารอาหารเพิ่มเติม แน่นอนนิวท์เป็นคนแรกที่หวาดระแวงและซักถามโดยไม่เกรงใจใคร
เค้ากวาดตามองไปรอบๆ เพื่อนของตัวเอง เห็นมินโฮวิ่งอยู่บนลู่วิ่งเหมือนแฮมสเตอร์ โทมัสที่โดนฉีดยาเช่นเดียวกัน
และเทเรซ่าที่โดนกันออกไปโดยแพทย์หญิงคนหนึ่ง ก่อนพวกหนุ่มๆ จะโดนต้อนไปที่ห้องทานอาหารที่ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กๆ
จากวงกตอื่นๆ
มินโฮดูจะเข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดีที่สุด แต่คำถามอันแปลกประหลาดก็ได้เกิดขึ้นในใจของโทมัสกับนิวท์โดยต่างฝ่ายต่างรู้แล้วว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ
ที่พวกเค้าถูกพาตัวมาที่นี่ และอาจเป็นผลประโยชน์สำหรับใครบางที่ขังพวกเค้าเอาไว้ที่นี่ โทมัสครุ่นคิด
ส่วนนิวท์หวาดระแวงแต่ไม่เคยกลัวสิ่งใดเลย
พวกเค้าเพิ่งได้ข้อมูลใหม่มาว่าหลายๆ คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เพิ่งจะมาถึงเพียงเท่านั้น ถึงแม้จะไม่สดๆ ร้อนๆ เหมือนพวกเค้าแต่ก็นานกว่าเพียงไม่กี่วัน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่อยู่มาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้วและเลือกที่จะไม่สุงสิงกับใคร พูดง่ายๆ คืออาจจะระแวงคลายกับนิวท์แต่มนุษย์สัมพันธ์แย่กว่าเค้ามาก
ชายหนุ่มที่เพิ่งมาใหม่กำลังเก็บเกี่ยวข้อมูลจากเพื่อนใหม่ที่มาถึงก่อนพวกเค้าต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งแจนสันเดินเข้ามา แล้วไล่รายชื่อคัดเด็กส่วนหนึ่งออกไปพร้อมกันกับพวกการ์ด
“พวกเค้าไปไหนกัน?” มินโฮเปิดปากเป็นคนแรกหลังจากการคัดเลือกจบลง คนที่ได้ไปดูมีความสุขและตื่นเต้น สวนทางกับคนที่เหลือที่ได้แต่นั่งทานข้าวต่อไปและรอวันที่จะได้ถูกเรียกชื่อตัวเองของบ้าง
“ไกลจากที่นี่ พวกมากับดวง” เพื่อนใหม่ซึ่งรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ไม่มีชื่อตัวเองบอกเด็กชาวทุ่งที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วยกัน บรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกเหมือนโรงอาหารในโรงเรียนไฮสคูลอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“คงจะเป็นฟาร์ม...ที่ๆ
ปลอดภัยที่สุด
แต่ละครั้งพาไปได้แค่ไม่กี่คนเอง” อีกคนหนึ่งเสริมทัพให้ ทำให้พวกมาใหม่เข้าใจว่าทำไมพวกเค้าถึงได้รู้สึกเสียดายขนาดนั้น ก่อนจะถึงเวลาแยกย้ายกันกลับห้องนอนและที่นั่นเองความระแวดระวังของนิวท์ก็เริ่มคลายปมลง
ก่อนจะก่อขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อถูกปิดประตูใส่แถมล็อคเสียงดังสนั่นจนพวกเค้าดูเหมือนนักโทษไม่ผิดเพี้ยนไปจากตอนแรก
และเทเรซ่าก็โดนแยกออกไปในตอนที่พวกเค้าทานอาหาร ข้อนั้นทำให้โทมัสที่คิดว่าเธออาจรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับเค้าว้าวุ่น ตัวเค้าเป็นกังวลเกินไปจนนิวท์ดูเหมือนคนสบายๆ
ไปเลย
“เธอดูแลตัวเองได้น่า” เพื่อนที่ได้รับหน้าที่ต่อมาจากอัลบี้ที่ตายไปแล้วว่าอย่างเบื่อหน่ายแต่ก็ทำเสียงเย็นชาไม่ลง
ก่อนนิวท์จะปีนขึ้นไปบนเตียงนอนของตัวเอง
และในคืนนั้นเองที่ความไม่ไว้วางใจอย่างถึงที่สุดจะก่อตัวขึ้นมาในใจของโทมัส เมื่อเด็กชายที่ไม่ใคร่จะยึดติดกับใครในโรงอาหารคนนั้นแอบเข้ามาในห้องนอนของพวกเค้าและพาโทมัสเข้าไปดูอะไรบางอย่างทางช่องระบายอากาศซึ่งเชื่อมโยงไปทั่วทั้งอาคาร
เด็กหนุ่มรูปร่างผมแห้งคนนั้นเรียกตัวเองว่า
แอริส ท่าทางเค้าดูเหมือนพวกสอดแนมที่ไม่มีใครเอ๊ะใจรู้ว่าเค้าเป็น เด็กหนุ่มผอมแห้งนำทางโทมัสไปอย่างชำนาญไปยังทางเดินเข้าห้องๆ
หนึ่งที่มีเด็กๆ ซึ่งถูกเลือกถูกลำเลียงเข้าไปในห้องนั้น
แต่ไม่ใช่ในสภาพที่จะดีใจได้
พวกเค้าสองคนไม่รู้ว่าห้องนั้นมีอะไร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกคนที่ถูกเรียกตัวไปนอนแน่นิ่งถูกผ้าคลุมอยู่บนเตียงแพทย์ติดล้อนั้นจะโดนทำอะไรบ้าง แต่ก็ถือว่าเสี่ยงไม่น้อยที่แอริสยอมแบ่งปันข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูงนี้กับคนที่เพิ่งเข้ามาอย่างโทมัส
พอมาถึงตอนนี้เด็กจากท้องทุ่งก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่มีใครสุงสิงกับแอริสและเจ้าตัวก็ไม่ยอมสัมพันธ์ไมตรีกับใครเลย แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเพิ่งจะเข้ามาวันแรกแปลกใจเป็นอย่างมากก็คือทำไมคนที่เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเจ้าเด็กแห้งนี่ถึงได้บอกความลับที่อาจโดนพวกผู้ใหญ่ไม่น่าไว้ใจนั้นจัดการเอา
กับเค้า
“เพราะคนอื่นอาจจะยอมฟังนาย”
แอริสพูดหลังจากหยุดชะงักไป สีหน้าของเค้าดูคล้ายว่าโทมัสทำให้นึกถึงใครบางคนที่เคยเป็นที่เชื่อถือในหมู่เพื่อนพ้องมาก่อนและคำพูดนั้นของเค้าก็เป็นการตอกย้ำความรู้สึกนั้นกับแอริสได้เป็นอย่างดี
และสิ่งที่ได้เห็นก็ทำเอาเด็กหนุ่มจากท้องทุ่งนอนไม่หลับไปทั้งคืนด้วยความวิตกกังวลหวาดระแวง โทมัสยอมรับว่าเค้าเป็นห่วงเทเรซ่า
นึกถามตัวเองในใจว่ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเค้าที่เธอยังไม่ได้บอกอีกไหมเพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ทำเหมือนว่าเคยรู้จักตัวตนของเค้าเป็นอย่างดีมาก่อน
โทมัสมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ต้องถามเธอ หากเธอจำได้ เค้าอยากรู้ว่าเค้าเคยมีครอบครัวไหม แม่ของเค้าเป็นอย่างไร แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะยังไงซะเธอก็เป็นเพื่อนของพวกเราทุกคนและเป็นหนึ่งในสมาชิกของท้องทุ่งไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ก่อนคืนต่อมาเค้าจะกลับมาที่ช่องระบายอากาศที่เดิมอีกครั้งพร้อมกับ
แอริส ผู้ที่พาเค้ามาในครั้งแรกและคีย์การ์ดจากยามที่โทมัสขโมยมาได้ พวกเค้าทั้งสองตัดสินใจกันเงียบๆ ว่าจะเข้าไปดูข้างในให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยว่ามีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่ และเด็กๆ ที่ถูกเลือกไปมีจุดจบเป็นเช่นไรในห้องแสนลึกลับนั่น
และพอแอริสกับโทมัสเข้าไปถึงก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น เค้ารู้แล้วว่าเด็กๆ ที่ถูกแจนสันเรียกตัวไปอยู่ที่ไหนกันหมดและสุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไร
มันน่าพรั่นพรึงอย่างมากมายกว่าที่ใครต่อใครในหลุมหลบภัยที่คิดไปเองว่ามันปลอดภัยนี้จะนึกออกได้ และในตอนนั้นเองโทมัสกับแอริสก็ได้เห็นแจนสันกำลังคุยอยู่กับผู้หญิงที่จับพวกเค้าขังเอาไว้ในวงกต........
ไม่...ไม่ดีแล้ว เค้าต้องรีบไปเตือนทุกคน!
“ต้องหนี...เราต้องหนีเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า!” โทมัสแทบจะไถลตัวมาตามทางช่องระบายอากาศ สาบานได้ อันที่จริงเค้าก็ทำมันไปแล้ว ไม่สนใจด้วยว่าเสียงตะกายของตัวเองจะไปทำให้ยามหรือใครก็ตามแต่ที่จับพวกเค้ามาขังไว้จะรู้ตัวหรือไม่ ทันทีที่หน้าอกเค้าไถลเข้ามาในห้องที่เพื่อนๆ เดินไปเดินมาอย่างกังวล
เป็นห่วงว่าเค้ากำลังจะหาเรื่องอะไรใส่ตัวอีกก็ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นเมื่อโทมัสแสดงอาการตื่นตัวอย่างสุดขีดและบอกให้พวกเค้ารีบหนี
ทุกคนโวยวาย โต้เถียงกันกับโทมัสที่โผล่มาพร้อมกับแอริส แม้แต่เด็กผอมแห้งก็ยังโดนบีบเอาคำตอบด้วย ทุกคนไม่มีใครเงียบเลยยกเว้นมินโฮที่ไม่อยากทำให้สถานการณ์ดูแย่และบีบคั้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว ก่อนจะจบลงด้วยคำถามที่มีเหตุหลและดื้อดึงจะเอาคำตอบของนิวท์
“เอวา!” โทมัสสุดกลั้น
เค้าระเบิดออกด้วยความพรั่นพรึง...ทุกคนต้องรีบออกไปจากที่นี่
เพื่อนๆ ของเค้ามึนงง
“พวกวิกเก็ต แจนสันเป็นพวกเดียวกับเธอ เค้าเป็นพวกวิกเก็ต” เค้าพูดในตอนที่แจนสันกำลังเดินทางมายังห้องของพวกเค้า...เวลามีไม่มากแล้ว หากจะหนี พวกเค้าก็ต้องหนีเลยเดี๋ยวนี้
นิวท์ถามอย่างดึงดันอีกจนโทมัสยอมหยุดกระตือรือร้น....คนที่ได้รับความนับถือต่อจากอัลบี้จำเป็นจะต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ซึ่งคนที่ไปเห็นทุกอย่างมาจะบอกว่าในห้องนั้นมีแต่เรื่องน่าขยะแขยงมากแค่ไหน ตัวประหลาดในหลอดทดลอง คนถูกแขวนอยู่ในถุง และแจนสันที่เป็นวิกเก็ตกำลังคุยอยู่กับ
เอวา เพจ ที่หน้าใหญ่กว่าคนปรกติถึงห้าเท่าในจอโฮโลแกรม
และพอมาถึงตอนนี้ทุกคนก็พร้อมใจกันหนี ไม่รอช้าที่จะไถลตัวไปตามช่องระบายอากาศให้เร็วที่สุดและออกไปจากที่บ้าๆ
ที่ไม่ต่างไปจากท้องทุ่งนี่เสียที ก่อนแอริสจะแยกตัวออกไป เค้าบอกว่าถ้าอยากออกไปจากที่นี่ให้ได้ต้องปล่อยให้เค้าไปทำเรื่องสำคัญ วินสตันตามแอริสไป พวกเค้าแวะไปรับตัวเทเรซ่าตามคำยืนกรานของโทมัส
ทุกคนวิ่ง วิ่งไปเหมือนตอนที่พวกเค้ายังอยู่ในทุ่งวิ่งหนีโศกากันอุตลุด แต่กลับเป็นพวกที่เป็นคนด้วยกันที่ถือปืนไล่ตามพวกเค้าและมีจุดประสงค์ซึ่งน่ากลัวกว่าโศกามากมายนัก หนทางของเด็กทุ่งถูกบีบให้หดแคบลงเมื่อเจอทางตันและแจนสันก็ตามมาทันจนได้
คนถือปืนช็อตไฟฟ้าที่มาด้วยกันทำให้ความรู้สึกปลอดภัยของเด็กๆ ติดลบลงไปทันที ทางตันซะแล้ว...แล้วไงล่ะ? หลังจากที่ได้ไปเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นในห้องนั้นแล้วโทมัสก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้พวกเค้าถูกจับได้แน่นอน จะยังไงก็จะสู้จนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง
เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญถือปืนที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้าไปหาแจนสันกับพวกท่ามกลางเสียงร้องห้ามปรามของมินโฮ ซึ่งเค้าไม่ฟัง เพื่อนทุกคนเป็นครอบครัวเดียวที่เค้ามีอยู่ โทมัสต้องการกันให้พวกผู้ใหญ่ความคิดน่ารังเกียจพวกนี้ออกห่างจากเพื่อนของเค้าด้วยใจรู้ว่าแจนสันจะไม่ทำอะไรกับเด็กๆ
ที่สำคัญอย่างล่ำค่าแน่นอน พวกเค้าดูเหมือนยังมีข้อต่อรองแต่ทว่ากลับหมดหนทางหนี
แต่ทันใดนั้นประตูบานสุดท้ายก็เปิดออก เด็กที่ติดแหง็กอยู่กับทางตันตกตะลึงเมื่อเจอแอริสกับวินสตันอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของประตูแล้วทักทายปนเหนื่อยหอบว่า
“เฮ้ พวก” กระทั่งเมื่อเห็นทางหนีทีไล่ของผลผลิตที่จวนเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้วแจนสันก็เคลื่อนตัวเข้าไปหาเด็กๆ
จากท้องทุ่ง โทมัสเป็นคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลือยู่ ระบบรีบู้ทใหม่แล้วและประตูกำลังจะปิดลง เด็กชาวทุ่งคนนี้จึงต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เค้าพอจะทำได้ ประตูบีบตัวลงกับพื้นใกล้ปิดลงแล้วสำหรับโทมัส
แต่โชคดีก็เป็นของเค้าอีกครั้งเมื่อแจนสันกับพวกถูกทิ้งไว้หลังประตูที่ปิดสนิทแถมล็อคปิดตายนั่นโดยที่ไม่สามารถทำอะไรพวกเค้าได้เลย
ก่อนพวกเค้าจะออกมาจากที่มั่นนั้นและออกไปเผชิญหน้ากับทะเลทรายที่เต็มไปด้วยความหฤโหด กระทั่งเจอตัวอาคารที่สามารถเข้าไปหลบวิกเก็ตกับลมกระโชกที่หอบเอาทรายเข้าปะทะหน้าอย่างโหมกระหน่ำได้ และสิ่งที่โทมัสได้ไปพบเห็นมาก็ถูกขยายความให้เพื่อนๆ
ได้ฟังอีกรอบในที่นั้นเองก่อนทุกคนจะตระหนักรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะย้อนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง
ก่อนแอริสจะเอ่ยถึงพวกไรต์อาร์ม
เป็นกลุ่มต่อต้านวิกเก็ตที่อยู่บนเขาและมักจะพาเด็กๆ ไปยังที่ปลอดภัยที่สุด ใช่ นั่นเป็นสิ่งที่ฟังดูดีที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์แบบนี้ พวกเค้าต้องไปหาพวกไรต์อาร์ม แต่นิวท์ก็ยังไม่วายโต้แย้งถึงหลักประกันความปลอดภัยของพวกเค้าอีกอยู่ดี
แล้วยังไงล่ะ? มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้วหรือยังไง ถ้ากลับไปหาวิกเก็ตพวกเค้าก็เหมือนตายอยู่ดี เพราะฉะนั้นทุกคนจึงเดินหน้าต่อไปสำรวจที่รกร้างแห่งนั้นและพบเข้ากับร่องรอยของการอยู่อาศัยที่หลายคนตั้งคำถามว่าผู้คนหายไปไหนกันหมดแล้ว?
คนที่เคยอยู่ที่นี่ไม่ว่าพวกเค้าจะไปอยู่ที่ไหนแต่ก็มีไฟฟ้าใช้กัน นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกสังเกตเห็นและมินโฮคิดผิดที่ไปเปิดเครื่องสำรองไฟนั่น.....
ไฟติดไปทั้งอาคารและส่องสว่างขจัดความมืดในตอนที่ฝูงแครงค์ก็ลุกฮือ.....
“ไป! ไปๆๆๆๆ!” มินโฮกระชากโทมัสอย่างเร็วรี่และใส่เกียร์เต็มฝีเท้าโดยไม่ต้องให้ทวนสถานการณ์ซ้ำ แครงค์หลายตัววิ่งตามทั้งคู่มาและมีตามมาสมทบมากขึ้นทุกที ก่อนเพื่อนๆ ที่รวบรวมข้าวของที่พอจะใช้ได้อย่างระมัดระวังอยู่อีกที่หนึ่งจะเจอสองคนนั้นวิ่งกระหืดกระหอบเลยหัวมุมออกมา
“หนี! วิ่งเร็วเข้า วิ่ง!”
“อะไรน่ะ?” นิวท์เอ่ยงึมงำ ในขณะที่แอริสยื่นคอออกมาดูพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ
มินโฮกับโทมัสดูเหมือนเสียสติไปแล้วจากการโดนวิกเก็ตหลอกหลอน แต่เพื่อนที่ยืนเกาะกลุ่มอยู่ก็ได้คำตอบที่ตรงใจในนาทีนั้นเองเมื่อฝูงแครงค์วิ่งตามเพื่อนสองคนมาตามทางเดินราวกับสัตว์ป่าที่กระหายเลือด
“โอ้ ให้ตายเถอะ...พวกเราวิ่ง!”
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------
โอ้ วิ่ง! วิ่งเร็วเข้าทุกคนวีงงงงงง!!
>[]< แฮ่กๆๆ
แครงค์ออกมาแล้วค่ะ ไอ้พวกบ้าพวกนั้นน่าแขยงมากเลยค่ะ
ยิ่งฉากที่กินหนูแล้วไรท์นี่หุบปากส่ายหน้าเลยค่ะ.....อะไรจะอดอยาก....อึ๋ยย โอ้ พระเจ้าช่วย พวกเค้าออกมาจากที่นั่นได้แล้วค่ะและต่อไปจะเป็นอย่างไร พวกเค้าจิทำอย่างไรต่อไป(ในฟิคของไรท์) จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม(ในฟิคของไรท์) รีดคิดไม่ถึงเพราะมันเป็นฟิคของไรท์นี่แหละค่ะ
5555 ชอบทะลึ่งเขียนนอกเรื่อง 55555
แต่เคืองเทเรซ่าอ่ะ ชริๆๆๆๆๆๆ
อันที่จริงอยากเขียนให้นางหัวเน่าไปเลย (หมายถึงไม่มีใครสนใจนะคะ อุปมาอุปไมนะคะ ไม่ได้หัวเน่าจริงๆ 55555)
แต่ว่าเด็กทุ่งของเราไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำเนอะก็เลยต้อง อ้ะๆๆ
ตามน้ำไปแล้วกัน เทเรซ่าเธอก็เป็นคนที่พวกเค้าเห็นว่าเป็นเพื่อนเหมือนกันนะ
เดี๋ยวตอนจบค่อยมาเจอไรท์อีกทีหนึ่งล่ะกันเนอะ ในตอนที่เธอเผยธาตุแท้แล้วอ่ะ
5555555 เจอกัน!! เฮื้อออ ไรท์ไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงในฟิควายซะด้วยสิคะ
5555555
ในความคิดของผู้หญิงในฟิควาย
ไรท์จัดว่าน่าสะพรึ่งค่ะ 5555555 โอยยยย
ฝอยยาวอีกและ ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร
เรื่องจะดำเนินต่อไปและเกิดอะไรขึ้นต้องติดตามชมกันคะ >< คิดถึงรีดทุกๆ ท่านมากเลยค่ะ
คอนเม้นท์กันหน่อยนะเออ
ปู้ววววววววว
อ้อ เกือบลืม แปะเฟสค่ะ 5555 >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เข้ามาติดตามข่าว (ว่าไรท์ยังไม่ตาย)
พูดคุย หรือจิกให้กำลังใจตามฟิคของไรท์ได้ค่ะ TUT 555555 รักรีดนะค้าาา >////<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
ความจริงไรท์น่าจะแต่งให้เทริซ่าไม่ต้ิองมากับโทมัสก็ได้นะคะ 55555555 หั่นนางเหมือนกัน ไม่ชอบเลยอ้ะ
ยังไงโทมัสก็ไม่เลือกเทอหรอกเทเรซ่า เขามีมินโฮแล้ว 555
แสดงความคิดเห็น