วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 17] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



คริๆ ><  สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนฟิคทุกท่าน  555 //ขำรอเฮียเนย์ไว้ก่อน// 555   เราก็มาต่อกันจาก Part 16 ที่เฮียโด้จอมเจ้าเล่ห์ของเราหลอกจูบเหมียวกันนะคะ  จะเป็นอย่างไรต่อไป และเหมียวจะทำอะไรเมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอก ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ 

Talk ช่วงแรกของ Part นี้อย่าให้ไรท์โม้มากค่ะ  เดี๋ยวเผลอสปอยล์นะเออ 5555  และสำหรับท่านใดที่อยากจะเข้าไปคุย  เป็นเพื่อนกะไรท์  หรือติดตามข่าวสารของ Fandom คู่อื่นๆ ก็เข้าไปเป็นเพื่อนกับไรท์ได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<  เฟสของไรท์ผู้ซึ่งยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ ^^ 

ที่นี้ก็พุ่งไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}<


--------------------------------------------------------------------------------


“คุณทำยังงี้ทำไมเนี่ยยยย!


.


.

“โอ๊ะๆ ลีโอ....ไม่เอาน่าอย่าเสียงดัง อย่าเสียงดัง” เมื่อเห็นท่าว่าคนตัวเล็กที่เขินและฉุนขาดจะร้องประท้วงดังกว่าเดิม  โรนัลโด้จึงเข้ามากอดไว้แล้วเอามือปิดปากคู่ที่เค้านึกชอบอย่างนุ่มนวล  แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเป็นคำเลย
      
“เงียบๆ สิ เดี๋ยวพวกมันได้ยินนะ” เสียงร่างสูงฟังดูก็รู้ว่าต้องหัวเราะชอบใจอยู่แน่ๆ  แถมยังจำกัดความเคลื่อนไหวของคนที่เสียเปรียบเอาไว้เสียด้วย  ดังนั้นเมื่อมือทั้งสองข้างที่โดนรวบไว้ไม่สามรถยกขึ้นมาใช้ได้ เมสซี่จึงหยิกเข้าไปที่อกของโรนัลโด้อย่างเต็มแรง  คนโดนหยิกชักกระตุก

“โอย โอ๊ย! อย่าหยิกลีโอ....อย่าหยิกหัวนมผม  โอ๊ยย หัวนม”

ตรงเป้า!

“ปล่อยแล้วๆ โอ๊ยย  ผมปล่อยคุณแล้วไงอย่าหยิกผมสิ...!” โรนัลโด้ดิ้นเร่าๆ เหมือนอย่างที่เมสซี่เป็นบ้างแต่คนละความรู้สึกกัน  แล้วปล่อยเมสซี่ที่ไม่ยอมปล่อยเค้า ให้เป็นอิสระ

“นี่! นี่แน่ะ! คุณมันร้ายกาจนักนะ!

“โอ๊ะ โอ๊ยย  ช้ำแล้วๆ หัวนมผม อย่าา อื้อ อ้า คุณหยิกแรงเกินไปแล้วนะ” โรนัลโด้ที่ทำอะไรไม่ได้ก็เกือบจะขาดใจเมื่อความเจ็บปวดแล่นปรี่เข้ามาหายอดอกของเค้า แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันทำเอาเค้าเสียวถึงทรวงไปเลย  คนโดนหยิกหัวนมจึงจำต้องแทงนิ้วเข้าไปที่เอวของคนที่หยิกเค้าแล้วจี้สุ่มไปทั่วบริเวณนั้น

“นี่แน่ะ...ปล่อยหัวนมผมนะ อี้ๆๆ”

“อ๊า อ่าา! อ๊ะ อย่า! อย่าสิผมบ้าจี้นะ.....อะ ฮ่าๆๆ......อื้อ ผมเจ็บแล้ว อ้าๆๆ” ตอนนี้คนที่รับศึกหนักดูเหมือนจะเป็นคนเริ่มแผนเผด็จการเสียแล้ว  เมสซี่ตัวงอและสะบัดมือปล่อยออกจากโรนัลโด้ทันที แต่ใช่ว่าร่างสูงจะยอมหยุด  เค้ายังคงเดินหน้าเพื่อแก้แค้นให้ยอดอกที่บวมช้ำของตัวเองไปเรื่อยๆ

“คุณรู้ไหม แม่ผมยังไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนะ” ร่างสูงฉุนจริงๆ ระดมจี้คนที่มีสิทธิ์มากกว่าแม่เค้าอย่างหมั่นเขี้ยว  เมสซี่ใช้มือดันหน้าของโรนัลโด้ให้ออกไปและถอยกรูอย่างยอมแพ้ แต่เค้าคงลืมไปว่าร่างสูงตรงหน้าร้ายกาจยิ่งนัก

โรนัลโด้เดินตามไปจนเมสซี่เสียหลักล้มลงทั้งน้ำตาเล็ด  แต่ร่างเล็กก็หาสนใจไม่ยังคงหัวเราะต่อไปอย่างห้ามไม่อยู่บนตัวของโรนัลโด้ที่เอาตัวมารองเค้าไว้

“อ๊ะ ฮะ ฮ่าๆๆ อย่าสิ ผมจั๊กจี้นะ”

โอย ลีโอออ” เสียงโรนัลโด้ดูเหมือนเพิ่งสร่างเมา  เมสซี่ดูเหมือนเพิ่งสร่างขำและเพิ่งรู้สึกว่าโรนัลโด้อยู่ใต้ตัวเค้า

“ผมไม่ได้จี้คุณแล้วนะ”

“อะ อ้าว คุณเป็นอะไรรึเปล่า..ฮา...ขอโทษ ผมขอโทษ....ผมนั่งทับตัวคุณอยู่” ร่างเล็กเช็ดหางตาแล้วพยายามยันตัวให้ลุกขึ้น แต่เค้าหัวเราะจนปวดท้องเลยล้มกลับลงมาอีกรอบ  โรนัลโด้จุกแอ็ก

“อั๊ก..”

“อ๊ะ ผมขอโทษ ผม...ฮ่ะๆๆ”

“เลิกหัวเราะก่อนนะ แล้ว......อ้า ขอบคุณ” โรนัลโด้เอ่ยขอบคุณคนตัวเล็กหัวเราะไม่หยุดที่ยอมกลิ้งลงจากตัวเค้าได้เสียที  ร่างสูงกึ่งนั่งกึ่งนอนในขณะที่อีกคนนั่งท้าวแขนกับพื้นกระเบื้องตัวสั่นเพราะหัวเราะ

“คุณนี่มือหนักไม่เบาเลยจริงๆ” โรนัลโด้พูดพลางคลำหน้าอกตัวเอง ตรงที่มันน่าจะช้ำไปแล้ว  เมสซี่ขยี้ตาตัวเองแล้วพูดบ้าง

“ก็คุณหลอกผม”

ร่างสูงตาโตแกล้งทำเหมือนมันเป็นเรื่องโลกแตกแห่งปี “หมายถึงที่ผมหลอกจูบคุณน่ะเหรอ”

“ใช่ นั่นแหละ” เมสซี่ตอบไปไม่ค่อยเต็มเสียงนัก  เค้าเผลอกัดปากตัวเอง

“แต่คุณหยิกหัวนมผม” ร่างสูงทำหน้าเหมือนเค้าเป็นผู้เสียหายเต็มๆ

“นั่นคุณสมควรโดน”

“ใช่ ลีโอ...แล้วคุณก็สมควรโดนผมจี้คืนแบบทับต้นทับดอก.....อา แย่จริง  ปานนี้แดงไปหมดแล้วมั่ง” โรนัลโด้พูดไม่พูดเปล่า  มือแกร่งเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเพื่อแหวกดูยอดอกตัวเอง  และแน่นอนเค้าทำอีกคนรีบพัดมือกลางอากาศเป็นพัลวัน

“เฮ้ยย คุณ.....เราไม่รู้จักกันมาเปิดเสื้อให้ผมดูทำไมเนี่ยย” เมสซี่หลับตาปี๋  ส่วนคนที่เปิดเสื้อไปแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาเหมือนเพิ่งตื่นนอนแล้วยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์

“ไม่รู้จักแต่เสียจูบแรกให้ผมไปแล้วก็แล้วกันน่า”

“หุบปากไปเลย!....อ้า! คุณจะบีบของตัวเองทำไมเล่าา” อยู่ๆ ร่างเล็กก็สยิวกินเมื่อร่างสูงบีบยอดอกตัวเองไปมา

โรนัลโด้ทำหน้างง “เอ้า....ก็เช็คไง  ว่ามันเจ็บจนไม่รู้สึกแล้วหรือยังโอเคอยู่กันแน่น่ะ” ร่างสูงแกร่งอุดมด้วยมัดกล้ามของชายผู้มาดแมนคนนี้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเหมือนรูปปั้นของเทพบุตรสมัยกรีก-โรมันยังไงยังงั้น  แต่ท่าทางการละลาบละล่วงหน้าอกตัวเองแบบนั้น ดูๆ แล้วทำให้เค้าเหมือนนายแบบบนปกในนิตยาสารเกย์เสียมากกว่า   เมสซี่เหน็บ

“คุณทำประกันยอดอกไว้ด้วยรึเปล่าล่ะ” ร่างเล็กหน้าบูดในขณะที่คิดน้อยใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่มีหุ่นเซ็กซี่อย่างนั้นบ้าง “ให้ตาย ขืนเสริมอะไรอีกตัวคุณได้ระเบิดแน่”

“ไม่เอาน่าลีโอ คุณเองก็เซ็กซี่พอตัวอยู่เหมือนกันนะ” โรนัลโด้เย้า ร่างเล็กที่ตอนแรกหันหน้าหนีก็หันควับกลับมาเหมือนจะพูดว่า “แหน่ะ! ยังจะอุตส่าห์ได้ยินอีก” ใส่ร่างสูง

“หึๆ คุณหน้าแดงอีกแล้วนะลีโอ” ร่างสูงยิ้ม  แต่ทำแบบนั้นได้ไม่นานสีหน้าเค้าก็เปลี่ยนไป......

เมสซี่สังเกตเห็นในทันใดแล้วขมวดคิ้วแน่น

“มีอะไร” เสียงที่เคยหัวเราะ แต่ตอนนี้กลับเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา

โรนัลโด้ชักมือออกมาจากอกเสื้อ เลิกบีบยอดอกตัวเองแล้ว “พวกมันตามเสียงเรามา”

คราวนี้เค้าไม่ได้พูดเล่น


**********************************************************************


เวลา 00.20 น. ..........

“พระเจ้า  นี่มันนานแล้วนะ ทำไมเค้ายังไม่มาอีก” ชายที่นั่งสัปหงกอยู่อย่างหมดสภาพเอามือกอดเข่าแล้วเกาหัวถามคนข้างๆ

“ฉันจะไปรู้เหรอ ก็นั่งแห้งตายอยู่กับแกนี่แหละ” เสียงที่ตอบกลับมาติดจะหงุดหงิดและง่วงซึม

“ไอ้เวร.....ฉันไม่ต้องการคำตอบนี้”

“ช่างมารดาแกเถอะ” เปเป้หาวออกมาในที่สุด  ทั้งเค้าและเนย์มาร์สาดคำพูดแรงๆ ใส่กันมาร่วมชั่วโมงแล้ว  แต่น้ำเสียงที่พวกเค้าใช้ก็ไม่ได้ฟังดูคุกคามแต่อย่างใดเลย  มันคางยานเหมือนคนเพิ่งสร่างเมาซะล่ะมากกว่า..........เพราะฤทธิ์นิทรากำลังทำร้ายพวกเค้า แต่ด้วยความปลอดภัยของเพื่อนยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนให้พวกเค้าตื่นขึ้นมาสาดคำด่าใส่กันได้อยู่

“พวกนายเลิกทะเลาะกันสักที  ถ้าฉันกล้าก็คงจะเอาถุงเท้าอุดปากพวกนายไปแล้ว”

มึลเลอร์ที่ทนนั่งฟังมานาน เอ่ยขึ้นในที่สุด  เค้าไม่เหมือนคนง่วงและไม่รู้สึกอยากนอนเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ในใจเค้านึกแต่เพียงว่าเพื่อนทีมชาติเดียวของเค้าคงจะปลอดภัย และไม่ถูกยิงไปแล้วหรอกนะ

“เราแค่ต้องให้เวลาเค้าหน่อยเท่านั้นเอง  บางทีเสียงปืนเมื่อกี้อาจเป็นของเจ้าหน้าที่จาโรก็ได้” มึลเลอร์ออกความเห็นขณะชะโงกหน้าไปมาเหนือฝูงชนที่นั่งลงกับพื้น  บางทีเค้าอาจโชคดีเจอชไวนี่กับนอยเออร์อยู่ในนั้น  แต่ก็ไม่เลย

“อะไร นายหมายถึงเสียงปืนรัวขึ้นฟ้าตะกี้น่ะเหรอ”

“ใช่” มึลเลอร์ตอบ แต่เค้าไม่ได้สนใจเนย์มาร์

“ไส้แตกไปแล้วมั้ง”

“ไอ้บ้า! แกไปแช่งคนที่จะช่วยลีโอกับไอ้หมอนั่นทำไมว่ะ”

“โทษนะ เพื่อนฉันมีชื่อ เค้าชื่อคริสโว้ย”

“เรื่องของแกเหอะ......แต่มันก็น่าคิดนะ  เสียงปืนเมื่อกี้นี้น่ะ บางทีเจ้าหน้าที่อาจจะสู้กับโจรพวกนั้นอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้”

“แล้วก็ไส้แตก....โอ๊ย! แกจะตบฉันทำไมว่ะ” เปเป้ทำหน้าฉุนขาดเมื่อเนย์มาร์ตบผมทรงสกินเฮดของเค้า

“ตบหาบิดาแกไง....นั่นปากหรือน่ะ  สร้างสรรค์จริงๆ ”

“พ่อคุณสุดจะมองโลกในแง่ดี --- .....แกคิดว่า.....”

เฮ้ พอ พอๆๆ พอเลย  พวกนายหุบปาก! อย่าเห็นว่าฉันไม่ใช่มานูเอลแล้วจะไม่ชกนายนะ....กัดกันน่ารำคาญจริงๆ เลย  ผับผ่าสิ!” มึลเลอร์เอ็ดอย่างเหลืออดแล้วหันมาสนใจกับคนที่ทะเลาะกันข้ามหัวเค้าอยู่ได้เสียที

แต่แล้วก็เป็นเช่นเคย.....

“เฮ้ย! ตรงนั้นน่ะ อย่าให้ฉันต้องบอกอีกนะ หุบปากไปซะ!

“คร้าบบ ขอโทษคร้าบบ” สองเสียงประสานกันอย่างเสแสร้งของเนย์มาร์และเปเป้  ซึ่งชายคนนั้นโดนเค้าทั้งสองแช่งพร้อมด่าในใจไปเป็นรอบที่สิบแปดแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง

ทั้งสองยิ้มหน้าบานใส่ กบฏถือปืนที่ส่ายหน้าใส่ทั้งคู่อย่างรู้สึกเบื่อหน่าย  กระทั่งหมดหน้าที่แล้วก็ชายหนวดเฟิ้มหันไปทางอื่น

“อืมม รู้สึกลินซี่แฟนนายจะปิ๊งเราหลายรอบแล้วนะคืนนี้” เนย์มาร์กอดเข่าแล้วพูดรอดไรฟันทั้งที่ยังยิ้มค้างไว้

“อย่าว่าแต่ฉันเลย  กิ๊บซี่แฟนนายก็ไม่เบาเลยนะ.......เนี่ย มันสองคนรวมกันก็โดนเรากวนไปเกือบสามสิมรอบได้แล้วมั้ง” เปเป้ที่กอดเข่าเหมือนกันตอบกลับมา 

.............สีหน้าของทั้งสองดูกระปรี่กระเปร้าไม่ต่างไปจากคนเพิ่งได้ออกกำลังกาย  ดูเหมือนพวกเค้าจะชอบยั่วโมโหผู้คุมถือปืนนี้เสียจริง.........

“ให้ตาย  พวกนาย ไม่กลัวแฟนนายเอาปืนมาจ่อหัวกันรึไง....ยั่วโมโหคนพวกนั้นไปทั่ว” มึลเลอร์ส่ายหน้า แล้วกอดเข่าบ้างอีกคนหนึ่ง

สามหนุ่มหัวใจว้าวุ่นนั่งชะเงื้อชะแง้ไปทั่ว  จนในที่สุดความเคลื่อนไหวหนึ่งก็ดันไปสะดุดตามึลเลอร์เข้า  ชายเยอรมันตบหน้าอกเพื่อนอาชีพเดียวกันที่นั่งอยู่ข้างเค้า

เฮ้...ดูนั่นสิ  ใช่ที่ฉันคิดรึเปล่า” ร่างสูงของมึลเลอร์เสียงเข้ม  ในขณะที่เพ่งมองทะลุผ่านชั้นล็อบบี้ของตึกหลัก  สองคนที่ขนาบข้างเพ่งมองตามไปด้วย  และสักพักเนย์มาร์ก็เกือบหน้าทิ่มพื้น

ลี่โอ๋!....อุ๊บ!....ลีโออ  นั่นลีโอ พวกนายเห็นไหม!” เนย์มาร์ที่หลุดปากจนเกือบสำเนียงแปลง ก็รีบอุดปากตัวเองทันทีที่เห็นสัญญาณบอกให้เงียบของมึลเลอร์กับเปเป้ แล้วชี้ไปที่ตึกสามของโรงแรมอย่างตื่นเต้น

ตรงนั้น.....พอมีช่องว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกเตะจนเกะกะให้พวกเค้ามองเห็น โรนัลโด้กับเมสซี่ที่อยู่ฝั่งเยื้องๆ กันกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่......เป็นตอนที่เมสซี่โดนจี้เอวจนล้มลงมา

แต่คนที่เห็นเหตุการณ์ห่างออกมาเกือบกิโลเมตรก็มองเป็นอีกอย่างหนึ่ง

“พวกเค้ากำลังเดือดร้อนนะ!” เปเป้ออกความเห็น  มึลเลอร์ไม่แน่ใจนักแต่ตอนนี้เค้าไม่เห็นแขกวิ่งไปมาภายในตึกแล้ว  น่าจะโดนจับออกมากันหมดแล้วล่ะ.....แต่ถ้าผู้ก่อการร้ายพวกนี้เห็นเมสซี่กับโรนัลโด้เข้าล่ะก็

อาจจะเป็นอย่างที่จาโรว่า.......

“อ่า  แย่เลยนะ  ถ้าพวกมันเจอตัวสองคนนี้ล่ะก็ได้เป็นข่าวไปทั่วโลกแหงๆ เลย......ผมว่า เพื่อนคุณอาจตกอยู่ในอันตราย”

“เราจะให้พวกนั้นเห็นคริสกับลีโอไม่ได้นะ! พวกนั้นต้องเอาตัวสองคนนั้นไปเรียกค่าไถ่แหงๆ ” อยู่ๆ ชายเยอรมันก็โพลงขึ้น  เป็นเหตุให้เปเป้ที่จ้องตาโตเป็นไข่ห่านและเนย์มาร์ที่น้ำตาจะไหลพรากหัน ควับมาหาทันที

“นายว่าอะไรนะ!” เค้าประสานเสียงแต่ไม่ดัง

“ก็จำที่เจ้าหน้าที่จาโรพูดได้รึเปล่าล่ะ?....สองคนนั้นจะโดนเจอตัวไม่ได้นะ”

“งั้นเราก็ควรเงียบไว้ใช่ไหม  แล้วรอให้เจ้าหน้าที่คนนั้นพาสองคนนั้นออกมา....ใช่รึเปล่า?”

“ใช่  ฉันรู้พวกนายดีใจกันจนเนื้อเต้นที่สองคนนั้นยังไม่ได้เป็นอะไรไป  แต่พวกนายก็ต้องเก็บอาการเอาไว้และทำเหมือนว่าพวกเค้าไม่ได้อยู่ตรงนั้น” มึลเลอร์กระซิบกระซาบ

และสามหนุ่มหัวใจว้าวุ่นก็ส่งสัญญาณกันเป็นที่เรียบร้อย  พวกเค้ามองภาพของโรนัลโด้และเมสซี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะได้ผละออกไป  แต่ก็มีเหตุให้ระทึกขวัญ......

เมื่อลินซี่แฟนของเนย์มาร์เห็นท่าทางมีพิรุธของพวกเค้า แล้วจ้องมองอย่างสงสัย  ประจวบเหมาะกับที่เนย์มาร์หันไปสบตาเข้าพอดี

“อุ่ย...ซวยแล้ว

กบฏถือปืนกำลังจะหันไปมองทางที่พวกเค้าประสานสายตาไปบ้าง

“แย่แล้ว!  ไอ้หมอนั่นมันกำลังจะเห็นแล้ว  เราต้องทำอะไรสักอย่าง!

“เร็วเข้าสิ! จะทำอะไรก็รีบทำ...ฉันนึกอะไรไม่ออกยกเว้นแก้ผ้านะเว้ย”

“นายทำสิ!

“ไม่เอา....ส่งมันไป!

พูดไม่พูดเปล่าเปเป้ที่เถียงอยู่กับมึลเลอร์ ก็ถีบก้นเนย์มาร์ให้ถลาออกมาจากวงด้วยความเร็วสูง

ปั๊กก!

“อั๊กก!

ทุกคนในพื้นที่หันมามองเนย์มาร์กันเป็นตาเดียว

ไป! ความหวังของพวกเราอยู่กับแกนะไอ้หน้าโจร  ไปทำให้แฟนแกปิ๊งแกอีกรอบให้ได้นะ!” เปเป้ให้กำลังใจ  ส่วนเนย์มาร์หน้าชื่นเหงื่อ ยืนลูบขากางเกงตัวเองอยู่กลางฝูงชน

ซวยแล้วตรู....จะทำยังไงดีว่ะเนี่ย  มองกันเป็นลุ้นเลขเด็ดเลย........เนย์มาร์คิด  ลินซี่ที่ถือปืนอยู่ก็มองเค้าด้วยเช่นกัน

เค้าไม่มีทางเลือก เพื่อลีโอแล้วเค้าทำได้ทุกอย่าง.......งั้นเวลาแบบนี้ต้อง

I’m gonna marry the night... I won’t give up on my life.  I’m a worrior queen live passionately tonight...” เนย์มาร์ถ่างขาซ้ายออกสี่สิบห้าองศาแล้วไล้มือไปตามขาซ้ายที่อ้าไว้อย่างเซ็กซี่ของตัวเอง(?) 

“...I gonna marry the night.  I gonna marry the night  night  night  night...” ชายบราซิลรูดไปสุดขา  ก่อนจะเชิดหน้าตัวเองขึ้นแล้วเริ่มจิกตาใส่ลินซี่ที่รัก (เค้าทำเพื่อให้ไอ้โจรคนนั้นหันมาสนใจเค้าโดนเฉพาะ)  แล้วยอดชายนายเนย์มาร์ก็สะบัดหัวจากล่างขึ้นบนเมื่อถึงท่อนฮุค

I gonna marry the night!.  I’m not gonna cry anymore.  I gonna marry the night!....” เนย์มาร์สวมวิญญาณอนึ่งเป็น  Adam   Lambert  เค้าพาดนิ้วมือทั้งห้าผ่านหน้าของตัวเองเมื่อถึงท่อน I’m not gonna cry anymore.  เค้าอยากจะทำอย่างนี้มานานแล้วแต่ไม่มีใครเคยมองเห็นความสามรถของเค้า  พอมาวันนี้เมื่อมีโอกาสเนย์มาร์เลยฉายแววแบบไม่หยุด

ในขณะที่ชายบราซิลอายุยังหนุ่มแน่นวาดลีลาถอดแบบออกมาจาก Adam   Lambert ยังไงยังงั้นอยู่นั้น  เพื่อนสองคนที่ส่งเค้าเข้าประกวดก็เงยหน้าอ้าปากค้าง มองคนที่ไม่น่าจะทำแบบนั้นได้กันเป็นตาเดียว  มึลเลอร์กลืนน้ำลาย

“ใครสอนหมอนั่นให้ทำแบบนั้นฟะน่ะ” ใบหน้าเค้าเหยเก  แต่เปเป้ส่ายหน้าช้าๆ และมันดูบิดเบี้ยวไปเลย  ชายโปรตุเกตุกอดอกแล้วพูดช้าๆ แต่เน้นคำ

“อุ...บาทว์...มนุษย์”

เนย์มาร์ยังคงร้องต่อไปอย่างไม่มีใครห้าม  เพราะไม่มีใครคิดว่าจะมีคนกล้าทำแบบนั้น

Nothing’s too cruel, to take me from you. New York is not just a tan that you’ll never loes. ” เนย์มาร์ทำหน้าที่เรียกร้องความสนใจได้ดีมาก  ตอนนี้โรนัลโด้กับเมสซี่ลุกออกไปจากตรงนั้นแล้ว และจะไม่มีใครที่อยู่ตรงนี้เห็นพวกเค้าอีก

Get Ginger ready climb to EI Camino front. Won’t poke holes in the seats with my heels cause that’s where we make love…!” ชายตัวประกันคนเดียวที่ยืนอยู่วาดมือไปบนกลางอากาศแล้วทำท่าเหมือนเค้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ  ไม่มีใครบอกเค้าว่าโรนัลโด้กับเมสซี่ปลอดภัยแล้ว

Come on and runnn…” พอถึงท่อนนี้แล้วเสียงเค้าก็เพี้ยนอีก

มึลเลอร์ตบหน้าผากตัวเองดังฉาดแล้วก้มหน้าซุกกับหว่างขา และเปเป้ที่จ้องค้างแบบอาฟเตอร์ช็อค  ทั้งคู่รอจนเนย์มาร์ร้องเพลงจบเช่นเดียวกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

Marr…Marry….The night….The night  The night  The night  The night  Yaaaa…aa..aa… The night  come onnn…n  The night!” เนย์มาร์ชูมือขึ้นฟ้าอย่างสะใจ  เค้าสะบัดหน้าขึ้นมาแล้วหอบหายใจฮั่ก เหมือนนักร้องร็อคเกอร์เพิ่งโชว์เพลงโปรดจบไป


.


.


///Part นี้ อุทิศแด่ Adam   Lambert! ///
(Glee : a katy or a gaga)
[จิ้มโล้ดเลยค่ะ  ไปชมต้นฉบับกันเลยยย 555 : Ray – Aund >< ]



.


.

“ไอ้อุบาทว์!!” เปเป้ลงความเห็น


.


.


.


TBC.


---------------------------------------------------------------------------------------------


555555555555 เฮียเนย์......เฮียทำอะไรคะ >[]<  55555 อูยยย ไม่ไหวค่ะ  ไรท์แก้มแทบจะฉีกอยู่แล้ว รู้สึกสงสารเฮียเนย์อยู่นิสๆ ค่ะ (นิดเดียวเท่านั้น 555)  แต่ไรท์ก็มองไม่เห็นแล้วว่า ใครจะไปใจกล้าและทานทนเท่าเฮียเนย์ของเราไม่มีอีกแล้ว ณ ที่นี้ --- ว่ะฮ่ะฮ่า!  

เอาให้สุดๆ ไปเลยค่ะเฮียเนย์  ถ้าหากรีดๆ ดู Adam Lambert ในต้นฉบับแล้ว รีดๆ ก็คงจะนึกภาพออกนะคะ ><!!  เพลง  Marry The Night –Adam Lambert  กดที่ชื่อเพลงเลยค่ะ ไรท์ซ้อนลิงค์ไว้ให้แล้ว ทั้งสองจุดเลยนะเออ 5555 อยากให้ดูจัด   Adam ของไรท์ไม่เคยทำให้ผิดหวังค่ะ >///< //รีดบางคนบอกสงสารเฮีนเนย์เหลือเกิน//  แต่นี่คือทางที่เค้าเลือกค่ะ  เค้าอยากจะบอกชาวโลกมาตั้งนานแล้วว่าเค้าต้องการอะไร 5555555 >{}< 

 ไรท์แบบว่าคิดแล้วคิดอีกค่ะ  ว่าจะเขียนฉากนี้ดีไหม  แต่ว่าก็ทัดทานความรั่วของตัวเองไม่ไหวค่ะ >< //ยิ้มโชว์ฟันตาหยี// 555  เลยสนอง Need ตัวเองไปค่ะ  จะเป็นอย่างไร  รีดๆ ช่วยติชมด้วนะคะ  ไรท์อยากรู้ที่สุดเลยค่ะว่า Part  เป็นอย่างไรในสายตาของรีดๆ  คริๆ //ยังฮาเฮีนเนย์ไม่หาย  อ่านของเฮียเนย์แล้วไรท์ปรบมือ พร้อมเต้นแร้งเต้นการัวๆ เลยค่ะ 55555//

ภูมิใจไว้นะเหมียวจ๋าาาา  เฮียเนย์เค้าทำเพื่อหนูนะจ๊ะ >///< โอยย ไรท์ปลื้มแทนเหมียวอ่ะค่ะ 5555  อืม แต่โด้เหมียว Part นี้ก็ใช่ย่อยนะค่ะ  เฮียนี่ทำไรท์ใจแตกเลยค่ะ  ทั้งแซวเหมียวทั้งเล่นหัวนม(?) //ข้ามมันบัดเดี๋ยวนี้!// 5555  เฮียเนย์กะเปเป้นี่ถ้าไม่มีมึลเลอร์คอยห้ามคงจะโดนโจรสอยเรียบร้อยไปแล้วแน่เลยค่ะ  ดูเค้ามีความสุขได้กวนประสาทโจร  -^- 

อูยยยยยยยยยยย รักรีดทุกท่านจนมิรู้จะอธิบายยังไงเลยค่ะ >////<  และพบกันใหม่ใน Part หน้าค่ะ ^^

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 16] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



อาาาา  มาอีก Part หนึ่งแล้วคะ  แหม....วันนี้  ไม่สิ! สองวันนี้ลงถี่จริงๆ 555  ก็มันคิดถึงนี่คะ  ไม่ได้แวะมานาน  ฮาาาา  และโด้เหมียวก็ไม่อยากรอนานด้วย  อิๆ  *u* 

นี่ต้องบอกเลยค่ะว่า  Part ควรค่าแก่การอ่านอีก Part หนึ่ง เพราเฮียแกเกรียนและอบอุ่นจัดค่ะ (เอ๊ะ  ยังไง?)  ถ้าอยากรู้  ต้องตามไปอ่านกันค่ะ ^^  คอมเม้นท์ให้ไรท์มีกำลังใจลงไวๆ หน่อยนะเออ  จะได้อยากเขียนฟิคอีกเยอะๆ นะคะ ><

เอาล่ะค่ะ  ที่นี้พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}< !!!


--------------------------------------------------------------------------------------


  เมสซี่ช้อนสายตาขึ้นมองคนที่เคยสละเสื้อนอกให้เค้าอย่างละห้อย “ผมขอโทษ....”

  โรนัลโด้ชะงัก แล้วหย่อนกายลงมานั่งบนข้อเท้าและเข่าของตนเอง  ร่างสูงไม่รู้ว่าจะหยุดแล้วปล่อยช่วงเวลาหนีอันแสนมีค่านี้ไปทำไม  แต่ว่าใบหน้าที่แสดงถึงความเศร้าหมองของอีกฝ่ายก็ทำให้เค้าอดรู้สึกใจหายเล็กๆ ไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด โรนัลโด้ไม่ต้องการให้คนตรงหน้าเป็นแบบนั้นเอาเสียเลย

    เมสซี่ยังคงพูดต่อไปแต่ทว่าเสียงเบากว่าเดิมมาก “.....ผมรู้ว่ามันจะทำให้เราถูกจับได้แล้วก็ซวย....เอ่อ ไม่ ผมหมายถึงคุณจะซวยเพราะผมที่ลากคุณเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย  แต่ผมก็เลือกไม่ได้ที่จะเงียบแล้วก็มาสติแตกเอาทีหลัง  เพราะการพูดทำให้ผมผ่อนคลายในเวลาแบบนี้  ผม ผมหมายถึงในช่วงเวลาที่แย่ๆ และเราก็กำลังจะตาย ผมไม่คิดว่าผมจะทำอะไรได้และผม  เอ่อ ผม  คือ......ผมขอโทษ

ร่างเล็กพูดจากวกวนเหมือนกับเจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจคำพูดของตัวเองไม่แพ้กัน  แต่สุดท้ายแล้วคำพูดขอโทษที่รู้สึกผิดอย่างสุดซึ้งก็ถูกพูดออกมาปิดท้ายประโยค

  โรนัลโด้หายใจไม่ทั่วท้องและรู้สึกเหมือนตัวเค้าโดนบีบ  ราวกับว่าความรู้สึกแย่ก็กำลังประดังเข้ามาหาเค้าด้วยเช่นกัน.........เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นร่างสูงก็ไม่เข้าใจแน่

และเค้าก็เริ่มรู้สึกแย่เอามากๆ แล้วที่ทำตัวงี่เง่าหงุดหงิดในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

ไม่นะคริส  นายไม่ควรไปโมโหใส่เค้า  นายก็รู้ว่าเค้าบอบบางแค่ไหน  นายก็อยากเก็บรอยยิ้มของเค้าไว้ไม่ใช่เหรอ อยากให้เค้าทำตัวน่ารักๆ แบบนั้นใส่นายอีกไม่ใช่เหรอ  เพราะถ้าได้ออกไปแล้วนายก็จะไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นของเค้าอีก  ต่อไปนายกับเค้าจะได้วิ่งในสนาม และแม้แต่ยิ้มให้ เค้าก็จะไม่มีมันให้นายเลยแม้แต่นิดเดียว!........โรนัลโด้ตะโกนบอกตัวเองในใจ ราวกับจะตบหน้าตัวเองเตือนสติด้วย หากทำได้

และฝ่ามือแกร่งแต่ทว่าอบอุ่นในเวลาเดียวกันก็แตะสัมผัสไปที่บ่าเล็กอันสั่นเทาของเมสซี่  สายตาคมมีเสน่ห์ดูมุ่งมั่นเมื่อเค้าบอกให้ร่างเล็กหันมามองเค้า

  “เฮ้  นี่...นี่ คุณมองมาที่ผมทีและห้ามหลบตาอีก ให้เหมือนอย่างตอนแรกที่คุณไม่พอใจผมสิ” ร่างสูงพูดอย่างชัดเจนแต่ทว่าอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน  โรนัลโด้พูดต่อ

  “ฟังนะลีโอ ไม่ว่าคุณจะตั้งใจให้มันเกิดขึ้นหรือไม่  หรือแม้ว่าตอนจบในคืนนี้มันจะเป็นอย่างที่เราไม่ต้องการ  แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว  คุณอยู่ที่นี่  ผมก็อยู่ที่นี่........และผมขอบอกให้รู้ไว้ ว่าผมไม่เคยคิดที่จะโทษคุณเลยสักครั้งเดียวที่เรามาอยู่นี่  เข้าใจไหม

ร่างสูงเลื่อนมือมาเกลี่ยพวงแก้มเนียนใสของเมสซี่ และเค้าพบว่าตัวเองชอบที่จะทำแบบนี้ไม่น้อยเลย  โรนัลโด้ส่ายหน้าช้าๆ ไปด้วยขณะพูด  ดูเค้าต้องการจะย้ำเตือนว่ามันไม่ใช่อย่างที่ร่างเล็กคิดเลยแม้แต่นิดเดียว

“ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ตามล่าผม  ผมจะหนีไปคนเดียวแล้วทิ้งคุณไว้ก็ได้  แต่ผมก็จะพาคุณไปด้วย.....ใช่ ผมไม่ทิ้งคุณหรอก  ผมไม่ทำ.....และไม่ว่าจะเป็นยังไงสุดท้ายแล้วผมจะไม่ทิ้งคุณ!  เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว  คุณห้ามโทษตัวเองเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะโกรธคุณจริงๆ ด้วย” เสียงเข้มพาให้สายลมหยุดพัด เอ่ยร่ายยาวราวกับว่าจะส่งผ่านความกล้าไปให้อีกคนหนึ่ง

เมสซี่ตัวเบาหวิว และเริ่มหูอื้อเพราะหัวใจที่เต้นรัว  ร่างเล็กจ้องมองคนที่สัมผัสแก้มเค้า  แล้วรู้สึกว่าตัวเองอบอุ่นไปทั่วทั้งหัวใจ  ก่อนร่างกายของเค้าจะรู้สึกอบอุ่นเช่นนั้นบ้างอย่างไม่เข้าใจ  ร่างเล็กจ้องมองร่างสูง.......และเป็นอีกครั้งในคืนนี้ที่โรนัลโด้ตอกย้ำความรู้สึกดีๆ ใส่ใจของเมสซี่

ตอนนี้ภาพชายเหย่อหยิ่งที่วิ่งอยู่ในสนามถูกลบออกไปจนหมดสิ้นในหัวของร่างเล็ก  เหมือนเค้ารีบูทสมองตัวเองใหม่แล้วป้อนข้อมูลของโรนัลโด้ที่เค้ารู้จักในคืนนี้ลงไปแทนที่

มีคนหลายคนที่รัก และเอ็นดูร่างเล็ก  ช่วยเหลือ  และโอบอุ้ม  ทำทุกอย่างที่เมสซี่คิดว่าเค้าคงจะไม่มีวันโชคดีได้รับความรักมากมายจากคนที่สโมสรมากไปกว่านี้อีกแล้ว  แต่แล้วร่างเล็กจ้อยตัวน้อยของกองหน้าบาร์เซโลน่าก็เกิดไม่เข้าใจ........

เค้ากลับรู้สึกดีกว่านั้นหลายเท่าตัว  เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของโรนัลโด้เมื่อกี้นี้  เป็นคำพูดที่ไม่สวยหรูหรือหวือหวา  แต่เมสซี่รู้สึกเหมือนร่างสูงพร้อมที่จะยอมโอบอุ้มทั้งจักรวาลเอาไว้เพื่อเค้า  ความรู้สึกเป็นห่วงของโรนัลโด้แผ่ซ่านมาหาร่างเล็กผ่านมือคู่อันอบอุ่นที่ทาบลงมาบนแก้มเนียนของเค้า  และบัดนี้มันกลายเป็นสีแดงภายใต้มือของโรนัลโด้อีกครั้ง

และอีกครั้งที่แสงจันทร์เผยมนตรา......ทุกอย่างที่ต้องแสงจันทร์ดูน่าพิศวง  โรนัลโด้มองริมฝีปากบางที่เคลือบน้ำใสๆ เผยอออกจากกันน้อยๆ จากการหอบของร่างเล็ก  โรนัลโด้หลุบตามองต่ำ เค้ามองริมฝีปากนุ่มที่ตัวเองเคยครอบครองมาแล้วและเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้

โรนัลโด้ก้มหน้าต่ำลงและเข้าใกล้จุดหมายขึ้นทุกที  เมสซี่ไม่ได้ฝืนหน้าหนีแต่หลุบตามองต่ำเช่นเดียวกับร่างสูง  พวกเค้ากำลังจะจูบกันอีกครั้ง............

ปังๆๆ!

แต่แล้วทันใดนั้นเอง เสียงปืนก็ดังกราดขึ้นฟ้า  เป็นเหตุให้คนทั้งสองที่กำลังจะมอบริมฝีปากให้แก่กันอีกครั้ง ต้องผละออกจากกันหลังสะดุ้งสุดตัว  โรนัลโด้ยืดหลังตรงแล้วชะโงกหน้าขึ้นไป  ในขณะที่เมสซี่ก้มหน้าลงแล้วเบิกตากว้าง

...........นี่เค้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่! กำลังจะจูบกันงั้นเหรอ  ไม่เอา บอกทีว่ามันไม่จริง!..........

เมสซี่ทำหน้าช็อคมากกว่าเดิมเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเค้าไม่แม้แต่จะห้ามตัวเองเลยด้วยซ้ำ  ร่างเล็กก้มหน้ามองพื้นพิจารณาตัวเอง แล้วเค้าก็ต้องเผลอเอามือกอดแขนล้ำๆ ของร่างสูงไว้อย่างตกใจ  เมื่อโรนัลโด้จู่ๆ ก็ตวัดแขนกอดเค้าจนเซถลามาซบกับอกแกร่งของเจ้าตัวเข้าเสียอย่างนั้น

เมสซี่ตกใจเป็นสองเท่า และเกร็งเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงแข็งแรง  ดวงตากลมโตมองขึ้นไปยังปลายคางของคนที่กอดเค้าไว้

ชู่ว์  เงียบก่อน....พวกมันกำลังมา” พวกเค้าทั้งสองหลบอยู่กับรอยมือของ ทอม   ครูดส์ และ บรู๊ด   วิลลิสอย่างเงียบเชียบ  เมื่อมีกองโจรประมาณสามสี่คนเดินมาสำรวจบริเวณนั้นอย่างช้าๆ

เมสซี่ได้ยินเสียงบู๊ทตึกตักดังอยู่ข้างๆ  เค้าตัวสั่นและหัวใจเต้นระรัวด้วยความลุ้นระทึก.......เสียงอยู่ใกล้ขนาดนี้  พวกมันจะต้องเจอพวกเค้าแน่!.......มันใกล้เอามากๆ ทำให้ร่างเล็กนึกถึงชายโรคจิตที่ย่องเข้าบ้านเค้า คืนก่อนวันเกิดอายุครบสิบขวบของเค้า

........ไม่  ไม่เอา  เมสซี่ไม่ต้องการให้เค้ากับโรนัลโด้เป็นอะไรไป  ไม่ต้องการ........

แต่เสียงรองเท้าก็ใกล้เข้ามาทุกที  พร้อมกันนั้นร่างเล็กก็ต้องเผลออุทานออกมาเสียงหลง  เมื่อตัวของเค้าเกือบจูบลงกับพื้นซีเมนท์  แล้วต่อมาก็ได้ยินเสียงดัง ผั๊วะ!

อั๊ก!!

“เฮ้ย มันอยู่นั่น!

โรนัลโด้กระโจนตัวออกไปถีบเข้าที่หน้าของชายฉกรรจ์ที่อยู่ใกล้ตัวเมสซี่ที่สุดหลังกดศรีษะเมสซี่ลงกับพื้น  แล้ววิ่งด้วยความเร็วแสงเข้าไปหาคนที่สอง  ร่างสูงถีบอีก และชายคนที่ได้รับรอยจูบจากรองเท้าไปเต็มๆ ก็กระเด็นไปหาเพื่อนคนที่สามซึ่งอยู่ข้างหลังทันที

พวกนั้นจุกแอ็ก  ก่อนที่เมสซี่ซึ่งกำลังตามสถานการณ์ไม่ทันโผล่หัวขึ้นมาเหนือลูกเต๋าและท้าวแขนกับมันเพื่อใช้ป้องหัวตัวเอง.......เค้าเป็นห่วงโรนัลโด้มากกว่าจะกลัวหัวหดอยู่หลังลูกเต๋า

และเมสซี่ก็มาทันพอดี เห็นร่างสูงตะโกนใส่ชายคนสุดท้ายที่ยังไม่โดนประทับรอยเท้า

“เฮ้ย ห้ามใช้ปืนนะเว้ย!” ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่  แต่เมสซี่ก็เห็นโรนัลโด้เตะปืนในมือที่จ่อพร้อมจะยิงของโจรคนสุดท้ายจนกระเด็นออกไป  แต่ชายคนนั้นไม่ยอมแพ้ เค้ากลับจับชายเสื้อนอกราคาแพงของโรนัลโด้เอาไว้และเหวี่ยงมัดเข้าใส่  ร่างสูงป้องไว้  แต่ดูแล้วมันคงหนักน่าดูเลย

ชายคนอื่นๆ ที่โดนประทับรอยเท้าแล้ว  เริ่มโงนเงนลุกขึ้นมา  เมสซี่เก็บแขนลง และเห็นโรนัลโด้ม้วนตัวถอดเสื้อนอกที่ติดมือคนอื่นออกไป  ชายฉกรรจ์มองเสื้อในมืออย่างหัวเสียแล้วพุ่งเข้ามาหาศอกของร่างสูงเสียเอง  ชายคนนั้นโดนเข้าไปเต็มดั้ง......เมสซี่เดาว่าคงจะหักยับเยินไปแล้ว  แต่ร่างสูงก็ยังคงต้องระวังอยู่

“คริส! ข้างหลังคุณ!” เมสซี่ตะโกน  โรนัลโด้หันมามองคนที่ตะโกนบอกแวบหนึ่ง ก่อนจะเห็นชายอีกสามคนที่เตรียมจะตันหน้าเค้า  โรนัลโด้เหวี่ยงตัวหลบแล้วรับมือกับชายพวกนั้นทีละคน

ร่างเล็กหันรีหันขวาง  และพบว่าพวกเค้าโชคดีเพียงใดที่ไม่มีผู้ร้ายวิ่งประดังเข้ามาหาอีก  เมสซี่รู้ เค้าหลบไม่เก่ง แถมสู้ไม่เป็นอีกต่างหาก  แต่การไม่เกะกะร่างสูงและดูลาดลาวนั่นถือว่าเค้าเป็นประโยชน์ที่สุดแล้ว

มีเสียงดังตุ้บตั้บ ของหมัดและกระดูกที่กระทบกัน  ร่างเล็กเห็นเพียงแต่แผ่นหลังกว้างและมัดกล้ามที่แทบจะฉีกเสื้อเชิ้ตออกมาเป็นชิ้นๆ ของร่างสูงเท่านั้นที่กำลังระดมหมัดใส่ชายคนสุดท้ายที่มีสติอยู่

และมันจบลงด้วยหมัดเสยดับสติของโรนัลโด้  ร่างสูงวิ่งมาหาร่างเล็ก แล้วหยุดตรงอีกฝั่งหนึ่งของลูกเต๋า  โรนัลโด้ไม่พูดแต่ยื่นมือออกไปหาเมสซี่  ให้มือน้อยๆ ที่เหมือนเด็กจับเค้าเอาไว้  ก่อนร่างสูงจะพาวิ่งออกไปให้ห่างจากตรงนั้น

พวกเค้าวิ่งมาได้สักระยะหนึ่ง  ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุวิวาทชุมทางลูกเต๋ากันมาได้พอสมควรแล้ว  จู่ๆ โรนัลโด้ก็หยุดแล้วเหวี่ยงตัวเองเข้ากับกำแพง  เค้าดูอดทนและพยายาม  มือแกร่งถูกยกขึ้นมากุมที่ชายโครงใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อดีสีขาว  ร่างสูงกดมันแน่นขึ้น และขมวดคิ้ว

“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” ร่างเล็กถาม  เมื่อเห็นมือที่กดลงบนชายโครงของร่างสูง

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก....ผมแค่โดนศอกกลับเท่านั้นเอง  ไม่เป็นไร ผมทนได้”

“แต่คุณบาดเจ็บนะ  ถึงจะไม่มีเลือดออก แต่ถ้ากระดูกหักตรงนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ” เมสซี่มองดู  ฝืนความอยากที่จะแกะมือของร่างสูงออกมาดูแล้วลองจับดูบ้าง แต่เค้ายังพูดต่อ

“ผมไม่คิดว่า เราควรมองข้าม....”

“ลีโอ” โรนัลโด้ชักปืนออกมาจากเข็มขัดแล้วเรียก  ร่างสูงทิ้งมือซึ่งถือปืนไว้ข้างลำตัว แต่ก็ยังกดชายโครงของตัวเองไว้แน่น

เมสซี่เงยหน้าขึ้นมามองเค้า  มีคำว่า “อะไร” แปะอยู่บนใบหน้าที่ตื่นตระหนก

“คุณฟังเสียงสิ  อย่าเพิ่งพูดอะไร” โรนัลโด้กลัดกลืนของเหลวลงคอไป แล้วอกตึงแน่นของเค้าก็กระเพื่อม  แต่เมสซี่พยายามมากกว่านั้น  เค้ารู้สึกว่าตัวเองหูไม่ไวเท่าโรนัลโด้เลยต้องใช้สมาธิที่มากกว่า

........บางที พวกนั้นอาจเจอร่างไร้สติของพรรคพวกแล้ว  และกำลังตามหาเค้าทั้งสองอยู่.........

แต่โรนัลโด้ไม่เคยให้เวลาที่เพียงพอกับเมสซี่เลย  ร่างสูงพูด

“เร็วเข้า  คุณต้องจูบผม”

เมสซี่เลิกฟังเสียงแล้ว  หันควับกลับมามองหน้าร่างสูง

เอาอีกแล้วเหรอ!?.......กัปตันอาร์เจนติน่าตะโกนก้องในใจ  เมสซี่คิ้วเต้นตุ้บๆ แล้วก็เพิ่งรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนขึ้นมาอีกแล้ว

“จูบผม”

โรนัลโด้ย้ำ  ก่อนร่างเล็กผู้ไม่มีทางเลือกจะถอนหายใจทิ้งไปราวกับเป็นสมอเรือ  แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปจูบร่างสูงเสียเองอย่างเสียไม่ได้

เมสซี่หลับตาปี๋  แต่ตำแหน่งริมฝีปากกลับลงล็อคเหมาะเจาะกันอย่างน่าประหลาด  และแทบจะทันทีที่กลีบปากบางทาบลงมา ร่างสูงก็ดูดเม้มกลับทันที  มือแกร่งที่ถือปืนไว้ถูกยกขึ้นมากดแผ่นหลังเล็กและลูบไล้ไปมาราวกับเมสซี่เป็นตุ๊กตาเหมียวตัวนุ่มฟู  โรนัลโด้เลิกกดชายโครงตัวเองแล้ว และกอดรัดเมสซี่ให้เบียดตัวเข้ามาหาเค้าอย่างไม่รู้จักพอ

แต่การกระทำที่ไม่บอกกล่าวนี้ ก็ทำให้คนเริ่มจูบตกใจไม่น้อยเลย........กองโจรพวกนี้คงไม่ชอบการกระทำที่โจ่งแจ้งของเพศที่สามอย่างที่ร่างสูงว่าจริงๆ.........

และเพื่อความสมจริง ร่างเล็กจึงช่วยใช้มือโอบรัดและกอดคอแกร่งของร่างสูงไว้ เค้าลูบท้ายทอยของร่างสูงไปมา เช่นเดียวกับที่ร่างสูงก็ทำกับเค้า....ร่างเล็กเลียนแบบมาจากคนที่สูงกว่าและดูจะจัดเจนกับเรื่องพวกนี้มากกว่า...........

ทั้งสองจูบกัน และเร่าร้อนแต่ทว่าไม่ได้มีการจาบจ้วงเข้าไป  เพราะโรนัลโด้กลัวเมสซี่จะโกรธเค้าเอา  แต่การเบียดเสียดและระดมจูบกันอย่างเร่าร้อนราวกับคนที่กำลังจะร่วมรักกันแบบนี้ก็สร้างความเร้าใจให้ร่างสูงได้ไม่น้อยเลย  พวกเค้าดูดเม้มและหันหน้าปรับองศาไปมา ก่อนที่จะผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเพราะมีใครบางคนเริ่มหายใจไม่ออก  และเกิดเสียงดังจากการดูดดึง เมื่อริมฝีปากละออกจากกัน

ทั้งคู่หอบ  เมสซี่เป็นคนแรกที่ยกมือขึ้นมาจับปากที่บวมเจ่อของตัวเองแล้วพูด  แต่โรนัลโด้ไม่ได้ทำ

“พวกนั้นวิ่งผ่านไปแล้วงั้นเหรอ” ร่างเล็กไม่รู้  เค้าไม่ได้หูไวเหมือนโรนัลโด้

แต่ร่างสูงส่ายหน้า “ไม่....พวกมันไม่ได้วิ่งมาทางนี้”

“อ้าว! แล้วทำไม.....” เมสซี่หน้าแดง เค้าขึงตาใส่โรนัลโด้แต่ก็มีสีหน้าไม่เข้าใจไปด้วย

โรนัลโด้ตอบหน้าตาย “ผมแค่อยากจูบคุณเฉยๆ” ร่างสูงจอมเจ้าเล่ห์เผยยิ้มออกมาในที่สุด

เมสซี่ขึงตาใส่โรนัลโด้มากขึ้นไปอีก แล้วหน้าแดงจัด

โรนัลโด้ --- !!!” ร่างเล็กระเบิดเสียงใส่อย่างเขินอายสุดชีวิต  มือเล็กๆ ขาวสะอาดของเค้าหงิกงออย่างเหลืออด  แล้วเต้นเร่าๆ ใส่ร่างสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่

“คุณนี่มัน.....อ๊าาาาาา! คุณมันขี้โกหกกก” เมสซี่ชี้หน้าโรนัลโด้ที่เม้มปากกลับเข้าไปแล้วนึกถึงสัมผัสอ่อนนุ่มซึ่งนุ่มหยุ่นของร่างเล็ก  และแน่นอน....เค้ายิ้มหน้าบานออกมาไม่หยุดเลย

“คุณทำยังงี้ทำไมเนี่ยยยย!


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------------


เฮียร้ายกาจอ่ะ -3-   “ผมแค่อยากจูบคุณเฉยๆ” พูดมาได้ยังไงคะเฮียยยยยยยย >{}< !!!  ชักจะเจ้าเล่ห์มากเกินไปแล้วนะคะ  อร้ายยยยยยยย  เขินแทนเหมียว >///<  //อันที่จริงไม่ต้อง  เพราะเหมียวนี่อายม้วนไปแล้ว 555//  

ใช่ย่อยค่ะ  ใช่ย่อย.......อย่าประเมินในส่วนนี้ของเฮียโด้ต่ำไปนะเออ  เฮียเรานี่ดูเหมือนจะหยอกเหมียวบ่อยขึ้นทุกที ฮาาาาา  ออกมาแล้วแต่งเลยนะเฮีย  แบบว่าขอแต่งงานกันกลางงานรับถ้วยรางวัลเลยก็ได้ค่ะ เหมียวจะได้มีรางวัลปลอยใจอีกหนึ่งอย่าง อร้ายยย >///<

แต่จะว่าไปแล้วตอนที่เฮียสำนึกผิดแล้วขอโทษเหมียวพร้อมกับให้กำลังใจเนี่ย  หล่อ + เท่มากเลยนะคะ >///<  พูดยังกะว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างนั้นล่ะ  จะดูแลเหมียวจนสุดใจขาดดิ้น  อูยยยยย เขินอายไปหลายม้วนค่ะ อิๆ

ติดตามข่าวสารและติดต่อไรท์ได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  จิ้มเลยค่ะ  ยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ ^^  แล้วเจอกันใหม่ค่ะ เรื่องนี้และ MaLec ต้องติดตามนะเออ 5555  รักรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ >M<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund