รู้สึกหลงรักเบคมากกก ขนาดหน้าข้องก็ยังน่ารักค่ะ >////< ไม่แปลกใจ ทำไมฮอรัสถึงหลงรักโดยไม่รู้ตัววว อร๊ายๆๆๆๆๆ >{}< //ออกมาบ้า//
สวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักทุกท่านขาาา ฮ่อวววว
วันนี้มาช้ากว่าเมื่อวานอีก แฮ่
ขอโทษทีค่ะ พอดีติดธุระ
เอาล่ะค่ะมาต่อกันเลยจากเมื่อวานนี้นะคะ >//< ฮอรัสได้เจอกับเบคแล้ว แล้วเบคก็ได้จัดการไว้แสบมากเลยค่ะ 55555 เห็นเดินหนีเค้าดุ่มๆ แบบนั้นก็ไวเหมือนกันนะเนี่ยย ป้าอโนซิสตามหาฮอรัสเจอจนได้ 55555 ฮอรัสนี่ก็อีกคน จะยังไงฮึ?
อย่างที่เค้าว่า ผู้ชายมักจะควายเผือกค่ะ....กับเทพคนนี้คงจะใช้ได้เหมือนกันแฮ่ะ
555555 โอเค เลิกรั่ว!! //ไม่ทันแล้ว โดนเสียบ//
555555555 Part นี้มีอะไรพิเศษที่น่าสนใจไหม
Nc ฮอรัสเบคเราจะมารึยัง? ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ ทะเลทรายกำลังถามหาทุกท่านอยู่ ปายโล้ดดดดด
>0<
--------------------------------------------------------------------------------------
ฮอรัสยิ้มแฮ่ แต่คราวนี้ดูจริงใจกว่าครั้งแรกมาก
“งั้นเหรอ” เค้าพูดก่อนจะโดนดึงไปห้องอาบน้ำ
.
.
.
**************************************************************************
“ห๊ะ? ว่ายังไงนะ เจ้าวิ่งหนีเค้ามายังงั้นหรือ?”
เสียงไม่เชื่อหูเมื่อได้ยินประโยคบอกเล่าของคนตรงหน้าทำให้ซาญ่าอุทานออกมาก่อนจะหัวเราะเสียจนตัวเกือบหงาย ไม่สนใจว่าจะทำร้ายจิตใจเบคหรือไม่
“เปล่าซะหน่อย ข้าไม่ได้พูดคำว่าวิ่งเลยนะ”
เบคที่นั่งเอามือท้าวอยู่ข้างแก้มเถียง “ข้าไม่ได้วิ่งหนีเค้าซะหน่อย”
ประโยคหลังเจ้าตัวหันมางึมงำกับตัวเอง
ซาญ่ายืนขึ้นจากเก้าอี้ ประจันหน้าแบบต่างระดับกับเบค นางหัวเราะไม่หายก่อนจะเล่นหูเล่นตากับเค้า
“ข้าว่าตอนนี้เจ้าเริ่มเหมือนสาวน้อยแล้วล่ะ”
หญิงสาวยิ้มให้เด็กหนุ่มที่เริ่มเห็นว่านางไม่น่าคุยด้วยเสียแล้ว......ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครที่เค้าจะสามารถคุยด้วยได้โดยไม่ต้องโดนเอาเปรียบบ้างเลยหรือยังไง ราวกับว่าเด็กหนุ่มจะเป็นฝ่ายผิดตลอดเลย ไม่ใช่เสียหน่อย! ถ้าจะตราหน้าคนผิดต้องไปหาเจ้าเทพไร้ความรับผิดชอบนั่นต่างหาก
“ไม่และไม่ ซาญ่า”
เบคที่ท้าวข้อศอกกับที่ท้าวแขนของเก้าอี้โบกมือปฏิเสธจนนิ้วชี้ทั้งสองของเค้าแตะกัน
“อะไรไม่งั้นเหรอเบค?”
นางถาม เริ่มใช้สำเนียงเมื่อครั้งยังอยู่ข้างถนนโดยไม่รู้ตัว แต่ที่แน่ๆ หญิงสาวกำลังสนุกอยู่
ซึ่งกลับกันอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นไม่ได้สนุกด้วยเลย เค้าสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะ
พูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าปัญหาของเค้าไม่ใช่เรื่องตลก
“ไม่ ข้าไม่ได้เป็นสาวน้อยอย่างเจ้าว่า และไม่ มันไม่ใช่ความผิดของข้าเลย”
เบคเอ่ยอย่างร้อนตัวถึงแม้ซาญ่าจะไม่ได้ทันโทษใครว่าผิด
แต่ท่าทางของเบคตอนนี้ก็ดูเหมือนน้องชายที่กำลังไม่พอใจพี่สาวอย่างนางเข้าเสียแล้ว
เป็นแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไรกัน......ซาญ่ายิ้ม อาจตั้งแต่คราวที่เบคพบว่าตัวเองหงุดหงิดใจครั้งแรกนับตั้งแต่ฮอรัสจากไปกระมัง
หญิงผู้มีตำแหน่งในวังหลวงสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหัวหน้านางกำนันนัก
จึงกอดอกพยายามคลายยิ้มให้อ่อนลง แต่ทว่ากลับทำไม่ได้ ก่อนจะแสดงท่าทางว่ายอมแพ้ “โอเค ถ้างั้นข้าก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว ถูกของเจ้า
เจ้าควรถูกมองว่าไร้ความผิดบ้างจากความแง่งอนของตัวเอง”
“อะไรนะ? เฮ้ ขอโทษเถอะ”
เบคลุกขึ้นเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้อีกแล้ว
เค้าไม่รู้ว่าควรโต้ตอบกับซาญ่ายังไงดีเพื่อให้ชนะ
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วผู้กำชัยเช่นทุกทีเดินหนีหันหลังให้เค้าไปก่อนแล้ว เบครู้สึกอยากปลีกตัวออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวเสียจริง
จะให้อยู่คนเดียวก็ได้แต่การที่เถียงซาญ่าไม่ขึ้นก็ไม่ทำให้เจ้าตัวอารมณ์บูดได้เท่ารับรู้ถึงการมีอยู่ของฮอรัส ทำไมกันนะ? ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งกลับมาแล้วเบคควรเบาใจลงได้แล้ว แต่ทว่าการรู้ว่าอยู่ในสถานที่เดียวกับฮอรัสกลับทำให้เด็กหนุ่มว้าวุ่นใจ
ไม่ดีเอาเสียเลย ยิ่งไม่ดีไปกันใหญ่.......
เบคครุ่นคิดถึงท่าทีของตัวเองเมื่อเทพแห่งท้องฟ้ากลับมา มันดูไม่เหมาะสมเอาเสียเลย ใช่ หากตรงนั้นอโนซิสอยู่ด้วยเบคคงโดนบ่นเรื่องคำพูด เด็กหนุ่มตรองดูแล้วกิริยาไม่พอใจเมื่อเช้านี้ไม่ควรอย่างยิ่ง
ถึงแม้ฮอรัสจะรู้ตัวหรือไม่ว่าปล่อยให้เบครอนานเกินไป
แต่เบคก็ไม่ควรแสดงอาการงี่เง่าเช่นนั้นออกไป เค้าโตแล้ว
โตพอที่จะรู้ว่าอะไรคืออะไร
แต่จะพูดก็พูดเถอะบทสนทนาที่ระเบิดไปเมื่อเช้านี้ก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกพอใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ในเมื่ออยู่ในห้องของเค้าไปก็รั้งแต่จะได้โดนซาญ่าเล่นงานอีกรอบ กิจธุระใดๆ ก็ไม่มีให้ทำอีกแล้ว
รึจะออกไปเดินเล่นก็คงไม่วายได้ไปเจอเจ้าเทพนั่นอีกเป็นแน่
เบคจึงเลือกหยิบผ้าฝ้ายผืนใหญ่ติดมือออกมาแล้วมุ่งหน้าไปสู่ปีกตะวันตกที่มีน้ำจากแม่น้ำไนล์กักเก็บอยู่อย่างเหลือเฟือเหลือใช้
วันนี้อากาศแจ่มใสเกินไปเหลือเกินจนเค้ารู้สึกเหนียวตัวเพราะลมร้อนจากผืนทราย
เด็กหนุ่มที่ผมยาวเกือบประบ่าเดินออกไปแล้วอย่างเงียบเชียบ
กว่าหญิงสาวคนเดียวซึ่งเหลืออยู่ในห้องจะนึกขึ้นได้ว่านางมีงานต้องทำในตอนค่ำเบคก็ออกไปได้พักหนึ่งแล้ว
นี่ก็เย็นแล้วซาญ่าควรรีบไปมิฉะนั้นจะโดนอโนซิสบ่นเรื่องเวลาเอาอีก
หญิงสาวร่างเพรียวเร่งเดินออกจากห้องไปเพื่อหวังจะไปให้ทันการเตรียมงานเลี้ยงในท้องพระโรงทองคำของพระราชวัง
แต่แล้วนางกลับเป็นอันต้องชะงักไปเมื่อมีแขกที่ไม่คาดฝันมาเยี่ยมเยือนถึงหน้าห้อง
“โอ้ เทพฮอรัส...พระองค์”
บุคคลใหม่ทำให้หญิงสาวตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ซาญ่าก้มลงคุกเข่าเพื่อถวายความเคารพจนแทบไม่ทัน ใบหน้าที่ได้รับการประทินนั้นก้มต่ำลง ชั่งใจว่าจะเอ่ยถามดีไหมแต่มันก็คงจะไม่แปลกหากเจ้าของสถานที่อันใหญ่โตแห่งนี้อยากจะออกมาเดินเล่น
“พระองค์มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้หรือเพคะ?”
ชายร่างสูงใหญ่ที่ฉลองพระองค์เป็นชุดเกราะสีทอง
ประทับด้วยขนนกทองคำบนไหล่ซ้ายขาวทั้งสองข้าง
พร้อมทั้งผ้าคลุมปักเลื่อมอัญมณีสีน้ำเงินดุจดั่งท้องนภากว้างนั้นก็ยิ่งขับให้คนสวมใส่ดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น ฮอรัสทำหน้าสนใจในคำถามราวกับไม่คิดว่าตนจะโดนทัก เทพแห่งท้องฟ้ายิ้มก่อนจะพูด “เปล่า ข้าแค่มาดินเล่นน่ะ”
ขาแกร่งที่สวมรองเท้าสานหนังอย่างดีเดินเตร่ไปสองสามก้าว
ซาญ่าไม่เชื่อถึงแม้นั่นจะเป็นคำที่ออกมาจากปากเทพที่นางเคารพที่สุดก็ตาม
นางจะเชื่อหากฮอรัสหยุดเดินไปมาแล้วคุยกับนางดีๆ แล้วสายตาที่คอยมองหาใครนั่นอีกล่ะ......มาเดินเล่นเสียที่ไหนกัน
“ว่าแต่เจ้าเห็นเบคบ้างไหม?”
นั่นอย่างไรล่ะ พระองค์ทรงถามหาเค้าแล้ว
“เห็นว่าไปอาบน้ำเพคะ แต่ไม่ได้บอกนางกำนัน ข้าเดาว่าเค้าคงจะไปทางฝั่งตะวันตก ปรกติเค้ามักจะทำอย่างนี้เสมอเพคะ” ซาญ่าที่มีใบหน้ายิ้มแย้มทูลตามความเป็นจริง ฮอรัสคิดว่านางเป็นสวยน้อยที่ชอบยิ้มใช้ได้เลย
เนื่องจากเค้าไมรู้เจตนาว่านางยิ้มเพราะอะไร
“โอ้งั้นเหรอ เอ่อ...ถ้างั้นก็เชิญเจ้าตามสบายเถอะนะ”
ร่างสูงว่า เสียงเค้ามีพิรุธมากกว่าที่คาดเอาไว้
แขนแกร่งถูกยกขึ้นไพ่หลัง
มองหญิงสาวคนนี้ออกว่าคงมีธุระที่ต้องไปทำต่อ
ซาญ่าถวายบังคมครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปตามหน้าที่อย่างรู้งาน
บางทีหากนางคิดถูกฮอรัสอาจเดินเล่นไปจนถึงปีกตะวันตกของวิหารเลยก็เป็นได้
และใช่ นางคิดถูก
เทพแห่งนภาเร่งเดินไปยังฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นวิหารของตัวเอง
ที่นั่นมีห้องอาบน้ำซึ่งมีน้ำที่ใสที่สุดจากแม่น้ำไนล์ไหลเวียนอยู่ในห้องชำระร่างกายนั้น และมีเพียงชนชั้นสูงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้ได้ ฮอรัสไม่ได้หวงแหนมันนัก
แต่ว่าร่างสูงของเค้ากำลังรีบและด้วยขาแกร่งของเทพเจ้าจึงเกิดช่วงเดินที่ยาวกว่ามนุษย์ทั่วไปส่งผลให้ไปถึงที่หมายได้อย่างทันใจของตัวเอง
กระทั่งไปถึงร่างสูงก็ได้ยินเสียงทางกั้นน้ำที่เปิดออกส่งผลให้เกิดเสียงน้ำไหลวนไปทั่วทั้งสระกว้างใหญ่ของห้อง ฮอรัสหยุดอยู่เพียงเท่านั้น
ก่อนจะบอกให้ทหารหกคนซึ่งยืนเฝ้าอาณาเขตหวงห้ามให้ออกไปพักเสียจนกว่าจะมีคนมาเปลี่ยนกะใหม่
ผู้รับใช้ออกไปโดยไม่มีคำถามใดๆ ฮอรัสเพียงอยากจะคุยกับเบคให้รู้เรื่องเท่านั้นว่าเหตุใดถึงได้ทำท่าทีไม่พอใจเค้า การที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่อาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมพูดง่ายขึ้น
และเมื่อปลอดคนแล้วร่างสูงใหญ่ของกษัตริย์แห่งอียิปต์จึงแหวกม่านอย่างเงียบเชียบแล้วย่างกายเข้าไปเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนที่อยู่ภายในสระอาบน้ำแห่งนี้
หากแต่เด็กหนุ่มคนเดียวที่เข้ามาใช้กลับอยู่ในสระเล็กที่ถูกกั้นเอาไว้ทางมุมห้องเพียงเท่านั้น
ฮอรัสเข้ามาประจวบเหมาะกับที่เบคอาบเสร็จพอดี
ในคราแรกร่างสูงคิดจะเปิดประโยคเพื่อบ่งบอกให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ถึงการมาของตน แต่เค้ากลับยืนอยู่ตรงนั้น หน้าม่านสีแดงที่การเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้เกิดขึ้น เป็นเพราะสาเหตุมาจากคนที่เพิ่งยกกายขึ้นจากสระนั่นเอง
เด็กหนุ่มที่เติบโตอยู่ข้างถนนในย่านคนจนของอียิปต์
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผิวพรรณน่ามองยิ่งกว่าชนชั้นสูงที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังเสียอีก แผ่นหลังของคนที่ไม่ทันรู้ตัวว่ามีแขกมาเยือน
เปลือยเปล่าและขาวสะอาด
เบื้องหน้าของทั้งสองคือทิวทัศน์ที่เปิดโล่งยามอาทิตย์อัสดงมาเยือน
เทพรากำลังทำงานของพระองค์ในขณะที่หลานชายคนเก่งของท่านกำลังเมี่ยงมองเด็กหนุ่มที่เป็นดั่งสหายรักอย่างหลงลืมตัวเองไป
แสงอาทิตย์จากทิวทัศน์นั้นอาบต้องทุกสัดส่วนของเบค ผิวของเด็กหนุ่มจึงกลายเป็นสีทองและสีส้ม ผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นก็พลอยกลายเป็นดั่งสีโลหิตบริสุทธิ์ของเทพเจ้าไปด้วย
เบคดูงดงามหากฮอรัสไม่ได้ตั้งใจจะมาพบด้วยตัวเองแล้วล่ะก็คงคิดว่ากำลังถูกภาพลวงตาเล่นตลกอยู่เป็นแน่ ยามเมื่อเด็กหนุ่มร่างเล็กขึ้นมาจากสระนั้นเหล่าหยดน้ำพากันพรั่งพรูไล่เลียผิวกายของเบคและโปรยตัวลงมาราวกับประกายแสงอาทิตย์ที่ถูกปล่อยทิ้งจากเรือของมหาเทพรา
เบคไม่รู้ตัวเลยว่าฮอรัสเข้ามาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยู่ห่างออกไปที่ปากประตูใหญ่ก็ไม่เอ่ยส่งเสียงใดๆ
เลย
มองเพียงแค่สหายตัวน้อยที่หยิบผ้าฝ้ายผืนเล็กขึ้นมาเช็ดสะโพกเต่งตึงนั้นก่อนจะพันมันรอบเอวแล้วแก้เชือกรัดผมหยักศกเป็นลอนเอาไว้ไม่ให้เปียกน้ำออก
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังเปียกปอนจากการชำระร่างกายอยู่ดี
เบคหยิบผ้าฝ้ายฝืนใหญ่ขึ้นมาเช็คเนื้อตัวบ้างก่อนจะหันมาเจอกับฮอรัสที่ยื่นนิ่งเป็นรูปสลัก
“เฮ้ยยยย!” เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ตวัดผ้าคลุมห่มกายโดยอัตโนมัติจนมันส่งเสียงดังพรึ่บ ส่วนฮอรัสเองก็พลอยตกใจไปด้วย
ร่างสูงผงะถอยไปตั้งหลักหนึ่งก้าวแล้วจึงกระพริบตาไปมา
ทำหน้าเหมือนไม่ได้เห็นอะไรตั้งแต่แรกแล้วเอ่ย
“โอ๊ะ โทษที”
เทพแห่งท้องฟ้าพูดได้แค่นั้น…
“ท่านมาทำอะไรที่นี่กันน่ะห๊าา?!”
เบคห่อตัวในผ้าฝ้ายผืนนิ่ม
มองคนที่มีสิทธิ์เข้ามาอย่างถูกต้องด้วยสีหน้าเลิกลั่ก
ร่างกายที่เล็กกว่าอยู่แล้วของมนุษย์ก็หดหนีอย่างตื่นตกใจ
ฮอรัสผายมือ คิดไม่ออกเช่นกันว่าจะตอบออกไปว่าอย่างไรดี
“เอ่อ...ข้าจะมาในที่ของข้ามันผิดด้วยยังงั้นเหรอ?” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตั้งคำถามกลับไปเพื่อรักษาหน้าของตัวเองไว้......จะมาปล้นคำตอบจากเค้าแท้ๆ
แต่กลับไปยื่นหลงอะไรอยู่ได้
ฮอรัสตำหนิตัวเอง และหากเบครู้ถึงจุดประสงค์ว่าเค้าตั้งใจมาหาโดยตรงเด็กหนุ่มคงจะเห็นว่าการพูดเมื่อครู่ฟังดูข้างๆ
คูๆ เป็นอย่างมาก แต่ช่างเถอะ ฮอรัสไม่ห่วงเรื่องนั้นนัก
“โอ้จริงสินะ ข้าลืมไป นี่วิหารของท่าน”
ร่างสูงแววได้ยินเสียงพูดงึมงำกับตัวเองของเด็กหนุ่มที่กำลังหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาเพื่อเร่งออกไปจากที่นี่โดยไว
เพราะหากฮอรัสอยากจะอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เบคต้องอยู่เกะกะอีกฝ่าย แต่ทว่าฮอรัสกลับเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มแล้วฉุดข้อมือของมนุษย์ที่ดูเปราะบางเอาไว้เสียก่อน
เป็นเหตุให้ร่างเล็กใจเต้นระรัวจนรู้สึกไปทั่วทั้งร่าง
คนโดนรั้งมองข้อมือของตัวเองก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบากแล้วเงยหน้ามองอีกผู้หนึ่งที่อยู่สูงกว่า
“เจ้าจะมาที่นี่ทำไมถึงไม่บอกนางกำนันล่ะ”
ฮอรัสเอ่ยขึ้น ไม่อยากเข้าเรื่องให้เร็วมากเกินไปนัก
เบคบิดมือหนีแต่อีกคนหนึ่งไม่ยอมปล่อยจึงทำได้เพียงแค่ตอบอ่อมแอ่มไปเท่านั้น
“ข้าไม่ชอบให้พวกนางมาวุ่นวายน่ะ”
เด็กหนุ่มมองแขนของเทพร่างสูก่อนจะส่ายหน้าทีหนึ่งพร้อมยักคิ้ว
“ไม่อยากแขนแดงเหมือนท่าน”
ไม่บอกก็รู้ว่านี่มาจากฝีปากการสั่งของอโนซิส
ฮอรัสเกือบวาดยิ้มออกมาแต่เรื่องความเจ้าระเบียบของอโนซิสก็ไม่ได้อยู่เหนือคำถามในใจของเค้า
“เบค” สุรเสียงของจ้าวแห่งนภาเรียกชื่อนั้นอย่างนุ่มนวล
“เจ้าอยู่ที่นี่แล้วดีหรือไม่......เอ่อ
ข้าหมายถึงเจ้าอยู่สุขสบายดีหรือเปล่า?”
“อืม ก็...ใช่ ดีกว่าเมื่อก่อนนี้ลิบลับเลย”
เด็กหนุ่มตอบพลางยักไหล่น้อยๆ นึกไม่เข้าใจที่อยู่ๆ
อีกฝ่ายหนึ่งก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา ในที่ๆ
มีอาหารกินอิ่มครบสามมื้อและมีที่ให้ซุกหัวนอนได้อย่างอุ่นสบายนั้นเมื่อเทียบกับบ้านหลังเก่าของเค้าแล้วที่นี่ราวกับเป็นสรวงสวรรค์ไปเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นเบคก็ยังคงไม่เข้าใจ
นึกไม่ชอบใจเสียด้วยซ้ำ......ไม่อยากให้ฮอรัสพูดอย่างนั้นเลย โปรดอย่าแสดงให้รู้สึกว่าเป็นห่วงกัน
หากโอรสแห่งโอซิริสคนนี้ไม่ได้มีใจให้
เบคอาจต้องเสียใจมากกว่าที่เป็นอยู่
เด็กหนุ่มโกรธตัวเองที่มีใจให้ฮอรัส
หลงรักเทพที่ตนให้ความช่วยเหลือแม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอีกฝ่ายมีคนรักที่อาจหมายมั่นปั้นมือให้เป็นราชินีแห่งอียิปต์อยู่
ดังนั้นเบคควรตัดใจตั้งแต่ต้นที่รู้ว่าไมได้คิดถึงซาญ่าอีกต่อไปแล้ว ในใจของร่างเล็กรู้ตัวอยู่เต็มอกว่าหลงรักเทพร่างสูงองค์นั้น
เค้าควรจะตัดใจซะก่อนจะมีใครอื่นรู้และมันจะพลอยพาผลเสียมาให้
เบคไม่อยากรู้ว่าฮอรัสจะมีสีหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าเค้าหลงรักอีกฝ่าย.....ไม่ มันจะไม่เกิดขึ้นหรอก
หากรู้ว่าฮอรัสมีใจเช่นเดียวกันเบคก็จะอ้าแขนกอดรับเอาไว้ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีแต่ทว่าบัดนี้
ใบหน้าคมคายนั้นกลับเตือนสติให้เด็กหนุ่มรู้ว่าด้วยเหตุผลทั้งปวงของความเป็นจริงสิ่งที่เค้าวอนขอนั้นกลับเป็นไปไม่ได้
นั่นก็เป็นเพราะว่าฮาธอร์ได้หัวใจของจ้าวแห้งท้องฟ้าไปกุมไว้เอาแล้วเรียบร้อย
เบคตอบคำถามของฮอรัสด้วยท่าทีเย็นลงกว่าเมื่อตอนเช้าแล้ว ร่างสูงจึงยิ้มบางๆ อย่างพอใจ
“งั้นก็ดีกว่าตอนอยู่ข้างนอกนั่นสินะ”
ฮอรัสเอ่ย เทพร่างสูงไม่ได้พูดเสียงดังเลย
เสียงทุ้มถูกกดให้ต่ำลง
มันเบาลงต่างจากเมื่ออยู่ต่อหน้าประชาชนเพื่อไม่ให้เบคต้องเกร็งหูขมวดคิ้วยามคุยกับเค้า อยู่กันแค่นี้
เอ่ยให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนก็พอแล้วกระมัง
“ใช่ ดีกว่า”
ร่างเล็กเอ่ยสมสบ
นึกอยากให้เทพจอมเอื่อยเฉื่อยนี่พอใจและหมดธุระเสียที
คนถูกถามไถ่นึกไม่อยากให้บรรยากาศโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบแม้เพียงแต่วินาที
ความเงียบนั้นอาจทำให้ฮอรัสได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นตึกตักไม่เชื่อฟังคำของเจ้าของอย่างเด็กหนุ่มตัวน้อยคนนี้เอาได้
ก่อนร่างสูงที่สร้างความหวั่นไหวนั้นโดยไม่รู้ตัวจะกล่าวเข้าเรื่องโดยไม่ยืดเยื้อใดๆ
อีก
“งานราชการของข้าทำให้เจ้าไม่สบายใจมากหรือไม่?”
“อะไรนะ?...ไม่ ไม่หรอก” เบคหายใจสะดุดก่อนจะกล่าวเลี่ยง ไม่ชอบหัวข้อนี้เอามากๆ
การจากไปของฮอรัสทำให้ร่างเล็กนึกถึงฉากรักของคนตรงหน้ากับหญิงผู้เป็นที่รักของอีกฝ่าย
ถึงแม้จะไม่ได้คิดร้ายกับฮอาธอร์ มากกว่านั้นเบคยังชอบนางเสียด้วยซ้ำ
แต่มันก็ทำร้ายจิตใจของเด็กหนุ่มมากเกินไปหากจะคิดภาพนางยืนข้างบัลลังของฮอรัสและเห็นว่าทั้งคู่รักกัน
“เจ้าแน่ใจนะ? ท่าทางเจ้าดูหงุดหงิดใจมากเมื่อเช้านี้”
คนถูกถามสูดหายใจเข้าเล็กน้อยและพบว่ามันยากลำบากมากกว่าทุกที
ก่อนจะระบายยิ้มออกมา
“เดาว่าข้าคงจะมีคนช่วยมากกว่าท่านเยอะเลย......ธอทดูชอบข้ามากกว่าท่านซะอีก” ฮอรัสเค้นเสียงหัวเราะเมื่อพูดถึงอดีตอาจารย์ของตนเอง
เค้าคลายมือและปล่อยเบคแล้วเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่มีท่าทีฮึดฮัดและยอมสนทนากันแต่โดยดี
แต่แท้จริงแล้วมนุษย์ตัวน้อยตรงหน้ากลับคิดอยากวิ่งหนีไปซะเดี๋ยวนั้นเลย
“เช่นนั้นเจ้าคงต้องตอบคำถามข้าใหม่”
เด็กหนุ่มที่คิดว่าน่าจะหาช่องหนีได้แล้วชักสีหน้าฉงนใส่เทพที่อยู่สูงกว่าก่อนฮอรัสจะเริ่มพูดต่อ
“งั้นเอาเป็นว่า...อะไรทำให้เจ้าหงุดหงิดใจนักล่ะ?”
“แล้วท่านพูดเรื่องอะไรล่ะ?”
เบคโวยเล็กน้อยนึกไม่ชอบใจที่ฮอรัสกัดไม่ปล่อยเสียจนอยากจะกัดอีกฝ่ายให้ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้กันอีกเลย
“ข้าก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“ข้านึกว่าเจ้าจะดีใจที่ข้ากลับมา”
ร่างสูงแจ้ง
แต่อีกคนหนึ่งกลับยักไหล่ใส่อย่างไม่แย่แสนัก
“ใช่ ข้าดีใจ ข้าบอกท่านไปแล้วไง”
เบคขมวดคิ้วทำหน้าราวกับว่าก็พูดไปแล้วไงแล้วจะเอาอะไรอีก
แต่ใครจะไปรู้ว่าขณะพูดออกไปนั้นหัวใจของเด็กหนุ่มกำลังถูกบีบขยี้เข้าหากันอย่างรุนแรงมากแค่ไหน
เมื่อคำพูดนั้นบ่งบอกว่าฮอรัสไม่รับรู้ถึงความตั้งใจที่จะรอและอยากพบกันอีกครั้งของเบคเลย ไม่แม้แต่จะเห็นใจ.....ใช่
ข้าดีใจสิที่ท่านกลับมา
ดีใจมากเสียด้วยซ้ำแล้วท่านล่ะ
ดีใจหรือไม่ที่เห็นข้าอีก หรือไม่พอใจที่ข้าต้อนรับได้ไม่ถูกใจพอ
ความคิดนั้นชวนให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนนึกอยากทำหน้าเบ้
หากฮอรัสคาดคั้นมากกว่านี้เค้าอาจได้ร้องไห้ออกมาเพราะความสุดจะทนได้
การกักเก็บความรู้สึกห่วงหาและอ้างว้างเพียงคนเดียวมาตลอดหลายปีมันน่ากลัวมากกว่าที่ใครจะคิด
บางทีอาจดีที่สุดแล้วหากเบคจะตัดใจแต่จะทำได้อย่างไรในเมื่ออีกคนหนึ่งกลับมีท่าทีแปลกไป
ไม่ชอบพูดจาเอาชนะหรือแยกชนชั้นว่าตัวเองเป็นเทพเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
กลับเอาแต่พูดจาเนิบช้าน่ารำคาญเหมือนเราเจอกันทุกวันและเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คือเรื่องจากเมื่อวานที่ถูกหยิบยกเอามาพูดเพราะไม่มีหัวข้อสนทนา
มันทำให้เบคโมโหอย่างเจ็บปวดด้วยความน้อยใจของตัวเอง
พอเถอะฮอรัส......หากมีความรู้สึกเหมือนเมื่อวันวานก็จงทำตามปรกติดั่งเช่นที่ท่านทำมาโดยตลอดเถอะอย่าเปลี่ยนแปลงไปจนทำให้เด็กหนุ่มคนนี้หวั่นไหวอีกเลย
“ไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวล่ะ”
เบคพูดห้วนๆ ฟังดูรีบร้อนเกินไปจนไม่ใส่ใจ
และในขณะที่กำลังก้าวเท้าออกไปนั้นเองฮอรัสก็คว้าหมับเข้าที่ลำแขนเล็กเปลือยเปล่า
“ข้ายังพูดกับเจ้าไม่จบ”
คนเริ่มพูดแต่แรกว่า
น้ำเสียงเข้มขึ้นมาเพราะเด็กมนุษย์ตรงหน้านี้ทำตัวดื้อดึงไม่เลิก......จะเป็นอะไรนักหนานะแค่พูดออกมาก็จบไปนานแล้ว
แท้จริงแล้วเบคไม่ใช่คนที่ช่างเก็บเล็กเก็บน้อยเช่นนี้มิใช่หรือ
เวลาอยากจะเอ่ยอะไรออกมาก็ติดจะไม่เกรงใจใครเสียด้วยซ้ำไป
การเจรจาที่ส่อแววว่าต้องทำการบังคับคาดคั้นนั้นทำให้เทพร่างสูงเกิดความไม่เข้าใจเบคเป็นอย่างยิ่ง
เค้าจากไปนานขนาดเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็ไม่อยากจะพูดให้ฟังเลยเชียวหรือ? ไม่
เบคไม่รู้หรอกว่าร่างสูงจะต้องทนคิดถึงอีกฝ่ายมากแค่ไหน ต้องรอนแรม
ฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อให้ได้พบฮาธอร์ถึงแม้ใจจริงจะอยากกลับมาเจอหน้าของเด็กหนุ่มจนแทบจะขาดใจมากก็ตาม
แต่หลังจากตรากตรำเพราะคิดถึงอยู่นานพอได้กลับมาร่างสูงกลับเจอแต่แววตาตัดพ้อและกิริยาหมางเมินที่ชวนให้ข้องใจ
“ข้าพูดจบแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดอีก
เกรงว่าท่านคงต้องไปหาเรื่องคนอื่นแทนข้าเสียแล้วล่ะ”
เบคเกร็งแขนขัดขืนแล้วดึงออก
แต่ฮอรัสบีบแน่นกว่าเดิมจนคนถูกรั้งให้อยู่ก่อนต้องทำหน้านิ่ว
“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ”
เด็กหนุ่มห่อไหล่แล้วเบี่ยงแขนหนีอีกเพื่อบ่งบอกให้อีกคนหนึ่งปล่อยมือเสียที
“ขอโทษเถอะ! ถ้าท่านว่างมากถึงขนาดมาหาเรื่องข้าได้ล่ะก็
ข้าว่าท่านควรจะไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองของตัวเองมากกว่านะ ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ไปซะเถอะก่อนจะมีคนถามหาถึงท่าน!” เด็กหนุ่มเอ็ด
หากไม่ติดว่าแขนของตัวเองโดนพันธนาการไว้จะออกแรงผลักเจ้าเทพจอมเรื่องมากนี่ไปเสียหน่อยเถอะ
แต่เหตุใดทำไมต้นแขนที่ถูกบีบให้แรงขึ้นของเบคถึงได้ถูกยกสูงขึ้นนะ เด็กหนุ่มพยายามยื้อแขนตัวเองกลับ
“ดูเจ้าก่อนเถอะ พูดเหมือนใครไปเสียแล้ว” ฮอรัสดึงแขนเบคกลับมา
“ใครกัน ท่านหมายถึงใคร?”
“คนอื่นไง
หรือเจ้ากลายเป็นคนไม่กล้าพูดความจริงไปตั้งแต่เมื่อไรกันล่ะ”
เทพร่างสูงก้มตัวลงมา และกดเสียงต่ำลง
เบคหน้าชา กลัวสุดหัวใจเมื่อฮอรัสต้องการรู้ความลับที่เจ้าตัวตั้งใจจะเก็บไว้ให้ไกลห่าง
“จะกล้าหรือไม่
มันก็ไม่ใช่ธุระของท่านหรอก เรื่องของข้ามันสำคัญขนาดนั้นเลยรึยังไง ปล่อยข้า!...”
“ใช่สิเบค มันสำคัญ”
เสียงทุ้มกระด้างขึ้นเพราะโทนเสียงที่ดังขึ้น
ก่อนเด็กหนุ่มจะชะงักไปในทันทีแล้วบิดแขนตัวเองออกอย่างไร้ผลแต่ก็ยังอยากลองที่จะทำมัน
“ปละ ปล่อยข้าเถอะ อย่าเพิ่งมาเสียเวลากับข้าตอนนี้...”
“ช่างหัวงานเลี้ยงนั่นเถอะ! ข้าไม่ใช่คนที่อยากได้มันเลยในตอนนี้ข้าอยากรู้ความจริงจากปากของเจ้ามากกว่างานฉลองงี่เง่านั่นที่พวกเค้าจัดให้ข้า!” ฮอรัสคนเก่ากลับมาแล้วเมื่อราชาแห่งอียิปต์พูดเสียงดังเพราะอารมณ์โกรธ
พร้อมกับออกแรงกระชากแขนของมนุษย์ที่เริ่มเป็นรอยแดงจนคนถูกฉุดต้องเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด
จ้าวแห่งท้องฟ้าขมับเริ่มเต้นตุบๆ......อีกคนหนึ่งจะบ่ายเบี่ยงไปถึงไหนกัน พูดถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกหรือว่าตัวเค้าเห็นเรื่องของอีกฝ่ายสำคัญกว่าแค่ไหน
ฮอรัสเบื่อแล้วกับเรื่องที่เบคเอามาใช้เพื่อเอาตัวรอด
“ท่าทางเอาใจยากของเจ้าทำข้าหงุดหงิดยิ่งกว่าความจู้จี้ของอโนซิสซะอีก”
“โอ้ งั้นเหรอ!” เบคขึ้นเสียงบ้าง
ไม่สนใจจะแกะแขนกลับไปชั่วขณะหนึ่งเพราะแรงอารมณ์ “งั้นข้าคงจะน่ารำคาญมากเลยสินะ”
เด็กหนุ่มถลึงตาใส่เทพที่อยู่สูงกว่าอย่างไม่เกรงกลัว “ข้าจะบอกอะไรให้นะ
ท่านน่ะมันเป็นเทพเอาแต่ใจแถมยังชอบทำอะไรสิ้นคิดอีกต่างหาก
ไม่แปลกใจเลยทำไมธอทถึง...อ๊ะ!”
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงฉากที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ใน
Part แรกแล้วค่ะ
>//< (ก็ไอ้ฉากที่ทำรีดๆ
งงนั่นแหละนะเออ) + (โอโห้
แกตัดได้กวนมากเลย จะตัดไปเพื่อ???) มันเป็นฉากไคล์แม็กที่ทั้งสองกระทบกระทั่งกันค่ะ และปรากฏว่า NC ยังมะมาาาา บู่วววว //โดนรีดเอาหอกเสียบ// อูยยยย ขอโทษค่ะ -_+ บางทีไรท์ก็ชอบลีลาเขียนไปเรื่อยจนหน้ามันเยอะน่ะค่ะ รอไรท์หน่อยนะเออ ตามลำดับเรื่องเลยค่ะ ><
ง่อวววว ขอบคุณนะคะสำหรับการแวะมาเยี่ยมชม และรักรีดที่อ่านทุกท่านเลยค่ะ >< วันนี้ไม่ค่อยมีเรื่องฝอยแฮ่ะ งั้นเอาเฟสไรท์ไปค่ะ (รีดบอก .....ไม่อยากได้
-*-) >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<
Part หน้ารีดเดาออกกันไหมคะว่าจะมีอะไรต่อไปปป
>3< อดใจรอกันหน่อยนะคะ อึบๆๆๆ
//พอได้แล้วว!! โดนต่อยหน้า// โอเคค่ะ
ต้องไปจริงๆ แล้ว เจอกัน Part นะคะรีดขาา //ส่งจูบ//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
เบคน่ารักมากๆๆๆๆๆ เขียนออกมาได้ดีเลยค่ะ ดูคงคาแรคเตอร์ไว้ทั้งคู่
ในหนังน้องเบรนตั้นเลนไวไ้ด้น่ารักมากจริง ๆ ค่ะ ฮอลลลลล
แสดงความคิดเห็น