อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย
//โหยหวน// มาแล้วค่ะรีดๆ ขาาา อร๊ายๆๆๆๆ
(รู้สึกบ้า) ไรท์ใกล้จะปิดเทอมแล้วค่ะรีดๆ อร๊ายยยย ใกล้แล้วววว //เขย่าขารีด// ถ้าปิดเทอมนะ
ไรท์จะอัพฟิคมันถี่ๆ เลยค่ะ อ๊ากกกกกกกก
//คุกเข่า แล้วเอนตัวไปข้างหลัง//
รู้สึกว่าจะบ้าขึ้นสมองแผ่ซ่านไปยันทั่วร่างแล้วล่ะค่ะ 555555
ฟินนิคกับพีต้ากำลังจะจบแล้วค่ะ อีกน่าจะประมาณ 3 Part ต่อจากนี้ค่ะ น่าจะนะคะ
แฮ่ๆ
มันจะเป็นตอนจบที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกเค้าค่ะ....โอยยย ฟังแล้วดูใจหายจังง
TUT พีต้าน้อยๆ
ของไรท์กำลังจะได้เป็นฝั่งเป็นฝ่าแล้วค่ะ TUT //ร้องไห้อีกสักทีด้วยความปิติ//
ฟินนิคดูแลพีต้าให้ดีๆ
นะเคอะ!! //จับมือฟินนิคขึ้นมาบีบทั้งสองข้าง// ขอฝากฝังพีต้าด้วยนะคะ.....เฮยยย เดี๋ยว
นี่ยังไม่จบเลยนาา ดูความหวาน และชีวิตอันสงบสุขของเค้าก่อนซี่----
โอเคค่ะ
ก็ได้ที่กล่าวไปนะคะ ว่าพวกเค้าจะมีเรื่องดีๆ อะไรเกิดขึ้นอีก แต่ว่า....ไรท์ว่าอาจไม่แน่ค่ะ ฟินนิคกำลงจะกลับบ้านนี่เนอะ มองในแง่ของความเป็ฯจริง
ก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ
แต่ว่าเค้าสองคนฝ่าฟันอะรมาด้วยกัน
จนมาถึงจุดนี้! อ๊ากกกกก จะแยกกันง่ายๆ อย่างงี้เลยรึไงฟระ! >[]< //แกทำยังกะฟินนิคใช่คนบอกว่าให้ตัวเองกลับบ้านเองยังงั้นแหละ
-*-//
โอเคค่ะ พีต้าจะทำเช่นไร และฟินนิคจะทนกับเสียงเต้นกระตุกของหัวใจตัวเอง
ตัดใจบอกลาพีต้าได้หรือไม่ ไปอ่านกันเลยค่าาา! >0<
-------------------------------------------------------------------------------------------
“พีต้าคือว่าฉัน...อีกไม่กี่วันฉันจะต้องกลับบ้านแล้วนะ”
.
.
*******************************************************************************
.
.
“กลับบ้านเหรอ?” เด็กหนุ่มคิดว่าฟินนิคจะอยู่กับเค้าตลอดไปแต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ถึงแม้จะแอบหวังให้ฟินนิคลืมกลับบ้านต่อไปเรื่อยๆ
ก็ตาม
“ถ้างั้นแล้วนายจะไปเมื่อไรงั้นเหรอ?”
เจ้าตัวถามออกไปด้วยความไม่ชักช้า
เรื่องนี้ทำให้พีต้าใจสั่น เจ้าตัวคิดเรื่องี้เอาไว้อยู่แล้วแต่ก็อดใจหายไม่ได้ เพราะเมื่อครู่พวกเค้ายังหัวเราะถึงคนที่ทำงานมาด้วยกับตลอดทั้งสัปดาห์อยู่เลย
เด็กหนุ่มคิดว่าเรื่องหวนคืนกลับบ้านจะผุดเข้ามาในความคิดของชายหนุ่มช้ากว่านี้ ถึงแม้จะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่พีต้าก็ไม่เคยเป็นเช่นนั้นเลยนอกจากกับฟินนิค เด็กหนุ่มไม่แม้แต่กระพริบทีเลยเดียวเมื่อคนข้างๆ
บอกว่าจะต้องจากกันแล้ว พีต้ากำลังตั้งใจฟังอย่างหนักยิ่งกว่าเมื่อตอนทบทวนแผนลอบสังหารสโนว์เสียอีก
“คงอีกไม่นานหรอก” ฟินนิคคราง และแปลกใจว่าเหตุใดตัวเองจึงเรียบเรียงคำพูดได้ยากนัก ถ้อยคำของเค้าหดหายไปเพราะสีหน้าที่หงอยลงของพีต้า ปรกติแล้วเค้ามักจะหาคำพูดที่ทำให้เรื่องดูแย่น้อยลงได้เสมอ
แต่ตอนนี้กลับยากเกินไป
พีต้าวางแก้วลงบนฟางหญ้าชื่นๆ แล้วหันมาหาคนข้างๆ
อย่างเต็มตัว
“ฟินนิค...” พีต้าไม่รู้จะพูดอะไรเพราะรู้ดีว่าไม่ได้มีความสุขนักกับคำว่า
‘จะกลับบ้าน’ ของฟินนิค ชายหนุ่มจากเขต 4 ได้ส่งจดหมายกลับบ้านไปเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่าเค้ายังไม่ตาย ปลอดภัย และอยู่กับพีต้าที่เขต 4 แอนนี่น้องของเค้าส่งจดหมายกลับมาหลังจากผ่านไปเพียงไม่ถึงสิบวัน
เนื้อหาด้านในฟินนิคไม่ได้บอกไว้แต่เดาว่าเธอคงจะเร่งให้เค้ากลับบ้านเพื่อคลายความกระวนกระวายอย่างปลื้มปิติของเธอเป็นแน่
แต่คนที่ได้กอดฟินนิคเป็นคนแรกคือพีต้า
และได้จูบเค้าด้วย
เด็กหนุ่มสลัดความหวนแหนที่ไม่ควรทำออกไปและพยายามคิดถึงตอนที่ฟินนิคกอดลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ หนุ่มเบเกอร์รี่กลืนของเหลวลงคออย่างแนบเนียนแต่ไม่พ้นสายตาร่างสูง แล้วกระพริบตามองชายหนุ่มที่ทำสีให้เค้าใช้อย่างแสนเศร้า
“มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่ ฉันรู้
นายควรกลับบ้าน อันที่จริงนายควรกลับไปที่นั่นมากกว่ามาหาฉันที่นี่ด้วยซ้ำ”
พีต้าจำได้ว่าอีกคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่ารีบเร่งแค่ไหนเมื่อตัวเองหายดีแล้ว เด็กหนุ่มวาดยิ้ม แต่ฟินนิครู้สึกว่ามันช่างฝืนนัก
“ทุกคนคงคิดถึงนาย”
ใบหน้าพีต้าแสดงออกถึงความจริงใจ แต่สีหน้ากลับไม่ดีนัก “น้องสาวนายคงรอนายอยู่ ป่านนี้เธอคงกำลังบ่นนายอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ
ในลำคอ และร่างสูงจำได้ว่าพีต้าเลียนแบบการทำให้คนอื่นลำบากใจน้อยที่สุดมาจากเค้า
ร่างสูงยกมือขึ้นแตะข้างแก้มของเด็กหนุ่มอย่างปลอบโยน
“ฉันต้องมาหานายก่อนใครแน่นอนอยู่แล้วสิ” ฟินนิคปัดเรื่องของคนในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวออกไปโดยสิ้นเชิง เค้าคิดถึงและรักเด็กหนุ่มคนโปรดคนนี้มากกว่าใคร หกเดือนที่จากกันฟินนิคคิดถึงพีต้าเหลือเกิน
ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้าใจเค้าได้ แต่มันถึงเวลาแล้วที่เค้าต้องกลับบ้านไปบอกคนที่รออยู่และคิดว่าเค้าตายไปแล้ว
เด็กหนุ่มวาดยิ้มขึ้นมาเฉียบพลัน
ราวกับสิ่งที่แสนดีปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง “การที่ได้เห็นนายที่ทุ่งวันนั้นมันดีมากเลยฟินนิค เป็นวันที่ฉันรู้สึกดีที่สุดในชีวิต” เด็กหนุ่มแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเท้าตัวติดพื้นตอนที่วิ่งไปหาฟินนิคที่ยังไม่ตายหรือเปล่า และชายหนุ่มเดินทางรอนแรมเพื่อมาหาเค้าเป็นคนแรก
มันเป็นวันที่พระเจ้าประทานฟินนิคกลับมาให้พีต้า
ร่างสูงมองรอยยิ้มที่ทำให้หวนนึกถึงจูบครั้งนั้นใต้แสงสุดท้ายของวัน
แล้วถามอย่างเป็นห่วง “ถ้าฉันไปนายจะโอเคไหมพีต้า?” ฟินนิคถามตรง
และไม่อยากให้เด็กหนุ่มของเค้าต้องโกหก
พีต้ายักไหล่
แล้วส่ายหน้าอย่างไม่แน่ใจแทน “เอ่อ...คงจะไม่เป็นไรหรอกนะฉันคิดว่า...”
ก่อนฟินนิคจะเลื่อนมือซุกเข้าไปใต้ไรผมนุ่มของเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วทำให้คำพูดเสียงเบาลงไปทุกขณะนั้นเงียบหายไป
“ฉันรู้ว่านายจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร”
ฟินนิคลดเปลือกตาลงอย่างอ่อนโยนและยิ้มอย่างอ่อนโยนไม่แพ้กัน ส่วนมือก็ยังคงคลึงอยู่ใต้ไรผมนั้น
“ฉันรู้ว่านายต้องเหงาแน่” แล้วร่างสูงก็ยิ้มอย่างมั่นใจ พีต้าจึงกวาดตามอง
ฟังฟินนิคพูดว่า “เชื่อฉันสิ” เค้าพูดเหมือนรู้จักพีต้าดีและมั่นใจมาก
แต่เฟินนิคก็ไม่ได้พูดผิดเลยแม้สักคำ กระทั่งไม่ต้องให้พูดย้ำอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็เอื้อมมืออีกข้างหนึ่งไปจับท้ายทอยที่อยู่ตรงข้ามแล้วก้มหน้า
“นายก็แค่กลับบ้านนี่ใช่ไหม” พีต้าหัวเราะใส่ตัวเองเบาๆ
ใช่แล้ว
ฟินนิคแค่กลับบ้าน เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องทำหน้าเศร้าเสียด้วยซ้ำ...ก็แค่กลับบ้านแล้วพวกเค้าอาจไม่ได้เจอกันอีกหลายเดือน ใจจริงพีต้าอยากจะกอดขยำเสื้ออีกคนหนึ่งแล้วอ้อนวอนขอไปด้วยแต่เจ้าตัวโตแล้ว โตเกินไปที่จะทำแบบที่ไม่มีใครเค้าทำกันแล้ว
ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการอยู่ที่นี่
แต่ว่าฟินนิคคือทุกอย่างของเค้า
“เฮย์มิชกับแมวของพริมยังไม่น่ารำคาญเท่าแคทนิสเลยนะ”
ร่างสูงเอ่ยถึงตอนที่เจ้าหล่อนชอบโมโหแล้วมาลงที่พีต้าก่อนจะโดนเค้าบอกให้เย็นลงทุกครั้งไป พีต้าหัวเราะให้กับคนกล้าหาญที่สุดที่กล้าต่อกรกับอารมณ์บูดของแคทนิส
แต่ร่างสูงกลับคลึงไรผมนั้นเบาๆ เรียกให้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นเงยขึ้นมาสบตากัน
“นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่ร้องไห้เหมือนตอนที่อยู่คนเดียวอีก”
พีต้าขมวดคิ้วแล้วทำสีหน้าเหมือนเด็กโดนจับความผิดได้แต่ก็ไม่ยอมรับผิด “แคทนิสบอกฉัน เธอดูเบาใจขึ้นเยอะพอฉันกลับมา” ก่อนเค้าจะหัวเราะในลำคอเล็กน้อย
“ไม่รู้สิ บางทีเธออาจจะไม่ได้ดีใจที่ฉันไม่ตายก็ได้
แต่ดีใจทำให้นายเลิกแอบร้องไห้คนเดียวได้แล้วสักที เธอดูหงุดหงิดเวลาพูดเรื่องนี้นะ นายแอบส่งเสียงให้เธอได้ยินเหรอ”
“เธอไม่ควรเล่าให้นายฟังเลยรู้ไหม”
พีต้าพูดเสียงเบาและรู้สึกอาย แต่ฟินนิคชอบทุกอย่างที่เป็นเค้า ไม่ว่าจะเป็นคำพูด รอยยิ้ม
และสาเหตุที่ว่าทำไมพีต้าจึงร้องไห้
“นายรักฉันรึเปล่า?” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นโดยไร้สถานการณ์
พีต้าไม่ตอบทันทีในคราแรก เพียงแต่ยักคิ้วช้าๆ
แล้วพูดเบายิ่งกว่าเดิม “อืม ก็คงงั้น...”
ก่อนชายหนุ่มผู้เติบโตมากับสายน้ำจะเลื่อนมือของตัวเองลงมารวบกุมกับมือของอีกฝ่าย
“งั้นนายสนใจอยากจะวาดรูปทะเลสีครามที่มีปูตัวเล็กๆ คอยแอบดูนายอยู่ไหม?”
“หา” พีต้าเลิกคิ้วอีก
แต่ไม่ขยับมันลงมาอีกเลย “ทะเลกับปูเหรอ?” เจ้าตัวทวนคำ
“ของจริงเลยล่ะ” นิ้วมือของชาวประมงเลื่อนขึ้นมาเกี่ยวผมของร่างเล็กขึ้นไปถัดหู “แล้วฉันคิดว่านายน่าจะชอบตอนคลื่นซัดเข้ากับกราบเรือตอนที่เรานั่งเรือเข้าไปในเกาะ หรือไม่นายก็อาจจะคลื่นไส้แล้วอ้วกใส่มันแทน” ชายหนุ่มผิวสีแทนหัวเราะเมื่อนึกถึงภาพที่เคยเห็นตอนคนต่างเขตนั่งเรือเป็นครั้งแรก
และไม่แน่ใจว่าพีต้าของเค้าจะเป็นอย่างนั้นไหม
พีต้ากระตุกสายตาแวววาวเด่นชัด แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอ่ยอะไรออกไปดี แต่ที่แน่ๆ วาดรูปบนกระดาษว่างเปล่า ตกแต่งบ้านสร้างใหม่ และการอยู่กับแคทนิสตลอดทั้งวันไม่ใช่สิ่งที่เค้าอยากทำไปตลอดชีวิตแน่ ก่อนร่างสูงจะโน้มตัวลงมาประชิดข้างหูแล้วกระซิบพร้อมรอยยิ้มลุ้นระทึก
“นายอยากจะกลับบ้านไปกับฉันไหมพีต้า?”
ฟินนิคไม่อยากคาดเดาว่าเด็กหนุ่มของเค้าจะตอบเช่นไร แต่มือข้างหนึ่งที่ใช้กอบกุมของเค้าถูกดึงออกมาแล้วพีต้าก็ชี้นิ้วไปที่โรงเก็บซึ่งมีคนสังสรรค์อยู่มากมาย
“งั้นนายก็ต้องไปบอกลาพวกเค้าทุกคนพร้อมกับฉันแล้วล่ะ”
พีต้าพูดต่อขณะกลืนน้ำลาย “แล้วก็บอกแคทนิสให้ด้วยนะว่าฉันจะไม่อยู่บ้านสักพักหนึ่ง”
ร่างเล็กเก็บนิ้วของตัวเองแล้ววางบนตัก “ฉันคิดว่าคงไม่มีใครว่าอะไรโดยเฉพาะเธอ
และฉันก็อยากรู้ว่าบ้านของนายเป็นยังไงเหมือนกัน” เด็กหนุ่มวาดยิ้มอย่างช้าๆ
และเอ็นดู
ฟินนิคกระตุกยิ้มตอบโดยฉับพลัน ตอนแรกหลงคิดไปว่าเค้าจะถูกปฏิเสธเสียแล้ว แต่เด็กหนุ่มที่หัวเราะตอบน้อยๆ
ก็ไม่เคยทำให้เค้าผิดหวังเลย พีต้าเปลี่ยนมาเป็นอมยิ้มตื่นเต้นแล้วกลิ้งลูกแก้วที่นัยตามองขึ้นไปยังคนที่บังแสงไฟอยู่ตรงหน้า
ฟินนิคกระพริบตาแผ่วเบาครั้งหนึ่ง ทำให้รอยยิ้มของตัวเองเบาบางลงแต่ไม่ได้เลือนหายไป ก่อนเค้าจะยกมือขึ้นลูบข้างแก้มของพีต้าอย่างนุ่มนวล
ทำอย่างนั้นอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะกระซิบเสียงเบาหวิวเหมือนสายลมบนชายฝั่งของเขต
4 แต่ทว่าพีต้ากลับอบอุ่นไปจนถึงขั้วหัวใจ
“ฉันรักนาย” แสงจากเปลวไฟทำให้ผมของฟินนิคเป็นสีส้มประกายทองจ้า
ลมหนาวไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มได้อีกแล้ว
เพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นมีชีวิตชีวาอยู่ในอก
พีต้ารู้สึกได้ถึงฝ่ามืออบอุ่นของฟินนิคที่เลื่อนไปยังท้ายทอยของเจ้าตัวอีกครั้งหนึ่ง
และก็เลือกที่จะเอื้อมมือขึ้นสอดนิ้วเข้าไปยังกลุ่มผมสีส้มสว่างเพราะเปลวไฟนั้นด้วยเช่นกัน
“ฉันก็รักนาย” พีต้าพูดเบากว่ามาก แต่รอยยิ้มของตัวเองก็ไม่สามารถปกปิดได้มิดเลย ก่อนฟินนิคจะโน้มหน้าลงมา ดันต้นคอของร่างเล็กให้รับกับจูบของเค้า พีต้าอ้าปากก่อนทั้งคู่จะแลกลิ้นกันอย่างเงียบๆ
ท่ามกลางเสียงแตกเปรี๊ยะของกองไฟและเสียงเฮฮาของคนเมาในงานเลี้ยงซึ่งดังอยู่แว่วๆ
ฟินนิคทิ้งแก้วของตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ได้ เค้าลูบผ่านแผ่นหลังและร่นเสื้อของพีต้าขึ้นมาอย่างเร่าร้อนแต่ทะนุถนอม
กอดให้รู้สึกถึงกายที่เบียดเข้าหากัน ชายหนุ่มทั้งสองคนดูดดึงกันอย่างไม่รีบร้อนและไม่เป็นที่สนใจ ก่อนจะผละปากออกจากกันแล้วสบตา
“เราไม่ควรจูบกันที่นี่นะ” พีต้าบอก หายใจแรงอย่างเห็นได้ชัดจากการจูบ
“งั้นก็ได้ ไม่ใช่ที่นี่” ฟินนิคยิ้มหวานให้ ยกมือขึ้นลูบแก้มของพีต้าก่อนจะเลื่อนลงไปที่หลังใบหูอ่อนนุ่มนั้น
.
.
.
เสียงถอดเสื้อผ้าหลังปิดประตูดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงล็อคประตู เค้าจูบร่างเล็กที่ยังคงไม่ได้จับชายเสื้อตัวเองด้วยซ้ำ
พีต้าก็หลังแอ่นไปติดประตูเพราะแรงโถมของฟินนิคเสียแล้ว ชายหนุ่มผิวสีแทนลำตัวเปลือยเปล่ากำลังไล่มือไปตามแผ่นหลังคุ้นมือที่เค้าชื่นชอบนักหนาอย่างเร่าร้อน พีต้าหายใจสะดุด หลายครั้งเด็กหนุ่มส่งเสียงเล็กๆ
ออกมาจากลำคอในตอนที่จูบและลิ้นร้อนไล่ไปตามต้นคอขาว
ฟินนิคหายใจจังหวะเดียวกับพีต้า เสียงจูบของพวกเค้าดังจ๊วบจ๊าบราวกับคับแค้นกันมาเนินนานก่อนร่างสูงจะตัดใจผละออกแล้วถอดเสื้อของร่างเล็กออกไป ฟินนิคประชิดตัวเข้าไปอีก ใช้หว่างขาของตัวเองแทรกตรงกลางของพีต้าไว้ ประจบลิ้นป่านจะกลืนกินเด็กทำขนมอีกครั้ง ก่อนร่างกายแข็งแรงจะยกตัวอีกคนหนึ่งขึ้นแล้วอุ้มไปยังเตียงที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง
พีต้าหลังกระแทกกับฟูกเด้งดึ๋ง เส้นผมที่เรืองแสงสว่างเมื่อต้องกับแสงเทียนกระดกไปมาเล็กน้อย ก่อนเจ้าของมันจะยิ้มแล้วหัวเราะคิกคักใส่อีกคนหนึ่งที่ก้มลงมาจูบหน้าท้องของเค้า ฟินนิคดูสนุกมากกว่าทุกครั้ง ร่างสูงไล่ไปตามที่นั่นที่นี่ ชอบทำให้พีต้าหัวเราะอยู่เรื่อยไปแต่ถึงกระนั้นก็ไม่ลืมที่จะทิ้งสัมผัสวาบหวามไว้ด้วย พีต้าเริ่มร้องเสียงต่างออกไป บ่อยขึ้นและกระเซ้าขึ้น แขนของเจ้าตัวก็ยกขึ้นมากอดเกี่ยวกับอีกคนหนึ่งราวกับว่าขาดไปไม่ได้ไปด้วย
พวกเค้าฟังเสียงหายใจของกันและกัน ฟินนิคจับเสียงหวานของพีต้าและทำให้มันดังขึ้นมากกว่าเดิม เค้าถอดกางเกงของตัวเองและพีต้าออก ฝังตัวเด็กหนุ่มของเค้าไว้ใต้ร่างและแทบจมหายไปในกองผ้าห่มกับเสื้อผ้าในตอนนี้พีต้ากำลังอ้าขาขึ้นพาดบ่าของเค้าและกำผ้าปูที่นอนไว้อย่างกระชับมือ
“อะ อา...า อ๊า” เด็กหนุ่มเริดหน้าขึ้นในตอนที่เสียงเฉอะแฉะเมื่อยามสอดใส่ดังขึ้น
“โทษที นายเจ็บเหรอ?” ฟินนิคถาม มองหน้าเด็กหนุ่มที่ไม่ลืมตามองเค้า แต่ก็หรี่ตามองกลับมาเล็กน้อยคลายคนง่วงงุน
“ไม่ ฉันโอเค” พีต้าบอก ก่อนฟินนิคจะดันกายเข้าไปลึกมากกว่าเดิมและไม่หยุดเลยจนกระทั่งจรดจนสุดปลาย พีต้าดิ้นอยู่หลายครั้ง ร้องเสียงหลงและทำเสียงวาบหวามในลำคอแต่ก็ไม่ได้บอกห้ามอะไรให้ร่างสูงต้องหยุดไปเลยแม้แต่น้อย
จนกระทั่งช่องทางที่ถูกแหวกออกบีบรัดแกนกายที่คาอยู่อย่างแน่นกระชับ
ฟินนิคจึงก้มลงจูบดูดดื่มกับเด็กหนุ่มที่ใช้ขาเกี่ยวเอวของเค้าไว้ ลูบไล้ไปเสียทุกส่วนที่เค้าชื่นชอบและหลงใหลก่อนจะตบท้ายด้วยการออกแรงขยับกายอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพราะพีต้ายังคงไม่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้เท่าที่ควรนัก
“อ่าา...ฮะ...อืออ ฟินนิ...อ๊ะ! อ้า”
“ไหนนายบอกว่าฉันไม่ได้ทำนายเจ็บไง”
เมื่อได้ยินเสียงร้องที่ไม่ขาดช่วงของเด็กหนุ่ม
ชายหนุ่มที่คร่อมอยู่ด้านบนก็อดที่จะติงไม่ได้เลยถึงความไม่ตรงไปตรงมาของพีต้า
“กะ ก็มัน...อ้าา” พีต้าจับต้นแขนของฟินนิค
“บอกไปแล้วนายจะหยุดจริงๆ ไหมล่ะ?”
ร่างสูงวาดยิ้ม “นายก็น่าจะพูดบ้างว่าเจ็บ”
ก่อนจะดึงสะโพกออกแล้วดันเข้าไปให้แกนกายเคลื่อนเข้าไปให้ช่องทางเล็กๆ
นั้นดูดกลืน พีต้าร้องอีกแต่ทำหน้าแบบที่ฟินนิคเรียกว่า
ไม่ธรรมดา ใส่ ร่างสูงถูกบีบรัดอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นทุกขณะเพราะความอ่อนประสบการณ์จากอุโมงค์คับแคบนั่น เค้าท้าวแขนค้ำตัวเองไว้เหนือเด็กหนุ่มที่หน้าอกเปียกเชื่อเต็มไปด้วยน้ำลายของเค้า
“อ่า...อ่าา อา...พีต้า...โอ้...อ้า” เค้าปล่อยเสียงเสียวซ่านออกมา
และเดาว่าเด็กหนุ่มก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกับตนถึงได้ร้องออกมาตลอดเวลาอย่างนั้น “ใช่...อา
ฉันเองก็ชอบมันเหมือนกัน อาา”
“อ้า ฟินนิค
ลึก..ลึกไป...อ๊าา” เด็กหนุ่มหน้านิ่ว ตะครุบลำแขนแกร่งไว้แน่นก่อนความรู้สึกขาวโพลนจะแล่นเข้ามาจี้ที่โสตประสาทของเจ้าตัว พีต้าถูกขยับไปมาซ้ำอย่างนั้นอยู่หลายครั้งจนทำให้เด็กหนุ่มตัวสั่นระริก น้ำตาไหลฉ่ำอยู่ที่หางตาและหายใจหอบถี่ราวกับกำลังจะหมดอากาศ
“อือ!” หนุ่มเบเกอร์รี่ถูกโลมเลียด้วยลิ้นที่ยอดอกของตัวเองอีกครั้ง เข้าแอ่นกายหาอีกคนหนึ่งอย่างเสียวซ่านและเร้าระริก เสียงหายใจของพวกเค้าทั้งสองประสานกัน แก่งแย่งกันดังในห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะนั่นและกำแพงไม่อาจกักเก็บมันไว้ได้ โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่
“นายชอบออกไปข้างนอกไหมพีต้า หืม?” จู่ๆ ฟินนิคก็เอ่ยขึ้นเคล้ากับเสียงหายใจฟืดฟัดเพราะความรุ้มร้อนของเค้า พีต้านิ่วหน้ากับช่องทางที่เผลอโดนกระแทกใส่
“มะ ไม่รู้สิ”
ข้อนี้เจ้าตัวคิดไม่ออก
“แล้วชอบนั่งรถไฟไหม?..อื้อ!”
“อ้า! ชอบ...อ่า ฉะ ฉันชอบ! อ่า!” ฟินนิคกระแทกเข้ามาถูกที่
“แล้วนายชอบปูไหม?”
“หา?”
“ปูน่ะ กับลมแรงๆ บนหาด” ฟินนิคกระดกกายเร็วขึ้นอีกเพราะเสียงทวนคำอันไร้เรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มมันช่างเซ็กซี่
“อ๊า ปู..อ้า!” พีต้าแอ่นสะโพกขึ้น “ไม่รู้สิ ปูที่ทะเลเป็นยังไงล่ะ? อือ....อื้อ ฮึก” พีต้ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะไปจิกผ้าปูที่นอน
และเอ่ยออกไปเพราะไม่รู้จริงๆ
ร่างสูงสไลด์กายประกบเข้ากับสะโพกของร่างเล็กอย่างเบามือที่สุดแล้วแต่พีต้าก็ยังร้องอึกอัก ก่อนเค้าจะโน้มตัวต่ำลงไปจูบใต้วงแขนไวสัมผัสของพีต้าและใช้มือลูบไล้อีกข้างหนึ่งก่อนจะเลยสูงขึ้นไปยังเรียวแขนที่เกาะอยู่กับผ้าปูที่นอน มือใหญ่สอดเกี่ยวเข้ากับนิ้วเล็กๆ ทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มอย่างแนบแน่น
“มันก็จะค่อยๆ โผล่ออกมาจากรูแล้วก็แอบไต่ขึ้นไปบนเท้านายตอนที่นายหลับไง”
ร่างสูงตวัดปลายลิ้นไปบนหน้าอกขาวเนียนของคนด้านล่าง แต่งแต้มไปทีละจุดอย่างเย้าหยอก เหมือนขาเล็กๆ ของปูตัวน้อยที่เค้าเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆ พีต้าสั่นระริกไปเลยก่อนร่างสูงจะทำจนพอใจแล้วยืดตัวออกมา
พีต้าที่ถูกแกล้งจนแกนกายสั่นระริกและฉ่ำเยิ้มก็ยกตัวขึ้นมาบ้าง กอดรอบลำคอแกร่งนั้นไว้แล้วกระซิบประชิดใบหน้าของอีกคนหนึ่ง
“งั้นฉันก็ชอบมันมากเลย” ก่อนทั้งคู่จะประกบปากเข้าดูดกลืนกันอีกครั้ง สงครามโรมรันของลิ้นดังไปทั่ว พอๆ กับเสียงอื้ออึงในลำคอ เสียงขยับกายไม่หยุดแม้จะนั่งทับกันอยู่ก็ไม่แพ้กัน
“ที่นั่นไม่ได้มีแค่ปูใช่ไหม?” เด็กหนุ่มทำเสียงหอบหายใจหนัก
ขณะกำลังถูกโยกตัวไปมาบนตักของอีกคนหนึ่ง
ฟินนิคเองก็หายใจอย่างหนักหน่วงมากขึ้นทุกขณะ
“แล้วนายหวังอยากจะได้เจออะไรล่ะ?”
“อะไรก็ตามที่นายจะบอกฉัน...อ๊า!”
“อ้า...พีต้า...อาา พีต้า”
“อื้อ ฟินนิค...อ้า ฉัน...” เด็กหนุ่มทั้งกอดแล้วจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังสีแทนเซ็กซี่ ก่อนชายหนุ่มจะออกแรงดึงกลุ่มผมสีบล์อนที่อยู่ในมือตัวเองให้เอียงออกมาเล็กน้อย
“งั้นฉันจะบอกก็แล้วกันว่าอยู่ที่นั่นฉันใช้หอกของตัวเองหาปลายังไง”
ฟินนิคยิ้มก่อนจะกดจูบกับเด็กหนุ่มของเค้าอย่างออกรสอีกครั้ง
แกนกายของฟินนิคแหวกเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิมและเด็กหนุ่มก็สั่นด้วยความร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะ จนในที่สุดแล้วเด็กหนุ่มถูกยกขาขึ้นข้างหนึ่งด้วยแขนแข็งแรงที่ออกกำลังอยู่เสมอของชายหนุ่ม เจ้าตัวกอดรัดร่างที่สูงกว่าไว้แน่น ในขณะที่คนขบเม้มติ่งหูนิ่มอย่างเพลิดเพลินก็ขยับสะโพกสวนกายขึ้นไปอย่างกระชั้นถี่ในเวลาเดียวกัน
พวกเค้าพากันร้องระงมไปทั่วห้องเมื่อความร้อนในกายกำลังพาให้สติกระเจิง แผ่นหลังชื่นเหงื่อของพีต้าเสียดสีกับหน้าอกของฟินนิคไปมาก่อนเด็กหนุ่มจะแอ่นมันออกห่างเมื่อแท่งร้อนระอุนั้นจะทำให้เสียวซ่านและขมิบช่องทางมากกว่าครั้งใดๆ
“อื้ออ..ฮืออ...ฟินนิ...อ๊ะ!
อ่าา...ฉันกำลังจะ อ่า อ่า
อาา...า ฟินนิค!” เด็กหนุ่มตัวสั่นคลอนอยู่เคียงข้างกับร่างกายกำยำของหนุ่มชาวประมงที่กอดรัดคนรักของเค้าอย่างเร่าร้อน ก่อนแรงตอดรัดจากพีต้าจะทำให้เค้าล้นทะลักออกมาด้วยความเปี่ยมล้นแห่งอารมณ์
ร่างสูงกอดเอวเด็กหนุ่มของเค้าไว้ก่อนจะกระแทกกระทั้นใส่เข้าไปครั้งสุดท้ายแล้วกดแช่ไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนความอุ่นร้อนที่แผ่กระจายเจิ่งนองอยู่ในช่องทางคับแคบจะทำให้พีต้าต้องปลดปล่อยตามออกมาบ้าง
“อ้า!”
เด็กหนุ่มเอนตัวไปข้างหน้าอย่างหมดแรง ฟินนิครับไว้ในอ้อมอก คนด้านหลังค่อยๆ ปล่อยร่างของเด็กหนุ่มให้นอนลงกับพื้นเตียงอย่างนุ่มนวลก่อนเค้าจะดึงกายออกอย่างนุ่มนวลยิ่งกว่า น้ำไหลเยิ้มออกมจากช่องทาง แต่หนุ่มเบเกอร์รี่ของเค้าก็หลับไปเสียแล้วก่อนที่ร่างสูงจะทันได้เอ่ยอะไร
ฟินนิคกกกอดคนรักที่ร่างเล็กกว่าด้วยหัวใจทั้งหมดที่เค้ามีและหลับไปในคืนนั้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับคนที่ดื่มเบียร์จนเมาและแข่งกันเปลื้องผ้าอยู่ที่โรงเก็บผลผลิต
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย!!! ฟินนีคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค อร๊ายยยยยยยยยย!! คิดไว้แล้วใช่ไหมคะเนี่ยยยยยยย อร๊ายย กรี๊ดดดด! >< ถ้าอย่างนี้ก็ขอแต่งงานเลยค่ะ
ขอให้เค้ามาบ้านตัวเองแล้วก็.....ห่างกันไม่ได้แล้วสินะ 5555555555
ชอบความที่ขอให้กลับบ้านด้วยกันแล้วจัดงานฉลองกันสองคนแบบเร่าร้อนและเงียบๆ
ในห้อง 5555555 เนื่องในโอกาสอะไรคะ?......ได้พีต้ากลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วยงั้นใช่ไหมคะ?
5555555 //น่าจะมีอิโมจิมองด้วยสายตาโลมเลียนะคะ
555555//
อร๊ายยยยยยยยยย พีต้าจะออกไปจากอ้อมอกและคุก(?)ของเธอแล้วแคทนิสสสสส เค้าจะไปแล้วยะ!
เธอไม่ได้แอ้มเค้าแน่นอน
ไม่มีวัน! ไม่มีทางด้วย! ถึงรวมเล่มฉันก็จะไม่ให้เธอได้เจอเค้าหรอก 5555!!
//อินี่เริ่มน่ากลัวและ -*-// รีดเห็นด้วยไหมคะ? //หาแนวร่วม// 55555
Part จะเป็นอย่างไร รอชมกันนะคะ ^^ จะจบแล้วนะเออ ง่อวววว
คงจะคิดถึงสองคนนี้มากๆ แน่เลยค่ะ....โอย พูดแล้วก็จะร้องไห้อีกแล้ว T^T รักรีดทุกท่านะคะ
แปะเฟสจ๊ะ แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด (เรื่องไร้สาระและเรื่องที่ไม่ควรรู้ของไรท์ค่ะ
5555)
ขอบพระคุณสำหรับการอ่านและรับชมฟิคของไรท์นะคะ
^^ //แจกหัวใจจากฝ่ามือ// แล้วเจอกันค่ะ >//<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund