วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[Fic – God Of Egypt] + [Part 4] Eternally...ชั่วนิจนิรันดร์ – Horus x Bek



ฮาาาาาา  มาแล้วค่ะรีดๆ ที่รักยิ่งของไรท์ขาาา >{}<  เมื่อวานมิได้ลง ฮ่อยยย  คาดเอาไว้แล้วว่าโผล่หน้ามาคงน้วม 55555  ต้องขออภัยอย่างสูงเลยค่ะ ><  แต่วันนี้มาต่อแล้ว  ฮอรัสรู้สึกว่าจะรุนแรงขึ้นแล้วเหมือนสติขาดผึ่งแล้วก็.....ฮึก! อึก เบคคเบคของเราคะรีด!! ><  ง่อวววว  ม่ายน้าาา  //รีดบอกอยากไปแล้ว//


ฮ่อลล  เฮื๊อกก นี่แหละค่ะแผ่นหลังในตำนานที่ไรท์หลงใหล  โอยยๆๆๆๆ  แค่นี้ก็ฆ่ากันได้แล้วค่ะ  คือกล้ามเนื้อนี่เป็นเส้นๆ เลย....ล้ามม – ม้วกก >.,<  ชุดนี้เลยค่ะ...ให้รีดๆ นึกภาพฉลองพระองค์ชุดนี้เลย  อะไรจะช่างล้ำค่าดั่งทองขนาดนี้  สมกับที่ขึ้นเป้นกษัตริย์แล้วค่ะ  อร๊ายยๆๆๆ ><

โอเค ไรท์ว่าเราไปกันเลยดีกว่าค่ะ  ลมร้อนของทะเลทรายที่ว่าร้อนรุ่มแล้วยังไม่เท่าความระอุเดือดของฮอรัสค่ะ  อร๊ายยยยย!!  ไปกันเลยยย >{}<



-----------------------------------------------------------------------------------------



“ข้าจะบอกอะไรให้นะ ท่านน่ะมันเป็นเทพเอาแต่ใจแถมยังชอบทำอะไรสิ้นคิดอีกต่างหาก ไม่แปลกใจเลยทำไมธอทถึง...อ๊ะ!



.



.



.



เบคชะงักไปเพราะแรงบีบที่แก้มอย่างไม่ปราณี  เนื่องจากเทพแห่งนภาคิดว่าพอแล้วกับการต่อปากต่อคำที่ดูจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาของพวกเค้าทั้งสองคน แต่ถึงกระนั้นธุระที่มีแก่เบคก็ยังไม่จบ ร่างสูงอาจเอาแต่ใจเช่นที่อีกฝ่ายพูดแต่ความปากแข็งของเบคก็น่าเอาชนะไม่น้อยด้วยเช่นกัน  ดังนั้นฮอรัสจึงยกตัวเด็กหนุ่มขึ้นมา อุ้มเค้าขึ้นพาดบ่าเพื่อสงวนกำลังในการต่อยดีแล้วออกเดินไปจากห้องอาบน้ำนั้นเสีย

“ท่านจะทำอะไรน่ะ?! ปล่อยข้าลงนะ ปล่อยข้า!” เบคที่มีข้าวของส่วนตัวเพียงน้อยชิ้นเผลอทำมันหลุดมือร่วงลงพื้น  เด็กหนุ่มที่ผันตัวเป็นเด็กน้อยดิ้นไปมา ทุบตีแผ่นหลังแกร่งของเทพจอมเอาเปรียบพลางโวยวายไม่เลิก  ฮอรัสกลอกตา ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซึ่งยากเต็มทนก่อนจะมุ่งหน้าสู่เขตหวงห้ามที่แท้จริงของปีกวังตะวันตก......วิหารของเค้านั่นเอง

“วางข้าลงนะไอ้เทพจอมเผด็จการ!” เบคขู่ฟ่อ ไม่เหนื่อยเลยกับการเอะอะตลอดทางอันแสนสั้น ฮอรัสไม่ใส่ใจก่อนจะถอนหายใจยาว

“แล้วเมื่อไรเจ้าจะหยุดโวยวายเสียทีเล่า” เค้าบอก  บางทีการได้อยู่เหนือเด็กงี่เง่าคนนี้ก็ทำให้จ้าวแห่งท้องฟ้าอารมณ์ดีขึ้นมาได้นิดหน่อย ก่อนยามสองคนที่เฝ้าประตูของห้องบรรทมจะจ้องมองผู้มาใหม่อย่างเกรงขามแต่เหนือสิ่งอื่นใดชายร่างใหญ่ทั้งสองก็มองก้มที่ถูกคลุมอยู่ใต้ผ้าฝ้ายผืนนุ่มอย่างุนงงงเลิกลั่ก แม้รู้ว่าไม่ควรทำเช่นนั้นกับแขกของกษัตริย์ผู้เป็นจ้าวของทุกสิ่ง

ฮอรัสโบกมือน้อยๆ บอกให้ทหารออกไปก่อน  ร่างสูงไม่มีธุระอะไรจะใช้ใครอีกแล้ว  ชายร่างใหญ่ทำความเคารพก่อนรีบออกไปอย่างรู้หน้าที่ไม่ถามซอกแซกอะไรทั้งนั้นแม้แต่จะคิดก็ยังไม่อยู่ในหัวของผู้ภักดี  เทพแห่งนภาเพียงแค่ต้องการสถานที่เป็นส่วนตัวคุยกับสหายตัวน้อยแสนดื้อดึงคนนี้ให้รู้เรื่องเพียงเท่านั้น  แขนแกร่งวางเบคลงบนพรมขนหมีแถบป่าลุ่มแม่น้ำอย่างนุ่มนวลที่สุด

“วางข้าโลงนะ...อ๊า!” เบคยังคงหลับหูหลับตาโวยวายไม่เลิกและดิ้นไปมาจนตัวเองล้มลงบนพื้นพรมเสียเอง “อูยย  วางให้มันเบาๆ กว่านี้ไม่ได้รึไงฮึ?” เด็กหนุ่มจับก้นกบตัวเองแล้วทำหน้านิ่วประท้วงใส่เทพที่ยืนบังทางเข้าอยู่จนมองไม่เห็น

ฮอรัสมองเด็กหนุ่มอย่างระอาใจ ก่อนจะผายมือน้อยๆ “ยินดีช่วย” เค้าบอก  สีหน้าไม่ได้แสดงอาการในแง่ลบแต่อย่างใดครั้นจะปล่อยยิ้มออกมาเสียด้วยซ้ำ  ก่อนคนที่อารมณ์บูดไม่ใช่น้อยจะยืนขึ้นแล้วปัดก้นตัวเองอย่างไม่พอใจน้อยที่สุด  แต่ฮอรัสรู้ดีว่าใบหน้าอ่อนเยาว์ที่คอยแต่ก้มหลบตานั้นไม่ชอบที่โดนบงการมากแค่ไหน......โดยเฉพาะในตอนนี้

“ที่นี้อะไรอีกล่ะ?” เบคถาม “ข้าคิดว่าเราคุยกันจบแล้ว ก่อนท่านจะแบกข้ามา...” เด็กหัวขโมยจากข้างถนนเมื่อหลายปีก่อนเพิ่งจะรู้ตัวว่ามาอยู่ในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย ถึงแม้จะไม่เคยเห็นมาก่อนแต่หากดูเอาก็รู้ว่าเป็นห้องของใคร “ห้องสวยดีนี่” เบคพูด เป็นมารยาทที่ต้องชมเพราะห้องของฮอรัสน่าอยู่กว่าที่ปรึกษาอย่างเค้ามาก แต่ฮอรัสไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นการกลับมาฟังเบคโวยวายจนเกือบเต้นได้มันทำให้ร่างสูงไม่เห็นหนทางที่จะคุยกันได้รู้เรื่องมากขึ้น

“ขอบคุณ  ข้าหวังว่าเจ้าคงจะพอใจมากพอที่จะยอมคุยกับข้าอย่างมีสติได้”

“ท่านน่ะสิ ไม่มีสติ” เบคว่า ทั้งๆ ที่ฮอรัสยังพูดไม่ทันขาดคำ

“ข้าหรือ?  ขอโทษนะ ข้าไม่ใช่คนที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วก็เอาแต่ร้องโวยวายตลอดทางที่เดินมานี่” ฮอรัสชี้  แม้เพิ่งจะบอกว่าคุยอย่างมีสติแต่เค้าก็อดที่จะเอาชนะให้เด็กหนุ่มยอมรับไม่ได้เลย  เทพโอซิริสบิดาของเค้าเคยบอกว่าอย่ามีเรื่องกับมนุษย์เพราะนั่นจะทำให้เสียเวลา  แต่ถึงกระนั้นฮอรัสก็ยังอยากทำโดยไม่เฉลียวใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ......เบคเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำให้ร่างสูงปราศจากตรรกะเยี่ยงเทพโดยแท้จริง

“ก็เพราะงี้ไง ข้าเลยไม่อยากคุย” ร่างเล็กเริ่มใช้ศัพท์แบบคนธรรมดาทั่วไป “ทุกครั้งท่านจะเป็นคนตัดบทไปเอง...ทุกคำพูดมักจะจบลงที่ท่าน!  จะให้ข้าพูดเป็นคนสุดท้ายแล้วเดินจากไปบ้างไม่ได้เหรอ? ข้าก็บอกไปแล้วว่าไม่มีอะไรจะพูดอีกพอท่านไม่พอใจ ท่านก็เอาข้าแบกขึ้นหลังหอบมาจนถึงนี่...เพื่ออะไร?” เบคแบมือ  ใบหน้างดงามเช่นเด็กผู้หญิงวาดรอยขุ่นเคืองชัดขึ้นมากกว่าครั้งใด “เพื่อให้ข้ายอมโกหกเพื่อปลอบใจว่าท่านถูกยังงั้นหรือ?”

เทพร่างสูงที่ยืนอยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มนิ่งไป......ไม่เข้าใจ  เรื่องที่เด็กคนนี้กำลังพูด  ฮอรัสไม่เข้าใจ  เค้าทำความผิดอะไรถึงร้ายแรงได้ขนาดนั้น  ไหนบอกว่าไม่มีอะไรที่เคืองขุ่นกันอย่างไรล่ะ?

“ข้าไม่ใช่...” เด็กหนุ่มยอมหันมาสบตาคู่สีฟ้าโปร่งแสงของเทพฮอรัสแต่โดยดี  แต่นั้นอาจเป็นเรื่องพลาดที่สุดของเบคเพราะอีกฝ่ายหนึ่งสังเกตเห็นน้ำที่เคลือบอยู่ในดวงตากลมโตสีน้ำตาลคู่นั้นได้อย่างชัดเจน  เจ้าตัวคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าไม่ควรพูดออกไปแต่ท้ายที่สุดก็ยอมแพ้ต่อความน้อยใจของตนเอง...ข้าไม่ใช่ “...ที่ระบายอารมณ์ของท่านนะ” เบคเสียงสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด  ไม่คิดอยากจะเก็บน้ำตาเอาไว้อีกแล้ว การรู้ว่าเป็นเพียงแค่ที่ระบายอารมณ์ยามหงุดหงิดใจของฮอรัส มันทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าการต้องตัดใจจากอีกฝ่ายเพราะฮาธอร์เสียอีก

ข้าเป็นได้แค่สหาย และคนคอยรองรับอารมณ์ยามเมื่อมันแปรปรวนของท่านแค่นั้นใช่หรือไม่?

เด็กหนุ่มฝืนความอยากที่จะสะอื้นไว้ ก่อนจะปัดมือที่เอื้อมมาแตะไหล่ของฮอรัสออก  เดาว่าราชาเทพองค์นี้คงจะสมเพชเจ้าตัวเข้าอย่างหนักให้แล้ว......เบคควรกลับเสียที  ไม่ว่าฮอรัสอยากจะพูดอะไร ยังไงอีกฝ่ายก็คงรู้แล้วว่าไม่ใช่ในตอนนี้  แต่ข้อมือน้อยๆ กลับถูกดึงไว้อีกครั้งอย่างนุ่มนวลผิดจากครั้งใด  มือของฮอรัสใหญ่มากจนร่างเล็กรู้สึกถึงความอบอุ่นที่กำรอบแขนของตัวเอง

“เบค” เสียงของเทพแห่งนภาที่ก้องกังวานชวนให้เกรงขาม ในตอนนี้มันกลับอ่อนลงอย่างน่าใจหาย  มันฟังดูนุ่มนวลจนออกเศร้า  ฮอรัสไม่อาจรู้ว่าเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ดังนั้นร่างสูงจะไปคิดแทนเบคไม่ได้  แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งเดียวที่ฮอรัสรู้คือเบคกำลังเศร้ามาก  เพราะอะไรกัน  เป็นใครกันที่รักแกสหายตัวน้อยของเค้า

ในคราแรกที่โดนรั้งไว้  เด็กหนุ่มคิดจะเมินเสียแต่เสียงเรียกที่ชวนให้หัวใจไหววูบนั้นก็ยากเกินไปที่จะปฏิเสธได้ลงคอ  เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเหลือบทองนิ่งเพื่อหยุดฟัง หวังในใจว่าคำพูดของฮอรัสคงจะไม่ใช่อะไรที่ทำร้ายจิตใจเจ้าตัวอีกหรอกนะ

“เบค เจ้าเป็นอะไรไป?” โอรสแห่งโอซิริสถาม  ฟังดูโง่เง่าจนเบคอยากจะเบ้หน้าใส่แต่จะไปโทษอะไรได้กับคนที่ไม่รู้เรื่อง “เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้าใช่ไหม?” ฮอรัสกล่าวออกมาในที่สุด ลบคำว่าโง่เง่าออกไปได้อย่างรวดเร็ว

เด็กหนุ่มรู้สึกตัวหนักอึ้ง  รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องพาตัวเองหนีออกจากชายที่อยากจะพบมากที่สุดในชีวิต  บางทีอาจพอแล้วกับการเดินหนี.....อย่างน้อยก็แค่ตอนนี้  ฮอรัสเห็นน้ำตาของคนน่าสมเพชอย่างเค้าแล้วหนิ

“ท่านบินออกไปนานแค่ไหนกันล่ะ?” เด็กหนุ่มที่ปอยผมต้องประกายกับแสงอาทิตย์จนเป็นสีส้มทองหันกลับมา ใบหน้าอ่อนเดียงสาแต่แสนจะตัดพ้อนั้นก็เอ่อนองเต็มไปด้วยน้ำตาด้วยเช่นกัน “ท่านบินออกไปนานแค่ไหนกันท่านเทพแห่งนภา?” เด็กหนุ่มย้ำคำพูด ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิติเตียนแต่อย่างใด  แต่ถึงกระนั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ฮอรัสคลายมือที่กำแขนอีกฝ่ายอย่างมั่นคงลงได้  ร่างสูงใหญ่ของเทพแห่งนภาเพิ่งเข้าใจความเจ็บปวดบนสีหน้าของเบคในครานี้นี่เองว่าสาเหตุนั้นมาจากใคร

“เบค” .....หากมันเป็นเพราะข้าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก  แววตาฮอรัสไหววูบตามดวงตากลมโตที่มีแต่น้ำตาของอีกฝ่าย

“ท่านควรกลับไปหาฮาธอร์  ตามนางมาและทำให้เป็นราชินีที่ท่านต้องการเถอะ ข้าไม่...” เบคนิ่งไป และก้มหน้าซ่อนรอยหวั่นไหวในดวงตาของตนเอง “ข้าไม่คิดว่าท่านควรกลับมาคนเดียว” เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเพิ่งจะทำใจกล้าพูดคุยถึงเรื่องซุ่มเสี่ยงใกล้ต่อความในใจของตนเอง ในตอนนี้ก็กลับผลักไสฮอรัสออกปีกครั้งเสียแล้ว  บางทีมันอาจจะดีกว่าหากไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งลังเลแล้วลงหลักปักฐานกับฮาธอร์ไปซะ มันอาจง่ายกว่าสำหรับเบคด้วย...

“นางเสียใจรึเปล่าที่ท่านกลับมาคนเดียว ทำไมท่านถึงไม่พานางกลับมาด้วยล่ะ?  ที่นี่จะขาดราชินีไม่ได้  ตัวท่านเองก็รักนางมาตลอดเลยไม่ใช่หรือ?” เบคเสียงสั่นเครือมากกว่าเก่า  แม้แต่แขนเล็กที่ถูกกอบกุมไว้ฮอรัสก็ยังรู้สึกได้ว่ามันสั่นตามไปด้วย  ร่างกายเกือบเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มจากย่านอันยากจนของอียิปต์กำลังสั่นเทาเพราะแรงกลั้นสะอื้นจากการร้องไห้  แต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังคงมีความปรารถนาอันดีอย่างไม่มีข้อกังขา ถึงแม้จะเจ็บปวดจนแทบยืนไม่อยู่ก็ตาม

“ไปหานาง...อึก...กลับไปหานางซะเถอะ  ฮึก ทะ ท่านไม่ควรทิ้งมา...!

ว่ายังไม่ทันขาดคำ ประโยคเคล้าน้ำตาที่เริ่มติดสะอึกสะอื้นนั้นก็มีอันต้องขาดหายไป เมื่อเจ้าของประโยคถูกกำรอบแขนแน่นขึ้นแล้วดึงกระชากเข้าไปประกบปากกับเทพร่างสูงด้วยการชักจูงของฮอรัสเอง  เบคตื่นตกใจ  ตาเบิกกว้างและคาดไม่ถึงเป็นอย่างยิ่ง  หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นขึ้นจังหวะหนึ่ง มันดังสะนั่นให้ความรู้สึกสะท้านไปทั่วร่างก่อนหนุ่มมนุษย์น้อยจะไม่รู้สึกถึงสิ่งใดอีกเลยยกเว้นเสียแต่ริมฝีปากที่ทาบทับลงมาราวกับอยากจะบดขยี้ให้หมดแรงทรุดกายลงเสียเดี๋ยวนี้

ก่อนคนได้รับจูบจะรู้สึกตัวในที่สุด  เบคพยายามใช้อิสระที่เหลืออยู่ผลักอกฮอรัสออก  แต่ทว่าร่างที่สูงกว่ากลับไม่ยอม  ฮอรัสกำแขนเล็กแรงขึ้นพลางบดขยี้ริมฝีปากลงไปอีกคราวราวกับว่าอยากจะให้อีกคนหนึ่งขาดใจ  และการรวบรัดอิสรภาพอย่างไม่สนใจสิ่งใดของร่างสูงนั้นก็ทำเอาเบคหมดหนทางแต่เหนือสิ่งอื่นใดจูบอันแสนเอาแต่ใจนั้นก็สูบเอาเรี่ยวแรงที่ควรพึงมีออกไปหมด

ฮอรัสผละริมฝีปากออกมา  รับรู้ถึงร่างกายอ่อนปวกเปียกเพราะความตกตะลึงที่อยู่ใต้อกของตัวเอง  เบคซึ่งน้ำตานองหน้าเพราะความน้อยใจที่ระเบิดปะทุออก ทำตัวสั่นเทา  มีเพียงแขนสองข้างเท่านั้นที่ฮอรัสยึดไว้ไม่ให้เด็กหนุ่มล้มลงไปกองกับพื้นห้องบรรทมของตัวเองได้

“ปล่อยข้า” เบคบอก ไม่ได้ดูสภาพของตัวเองที่กำลังจะทรุดลงเยี่ยงคนไร้สติเลย  เพียงแค่จูบเดียวจากฮอรัสก็สลัดเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มทิ้งไปสิ้น “ฮึก...ปล่อยข้า” เบคพูดอีก ฟังดูเหมือนเด็กท่าทางโยเยที่กำลังเอาแต่ใจ  แต่ไฉนเลยใครจะรู้......เค้ากำลังหนีห่างจากความหวั่นไหวในใจอยู่ต่างหาก

แต่ทว่าเทพแห่งท้องนภาที่ตัดสินใจว่าจะไม่ยืดเยื่อหรือผ่อนผันลดทอนคำพูดใดๆ อีกต่อไปก็พูดคำว่า “ไม่” ก่อนจะอุ้มเบคขึ้นแล้วพาร่างที่ดิ้นขลุกขลักนั้นไปยังแท่นบรรทมที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งที่เป็นเจ้าชายนัก......พอกันทีกับคำพูดตะล่อมบอกความในใจว่ารักเบคที่เตรียมมาทั้งหมด ถึงแม้เค้าจะไม่ได้คิดตระเตรียมอะไรมาจริงๆ ก็ตาม  แต่พอเจอเบคที่ดื้อด้านเข้าใจยากและงอแงอย่างนี้แล้ว ประโยคหวานหูหรือคำพูดชักแม่น้ำไนล์ใดๆ ก็เห็นทีคงจะไม่สามารถบอกให้เบคเข้าใจได้แล้วว่าฮอรัสมีใจรักอีกฝ่ายมากแค่ไหน

เทพร่างสูงพาร่างที่ดีดดิ้นราวกับลูกแมวเปียกน้ำผ่านพรมขนหมีจากประตูทางเข้าและโยนลงบนแท่นบรรทมทองบนพื้นหินอ่อนยกสูงอย่างไม่เบานัก  แต่นั่นก็เป็นเพราะการขัดขืนของคนในอ้อมกอดเอง  เสียงตัวกระแทกกับเสียงอุทานอย่างเบาหวิวของเบคล่องลอยออกมา 

เด็กหนุ่มแนบตัวอยู่กับผ้าไหมนิ่มลื่นที่ปูทับฟูกชั้นดีจากต่างแดนก่อนจะดันตัวขึ้นมากวาดสายตาฉ่ำน้ำไปหาประตูทางออกซึ่งถูกบดบังไว้จนมิด  หนุ่มมนุษย์น้อยท้าวแขนไปด้านหลังก่อนจะขยับหนีเจ้าของห้องที่ทรุดกายคืบคลานด้วยเข่าแกร่งเข้ามาหา

“ฮอรัส...” เบคร้องเรียก  นึกอยากตะโกนถามคำตอบจากคนที่โยนตนลงมาบนเตียงอย่างป่าเถื่อนนี้เสียจริงว่ามันคือเรื่องอะไร เพียงแต่ว่าความกลัวที่เกาะกุมอยู่ทุกอณูขึ้นมาจนถึงลำคอทำให้เด็กหนุ่มตะโกนออกไปไม่ได้ก็เท่านั้น  แท่นบรรทมไม่ได้กว้างนัก เบคที่มาจนเกือบสุดทางแล้วจึงขย่ำผ้าไหมไว้แน่นก่อนจะกล่าวเสียงสั่นเครืออีกครั้ง “ดะ เดี๋ยวก่อน  ท่าน...จะทำอะไร?” แต่ทันใดนั้นข้อมือของเจ้าตัวก็ถูกคว้าไว้อีกครั้ง  ฮอรัสโน้มหน้าเข้ามาใกล้

“เรื่องนั้นข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า  ก็ไหนเลย เพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้าร้องขออยากได้คำตอบเจ้ายังไม่ให้มันกับข้า” ฮอรัสกระซิบกระซาบรอดไรฟัน ทำเอาเบคสะอึกและบิดข้อมืออย่างแรงหวังจะได้อิสระคืนมา แต่ไม่เลย  มันเปล่าประโยชน์

“นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว ท่านเสียสติไปแล้วหรือไง ทะ ทำไมทำแบบนี้  ปล่อยข้าไปนะ!” เบคตวาด พยายามทั้งดิ้นและแกะมือออกมาให้พ้นจากเทพที่เสียสติ  แต่ไฉนเลยเด็กหนุ่มมนุษย์ตัวน้อยๆ จะสามารถเอาชนะพลังกำลังของเทพได้  ฮอรัสไม่ยอมปล่อยและผลักเบคลงกับที่นอนชั้นดีคลุมทับด้วยผ้าไหมแสนแพง

เทพแห่งท้องฟ้าไม่เข้าใจเลยเหตุเบคถึงได้ว่ายากและต่อต้านเค้าจนถึงเพียงนี้กัน  ฮอรัสความอดทนขาดผึ่งเมื่อจูบของเค้าถูกตอบแทนด้วยคำว่า เสียสติ ราวกับว่าสหายตัวน้อยก่อกำแพงที่ไร้หูไร้ตาขึ้นมาขว้างกั้นเอาไว้  ไม่รับไม่รู้ทำตัวเฉไฉเรื่อยไปถึงแม้จะโดนเค้าจูบอย่างนั้นน่ะหรือ?  จะทำตัวน่าโมโหไปถึงไหนกัน!

ฮอรัสเพียงแค่อยากเอาชนะทิฐิของเด็กหนุ่มแต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าคนที่ทำตัวดึงดันไม่ฟังอะไรเลยนั้นจะปลอดภัยหรือไม่  บางทีหากเบครั่นเกินไปการที่เค้าพลั้งมือทำเรื่องล่วงเกินก็คงจะเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้

“ถ้าหากข้าบ้า เจ้าก็หูตามืดบอดแล้วเจ้ามนุษย์!” เทพแห่งนภาพูดเสียงห้วน บ่งบอกว่าความเดือดดาลว่ายวนอยู่ในอกของเค้า

“ให้ตายเถอะ ท่านพูดเรื่องอะไรกัน?...อ๊า ปล่อยข้านะ!” ร่างเล็กร้องโวยอย่างตกใจเมื่อโดนร่างสูงผลักให้นอนลงแล้วตรึงข้อมือทั้งสองไว้อย่างแน่นหนา  เด็กหนุ่มดิ้นพลาดไปมาในตอนที่จมูกโด่งคมเคลื่อนมาไล่เลียต้นคอขาวอย่างไม่เกรงใจก่อนมันจะรวดเร็วรุนแรงขึ้นโดยกะทันหันเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้  แต่ที่แน่ๆ การส่งเสียงโวยวายเมื่อครู่นี้ไม่ได้เป็นประโยคสุดท้ายที่เบคใช้กล่าวเตือน   คำด่าทอดังขึ้นเอะอะไปทั่วห้องก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องไห้ที่ดังระงมระคนอ้อนวอนไปด้วย  เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้น่าสงสารรู้กลับไม่ใช่การต่อยดีหรือทำร้ายร่างกายเพื่อเป็นบทลงโทษ

แต่กลับกลายเป็นการทำร้ายร่างกายที่กระทำชำเราขืนใจได้อย่างร้ายกาจ  ร่างเล็กไม่รู้เลยว่ามันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร  ฮอรัสดูเหมือนไม่ใช่ฮอรัสอีกต่อไปเพราะหลังจากที่ทั้งคู่เปลือยเปล่าได้ไม่นานนักเทพร่างสูงก็เล่นตลกกับร่างกายของมนุษย์  ปลุกปั่นเด็กหนุ่มที่ไม่ยินยอมพร้อมใจให้หัวขาวโพลนได้ด้วยลิ้นและริมฝีปากอันเร่าร้อนดั่งโซ่ลากสุริยันแห่งเทพรา

และไม่รู้ว่าร้องออกไปเสียงดังนานเท่าไรจนเด็กหนุ่มนั้นเริ่มเจ็บคอ  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อปลอบใจที่ว่าเพราะหากไม่สามารถตะเบ่งเสียงได้แล้วเบคก็ยังสามารถร้องไห้ได้......

ร่างกายน้อยๆ ที่ดูจะเล็กเกินไปสำหรับเป็นที่ระบายความกระสันอยากของเทพนั้นถูกกด   บีบ  และเค้นอย่างไม่เบามือนักกระทั่งมันส่งผลให้ผิวอ่อนเนื้อนุ่มของมนุษย์เกิดรอยบอบช้ำขึ้นยังทุกๆ ที่ๆ บุรุษแห่งท้องนภาแตะต้อง  เบคไม่ทันได้รู้ตัวเลยในตอนที่ขาคู่ขาวถูกอ้าออกแล้วอีกคนหนึ่งแทรกตัวเข้าไปแทนที่ช่องว่างอันไร้ความอบอุ่น  เด็กหนุ่มร้องห้าม  รั้งไว้และเช่นเคยไม่มีใครได้ยินเจ้าตัวเลย  ไม่มีใครอยู่ในวิหารของฮอรัสและแม้แต่เจ้าของก็ไม่อาจทำตัวเสมือนได้ยินคำขอนั้นได้ในเมื่อเค้าเป็นคนบอกเบคให้รู้แจ้งเองว่าทุกอย่างมันจะไม่จบเร็วนักหรอก

เสียงชื่นแฉะทำให้เบคเกร็งตัว ก่อนจะพบว่าลิ้นของเทพนั้นใหญ่กว่าลิ้นของมนุษย์หลายเท่านัก  มันแตะเลียไปมาหลอกล้อราวกับกลีบช่องทางน้อยๆ นั้นเป็นลูกแมวที่ไร้เดียงสา  คนโดนแกล้งจึงดิ้นกายไปมาเพื่อหวังจะสลัดปลายลิ้นที่ทักทายเข้ามาให้หลุดไป  แต่ทว่าการขมิบรัดนั้นกลับถูกเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนักพร้อมทั้งยังถูกล่วงล้ำเข้าไปตามใจชอบอีกด้วย

ร่างเล็กบิดเร้าหลังลิ้นร้อนของฮอรัสถูกแทนที่ด้วยนิ้วซึ่งใหญ่กว่า  มันแหวกช่องทางออกอย่างง่ายดายแม้แรงตอดรัดจะรุนแรงจนแทบนึกภาพถึงความหฤหรรษ์ไม่ออกก็ตาม  แต่ท้ายที่สุดแล้วเด็กหนุ่มก็นอนหอบหายใจหมดแรงเพราะการแทรกนิ้วของร่างสูง  มันทั้งเจ็บปวดและทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่ง

เบคตัวสั่นพร่าพาดขาอยู่บนอกกำยำของฮอรัส  ร่างเล็กสติเลอะเลือนแล้วเต็มทนเพราะความบอบช้ำเนื่องจากถูกทำให้ถึงจุดไปกี่ครั้งแล้วก็ไม่สามารถนับได้  อีกทั้งยังโดนแหวกกายออกจนต้องดิ้นทุรนทุรายโดยที่ไม่ได้รับความเห็นใจให้หยุดพักเลยอีกด้วย  และในตอนที่เด็กหนุ่มกำลังจะหลบหนีร่างสูงเข้าไปในห้วงนิทรานั้นเองความเป็นชายที่ยิ่งใหญ่มากเกินว่าเจ้าตัวจะคาดเดาได้ก็สอดคว้านเข้ามาในกายอย่างรวดเร็ว

อ้าาา!” ทั้งคู่ต่างจำเสียงของเบคได้ดี  และสองมือที่จิกแน่นฝังเล็บลงบนมือใหญ่ซึ่งจับยึดสะโพกเล็กของมนุษย์เอาไว้ให้สวนรับกับความใหญ่โตอย่างพอดิบพอดี  ร่างของเด็กหนุ่มแอ่นลอยขึ้นขณะที่ช่องทางของมนุษย์ธรรมดาสามัญกลืนแกนกายใหญ่ของเทพเข้าไปช้าๆ

“อาา...า อ๊า....อะ อ๊ะ อ้าา...า” เสียงร้องอันสั่นพร่านั้นไม่เคยเงียบลงเลยแม้แต่ชั่วอึดใจเดียวในตอนที่ร่างสูงทำการสอดกายของตนเองเข้าไปในร่างของอีกคนหนึ่ง  มันช่างน่ากลัวสำหรับเบคและไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไร  กระทั่งทุกอย่างก็ถูกดำเนินไปตามความพอใจของเทพฮอรัสทุกอย่าง......อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

ร่างสูงขยับซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเปลี่ยนท้วงท่าของเด็กหนุ่มให้ฟุบคว่ำลงกับที่นอน

“อ๊ะ ฮึก! อือ อ๊า  พอทีเถอะ ได้โปรด  หยุดสักที  ข้าขอโทษ...อึก  ขอโทษ  ฮอรัส อ่าา” ร่างของเด็กหนุ่มถูกคลอนไปมาบนแท่นบรรทมหินอ่อนของเทพแห่งท้องฟ้าผู้ซึ่งประกบกายขยับอยู่ด้านหลังของอีกคนหนึ่งอย่างไม่ฟังคำวอนใดๆ ทั้งสิ้น  ไม่เพียงแต่ต่อกันไม่ยอมปล่อยเท่านั้น  ร่างสูงยังสวนกายเข้าออก สอดใส่ความต้องการด้วยแกนกายร้อนอันใหญ่โตมากกว่าสองเท่าของบุรุษเพศทั่วไปอีกด้วย

อ๊า! อือ  ข้าเจ็บ....อึก เจ็บเหลือเกิน....ได้โปรดเถอะฮอรัส  ปล่อยข้าไป  ข้ากลัวแล้ว....อ้าาา!” เบคน้อยที่อยู่ใต้เงาใหญ่ของเทพแห่งทุกสรรพสิ่งทั้งปวง กระเสือกกระสนหวังพาตัวเองให้หนีออกไปจากความเจ็บปวดนี้แต่ทว่ากลับเป็นไปได้เพียงแค่ความคิดไม่เข้าท่าเท่านั้น

ฮอรัสที่ความต้องการเข้ากัดกินจนไม่เหลือตัวตนเดิมคงจะไม่ยอมให้ร่างเล็กทำแบบนั้นเป็นแน่

ร่างสั่นเทาที่บอบช้ำของมนุษย์ตัวน้อยถูกกดให้แนบลงกับพื้นเตียง  เบคโดนกดทับด้วยสะโพกด้านบนที่ตรึงทุกการเคลื่อนไหวทุกอย่างเอาไว้เด็กหนุ่มจึงทำได้แต่เพียงดิ้นรนและร้องขอความเห็นใจเพียงเท่านั้น......แต่ทว่าสูญเปล่า

เสียงขยับกายสวบสาบแม้จะเป็นเพียงแค่การขยับออกดังขึ้นบ่งบอกถึงการฉีกขาดภายในช่องทางที่ชืนแฉะนั้น

อะ อ๊าา!!” คนโดนกระทำร้องลั่น  เด็กหนุ่มยกสะโพกให้ลอยขึ้นตามอีกคนหนึ่งที่ชักกายออกเพื่อไม่อยากให้การเคลื่อนไหวนั้นสร้างรอยแผลให้ตนได้อีก  เบคเจ็บมากเหลือเกิน  เจ็บเกินกว่าที่เคยเป็นมาและไม่ไหวจะทนอีกต่อไปแล้ว  ฮอรัสที่คร่อมกายอยู่เหนือร่างน้อยอันสั่นเทิ้มเปรียบเสมือนกับร่มบังสายฝนที่สาดกระหน่ำลงมา คล้ายเพื่อรักษาร่างของคนด้านล่างให้ปราศจากความเปียกชื่นของสายฝนเอาไว้  แต่ทว่ากลับไม่ใช่......เค้าดันกายกลับเข้าไปที่เดิม

“อ่าาา!” เรือนผมสีน้ำตาลฟุบลงกับผ้าไหมรองนอนไร้ที่ติซึ่งตอนนี้กลับชุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อของเค้าเอง “อา...เจ็บ....ฮึก....ไม่เอา  อย่าขยับอีกเลย ได้โปรด...อืออ อ้าา” ฮอรัสดันเข้ามาลึกอีก  เบคขอร้องปนเสียงเล็กแหลมคล้ายกับร้องไห้ไปด้วย  เล็บสั้นจิกทึ้งกับผ้าไหมลื่นมืออย่างแรงราวกับว่าต้องการฉีกกระชากมันให้ขาดไป



.



.



.



TBC.



-------------------------------------------------------------------------------------------------



อืมเบค  ถ้าหนูเลิกดื้อแล้วหยุดผลักไสเค้า ไรท์ว่าทุกอย่างคงจะง่ายออกมาในรูปที่ดีกว่านี้นะจ๊ะ.....ฮอรัสฟิวด์ขาดแล้วขืนใจเลย  โอ้!!  สาย S อีกและ  เคะเจ็บอีกตามเคย 555555 //ยังมีหน้ามาหัวเราะ -*-//  และไรท์ว่าคงจะไม่แคล้วน้วมกว่าเดิมแน่เลยค่ะ.......ค้างตอนนี้จนได้ ตึงง..........

อ๊ากกกกกก!! ไรท์ขอโทษค่าาา  ขอโทษๆๆๆ  //เอามือกุมหัวหลบตีนรีด//  คะ คะ คือว่าถ้าต่อจน NC จบมันจะยาวเกินไปค่ะ  เดี๋ยวตาลายจะมึนงงเอาได้นะคะ  ไรท์เลยยกยอดไป Part หน้าค่ะ  เป็นห่วงสายตาของรีดอย่างยิ่งยวด เพราะงั้นกรุณารอ Part หน้าอีกสักหน่อยนะคะ >M<

แต่เบคก็น่าสงสารจริงๆ ล่ะเนอะ ดูเจ็บปวดจริงๆ เลย  แอบรักเค้าแต่ก็กลัวตัวเองผิดหวังเลยเก็บกดเสียจนระเบิดออกมาในรุปแบบของน้ำตา  ฮ่อลลลล ฮอรัสเองก็ไม่แน่ใจ....พุ่งไปบอกรักเลยสิคะ เบครออยู่  อืม ให้พุ่งไปบอกรัก ไม่ใช่พุ่งมาทำเรื่องอะไรแบบนี้ก่อนสักหน่อย  โถ่วว พ่อเทพแห่งนภาสุดจะเซ็กซี่......ใช้วิธีรุนแรงเพราะอารมณ์เข้าไปอีก -*-  สงสารเบคอีกต่อหนึ่ง

คือ NC เรื่องนี้รีดๆ ต้องเตรียมทิชชู่เอาไว้ไม่ซับเลือดก็ปิดตาค่ะ.....ปล่อยเบคไปเห๊อะ  ขอร้อง เค้าสำนึกผิดแล้วนะเทพบ้า  //โดนปีกเสียบ//  ฮาาาา  ถ้าชอบใจช่วยแชร์แต่ถ้าแคร์ไรท์ก็คอมเม้นท์นะคะ  สำหรับวันนี้ต้องไปประคองหัวเพราะโดนเท้ารีดแล้วล่ะค่ะ 555555

รักรีดทุกท่านมากๆ เลยนะคะ  แปะเฟสด้วยเดี๋ยวลืม 555 >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund





2 ความคิดเห็น:

NATACHA กล่าวว่า...

งื้อออออ~~~ สงสารเบคน้อยยยย
#แต่แอบดีใจเบคตกเป็นของฮอรัสแล้ว โฮ๊ะๆๆ
ไรท์รีบกลับมาต่อน้า จะรออ่านอยู่ > ~ <

Haitest กล่าวว่า...

เบคน่าสงสาร แง้ ไอ้เทพบ้า ถึงจะเป็นพระเอกแต่จะข่มขืนนายเอกไมไ่ด้นะ!! 555555