ภาพนี้พยายามอย่างที่สุดให้มันสว่าง....ไปๆ
มาๆ ภาพแตก ปู้ดดด!! พยายามให้ออกมาดูดีสุดชีวิตเลยค่ะ ผิดจาก Part ที่แล้วเหมือนโฆษณาตกแต่งภายใน
55555 งั้นโฟกัสที่ร่างแปลงของฮอรัสก็แล้วกันนะคะ อิๆๆๆ อู่วว แต่ดูเล่อค่ามากเลยค่ะแล้วยิ่งอุ้มเบคยิ่งฟินค่ะ! >//< กรี๊ดดดดด
สวัสดีค่ะรีดๆ ทุกท่านขาาา
>{}< !!! ไรท์มารายงานตัวแล้วค่ะ 55555
มาต่อแล้ววว กับ Part ที่แล้วหลังเบคโดนทำให้เป็นของฮอรัส (อิกอิ๋วว >< 5555) + //โดนลอบฆ่า// รีดๆ
หลายท่านก็เกิดคำถามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป.....เบคบอบช่ำขนาดนั้น จะต้องดราม่าแน่ๆ
เลย T^T ฮือๆๆ
ซึ่งเรื่องที่ผ่านๆ มาในตอนที่พระเอกขืนใจนายเอกของเราแล้วหลังจากนั้นก็จะเกิดคำพูดฮิตติดปากที่ว่า
“แค่อารมณ์ชั่ววูบ” ออกมาและนายเอกของเราก็จะผวาหวาดพระเอกจัดเลยค่ะ ก่อนเรื่องราวอันแสนจะดราม่า
นายเอกหลบหน้าพระเอก ร้องไห้ผลักไส้ เข้าใกล้ไมได้ตัวสั่นหงึกๆ
เหมือนเห็นผี.........อันนั้นเราจะเห็นในเรื่องที่ผ่านๆ มาในบล็อกนี้นะคะ (5555 แอบหัวเราะ....ชอบมาลงที่อีหรอบนี้)
ใช่ค่ะ หลังจากที่พระอกข่มขืนร่างกายและทำร้ายทั้งจิตใจของนายเอกเราแล้วมันก็ล้วนแต่จะเป็นอย่างนั้นค่ะ
แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้นั้นจะเป็นเยี่ยงนั้นไหม รีดๆ ต้องไปหาคำตอบกันค่ะ ^^
เอ้า พายุทรายมาแล้วค่ะ! กระโดดเข้าพายุทรายไปเล้ยย!!
>{}< //เฮ้ยย
ไม่ใช่และ// 55555 เกาะลมไปตามดูทั้งสองคนได้เลยค่าาา ><
------------------------------------------------------------------------------------------
หากไร้อโนซิส ก็ไร้นางกำนันมายุ่งย่าม.......
รุ่งเช้ามาเยือนผ่านไปจนกระทั่งเทพราลากดวงอาทิตย์มาจ่อตรงศีรษะของทุกๆ
คนในเวลาเที่ยงวัน หลานชายของพระองค์ถึงได้สูดหายใจเข้าลึกเสียจนสุดปอดเมื่อร่างเล็กๆ
บนที่นอนของตัวเองนั้นขยับแพขนตาระริกและครางอื้ออึงเช่นคนที่เพิ่งตื่นนอน
อา เบคตื่นแล้ว...
ฮอรัสนั่งอยู่ปลายแท่นบรรทม
เค้าดูผ่อนคลายแต่จริงๆ แล้วไม่เลย โอรสแห่งโอซิริสเตรียมตัวรับแรงกระแทกจากความเกรี้ยวโกรธและหวาดผวาของเบคเต็มที่
แน่นอนล่ะ เบคตัวสั่นกอดตัวเองแล้วห่อหุ้มด้วยผ้าแพรเนื้อหนาที่ฮอรัสห่มให้ทันทีที่เห็นหน้าเค้า
ฮอรัสอยากเอ่ยขอโทษแต่โดนอีกคนตัดบทด้วยการทำตัวสั่นหงึกๆ
แล้วเอาแต่เขยิบตัวหนีเสียอย่างนั้น เบคพร่ำพูดแต่ว่า
“ห้าปีที่หายไปมันทำให้ท่านสมองกลับไปถึงขนาดนี้เชียวหรือ?!” แล้วก็กอดตัวเองแน่นโดยไม่ยอมหยุดร้องไห้เสียที......เอาเถิด
ถึงจะอย่างไรก็โทษเจ้าตัวไม่ได้ เบคไม่ใช่คนที่บ่นไม่ได้นี่
ร้องไห้และไม่พอใจ นั่นเป็นสิ่งที่ฮอรัสคาดไว้อยู่แล้ว หากทว่าหลังจากที่เบคพูดประโยคนั้นและสะอื้นฮักอยู่นานก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีกนอกจากบอกว่าอยากกลับไปที่ของตน ยอมรับว่าฮอรัสลำบากใจและอึดอัดอยู่ไม่น้อยที่เป็นเช่นนั้น หากเบคจะโวยวายเสียดังลั่นหรือขู่ฟ่อราวกับลูกแมวก็ไม่ได้แปลกอะไรเลยเมื่อเทียบกับการปิดปากเงียบแล้วบอกว่าอยากออกไปจากที่นี่
......พูดกับข้าสิเบค พูดอะไรก็ได้อย่างที่เจ้าอยากพูด จะทุบตีข้าก็ได้หรือบ่นว่าเสียๆ หายๆ
อย่างที่เจ้าอยากทำ พูดอะไรสักอย่างเถอะเบคได้โปรด ข้าอยากที่จะฟังมัน......
ฮอรัสคิดว่าเป็นการไม่ดีเลยที่เบคเงียบปากเงียบคำไปแบบนี้ ไม่ใช่ว่าโดนเกลียดเข้าอย่างไม่มีวันอภัยให้ไปเสียแล้วหรือ? เทพร่างสูงแอบถอนหายใจเงียบใส่ตัวเอง มองเห็นความพยายามที่ใกล้เคียงกับคำว่าลุกขึ้นกลับห้องด้วยตัวเองของเบคอย่างระทมใจ ก่อนจะเข้าไปช่วยเช่นทุกครั้งที่เจ้ามนุษย์นี่ชอบทำเรื่องเกินตัว และเช่นเคยเบคขัดขืนไม่ยอมในคราแรกแต่ยังไม่ทันขาดคำก็เข่าอ่อนจนเกือบทรุดลงกับพื้นเมื่อมีของเหลวไหลออกมาจากช่องทางที่เจ็บหนักของตนเอง
เป็นของฮอรัสเองไม่ต้องสงสัย สีหน้าไม่สู้ดีนักของสหายตัวน้อยยิ่งทำให้จ้าวแห่งนภาคิดไม่ตกกับความหุนหันพลันแล่นของตัวเองเมื่อคืนนี้ และเป็นไปอย่างเสียไม่ได้เลย ร่างสูงต้องช้อนร่างเล็กที่สะดุดขึ้นสุดตัวขึ้นมาแนบอกแล้วพาเด็กหนุ่มเดินลงไปยังบ่อน้ำใสสะอาดซึ่งอยู่กลางห้อง เด็กหนุ่มไม่ยอม ขัดขืนแม้จะไม่มีทางเลือกให้ทำมากนักแต่ท้ายที่สุดฮอรัสก็อุ้มเบคลงน้ำไปทั้งอย่างนั้นและอาบน้ำกันเสียเดี๋ยวนั้นตามคำยืนกรานของเจ้าของห้อง
หลังจากขึ้นมาแล้วจึงใช้ผ้าเนื้อดีที่สั่งให้นางกำนันนำมาให้เช็ดทำความสะอาเนื้อตัวท่ามกลางความไม่ยินยอมพร้อมใจอย่างถึงที่สุดของเบคอีกเช่นเคย แต่เชื่อเถอะ
เด็กหนุ่มไม่เคยชนะฮอรัสได้เลยสักครั้ง
“มะ ไม่เอา อย่าทำ” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนขอบเตียงกล่าวเตือนก่อนจะดันมือใหญ่ของอีกคนหนึ่งให้พ้นออกไปจากหว่างขา
ฮอรัสที่ถือผ้าเนื้อดีอยู่จึงชะงักพร้อมทำสีหน้าติดไม่พอใจ
“ถ้าข้าไม่ทำแล้วใครจะทำ” เค้าว่า
“ข้าทำเองได้น่า” อีกคนหนึ่งที่ลำพังจะยืนก็ยังตัวสั่นหงึกๆ
ทำปากกล้า แล้วหุบขาตัวเองเอาไว้แน่น
“เจ้าน่ะเหรอ?” ฮอรัสเลิกคิ้ว “ไม่เอาน่าเจ้าก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีที่จะปฏิเสธข้า”
ร่างสูงถอนหายใจและจำยอมต้องเป็นฝ่ายอ้อนวอนในที่สุด “ข้ารู้ข้าทำผิด แต่อย่างน้อยก็อย่าเพิ่งผลักไส้ข้าในตอนนี้เลยเบค...เจ้ายืนยังไม่ไหวเลยด้วยซ้ำ เลิกดื้อเสียที”
เด็กหนุ่มทำหน้ายู่เมื่ออยากจะเถียงกลับไปแต่ทำไม่ออก จึงได้แต่ยอมกัดริมฝีปากและยอมให้ฮอรัสทำตามใจของตนเองอย่างระแวดระวัง เบคสะดุ้งทุกครั้งที่ปลายผ้านิ่มฟูนั้นสัมผัสผ่านเนื้อนุ่มอันบอบบางใต้ตัวของตน จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าตัวเผลอขยุ้มแขนของสหายเข้าอย่างแรงเพราะความรู้สึกอ่อนไหว ทั้งสองคนยังคงต่อสู้กันต่อไปอย่างเงียบๆ
หลังจากที่เกิดเรื่องเลวร้ายเมื่อคืนนี้แล้วเบคก็ยังคงทำตัวเป็นปรปักษ์ไม่ต่างจากช่วงเวลาก่อนหน้านี้เลย แต่มีหรือฮอรัสจะยอมปล่อยไปได้
เทพร่างสูงที่วาทะเหนือกว่าเฉกเช่นคนที่อยู่มานานกว่าสู้รบปรบมือกับคำบ่ายเบี่ยงและหลีกหนีของเด็กหนุ่มได้อย่างไหลลื่น
ไม่ยอมแม้แต่ครั้งเดียวที่จะปล่อยให้เบคทำตัวเอาแต่ใจแล้วหนีเค้าไปอีกทั้งๆ
ที่ไม่สนใจตัวเอง
“แล้วทีนี้ยังไง?” เบคถามแกมประชดประชันตาใส
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จและเถียงกันเสร็จไปอีกรอบหนึ่งแล้วร่างเล็กก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ได้พูดจากวนใจเทพจอมเผด็จการน้อยลงเลย และยังคงหวังอยู่ลึกๆ ให้อีกคนหนึ่งยอมปล่อยเจ้าตัวไปเสียที อยู่ต่อหน้าฮอรัสแล้วเด็กหนุ่มรู้สึกกระอักกระอวนเป็นอย่างมาก
......เป็นเรื่องแปลกที่เบคยังคงต่อปากต่อคำกับฮอรัสได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ไม่ยอมแพ้อย่างผู้ที่โตแล้วและเหนือสิ่งอื่นใด
ร่างเล็กไม่ได้ร้องไห้ปัดป้องการแตะต้องจากเทพร่างสูงอย่างที่ควรจะเป็นเลยสักนิด......
“ก็ไปส่งเจ้าไง” ฮอรัสตอบ ทำเป็นไม่สนใจถึงเสียงประชดประชันตาใสนั่นเช่นกัน ถึงแม้เบคจะพยายามทำตัวให้เป็นปรกติมากแค่ไหน
แต่ถึงอย่างไรมันก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเมื่อคืนทั้งสองมีสัมพันธ์ทางกายกันไม่ได้......มันคงดีกว่าถ้าเบครักเค้าและกอดกระหวัดกันดั่งเช่นเมื่อคืนนี้ด้วยความต้องการอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะถูกบังคับอย่างทารุณ และถึงแม้จะยอมรับเต็มปากว่าเกลียดตัวเองที่ขืนใจเบคแต่ฮอรัสก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่ได้เคลื่อนกายอยู่เหนือร่างที่บิดเร้าของอีกฝ่าย
“ยังไง? พาข้าเดินไปตามทางที่ผู้คนเอาแต่ถามคำถามว่าเมื่อคืนท่านหายไปไหนเต็มไปหมดน่ะเหรอ?”
เบคยักไหล่ ความพยายามไม่คิดเรื่องนั้นยังคงทำได้ไม่ดีนัก
ก่อนชายร่างสูงกว่าคนทั่วไปที่สวมฉลองพระองค์สีทองจะเดินออกห่างจากเบคไปทางระเบียงใหญ่เปิดโล่งให้เห็นอนุสรณ์แห่งโอซิริสแล้วประสานมือไขว่ที่กลางหน้าอก ย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนแสงสีทองจะไหลเวียนเป็นกระแสอยู่รอบตัวเค้า แล้วร่างกายเฉกเช่นมนุษย์นั้นก็แปรเปลี่ยนไปเป็นฐานันดรเก่าที่แท้จริงของเพแห่งนภา
เบคเบิกดวงตากลมโตมองแสงสว่างวาบจากร่างของฮอรัสด้วยความสนใจยิ่ง จะกี่ครั้งกี่ครั้งก็ไม่เคยตื่นเต้นน้อยลงเลยกับการแปลงร่างของพวกเทพเจ้า ริมฝีปากของเด็กหนุ่มเผยอและในใจเค้าก็ร้อง ว้าว
ออกมา
จ้าวแห่งท้องนภาที่อยู่ในร่างสมฉายาของตนเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มก่อนจะช้อนตัวมนุษย์ตัวน้อยขึ้นมาอย่างนุ่มนวลที่สุดผิดจากคำพูดที่ดูเป็นปรกติเมื่อครู่นี้อย่างเห็นได้ชัดจนเบคอดที่จะกลั้นลมหายใจและเกร็งตัวไม่ได้เลย ก็หลายคราแล้วที่ต้องอยู่ในอ้อมแขนใหญ่นี้ในเหตุการณ์คับขันต่างๆแต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ใจเต้นระส่ำอย่างแปลกประหลาดเสียจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างอย่างนี้ล่ะ
บ้าจริง หยุดเดี๋ยวนี้นะ เจ้ากำลังทำให้เค้าได้หัวเราะเจ้ามากกว่าเดิมจากความซื่อบื่อของเจ้าเบค!......เด็กหนุ่มดุตัวเอง
เพราะไม่อยากทำตัวซื่อบื่อในสายตาของฮฮรัส
โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าเมื่อก่อนเจ้าตัวไม่เคยกังวลกับเรื่องพรรณนี้
“เจ้าพร้อมหรือยัง?” ร่างสูงในร่างครึ่งพญาเหยี่ยวถาม
“ท่านแน่ใจหรือว่าเราจะบินไป”
“ใช่ ทำไม?
เจ้าคงไม่อยากเดินไปตามทางที่ผู้คนถามข้าว่าเมื่อคืนหายไปไหนมาโดยที่มีเจ้าอยู่ในอ้อมกอดของข้าหรอกใช่ไหม?”
ในร่างนี้ดูออกยากมากเมื่อฮอรัสยิ้ม ส่วนเบคนั้นถลึงตากลับมา
“โอเค เจ้าจะเดินกระเผกอยู่ข้างข้าก็ได้นะ แต่เบค...เจ้าจะไม่คิดเลยหรือว่าพวกเค้าจะไม่ถามน่ะ?”
“ขอบคุณ บินไปเถอะ” เด็กหนุ่มฝืนกล้ามเนื้อที่ใบหน้าให้ยิ้มน้อยๆ
แต่ก็ยังคงขึงตาใส่เทพหนุ่มจอมกวนอยู่ดี
เบคกอดอกแล้วกระซิบกับตัวเองขณะฮอรัสออกบิน “ไอ้เทพบ้า” เค้ากัดฟันกรอดโดยที่ไม่คิดเลยว่าเทพบ้าองค์นั้นก็ได้ยิน
เสียงแหวกอากาศและตีวายุพยุงตัวนั้นส่งเสียงดังชวนน่าหวั่นเกรง
แต่ความรู้สึกยามเมื่อพุ่งลงพื้นนั้นทำให้นึกถึงเวลาตายเป็นอย่างยิ่ง เบคที่ขยำเสื้อของตัวเองอยู่นั้นก็สะดุ้งตวัดแขนโอบรอบคอสีทองคำของเทพที่พาเค้ามาตายนั้นทันที มนุษย์น้อยแว่วได้ยินเสียงมีคนหัวเราะ
“นี่ท่านคิดจะฆ่ากันเรอะ! จะแกล้งให้ข้าตายอีกรอบใช่ม้ายย?!” เบคตะโกนแข่งกันเสียงลมจากความเร็วที่ฮอรัสพาทั้งสองแหวกอากาศไปยังปีกวังด้านทิศใต้ ผมสีน้ำตาลประกายทองเปลี่ยนเป็นสีทองเมื่อถูกอาบด้วยแสงอาทิตย์อันร้อนแรง เบื้องล่างถัดลงไปคือลานกว้างด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ทหารมากมายใช้ซ้อมกองรบและดูเหมือนวันนี้จะเป็นการซ้อมใหญ่เสียด้วย
ปีกกว้างบินโฉบฉวัดเฉวียนผ่านเสาโอเบลิกค์หลายต้นได้อย่างคล่องแคล่วราวกับเคยทำมันมาก่อนหน้าตั้งแต่จำความได้
ก่อนจะลดระดับลงแล้วร่อนไปตามกระแสลมในยามเที่ยงเมื่อลับสายตาของผู้คนที่จะสอดส่องมองเห็นได้
เบคยังคงกอดคอฮอรัสแน่น และการบินเร็วทำให้น้ำตาไหลเด็กหนุ่มจึงหลับตาเอาไว้ไม่ให้ลมหวีดหวิวนั้นบาดเชือนดวงตา เมื่อจ้าวแห่งนภากระพือปีกทรงตัวอีกคราหนึ่งอย่างแผ่วเบานั่นแหละ
เจ้าตัวจึงได้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาและพบว่าตนเองรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่บนอากาศได้อย่างน่าประหลาด
เทพผู้มีรูปลักษณ์เป็นพญาเหยี่ยวตัวใหญ่ร่อนเหินไปตามกระแสลมต่ำอย่างนิ่มนวล
จะมีเพียงแค่การกระพือปีกเพื่อรักษาระดับนานๆ ครั้งเท่านั้นที่ทำให้ร่างของทั้งคู่ขยับขึ้นลง ไม่มีใครพูดอะไร
นั่นจึงทำให้เด็กหนุ่มกลับมารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นดังของตัวเองอีกครั้ง เด็กหนุ่มใช้มือกุมมันไว้
กดแน่นเสียจนเจ็บหน้าอกเพื่อหวังไม่ให้ฮอรัสได้ยินมัน แต่ไฉนเลยเทพผู้มีสัญลักษณ์เป็นเหี่ยวผู้แข็งแกร่งจะไม่รับรู้ถึงมันได้
......ฮอรัสอยากจะมั่นใจเหลือเกินว่าเบครักเค้า เช่นเดียวกับที่เค้าเองนั้นคิดถึงเบคอยู่อย่างสุดหัวใจ......
สองบุรุษปิดปากเงียบจนกระทั่งมาถึงห้องของเบคในที่สุด ร่างสูงใหญ่เป็นสามเท่าของคนทั่วไปวางเท้าที่ระเบียงชมทิวทัศน์ เค้ากระพือปีกครั้งหนึ่งให้ผ้าม่านสีนวลสวยปลิวสะบัดร่นแหวกไปด้านข้างให้พ้นทาง ก่อนจะเดินไปที่เตียงผ้าฝ้ายดูน่านอนของเบคแล้ววางร่างเด็กหนุ่มลงอย่างเบามือที่สุดเช่นเดียวกับคราแรกที่อุ้มเจ้าตัวขึ้นมา
ใบหน้าของฮอรัสปรากฏขึ้นแทนเหยี่ยวตาแหลมคมสีฟ้า
แต่ถึงกระนั้นเค้าก็ไม่ได้เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นมนุษย์ดังเดิม ดวงตาสีท้องนภาโปร่งใสกวดมองไปรอบห้องเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามเสียงปรกติ
“แล้วซาญ่าล่ะ
นางไม่ได้อยู่กับเจ้าแล้วเหรอ?”
“นางย้ายไปอยู่ฝั่งเดียวกับนางกำนันแล้ว
บอกว่างานที่นางต้องเรียนรู้มีเยอะเกินไปและอโนซิสก็ชื่นชอบความกระตือรือร้นของนางมาก”
พลันดวงหน้าหวานผิดจากการเป็นบุรุษเพศของเบคก็บูดลงเมื่อเอ่ยถึงหัวหน้านางกำนันคนปัจจุบันอย่างอโนซิส ฮอรัสไม่ได้ทำหน้าเช่นเบคแต่กลับหัวเราะในลำคอออกมาทีหนึ่ง
“ยังงั้นเหรอ” เค้ารับคำเพียงเท่านั้น
“เดาว่านางคงไม่เจ้ากี้เจ้าการเหมือนอโนซิสแน่ๆ”
เบคเงยหน้าขึ้นมา “ขี้บ่นเหมือนกันน่ะสิไม่ว่า”
แล้วเทพร่างสูงก็พบว่าตัวเองอดที่จะหัวเราะไม่ได้เลยเมื่อเค้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าซาญ่าชอบเจ้ากี้เจ้าการกับเบคมากแค่ไหน แต่มีเรื่องหนึ่งที่เค้าไม่เคยรู้คือนางชอบแหย่เบคเล่นเรื่องของเค้ามากแค่ไหน
“ต่อไปคงได้เป็นหัวหน้านางกำนันต่อจากอโนซิสแหงๆ เลย”
“ถ้าเช่นนั้นนางก็คงเหมาะแล้ว” ฮอรัสเอ่ยได้เพียงเท่านั้นอย่างช่วยไม่ได้ ประหลาดใจว่ารอยยิ้มเคลือบบนริมฝีปากได้อย่างไรทั้งๆ
ที่เมื่อครู่นี้เพิ่งคิดไม่ตกกับเรื่องแย่เมื่อคืนอยู่แท้ๆ
มาส่งถึงที่แล้วคงหมดหน้าที่ของเค้าเสียที ร่างสูงจึงเปลี่ยนกลับไปเป็นร่างมนุษย์ดังเดิม ฉลองพระองค์เนื้อเดียวกับโลหิตเทพนั้นยังคงเหมือนเดิมฮอรัสทำท่าเดินออกไปแหวกม่านกั้นประตูหน้าแล้วสอดส่องสายตาเมี่ยงมองอย่างเรียบเฉย
“ท่านจะไปไหนน่ะ?” เด็กหนุ่มที่ถูกทิ้งไว้ร้องถาม
ลืมไปแล้วว่าควรไม่พูดไม่จากับอีกคนหนึ่ง......เดินโถ่งๆ ออกไปแบบนั้นจะไม่โดนผู้คนที่จัดงานให้เก้อเมื่อคืนนี้คาดคั้นเอาหรือ?
เทพร่างสูงที่ดูรูปงามยิ่งกว่าเทพองค์ใดทั้งสิ้นผินใบหน้ากลับมาเพียงเล็กน้อยในขณะที่ขาก็ก้าวยาวออกไปแล้ว
“เดินไปตามทางแล้วตอบคำถามเมื่อผู้คนถามข้าว่าเมื่อคืนหายไปไหนมาไง เดาว่าตอนนี้คงไม่ใช่อโนซิสคนเดียวเสียแล้วที่ข้าทำให้ขัดเคืองใจ”
ก่อนร่างสูงใหญ่ของกษัตริย์แห่งอียิปต์จะเดินหายไปหลังประตูม่านสีอ่อน
เด็กหนุ่มนั่งอยู่บนเตียงนั้น อากาศร้อนในตอนเที่ยงวันไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มได้เพราะได้รับความอาทรจากลมเย็นยามเมื่อฮอรัสโบยบินประโลมผิวกายอยู่มันให้ความรู้สึกเย็นสบายจนกระทั่งถึงตอนนี้ เบคไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง
เจ้าตัวควรโกรธฮอรัสสิหนำซ้ำอาจต้องเกลียดไปเลยด้วยแต่ทว่ากลับหัวใจหวั่นไหวยิ่งกว่าตอนที่อีกฝ่ายหนึ่งยังไม่กลับมาเสียอีก เบคที่แอบรักฮอรัสกลับเผลอคิดสงสัยไปเองว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมีใจให้กันรึเปล่านะ......แย่จริง สิ่งนี้มันคืออะไรกัน คิดเข้าข้างตัวเองก็มีแต่จะทำให้เจ็บในตอนท้ายเท่านั้น
ไม่ดีเลยเบค เจ้าอย่าคิดเช่นนั้นเป็นอันขาด
ฮอรัสไปแล้ว
และเบคก็ทำหน้าเบ้ตอนที่ขยับตัว
******************************************************************
“โอ้ เบค เมื่อคืนเจ้าไปไหนมาข้ามาหาเจ้าแต่เจ้าไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นยังงั้นหรือ?”
หญิงสาวที่มีเวลาว่างเนื่องจากตำแหน่งนางกำนันของนางวิ่งรี่เข้ามาในห้องทันทีที่เห็นเจ้าของห้องที่ตั้งใจมาหานั่งอยู่ผู้เดียวบนเตียง
“เอ่อ ข้าออกไปข้างนอกน่ะ
ไม่ชอบงานเลี้ยงเท่าไร” คนโดนถามตอบ ด้วยใจรู้ว่าซาญ่าหมายถึงตอนที่นางมาตามเค้าถึงในห้องเมื่อคืนนี้
“งั้นรึ ข้านึกว่าเจ้ากับเค้าทะเลาะกันจนไปถึงไหนต่อไหนแล้วซะอีก”
เบคเลิกคิ้วใส่ซาญ่าถึงแม้จะรู้ว่านางเอ่ยถึงใคร “ก็ท่านฮอรัสไง
เมื่อคืนเค้าก็ไม่มางานเหมือนกัน ทุกคนเสียใจมากเลย” หญิงที่เดินมานั่งข้างเจ้าของห้องพูดเสริมก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“เจ้าร้องไห้มางั้นหรือ?” ซาญ่าทำหน้าเหนื่อยใจอย่างเสียมิได้ทันที
“ตาเจ้าบวมเบค” ก่อนนางจะชี้แจ้งจนคนที่อยู่ข้างๆ หมดคำแก้ตัวไป รึบางทีเบคอาจจะเหนื่อยแล้วกับการเค้นสมองเอ่ยถึงเรื่องต่างๆ
ที่มันไม่จริง ไม่มีอะไรจริงเลย กระทั่งความคิดเพ้อฝันไปเองว่าฮอรัสจะมองด้วยสายตาเช่นเดียวกับที่มองฮาธอร์มันก็ไม่จริง เบคไม่เข้าใจ เหตุใดต้องวาดฝันไปแบบนั้นให้ตัวเองยิ่งเจ็บปวดเมื่อกลับมาอยู่กับความเป็นจริง
“โทษที เอ่อ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” เด็กหนุ่มเอ่ยแต่เพียงเท่านั้น ก่อนหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเค้าจะทำหน้าเศร้า
ในเมื่อเบคเลิกต่อกรกับนางแล้วก็คงถึงเวลาแล้วที่เจ้าตัวควรได้รับความเห็นใจเสียที และอย่างที่ซาญ่าเห็น การกลับมาของฮอรัสไม่ได้ทำให้อีกคนหนึ่งมีท่าทีที่ดีขึ้นเท่าไรนัก
“เบค” นางจับไหล่เค้า เห็นดวงตาบวมช้ำเงยมองกลับมาแล้วก็ยิ่งสงสาร
“เจ้า...” จู่ๆ นางก็เงียบไปแล้วนึกภาพถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อครั้งการรอคอยเทพแห่งนภาเกิดขึ้น
พร้อมกับความว้าวุ่นใจเมื่อเค้ากลับมา ก่อนซาญ่าจะเปลี่ยนเรื่องพูดตามที่นางเห็นว่าสมควร
“เจ้าควรดีใจที่ฮอรัสกลับมา”
คนฟังหรี่ตาคล้ายขัดเคืองก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
“อะไรนะ? เอ่อ แล้วทำไมข้าต้องดีใจด้วยล่ะ...ไม่ต้องทนฟังพวกขุนนางดีแต่พูดแล้วยังงั้นเหรอ?”
“เพราะเค้าดีใจที่เจอเจ้า” นางพูดเหมือนเสียงมีดฟันฉับผ่านอากาศ
ไม่ลังเลและมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่นางสามารถพูดได้อย่างไม่ต้องคิด
ซาญ่าเลือกใช้คำเช่นยามเมื่อสามัญกับเบคถึงแม้จะเอ่ยถึงเทพอยู่ก็ตาม
เนื่องจากมันทำให้คุยกันง่ายขึ้น
ใบหน้าอ่อนล้าแต่ก็ยังดูน่าหลงใหลนั้นวาดคำถามว่าขึ้นทำไม
พร้อมทั้งยิ้มเจื่อนๆ ใส่ซาญ่าไปด้วย
“อย่าฝืนที่จะยิ้มเลยเถอะเบค อาการตาบวมของเจ้าคงไม่ทำให้เจ้ายิ้มง่ายขึ้นเสียเท่าไรหรอก”
ซาญ่ารู้ว่าเบคกำลังหัวรั้นและไม่เชื่อคำพูดที่นางมั่นใจ “ได้โปรดเถอะ เจ้าคงไม่รู้ว่าเจ้าสำคัญกับเค้ามากเพียงใด...โธ่
ขอทีเถอะ เลิกทำหน้าอย่างนั้นใส่ข้าเสียที ข้าไม่ใช่แม่เจ้านะ”
“เจ้าบ่นเหมือนแม่ข้าเลยซาญ่า แต่พูดเลอะเทอะกว่ามาก”
“เจ้าไม่เห็นหรือ? ไม่ได้สังเกตรึไง ในตอนที่มหาเทพราเมตตาเราสองคนส่งกลับมายังโลกมนุษย์แม้เราตายแล้ว ฮอรัสเป็นคนอ้อนวอนขอให้เทพราประทานพรที่เทพหรือเทพีองค์ใดก็ไม่สามารถให้เราได้”
เมื่อพูดถึงช่วงเวลานั้นแล้วนางรู้สึกตื้นตันใจ “นั่นคือชีวิตของเราอย่างไรล่ะ แน่นอน กษัตริย์ทุกคนย่อมอยากให้ทุกสิ่งอย่างสยบแทบเท้าแต่ว่าฮอรัสกลับขอชีวิตเรากลับคืนมา”
“เค้าเป็นคนดี ใช่ ข้ารู้” คนฟังเออออตาม แต่ยังไม่พอใจซาญ่า
“เจ้าคิดสิเบคมันเป็นเพราะอะไร?”
หญิงสาวแทบจับไหล่เบคเขย่า “ข้าเห็นร่องรอยแห่งความเศร้าที่ไม่ได้มีให้ข้าเบค เจ้าพอเข้าใจไหม? ข้าไม่ได้สนิทสนมกับเทพเจ้าและฮอรัสเองก็ไม่ได้รู้จักข้า
คงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาร้องไห้เพราะข้า แต่เจ้าน่ะ...” ซาญ่าจับมือเบคทั้งสองข้างแล้วกุมไว้
“เค้าเศร้าหมองเมื่อเจ้าตายเบค
เป็นเพราะเจ้าข้าจึงเห็นน้ำตาของบุรุษเทพที่ข้าเทิดทูนและเห็นว่าแข็งแกร่งที่สุดและไม่มีผู้ใดที่ได้เจอเทพรารวมถึงได้ขอพรจากพระองค์บ่อยนักนั่นเป็นพรอันล่ำค่าแต่เค้าเลือกที่จะคิดถึงเจ้า ตัวข้าเป็นเพียงคำสัญญาที่เจ้าได้ขอจากฮอรัสเท่านั้นแต่แท้จริงแล้วเค้านั้นทำเพื่อเจ้า...ไม่รู้สิ
ถ้าถามข้า ข้าว่าเค้าคงรักเจ้ามากพอที่จะอยากให้เจ้าอยู่ต่อไป”
“รัก...ข้างั้นเหรอ?” เด็กหนุ่มทวนเสียงกระซิบ
และดวงตากลมโตกระพริบวูบไหว
“เราเป็นแค่ทาสนะเบคที่รัก ชีวิตเราไม่มีค่าขนาดนั้นแต่เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว
ฮอรัสจึงอยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่อย่างสุดหัวใจ”
“อะไรทำให้เจ้าคิดเช่นนั้นล่ะซาญ่า
เจ้าไม่ใช่เค้าเสียหน่อย” หนุ่มผู้มีเส้นผมน่าหลงใหลที่แม้แต่ซาญ่าก็เห็นเป็นเช่นนั้น
เอ่ยถามออกมาเสียงเนิบ ใบหน้าหวานเกือบเช่นผู้หญิงนั้นฝืนยิ้มแต่มันกลับทำให้เจ้าตัวดูเหมือนถูกบังคับจนต้องทนทุกข์ทรมาน
“ความรักมักไม่มีเหตุผลเสมอเจ้าเองก็น่าจะรู้ดี”
นางพูดเสียงอ่อนโยน “แต่เชื่อข้าเถอะ เรื่องของฮอรัสข้าไม่เคยเอ่ยเย้ากับเจ้าเพื่อความสุขของตัวเอง ข้าเพียงแค่อยากให้เจ้ามีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นก็เท่านั้น...เอาล่ะ
ข้าคงต้องไปแล้ว อโนซิสอนุญาติให้ข้าออกมาเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น”
ซาญ่ากล่าวลาก่อนจะออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เด็กหนุ่มผู้เคยเป็นคนรู้ใจต้องนั่งนิ่งกับคำเร้าหรือที่ดูไม่ได้ดั่งใจกับความดื้อรั้นของเจ้าตัว ซาญ่าบอกในแบบของนางและรู้แน่ว่าเบคต้องเข้าใจซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง เพียงแต่ว่ากำแพงกั้นทุกอย่างอยู่ที่คำถามสุดท้ายของเด็กหนุ่มเพียงเท่านั้น
......แน่ใจได้อย่างไร ว่าฮอรัสห่วงหามนุษย์ธรรมดาที่เป็นเพียงแค่สหายคนนี้เฉกเช่นที่คนรักนั้นคิดถวิลหาถึงกัน......
มันเสี่ยงเกินไปที่จะตีความด้วยตนเอง
เบคไม่สำคัญตัวขนาดนั้น
ส่วนฮอรัสเองก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่คืนอิสรภาพให้แก่คนทั้งอียิปต์ ร้อยวันพันปีตลอดระยะเวลาที่ฮอรัสจากไปเบคยังรออย่างกักเก็บอารมณ์เปลี่ยวเหงาของตัวเองเอาไว้ได้แต่ทำไมเมื่ออีกฝ่ายกลับมาแล้วเด็กหนุ่มถึงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองมากกว่าเดิมกัน
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮว๊ากกกกก!! เบคหนูจะกัดหูฮอรัสกลับมาด้วยรึเปล่าจ๊ะ!!
>< 555555 สรุปว่าไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ
ที่ผ่านมาเนอะ เคะไม่กลัวค่ะ แค่ขัดขืนในตอนแรก......นุ้งเบคถือว่าใจกล้าและมีความเป็นตัวของตัวเองสูงค่ะ การเพิ่งโดนฮอรัสกอดไมได้ทำให้เจ้าตัวสูญเสียมันไปได้เลยค่ะ
555555 นั่นก็เป็นเพราะว่าเบคเค้าแอบรักอีกฝ่ายหนึ่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะเนอะ พอโดนทำแบบนั้นก็เลยค่อนข้างตกใจค่ะ กลัวด้วยล่ะอย่างหนึ่ง
แต่ไปๆ มาๆ ก็ดันใจเต้นอย่างติดใจเฉยเลยยยย //เย้ยยย....นี่แกเอามาวินิฉัยแบบไหนฟระเนี่ยย!!// 5555
ด้วยใจรักล่ะเนอะ คนมันคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอกค่ะ
5555555 เบค....ซาญ่าบอกแล้ว หนูต้องคิดได้เองแล้วนะลูก //โดนต่อย// ฮาาาา รักเค้ามากก็อย่ากังขาสิจ๊ะ
55555 //โดนต่อยอีก//
5555555 นี่คือความหวั่นไหวและสันสบของเบคค่ะ แล้วทางฮอรัสล่ะจะเป็นยังไงน้าา? ต้องติดตาม Part หน้าค่ะ 5555555 ><....อ๋อกกกก //โดนรีดเอามือกดหน้าในแนวขนานพื้น// อูยยยย
ตัด Part พอดี 555
เดี๋ยวคราวหน้าเราจะไปเยี่ยมพ่อเทพตาเหยี่ยวสุดเซ็กซี่กันค่ะ >///<
รักรีดทุกท่านนะค้าาา
//ทำปากจู๋// MY FAECBOOK >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
เย้ๆ ไรท์มาแว้ววว. เฝ้ารอทุกวินาที ฮ่าๆ
ซาญ่า เธอทำดีมากกกกก >,<
แต่เบคหนูลืมเรื่องเมื่อคืนไปแล้วหย๊ออ เดียวฮอรัสได้ใจหรอก
FIN.
เข้ามาเจอนี้กรี๊ดแทบหมดเสียง ทั้งบ้านหันมามอง
โอ้เบคน้อย ฮอรัสคนนั้นเข้ารักหนูค่ะลูก
รอตอนต่อไปน่ะไรต์สู้ๆ ป.ล.พรุ่งนี้จะดีมากก่อนลงแดง
จะกรีดร้องตาย!!! คนหนึ่งก็คิดว่า อีกคนไม่คิดเหมือนตัวเอง โง้ว!เจอเข้าไปขนาดนี้ยอมๆพระสวามีเถอะหนูเบคกี้ เดี๋ยวท่านเทพเขาตระบะแตกอีกเดี๋ยวหนูจะครางหงมเอาได้น่ะลูกกกก แอ่ก!//โดนเบคถีบ
ฮืออออออมันยิ่งอ่านแล้วยิ่งชอบบบ ปกติก็ชอบแนวนี้อยู่แล้ว ยิ่งตอนไปดูในโรงนี่อยากจะโยนป๊อบคอร์นทิ้งแล้วกรี๊ดลั่นโรงเลยค่ะ ทำไมเราแอบฟินและจิ้นน พอมาเจอไรท์แต่งนี้ก็ตายค่ะ!!!
การเพิ่งโดนทารุณมาไมไ่ด้ทำให้ความดื้อและอวดดีของหนูลดลงได้เลยใช่มั้ยลูก 55555
แสดงความคิดเห็น