วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[SF – Star Trek] + [Part 2] FONFA – Spock x Kirk , McCoy x Chekov




 //อร๊ายยยย  ดูหมอสิคะ....นั่นไง หมอแน่ใจเหรอว่าหมอเป็นหมอน่ะคะ  หน้าหมอสมกับบทแบดๆมากเลยค่ะ 55555555  น้องเชน่าร๊ากกกก  จิมก็น่าร๊ากกกกกก  แซคมองอะไรคะ (สป็อค) เหล่ตาลงมาหน่อย....เออ นั่นแหละ มองคริสๆ (จิม) 5555555  เชียร์ให้รักกันจริงๆ มานานและ//

อร๊ายยยยยยยย มาแล้วค่ะ รีดๆ ขาาา >0<  //เอามือทาบแก้มแล้วแหกปาก//  สวัสดีค่าาา  รีดที่รักของไรท์ ><  ไรท์อยากจะบอกว่า Part นี้ค่อนข้างฮา 5555555  //ว่าแล้วก็หัวเราะรอไว้ก่อนเลย//  จะไม่สปอยล์นะคะเดี๋ยวจะเสียอรรถรส รีดต้องอ่านเองค่ะ ><

ไรท์คิดอยู่หลายทีว่ารีดๆ จะว่าอย่างไรกับฟิคเรื่องนี้นะ  ไรท์สารภาพเลยค่ะว่ายำเต็มที่  ใส่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการลงไปค่ะ 5555555  ส่วนตัวไรท์รั่ว 555555555....โอเค ไม่เวิ่นและ  ไม่พูดมากดีกว่าเดี๋ยวรีดจะงวยกันหมด 55555555  ไรท์เลื่อนไปอ่านตอนจบแล้วยิ้มอยู่คนเดียวเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะยิ้มเพราะหัวเราะหรือว่ายิ้มเพราะยินดีดี 5555555

โอเคค่ะ  ถ่ำมองจิมกันเลยค้าา!! >0<  //พูดอะไร?//  สลายตัวอย่างไว 55555555



-------------------------------------------------------------------------------------------



เธอไม่รู้......ไม่ ไม่รู้อะไรเลย  ว่าสป็อคโตเต็มวัยแล้ว  และเป็นหนุ่มโตเต็มวัยที่แข็งแรงเอามากๆ เสียด้วย



.



.



*********************************************************************



.



.



.



ซึ่งในเวลาปัจจุบันนี้ชายหนุ่มที่มีเชื้อสายของความเป็นมนุษย์ชาวโลกอย่างเต็มที่ก็กำลังเก็บเอามุกตลกนึกครึมอยากจะแกล้งของอูฮูร่ามาขบคิดเป็นตุเป็นตะ  กัปตันหัวทองเดินซุกมือในเสื้อโค้ทตัวใหญ่แล้วห่อไหล่ก้มหน้างุดทำตัวเร่งรีบราวกับคนไร้อัธยาศัย  ไม่เงยหน้าสบตากับใครทั้งสิ้น......แต่ให้ตายใครว่าล่ะ! เค้ากำลังใจตุ่มๆ ต่อมๆ อยู่ต่างหากว่าจะถูกเจอเข้าหรือเปล่า  แย่...แย่มากหากถูกสป็อคเจอเข้าในตอนนี้

ล่าสุดที่เจอหน้ากันในห้องของอีกฝ่ายที่ตัวเค้าเองเกือบจะเสียตัวโดยไม่ยินยอมนั้น  ผู้การวัลแคนที่คุ้นเคยกันดูผิดหูผิดตาไปมาก ถึงแม้จะฟังดูเกินจริงแต่จิมก็รู้สึกได้  ดูเหมือนสป็อคไม่ใคร่สนใจความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตัวเองดังเช่นเมื่อก่อนนัก  สิ่งเดียวที่วัลแคนคนนั้นต้องการก็คือผสมพันธุ์......

เฮ้ยยย จะไปเอาคำพูดของไอ้เพื่อนโบนส์มาคิดทำไมเล่า!......จิมหน้าชาเห่อรู้สึกเหมือนกำลังเป็นไข้เพราะความเขินอายที่ไม่เคยชินเนื่องจากไม่เคยสัมผัสบรรยากาศช่วงฟอนฟาของวัลแคนมาก่อน

เดาว่าคงจะน่ากลัวยิ่งกว่าเวลามนุษย์อยู่ในช่วงผสมพันธุ์แหงๆ เลย......กัปตันเคิร์กคิดแล้วลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  อันที่จริงตัวของพวกเค้าทั้งคู่ก็คบกันมาราวๆ ห้าปีเห็นจะได้แล้ว  ตั้งแต่เหตุการณ์ของคานเกิดขึ้น  เมื่อออกไปทำภารกิจสำรวจห้วงอวกาศอันแสนยาวนาน  จู่ๆ อดีตโปรเฟสเซอร์สป็อคก็ขอเข้าพบเป็นการส่วนตัวในห้องของกัปตันแล้วสารภาพออกมาหน้าตาเฉยไม่อายปากว่า

“หลังจากที่ผมได้นำเรื่องทุกอย่างไปทบทวนเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คานบุกโจมตียานและปั่นป่วนพวกเรา  ในตอนที่ผมได้เห็นคุณหมดลมหายใจไปต่อหน้าผมรู้สึก...” คนมาขอเข้าพบเงียบไป และเจ้าของห้องก็เผลอทำตาลุกวาวโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่บ่อยนักที่สป็อคจะรู้สึก

ดูเหมือนช่วงหลังๆ มานี้อีกฝ่ายออกจะรู้สึกบ่อยเอามากๆ หลังคุยกันเสร็จแล้วเค้าต้องไปขอคำปรึกษาจากโบนส์บ้างเสียแล้ว  จิมบดขยี้ริมฝีปากของตัวเองเข้าหากันเป็นเส้นตรง เพราะกำลังรอคอยเช่นกันว่าสป็อคอยากจะเอ่ยถึงเรื่องอะไร

กัปตันเลิกคิ้ว.....แล้วอะไรงั้นเหรอเพื่อน?  เค้าส่งสัญญาณเงียบสื่อสารกับสป็อคว่าเช่นนั้นตามอุปนิสัยของตนเอง

“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เสียคุณไป  และเมื่อรู้ว่าคุณยังอยู่กับเราผมก็รู้สึก...ห่วงหาคุณเป็นอย่างมาก” สป็อคที่มือไพ่หลังและเอนตัวมาด้านหน้าเล็กน้อยเยี่ยงคนมีความรู้และทรงภูมิ ก้มหน้าเล็กน้อยและกระพริบตาไตร่ตรองอยู่ชั่ววินาทีหนึ่ง “และผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นหน้าคุณอีกครั้ง  ตรรกะของผมอยากมองเรื่องนี้เป็นความไม่สมเหตุสมผล  แต่หากอ้างอิงตามจริงแล้วตรรกะของผมบ่งชัดว่าผมหลงรักคุณเข้าอย่างไม่มีข้อเงื่อนไขใดๆ เลยแม้แต่น้อย” คำพูดราบเรียบกับการแสดงสีหน้าตายแบบนั้นสามารถทำให้คนตายได้เลย  จิม เคิร์กคนนี้ขอยืนยัน

“นะ นาย...” เจ้าของห้องนอนเล็กๆ บนยาน Enterprise นี้ยกแขนขึ้นรู้สึกเหมือนไร้แรงโน้มถ่วงแล้วอ้าแขนน้อยๆ อย่างเหลือเชื่อ......ไม่  เอ่อ อันที่จริงเค้ากำลังช็อค ก่อนจะโดนผลประมวลตบหน้า “นายรักฉันงั้นเหรอ?” และการตบหน้าด้วยเรื่องจริงทำร่างเล็กเสียงดังไปสักหน่อย

แต่คนที่ทำหน้าที่ตอบก็ไม่เคยจะบกพร่องเลย “ผมขอยืนยัน” เค้าบอก  มือที่ไพ่หลังนั้นก็ยังคงมีมาดอยู่เช่นเดิม  แต่ทว่ากัปตันนิสัยไม่อยู่สุขนั้นกลับสังเกตเห็นรองกัปตันคนเก่งของเค้าหลบสายตาช็อคๆ ของเค้าไปแวบหนึ่งในตอนที่บอกว่า ยืนยัน ก่อนสป็อคจะกลับมาทำสายตาสุขุมและแน่วแน่นเหมือนเดิมเช่นตั้งแต่เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง

“เรื่องจริง?” จิมยังไม่ได้เอาแขนลงเพราะลืมตัว  และความจริงก็ดูเหมือนจะตบหน้าเค้าไม่แรงพอ

“ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่สอง” เป็นวัลแคนร่างสูงที่มีน้ำใจตบซ้ำให้  และเดินเข้ามาใกล้ระยะประชิดตัวก่อนจะจับฝ่ามือทั้งสองของร่างเล็กขึ้นมา  การกระทำของสป็อคช่างนุ่มนวลอ่อนโยนผิดกับคำพูดที่ดูหน้าตาเฉยและไม่โอนอ่อนของเค้าเมื่อครู่นี้ไปโดยสิ้นเชิง

สป็อคไล่ปลายนิ้วมือไปตามสิ่งเดียวกันนั้นของอีกคน และทันใดนั้นเองชายหนุ่มผลบลอนด์ก็ตัวสั่นเฮือกไปทั่วทั้งร่าง  มันให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากจนเจ้าตัวต้องงอร่างด้วยความรู้สึกอ่อนแอ “อึก...สป็อค” จิมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง  มันช่างน่าอายเมื่อเกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งสารภาพรักกับตนไป  ร่างเล็กรู้สึกกลัวและเหมือนกับตัวหดเล็กลงแต่ทว่าไม่ใช่เรื่องจริง ตัวของเค้ายังคงมีขนาดเท่าเดิม  เค้าอยากเอามือออกแล้วกอดตัวเองเนื่องจากรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างกะทันหันแต่ทว่ากลับทำไม่ได้ยกเว้นซะแต่สป็อคจะเป็นฝ่ายปล่อยมือออกมาเสียเอง

ร่างเล็กสั่นพร่าไปทั่วทั้งตัวเพราะความหนาวและความอ่อนแอ  ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนจึงช้อนดวงตาที่ปรือปรายใกล้ปิดขอความเว้นวอนช่วยเหลือจากอีกคนหนึ่งอย่างไม่รู้สาเหต “สป็อค” เสียงจิมเบาลงจนกระซิบและแหบพร่า รู้สึกเหมือนหนาวจากข้างใน

“จิม” ไม่มีการเรียกว่ากัปตันอีกแล้ว มึงแม้จะประจำการอยู่บนยาน  ความรู้สึกร้อนผ่าวแล่นวาบผ่านนิ้วมือที่มีสัมผัสเหลือเชื่อของสป็อคขึ้นมาทำให้รู้สึกแปลกใหม่  มันเป็นพฤติกรรมใหม่ที่เค้าต้องฝึกควบคุมและศึกษา

“จิม...” เสียงของร่างสูงก็ถูกให้กดต่ำลงด้วยเช่นกัน  มันร้อนผะผ่าวราวกับมีแม็กม่าเดือดไหลระอุอยู่ในนั้น  เค้าตวัดปลายนิ้วขึ้นมาลูบไล้ไปตามนิ้วมือด้านในของอีกคนหนึ่งอย่างอ้อยอิ่งคล้ายสำรวจ  จนอีกฝ่ายหนึ่งตัวสั่นสะดุ้งและหลับตาปี๋

อื้อ สป็อค…!” จิมส่งเสียง และสป็อคก็ถอนมืออกมาก่อนจะโอบไปที่รอบคอของอีกคนหนึ่งแล้วสัมผัสริมฝีปากอย่างแนบชิด  ร่างเล็กจูบตอบในทันใดด้วยความจัดเจนจากประสบการณ์แต่กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสียเอง สัญชาติญาณดิบของมนุษย์ที่ว่าช่ำชองและว่องไวแล้วก็ไม่สามารถเทียบเทียมได้กับสัญชาติญาณช่วงสิบพันธุ์ของวัลแคนได้  ลิ้นแข็งแรงของสป็อคกำหลาบความอยากจะชักนำของจิมไปเสียหมดสิ้นแล้วแสดงความเป็นผู้นำของตนเองด้วยการเกี่ยวกระหวัดเชื้อเชิญให้ผู้เป็นมนุษย์ออกมาเริงระบำไปด้วยกัน  แต่พอนานไปกลับรุนแรงขึ้นราวกับพวกเค้าคับแค้นกันมานานปีและรอคอยที่จะได้ทำอย่างนี้ด้วยกันมาทั้งชีวิต

“คุณรู้ไหม? ท่านพ่อเคยบอกว่าเมื่อผมได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ทางพฤติกรรมผมจะสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเองว่าคนผู้นั้นคือผู้เดียวที่ผมจะสามารถมีพฤติกรรมเช่นนั้นไปด้วยกันได้ตลอดชีวิต......เช่นท่านแม่และท่านพ่อ   และตอนนี้ผมรู้สึกแปลกใหม่เป็นอย่างมากทีเดียว”

“โอ้ นายกำลังจะพูดว่าเซ็กซ์ใช่ไหม?” ร่างเล็กที่เป็นฝ่ายเริ่มจูบล้ำลึกก่อนแต่ตอนนี้กลับถูกอุ้มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร ก็วางมืออยู่บนใบหน้าของวัลแคนหนุ่มพร้อมทั้งหอบหายใจหนัก

“ผมคิดว่าใช่” ร่างสูงเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ก่อนคนที่ถูกอุ้มอยู่จะดึงหน้าของอีกคนหนึ่งเข้ามาจูบอีกครั้งอย่างรีบร้อน “รู้อะไรไหมคนที่นี่เค้าไม่พูดจาอ้อมค้อมกันหรอกถึงแม้ว่านายจะ.....อ่า เอาเถอะ...ช่างมันเถอะ เอาเลย” ไม่มีการกระมิดกระเมี้ยนอะไรอีกต่อไปแล้ว ทั้งคนสารภาพรักและถูกสารภาพรักก็ต่างกอดจูบกันอย่างร้อนแรง  ความรู้สึกแปลกใหม่แล่นเข้ามาหาศูนย์สังการด้วยความรวดเร็วถึงแม้มันจะดูไม่เหมาะสมแต่ร่างสูงก็ยกร่างของอีกคนหนึ่งขึ้นมาแนบอกขณะที่ปากยังคงดึงดูดติดกันอยู่และพาไปที่เตียงโดยไม่ต้องให้ร่างเล็กแนะเลยแม้แต่นิดเดียว

แล้วนั่นก็เป็นคืนแรกที่ทั้งคู่ได้ร้อนแรงกันอย่างไม่น่าเชื่อท่ามกลางหน้าที่การงานที่สมควรจะค้ำคอพวกเค้าอยู่ โดยเฉพาะสป็อค เค้ารู้สึกราวับว่าร่างกายต้องการมีสัมพันธ์ทั้งๆ ที่ยังไม่ใคร่ถึงเวลาของวัลแคน

ท่านพ่อคงจะรู้สึกอย่างนี้นี่เองสินะ

.

.

โอเค นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกทั้งหมดเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าสองคนจึงคบกัน และข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งยานด้วยความรวดเร็วจากคนใกล้ตัวของพวกเค้าเอง  และตอนนี้! จิมมี่ผู้น่ารักและเป็นขวัญใจของพวกเค้ากำลังอยู่ในสภาวะจิตตกอย่างถึงที่สุด  ชายหนุ่มผู้เคยได้กอบกู้โลกและลูกเรือเอาไว้หลายครั้งต่อหลายครั้งไม่รู้แล้วว่าจะทำอย่างไรดี  มีเซ็กซ์มันก็ดีอยู่หรอกแต่หากเป็นอย่างที่อูฮูร่าว่าเค้ามีหวังได้ตายแหงๆ คราวก่อนที่รัวยกกันสี่ชั่วโมงอีกฝ่าหนึ่งดูไม่เหนื่อยเลยด้วยซ้ำมีแต่ร่างเล็กที่หอบฮักและหมดสติไปเมื่อไรก็ไม่รู้ได้

แต่แล้วความรู้สึกที่บอกเตือนว่าต้องซ่อนตัวก็วกกลับมาแนะทางให้แก่กัปตันแห่งยาน Enterprise อีกครั้ง......ใช่ ถ้าไม่อยากเจอหน้าสป็อคก็ไปในที่ๆ เค้าไปไม่ได้สิ  ง่ายจะตาย  ให้ตายสิจิม!

แล้วหลังจากนั้นหกนาที เจมส์ ไทบีเรียส เคิร์ก จึงล็อคขังตัวเองยู่ในห้องส่วนตัวที่สตาร์ฟลีท เนื่องจากต้องมีรายงานตัวในวันพรุ่งนี้จึงยังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ ในเมื่อกลับไม่ได้ก็ขังตัวเองมันเอาไว้อย่างงี้แหละพร้อมกันนั้นด้วยการรับมือที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี  กัปตันแสนเก่งกาจจึงปรับอุณหภูมิห้องให้ลดต่ำลงจนเค้าเองก็ต้องสวมเสื้อเพิ่มถึงสองชั้นด้วยกัน......วัลแคนไม่ชอบอากาศหนาว เพราะฉะนั้นนี้อาจทำให้จิมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง

ดังนั้นร่างเล็กที่หวาดระแวงจนเกือบพูดคนเดียวจึงล้มตัวลงนอนกับเตียงเดี่ยวอันแสนจะคุ้นเคยของสตาร์ฟลีท

“อ่า  ในที่สุดฉันก็ถึงโลกสักที” เค้าโอดก่อนจะแว่วได้ยินเสียงของคอมพิวเตอร์รับคำสั่งของห้อง  ส่งเสียงดัง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ไม่หยุด.....เอ๊ะ จังหวะเปลี่ยนไปแล้ว ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ

อะไรกัน  นี่มัน  ไม่เอาน่า คงจะไม่ใช่หรอก  แต่ รึว่า...

“โดนแฮ็ค!!

พรืดด

เสียงประตูเลื่อนเปิดออกอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับคนที่ซุกหน้าลงกับหมอนจะลุกพรวดขึ้นประจันหน้ากับประตูที่เพิ่งเปิดผ่างออกอย่างรวดเร็ว

“จิม”

สป็อค!” ร่างเล็กกระโดดลงจากเตียง “นายหาฉันเจอได้ยังไง?!” เจ้าตัวทำท่าตั้งรับเตรียมหาช่องเปิด  แต่ทว่าวัลแคนที่สั่งปิดประตูก็ฉวยโอกาสเดินเข้ามาหาก่อนเสียแล้ว ในมือเค้ามีเครื่องแฮ็คระบบเล็กๆ มาด้วย ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับร่างสูงจอมอัจฉริยะคนนี้เลยที่จะเข้าแทรกแซงระบบกิ๊กก๊อกอย่างนี้ได้  แต่ร่างเล็กไม่คิดว่าคนอย่างสป็อคจะลงทุนทำถึงขนาดนี้

“อยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะได้โปรด  สป็อค  เอ้ เดี๋ยวก่อน...” คนโดนย่างสามขุมเข้าไปหากางมือคั้นกลางไว้และส่ายไปมาน้อยๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกก่อนจะโดนคว้าจับไว้ด้วยแรงที่ไม่คิดจะออมของแขกผู้มาเยือน

“คุณพูดเรื่องอะไรกันจิม?” คิ้วของสป็อคชี้ลงมาบรรจบกันและใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์ที่ไม่ปรกติ......ไม่  นี่ไม่ใช่สป็อคที่เคยรู้จักเลย “ผมตามหาคุณมาสี่สิบหกนาทีสามสิบห้าวินาทีหลังจากที่ลงจากยานโดยที่เรายังมีเรื่องค้างคากันให้สะสาง ฉะนั้นผมจึงคิดว่าสมเหตุผลที่ผมต้องถามคุณว่าทำไมคุณจึงจงใจหลบหน้าผม”

ค้างคา?  สะสาง?  วัลแคนเค้าเอาเรื่องนั้นมาเป็นธุระจริงจังตั้งแต่เมื่อไรกัน?จิมเคิร์กหน้าเสียไปมากกับช่วงฟอนฟาที่แปรปรวนของสป็อค

“หา เอ่อ คือฉัน...” ฉันไม่อยากตายเพราะนอนกับนายยังไงล่ะ! จิมไม่ได้กล่าวออกไปแต่ประสบการณ์ของเค้าก็มากพอที่รู้ว่าไม่ควรไปตอแยกับพละกำลังของวัลแคน “คือว่าฉัน...อ๊ะ  เหวออ!

แต่จู่ๆ คนที่มีเหตุมีผลด้วยตรรกะสูงสุดก็ผลักอกที่หายใจหนักเพราะความตื่นเต้นด้วยแรงที่ไม่เบานัก จนร่างเล็กที่กำลังจะแถอย่างแนบเนียนได้เสียหลักหงายหลังล้มลงบนพื้นเตียงอย่างแรง  ก่อนคนที่ฝืนธรรมชาติของร่างกายจะย่างกรายเข้ามาในห้องที่มีอุณหภูมิลดต่ำลงจนเริ่มหายใจได้แสบจมูกและตามมาคร่อมกายเพื่อกักขังร่างที่มีแววตาตื่นตระหนกไม่ให้คิดหนีไปไหนได้  สป็อคไม่เข้าใจเลยทำไมจิมต้องพยายามหนีเค้าด้วย

“ทำไม?” เค้าถาม “ทำไมคุณต้องหลบหน้าผมและพยายามออกห่างจากผมทั้งๆ ที่คุณเองก็น่าจะรู้ดีว่าผมอยู่ในช่วงที่มีพฤติกรรมซึ่งต่างออกไป และมันค่อนข้างสำคัญสำหรับผม  คุณควรเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเพราะคุณเป็นคู่ของผม  คุณไม่รู้สึกถึงมันหรือ?” สป็อคถามเสียงค่อนข้างกระด้างและต่างจากในเวลาปรกติเป็นอย่างมาก  อาจเป็นเพราะด้วยแรงอารมณ์หรือความโกรธจิมก็ไม่ทราบได้ถึงความผิดหูผิดตาไปของสป็อค

“สป็อค” จิมเสียงสั่น  คำพูดและสีหน้าจริงจังของอูฮูร่าแวบขึ้นมาในหัวของเค้า ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปกำแขนเสื้อรั้งร่างด้านบนไว้ไม่ให้พลีพล่ามทำอะไรเสียก่อน “ได้โปรดเถอะ  ฟังฉันก่อน ฉันมีเหตุผลที่ดีที่นายควร...อื้อ

ทันใดนั้นถ้อยคำที่ไม่ว่าจะตะล่อมปลอบหรือบ่ายเบี่ยงใดๆ ก็ถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากคู่อุ่นร้อนที่ตัดกับอุณหภูมิของสป็อคไปแล้ว  หนุ่มวัลแคนไม่ปล่อยให้กัปตันของเค้าได้พูดอะไรอีก เมื่อสมองอันชาญฉลาดที่ถึงแม้จะอยู่ในฤดูเร่าร้อนไม่สงบโดยผิดธรรมชาติ คำนวณขึ้นได้ว่าการปล่อยให้อีกคนหนึ่งพูดรังแต่จะทำให้ช่วงเวลาในรอบหลายปีของเค้าถูกเลื่อนออกไปอย่างน่าเสียดายมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาที

“อื้อ...อืออ” อูฮูร่าบอกว่ามันจะเป็นช่วงเวลามาราธอนที่หนักหน่วง ฉะนั้นต้องรีบถอยห่างไปเสียก่อนที่จะไม่ทันการ  แต่ทว่าลิ้นของวัลแคนก็ช่ำชองใช้งานเก่งไม่แพ้ประสาทสัมผัสที่นิ้วเลยด้วยเช่นกัน  ร่างสูงที่กดกอดอยู่ด้านบนลากลิ้นสั่งสอนความเกเรของคนด้านล่างด้วยการเกี่ยวกระหวัดรัดรึงซึ่งเป็นไปด้วยความรุนแรง เค้าลากไล่ไปตามฟันขาวทีละซี่อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะทำเช่นเดียวกันนั้นกับกระพุ้งแก้มทั้งสอง  จูบของเค้านั้นช่างรุนแรงจนคนด้านล่างต้องเงยหน้าขึ้นตามสมทบ แต่ก็ยังไม่มากพอจึงทำให้มีน้ำลายไหลออกมาจากความบกพร่องนี้เสียได้

สป็อคผละจูบออกมา นับจังหวะหายใจแล้วจู่โจมต่อไม่ยอมปล่อยให้อีกคนหนึ่งได้ขัดอะไรแม้เพียงเล็กน้อย  ก่อนมือคู่ร้อนจะสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อแล้วลูบไล้ เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนเสื้อสามตัวที่ร่างเล็กหยิบมาจากตู้เสื้อถูกถอดออกไปจนเกือบหมด ลิ้นร้อนของวัลแคนจึงมีเพื่อนเล่นใหม่ให้ไปแวะเวียนทักทายด้วย

“อ่าา สป็อคอย่าทำแบบนี้...ฮาา” คนข้างล่างกำแขนเสื้อสีเข้มนั้นเอาไว้แน่  แต่ไม่ประสบผลเท่าที่ควรนักเนื่องจากปฏิกิริยาตอบสนองของอีกคนหนึ่งนั้นเท่ากับศูนย์   สป็อคกดปากดูดเม้มอย่างหนักที่ยอดอกสีหวานชวนเย้ายวนนั่น “โอ้ ได้โปรดเถอะ...อ้าาา” จิมดิ้น รู้สึกสั่นพร่าไปทั้งกาย

“ผมไม่เข้าใจ  คุณจะปฏิเสธไปทำไม ในเมื่อตัวของคุณเองก็แสดงชัดว่าต้องการ” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงก็จับไม่พลาดเป้าไปที่ซิปกางเกงแห่งเดียวของจิม  มันให้ความรู้สึกอุ่นร้อนถึงแม้จะมีเนื้อผ้าเย็นปิดกั้นไว้  แต่บัดนี้ทั้งกางเกงและสิ่งนั้นด้านในกลับมีความร้อนไม่ต่างไปจากฝ่ามือของสป็อคเลย  เลือดของจิมคงกำลังไหลเวียนและอีกไม่นานร่างเล็กก็จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องการเค้ามากแค่ไหน

“ไม่ นายจะทำในห้องนี้...”

“ผมไม่ใคร่ใส่ใจ  ถึงแม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าคุณจะมาที่นี่ผมก็ขอยืนยัน

จิมหายใจทางปาก ตัวเคลื่อนไปเป็นจังหวะเดียวกับสป็อค  ฟันกระต่ายคู่น้อยสีขาวดูสร้างเสน่ห์ให้เจ้าตัวได้เสมอ  ร่างสูงรับประกันข้อนี้ได้เป็นอย่างดี “งั้นเหรอ” ร่างเล็กพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเลื่อนหน้าขึ้นไปจูบกับอีกคนหนึ่งบ้างด้วยแรงอารมณ์

เสียงหอบหายใจที่ดังกระเซ้าไปทั่วห้องและความหนาวเย็นนั้นก็เปรียบเสมือนอันตรธานไปแล้วจนหมดสิ้นเมื่อสองร่างกอด  บดขยี้  และแลกลิ้นกันอยู่บนเตียงที่เสียรูปทรงของความเรียบร้อยไป  ราวกับว่าไม่มีใครจะมาหยุดยั้งพวกเค้าได้อีกแล้วกระทั่งในตอนที่ประตูห้องได้ถูกเปิดออก......

“โอ๊ย คุณพระคุณเจ้าช่วย!!....พวกแกมาทำบ้าอะไรกันที่ห้องฉันวะเนี่ย?!” แมคคอยยื่นขว้างอยู่ที่ปากประตูบานไม่ใหญ่โตในมือของเค้าคือคีย์การ์ดของห้องตัวเอง  และไม่เพียงเท่านั้นด้านหลังของหมอใหญ่ยังมีเด็กหนุ่มจากรัสเซียที่คอยขยุ้มเสื้อทำหน้าตื่นตกใจอยู่ด้านหลังอีกด้วย......ดูท่าเหมือนทั้งสองเพิ่งดึงปากออกจากกันมาหมาดๆ

สป็อคกับจิมเลิกกอดจูบกันแล้ว  ก่อนหันมาลุกขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาด้วยกันเป็นตาเดียว “นายกับเชคอฟคบจริงๆ ใช่ไหมเพื่อน?” กัปตันที่ผมยุ่งเหยิงลดเปลือกตาลงเล็กน้อย เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ยังจำได้ดีอยู่เลยว่าแมคคอยบอกว่าไม่ได้กิ๊กกั๊กกับเชคอฟ  แต่แล้วชายที่ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของห้องก็ทำเสียงฮึดฮัดพลางโบกมืออย่างหัวเสีย

“ช่างเค้าเหอะน่าว่าแต่พวกแกน่ะมาทำบ้าอะไรกันที่นี่หาา?!” แมคคอยโวย  ก่อนจะมองเห็นเสื้อของเพื่อนกัปตันที่หลุดลุ้ยไร้ระเบียบไปเล็กน้อยแต่แค่นั้นก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น  เพราะเหตุนั้นนายแพทย์แห่งยาน Enterprise จึงชักสีหน้าเมื่อยามฟิวด์ขาดแล้วตวาดลั่นอย่างหัวเสีย “โอ้ พระเจ้า  นี่แกกะจะมีเซ็กซ์กันในห้องของฉันกันยังงั้นเหรอ!” พร้อมทั้งควันออกหูกับคนที่กะทำไม่เลือกที่ ซึ่งยังมีหน้ามายืนมองเค้ากับเชคอฟกันอย่างหน้าตายสลอน

“ขอโทษนะ  ไม่ว่าพวกแกจะอยากกันแค่ไหนแต่ฉันก็ให้ไม่ได้จิม...ให้ไม่ได้!  และแก” ร่างสูงของบุรุษแดนใต้ที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความโกรธเกรี้ยวชี้ไปที่หน้าของสป็อค “ไปอาการฟอนฟากำเริบที่อื่นเลยไปไอ้หนูผีหน้าเขียว!......อ่า! อย่างเช่นห้องของพวกแกเป็นไง? เดินออกไปเลี้ยวขาว  สุดทางเดิน  ห้องกัปตันอยู่ตรงนั้น  รึว่าถ้าแกไม่พอใจจะหักซ้ายพามันไปห้องของแกก็ได้นะ ฉันหนับหนุนเต็มที่!  เราไม่ควรไปนอนห้องแฟนเพราะมันจะทำให้ดูหน้าตัวเมีย!

คุณหมอจากไอโอว่าแนะนำ  ก่อนจะหันไปเจอสีหน้าเสียๆ ของเด็กหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นเสริมด้วยเสียงที่อ่อนลงมากจนดูออกว่าลำเอียงว่า “สำหรับนายมันคนละกรณีกันเชคอฟ มาห้องฉันนั่นแหละถูกแล้ว”

“อา นั่นไง  พวกนายคบกันอยู่สินะ” จิมหัวยุ่งเหมือนเพิ่งตื่น แต่พอมีสป็อคอยู่ข้างๆ ความหมายนั้นก็เปลี่ยนไปว่าทำไมเค้าจึงมีสภาพเป็นเช่นนั้น

“ไปตายซะจิม” แมคคอยหันมาแย่งเขี้ยวใส่อีก “แกด้วยไอ้หนูผี  เอาแฟนแกออกไปเลย” ว่าแล้วก็ผลักหลังคนที่ทำให้เตียงของเค้ายับให้ถลาออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว “ทีหน้าทีหลังจะใช้ห้องใครก็ขออนุญาตซะมั่งนะพวกหรือไม่ก็อย่าโผล่หน้ามาอีกเลยแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!” คนที่เกือบเสียห้องให้คู่รักที่เค้าไม่ชอบหน้าทั้งคู่เอ่ยเหน็บแหนมอย่างประชดประชัน  พร้อมทำน้ำเสียงเป็นแกมไม่อยากให้ทั้งสองโผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย

แมคคอยยื่นหน้าออกมาจากกรอบประตู  คิ้วเรียวเข้มของหมอผูกกันเป็นปมแน่นเหมือนนักฆ่าของชาวคลิงออน “ขอบคุณ!” เค้าพูดแล้วกดปิดประตูอย่างแรง ซึ่งถ้าหากเลือกได้แมคคอยคงอยากให้มันเป็นบานประตูแบบลูกบิดมากกว่า เค้าจะได้ใช้มันกระแทกใส่หน้าเพื่อนร่วมยานทั้งสองด้วยความสะใจ  

แต่ก่อนที่ประตูจะเลื่อนปิดจิมและสป็อคเห็นคนที่เรียกตัวเองว่าบุรุษแห่งความสุขุม รอบคอบ  และแถมยังมีความอดทนอดกลั้นเหมาะสมกับการเป็นผู้ใหญ่เกี่ยวคอเด็กหนุ่มที่ยืนทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมด้านหลังเข้ามาจูบราวกับคนขี้โมโหที่ขาดสติไม่มีความอดทนก็ไม่ปาน

บางทีเชคอฟอาจน่าสงสารก็ได้ ใครจะไปรู้  ที่แมคคอยอารมณ์เสียแบบนั้นคงไม่ใช่เพราะเจอจิมกับสป็อคเพียงประการเดียวเป็นแน่  แต่เป็นเพราะดันไปขัดจังหวะต่อเนื่องก่อนถึงเตียงของเจ้าหมอนั่นน่ะสิไม่ว่า......

ทางเดินยังคงมีคนเดินไปมาเพื่อแวะเวียนไปพูดคุยและพักผ่อนในห้องถัดๆ ไป  แต่ร่างของมนุษย์หนึ่งคนและวัลแคนอีกหนึ่งตนนั้นไม่ได้รับความสนใจจากใครเลยทั้งสิ้นแม้แต่น้อย  ทั้งสองมองประตูที่ปิดลงและเสียงอื้ออึงอย่างทรมานของเชคอฟดังหลุดลอดออกมาจากประตูห้อง  ชายหนุ่มผมทองที่เพิ่งถูกไล่ตะเพิดออกมากำหมัดแน่นแต่ไม่ใช่เพราะถูกทำหยาบคายใส่......คุณหมอแมคคอยที่เคารพยิ่งเป็นอย่างนี้อยู่นานแล้ว

แต่ทว่า เจมส์ ไทบีเรียส เคิร์ก กลับหอบหายใจเอาไอร้อนผะผ่าวออกมาอย่างแรงจนเห็นได้ชัด  ร่างเล็กบอกตัวว่าให้ลืมการขัดขืนในตอนแรกของตัวเองเสีย จะอย่างไรสป็อคก็เก่งเสมอ อีกฝ่ายหนึ่งจุดประกายไฟในอกของเค้าได้เสมออยู่แล้ว  ดังนั้นกัปตันเคิร์กจึงเหลือบตามองรองกัปตันของตัวเองด้วยหางตา



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยย!!  นี่มันเป็น Part ของใคร?!  555555  เอาไปแบ่งกันเองล่ะกันเนอะ 555555555 //หัวเราะบ่อย//  ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ  รู้สึกว่าไรท์จะให้หมอโมโหมากเกินไปหน่อย 555555555  แต่มันน่าโมโหไหมล่ะ?! 555555 เกาะอิจิมมัน.......โอ๊ยยยย 5555555 ไม่ไหวแล้ว 55555  ****รีดที่ยังไม่อ่านเนื้อหา Part นี้ห้ามเลื่อนมาอ่าน Talk ช่วงท้ายก่อนนะเออ 5555555  อย่าขี้โกงนะค่ะ >< 55555****

คือจะโทษหมอที่เข้ามาหรือว่าโทษอิจิมที่ไม่เลือกที่ดีเนี่ย 5555555555  อูยยยยย  แล้วน้องน่ะหมอ!!  เอาน้องมายังงี้ไปเปิดตัวบนยานเลยไหม  น่าจะเปิดตัวได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงโลกแล้วนะคะอิจิมโบ้จะได้ไม่เอามาเอ่ยแหนบแหนมแบบนี้ -0-  5555555  คือหน้าตายอ่ะ  ถึงตัวเองจะมีปัญหาติดพันอยู่ก็เถอะแต่ปลีกอารมณ์ออกมากวนเพื่อนได้อย่างยอดเยี่ยม  สมแล้วจริงๆ ที่ก่อกวนอารมณ์สงบในตบะของหมอมาตั้งแต่ตอนเรียน 55555555

แต่รีดว่าเหมือนไรท์ไหมคะ  จิมที่ว่าชอบก่อหวอดให้ระเบิดแตกแล้วก็ยังไม่ทำให้หมอปรี๊ดทันทีที่ได้เห็นหน้าเท่าสป็อคเลยนะค่ะ 5555555  คือป็อคยังไม่ทันพูดอะไรหมอก็ยิงปืนใส่แล้วอ่ะ  ชี้หน้าเลย.....และแก!! 5555  ดูพูดเข้านั่น  เหมือนด่ากิ๊กลูกสาวที่แอบเข้ามาจู้จี้กันในห้องนอนเลยค่ะ 55555  แต่ในกรณีนี้หมอก็อารมณ์เสียนังลูกไม่รักดีเหมือนกันเพราะรู้นิสัยนางจิมโบ้ดี 555555555  ชอบๆๆๆๆ  555555  ชอโมเม้นท์นี้ค่ะ  แล้วที่เอ่ยถึงไม่ได้คือน้องเช....เหมือนหมอจะพาแม่ใหม่ (ที่อายุน้อยกว่าลูก) มาแนะนำให้ลูกรู้จักเลยค่ะ 55555  เอ  รึว่าจะพามาทำความรู้จักกันเป็นการส่วนตัวก่อนจะเจอลูกกันนาาา  สงสัยจะอย่างหลังนี่แหละค่ะ 555555  หมอบ้าๆๆๆๆๆ >< //ทุบรัวๆ//

โอเคเลิกเวิ่น   เอาเป็นว่าผู้ที่เสียหายและน่าสงสารที่สุดคือน้องเชค่ะ 5555555  โฟกัสแค่นี้พอ  ในห้องเค้ามีอะไรกันนั่น //เอาแง้มประตูห้อง//  เอ๋  แง้มไม่ได้หนิเป็นประตูอัตโนมัติ 5555555  ถ้าแง้มได้จะแง้มเผื่อรีดด้วยค่ะ  คริๆๆ

โอ้ ตายแล้ว  หมอลากน้องเข้าห้องไปขยี้แล้ว.....//โอ๊ย ดูมันใช้คำ....ขยี้  น้องจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย -.,-// แล้วสป็อคกับจิมที่ตัดใจไม่ต่อต้านแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ.............Oh god  ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ! ><  //โดนรีดตบ//  55555555  ขอบคุณนะคะสำหรับการเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์  รักรีดๆ ทุกท่านมากเลยนะค้าา  แวะไปอ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่สารบัญฟิคข้างๆ นะคะ >< 

ดิส อิส มาย เฟสสึ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<

ฮักหลายยยยย >////<

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund 



ไม่มีความคิดเห็น: