วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

[Fic – The Hunger Game] + [Part 15] The Possible – Finnick x Peeta






//รูปเก่าเล่าใหม่อีกรูปหนึ่งค่ะ ในเมื่อขุดพีต้ามาแล้วก็ต้องเอาฟินนิคมาด้วยค่ะ 555555  ธีมโปสเตอร์แบบครบชุด  เซ็กซี่จุงงงง 5555// + //นึกถึงชุดแต่งงานของฟินนิคบ้างแล้ว โอ้ยละลายยย 555555....อิบ้า!//

มาต่อกันค่ะ  Part นี้ NC แน่นอน 555555555

มาสั้นๆ แต่ได้ใจความค่ะ............NC…………



-----------------------------------------------------------------------------------



“พอเลย” เด็กหนุ่มยิ้ม  ฟินนิคจะทำแบบนั้นในตอนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วกอดกันอีกแล้ว

ไม่นานเสียงลมหายใจก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเสียดสีของผิวหนัง  เสื้อผ้าถูกถอดออกจนหมด  มันหล่นเกลื่อนพรมด้านล่างอย่างไร้ค่า  แสงไฟสีนวลตาให้ความอบอุ่นสะท้อนอยู่บนลูกบิดที่หมุนล็อคอยู่อย่างดีและก็ไม่มีใครมารบกวนมันอีกเลยตลอดคืนนั้น  นับว่าฟินนิคพูดถูกเรื่องความคิดของนายขบวนบนรถไฟ

และในตอนนี้เอง พีต้าก็นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเค้าซึ่งเอนหลังพิงอยู่กับโซฟาติดขอบหน้าต่างของโบกี้ที่แสนจะเป็นส่วนตัวนี้ของพวกเค้า  กระจกใสแต่แข็งแรงนั้นฉายให้เห็นดวงดาวพร่างพรายบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้ความหวาดหวั่นของผู้คน   พวกเค้าจูบกัน  แลกเปลี่ยน  ดูดดื่ม  ขย่มกายใส่กันอย่างเนิบช้าละเร่าร้อน ก่อนเด็กหนุ่มจะละจูบออกมา  ยืดตัวขึ้นถอดเสื้อตัวสุดท้ายออกแล้วโยนมันทิ้งไปดังเช่นที่ร่างสูงเคยทำบ่อยๆ  ก่อนจะถูกดึงให้ก้มลงไปจูบใหม่อีกครั้งด้วยความใจร้อนของอีกคนหนึ่งที่รออยู่ 

พวกเค้าจูบกันและบีบคลึงกันไปมา  กดฝ่ามือลากไล่ไปตามผิวที่ปราศาจเสื้อผ้า 

แกนกายที่ขยายใหญ่จนเต็มที่แล้วของชายหนุ่มทาบทับอยู่บนร่องซึ่งถูกแยกออกจากกันของเด็กหนุ่ม  พีต้าจับไหล่ของเค้าไว้  จูบกันแล้วจูบกันอีกจนกระทั่งชายหนุ่มจรดสิ่งนั้นของตัวเองไปจ่อที่ช่องทางอ่อนนุ่มของร่างเล็ก

“ขยับขึ้นหน่อยพีต้า” เค้าแนะนำในขณะที่นิ้วของตัวเองก็ยังคงคาจนมิดโคนอยู่ในรูน้อยๆ ที่ช่ำลื่นนั้น  แต่เด็กหนุ่มที่เกาะอยู่บนบ่าแน่นกลับร้องขอ

“ทำดีๆ ไม่ได้เหรอ?” เด็กหนุ่มหยัดขาไว้ตรงแน่ว  ไม่เคยเลยที่จะต้องทำการกลืนกินด้วยตัวเอง  เจ้าตัวชอบผ่ามือและน้ำเสียงที่คอยปลอบประโลมของชายหนุ่มยามเมื่อฟินนิคเป็นฝ่ายดันเข้ามาเองเสียมากกว่า

ฟินนิคจูบอีกครั้งอย่างแผ่วเบาแล้วลูบแก้มของพีต้า “นี่เป็นโอกาสอันดีของนายนะ” แล้วถอนนิ้วออกมาจากช่องทางที่มีน้ำเหนียวใสเยิ้มติดออกมาด้วย

“อา” นิ้วของฟินนิคทำให้เจ้าตัวปั่นป่วน “ฉะ...ฉันไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันดีเลย” พีต้าบ่นอุบ

“นายไม่ต้องทำอะไร  ฉันทำเอง” ร่างสูงยอมแพ้ในที่สุด  เค้ายอมโอนอ่อนให้ครึ่งทางแต่ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มลงจากตักของตัวเอง  ก่อนร่างสูงจะกำรูดแกนกายของตัวเองช้าๆ แล้วใช้มืออีกข้างประคองช้อนก้นของพีต้าไว้ในมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

“อา...” ร่างสูงจรดแกนกายเข้าไปในรูคับแคบที่อยู่ระหว่างซอกนิ้วของเค้า  และรู้สึกถึงท่อนเนื้อที่เบียดร่องนิ้วของตัวเอง เลยถ่างนิ้วให้กว้างขึ้น พร้อมกันนั้นก็ดันแหวกให้กลีบสะโพกน้อยๆ อ้าออกกว้างไปด้วย

“อ๊า!” พีต้ารู้สึกเหมือนตัวถูกแหวกออกอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ถูกฟินนิคสารภาพรัก  เด็กหนุ่มขยำไหล่หนุ่มชาวประมงไว้แน่น  ในตอนที่ส่วนปลายที่ร้อนระอุนั้นมุดเข้ามาได้อย่างง่ายดายและค่อยเป็นค่อยไปอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ได้มีการหยุดพัก “อ๊ะ...อ๊ะ...อา...ฟินนิค  ฟินนิค เดี๋ยวก่อน” เด็กหนุ่มรั้งเสียงเบาออกสั่นพร่า  ก่อนจะถูกอีกคนหนึ่งกระซิบบอกว่าให้ลองขยับเองดู อาจทำให้ไม่เจ็บเท่าเค้าทำเอง

“อืม...อ้า นั่นแหละพีต้า  ไม่ต้องรีบ  ขยับช้าๆ อย่างนั้นแหละดีแล้ว”

คนถูกแนะนำโยกสะโพกช้าๆ อย่างระมัดระวังแต่ทว่าความเสียวปลาบก็เรียกร้องบอกว่ายังต้องการอีก   ดังนั้นพีต้าจึงกดตัวเองลงไปบนตักแล้วดูดกลืนแกนกายที่ไม่ใช่ว่าเล็กน้อยของฟินนิคให้ค่อยๆ เข้ามาในตัว

เด็กหนุ่มส่งเสียง  ร้องครางกระเซ้าอย่างกระสับกระส่ายอยู่คนเดียว  ส่วนร่างที่วางมืออยู่บนสะโพกของเจ้าตัวนั้นก็กำลังหายใจช้าๆ เป็นจังหวะเดียวกับการโยกตัวอย่างอ่อนประสบการณ์ของพีต้าจนกระทั่งมันสุดปลาย  กดแช่อยู่ในตัวของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนตักของเค้า  พีต้าตัวติดจะสั่น  เกาะบ่าของเค้าไว้ส่วนสะโพกแน่นมือนั้นก็บีบอัดของๆ เค้าไว้จนแทบจะกระเฉาะออกมาโดยไม่ต้องขยับ

ร่างสูงบีบคลึงไปมา  ส่งลิ้นไปทักทายเด็กหนุ่มอีกครั้งแล้วขยับตัว

“อือ...!” เด็กหนุ่มรั้งไว้ ไม่ให้ขยับ “ข้างล่างมันเจ็บจัง” พีต้าบอก  มันต่างจากทุกครั้งที่ฟินนิคประชิดเข้ามา

ชายหนุ่มจูบทั่วข้างแก้มและใบหูของเด็กหนุ่ม  ความคับแน่นทำให้เค้ารู้สึกร้อนรนและโหยหา “ขยับสิพีต้า” ร่างสูงไม่บังคับ  ปล่อยให้เด็กหนุ่มทำตามใจของตัวเอง  แต่พีต้าทำได้ไม่ดีนักเนื่องจากแกนกายร้อนใหญ่ที่เสียบอยู่ลึกเกินไปทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่กล้า

“อ่า...อาา” เด็กหนุ่มร่อนสะโพกไปมาโดยมีมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มคอยทาบประกบอยู่ด้างล่าง  มันลูบและบีบคลึงบ้างเป็นครั้งคราวทำให้หนุ่มบ้านขนมปังมีแรงผลักดันที่จะยกสะโพกตัวเองและทิ้งตัวลงมาได้เร็วขึ้น

“อา  อาา  พีต้า  ดี...ดีมาก  อ่าา  อย่างนั้นแหละ  แรงอีกสิ” ชายหนุ่มเองก็ช่วยไปขยับฐานแกนกายด้านล่างไปด้วย

“อือ...อ้าา  อ่า” พีต้าจากเขต 12 ถอนหายใจทุเลาแรงสูบฉีดของเลือดในกายแล้วซบหน้าข้ามบ่าของฟินนิคไป

“เกาะฉันไว้นะ...อ่าา  โอ้ อา” ร่างสูงบอก  รู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดแผ่นหลังด้วยความเร็วถี่

“อา...ลึก  ลึกจังฟินนิค มันลึก....อ้าา

“ลึกมากกว่าครั้งก่อนๆ ใช่ไหมล่ะ...อา” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปยิ้มกับเด็กหนุ่มที่นิ่วหน้าแต่ก็รู้สึกยอดเยี่ยมไปด้วย “มันเยี่ยมไปเลยใช่ไหมพีต้า” เค้าทำหน้าเหมือนมีคำแนะนำดีๆ ให้พีต้า  เด็กหนุ่มกอดรอบต้นคอของชายหนุ่ม  ทั้งสองจูบกันสะเปะสะปะ  สวนสะโพกอย่างแม้นยำและมีน้ำหนัก

เสียงกระซิบกระซาบและเอ่ยครางหวานหูดังระงมไปทั่วตู้โดยสารนั้นราวกับคนด้านในมีโอกาสครั้งนี้เพียงครั้งเดียวที่จะได้อยู่ด้วยกันในค่ำคืนที่เป็นใจ  หรือหลายคนอาจเพิ่งรู้ว่าทั้งคู่ทำมันด้วยความรู้สึกอย่างนั้นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเค้านอนกอดกันแล้ว  โอบรัดทั้งกายด้านนอกและด้านใน  จูบกันอย่างไม่รู้จักพอ  และนอนกอดกันโดยจงใจลืมสภาพแวดล้อมกันทั้งคู่

“อา อา..อา  ฟินนิค...เราจะ...มะ ไม่...ไม่ไป...ที่เตียง...อ๊า!...กันจริงๆ เหรอ? อ้า!” เด็กหนุ่มตัวสั่นคลอนอยู่บนตักและแกนกายที่เสียบเข้าออกเจียนจะลุกเป็นไฟของชายหนุ่ม  ฟินนิคดูดลิ้นในโพรงปากของเด็กหนุ่มของเค้าอีกครั้ง

“มาถึงขนาดนี้คงไปไม่ทันแล้วล่ะ...อ้าา” ชายหนุ่มเผลอบีบโคนขาของอีกคนจนเป็นรอยแดง  ซอยเอวที่เด้งขึ้นอย่างไม่อาจจะหยุดยั่งไว้ได้

อ่าา” พีต้าซบหน้าผากกับบ่าแข็งแรงนั้นแล้วรู้สึกเหมือนช่องทางถูกรังแก “อาๆๆๆ  อ่า  อ่า...อ๊า” เด็กหนุ่มร้องถี่รัวตอบรับจำนวนครั้งที่ชายหนุ่มกระทั้นเข้ามา

“อ้าา ใกล้แล้ว...ใกล้แล้วพีต้า  อ้า!

จนกระทั่งชายหนุ่มกระแทกสุดแรงไปครั้งสุดท้าย  ก่อนของเหลวสีขาวขุ่นจะเอ่อล้นเข้าไปในร่างอันสั่นกระตุกของเด็กหนุ่ม

“อ๊าา!” หนุ่มเบเกอร์รี่หลั่งออกมาอย่างเลอะเทอะเพราะการเสียดสีจากหน้าท้องของร่างสูง  สะโพกแน่นมือยังคงดูดกลืนความร้อนระอุที่เริ่มเย็นตัวลงและหมดแรงแล้วในที่สุด  ชายหนุ่มหอบหายใจถี่พอๆ กับคนบนอกของเค้า  กอดเด็กหนุ่มเพื่อชื่นชมอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนเรี่ยวแรงที่กลับมาจะบอกให้เค้าเลิกแช่ตัวเองอยู่ในก้นของพีต้าเสียที 

ฟินนิคสอดข้อพับแขนเข้าไปใต้ขาอ่อนของเด็กหนุ่ม  ยกเค้าขึ้นเล็กน้อยแล้วดึงของตัวเองออกมา

“อะ อ่า” พีต้านิ่วหน้า  รู้สึกถึงของเหลวที่ต้องการจะไหลออกมาจากช่องทางอย่างบ้าคลั่ง  เด็กหนุ่มครางอื้ออึงในลำคออย่างไม่สบายตัวอยู่ครู่หนึ่งจนร่างสูงที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนจะส่งเสียงถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วงแน่นอน

“เป็นอะไรไปพีต้า?” เค้าจับสะโพกที่รู้สึกถึงคามอึดอัดนั้น “มันทำให้นายเจ็บเหรอ?” บางทีต่อไปเค้าคงต้องเลิกบังคับให้พีต้านั่งโยกตัวบนตักของเค้าซะแล้ว  เพราะนอกจากจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกแปลกไปแล้ว ดูเหมือนจะทำให้พีต้าเจ็บมากไปเสียด้วย

แต่คนถูกถามอย่างห่วงใยกลับส่ายหน้าช้าๆ พลางทำตัวสั่น ขยับเข้ากอดร่างสูงที่ยืมตักให้นั่งอย่างเชื่องช้า “ไม่ใช่  เปล่าหรอกฉันแค่  เอ่อ มันแค่...” แล้วกระซิบบอกร่างสูงว่าเจ้าตัวรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย

และเมื่อได้ยินคำกระซิบกระซาบข้างหูถึงแม้จะอยู่กันเพียงสองคนอย่างเนียมอายของหนุ่มน้อยพีต้าแล้ว  ร่างสูงก็จุดยิ้มขึ้นมา  ฟินนิคลูบลงไปตามเนินสะโพกกลมกลึงก่อนจะล่วงนิ้วเข้าไปในช่องทางอันอ่อนยวบแต่ยังคงคับแน่นของพีต้า

“อื้ออ...” เด็กหนุ่มจิกแผ่นหลังของเค้า  แนบแก้มร้อนผ่าวกับไหล่ที่เอนพิงกับพนักพิงกำมะหยี่

ฟินนิคส่งไปอีกนิ้วหนึ่ง  หมุนไปมา

“อ๊า!” พีต้าสะดุ้งแล้วจิกแรงกว่าเดิม “ย๊ะ...อย่าทำแบบนั้นสิ” เด็กน้อยดุ

ร่างสูงจึงเลิกหมุนวน  เปลี่ยนมาเป็นขยับเข้าออกแล้วแยกนิ้วออกจากกัน

“อ้าา...า!” 

ก่อนจะดึงนิ้วออกมาพร้อมกับน้ำรักของตัวเองที่ไหลตามมาด้วยอย่างมากมาย

“อย่าทำอย่างนั้นอีกเชียว” เด็กหนุ่มหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย เพราะนิ้วของร่างสูงร้ายกาจไม่แพ้กับลิ้นและหอกประจำกายของเค้าเลย

“ฉันก็แค่ช่วยนายเฉยๆ มันดีกว่าไม่ใช่เหอร?” ฟินนิคขยิบตาให้พีต้า

“นายไม่จำเป็นต้องทำก็ได้...” แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ  คนที่นั่งอยู่ด้านล่างก็โอบลำตัวเด็กหนุ่มเอียงไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงฟังดูสนุกสนานว่า

“เว้นซะแต่ว่านายอยากไปต่อที่เตียงนะ” แล้วจูบซุกซนอยู่ในปากของเด็กหนุ่ม  ผละริมฝีปากออกมา  กอดลูบเด็กหนุ่ม กดลงแนบกับอกของเค้า  ก่อนฟินนิคจะจับคำอู้อี้แต่ชัดเจนได้ว่า ไม่

คืนนั้นเสียงรถไฟดังกึกกักเกือบตลอดเวลาหลังจากตีสามเพราะเริ่มเข้าเขตที่พื้นดินไม่สมดุลกัน  ที่ๆ ไม่มีหญ้าและต้นไม้พุ่มเตี้ยขึ้นจะมีแต่ดินทรายและก้อนหินปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน

พวกเค้าใกล้ถึงแล้ว  และอีกไม่นานฟินนิคก็จะได้ปลุกเด็กหนุ่มที่จะกระวีกระวาดขึ้นมา แล้ววิ่งตรงไปยังหาดทรายที่เค้าคุ้นเคยมาทั้งชีวิต

เพราะนี่คือบ้านของเค้า

บ้านที่เค้าหวังว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและผู้คนจะดีใจเมื่อได้เห็นเค้า


**********************************************************************************


ผู้คนดีใจแน่นอนที่ได้เห็นฟินนิค

ความเหลือเชื่อปรากฏอยู่บนสีหน้าของใครหลายๆ คน  แต่เป็นเรื่องดีที่สุดหลังจากประกาศยุติสงครามจากแคปิตอลเก่า  ทุกคนยินดีที่ฟินนิคคืนกลับมาบ้าน

เอ๊าะ  ช่าย...พีต้าด้วย  แน่นอน รวมทั้งพีต้าด้วย

และคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่ามีหลายคนชอบพีต้า  ชอบมากกว่าฟินนิคที่ฟื้นกลับมาจากความตายเสียอีก



.



.



.



หลายสัปดาห์ต่อมา...

“ถอยไปเลยออสกี้  ฉันบอกนายเป็นรอบที่ล้านแล้วว่าอย่าเอาอวนไปให้เค้าเล่น!” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากท่าเรือ

ฟินนิคเดินดุ่มๆ ขึ้นมาบนท่าไม้บนบกที่ชาวประมงทำไว้เพื่อทำความสะอาดอวนและตากมันให้แห้ง

สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง  เค้ามองดูเด็กหนุ่มของตัวเองที่นิ้วมือพันอยู่ในอวนและมีแผลโดนบาด  พีต้าทำหน้าไม่สู้ดีนัก  พยายามเก็บมือออกมาจากอวนเจ้าปัญหาแต่ทว่าดึงไม่ออก

“ฟินนิค...” พีต้าพูดยังไม่ทันถึงไหน  มือกร้านแดดที่กำหอกอยู่ก็กระแทกมันลงบนพื้นแล้วขยำไปที่หัวสีแดงประกายด้วยริ้วสีส้มอย่างเหมาะเจาะของหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ข้างอวน

โอ๊ย! ฟินนิคใจเย็นน่าเพื่อน  นายจะ...อั๊ก  นายจะเอามือหนักๆ ของนายออกไปก่อนได้ไหม?” คนโดนครอบคลุมโอดโอย  “ฟังที่ฉันพูดก่อน” ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ พีต้าเบ้หน้าหนัก  ชูมือที่ขยับไปมาเหมือนอยากจะแกะมือที่ออกแรงจิกหัวของเค้าออกไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่ทำอะไรไม่ได้  ชายคนนั้นไม่ใส่เสื้อเหมือนฟินนิค  แต่ผิวซีดกว่าเล็กน้อย  สร้อยที่ทำจากหอยก้นแหลมของเค้าเป็นสีขาวบริสุทธิ์ทำให้เค้าดูเหมือนชาวประมงที่ทำงานในร่มมากกว่าออกทะเล

ออสก้า” พีต้าเห็นใจเค้าอย่างแผ่วเบา

โอ๊ยยย  พีต้า! เค้าจะฆ่าฉัน  ฟินนิคจะฆ่าฉานน” ออกก้าที่ว่านั่นอ้าปากร้องเสียงดังทำตาโต  ถึงแม้ฟินนิคจะยังไม่ได้ทำอะไรเค้ามากไปกว่าการทึ้งผม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ปล่อยด้วยเช่นกัน

“ฟินนิค” คราวนี้เด็กหนุ่มหันไปหาชายหนุ่มบ้างแต่พูดเสียงอ่อย  ทำหน้าราวกับว่าอยากให้เห็นใจออสก้าอย่างที่เจ้าตัวเป็นบ้าง  แต่สำหรับฟินนิคแล้วออสก้าร้ายกาจมากและไม่น่าให้อภัยมาตั้งแต่ตอนตอนเด็กๆ

ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่

ร่างสูงโยกมือไปทางซ้าย  หัวออสก้าเอียงตาม มีเสียงกรีดร้องเล็กๆ อย่างแสบคันหนังศีรษะตามมาด้วย

“นายไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอก  หมอนี่ไม่สมควรได้รับคำว่าน่าสงสาร”

“แต่ว่าเค้า...”

“ฉันบอกนายแล้ว” ฟินนิคตัดบทอย่างนุ่มนวลและเชียบขาด “บอกนายก่อนซะด้วยซ้ำออสกี้” แล้วหันมาพูดกับเพื่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเด็กหนุ่มของเค้าเสียงและอารมณ์แตกต่างกันอย่างเนได้ชัด

อ๊าก!

“ว่าพีต้าแก้อวนไม่เป็น  แล้วเค้ามีแผลที่นิ้วนายจะว่ายังไง?” ออสก้าเป็นคนที่ควรรู้ดีที่สุด  เพราะเค้าเป็นคนแรกที่พาพีต้าออกไปรู้จักกับอวนหาปลาและเด็กหนุ่มก็ถูกพันทั้งมือในอีกแค่ห้านาทีต่อมาจนต้องตัดอวนของลุงฮาร์เบิร์กทิ้ง  แต่ครั้งนี้ที่ทำให้เค้าไม่พอใจก็คือออสก้าไปลากอวนในเขตที่มีปะการังเปราะและมีหอยอาศัยอยู่มาก  ดังนั้นจึงมีเศษปะการังที่แตกหักและเปลือกหอยซึ่งใช่ว่าจะดีติดมาด้วย

และตอนนี้พีต้าได้แผลมาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ฟินนิคไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอก  เพราะฉันมาที่นี่เอง” เด็กหนุ่มว่าเสียงอ่อยอีกครั้ง  ความรู้สึกตุ้บๆ ที่แผลยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พีต้าวางมันลงบนขา ทำเหมือนเพียงแค่วางมือลงเฉยๆ  และพยายามทำราวกับว่าสีแดงที่นิ้วนั้นเป็นเพียงแค่สีแดงจากผลเบอร์รี่

ฟินนิคหันมามองร่างเล็กด้วยสีหน้าที่อ่อนลงไปมากเมื่อเทียบกับออสก้า “แต่เค้ามองนายโดยบาดนะ”

“เพิ่งบาดเมื่อกี้เอง...โอ๊ย!  โอ๊ยๆๆ ฉันยอมแล้ว ยอมแล้ว  ยอม...ยอมแล้วฟินนิคเพื่อนรัก ยอม...ทุกอย่างเลย” ออสก้าหัวเอียงอีกครั้งและคำในประโยคของเค้าถูกบีบให้เสียงสูงขึ้น  ชายหนุ่มผิวสีแทนคิดว่าผมสีประกายร้อนของออสก้ามีค่ากับตัวเองมากขึ้นทุกวินาที

“ฉันไม่ทันระวังเอง” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยกนิ้วมือของตัวเองขึ้นมาและเผลอมองมันสีห้าเจ็บปวดให้ฟินนิคเห็น “ฉันไม่คิดว่ามันจะคมขนาดนั้น  มันก็เป็นแค่...เปลือกหอย”

ว่าขาดคำเพียงแค่นิดเดียว  ผมสีแดงดกหนานุ่มของออสก้าก็ถูกปล่อยออก  ชายหนุ่มที่สวมสร้อยเปลือกหอยเหมือนพวกพรานประมงเกือบหงายหลังบนเก้าอี้ในตอนที่เพื่อนผมบล์อนสะบัดมือออกจากผมของเค้า

“โอ๊ย” ออสก้าขยุ้มนิ้วเบาๆ บนผมตัวเอง “ผมฉัน” เค้าโอดครวญไม่ดังนักแล้วมองเพื่อนชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำขึ้นมากกว่าเมื่อปีก่อนเดินไปยังเด็กหนุ่มที่เค้าพามาด้วยจากเขต 12

ฟินนิคหยุดอยู่ตรงหน้าพีต้าซึ่งจ้องนิ้วที่เลือดเพิ่งหยุดไหล ก่อนจะคว้ามันมาไว้ตรงหน้าแล้วอมมัน  เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ  เกือบจะชินแล้วกับการแสดงตัวเสมือนคนรักต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ของฟินนิคแต่ดวงตาตื่นตูมของเด็กหนุ่มก็มองเลิกลั่กไปทั่ว  และเห็นเพียงแค่ออสก้าที่เป็นห่วงผมของตัวเองมากกว่าอะไร นั่งมองปอยผมของตัวเองอยู่ตรงหน้ากับคนที่ยืนดูอยู่อีกหนึ่งคน  ก่อนพีต้าจะหน้าแดงในตอนฟินนิคถ่มเลือดที่อยู่ในปากของตัวเองลงไปบนพื้นทรายที่อยู่ต่ำลงไปเบื้องล่างจากท่าตากอวนที่ยกสูงขึ้นมาจากผืนทราย  จนมันดูเหมือนระเบียงโล่งยาวสีขาวเข้ากับชายหาด

เลือดของพีต้ากลับมาไหลอีกครั้งหนึ่ง แต่หนุ่มน้อยจากเขต 12 ไม่รู้สึกปวดตุ้บแล้ว

“ฟินนิคนายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้” คนโดนดูดหัวไหล่ยกสูงขึ้น เพราะถูกดึงข้อมือไป

“มันอาจเป็นพิษ” ร่างสูงว่า พูดให้มันดูมีเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างมีเหตุผลและง่ายได้ แต่ใบหน้าของเค้ากลับมีแววอมยิ้มและยังไม่ยอมปล่อยนิ้วของพีต้า  ฟินนิคหันไปมองเปลือกหอยที่เลอะเลือดของพีต้าเพียงแวบเดียวก่อนจะหันกลับมาหาอีกคนหนึ่ง  เมื่อเจอหน้าเด็กหนุ่มเค้ามักจะทำท่าเหมือนคนใจดีอยู่เสมอ  ครั้งนี้ก็เช่นกัน ก่อนจะดึงเด็กหนุ่มคนโปรดให้ลุกขึ้น  ลากลงมาตามบันไดของระเบียงไม้อย่างนุ่มนวล

“รู้อะไรไหม นายน่าจะฟังที่ที่รักของนายพูดบ้างนะ” ออสก้าพูด  มองตามฟินนิคที่สบตาเค้าด้วยแววสาสม  มือของหนุ่มผมแดงยังจับอยู่บนปอยผมยังคงของตัวเองอยู่

ฟินนิคไม่แม้แต่จะหยุด  เพียงแค่เบะปากยักไหล่ใส่เค้าเป็นเชิงไม่แคร์และเหมือนจะพูดว่า แล้วไงล่ะ นายสมควรโดนแล้ว ใส่เพื่อนที่โตมาด้วยกัน

ชายหนุ่มช่วงไหล่แข็งแรงและกล้ามเนื้อสวยงามน่าดูตามแบบของชาวทะเลมองตามแผ่นหลังที่พยายามย่ำตามให้ทันจังหวะก้าวเดินของชายหนุ่มผิวสีแทน  ก่อนหนุ่มชาวเลจะเลิกจับผมตัวเองแล้วเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย

“แหม  ให้ตายสิ ฉันชอบเค้าซะด้วย” ออสก้ายิ้มหวานกับตัวเอง เอียงหัวไหล่ไปพิงกับเสาเกี่ยวอวนที่แข็งแรง

ใช่  น่าเสียดายนะ” มีเสียงหนึ่งเห็นด้วยกับเค้า  ชายหนุ่มผมแดงอีกคนหนึ่งที่แก้อวนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ซึ่งมองดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกยื่นหน้าออกไปมองตามหลังเด็กหนุ่มตัวเล็กคนนั้นบ้าง

“เค้าน่ารักเนอะ”

ช่ายย” ออสก้าหันมายิ้มเห็นด้วย “นายพูดถูกที่สุดเลยออสซี่

ชายคนนั้นละมือจากการแก้อวนแล้วชี้นิ้วชี้ทั้งสองข้างมาหาน้องชายตัวเองเร็วๆ ประมาณว่าใช่ไหมล่ะ ฉันพูดถูก “ใช่  ฉันก็ชอบเค้า  พีต้าทำอาหารเก่ง” ออสซิเดี้ยนว่าสั้นๆ

“แต่เซ็งชะมัด ฟินนิคเจอเค้าก่อนฉันซะได้”

ออสซิเดี้ยนตบไหล่น้องชาย “เค้าสมควรได้แล้ว  เชื่อสิออกกี้  เค้าสมควรได้แล้ว”

อย่างน้อยทุกคนก็รู้แล้วว่าช่วงเกิดสงครามฟินนิคเสียสละและทำอะไรมาบ้าง  แต่ออสก้าก็ยังทำหน้าบูดอยู่ดี

“ขอบคุณพี่ชาย  นายว่าไหมเราน่าจะคุยกันเรื่องเวลานายปลอบใจฉันนะ” เค้ากลอกตา “ตอนจบพระเอกต้องเป็นฉันสิ ไม่ใช่ฟินนิค”

“พูดได้ไง  นายเป็นตัวร้ายตลอดนั่นแหละเพราะว่านายมันตัวป่วนไงไอ้น้อง”

“ฉันจะพูดเรื่องอวนนั่น” ออสก้าชี้ไปที่อวนข้างหลังอย่างเฉยชา

“เฮ้ย อย่า  ฉันเอาของลุงกัลลี่มาใช้  ลากขึ้นฝั่งมาแล้วยังไม่ได้บอกเค้าเลย” แววตัวป่วนอย่างร้ายกาจของออสก้าฉายชัดอย่างไม่ต้องสงสัย และเห็นได้ชัดว่าลุงกัลลี่คงจะไม่ชอบไปลากอวนที่แนวปะการังเปราะเป็นแน่เพราะมันทำให้เค้าอยากได้อวนใหม่

ออสซิเดี้ยนเดินออกมา  กอดคอออสก้าที่ตัวสูงเท่ากันแล้วเสนอเรื่องดีๆ อย่าง “งั้นเอางี้ไหม  เราทำเป็นเดินออกไป  ไปที่เรือ  ออกไปสักสองชั่วโมงแล้วปล่อยให้ลุงมาเจออวนของตัวเอง?”

“อืมม” ออสก้าเม้มริมฝีปากแล้วเอียงค้างครุ่นคิด  ลุงกัลลี่จะต้องร้องไห้แน่ๆ ถ้ามาเจออวนตัวเองถูกเศษปะการังกับเปลือกหอยปู้ยี่ปู้ยำขนาดนั้น  และเค้าก็ส่ายหน้าบอกพี่ชายของตัวเองไปว่า  “รู้อะไรไหมฉันชอบเชื้อคนเขต 10 ของนายจังเลย  งี้สิ ถึงจะสมเป็นพี่ฉัน” แล้วออสก้าก็ยิ้ม  เดินลงบันไดสั้นๆ ลงไปบนพื้นทรายอย่างกระปรี้กระเปร้าพร้อมกับพี่ชาย “ถึงชื่อที่ปู่ตั้งให้นายมันจะฟังดูเพี้ยนๆ ไปหน่อยก็เถอะ”

แล้วออสก้ากับออสซิเดี้ยนพี่ชายของเค้าก็ออกไปถอดเสมอเรือเล็กอยู่ที่ปากอ่าวเกือบทั้งวัน

แล้วลุงกัลลี่ก็ร้องไห้เมื่อเดินมาพบอวนใหม่ของตัวเองพันยุ่งเหยิงอยู่กับปะการังและเปลือกหอย  ก่อนเค้าพอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของหลานชายตัวดีคนไหน




.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------------------



ว๊ากกกกกกกกกกก  สองพี่น้องนี่ก็ช่ายย่อยนะคะ 5555555  ขนาดเค้าพาแฟนกลับมาบ้านยังไม่เกรงใจ ตามจีบแฟนเค้าเฉยเลยนะออสก้า 555555  ฮึย ลืมบอกไปว่าสองคนนี้เป็นแฝดกันค่ะ 5555   เรื่องอาจจะดูเดินไปเร็วๆ นะคะ  เพราะเดี๋ยวออกเล่มแล้วจะไม่มีอะไรเขียนค่ะ 55555555

การรวมเล่มเป็นความใฝ่ฝันของไรท์เลยล่ะค่ะ  ฮึก  T^T

เดียวเจอกันแน่คะ  เมื่อไรไม่รู้ 5555555

Part หน้า Part จบแล้วนะเออ  รอชมกันค่าา    ขอบพระคุณสำหรับการรับชมและติชมนะคะ  รักมากมายค่าา  ไปและ  แปะเฟสตามธรรมเนียม แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด  (อย่าลืมไลค์เฟจให้ด้วยนะจ๊ะ  รวมเล่มแล้วจะได้ตรู้ข่าวกันค่าา)

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund





ไม่มีความคิดเห็น: