วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[Fic – God Of Egypt] + [Part 3] Eternally...ชั่วนิจนิรันดร์ – Horus x Bek






รู้สึกหลงรักเบคมากกก  ขนาดหน้าข้องก็ยังน่ารักค่ะ >////<  ไม่แปลกใจ  ทำไมฮอรัสถึงหลงรักโดยไม่รู้ตัววว  อร๊ายๆๆๆๆๆ >{}<  //ออกมาบ้า//

สวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักทุกท่านขาาา  ฮ่อวววว  วันนี้มาช้ากว่าเมื่อวานอีก  แฮ่ ขอโทษทีค่ะ พอดีติดธุระ  เอาล่ะค่ะมาต่อกันเลยจากเมื่อวานนี้นะคะ >//<  ฮอรัสได้เจอกับเบคแล้ว  แล้วเบคก็ได้จัดการไว้แสบมากเลยค่ะ 55555  เห็นเดินหนีเค้าดุ่มๆ แบบนั้นก็ไวเหมือนกันนะเนี่ยย  ป้าอโนซิสตามหาฮอรัสเจอจนได้ 55555  ฮอรัสนี่ก็อีกคน  จะยังไงฮึ?  อย่างที่เค้าว่า ผู้ชายมักจะควายเผือกค่ะ....กับเทพคนนี้คงจะใช้ได้เหมือนกันแฮ่ะ 555555  โอเค เลิกรั่ว!!  //ไม่ทันแล้ว โดนเสียบ//

555555555  Part นี้มีอะไรพิเศษที่น่าสนใจไหม  Nc ฮอรัสเบคเราจะมารึยัง?  ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ ทะเลทรายกำลังถามหาทุกท่านอยู่  ปายโล้ดดดดด  >0<



--------------------------------------------------------------------------------------



ฮอรัสยิ้มแฮ่  แต่คราวนี้ดูจริงใจกว่าครั้งแรกมาก “งั้นเหรอ” เค้าพูดก่อนจะโดนดึงไปห้องอาบน้ำ



.



.



.



**************************************************************************



“ห๊ะ? ว่ายังไงนะ  เจ้าวิ่งหนีเค้ามายังงั้นหรือ?” เสียงไม่เชื่อหูเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่าของคนตรงหน้าทำให้ซาญ่าอุทานออกมาก่อนจะหัวเราะเสียจนตัวเกือบหงาย  ไม่สนใจว่าจะทำร้ายจิตใจเบคหรือไม่

“เปล่าซะหน่อย  ข้าไม่ได้พูดคำว่าวิ่งเลยนะ” เบคที่นั่งเอามือท้าวอยู่ข้างแก้มเถียง “ข้าไม่ได้วิ่งหนีเค้าซะหน่อย” ประโยคหลังเจ้าตัวหันมางึมงำกับตัวเอง  ซาญ่ายืนขึ้นจากเก้าอี้  ประจันหน้าแบบต่างระดับกับเบค  นางหัวเราะไม่หายก่อนจะเล่นหูเล่นตากับเค้า “ข้าว่าตอนนี้เจ้าเริ่มเหมือนสาวน้อยแล้วล่ะ”

หญิงสาวยิ้มให้เด็กหนุ่มที่เริ่มเห็นว่านางไม่น่าคุยด้วยเสียแล้ว......ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครที่เค้าจะสามารถคุยด้วยได้โดยไม่ต้องโดนเอาเปรียบบ้างเลยหรือยังไง  ราวกับว่าเด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายผิดตลอดเลย  ไม่ใช่เสียหน่อย! ถ้าจะตราหน้าคนผิดต้องไปหาเจ้าเทพไร้ความรับผิดชอบนั่นต่างหาก

“ไม่และไม่ ซาญ่า” เบคที่ท้าวข้อศอกกับที่ท้าวแขนของเก้าอี้โบกมือปฏิเสธจนนิ้วชี้ทั้งสองของเค้าแตะกัน

“อะไรไม่งั้นเหรอเบค?” นางถาม  เริ่มใช้สำเนียงเมื่อครั้งยังอยู่ข้างถนนโดยไม่รู้ตัว  แต่ที่แน่ๆ หญิงสาวกำลังสนุกอยู่  ซึ่งกลับกันอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นไม่ได้สนุกด้วยเลย  เค้าสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะ พูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าปัญหาของเค้าไม่ใช่เรื่องตลก

“ไม่ ข้าไม่ได้เป็นสาวน้อยอย่างเจ้าว่า  และไม่ มันไม่ใช่ความผิดของข้าเลย” เบคเอ่ยอย่างร้อนตัวถึงแม้ซาญ่าจะไม่ได้ทันโทษใครว่าผิด  แต่ท่าทางของเบคตอนนี้ก็ดูเหมือนน้องชายที่กำลังไม่พอใจพี่สาวอย่างนางเข้าเสียแล้ว

เป็นแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไรกัน......ซาญ่ายิ้ม  อาจตั้งแต่คราวที่เบคพบว่าตัวเองหงุดหงิดใจครั้งแรกนับตั้งแต่ฮอรัสจากไปกระมัง

หญิงผู้มีตำแหน่งในวังหลวงสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหัวหน้านางกำนันนัก จึงกอดอกพยายามคลายยิ้มให้อ่อนลง แต่ทว่ากลับทำไม่ได้  ก่อนจะแสดงท่าทางว่ายอมแพ้ “โอเค  ถ้างั้นข้าก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว ถูกของเจ้า เจ้าควรถูกมองว่าไร้ความผิดบ้างจากความแง่งอนของตัวเอง”

“อะไรนะ?  เฮ้ ขอโทษเถอะ” เบคลุกขึ้นเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้อีกแล้ว  เค้าไม่รู้ว่าควรโต้ตอบกับซาญ่ายังไงดีเพื่อให้ชนะ  แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วผู้กำชัยเช่นทุกทีเดินหนีหันหลังให้เค้าไปก่อนแล้ว  เบครู้สึกอยากปลีกตัวออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวเสียจริง  จะให้อยู่คนเดียวก็ได้แต่การที่เถียงซาญ่าไม่ขึ้นก็ไม่ทำให้เจ้าตัวอารมณ์บูดได้เท่ารับรู้ถึงการมีอยู่ของฮอรัส  ทำไมกันนะ? ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งกลับมาแล้วเบคควรเบาใจลงได้แล้ว  แต่ทว่าการรู้ว่าอยู่ในสถานที่เดียวกับฮอรัสกลับทำให้เด็กหนุ่มว้าวุ่นใจ

ไม่ดีเอาเสียเลย  ยิ่งไม่ดีไปกันใหญ่.......

เบคครุ่นคิดถึงท่าทีของตัวเองเมื่อเทพแห่งท้องฟ้ากลับมา  มันดูไม่เหมาะสมเอาเสียเลย  ใช่   หากตรงนั้นอโนซิสอยู่ด้วยเบคคงโดนบ่นเรื่องคำพูด  เด็กหนุ่มตรองดูแล้วกิริยาไม่พอใจเมื่อเช้านี้ไม่ควรอย่างยิ่ง  ถึงแม้ฮอรัสจะรู้ตัวหรือไม่ว่าปล่อยให้เบครอนานเกินไป  แต่เบคก็ไม่ควรแสดงอาการงี่เง่าเช่นนั้นออกไป  เค้าโตแล้ว  โตพอที่จะรู้ว่าอะไรคืออะไร  แต่จะพูดก็พูดเถอะบทสนทนาที่ระเบิดไปเมื่อเช้านี้ก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกพอใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในเมื่ออยู่ในห้องของเค้าไปก็รั้งแต่จะได้โดนซาญ่าเล่นงานอีกรอบ  กิจธุระใดๆ ก็ไม่มีให้ทำอีกแล้ว  รึจะออกไปเดินเล่นก็คงไม่วายได้ไปเจอเจ้าเทพนั่นอีกเป็นแน่  เบคจึงเลือกหยิบผ้าฝ้ายผืนใหญ่ติดมือออกมาแล้วมุ่งหน้าไปสู่ปีกตะวันตกที่มีน้ำจากแม่น้ำไนล์กักเก็บอยู่อย่างเหลือเฟือเหลือใช้  วันนี้อากาศแจ่มใสเกินไปเหลือเกินจนเค้ารู้สึกเหนียวตัวเพราะลมร้อนจากผืนทราย

เด็กหนุ่มที่ผมยาวเกือบประบ่าเดินออกไปแล้วอย่างเงียบเชียบ  กว่าหญิงสาวคนเดียวซึ่งเหลืออยู่ในห้องจะนึกขึ้นได้ว่านางมีงานต้องทำในตอนค่ำเบคก็ออกไปได้พักหนึ่งแล้ว  นี่ก็เย็นแล้วซาญ่าควรรีบไปมิฉะนั้นจะโดนอโนซิสบ่นเรื่องเวลาเอาอีก  หญิงสาวร่างเพรียวเร่งเดินออกจากห้องไปเพื่อหวังจะไปให้ทันการเตรียมงานเลี้ยงในท้องพระโรงทองคำของพระราชวัง  แต่แล้วนางกลับเป็นอันต้องชะงักไปเมื่อมีแขกที่ไม่คาดฝันมาเยี่ยมเยือนถึงหน้าห้อง

“โอ้  เทพฮอรัส...พระองค์” บุคคลใหม่ทำให้หญิงสาวตกใจเป็นอย่างยิ่ง  ซาญ่าก้มลงคุกเข่าเพื่อถวายความเคารพจนแทบไม่ทัน  ใบหน้าที่ได้รับการประทินนั้นก้มต่ำลง  ชั่งใจว่าจะเอ่ยถามดีไหมแต่มันก็คงจะไม่แปลกหากเจ้าของสถานที่อันใหญ่โตแห่งนี้อยากจะออกมาเดินเล่น

“พระองค์มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้หรือเพคะ?”

ชายร่างสูงใหญ่ที่ฉลองพระองค์เป็นชุดเกราะสีทอง  ประทับด้วยขนนกทองคำบนไหล่ซ้ายขาวทั้งสองข้าง  พร้อมทั้งผ้าคลุมปักเลื่อมอัญมณีสีน้ำเงินดุจดั่งท้องนภากว้างนั้นก็ยิ่งขับให้คนสวมใส่ดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น  ฮอรัสทำหน้าสนใจในคำถามราวกับไม่คิดว่าตนจะโดนทัก  เทพแห่งท้องฟ้ายิ้มก่อนจะพูด “เปล่า  ข้าแค่มาดินเล่นน่ะ”  ขาแกร่งที่สวมรองเท้าสานหนังอย่างดีเดินเตร่ไปสองสามก้าว

ซาญ่าไม่เชื่อถึงแม้นั่นจะเป็นคำที่ออกมาจากปากเทพที่นางเคารพที่สุดก็ตาม  นางจะเชื่อหากฮอรัสหยุดเดินไปมาแล้วคุยกับนางดีๆ  แล้วสายตาที่คอยมองหาใครนั่นอีกล่ะ......มาเดินเล่นเสียที่ไหนกัน

“ว่าแต่เจ้าเห็นเบคบ้างไหม?” นั่นอย่างไรล่ะ  พระองค์ทรงถามหาเค้าแล้ว

“เห็นว่าไปอาบน้ำเพคะ  แต่ไม่ได้บอกนางกำนัน  ข้าเดาว่าเค้าคงจะไปทางฝั่งตะวันตก  ปรกติเค้ามักจะทำอย่างนี้เสมอเพคะ” ซาญ่าที่มีใบหน้ายิ้มแย้มทูลตามความเป็นจริง  ฮอรัสคิดว่านางเป็นสวยน้อยที่ชอบยิ้มใช้ได้เลย เนื่องจากเค้าไมรู้เจตนาว่านางยิ้มเพราะอะไร

“โอ้งั้นเหรอ เอ่อ...ถ้างั้นก็เชิญเจ้าตามสบายเถอะนะ” ร่างสูงว่า เสียงเค้ามีพิรุธมากกว่าที่คาดเอาไว้  แขนแกร่งถูกยกขึ้นไพ่หลัง มองหญิงสาวคนนี้ออกว่าคงมีธุระที่ต้องไปทำต่อ  ซาญ่าถวายบังคมครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปตามหน้าที่อย่างรู้งาน  บางทีหากนางคิดถูกฮอรัสอาจเดินเล่นไปจนถึงปีกตะวันตกของวิหารเลยก็เป็นได้

และใช่  นางคิดถูก

เทพแห่งนภาเร่งเดินไปยังฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นวิหารของตัวเอง  ที่นั่นมีห้องอาบน้ำซึ่งมีน้ำที่ใสที่สุดจากแม่น้ำไนล์ไหลเวียนอยู่ในห้องชำระร่างกายนั้น  และมีเพียงชนชั้นสูงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้ได้  ฮอรัสไม่ได้หวงแหนมันนัก แต่ว่าร่างสูงของเค้ากำลังรีบและด้วยขาแกร่งของเทพเจ้าจึงเกิดช่วงเดินที่ยาวกว่ามนุษย์ทั่วไปส่งผลให้ไปถึงที่หมายได้อย่างทันใจของตัวเอง 

กระทั่งไปถึงร่างสูงก็ได้ยินเสียงทางกั้นน้ำที่เปิดออกส่งผลให้เกิดเสียงน้ำไหลวนไปทั่วทั้งสระกว้างใหญ่ของห้อง  ฮอรัสหยุดอยู่เพียงเท่านั้น ก่อนจะบอกให้ทหารหกคนซึ่งยืนเฝ้าอาณาเขตหวงห้ามให้ออกไปพักเสียจนกว่าจะมีคนมาเปลี่ยนกะใหม่

ผู้รับใช้ออกไปโดยไม่มีคำถามใดๆ  ฮอรัสเพียงอยากจะคุยกับเบคให้รู้เรื่องเท่านั้นว่าเหตุใดถึงได้ทำท่าทีไม่พอใจเค้า  การที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่อาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมพูดง่ายขึ้น  และเมื่อปลอดคนแล้วร่างสูงใหญ่ของกษัตริย์แห่งอียิปต์จึงแหวกม่านอย่างเงียบเชียบแล้วย่างกายเข้าไปเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนที่อยู่ภายในสระอาบน้ำแห่งนี้  หากแต่เด็กหนุ่มคนเดียวที่เข้ามาใช้กลับอยู่ในสระเล็กที่ถูกกั้นเอาไว้ทางมุมห้องเพียงเท่านั้น

ฮอรัสเข้ามาประจวบเหมาะกับที่เบคอาบเสร็จพอดี  ในคราแรกร่างสูงคิดจะเปิดประโยคเพื่อบ่งบอกให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ถึงการมาของตน  แต่เค้ากลับยืนอยู่ตรงนั้น  หน้าม่านสีแดงที่การเคลื่อนไหวใดๆ   ไม่ได้เกิดขึ้น  เป็นเพราะสาเหตุมาจากคนที่เพิ่งยกกายขึ้นจากสระนั่นเอง

เด็กหนุ่มที่เติบโตอยู่ข้างถนนในย่านคนจนของอียิปต์  ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผิวพรรณน่ามองยิ่งกว่าชนชั้นสูงที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังเสียอีก  แผ่นหลังของคนที่ไม่ทันรู้ตัวว่ามีแขกมาเยือน เปลือยเปล่าและขาวสะอาด  เบื้องหน้าของทั้งสองคือทิวทัศน์ที่เปิดโล่งยามอาทิตย์อัสดงมาเยือน  เทพรากำลังทำงานของพระองค์ในขณะที่หลานชายคนเก่งของท่านกำลังเมี่ยงมองเด็กหนุ่มที่เป็นดั่งสหายรักอย่างหลงลืมตัวเองไป

แสงอาทิตย์จากทิวทัศน์นั้นอาบต้องทุกสัดส่วนของเบค  ผิวของเด็กหนุ่มจึงกลายเป็นสีทองและสีส้ม  ผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นก็พลอยกลายเป็นดั่งสีโลหิตบริสุทธิ์ของเทพเจ้าไปด้วย  เบคดูงดงามหากฮอรัสไม่ได้ตั้งใจจะมาพบด้วยตัวเองแล้วล่ะก็คงคิดว่ากำลังถูกภาพลวงตาเล่นตลกอยู่เป็นแน่  ยามเมื่อเด็กหนุ่มร่างเล็กขึ้นมาจากสระนั้นเหล่าหยดน้ำพากันพรั่งพรูไล่เลียผิวกายของเบคและโปรยตัวลงมาราวกับประกายแสงอาทิตย์ที่ถูกปล่อยทิ้งจากเรือของมหาเทพรา

เบคไม่รู้ตัวเลยว่าฮอรัสเข้ามาแล้ว  ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยู่ห่างออกไปที่ปากประตูใหญ่ก็ไม่เอ่ยส่งเสียงใดๆ เลย  มองเพียงแค่สหายตัวน้อยที่หยิบผ้าฝ้ายผืนเล็กขึ้นมาเช็ดสะโพกเต่งตึงนั้นก่อนจะพันมันรอบเอวแล้วแก้เชือกรัดผมหยักศกเป็นลอนเอาไว้ไม่ให้เปียกน้ำออก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเปียกปอนจากการชำระร่างกายอยู่ดี   เบคหยิบผ้าฝ้ายฝืนใหญ่ขึ้นมาเช็คเนื้อตัวบ้างก่อนจะหันมาเจอกับฮอรัสที่ยื่นนิ่งเป็นรูปสลัก

เฮ้ยยยย!” เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ตวัดผ้าคลุมห่มกายโดยอัตโนมัติจนมันส่งเสียงดังพรึ่บ  ส่วนฮอรัสเองก็พลอยตกใจไปด้วย  ร่างสูงผงะถอยไปตั้งหลักหนึ่งก้าวแล้วจึงกระพริบตาไปมา ทำหน้าเหมือนไม่ได้เห็นอะไรตั้งแต่แรกแล้วเอ่ย

“โอ๊ะ โทษที” เทพแห่งท้องฟ้าพูดได้แค่นั้น

“ท่านมาทำอะไรที่นี่กันน่ะห๊าา?!” เบคห่อตัวในผ้าฝ้ายผืนนิ่ม มองคนที่มีสิทธิ์เข้ามาอย่างถูกต้องด้วยสีหน้าเลิกลั่ก  ร่างกายที่เล็กกว่าอยู่แล้วของมนุษย์ก็หดหนีอย่างตื่นตกใจ

ฮอรัสผายมือ  คิดไม่ออกเช่นกันว่าจะตอบออกไปว่าอย่างไรดี “เอ่อ...ข้าจะมาในที่ของข้ามันผิดด้วยยังงั้นเหรอ?” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตั้งคำถามกลับไปเพื่อรักษาหน้าของตัวเองไว้......จะมาปล้นคำตอบจากเค้าแท้ๆ แต่กลับไปยื่นหลงอะไรอยู่ได้  ฮอรัสตำหนิตัวเอง  และหากเบครู้ถึงจุดประสงค์ว่าเค้าตั้งใจมาหาโดยตรงเด็กหนุ่มคงจะเห็นว่าการพูดเมื่อครู่ฟังดูข้างๆ คูๆ เป็นอย่างมาก  แต่ช่างเถอะ ฮอรัสไม่ห่วงเรื่องนั้นนัก

“โอ้จริงสินะ ข้าลืมไป  นี่วิหารของท่าน” ร่างสูงแววได้ยินเสียงพูดงึมงำกับตัวเองของเด็กหนุ่มที่กำลังหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาเพื่อเร่งออกไปจากที่นี่โดยไว  เพราะหากฮอรัสอยากจะอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เบคต้องอยู่เกะกะอีกฝ่าย  แต่ทว่าฮอรัสกลับเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มแล้วฉุดข้อมือของมนุษย์ที่ดูเปราะบางเอาไว้เสียก่อน เป็นเหตุให้ร่างเล็กใจเต้นระรัวจนรู้สึกไปทั่วทั้งร่าง  คนโดนรั้งมองข้อมือของตัวเองก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบากแล้วเงยหน้ามองอีกผู้หนึ่งที่อยู่สูงกว่า

“เจ้าจะมาที่นี่ทำไมถึงไม่บอกนางกำนันล่ะ” ฮอรัสเอ่ยขึ้น ไม่อยากเข้าเรื่องให้เร็วมากเกินไปนัก

เบคบิดมือหนีแต่อีกคนหนึ่งไม่ยอมปล่อยจึงทำได้เพียงแค่ตอบอ่อมแอ่มไปเท่านั้น “ข้าไม่ชอบให้พวกนางมาวุ่นวายน่ะ” เด็กหนุ่มมองแขนของเทพร่างสูก่อนจะส่ายหน้าทีหนึ่งพร้อมยักคิ้ว “ไม่อยากแขนแดงเหมือนท่าน”  ไม่บอกก็รู้ว่านี่มาจากฝีปากการสั่งของอโนซิส

ฮอรัสเกือบวาดยิ้มออกมาแต่เรื่องความเจ้าระเบียบของอโนซิสก็ไม่ได้อยู่เหนือคำถามในใจของเค้า “เบค” สุรเสียงของจ้าวแห่งนภาเรียกชื่อนั้นอย่างนุ่มนวล “เจ้าอยู่ที่นี่แล้วดีหรือไม่......เอ่อ  ข้าหมายถึงเจ้าอยู่สุขสบายดีหรือเปล่า?”

“อืม  ก็...ใช่  ดีกว่าเมื่อก่อนนี้ลิบลับเลย” เด็กหนุ่มตอบพลางยักไหล่น้อยๆ นึกไม่เข้าใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายหนึ่งก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา  ในที่ๆ มีอาหารกินอิ่มครบสามมื้อและมีที่ให้ซุกหัวนอนได้อย่างอุ่นสบายนั้นเมื่อเทียบกับบ้านหลังเก่าของเค้าแล้วที่นี่ราวกับเป็นสรวงสวรรค์ไปเลยก็ว่าได้  แต่ถึงกระนั้นเบคก็ยังคงไม่เข้าใจ  นึกไม่ชอบใจเสียด้วยซ้ำ......ไม่อยากให้ฮอรัสพูดอย่างนั้นเลย  โปรดอย่าแสดงให้รู้สึกว่าเป็นห่วงกัน หากโอรสแห่งโอซิริสคนนี้ไม่ได้มีใจให้  เบคอาจต้องเสียใจมากกว่าที่เป็นอยู่

เด็กหนุ่มโกรธตัวเองที่มีใจให้ฮอรัส  หลงรักเทพที่ตนให้ความช่วยเหลือแม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอีกฝ่ายมีคนรักที่อาจหมายมั่นปั้นมือให้เป็นราชินีแห่งอียิปต์อยู่ ดังนั้นเบคควรตัดใจตั้งแต่ต้นที่รู้ว่าไมได้คิดถึงซาญ่าอีกต่อไปแล้ว  ในใจของร่างเล็กรู้ตัวอยู่เต็มอกว่าหลงรักเทพร่างสูงองค์นั้น  เค้าควรจะตัดใจซะก่อนจะมีใครอื่นรู้และมันจะพลอยพาผลเสียมาให้

เบคไม่อยากรู้ว่าฮอรัสจะมีสีหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าเค้าหลงรักอีกฝ่าย.....ไม่  มันจะไม่เกิดขึ้นหรอก

หากรู้ว่าฮอรัสมีใจเช่นเดียวกันเบคก็จะอ้าแขนกอดรับเอาไว้ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีแต่ทว่าบัดนี้  ใบหน้าคมคายนั้นกลับเตือนสติให้เด็กหนุ่มรู้ว่าด้วยเหตุผลทั้งปวงของความเป็นจริงสิ่งที่เค้าวอนขอนั้นกลับเป็นไปไม่ได้  นั่นก็เป็นเพราะว่าฮาธอร์ได้หัวใจของจ้าวแห้งท้องฟ้าไปกุมไว้เอาแล้วเรียบร้อย

เบคตอบคำถามของฮอรัสด้วยท่าทีเย็นลงกว่าเมื่อตอนเช้าแล้ว  ร่างสูงจึงยิ้มบางๆ อย่างพอใจ

“งั้นก็ดีกว่าตอนอยู่ข้างนอกนั่นสินะ” ฮอรัสเอ่ย  เทพร่างสูงไม่ได้พูดเสียงดังเลย เสียงทุ้มถูกกดให้ต่ำลง  มันเบาลงต่างจากเมื่ออยู่ต่อหน้าประชาชนเพื่อไม่ให้เบคต้องเกร็งหูขมวดคิ้วยามคุยกับเค้า  อยู่กันแค่นี้ เอ่ยให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนก็พอแล้วกระมัง

“ใช่ ดีกว่า” ร่างเล็กเอ่ยสมสบ  นึกอยากให้เทพจอมเอื่อยเฉื่อยนี่พอใจและหมดธุระเสียที คนถูกถามไถ่นึกไม่อยากให้บรรยากาศโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบแม้เพียงแต่วินาที ความเงียบนั้นอาจทำให้ฮอรัสได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นตึกตักไม่เชื่อฟังคำของเจ้าของอย่างเด็กหนุ่มตัวน้อยคนนี้เอาได้  ก่อนร่างสูงที่สร้างความหวั่นไหวนั้นโดยไม่รู้ตัวจะกล่าวเข้าเรื่องโดยไม่ยืดเยื้อใดๆ อีก

“งานราชการของข้าทำให้เจ้าไม่สบายใจมากหรือไม่?”

“อะไรนะ?...ไม่  ไม่หรอก” เบคหายใจสะดุดก่อนจะกล่าวเลี่ยง  ไม่ชอบหัวข้อนี้เอามากๆ  การจากไปของฮอรัสทำให้ร่างเล็กนึกถึงฉากรักของคนตรงหน้ากับหญิงผู้เป็นที่รักของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่ได้คิดร้ายกับฮอาธอร์ มากกว่านั้นเบคยังชอบนางเสียด้วยซ้ำ  แต่มันก็ทำร้ายจิตใจของเด็กหนุ่มมากเกินไปหากจะคิดภาพนางยืนข้างบัลลังของฮอรัสและเห็นว่าทั้งคู่รักกัน

“เจ้าแน่ใจนะ? ท่าทางเจ้าดูหงุดหงิดใจมากเมื่อเช้านี้”

คนถูกถามสูดหายใจเข้าเล็กน้อยและพบว่ามันยากลำบากมากกว่าทุกที ก่อนจะระบายยิ้มออกมา “เดาว่าข้าคงจะมีคนช่วยมากกว่าท่านเยอะเลย......ธอทดูชอบข้ามากกว่าท่านซะอีก”  ฮอรัสเค้นเสียงหัวเราะเมื่อพูดถึงอดีตอาจารย์ของตนเอง  เค้าคลายมือและปล่อยเบคแล้วเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่มีท่าทีฮึดฮัดและยอมสนทนากันแต่โดยดี  แต่แท้จริงแล้วมนุษย์ตัวน้อยตรงหน้ากลับคิดอยากวิ่งหนีไปซะเดี๋ยวนั้นเลย

“เช่นนั้นเจ้าคงต้องตอบคำถามข้าใหม่” เด็กหนุ่มที่คิดว่าน่าจะหาช่องหนีได้แล้วชักสีหน้าฉงนใส่เทพที่อยู่สูงกว่าก่อนฮอรัสจะเริ่มพูดต่อ “งั้นเอาเป็นว่า...อะไรทำให้เจ้าหงุดหงิดใจนักล่ะ?”

“แล้วท่านพูดเรื่องอะไรล่ะ?” เบคโวยเล็กน้อยนึกไม่ชอบใจที่ฮอรัสกัดไม่ปล่อยเสียจนอยากจะกัดอีกฝ่ายให้ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้กันอีกเลย “ข้าก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร  ทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“ข้านึกว่าเจ้าจะดีใจที่ข้ากลับมา” ร่างสูงแจ้ง  แต่อีกคนหนึ่งกลับยักไหล่ใส่อย่างไม่แย่แสนัก

“ใช่ ข้าดีใจ  ข้าบอกท่านไปแล้วไง” เบคขมวดคิ้วทำหน้าราวกับว่าก็พูดไปแล้วไงแล้วจะเอาอะไรอีก  แต่ใครจะไปรู้ว่าขณะพูดออกไปนั้นหัวใจของเด็กหนุ่มกำลังถูกบีบขยี้เข้าหากันอย่างรุนแรงมากแค่ไหน เมื่อคำพูดนั้นบ่งบอกว่าฮอรัสไม่รับรู้ถึงความตั้งใจที่จะรอและอยากพบกันอีกครั้งของเบคเลย  ไม่แม้แต่จะเห็นใจ.....ใช่ ข้าดีใจสิที่ท่านกลับมา  ดีใจมากเสียด้วยซ้ำแล้วท่านล่ะ  ดีใจหรือไม่ที่เห็นข้าอีก หรือไม่พอใจที่ข้าต้อนรับได้ไม่ถูกใจพอ 

ความคิดนั้นชวนให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนนึกอยากทำหน้าเบ้  หากฮอรัสคาดคั้นมากกว่านี้เค้าอาจได้ร้องไห้ออกมาเพราะความสุดจะทนได้  การกักเก็บความรู้สึกห่วงหาและอ้างว้างเพียงคนเดียวมาตลอดหลายปีมันน่ากลัวมากกว่าที่ใครจะคิด  บางทีอาจดีที่สุดแล้วหากเบคจะตัดใจแต่จะทำได้อย่างไรในเมื่ออีกคนหนึ่งกลับมีท่าทีแปลกไป  ไม่ชอบพูดจาเอาชนะหรือแยกชนชั้นว่าตัวเองเป็นเทพเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว  กลับเอาแต่พูดจาเนิบช้าน่ารำคาญเหมือนเราเจอกันทุกวันและเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คือเรื่องจากเมื่อวานที่ถูกหยิบยกเอามาพูดเพราะไม่มีหัวข้อสนทนา

มันทำให้เบคโมโหอย่างเจ็บปวดด้วยความน้อยใจของตัวเอง

พอเถอะฮอรัส......หากมีความรู้สึกเหมือนเมื่อวันวานก็จงทำตามปรกติดั่งเช่นที่ท่านทำมาโดยตลอดเถอะอย่าเปลี่ยนแปลงไปจนทำให้เด็กหนุ่มคนนี้หวั่นไหวอีกเลย

“ไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวล่ะ” เบคพูดห้วนๆ ฟังดูรีบร้อนเกินไปจนไม่ใส่ใจ  และในขณะที่กำลังก้าวเท้าออกไปนั้นเองฮอรัสก็คว้าหมับเข้าที่ลำแขนเล็กเปลือยเปล่า

“ข้ายังพูดกับเจ้าไม่จบ” คนเริ่มพูดแต่แรกว่า  น้ำเสียงเข้มขึ้นมาเพราะเด็กมนุษย์ตรงหน้านี้ทำตัวดื้อดึงไม่เลิก......จะเป็นอะไรนักหนานะแค่พูดออกมาก็จบไปนานแล้ว  แท้จริงแล้วเบคไม่ใช่คนที่ช่างเก็บเล็กเก็บน้อยเช่นนี้มิใช่หรือ เวลาอยากจะเอ่ยอะไรออกมาก็ติดจะไม่เกรงใจใครเสียด้วยซ้ำไป

การเจรจาที่ส่อแววว่าต้องทำการบังคับคาดคั้นนั้นทำให้เทพร่างสูงเกิดความไม่เข้าใจเบคเป็นอย่างยิ่ง  เค้าจากไปนานขนาดเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็ไม่อยากจะพูดให้ฟังเลยเชียวหรือ?  ไม่  เบคไม่รู้หรอกว่าร่างสูงจะต้องทนคิดถึงอีกฝ่ายมากแค่ไหน  ต้องรอนแรม ฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อให้ได้พบฮาธอร์ถึงแม้ใจจริงจะอยากกลับมาเจอหน้าของเด็กหนุ่มจนแทบจะขาดใจมากก็ตาม   แต่หลังจากตรากตรำเพราะคิดถึงอยู่นานพอได้กลับมาร่างสูงกลับเจอแต่แววตาตัดพ้อและกิริยาหมางเมินที่ชวนให้ข้องใจ

“ข้าพูดจบแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดอีก เกรงว่าท่านคงต้องไปหาเรื่องคนอื่นแทนข้าเสียแล้วล่ะ” เบคเกร็งแขนขัดขืนแล้วดึงออก  แต่ฮอรัสบีบแน่นกว่าเดิมจนคนถูกรั้งให้อยู่ก่อนต้องทำหน้านิ่ว

โอ๊ย ข้าเจ็บนะ” เด็กหนุ่มห่อไหล่แล้วเบี่ยงแขนหนีอีกเพื่อบ่งบอกให้อีกคนหนึ่งปล่อยมือเสียที “ขอโทษเถอะถ้าท่านว่างมากถึงขนาดมาหาเรื่องข้าได้ล่ะก็ ข้าว่าท่านควรจะไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองของตัวเองมากกว่านะ  ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ไปซะเถอะก่อนจะมีคนถามหาถึงท่าน!” เด็กหนุ่มเอ็ด หากไม่ติดว่าแขนของตัวเองโดนพันธนาการไว้จะออกแรงผลักเจ้าเทพจอมเรื่องมากนี่ไปเสียหน่อยเถอะ  แต่เหตุใดทำไมต้นแขนที่ถูกบีบให้แรงขึ้นของเบคถึงได้ถูกยกสูงขึ้นนะ  เด็กหนุ่มพยายามยื้อแขนตัวเองกลับ

“ดูเจ้าก่อนเถอะ  พูดเหมือนใครไปเสียแล้ว” ฮอรัสดึงแขนเบคกลับมา

“ใครกัน ท่านหมายถึงใคร?”

คนอื่นไง  หรือเจ้ากลายเป็นคนไม่กล้าพูดความจริงไปตั้งแต่เมื่อไรกันล่ะ” เทพร่างสูงก้มตัวลงมา และกดเสียงต่ำลง  เบคหน้าชา  กลัวสุดหัวใจเมื่อฮอรัสต้องการรู้ความลับที่เจ้าตัวตั้งใจจะเก็บไว้ให้ไกลห่าง

“จะกล้าหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระของท่านหรอก เรื่องของข้ามันสำคัญขนาดนั้นเลยรึยังไง  ปล่อยข้า!...”

“ใช่สิเบค มันสำคัญ” เสียงทุ้มกระด้างขึ้นเพราะโทนเสียงที่ดังขึ้น ก่อนเด็กหนุ่มจะชะงักไปในทันทีแล้วบิดแขนตัวเองออกอย่างไร้ผลแต่ก็ยังอยากลองที่จะทำมัน

“ปละ ปล่อยข้าเถอะ  อย่าเพิ่งมาเสียเวลากับข้าตอนนี้...”

ช่างหัวงานเลี้ยงนั่นเถอะ! ข้าไม่ใช่คนที่อยากได้มันเลยในตอนนี้ข้าอยากรู้ความจริงจากปากของเจ้ามากกว่างานฉลองงี่เง่านั่นที่พวกเค้าจัดให้ข้า!” ฮอรัสคนเก่ากลับมาแล้วเมื่อราชาแห่งอียิปต์พูดเสียงดังเพราะอารมณ์โกรธ พร้อมกับออกแรงกระชากแขนของมนุษย์ที่เริ่มเป็นรอยแดงจนคนถูกฉุดต้องเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด 

จ้าวแห่งท้องฟ้าขมับเริ่มเต้นตุบๆ......อีกคนหนึ่งจะบ่ายเบี่ยงไปถึงไหนกัน  พูดถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกหรือว่าตัวเค้าเห็นเรื่องของอีกฝ่ายสำคัญกว่าแค่ไหน  ฮอรัสเบื่อแล้วกับเรื่องที่เบคเอามาใช้เพื่อเอาตัวรอด “ท่าทางเอาใจยากของเจ้าทำข้าหงุดหงิดยิ่งกว่าความจู้จี้ของอโนซิสซะอีก”

“โอ้ งั้นเหรอ!” เบคขึ้นเสียงบ้าง ไม่สนใจจะแกะแขนกลับไปชั่วขณะหนึ่งเพราะแรงอารมณ์ “งั้นข้าคงจะน่ารำคาญมากเลยสินะ” เด็กหนุ่มถลึงตาใส่เทพที่อยู่สูงกว่าอย่างไม่เกรงกลัว “ข้าจะบอกอะไรให้นะ ท่านน่ะมันเป็นเทพเอาแต่ใจแถมยังชอบทำอะไรสิ้นคิดอีกต่างหาก ไม่แปลกใจเลยทำไมธอทถึง...อ๊ะ!



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------------



มาถึงฉากที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ใน Part แรกแล้วค่ะ >//<  (ก็ไอ้ฉากที่ทำรีดๆ งงนั่นแหละนะเออ) + (โอโห้  แกตัดได้กวนมากเลย  จะตัดไปเพื่อ???)  มันเป็นฉากไคล์แม็กที่ทั้งสองกระทบกระทั่งกันค่ะ  และปรากฏว่า NC ยังมะมาาาา  บู่วววว //โดนรีดเอาหอกเสียบ//  อูยยยย ขอโทษค่ะ -_+  บางทีไรท์ก็ชอบลีลาเขียนไปเรื่อยจนหน้ามันเยอะน่ะค่ะ  รอไรท์หน่อยนะเออ ตามลำดับเรื่องเลยค่ะ ><

ง่อวววว  ขอบคุณนะคะสำหรับการแวะมาเยี่ยมชม  และรักรีดที่อ่านทุกท่านเลยค่ะ ><   วันนี้ไม่ค่อยมีเรื่องฝอยแฮ่ะ  งั้นเอาเฟสไรท์ไปค่ะ (รีดบอก .....ไม่อยากได้ -*-) >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<

Part หน้ารีดเดาออกกันไหมคะว่าจะมีอะไรต่อไปปป >3<  อดใจรอกันหน่อยนะคะ  อึบๆๆๆ  //พอได้แล้วว!!  โดนต่อยหน้า//  โอเคค่ะ ต้องไปจริงๆ แล้ว  เจอกัน Part นะคะรีดขาา  //ส่งจูบ//

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund



1 ความคิดเห็น:

Haitest กล่าวว่า...

เบคน่ารักมากๆๆๆๆๆ เขียนออกมาได้ดีเลยค่ะ ดูคงคาแรคเตอร์ไว้ทั้งคู่
ในหนังน้องเบรนตั้นเลนไวไ้ด้น่ารักมากจริง ๆ ค่ะ ฮอลลลลล