ปรี๊ดๆๆๆ อร้ายยยย >{}< //แกเป็นอะไร -_-“// Part นี้นี่มันทำให้ไรท์นึกหนังเรื่องไททานิกเลยล่ะค่ะ
>///< รู้สึกดีมากๆ
เลยค่ะที่ได้กลับมาลงสักทีหลังจากที่จบสงครามเย็นกับท่านแม่ไปแล้วเมื่อวาน -_-^
แม่เป็นฝ่ายชนะค่ะ เค้าผิดค่ะแต่เค้าชนะ ฮาาาาา //ไม่ได้ใส่ร้ายนะคะ//
กลับเข้ามาเรื่องของเราดีกว่าค่ะ
^^ ท่านใดที่อยากติดต่อไรท์หรือติดตามฟิคต่างๆ
รวมทั้งคู่นี้(ที่เซอร์วิสเยอะมากกกก) ก็เข้าไปเป็นเพื่อนกับไรท์ได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< จิ้มเลยค่ะ ไรท์ยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ
Part นี้มุ้งมิ้งค่ะ ต้องอ่านเองนะเออ --- อ่าาาา ไรท์นี่ก็ไร้สาระได้ตลอดจริงๆ เลยค่ะ 55555
เอ้า พุ่งไปอ่านกันเลยค่าาาา >{}< !!!
----------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นผู้ชายนะ! ตัวเล็กก็ไม่เห็นเกี่ยวเลยหนิ.........เมสซี่รู้สึกจี๊ดขึ้นมานิดๆ
เมื่อส่วนสูงมีผลกระทบต่อเค้าถึงเพียงนี้
ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ไม่พูดอะไรให้คนอื่นสนใจแล้วเชียวนะ
หัวหน้าเชฟมีอารมณ์ขันหลุดสถานการณ์ไปเล็กน้อย
แต่ท้ายที่สุดแล้วก็พาอารมณ์เดิมของตัวเองกลับเข้ามาในสถานการณ์เดิมได้อย่างแนบเนียน ชายแก่บีบบ่าร่างสูงเบาๆ
“โทษทีนะ.....ถึงฉันจะไม่ค่อยได้ดูฟุตบอล
เพราะชอบคร็อกเก่ย์และการทำอาหารมากกว่าเลยไม่รู้จักพวกเธอ
แต่ฉันก็เชื่อว่าเธอจะทำได้และพาเพื่อนของเธอออกไปได้อย่างปลอดภัย”
ท้ายประโยคเสียงถูกกดให้เบาลงแต่ทว่าหนักแน่น
ชายแก่มากประสบการณ์เคยเจอผู้ชายคนหนึ่งที่มีแววตาแบบเดียวกันกับชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้านี้
ผู้ชายคนนั้นห้าวหาญและทำได้ทุกอย่างโดยไม่กลัวสิ่งใด ทั้งในสิ่งที่เค้ารัก
และสิ่งที่เค้าคิดว่าถูกต้อง
จนกระทั่งวาระสุดท้ายลูกชายของหัวหน้าเชฟก็ทำหน้าที่เพื่อรับใช้ประเทศได้ดีเยี่ยมจนถึงที่สุด
และชายสูงวัยหวังว่าพ่อหนุ่มตรงหน้านี้จะเป็นดั่งเช่นที่ลูกชายเค้าเคยเป็น กล้าหาญ
มาดมั่น ซื่อตรง เช่นลูกของเค้า...........แววตาของโรนัลโด้ทำให้เค้ารู้สึกคิดถึงลูกชาย
“ฉันไม่รู้จักเธอ
แต่ก็เชื่อว่าเธอมีความตั้งใจมากพอที่จะทำมันได้สำเร็จ.....สายตาเธอมันบอกอย่างนั้น”
ชายแก่อาวุโสแต่ทว่าท่าทางแข็งแรงยิ้มให้โรนัลโด้เป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนเค้าจะพยักหน้ารับแล้วพาลีโอออกไปทางประตูหลังดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
ประตูเล็กมาก คงเป็นทางออกฉุกเฉินจริงๆ
และไม่ต้องการสร้างให้เกะกะพื้นที่ในครัว โรนัลโด้แตะลังเปล่าที่กองพะเนินกันอยู่ให้กระเด็นออกจากประตูแล้วกระชากลูกบิดออก
เค้าโผล่หัวออกไปดูด้านนอกแล้วให้เมสซี่ออกไปก่อน เมสซี่เกาะขอบประตูอย่างกล้าๆ กลัวๆ
แล้วมุดออกไป
ถึงตาร่างสูงบ้างแล้ว
เมสซี่รออยู่ด้านนอกเกาะราวเหล็กแน่นและหลังติดผนัง ดวงตากลมโตเอาแต่เหลือบมองกลับไปทางประตูรอการปรากฏตัวของร่างสูงอย่างใจจดใจจ่อ มือคู่เล็กชื่นเหงื่อ
.........ให้ตาย
ถึงนี่จะเป็นชั้นสองแต่มันก็ยังสูงสำหรบเค้าอีกอยู่ดีนั่นแหละ.........
โรนัลโด้ที่กำลังมุดเข้าประตูไปก็ดันเหลือบไปเห็นพายน่าทานวางไว้อยู่บนโต๊ะพักอาหารพอดี
บนพายมีบางสิ่งที่เค้าเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก
ที่เห็นของสองอย่างนี้อยู่ด้วยกัน
โรนัลโด้จุปากอย่างขัดใจ
“ไม่...ไม่ๆๆๆๆ ไม่เอาไอติมวางบนพาย....อย่าเอาไอติมวางบนพายนะได้โปรด กินแล้วขาอ่อนกันนะทุกคน” เค้าชี้ไปที่พายซึ่งมีไอศครีมวนิลาน่าทานละลายเยิ้มอยู่บนพาย
และชี้ไปหาทุกคนเหมือนราวกับเค้าจะถามว่าทุกคนเข้าใจไหม?
และทุกคนเข้าใจ พวกเค้าพากันพยักหน้าอย่างงงๆ
เมื่อยอดนักเตะในดวงใจของพวกเค้าถามคำถาม
“เยี่ยมเลย”
โรนัลโด้ยกยิ้มแล้วชูนิ้วโป้งให้ทุกคน ก่อนจะผละตัวออกไปนอกประตูบานเล็กพร้อมกับใจที่ล่องลอยไปของสาวๆ
ในห้องนั้นทั้งหมด
ก็พระเจ้า เค้าสุดฮอต!
และทันทีที่ประตูถูกกระแทกกลับมา
ห้องครัวก็กลับสู่ความสงบอีกครั้งแต่ปราศจากการทำอาหารใดๆ ทั้งสิ้น
ชายคนหนึ่งหัวโขกกับตู้เก็บของแล้ววิ่งหน้าตั้งมาหาหัวหน้าเชฟ
“คุณแม็คดอว์ฟินด์ คุณจะรีบไล่เค้าไปทำไม
ผมยังไม่ได้ขอลายเซ็นเค้าเลย” หนุ่มคนนั้นโวย
ดูไร้มารยาทเมื่อแทบกับมาตรฐานของหัวหน้าเชฟ
แต่ชายแก่แข็งแรงเมินความคิดนั้นซะก่อนจะเอามือไพ่หลังแล้วถามเสียงเรียบ
“นายเป็นคนคิดวางไอติมบนพายใช่ไหมแอนโทนี่”
เชฟชาวสเปนคนนั้นพยักหน้า
“ฉันไล่นายออก”
ชายแก่ประหยัดคำ แต่แอนโทนี่ใจสลาย
หัวหน้าเชฟดูโล่งอกที่ได้พูดออกไปเสียที
เค้าอยากจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
ราวกับหาเรื่องร้ายแรงที่ไล่ลูกมือคนนี้ออกไปไม่ได้
แต่พ่อหนุ่มนักเตะหุ่นล้ำคนนั้นก็ชี้ทางสวรรค์ให้แก่เค้าได้เสียที
เพราะหัวหน้าเชฟเคยบอกแอนโทนี่หลายครั้งแล้วว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเชฟ น่าจะไปเป็นรปภ. ที่โรงจอดรถมากกว่า
ตอนนี้เค้าก็รับสมัครอยู่
ด้วยฝีมือการทำอาหารที่ห่วยแตกและความคิดสร้างสรรค์บนจานอาหารเหมือนเด็กอายุสามขวบของเค้า
ทำให้หัวหน้าเชฟเตือนด้วยความเวทนา
แต่แอนโทนี่ไม่ฟัง
วันนี้หัวหน้าเชฟก็เลยจัดให้แบบเต็มรัก จนหนุ่มสเปนสำลักเลยพูดอะไรไม่ออก
เว้นซะแต่ทำหน้าเจ็บปวดใจ
*********************************************************************
“คุณห้ามกินไอติมกับพายเหรอ!” ร่างเล็กตะโกนอีกแล้ว
ทันทีที่ร่างสูงโผล่ออกมาได้เสียที
เสียงดังๆ
ของโรนัลโด้ดังลอดช่องประตูออกมาหาเค้าเมื่อตอนที่ร่างสูงบอกห้ามทุกคนกินพายกับไอศกรีม
“ใช่” ร่างสูงตอบไปแต่โดยดี
“แต่ผมเคยกินที่สเปนนะ
มันอร่อยมากเลย และผมก็ชอบมันมาก!”
“โอ้ โทษที
แต่คุณไม่ควรจะกินมันพร้อมกันนะ ถ้าจะกิน คุณต้องกินมันทีละอย่าง......ให้ตาย
เราพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย!......เฮ้นี่
คุณตะโกนใส่ผมอีกแล้วนะ” โรนัลโด้พูดแต่ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิอีกคน
เมสซี่เห็นด้วยว่าเค้าเสียงดังใส่แล้วทำหน้าหงอย
“ผมขอโทษ! ผมแค่
ผมแค่กำลังกลัว!” ร่างเล็กสารภาพแต่ก็ยังคงตะโกนต่อไป
เพราะเค้าไม่สามารถสงบสติตัวเองได้เลย
หากยังยืนอยู่บนโครงสร้างเหล็กที่สูงจากพื้นเกือบยี่สิบเมตร........โรคกลัวความสูงของเค้ากำเริบอีกแล้ว
“ผมไม่ชอบแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ”
ร่างเล็กพึมพำกับตัวเอง
และพบว่าเค้าไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้มองลงไปได้เลย โรนัลโด้เดินเข้ามาหาเค้า
“ไม่
ลีโอ...คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอก
ผมไม่ได้โทษคุณ ผมกำลังเป็นห่วงคุณต่างหาก”
แต่ร่างเล็กไม่ได้ฟัง สายตาของเค้ากำลังดิ่งลงชั้นล่าง ร่างสูงรีบก้าวยาวๆ ตรงเข้าไปจับแขนเล็กๆ
อันสั่นเทาที่เกาะราวเหล็กของอีกคนหนึ่งทันที
ร่างสูงออกแรงเขย่าเบาๆ อย่างต้องการเรียกสติ
“ไม่ ลีโอ....ไม่เอา คุณห้ามมองลงไปข้างล่าง มองมาที่ผมสิ มองมาที่ผม” เค้าพูด
และก็เป็นอีกครั้งที่ร่างเล็กแสนฉลาดทำตามคำบอกของร่างสูงอย่างว่าง่าย
เสียงโรนัลโด้ฟังดูอ่อนโยนและหาที่ติไม่ได้ เมสซี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเสียงหวีดหวิวของลมพัดเข้ามาในหูของเค้า แต่โรนัลโด้ตรึงสายตากลมโตไร้เดียงสานั้นไว้
“เราจะลงไปด้วยกัน โอเคไหม?”
ร่างสูงพยักหน้าถามร่างเล็กหวังจะให้คล้อยตามไปด้วย
และชายโปรตุเกตุพยายามยิ้มเพื่อปลอบใจอีกคนหนึ่ง บอกว่ามันจะไม่เป็นไร เมสซี่มองลึกเข้าไปในตาคมคู่นั้นแล้วพยักหน้าตาม
เค้าพยายามแล้วให้มันดูหนักแน่นอย่างโรนัลโด้บ้าง
แต่มันก็ยังคงดูไม่เหมือนเท่าไหร่เลย
“เอ่อ แต่มีอีกอย่างที่ผมยังไม่ได้บอกคุณนะ คือ
ผม......ผมกลัวความสูง” ร่างเล็กตัดสินใจสารภาพ
........และไม่ได้พ้นการคาดเดาของร่างสูงเลย.........
“อ๋อ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายนี่นา ใครๆ
ก็กลัวความสูงกันได้ทั้งนั้นแหละ.......คุณแค่ต้องเชื่อใจผม เชื่อใจผมไหม?”
เมสซี่พยักหน้า
“โอเค เยี่ยมไปเลยลีโอ คุณทำได้ แค่อย่ามองลงไปข้างล่าง โอเคนะ”
ลมแรงพัดเข้ามาหาพวกเค้าทั้งสองจนเรือนผมของร่างเล็กปลิวและลู่ไปมา
เสื้อนอกสีเดียวกันแต่ต่างสไตล์ปลิวไปตามลมแต่ไม่ได้กระพือแรง
ราวกับว่ามันลอยไร้แรงโน้มถ่วงอยู่รอบตัวของพวกเค้าทั้งสอง
และสายลมพัดพาเอาความเย็นเยียบมาด้วย
มือเล็กเกาะราวเหล็กแน่นและแรงลมทำให้ต้องออกแรงกำแน่นขึ้น โรนัลโด้แกะมือเล็กๆ นั่นออกมาจากราวจับ
แล้ววางมันลงบนฝ่ามือของเค้าแทน
“ถ้าคุณกลัว เราจะเดินไปด้วยกัน ดีไหม?” โรนัลโด้ถาม
และเมสซี่เห็นด้วย
“อะ เอาสิ”
ร่างเล็กพูดตะกุกตะกัก
มือทั้งสองของเค้าวางอยู่บนมือทั้งสองของโรนัลโด้
แล้วจากนั้นมือแกร่งที่จับเค้าอย่างไม่นึกรังเกียจก็ยกขึ้นข้างหนึ่งแล้วจัดการให้เค้าหมุนตัวไปอยู่ข้างหน้าเจ้าตัวเสียอย่างนั้น
.............เหมือนเต้นรำยังไงยังงั้นเลย............
หากเป็นเวลาปรกติ
เมสซี่คงหน้าแดงไปแล้ว
แต่ตอนนี้ความกลัวของเค้ากำลังกัดกินหัวใจ.........
............และชายที่ซ้อนตัวอยู่ด้านหลังก็กำลังจะขจัดมันออกไปจากใจเค้าจนหมดสิ้น
ร่างสูงแกร่งเคลื่อนกายเข้ามาใกล้อีก
แล้วแนบชิดกับแผ่นหลังเล็กๆ นั้นอย่างแผ่วเบา
เมสซี่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แล่นเข้ามาทางด้านหลังของเค้า แขนของเค้าถูกกางออกน้อยๆ ด้วยการชักนำของร่างสูงที่อยู่ทางด้านหลัง สายลมปะทะเข้าหน้า เมสซี่ผินหน้าหนีเพราะความเย็นที่เค้าไม่ชอบ แต่ก็รู้ว่าคงหนีมันไม่ได้จึงปล่อยไป
เส้นไหมสีเข้มที่ไม่ได้ใส่เจลจัดแต่งทรงผมลู่ลมไปมาช้าๆ
เมสซี่หลับตา แล้วค่อยๆ หายใจเข้าลึกๆ
ซึมซับสายลมที่หอบเอากลิ่นอายของน้ำทะเลอ่อนๆ มาด้วย ตามคำกล่าวของร่างสูงที่กระซิบพริ้มอยู่ข้างหลังราวกับภูติพราย
โรนัลโด้กระซิบบอกว่าลมที่นี่พากลิ่นเค็มๆ
จากทะเลขึ้นมาให้เรา
และเราควรจะรับมันเข้าไป
เมสซี่สูดเข้าไปจนเต็มปอด
และรู้สึกสดชื่นขึ้นจากกลิ่นอายของทะเลจริงๆ
จากฝ่ามือที่เคยเย็นชืดของเค้า เมสซี่รู้สึกได้เลยว่า ในตอนนี้ตัวของเค้ากลับรู้สึกถึงกระแสเลือดที่สูบฉีดและกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง.......แต่บางทีมันก็ทำให้รู้สึกว่าร้อนมากเกินไปหน่อย
ร่างเล็กกลืนน้ำลายลงคอ
และหายใจเข้าไปอีกอย่างรีบร้อน
เมื่อเค้าสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่หนักหน่วง แต่นั้นไม่ใช่ของเค้า..............
..............กลับเป็นของอีกคนหนึ่งซึ่งประกบกายอยู่ด้านหลัง
มันหนักหน่วงและชัดเจน แต่เป็นจังหวะ
ไม่เต้นเป็นส่ำเหมือนกลอง
ความเงียบเกิดขึ้นในช่วงนาทีนั้น.......ไม่มีใครพูดอะไรเลย........ร่างเล็กจึงเงียบ และหัวใจเต้นแรงตามร่างสูง
.
.
.
TBC.
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮ้ายยยยยยย เฮียขาาา
อยากจะแนบชิดกับเหมียวก็บอกกันดีๆ สิคะ >< !! ฮิๆ เหมือนหาข้ออ้างเลย แต่ม่ายช่ายยยย ม่ายช่ายอย่างนั้นเลย เฮียแค่ต้องประกบตามติดเหมียวแบบใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวเท่านั้นเองค่ะ ต้องแบบว่าก้าวต่อก้าว ลมหายใจรดต่อกันอะไรประมาณนั้น >////<
อร้ายยย ละมุนได้อีกค่ะ >///< !!!
รีดๆ ลองนึกภาพตามนะคะ
เฮียที่ตัวสูงๆ ก้มลงมากระซิบข้างหูเหมียวว่า บลาๆๆๆ ยังงั้นยังงู้น อร้ายยยย สุดยอดเลยค่ะ
ไรท์นี่นั่งฟินจนตาเยิ้มเลยค่ะ เค้าเหมือนมีโลกส่วนตัวกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
555555+
Part
ต่อไปคงจะตามมาเร็วๆ นี้ค่ะ
//กระซิบ.....ไรท์ชอบหนังเรื่อง Kingsman มากเลยค่ะ.....แล้วจากไปอย่างสงบ// รักรีดทุกท่านไม่เคยเสื่อมคลายนะเออ
-3- //เหมือนจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง 555*//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund