//อร๊ายยยย ดูหมอสิคะ....นั่นไง หมอแน่ใจเหรอว่าหมอเป็นหมอน่ะคะ หน้าหมอสมกับบทแบดๆมากเลยค่ะ 55555555 น้องเชน่าร๊ากกกก จิมก็น่าร๊ากกกกกก แซคมองอะไรคะ (สป็อค) เหล่ตาลงมาหน่อย....เออ นั่นแหละ มองคริสๆ (จิม) 5555555 เชียร์ให้รักกันจริงๆ มานานและ//
อร๊ายยยยยยยย มาแล้วค่ะ
รีดๆ ขาาา >0< //เอามือทาบแก้มแล้วแหกปาก// สวัสดีค่าาา
รีดที่รักของไรท์ >< ไรท์อยากจะบอกว่า Part นี้ค่อนข้างฮา 5555555 //ว่าแล้วก็หัวเราะรอไว้ก่อนเลย// จะไม่สปอยล์นะคะเดี๋ยวจะเสียอรรถรส
รีดต้องอ่านเองค่ะ ><
ไรท์คิดอยู่หลายทีว่ารีดๆ
จะว่าอย่างไรกับฟิคเรื่องนี้นะ
ไรท์สารภาพเลยค่ะว่ายำเต็มที่
ใส่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการลงไปค่ะ 5555555
ส่วนตัวไรท์รั่ว 555555555....โอเค ไม่เวิ่นและ ไม่พูดมากดีกว่าเดี๋ยวรีดจะงวยกันหมด
55555555
ไรท์เลื่อนไปอ่านตอนจบแล้วยิ้มอยู่คนเดียวเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าจะยิ้มเพราะหัวเราะหรือว่ายิ้มเพราะยินดีดี 5555555
โอเคค่ะ ถ่ำมองจิมกันเลยค้าา!! >0< //พูดอะไร?// สลายตัวอย่างไว 55555555
-------------------------------------------------------------------------------------------
เธอไม่รู้......ไม่ ไม่รู้อะไรเลย
ว่าสป็อคโตเต็มวัยแล้ว และเป็นหนุ่มโตเต็มวัยที่แข็งแรงเอามากๆ
เสียด้วย
.
.
*********************************************************************
.
.
.
ซึ่งในเวลาปัจจุบันนี้ชายหนุ่มที่มีเชื้อสายของความเป็นมนุษย์ชาวโลกอย่างเต็มที่ก็กำลังเก็บเอามุกตลกนึกครึมอยากจะแกล้งของอูฮูร่ามาขบคิดเป็นตุเป็นตะ กัปตันหัวทองเดินซุกมือในเสื้อโค้ทตัวใหญ่แล้วห่อไหล่ก้มหน้างุดทำตัวเร่งรีบราวกับคนไร้อัธยาศัย ไม่เงยหน้าสบตากับใครทั้งสิ้น......แต่ให้ตายใครว่าล่ะ! เค้ากำลังใจตุ่มๆ ต่อมๆ
อยู่ต่างหากว่าจะถูกเจอเข้าหรือเปล่า
แย่...แย่มากหากถูกสป็อคเจอเข้าในตอนนี้
ล่าสุดที่เจอหน้ากันในห้องของอีกฝ่ายที่ตัวเค้าเองเกือบจะเสียตัวโดยไม่ยินยอมนั้น ผู้การวัลแคนที่คุ้นเคยกันดูผิดหูผิดตาไปมาก
ถึงแม้จะฟังดูเกินจริงแต่จิมก็รู้สึกได้
ดูเหมือนสป็อคไม่ใคร่สนใจความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตัวเองดังเช่นเมื่อก่อนนัก สิ่งเดียวที่วัลแคนคนนั้นต้องการก็คือผสมพันธุ์......
เฮ้ยยย
จะไปเอาคำพูดของไอ้เพื่อนโบนส์มาคิดทำไมเล่า!......จิมหน้าชาเห่อรู้สึกเหมือนกำลังเป็นไข้เพราะความเขินอายที่ไม่เคยชินเนื่องจากไม่เคยสัมผัสบรรยากาศช่วงฟอนฟาของวัลแคนมาก่อน
เดาว่าคงจะน่ากลัวยิ่งกว่าเวลามนุษย์อยู่ในช่วงผสมพันธุ์แหงๆ
เลย......กัปตันเคิร์กคิดแล้วลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก อันที่จริงตัวของพวกเค้าทั้งคู่ก็คบกันมาราวๆ ห้าปีเห็นจะได้แล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์ของคานเกิดขึ้น เมื่อออกไปทำภารกิจสำรวจห้วงอวกาศอันแสนยาวนาน จู่ๆ อดีตโปรเฟสเซอร์สป็อคก็ขอเข้าพบเป็นการส่วนตัวในห้องของกัปตันแล้วสารภาพออกมาหน้าตาเฉยไม่อายปากว่า
“หลังจากที่ผมได้นำเรื่องทุกอย่างไปทบทวนเป็นอย่างดีแล้ว
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คานบุกโจมตียานและปั่นป่วนพวกเรา ในตอนที่ผมได้เห็นคุณหมดลมหายใจไปต่อหน้าผมรู้สึก...”
คนมาขอเข้าพบเงียบไป และเจ้าของห้องก็เผลอทำตาลุกวาวโดยไม่รู้ตัว
เพราะไม่บ่อยนักที่สป็อคจะรู้สึก
ดูเหมือนช่วงหลังๆ มานี้อีกฝ่ายออกจะรู้สึกบ่อยเอามากๆ
หลังคุยกันเสร็จแล้วเค้าต้องไปขอคำปรึกษาจากโบนส์บ้างเสียแล้ว จิมบดขยี้ริมฝีปากของตัวเองเข้าหากันเป็นเส้นตรง
เพราะกำลังรอคอยเช่นกันว่าสป็อคอยากจะเอ่ยถึงเรื่องอะไร
กัปตันเลิกคิ้ว.....แล้วอะไรงั้นเหรอเพื่อน?
เค้าส่งสัญญาณเงียบสื่อสารกับสป็อคว่าเช่นนั้นตามอุปนิสัยของตนเอง
“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เสียคุณไป และเมื่อรู้ว่าคุณยังอยู่กับเราผมก็รู้สึก...ห่วงหาคุณเป็นอย่างมาก”
สป็อคที่มือไพ่หลังและเอนตัวมาด้านหน้าเล็กน้อยเยี่ยงคนมีความรู้และทรงภูมิ
ก้มหน้าเล็กน้อยและกระพริบตาไตร่ตรองอยู่ชั่ววินาทีหนึ่ง “และผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นหน้าคุณอีกครั้ง ตรรกะของผมอยากมองเรื่องนี้เป็นความไม่สมเหตุสมผล แต่หากอ้างอิงตามจริงแล้วตรรกะของผมบ่งชัดว่าผมหลงรักคุณเข้าอย่างไม่มีข้อเงื่อนไขใดๆ
เลยแม้แต่น้อย” คำพูดราบเรียบกับการแสดงสีหน้าตายแบบนั้นสามารถทำให้คนตายได้เลย จิม เคิร์กคนนี้ขอยืนยัน
“นะ นาย...” เจ้าของห้องนอนเล็กๆ บนยาน
Enterprise นี้ยกแขนขึ้นรู้สึกเหมือนไร้แรงโน้มถ่วงแล้วอ้าแขนน้อยๆ
อย่างเหลือเชื่อ......ไม่ เอ่อ
อันที่จริงเค้ากำลังช็อค ก่อนจะโดนผลประมวลตบหน้า “นายรักฉันงั้นเหรอ?” และการตบหน้าด้วยเรื่องจริงทำร่างเล็กเสียงดังไปสักหน่อย
แต่คนที่ทำหน้าที่ตอบก็ไม่เคยจะบกพร่องเลย
“ผมขอยืนยัน” เค้าบอก
มือที่ไพ่หลังนั้นก็ยังคงมีมาดอยู่เช่นเดิม แต่ทว่ากัปตันนิสัยไม่อยู่สุขนั้นกลับสังเกตเห็นรองกัปตันคนเก่งของเค้าหลบสายตาช็อคๆ
ของเค้าไปแวบหนึ่งในตอนที่บอกว่า ยืนยัน ก่อนสป็อคจะกลับมาทำสายตาสุขุมและแน่วแน่นเหมือนเดิมเช่นตั้งแต่เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง
“เรื่องจริง?” จิมยังไม่ได้เอาแขนลงเพราะลืมตัว และความจริงก็ดูเหมือนจะตบหน้าเค้าไม่แรงพอ
“ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่สอง” เป็นวัลแคนร่างสูงที่มีน้ำใจตบซ้ำให้ และเดินเข้ามาใกล้ระยะประชิดตัวก่อนจะจับฝ่ามือทั้งสองของร่างเล็กขึ้นมา การกระทำของสป็อคช่างนุ่มนวลอ่อนโยนผิดกับคำพูดที่ดูหน้าตาเฉยและไม่โอนอ่อนของเค้าเมื่อครู่นี้ไปโดยสิ้นเชิง
สป็อคไล่ปลายนิ้วมือไปตามสิ่งเดียวกันนั้นของอีกคน
และทันใดนั้นเองชายหนุ่มผลบลอนด์ก็ตัวสั่นเฮือกไปทั่วทั้งร่าง มันให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากจนเจ้าตัวต้องงอร่างด้วยความรู้สึกอ่อนแอ
“อึก...สป็อค” จิมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
มันช่างน่าอายเมื่อเกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งสารภาพรักกับตนไป ร่างเล็กรู้สึกกลัวและเหมือนกับตัวหดเล็กลงแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ตัวของเค้ายังคงมีขนาดเท่าเดิม เค้าอยากเอามือออกแล้วกอดตัวเองเนื่องจากรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างกะทันหันแต่ทว่ากลับทำไม่ได้ยกเว้นซะแต่สป็อคจะเป็นฝ่ายปล่อยมือออกมาเสียเอง
ร่างเล็กสั่นพร่าไปทั่วทั้งตัวเพราะความหนาวและความอ่อนแอ ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนจึงช้อนดวงตาที่ปรือปรายใกล้ปิดขอความเว้นวอนช่วยเหลือจากอีกคนหนึ่งอย่างไม่รู้สาเหต
“สป็อค” เสียงจิมเบาลงจนกระซิบและแหบพร่า รู้สึกเหมือนหนาวจากข้างใน
“จิม” ไม่มีการเรียกว่ากัปตันอีกแล้ว
มึงแม้จะประจำการอยู่บนยาน ความรู้สึกร้อนผ่าวแล่นวาบผ่านนิ้วมือที่มีสัมผัสเหลือเชื่อของสป็อคขึ้นมาทำให้รู้สึกแปลกใหม่ มันเป็นพฤติกรรมใหม่ที่เค้าต้องฝึกควบคุมและศึกษา
“จิม...” เสียงของร่างสูงก็ถูกให้กดต่ำลงด้วยเช่นกัน มันร้อนผะผ่าวราวกับมีแม็กม่าเดือดไหลระอุอยู่ในนั้น เค้าตวัดปลายนิ้วขึ้นมาลูบไล้ไปตามนิ้วมือด้านในของอีกคนหนึ่งอย่างอ้อยอิ่งคล้ายสำรวจ จนอีกฝ่ายหนึ่งตัวสั่นสะดุ้งและหลับตาปี๋
“อื้อ สป็อค…!” จิมส่งเสียง
และสป็อคก็ถอนมืออกมาก่อนจะโอบไปที่รอบคอของอีกคนหนึ่งแล้วสัมผัสริมฝีปากอย่างแนบชิด ร่างเล็กจูบตอบในทันใดด้วยความจัดเจนจากประสบการณ์แต่กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสียเอง
สัญชาติญาณดิบของมนุษย์ที่ว่าช่ำชองและว่องไวแล้วก็ไม่สามารถเทียบเทียมได้กับสัญชาติญาณช่วงสิบพันธุ์ของวัลแคนได้ ลิ้นแข็งแรงของสป็อคกำหลาบความอยากจะชักนำของจิมไปเสียหมดสิ้นแล้วแสดงความเป็นผู้นำของตนเองด้วยการเกี่ยวกระหวัดเชื้อเชิญให้ผู้เป็นมนุษย์ออกมาเริงระบำไปด้วยกัน แต่พอนานไปกลับรุนแรงขึ้นราวกับพวกเค้าคับแค้นกันมานานปีและรอคอยที่จะได้ทำอย่างนี้ด้วยกันมาทั้งชีวิต
“คุณรู้ไหม? ท่านพ่อเคยบอกว่าเมื่อผมได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ทางพฤติกรรมผมจะสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเองว่าคนผู้นั้นคือผู้เดียวที่ผมจะสามารถมีพฤติกรรมเช่นนั้นไปด้วยกันได้ตลอดชีวิต......เช่นท่านแม่และท่านพ่อ และตอนนี้ผมรู้สึกแปลกใหม่เป็นอย่างมากทีเดียว”
“โอ้ นายกำลังจะพูดว่าเซ็กซ์ใช่ไหม?”
ร่างเล็กที่เป็นฝ่ายเริ่มจูบล้ำลึกก่อนแต่ตอนนี้กลับถูกอุ้มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร
ก็วางมืออยู่บนใบหน้าของวัลแคนหนุ่มพร้อมทั้งหอบหายใจหนัก
“ผมคิดว่าใช่” ร่างสูงเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ก่อนคนที่ถูกอุ้มอยู่จะดึงหน้าของอีกคนหนึ่งเข้ามาจูบอีกครั้งอย่างรีบร้อน
“รู้อะไรไหมคนที่นี่เค้าไม่พูดจาอ้อมค้อมกันหรอกถึงแม้ว่านายจะ.....อ่า
เอาเถอะ...ช่างมันเถอะ เอาเลย” ไม่มีการกระมิดกระเมี้ยนอะไรอีกต่อไปแล้ว
ทั้งคนสารภาพรักและถูกสารภาพรักก็ต่างกอดจูบกันอย่างร้อนแรง ความรู้สึกแปลกใหม่แล่นเข้ามาหาศูนย์สังการด้วยความรวดเร็วถึงแม้มันจะดูไม่เหมาะสมแต่ร่างสูงก็ยกร่างของอีกคนหนึ่งขึ้นมาแนบอกขณะที่ปากยังคงดึงดูดติดกันอยู่และพาไปที่เตียงโดยไม่ต้องให้ร่างเล็กแนะเลยแม้แต่นิดเดียว
แล้วนั่นก็เป็นคืนแรกที่ทั้งคู่ได้ร้อนแรงกันอย่างไม่น่าเชื่อท่ามกลางหน้าที่การงานที่สมควรจะค้ำคอพวกเค้าอยู่
โดยเฉพาะสป็อค เค้ารู้สึกราวับว่าร่างกายต้องการมีสัมพันธ์ทั้งๆ ที่ยังไม่ใคร่ถึงเวลาของวัลแคน
ท่านพ่อคงจะรู้สึกอย่างนี้นี่เองสินะ
.
.
โอเค นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกทั้งหมดเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าสองคนจึงคบกัน
และข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งยานด้วยความรวดเร็วจากคนใกล้ตัวของพวกเค้าเอง
และตอนนี้! จิมมี่ผู้น่ารักและเป็นขวัญใจของพวกเค้ากำลังอยู่ในสภาวะจิตตกอย่างถึงที่สุด ชายหนุ่มผู้เคยได้กอบกู้โลกและลูกเรือเอาไว้หลายครั้งต่อหลายครั้งไม่รู้แล้วว่าจะทำอย่างไรดี มีเซ็กซ์มันก็ดีอยู่หรอกแต่หากเป็นอย่างที่อูฮูร่าว่าเค้ามีหวังได้ตายแหงๆ
คราวก่อนที่รัวยกกันสี่ชั่วโมงอีกฝ่าหนึ่งดูไม่เหนื่อยเลยด้วยซ้ำมีแต่ร่างเล็กที่หอบฮักและหมดสติไปเมื่อไรก็ไม่รู้ได้
แต่แล้วความรู้สึกที่บอกเตือนว่าต้องซ่อนตัวก็วกกลับมาแนะทางให้แก่กัปตันแห่งยาน
Enterprise อีกครั้ง......ใช่
ถ้าไม่อยากเจอหน้าสป็อคก็ไปในที่ๆ เค้าไปไม่ได้สิ
ง่ายจะตาย ให้ตายสิจิม!
แล้วหลังจากนั้นหกนาที เจมส์
ไทบีเรียส เคิร์ก จึงล็อคขังตัวเองยู่ในห้องส่วนตัวที่สตาร์ฟลีท
เนื่องจากต้องมีรายงานตัวในวันพรุ่งนี้จึงยังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ ในเมื่อกลับไม่ได้ก็ขังตัวเองมันเอาไว้อย่างงี้แหละ!
พร้อมกันนั้นด้วยการรับมือที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี กัปตันแสนเก่งกาจจึงปรับอุณหภูมิห้องให้ลดต่ำลงจนเค้าเองก็ต้องสวมเสื้อเพิ่มถึงสองชั้นด้วยกัน......วัลแคนไม่ชอบอากาศหนาว
เพราะฉะนั้นนี้อาจทำให้จิมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้นร่างเล็กที่หวาดระแวงจนเกือบพูดคนเดียวจึงล้มตัวลงนอนกับเตียงเดี่ยวอันแสนจะคุ้นเคยของสตาร์ฟลีท
“อ่า ในที่สุดฉันก็ถึงโลกสักที” เค้าโอดก่อนจะแว่วได้ยินเสียงของคอมพิวเตอร์รับคำสั่งของห้อง ส่งเสียงดัง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ไม่หยุด.....เอ๊ะ จังหวะเปลี่ยนไปแล้ว ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ
อะไรกัน นี่มัน
ไม่เอาน่า คงจะไม่ใช่หรอก แต่ รึว่า...
“โดนแฮ็ค!!”
พรืดด
เสียงประตูเลื่อนเปิดออกอย่างรุนแรงพร้อมๆ
กับคนที่ซุกหน้าลงกับหมอนจะลุกพรวดขึ้นประจันหน้ากับประตูที่เพิ่งเปิดผ่างออกอย่างรวดเร็ว
“จิม”
“สป็อค!” ร่างเล็กกระโดดลงจากเตียง “นายหาฉันเจอได้ยังไง?!” เจ้าตัวทำท่าตั้งรับเตรียมหาช่องเปิด แต่ทว่าวัลแคนที่สั่งปิดประตูก็ฉวยโอกาสเดินเข้ามาหาก่อนเสียแล้ว
ในมือเค้ามีเครื่องแฮ็คระบบเล็กๆ มาด้วย ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับร่างสูงจอมอัจฉริยะคนนี้เลยที่จะเข้าแทรกแซงระบบกิ๊กก๊อกอย่างนี้ได้ แต่ร่างเล็กไม่คิดว่าคนอย่างสป็อคจะลงทุนทำถึงขนาดนี้
“อยะ
อย่าทำอะไรฉันเลยนะได้โปรด สป็อค เอ้ เดี๋ยวก่อน...” คนโดนย่างสามขุมเข้าไปหากางมือคั้นกลางไว้และส่ายไปมาน้อยๆ
อย่างทำอะไรไม่ถูกก่อนจะโดนคว้าจับไว้ด้วยแรงที่ไม่คิดจะออมของแขกผู้มาเยือน
“คุณพูดเรื่องอะไรกันจิม?” คิ้วของสป็อคชี้ลงมาบรรจบกันและใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์ที่ไม่ปรกติ......ไม่ นี่ไม่ใช่สป็อคที่เคยรู้จักเลย “ผมตามหาคุณมาสี่สิบหกนาทีสามสิบห้าวินาทีหลังจากที่ลงจากยานโดยที่เรายังมีเรื่องค้างคากันให้สะสาง
ฉะนั้นผมจึงคิดว่าสมเหตุผลที่ผมต้องถามคุณว่าทำไมคุณจึงจงใจหลบหน้าผม”
ค้างคา? สะสาง?
วัลแคนเค้าเอาเรื่องนั้นมาเป็นธุระจริงจังตั้งแต่เมื่อไรกัน?!
จิมเคิร์กหน้าเสียไปมากกับช่วงฟอนฟาที่แปรปรวนของสป็อค
“หา เอ่อ คือฉัน...” ฉันไม่อยากตายเพราะนอนกับนายยังไงล่ะ! จิมไม่ได้กล่าวออกไปแต่ประสบการณ์ของเค้าก็มากพอที่รู้ว่าไม่ควรไปตอแยกับพละกำลังของวัลแคน
“คือว่าฉัน...อ๊ะ เหวออ!”
แต่จู่ๆ คนที่มีเหตุมีผลด้วยตรรกะสูงสุดก็ผลักอกที่หายใจหนักเพราะความตื่นเต้นด้วยแรงที่ไม่เบานัก
จนร่างเล็กที่กำลังจะแถอย่างแนบเนียนได้เสียหลักหงายหลังล้มลงบนพื้นเตียงอย่างแรง ก่อนคนที่ฝืนธรรมชาติของร่างกายจะย่างกรายเข้ามาในห้องที่มีอุณหภูมิลดต่ำลงจนเริ่มหายใจได้แสบจมูกและตามมาคร่อมกายเพื่อกักขังร่างที่มีแววตาตื่นตระหนกไม่ให้คิดหนีไปไหนได้ สป็อคไม่เข้าใจเลยทำไมจิมต้องพยายามหนีเค้าด้วย
“ทำไม?” เค้าถาม “ทำไมคุณต้องหลบหน้าผมและพยายามออกห่างจากผมทั้งๆ
ที่คุณเองก็น่าจะรู้ดีว่าผมอยู่ในช่วงที่มีพฤติกรรมซึ่งต่างออกไป และมันค่อนข้างสำคัญสำหรับผม คุณควรเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเพราะคุณเป็นคู่ของผม คุณไม่รู้สึกถึงมันหรือ?”
สป็อคถามเสียงค่อนข้างกระด้างและต่างจากในเวลาปรกติเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะด้วยแรงอารมณ์หรือความโกรธจิมก็ไม่ทราบได้ถึงความผิดหูผิดตาไปของสป็อค
“สป็อค” จิมเสียงสั่น คำพูดและสีหน้าจริงจังของอูฮูร่าแวบขึ้นมาในหัวของเค้า
ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปกำแขนเสื้อรั้งร่างด้านบนไว้ไม่ให้พลีพล่ามทำอะไรเสียก่อน
“ได้โปรดเถอะ ฟังฉันก่อน ฉันมีเหตุผลที่ดีที่นายควร...อื้อ”
ทันใดนั้นถ้อยคำที่ไม่ว่าจะตะล่อมปลอบหรือบ่ายเบี่ยงใดๆ
ก็ถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากคู่อุ่นร้อนที่ตัดกับอุณหภูมิของสป็อคไปแล้ว หนุ่มวัลแคนไม่ปล่อยให้กัปตันของเค้าได้พูดอะไรอีก
เมื่อสมองอันชาญฉลาดที่ถึงแม้จะอยู่ในฤดูเร่าร้อนไม่สงบโดยผิดธรรมชาติ คำนวณขึ้นได้ว่าการปล่อยให้อีกคนหนึ่งพูดรังแต่จะทำให้ช่วงเวลาในรอบหลายปีของเค้าถูกเลื่อนออกไปอย่างน่าเสียดายมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกวินาที
“อื้อ...อืออ” อูฮูร่าบอกว่ามันจะเป็นช่วงเวลามาราธอนที่หนักหน่วง
ฉะนั้นต้องรีบถอยห่างไปเสียก่อนที่จะไม่ทันการ
แต่ทว่าลิ้นของวัลแคนก็ช่ำชองใช้งานเก่งไม่แพ้ประสาทสัมผัสที่นิ้วเลยด้วยเช่นกัน ร่างสูงที่กดกอดอยู่ด้านบนลากลิ้นสั่งสอนความเกเรของคนด้านล่างด้วยการเกี่ยวกระหวัดรัดรึงซึ่งเป็นไปด้วยความรุนแรง
เค้าลากไล่ไปตามฟันขาวทีละซี่อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะทำเช่นเดียวกันนั้นกับกระพุ้งแก้มทั้งสอง จูบของเค้านั้นช่างรุนแรงจนคนด้านล่างต้องเงยหน้าขึ้นตามสมทบ
แต่ก็ยังไม่มากพอจึงทำให้มีน้ำลายไหลออกมาจากความบกพร่องนี้เสียได้
สป็อคผละจูบออกมา นับจังหวะหายใจแล้วจู่โจมต่อไม่ยอมปล่อยให้อีกคนหนึ่งได้ขัดอะไรแม้เพียงเล็กน้อย ก่อนมือคู่ร้อนจะสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อแล้วลูบไล้
เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนเสื้อสามตัวที่ร่างเล็กหยิบมาจากตู้เสื้อถูกถอดออกไปจนเกือบหมด
ลิ้นร้อนของวัลแคนจึงมีเพื่อนเล่นใหม่ให้ไปแวะเวียนทักทายด้วย
“อ่าา สป็อคอย่าทำแบบนี้...ฮาา”
คนข้างล่างกำแขนเสื้อสีเข้มนั้นเอาไว้แน่
แต่ไม่ประสบผลเท่าที่ควรนักเนื่องจากปฏิกิริยาตอบสนองของอีกคนหนึ่งนั้นเท่ากับศูนย์ สป็อคกดปากดูดเม้มอย่างหนักที่ยอดอกสีหวานชวนเย้ายวนนั่น
“โอ้ ได้โปรดเถอะ...อ้าาา” จิมดิ้น รู้สึกสั่นพร่าไปทั้งกาย
“ผมไม่เข้าใจ คุณจะปฏิเสธไปทำไม ในเมื่อตัวของคุณเองก็แสดงชัดว่าต้องการ”
ไม่พูดเปล่า ร่างสูงก็จับไม่พลาดเป้าไปที่ซิปกางเกงแห่งเดียวของจิม มันให้ความรู้สึกอุ่นร้อนถึงแม้จะมีเนื้อผ้าเย็นปิดกั้นไว้ แต่บัดนี้ทั้งกางเกงและสิ่งนั้นด้านในกลับมีความร้อนไม่ต่างไปจากฝ่ามือของสป็อคเลย เลือดของจิมคงกำลังไหลเวียนและอีกไม่นานร่างเล็กก็จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องการเค้ามากแค่ไหน
“ไม่ นายจะทำในห้องนี้...”
“ผมไม่ใคร่ใส่ใจ ถึงแม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าคุณจะมาที่นี่ผมก็ขอยืนยัน”
จิมหายใจทางปาก ตัวเคลื่อนไปเป็นจังหวะเดียวกับสป็อค ฟันกระต่ายคู่น้อยสีขาวดูสร้างเสน่ห์ให้เจ้าตัวได้เสมอ ร่างสูงรับประกันข้อนี้ได้เป็นอย่างดี “งั้นเหรอ”
ร่างเล็กพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเลื่อนหน้าขึ้นไปจูบกับอีกคนหนึ่งบ้างด้วยแรงอารมณ์
เสียงหอบหายใจที่ดังกระเซ้าไปทั่วห้องและความหนาวเย็นนั้นก็เปรียบเสมือนอันตรธานไปแล้วจนหมดสิ้นเมื่อสองร่างกอด บดขยี้
และแลกลิ้นกันอยู่บนเตียงที่เสียรูปทรงของความเรียบร้อยไป ราวกับว่าไม่มีใครจะมาหยุดยั้งพวกเค้าได้อีกแล้วกระทั่งในตอนที่ประตูห้องได้ถูกเปิดออก......
“โอ๊ย คุณพระคุณเจ้าช่วย!!....พวกแกมาทำบ้าอะไรกันที่ห้องฉันวะเนี่ย?!” แมคคอยยื่นขว้างอยู่ที่ปากประตูบานไม่ใหญ่โตในมือของเค้าคือคีย์การ์ดของห้องตัวเอง และไม่เพียงเท่านั้นด้านหลังของหมอใหญ่ยังมีเด็กหนุ่มจากรัสเซียที่คอยขยุ้มเสื้อทำหน้าตื่นตกใจอยู่ด้านหลังอีกด้วย......ดูท่าเหมือนทั้งสองเพิ่งดึงปากออกจากกันมาหมาดๆ
สป็อคกับจิมเลิกกอดจูบกันแล้ว ก่อนหันมาลุกขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาด้วยกันเป็นตาเดียว
“นายกับเชคอฟคบจริงๆ ใช่ไหมเพื่อน?” กัปตันที่ผมยุ่งเหยิงลดเปลือกตาลงเล็กน้อย เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ยังจำได้ดีอยู่เลยว่าแมคคอยบอกว่าไม่ได้กิ๊กกั๊กกับเชคอฟ แต่แล้วชายที่ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของห้องก็ทำเสียงฮึดฮัดพลางโบกมืออย่างหัวเสีย
“ช่างเค้าเหอะน่า!
ว่าแต่พวกแกน่ะมาทำบ้าอะไรกันที่นี่หาา?!” แมคคอยโวย ก่อนจะมองเห็นเสื้อของเพื่อนกัปตันที่หลุดลุ้ยไร้ระเบียบไปเล็กน้อยแต่แค่นั้นก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุนั้นนายแพทย์แห่งยาน Enterprise
จึงชักสีหน้าเมื่อยามฟิวด์ขาดแล้วตวาดลั่นอย่างหัวเสีย “โอ้
พระเจ้า นี่แกกะจะมีเซ็กซ์กันในห้องของฉันกันยังงั้นเหรอ!” พร้อมทั้งควันออกหูกับคนที่กะทำไม่เลือกที่ ซึ่งยังมีหน้ามายืนมองเค้ากับเชคอฟกันอย่างหน้าตายสลอน
“ขอโทษนะ ไม่ว่าพวกแกจะอยากกันแค่ไหนแต่ฉันก็ให้ไม่ได้จิม...ให้ไม่ได้!
และแก” ร่างสูงของบุรุษแดนใต้ที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความโกรธเกรี้ยวชี้ไปที่หน้าของสป็อค
“ไปอาการฟอนฟากำเริบที่อื่นเลยไปไอ้หนูผีหน้าเขียว!......อ่า!
อย่างเช่นห้องของพวกแกเป็นไง? เดินออกไปเลี้ยวขาว สุดทางเดิน
ห้องกัปตันอยู่ตรงนั้น รึว่าถ้าแกไม่พอใจจะหักซ้ายพามันไปห้องของแกก็ได้นะ
ฉันหนับหนุนเต็มที่! เราไม่ควรไปนอนห้องแฟนเพราะมันจะทำให้ดูหน้าตัวเมีย!”
คุณหมอจากไอโอว่าแนะนำ ก่อนจะหันไปเจอสีหน้าเสียๆ
ของเด็กหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นเสริมด้วยเสียงที่อ่อนลงมากจนดูออกว่าลำเอียงว่า “สำหรับนายมันคนละกรณีกันเชคอฟ
มาห้องฉันนั่นแหละถูกแล้ว”
“อา นั่นไง พวกนายคบกันอยู่สินะ”
จิมหัวยุ่งเหมือนเพิ่งตื่น แต่พอมีสป็อคอยู่ข้างๆ ความหมายนั้นก็เปลี่ยนไปว่าทำไมเค้าจึงมีสภาพเป็นเช่นนั้น
“ไปตายซะจิม” แมคคอยหันมาแย่งเขี้ยวใส่อีก
“แกด้วยไอ้หนูผี เอาแฟนแกออกไปเลย”
ว่าแล้วก็ผลักหลังคนที่ทำให้เตียงของเค้ายับให้ถลาออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว “ทีหน้าทีหลังจะใช้ห้องใครก็ขออนุญาตซะมั่งนะพวกหรือไม่ก็อย่าโผล่หน้ามาอีกเลยแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!” คนที่เกือบเสียห้องให้คู่รักที่เค้าไม่ชอบหน้าทั้งคู่เอ่ยเหน็บแหนมอย่างประชดประชัน พร้อมทำน้ำเสียงเป็นแกมไม่อยากให้ทั้งสองโผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย
แมคคอยยื่นหน้าออกมาจากกรอบประตู คิ้วเรียวเข้มของหมอผูกกันเป็นปมแน่นเหมือนนักฆ่าของชาวคลิงออน
“ขอบคุณ!” เค้าพูดแล้วกดปิดประตูอย่างแรง
ซึ่งถ้าหากเลือกได้แมคคอยคงอยากให้มันเป็นบานประตูแบบลูกบิดมากกว่า เค้าจะได้ใช้มันกระแทกใส่หน้าเพื่อนร่วมยานทั้งสองด้วยความสะใจ
แต่ก่อนที่ประตูจะเลื่อนปิดจิมและสป็อคเห็นคนที่เรียกตัวเองว่าบุรุษแห่งความสุขุม
รอบคอบ และแถมยังมีความอดทนอดกลั้นเหมาะสมกับการเป็นผู้ใหญ่เกี่ยวคอเด็กหนุ่มที่ยืนทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมด้านหลังเข้ามาจูบราวกับคนขี้โมโหที่ขาดสติไม่มีความอดทนก็ไม่ปาน
บางทีเชคอฟอาจน่าสงสารก็ได้
ใครจะไปรู้
ที่แมคคอยอารมณ์เสียแบบนั้นคงไม่ใช่เพราะเจอจิมกับสป็อคเพียงประการเดียวเป็นแน่ แต่เป็นเพราะดันไปขัดจังหวะต่อเนื่องก่อนถึงเตียงของเจ้าหมอนั่นน่ะสิไม่ว่า......
ทางเดินยังคงมีคนเดินไปมาเพื่อแวะเวียนไปพูดคุยและพักผ่อนในห้องถัดๆ
ไป แต่ร่างของมนุษย์หนึ่งคนและวัลแคนอีกหนึ่งตนนั้นไม่ได้รับความสนใจจากใครเลยทั้งสิ้นแม้แต่น้อย ทั้งสองมองประตูที่ปิดลงและเสียงอื้ออึงอย่างทรมานของเชคอฟดังหลุดลอดออกมาจากประตูห้อง ชายหนุ่มผมทองที่เพิ่งถูกไล่ตะเพิดออกมากำหมัดแน่นแต่ไม่ใช่เพราะถูกทำหยาบคายใส่......คุณหมอแมคคอยที่เคารพยิ่งเป็นอย่างนี้อยู่นานแล้ว
แต่ทว่า เจมส์ ไทบีเรียส เคิร์ก กลับหอบหายใจเอาไอร้อนผะผ่าวออกมาอย่างแรงจนเห็นได้ชัด ร่างเล็กบอกตัวว่าให้ลืมการขัดขืนในตอนแรกของตัวเองเสีย
จะอย่างไรสป็อคก็เก่งเสมอ อีกฝ่ายหนึ่งจุดประกายไฟในอกของเค้าได้เสมออยู่แล้ว ดังนั้นกัปตันเคิร์กจึงเหลือบตามองรองกัปตันของตัวเองด้วยหางตา
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยย!! นี่มันเป็น Part ของใคร?! 555555
เอาไปแบ่งกันเองล่ะกันเนอะ 555555555 //หัวเราะบ่อย// ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ รู้สึกว่าไรท์จะให้หมอโมโหมากเกินไปหน่อย
555555555 แต่มันน่าโมโหไหมล่ะ?! 555555 เกาะอิจิมมัน.......โอ๊ยยยย 5555555 ไม่ไหวแล้ว 55555 ****รีดที่ยังไม่อ่านเนื้อหา Part นี้ห้ามเลื่อนมาอ่าน Talk ช่วงท้ายก่อนนะเออ
5555555 อย่าขี้โกงนะค่ะ >< 55555****
คือจะโทษหมอที่เข้ามาหรือว่าโทษอิจิมที่ไม่เลือกที่ดีเนี่ย
5555555555 อูยยยยย แล้วน้องน่ะหมอ!!
เอาน้องมายังงี้ไปเปิดตัวบนยานเลยไหม น่าจะเปิดตัวได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงโลกแล้วนะคะอิจิมโบ้จะได้ไม่เอามาเอ่ยแหนบแหนมแบบนี้
-0- 5555555 คือหน้าตายอ่ะ
ถึงตัวเองจะมีปัญหาติดพันอยู่ก็เถอะแต่ปลีกอารมณ์ออกมากวนเพื่อนได้อย่างยอดเยี่ยม สมแล้วจริงๆ ที่ก่อกวนอารมณ์สงบในตบะของหมอมาตั้งแต่ตอนเรียน
55555555
แต่รีดว่าเหมือนไรท์ไหมคะ จิมที่ว่าชอบก่อหวอดให้ระเบิดแตกแล้วก็ยังไม่ทำให้หมอปรี๊ดทันทีที่ได้เห็นหน้าเท่าสป็อคเลยนะค่ะ
5555555 คือป็อคยังไม่ทันพูดอะไรหมอก็ยิงปืนใส่แล้วอ่ะ ชี้หน้าเลย.....และแก!! 5555 ดูพูดเข้านั่น
เหมือนด่ากิ๊กลูกสาวที่แอบเข้ามาจู้จี้กันในห้องนอนเลยค่ะ 55555 แต่ในกรณีนี้หมอก็อารมณ์เสียนังลูกไม่รักดีเหมือนกันเพราะรู้นิสัยนางจิมโบ้ดี
555555555 ชอบๆๆๆๆ 555555
ชอโมเม้นท์นี้ค่ะ
แล้วที่เอ่ยถึงไม่ได้คือน้องเช....เหมือนหมอจะพาแม่ใหม่ (ที่อายุน้อยกว่าลูก)
มาแนะนำให้ลูกรู้จักเลยค่ะ 55555 เอ
รึว่าจะพามาทำความรู้จักกันเป็นการส่วนตัวก่อนจะเจอลูกกันนาาา สงสัยจะอย่างหลังนี่แหละค่ะ 555555 หมอบ้าๆๆๆๆๆ >< //ทุบรัวๆ//
โอเคเลิกเวิ่น เอาเป็นว่าผู้ที่เสียหายและน่าสงสารที่สุดคือน้องเชค่ะ
5555555 โฟกัสแค่นี้พอ ในห้องเค้ามีอะไรกันนั่น //เอาแง้มประตูห้อง// เอ๋
แง้มไม่ได้หนิเป็นประตูอัตโนมัติ 5555555
ถ้าแง้มได้จะแง้มเผื่อรีดด้วยค่ะ
คริๆๆ
โอ้ ตายแล้ว หมอลากน้องเข้าห้องไปขยี้แล้ว.....//โอ๊ย
ดูมันใช้คำ....ขยี้
น้องจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย -.,-// แล้วสป็อคกับจิมที่ตัดใจไม่ต่อต้านแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ.............Oh god ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ! >< //โดนรีดตบ// 55555555
ขอบคุณนะคะสำหรับการเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ รักรีดๆ ทุกท่านมากเลยนะค้าา แวะไปอ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่สารบัญฟิคข้างๆ
นะคะ ><
ฮักหลายยยยย >////<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น