อ๊ากกกก มาแว้วค๊า >[]<!!!!
วันนี้ไรท์ที่บ้าบอของรีดที่น่ารักทุกคน
มาพร้อมกับ คู่ใหม่ -
Fandom ใหม่ค่ะ
....../// ปั๊ก!! /// โดนรีดเดอร์ถีบหลัง “แกจะเอายังไงกะฉัน
ห๊ะ....เรื่องเก่าฉันยังรออยู่นะ!”
อุ แฮ่ๆๆๆ ......ก็เค้าเคยบอกแล้วง่า ว่าความฟินมันไม่เข้าใครออกใคร พอRayฟินแล้ว
ก็ยากที่จะหยุดฟินค่ะ
เราเลยต้องระบายด้วยการบรรเลงฟิคคคคคค /// อิ_อิ ///
แหมมมม ตามกระแสกันหน่อยนะค่ะ เราอยากจะให้ทุกท่านร่วมอิ่มเอมกับเราไปด้วค่ะ ^^
ตามกระแสๆ
(เปลี่ยนพื้นหลังเป็น World
Cup ด้วยยย ><)
สาเหตที่เขียนคู่นี้ ก็คือฟินค่ะ....ฟินอย่างเดียวเลย!! คืนวันเสาร์ที่ผ่านมานอนดูบอลกับพ่อค่ะ นัดนั้นอาร์เจนติน่าแข่งกับเบลเยี่ยมค่ะ
เมสซี่ในเซตอาร์เจนติน่าของอิฉันน่ารักม้วกกกกกค่า >[]<!!!
อู้ยยยย ตัวขาวๆ เล็กๆ วิ่งด๊องแด๊งไปในสนาม
– น่ารักอ่า ><
แล้วพอครึ่งแรก ก็เกิดเหตุการณืขึ้นค่ะ.......อ๊า
เมสซี่โดนรุมกระทืบบบบ
พ่อคุณโดนเตะขาจนล้ม แล้วก็ลงไปนอดขดตัวอยู่บนสนามเลยค่ะ ห่อตัวเองได้น่ารักมาก ณ จุดๆ นี้...Ray ขอบอกเลย *0*
อ๊ารรรรร์ ไม่พอมากและ......
แปะๆ รูปค่ะ เอามาฝาก (เพื่อการจิ้นและจินตนาการแบบเห็นภาพ *_*)
[คือแบบว่ารูปที่
Ray อยากให้ทุกคนมันเยอะมากเลยอ่ะค่ะ......จิ้มเนอะจิ้ม....ไปดูรูปกัน ก่อนแป๊บหนึ่ง ><!!]
.
.
.
อร๊ายยยยยยยยย ดูเสร็จแล้วก็ไปอ่านกันเลยค่ะ
เอ.....ในความคิดของเราแล้ว โรนัลโด้ดูจะรั่วๆ กวนๆ นะค่ะเนี่ย ส่วนเมสซี่ก็มีความเป็นเคะที่น่ารักในตัว *3*
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เอาแล้วครับ เอาแล้ว
อ้าว เมสซี่.....เมสซี่โดนฝ่ายตรงข้ามพยายามแย้งบอลครับ ล้มลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวครับ โอโห่
เฟลไลนี่ไม่ยอมปล่อยจริงๆ ครับตามไปจะเอาให้ได้........”
.............ทำไมนะ ทำไมผมถึงยังคิดถึงเหตุการณ์นั้นอยู่อีก หรือเป็นเพราะผมกำลังคิดถึงเค้าด้วย..........
ผมแสยะยิ้มอย่างสมเพชให้ตัวเองพลางส่ายหน้าช้าๆ
.....นี่คงต้องเป็นมุขตลกที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาแน่ๆ ทำไมน่ะเหรอ....ก็เพราะว่าผม คริสเตโน่ โรนัลโด้
กำลังตกหลุมรัก ลีโอเนล เมสซี่
เพื่อนนักฟุตบอลคนเก่งอย่างหัวปักหัวปำอยู่น่ะสิ
โอ้ พระเจ้า.....เหลือเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ ใช่ ผมรู้คุณกำลังอ้าปากค้างอยู่.......หุบปากซะเถอะครับ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ แม้แต่ผมเองก็ยังช็อคตัวเองอยู่เลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
แต่ที่รู้ๆ คือผมเริ่มจะ ‘คิดถึงเค้า’ ตั้งแต่ตอนที่ผมแต่งงานได้สักพักหนึ่งแล้ว..............-_-“ ให้ตาย
แล้วผมก็ถามตัวเองว่า
เอ็งเป็นเกย์รึเปล่าว่ะ
แต่พอมานั่งไตรตรองดูแล้ว ผมก็คิดถึงแต่เมสซี่คนเดียวนะ คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมทีม
ผมก็ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น
ออกจะหมั่นไส้พวกมันเสียด้วยซ้ำ
และในที่สุดผมก็ได้พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนขอบเหว
เพราะเมสซี่ก็แต่งงานแล้ว แถมมีลูกอีกตั้งหนึ่งคน และผมก็แต่งงานแล้วด้วยเช่นกัน......เราทั้งคู่ก็ต่างมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนกันแล้ว
แล้วผมมันมาคิดอะไรคนเดียวอยู่ว่ะเนี่ยยยยยยยย!!!!......ช่วยบอกผมทีเหอะว่าผมมันบ้าไปแล้ว
ไปหลงรักคนที่มีลูกแล้ว แถมเรายังเป็นคู่แข่งกันอีก!
โอ๊ย........คิดแล้วกลุ้ม ผมก็เลยซดวอดก้าเพียวๆ เข้าไปอีกช็อตหนึ่งตามหลังสี่หรือห้าซ็อตนี่แหละ
ที่ผมซดไปแล้วก่อนหน้านี้
ผมวางแก้วใบเล็กจิ๋วกระแทกกับบาร์เสียงดัง
พร้อมกับยกมือขึ้นบอกบราเทนเดอร์ที่หันมามองผมเพราะเสียงดังตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
ผมสั่งมาอีกหนึ่งซ็อต ไอ้หมอนั่นมันมองหน้าผมแปลกๆ
คงคิดว่าผมเมาแล้วยังจะกินอีกเหรอ..........
ฮ่ะๆๆ ไม่หรอกครับ
ผมคอแข็งสุดๆ ไปเลยล่ะ
ของแค่นี้ไม่ทำให้ผมเมาได้หรอกครับ
และที่นี่ก็เป็นบาร์เหล้าเล็กๆ
คนไม่พลุ่งพล่านมาก แถมยังอยู่ในมุมมืดอีกต่างหาก
ผมตัดสินใจเลือกที่นี่ก็เพราะว่าไม่อยากให้ใครรู้แน่นอนแหงอยู่แล้ว.........ผมมาคนเดียว ใส่เสื้อฮู้ดสีดำ หมวก
แว่นตาดำ.......
ผมพร้อมแล้ว
ไปปล้นทองกันเถอะ..........เฮ้ยยย!! เครียดอยู่ไม่ใช่รึไงฟะ!! เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง.......ก็คงไม่แปลกหรอกมั่งที่บางครั้งแฟนผมเค้าก็บอกว่าผมน่ะ
น่ารำคาญเพราะเล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา
เออ! เอาเป็นว่าช่างมันเหอะ.......ยังไงคืนนี้ก็ไม่มีใครมารำคาญได้ผมหรอก คิดแล้วมันแค้นใจจริงๆ ไอ้พวกเบลเยี่ยมทั้งหลาย ถ้าผมวิ่งอยู่ในสนามนะ ผมจะเข้าไปต่อยมัน โดยเฉพาะเจ้า เฟลไลนี่ ไอ้แอปโฟล์นั่น
มันเตะขาเมสซี่จนล้มลงแล้วมันยังไม่วายเข้าไปจะเอารองเท้าสตารท์ย่ำใส่เมสซี่ซะด้วยซ้ำ
แต่ดี.....ที่ผู้ตัดสินวิ่งเข้าไปห้ามไว้ได้ทัน
ตอนนั้นสาบานได้เลย
ผมยืนขึ้นตัวตรงแน่ว
หัวใจผมกระตุกวูบ
แค่กลัว.....กลัวว่าเค้าจะเป็นอะไรรึเปล่า
แค่กลัวว่าเค้าจะบาดเจ็บก็เท่านั้นเอง
แต่ท้ายที่สุดแล้วเมสซี่ลุกขึ้นได้และเข้าสู่เกมส์การแข่งขันต่อไป
ตอนนั้นผมคงจะชื่นใจได้แล้วกับความคิดวู่วามบ้าๆ
ของตัวเอง แต่ผมกลับยืนอยู่อย่างนั้น มองดูเค้า จนกระทั่งตอนที่เค้าวิ่งเข้ามาแล้วผ่านผมไป ผมก็ยังคงไม่ยอมนั่ง.....ยังคงมองตามเมสซี่ไป มองดูให้ชัวร์....ก็เท่านั้นเอง
หลังจบเกมส์การแข่งขันผมดีใจด้วยกับอาร์เจนติน่าที่ชนะเบลเยี่ยมมาได้ แม้สิ่งนั้นจะอยู่ในการคาดการณ์ของผมไว้เรียบร้อยแล้วก็ตามเถอะ
แต่ผมก็ยังอยากเข้าไปแสดงความยินดีด้วยกับเมสซี่ ผมเห็นเค้าฉีกยิ้มอย่างดีใจในสนาม วิ่งเข้าไปกอดกันกับเพื่อนๆ โห่ร้องอย่างดีใจ นั่นทำให้ผมฉีกยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ผมอยากเข้าไปอยู่ในสนามและยิ้มกับเค้า กอดเค้า
ขยี้หัวเค้า
แล้วผมก็จะอุ้มเค้าออกจากสนามไปเลย
ใช่ เพราะงี้ไง อีกใจหนึ่งผมก็นึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้เข้าไปอยู่ในสนามจริงๆ แค่นั่งเชียร์อยู่ติดขอบสนามก็พอแล้ว
อ้าว...นี่ผมไม่ได้บอกเหรอ
ว่าตั้งแต่ตอนเช้าผมอยู่คนเดียว
ซื้อตั๋วไปดูการแข่งขันของเมสซี่ในตอนสาย
ออกมาทำท่าเซ็งๆ อยู่ตอนบ่าย
และตอนนี้ผมก็นั่งซดเหล้าอยู่ที่บาร์เล็กๆ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว
ว่าตามตรง......ผมหงุดหงิดมากเลยทีเดียวในตอนเย็น เพราะความเซ็งที่ตกตะกอนรวมกันในตอนบ่าย ผมก็ได้รู้ว่าทำไมตัวเองจึงหงุดหงิด เป็นเพราะผมเป็นห่วงเค้าที่โดนสตารท์รุมกระทืบแบบนั้น รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆ
ที่รู้ว่าตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ..........ผมไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งย้ามกับเมสซี่ เพราะเราไม่ได้รู้จักกัน............
ใช่ เราอาจจะเคยลงแข่งรอบเดียวกัน แต่นั่นก็เป็นในฐานะคู่แข่ง ในสนามใครมันจะไปญาติดีด้วย......ผมเคยมองเค้าบ่อยๆ
จนรู้ว่าเมสซี่เองก็มองผมอยู่เหมือนกัน
แต่มองด้วยสายตาที่แตกต่างจากผม
ถ้าผมโดนเค้าจับได้ว่ากำลังแอบมองเค้าอยู่...ผมจะหลบตา แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมดันอยากลอง
ว่าถ้าผมไม่หลบตาก่อนแล้วเมสซี่จะหลบตาผมไหม........นั่นคือ
เค้าไม่หลบตาผมเลยครับ
จ้องเขม็งมาที่ผมลูกเดียว
จนผมนี่ต้องขอเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง......เมสซี่คงจะรำคาญและคิดว่าผมจะมองหาพระแสงอะไรนักหนา............
(เอ......แล้วเค้าจะเป็นคนหยาบคายเหมือนผมไหมนะ? รึว่าผมเป็นอยู่คนเดียว)
พอการแข่งขันจบไปนานพอสมควร
ผมก็เพิ่งเดินเตะฝุ่นออกมาจากสนามเป็นคนท้ายๆ และมันก็ประจวบเหมาะ......ช่างประจวบเหมาะเหลือเกินที่ทีมของอาร์เจนติน่าออกมาจากห้องเก็บตัวและกำลังจะกลับพอดี ผมตกใจมากที่จะได้เจอเมสซี่
แต่ในระหว่างที่ผมยืนเก้อยู่นั้น ผู้จัดการทีมอาร์เจนติน่าก็สังเกตเห็นผม แล้วพวกเค้าทุกคนก็ทักทายผมเยี่ยงนักกีฬาที่ดีมีน้ำใจให้แก่กัน........ผมโบกมือกลับไปและยิ้มหวานให้ ทุกๆ คนทักทายผม ยิ้มให้
และโบกมือยกเว้นเมสซี่
พอเค้าเห็นผมก็ดึงสายกระเป๋าแล้วก็เดินเลี่ยงผมขึ้นรถไปเลย
ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด แต่ที่รู้ๆ เค้าไม่มองหน้าผมเลยสักนิดก่อนจากไป......ไม่มองเลย.......นั่นอาจเป็นเพราะผมคงโดนเกลียดเข้าให้แล้วล่ะมั้ง
ที่มองเค้ามากเกินไปน่ะ ฮะๆ.....บ้าชะมัดเลยผม
และพอผมรู้ตัวว่าโดนเลี่ยง ผมก็หน้าเหวอทันทีเลย ก่อนที่จะบอกลาคนอื่นๆ
ในทีมนั้นตามมารยาทแล้วก็เดินแฝงตัวกับนักท่องเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนไปหาที่นั่งในร้านเงียบๆ
แห่งหนึ่งได้ และก็นั่นล่ะครับ
ความเซ็งของผมก็เริ่มตกตะกอนจนกลายมาเป็นความหงุดหงิดในเวลาต่อมา ต้องเดินซ่านหาร้านเหล้ากระแทกปากเนี่ย
แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่เคยเอาตัวเองไปเทียบกับเมสซี่
ว่าระหว่างเรา ใครเจ๋งกว่ากัน และผมก็เข้าใจเค้านะ บางทีเมสซี่อาจจะกำลังเครียดสำหรับนัดต่อไปว่าจะทำยังไงให้พาทีมเข้าสู่รอบชิงให้ได้
แต่พอมาเจอหน้าผมก็เลยหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
ไม่ว่ากันครับ ความตึงเครียดเป็นสิ่งที่กัปตันที่ดีควรแบกรับเอาไว้ ซึ่งต่างจากผมที่พาทีมตกตั้งแต่รอบแรกๆ เพราะตั้งคติพจน์กับตัวเองไว้ว่า
“หน้าที่เครียด ไม่ใช่หน้าที่เรา” ปล่อยให้ความเครียดตกอยู่ที่กุนซือก็โอแล้ว.....นั่นล่ะครับ
เราเลยตกรอบ แต่ผมก็ไม่เครียดนะ
และแถมยังไม่ทำให้ลูกทีมเครียดอีกด้วย
ผมเลยพาทุกคนไปฉลอง(?)กันที่บาร์ใหญ่แห่งหนึ่งครับ ผมปิดบาร์เลี้ยงมันเลย........ไม่มีใครบ่นผม
ต่อว่าผมสักคำ
เพราะว่ามันทุกคนนอนแผ่อิริสมาหรากันจนยันรุ่งเช้า
เมาครับ งานนี่ไม่เมาไม่เลิก......ผมบอกพวกมันยังงี้ มันก็เลยจัดเลยครับ ตายกันเกลื่อนบาร์กันเลยทีเดียว
ฮะๆ
แปลกแฮะ ร้อยวันพันปี
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สามารถทำให้ผมหงุดหงิดหรือเครียดได้ แต่พอมาเป็นเรื่องที่เมสซี่โดนเหยียบและที่โดนเจ้าตัวเมินกันซึ่งๆ
หน้า ก็ทำให้ผมสามารถมานั่งกระดกเหล้าย้อมใจอยู่คนเดียวได้
ผมไม่โกรธใครหรอกครับ ผมโกรธตัวเองเสียมากกว่า.........ที่ทำอะไรไม่ได้ และไม่เป็นที่พอใจของเมสซี่
ผมนั่งสั่งซ็อตและลาสมาอีกยกใหญ่ ดั๊มไปดั๊มมาก็ปาเข้าไปตีสองเสียแล้ว
ไอ้บราเทนเดอร์เจ้าเก่าก็มองหน้าผมแล้วมองหน้าผมอีก
จนผมกลัวเหลือเกินว่ามันจะจำผมได้
แต่เปล่าหรอกครับ หมอนั่นมันคงสงสัยว่าผมจะมีตังค์จ่ายมันรึเปล่าก็เท่านั้นเอง.........หึๆ
ร้านเอ็งจะรวยเพราะข้านี่แหละไอ้น้อง
ผมเองก็เริ่มรู้สึกเบื่อมุมอู้ๆ
ในร้านมืดๆ นี่แล้วเหมือนกัน ชักอยากจะออกไปเดินกินลมเล่นใต้แสงไฟสีส้มข้างถนนซะแล้วสิ
ผมก็เลยยืดอกขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ
ก่อนจะพ่นมันออกมา
แล้วลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง
แสงสลัวในร้านสะท้อนเข้ากับแว่นตากันแดดของผมเมื่อผมถอดหมวกออก
ทั้งสันจมูก โหนกแก้ม
ริมฝีปาก และสันกราม ใบหน้าของผมตอนนี้อยู่ภายใต้แสงสลัวสีส้มมัวของร้าน แต่นั่นก็เพียงพอทำให้รู้ว่าผมหน้าตาเป็นยังไงแม้มีเพียงแว่นกันแดดปิดบังสายตา ไอ้เจ้าบาร์เทนเดอร์คนเก่าเดินมากะจะเก็บเงินกับผม ผมเห็นหน้าที่บ่งบอกว่ามันจะพาผมไปล้างแก้วที่หลังร้านของมันได้เลย แต่พอหมอนั่นเดินเข้ามาใกล้ๆ มองหน้าผมแล้วหยุดสังเกตสักครู่หนึ่ง ก็นิ่งเป็นเห้งเจียไปเลย
ภาพสุดท้าย
หลังจากที่ผมวางเงินเกินราคาเหล้าไว้ที่บาร์ก็คือ
หมอนั่นอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อผมลั่นร้าน
ผมเดินออกมาโดยไม่สนใจกับอะไรทั้งสิ้น ใส่หมวกกลับไว้ที่เดิมแล้วซุกมือเข้ากับกระเป๋าเสื้อฮู้ดตัวโปรดของผมภายใต้แสงไฟสีส้ม
เหนือขึ้นไปบนถนนสายที่ร้างซึ่งผู้คนสัญจร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
---------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
******************
Massi Prat ******************
“เอาแล้วครับ เอาแล้ว
อ้าว เมสซี่.....เมสซี่โดนฝ่ายตรงข้ามพยายามแย้งบอลครับ ล้มลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวครับ โอโห่
เฟลไลนี่ไม่ยอมปล่อยจริงๆ ครับตามไปจะเอาให้ได้........”
โอ๊ย....ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บไม่หาย
ที่โดนเจ้านั่นเตะเอา
เมื่อตอนเที่ยงที่มีนัดแข่งขันระหว่างทีมผมอาร์เจนติน่า กับทีมของเบลเยี่ยม ผมโดน เฟลไลนี่ เตะเอาเข้าที่น่องจนผมเสียหลักล้มลง
ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะไม่เป็นอะไร จนกระทั่งจบการแข่งขัน น่องของผมก็ปวดตุบๆ และผมก็ได้แอบเอาน้ำแข็งมาประคบแต่มันก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเท่าที่ควร จนเพื่อนในทีมคนอื่นๆ
ที่เห็นชักเริ่มเป็นห่วงและถามผมว่า โอเคไหม?
ผมบอกปัดไปว่าไม่เป็นไร ผมจะทำให้ลูกทีมเป็นกังวลไม่ได้โดยเด็ดขาด.........
แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจได้มากที่สุดก็คือ
โรนัลโด้........ผมเห็นเค้า เค้ายืนอยู่ตรงริมขอบสนาม
ที่นั่งใกล้ที่สุดในอัฒจันทร์
ผมคงคิดไปเองรึเปล่าว่าใบหน้าเค้าดูลุ้นมากๆ กับการแข่งขันนัดนี้ เพราะดูเค้าจ้องตาไม่กระพริบเลยทีเดียว ตอนแรกผมออกจะแปลกใจทีเดียวที่เห็นเค้า
แต่สักพักก็คิดขึ้นได้ว่า โรนัลโด้คงอาจจะอยากอยู่ร่วมงานจนถึงบอลโลกวันสุดท้ายก็เป็นได้
การมาของเค้าและรู้ว่าเค้าอยู่นี่
ทำให้ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอามากๆ
ตอนนั้น ตอนที่ผมโดนเตะจนล้มลง แล้วกรรมการตัดสินให้ได้ลูกโทษ ผมเป็นคนยิง
แต่ทว่าสิ่งเดียวที่อยู่ในใจผมตอนนั้นคือโรนัลโด้อยู่ทางขาวมือของผม.....กำลังดูผมอยู่ ผมเห็นเค้าตอนที่ตัวเองลุกขึ้นแล้ววิ่งเหยาะๆ
ไปเกือบครึ่งสนามเพื่อเช็คขาของตัวเอง
ผมเห็นเค้า.....
เค้าอยู่ที่นั่น มองมาที่ผมด้วยท่ายืนที่ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมเค้าจะต้องแข็งโด่ขนาดนั้นด้วย แต่ผมก็วิ่งผ่านเค้าไป ทำเป็นไม่สนใจเค้า และเมื่อนาทียิงลูกโทษผมก็รู้สึกแปลกๆ
อย่างประหลาด
การยิงลูกโทษเป็นเรื่องง่ายสำหรับผม
และไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมจะกังวล
แต่ครั้งนี้ผมหัวใจเต้นรัว หายใจเข้าออกไม่ทั่วท้อง และฝ่ามือของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ........ผมออกแรงเตะมากเกินไป
บอลของผมก็เลย......
........ลอยข้ามคานไป.........ผมทำพลาดอย่างน่าเสียดาย
ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ผมรู้แต่เพียงว่าภาพของโรนัลโด้คนเดียวเท่านั้นที่ลอยอยู่ในหัวผมตอนนั้น....เป็นแบบนั้นจนจบการแข่งขันเลยทีเดียว
ไม่สิ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่......
ผมยังคงคิดถึงเค้า เออ...เปล่า
เปล่านะ ผมไม่ได้คิดถึงเค้าแบบนั้น....เออ คือแบบ......
เฮ้อ เอาเถอะผม......
ผมไม่รู้ตัวเองเสียด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรไป........
ตั้งแต่รู้ว่าเค้าเอาแต่มองผม.......
.............เมื่อไม่นานมานี้ นัดหนึ่งที่ทีมเราได้ลงแข่งร่วมกัน ผมยอมรับและไม่ปฏิเสธเลยว่าผมเองก็มองเค้าอยู่เหมือนกัน ผมเคยตั้งคำถามว่ากล้ามเนื้อตึงแน่นภายใต้เสื้อเนื้อดีตัวนั้น
เมื่อโดนเสื้อรัดมันจะเป็นยังไงนะ? หลังจากที่ผมเคยเห็นโรนัลโด้ถอดเสื้อโชว์กลางสนามหลังจบการแข่งขันมาแล้วหลายนัด
ปฏิเสธไม่ได้เลย
ว่าเค้ารูปร่างดีแค่ไหน ถึงแม้ผมจะหักโหมออกกำลังกาย
แต่ก็ยังไม่ได้ถึงขนาดเค้าเลยสักนิด
ตัวผมเองก็ส่วนสูงไม่ให้เสียด้วยสิ.........นี่แหละที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยมากที่สุด
ผมตัวเล็ก
หรือที่เดมิเคลิส บอกว่าผมเตี้ย
เทียบกับโรนัลโด้แล้ว เค้าเพอร์เฟ็กไปเลย
.........ผมวิ่งตามหลังเค้า
จนขนาบคู่กันไปในสนาม แล้วเราก็แยกกัน
แต่ผมก็ยังคงมองเค้าจากระยะครึ่งของสนามเมื่อบอลไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผม
สิ่งที่บ้าที่สุดตอนที่ผมกำลังจ้องเค้าอยู่คืออะไรรู้ไหม?
................โรนัลโด้มองกลับมา..................
และสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะเอาหัวกระแทกกับสนามฟุตบอลก็คือ
ผมค้างเติ่งอยู่แบบนั้น ไม่หลบตาเค้าด้วย นั่นเป็นเพราะผมกำลังช็อค
ทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกเค้าจับได้ว่าผมมองเค้าอยู่
แล้วโรนัลโด้ก็หันหน้าหนีแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว........
........บ้าจริง
เค้าคงคิดว่าผมต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ที่เอาแต่ยืนจ้องเค้าอยู่แบบนั้น ผมอายมากๆ เลยตอนนั้น คงโดนเค้าขยาดไปซะแล้วล่ะ
และพอมาวันนี้
ผมกลับเจอเค้าอีก
มันยิ่งทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมจ้องตาเค้า ผมจึงพลานคิดถึงหน้าเค้าไปด้วยว่าจะมองผมด้วยสายตาแบบไหนอยู่กันนะ........จนกระทั่งจบการแข่งขัน ทีมของผมชนะ
ผมดีใจอย่างสุดๆ ที่ทำให้ทีมผ่านมา จนถึงจุดนี้ได้ โรนัลโด้ก็เช่นกัน ถ้ารอยยิ้มหล่อเหลาของเค้าเกิดขึ้นเพราะความยินดีน่ะนะ เค้าอาจจะร่วมยินดีด้วยกับทีมของผม ที่ทุกคนพยายาม อดทน
และอุตส่าห์สู้ร่วมกันมาจนถึงนัดนี้
ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าเค้าตรงๆ
หรอกครับ
เพราะกลัวว่ารอยยิ้มของเค้าจะหายไป
เพราะเห็นว่าผมเพี้ยนมองเค้าอีกแล้ว
ทั้งๆ ที่คนในสนามก็มีกันเป็นหมื่น
และผมก็ไม่ได้มองไปที่เค้าเลย จนกระทั่งเข้าไปในห้องเก็บตัวนักกีฬา
ผ่านไปนานพอสมควรที่เราทุกคนในทีมจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จ แต่พอออกมาสิ่งที่ทำให้ผม หัวใจหยุดเต้นก็คือ โรนัลโด้ก็เพิ่งออกมาพร้อมเราเช่นกัน.......เหมือนโลกของผมหยุดหมุนด้วยความบังเอิญ ซึ่งเป็นผลมาจากความโชคร้ายของผมรึเปล่าก็ไม่ทราบที่ออกมาพร้อมเค้า ถ้าโรนัลโด้เห็นผม ผมอาจทำให้เค้าอารมณ์ไม่ดีได้...........ผมจึงตัดสินใจกระชับส่ายกระเป๋าที่สะพายหลวมๆ
ไว้ข้างเดียว ให้แน่นขึ้น
ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวขึ้นมินิแวนของบริษัทไปเลย
พอขึ้นมาบนรถ ฝ่ามือของผมก็ชุ่มเหงื่ออีกแล้ว........ไม่รู้ว่าทำไม ผมเป็นอะไรกันแน่
ผมหวาดระแวงเค้า หรือกลัวเค้า.......
ไม่กล้าเข้าไปทักทาย
ทำความรู้จัก เพียงเพราะครั้งแรกที่เราเจอกันมันไม่น่าประทับใจเสียเท่าไร
ผมคิดไม่ตกเลยกับปัญหานี้ แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนตอนนี้คือการแข่งขันนัดต่อไป......ทีมเราได้ไปต่อ
ผมต้องพาพวกเค้าไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้ (และบางครั้งผมก็รู้สึกนึกอิจฉาโรนัลโด้เหมือนกัน
ที่ไม่ต้องแข่งต่อ ไม่มีเรื่องให้ต้องเครียด.......ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะลองถ้าเค้าดูว่า
ทำไมถึงดูไม่เครียดเลยไม่ว่าจะเป็นการแข่งนัดไหนน่ะ)
เพราะอย่างงั้นในเวลาดึกๆ
แบบนี้ ผมจึงออกมาเดินคิดคนเดียวให้สมองโล่ง
ผมคิดว่าผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่า ซึ่งเพื่อนๆ
ในทีมของผมก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าผมเป็นคนพูดน้อย
และก็น่าจะลองอยู่กับคนที่พูดเก่งดูบ้างเผื่ออะไรๆ
มันจะดีขึ้น.......รู้ไหม ผมไม่กล้าคิดหรอกมันจะเป็นยังไง
ตอนนี้ผมเดินออกจากโรงแรมจนมาถึงทางใต้โทเวย์ที่ใกล้โรงแรมที่สุดแล้ว หลังจากที่นอนไม่หลับ เพราะคิดไม่ตกกับหลายๆ เรื่องนั้นล่ะครับ แม้แต่เสื้อโค้ตสักตัวผมก็ลืมหยิบมา......สภาพของผมตอนนี้ก็คือรองเท้าผ้าใบ กางเกงกีฬาขาสั้น และเสื้อยืดสีขาวตัวบางๆ
ตอนกลางวันที่ริโออากาศนั้นอบอุ่น
จนออกจะเย็นสบายเสียด้วยซ้ำ แต่พอในเวลากลางคืนแล้ว
นี่มันหนาวจริงๆ เลยแฮะ
ผมดึงมืออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น
เมื่อมันไม่ได้ให้ความอบอุ่นอะไรผมเลย
แล้วเปลี่ยนมาเป็นเดินกอดตัวเอง ไปบนทางร้างผู้คน ใต้โทเวย์นี่แทน
ข้างล่างนี้เงียบมากๆ
เลย ถึงแม้ข้างบนโทเวย์จะมีรถขับไปมาไม่หยุด แต่ผมก็รู้สึกว่าข้างใต้ทางด่วนแห่งนี้เป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่ไม่เคยมีใครสังเกตเห็น
...............ซึ่งนั่นในความคิดของผม
มันก็ดีแล้ว.............
เดินไปได้สักพักหนึ่งจนเกือบสิ้นสุดแสงเงาของเส้นโทเวย์ ผมก็หยุดอยู่ตรงขอบเส้นเงานั้น ไม่ได้กว้าออกไปหาแสงสว่างของไฟที่อยู่ข้างนอกแต่อย่างใด............
ตรงหน้าของผมอ้างว้าง.........ปราศจากผู้คน........
ถ้าเป็นไปได้..........ถ้าเกิดตอนนี้จู่ๆ
ผมเห็นโรนัลโด้เดินเข้ามาใต้โทเวย์นี้พอดี.........ผมจะทักเค้า
แล้วพูดว่าวันนี้ผมเห็นเค้าที่สนาม.......บอกเค้าว่าผมขอโทษที่ไม่ได้ทักเค้า
และขอโทษที่เดินหนีเค้าไปเมื่อตอนบ่าย
ออ...แล้วก็ขอโทษเค้าด้วยที่ผมมองเค้ากลางสนามเมื่อหลายปีก่อน
ฮ่าๆๆ
ถ้าเกิดเค้าเดินมาที่นี่ ตอนนี้จริงๆ
น่ะนะ..........ผมจะบอกเค้า
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ผมรู้.........
ถ้ามันเป็นไปได้ ผมจะขอบคุณพระเจ้า
และเชื่ออย่างสนิทใจเลยล่ะว่าพรมลิขิตน่ะมีจริง
...........นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คิดอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้.........
...........เอาล่ะ เลิกคิดพุ่งซ่านได้แล้ว ที่อุตส่าห์ลงทุนแอบออกมานี่ก็ทำให้สมองโล่งได้ไปเยอะเลยล่ะ ผมคิดว่าตัวเองควรจะกลับได้แล้ว............
ดังนั้น ผมจึงหมุนตัว ไม่ได้ก้าวเดินออกไปจากใต้เงาของทางด่วน แล้วออกเดินกลับไปทางเดิมที่ผมเดินมา จังหวะการจ้ำเท้าของผมสม่ำเสมอ อาการที่ขาก็ไม่ได้ส่อแววว่าจะเจ็บหนักเหมือนตอนบ่ายอีกแล้ว
แต่สิ่งที่ติดกลับมาด้วยกับใจผมคืออะไรสักอย่าง........อะไรสักอย่างที่ทำให้ผมหยุดเดินเอาเสียดื้อๆ
ระหว่างทาง
อะไร........มันคืออะไร ผมพูดออกมาไม่ได้
มันติดอยู่ที่ริมฝีปากของผม
และในวินาทีนั้นเอง ผมก็หันกลับไป
เพื่อดูว่ามีคนเดินตามหลังผมมารึเปล่า........
.............โรนัลโด้จะปรากฏตัวในที่ๆ
ผมปรารถนาไว้รึเปล่า............
............แต่ก็ไม่........
หึ.....นี่ผมกำลังคาดหวังอะไรอยู่นะ หวังว่าเค้าจะเดินเข้ามาแล้วจูบผมรึไง.....บ้าแล้ว
อ๊ะ! นี่ผมพูดอะไรออกไปนะ.......โอ๊ย ตอนนี้หน้าของผมแดงฉ่าไปหมดแล้ว อยากจะตบหน้ากับความคิดบ้าๆ
ของตัวเองเสียจริง
นายมันบ้าไปแล้วเมสซี่........
ผมยิ้มออกมา
ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เอาเถอะ
กลับได้แล้ว.....” แต่พอหมุนตัวกลับมาผมก็ต้องแปลกใจอย่างตั้งตัวไม่ทัน
.
.
.
“นาย! .....อุ๊บ!!!”
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เอิ่มมมม
ไม่รู้ว่าเป็นไงสำหรับทุกท่านนนะค่ะ
อยากได้คอมเม้นต์จัง...........เห็นแกไรท์เตอร์ตาดำๆ
เม้นต์ให้ด้วยนะค่า
ไม่ก็ตามไปโพสต์ที่เฟสก็ได้อ่ะ ไปที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เลยค่ะ แล้วไปเป็นเพื่อนกันนะค่ะ มีเพจด้วย like เพจให้ด้วยนะค่ะ
^^* Fic สป็อค เคิร์ก [เรื่องมากจริงนะหล่อน
-*-]
อร๊ายยย อยากได้คอมเม้นต์มากมายยยย คนเขียนบางคนถ้าคอมเม้นต์ไม่ทะลุเป้าก็ไม่ลงตอนต่อไปนะเออ
แต่ว่าเราแค่อยากได้อ่านให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ พอให้ได้มีแรงไปต่อเท่านั้นก็ดีแล้วค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ อยากจะลงตอนต่อไปซึ่งเป็นตอนจบให้ทันจบ World Cup 2014 จังเลยค่ะ ><!! แต่ไม่รู้ว่าจะทันไหม เพราะว่าอาทิตย์หน้ามีสอบ........อ๊ากก เซ็งเบยยย
55555 ถึงไงก็รักทุกท่านมั่กมากเลยค่าาาาา >//<!!!
ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
กี๊ซซซซซ! พี่โด้แอบจิตแฮะ 55555555
เหมียวน่ารักมากกกก! คือแบบ ใจตรงกันแต่ไม่มีใครคิดเข้าข้างตัวเองเลย TT'
เฮียโด้นี่แบบ.. แหมมมม ติดขอบสนามเลยนะเฮีย ฮ่าาาา เหมียวนี่แอบอิจฉาหกห่อโด้ช้ะ? กับสามีตัวเองนี่ยังไม่วายจะอิจฉา 5555555
แต่ตอนอาร์เจนเจอเบลเยี่ยมนี่หนักจริง เหมียวเจอเข้าไป 2-3คน คือบั่บ.. เฮ้ยยย! ดูตัวด้วย ต่างกันเยอะเหอะ แต่ก็นะ ขนาดเจอรุมงี้ยังล้มเมสซี่ไม่ได้ 5555555
แต่นัดที่เจอกับสวิตฯนี่ก็หนักนะ ทำเอาเราขยาดเบห์รามี่ไปพักเลยทีเดียว 555555 /เสียดายที่โด้พาโปรตุเกสไปไม่ถึงฝัน ช็อตโด้ร้องไห้นี่สะเทือนใจมาก แต่ชไวนี่ก็เข้าไปกอดปลอบ ฮ่าาาา ><'
ปล. เราโบว์เน้อออ~ กว่าจะเม้นจบนี่นานมาก คอมก็ติดๆดับๆ 555555555
ใจเราตรงกัน ฟันเฟิร์ม! >0<
พี่โด้เขาก็อะไรจะตามไปเกาะติดขนาดสนามเลยนะแหม เหมียวเขินล่ะสิหน่าา เรารู้ //หัวเราะแบบมีเลศนัย
จริงๆนะคะ เวลาดูนัดไหนที่เหมียวเมสลงนี่แบบว่า.. ตาต้องโฟกัสไปที่คนตัวเล็กๆขาวๆทุกที น่ารักจริงนะ เชื่อแล้วว่าทำไมพี่โด้รักพี่โด้หลง -.,-
เพิ่งได้อ่านแป็นครั้งแรก สนุกมากๆๆๆๆเลยค่ะแอด เป็นกำลังใจให้นะคะ ><
เริศมากเลยคร้าาาาา สนุกมากๆเลยยยย
เริศมากเลยคร้าาาาา สนุกมากๆเลยยยย
แสดงความคิดเห็น