วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[SF – World Cup] + [Prat 2] What Do You Think......ใจเราตรงกันไหมนะ? – Ronaldo x Messi


อร๊ายยยย มาแล้วค่ะ  มาต่อแล้วค่ะ^^  หลังจากที่รู้ผลกันแล้วว่าผู้ครองแชมป์ World Cup 2014 นี้เป็นใคร TT0TT  ไม่เป็นไรนะเมสซี่ ถึงอาร์เจนติน่าจะคว้าชัยมาไม่ได้  แต่นายก็เป็นที่หนึ่งในใจเราเสมอน้าาา (เป็นที่หนึ่งในใจของโรนัลโด้ด้วย อิๆ)

อู้ยยยย เพื่อนๆ ในทีมน้ำหูน้ำตาไหลกันเป็นแถบๆ แต่เมสซี่ของอิฉันกลับไม่สะทกสะท้านเลยค่า แค่ยืนอึ้งเฉยๆ 5555 ท่ายืนอึ้งก็ยังน่ารักมากมายอ่ะ.....ไม่เป็นไรน่าาาาาาา  เป็นกำลังใจให้ตลอดกาลจ้าาา

วกกลับมาเข้าเรื่องของเราต่อค่ะ........เรายังไม่บอกอย่างเป็นทางการเลยชิมิค่ะ ว่านัดที่เป็นแรงบันดาลใจของเรานั้นคือ นัดที่แข่งระหว่างอาร์เจนติน่ากับเบลเยี่ยม ค่ะ   นี่แหละค่ะ พอเห็นเมสซี่โดนรุมกระทืบแล้วมันชวนจิ้นจริงๆ เลยเชี่ยว  แล้วยิ่งพอพ่อคุณลุกขึ้นมาทำหน้าเหร่อหร่าหลังจากนอนขดอยู่บนพื้นแล้วก็ยิ่งน่ารักค่ะ! ........จิ้นแมร่งเลย!!

5555 นี่แหละคือต้นกำเนิดความบ้าของเรา

และต้องขออภัยรีดเดอร์ทุกคนด้วยค่ะที่บอกว่า Prat นี้จะเป็นตอนจบ แต่!!!!!!!!!

เราเขียนไหลไปหน่อยค่ะ  มันเลยยาวจนต้องต่อ Prat 3 M_ _M  แฮ่ๆ ไม่ว่ากันเนอะ  เดี๋ยวจะรีบลงเร็วๆ นี้เลยค่ะ ><!!..........Prat นี้ว่าจะลงรูปเพิ่มด้วย แต่ว่าของดีต้องเก็บไว้ตอนสุดท้ายเนอะ 55555 เดี๋ยวลงตอนหน้านะค่า

อ่านให้สนุกนะค่ะ ^^

---------------------------------------------------------------------------------------------------



“นาย! .....อุ๊บ!!!

มีคำพูดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของเมสซี่  หลังจากที่เค้าโดนล็อคตัวและตะครุบริมฝีปากไว้ในเวลาเดียวกัน

“อยู่นิ่งๆ สิพวก  ฉันกอดนายไม่ถนัดเลยนะรู้ไหม....” ร่างนิรนามที่โอบกอดเมสซี่ไว้จากทางด้านหลัง คำรามรอดผ่านไรฟันออกมา เมื่อคนที่อยู่ในอ้อมกอดออกแรงดิ้นและขัดขืนสุดชีวิต  แต่ทว่าเค้าคนนั้นก็ใช้ขายาวเก้งก้างของตน เข้าไปแทรกกลางขัดกับขาของเมสซี่เอาไว้เสียก่อนที่จะเตะเค้าได้

จนกัปตันทีมอาร์เจนติน่ารู้แล้วว่าคงสู้แรงอีกคนหนึ่งไม่ได้  แถมเค้าคนนั้นยังตัวสูงกว่าเค้าอีกด้วย  คงไม่ต้องบอกถึงพละกำลังที่เยอะกว่าเป็นไหนๆ........เมสซี่จึงอยู่เฉยๆ และเปลี่ยนมาเป็นพยายามแกะฝ่ามือที่เหนี่ยวเป็นตุ๊กแกที่กดทับริมฝีปากของเค้าไว้แทน

“อา  ใช่ อย่างนั้นแหละ  ไม่ดิ้นนายจะได้ไม่เจ็บตัว.........หึ นายอยากจะพูดอะไรเหรอ  อยากรู้ว่าฉันเป็นใครใช่ไหม?”

ร่างที่เล็กกว่าพยักหน้าช้าๆ ......เมื่อกี้ที่โดนรวบตัวเค้าไม่รู้ว่าเป็นใคร  เพราะบริเวณตรงนี้มืดเอามากๆ แต่ถ้าลองขยับไปอีกนิดก็จะมีแสงสว่างจากหลอดไฟ พอให้ความกระจ่างแก่เค้าได้........

“แหม.....เป็นกัปตันที่ว่าง่ายจังแฮะ” คนพูดกระหยิมก้มหน้าลงมาใกล้ จนร่างที่หันหลังอยู่ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่สัมผัสใบหูของเค้า

นายเป็นใครกันแน่น่ะ.......เมสซี่เริ่มประวิงในใจแล้วว่า เค้ากำลังโดนแก็งมาเฟียในริโอลักพาตัวแล้วเอาไปเรียกค่าไถ่รึเปล่า

ชายร่างสูงชะลูดปริศนาลากเมสซี่ขึ้นไปบนทางฟุตบาท  แล้วเหวี่ยงร่างเล็กกว่าที่กำลังสับสน กระแทกเข้ากับผนังคอนกรีตอย่างแรง

ปึ้กก!!!

“อึ๊ก…!!” จากแรงกระแทก ส่งผลทำให้เมสซี่เสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นคอนกรีตเย็นเชียบเบื้องล่าง

และแล้วเมื่อเมสซี่ที่ช้ำระบมจากการกระแทกไม่บอกไม่กล่าว เงยหน้าขึ้นไปมองยังบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของตน  ชายคนนั้นก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อย พอให้แสงไฟด้านหลังสาดส่องมากระทบตนได้

“นาย....เฟลไลนี่!!” ร่างที่นั่งเก็บเข่าอยู่กับพื้นตาโตด้วยความวิตก

เฟลไลนี่เหยียดยิ้มชั่วร้ายขึ้นที่มุมปาก “หึ  ไง....จำฉันได้ด้วยหรือ” เค้ายกมือขึ้นท้าวเอว

“นายต้องการอะไร....” เมสซี่มองสำรวจ พิจารณาคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา กลัวว่าอยู่ๆ เฟลไลนี่จะทำอะไรที่เค้าคาดไม่ถึงเข้า

เฟลไลนี่ไหวไหล่ “ก็ไม่รู้สิ  นายคิดว่าไงล่ะ”

“ถ้าเป็นเรื่องในสนามเมื่อตอนนั้นล่ะก็  ฉันไม่ได้เอาความอะไรนายเลยนะ นายหายห่วงได้เลย.....แล้วนี่นายคิดจะทำอะไรบ้าน่!” เมสซี่ร้องลั่น เมื่อเฟลไลนี่ใช้ปลายเท้าเขี่ยเข้าที่ขากางเกงของเค้าเบาๆ  เมสซี่ขยับหนีอย่างหวาดระแวง ในขณะที่อีกฝ่ายหยุดใช้เท้ากับเค้าแล้ว

“เฮ้พวก  ถ้านายมีปัญหาอะไร เราคุยกันดีๆ ก็ได้หนิ........โอ๊ย!!เมสซี่พยายามหันมาคุยด้วยเหตุและผล ก่อนจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้น แต่ทว่าเฟลไลนี่ที่อยู่ตรงหน้ากลับใช้เท้าเตะหน้าแข้งของเมสซี่อย่างแรง จนร่างที่เล็กกว่าล้มกระเด็นลงไปกองกับพื้นอีกรอบ

“หึ.....คุยดีๆ หรือ?  แหมๆๆๆ ดูท่านายคงจะเป็นผู้นำที่ใจเย็นมากเลย...สินะ” ร่างสูงสะลูดค่อยๆ พูดพลางเอียงศีรษะไปทางขวาอย่างยี้ยวน

ส่วนคนที่นั่งกุมหน้าแข้งตัวเองอยู่ก็มองกลับไปด้วยสายตาขุ่นเคือง  ร่ำๆ อยากจะลุกขึ้นมาเตะฟาดหน้าเจ้าหมอนี่ให้ได้สักครั้งหนึ่ง “นายต้องการอะไร” เมสซี่พูด

เฟลไลนี่เงียบ ไม่พูด  กลับเอาแต่นิ่งและมองหน้าคนที่เค้าเพิ่งกระทำไปอย่างพินิจพิเคราะห์

“บอกมาสิ....ว่านายต้องการอะไร  รึว่านายไม่พอใจที่ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิง” เมสซี่เริ่มพูดเสียงดังอย่างเหลืออดแล้วกับความลึกลับของเฟลไลนี่  เค้าอ้าแขนออกอย่างยอมจำนน

...............เมสซี่ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร  ไม่ว่าจะเพื่อนนักฟุตบอล  คนขี้เมา หรือกับใครก็ไม่อยากทั้งนั้น  มันทำให้เค้ารู้สึกกังวล..............

หมอนี่เมามารึไงนะ...........เมสซี่คิดอย่างไม่พอใจกับท่าทางราวกับคนเมาอย่างว่าของเฟลไลนี่  เพราะนอกจากเจ้าตัวจะไม่ตอบแล้ว กลับยังจะมายิ้มกวนประสาทใส่เค้าอีก

............ใช่  เค้าจะคิดไปว่าเจ้าหมอนี่เมา แล้วก็รู้สึกไม่พอใจที่ทีมตัวเองแพ้ขึ้นมา ก็เลยมาทำร้ายร่างกายเค้า  แต่เค้าจะไม่เอาความหรอกนะ  เมสซี่มีความอดทนมากพอ............

กัปตันอาร์เจนติน่ายกมือขึ้นราวกับยอมแพ้ “โอเค เอาล่ะ......ฉันไม่รู้นะว่านายจะมาตื้บฉันทำไมนะ  แต่ฉันจะไม่ว่าอะไรคนที่กำลังเมาอยู่หรอก เพราะวะ.........” ยังพูดไม่ทันจบ ประโยคของเมสซี่ก็โดนตัดไป ด้วยการกระทำของเฟลไลนี่ ที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนจากยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี มาเป็นตีหน้าขรึม แล้วเจ้าตัวก็ปราดเข้ามาจับข้อมือของเมสซี่ตรึงไว้กับผนังคอนกรีตด้านหลังอย่างแรง

“โอ๊ย! อึก....นายจะทำบ้าอะไรอีกเนี่ย  ฉันว่านายน่าจะไปนอนได้แล้วนะ...”

“หุบปาก!!” เมสซี่สะอึก และดูตกใจอยู่ไม่น้อยที่โดนตะคอกใส่หน้าแรงเกินไปแบบนั้น

ความผิดไหน มันจะทำให้เจ้าหมอนี่รู้สึกโกรธได้มากถึงขนาดนี้กันนะ?..........เมสซี่คิด พลางนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดจากแรงที่โดนบีบที่ข้อมือซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที  และเจ็บหน้าขาที่โดนเตะไปเมื่อครู่  จะว่าไป เค้าชักจะรู้สึกโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกันนะ...........

เมสซี่ส่งสายตาที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัวของตนเองกับร่างตรงหน้า แต่อีกคนกลับไม่สังเกตมันแล้วพูดกระซิบลอดไรฟันออกมาว่า “ฉันไม่ได้เมา! และอีกอย่าง...ที่ฉันมาอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพราะไม่พอใจที่ทีมตัวเองไม่ชนะ....”

เฟลไลนี่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าขาของเมสซี่ และใกล้มากจนคนที่ถูกเกาะกุมรู้สึกได้ถึงลมหายใจผะผ่าวที่น่าสะอิดสะเอียนของอีกคน  เมสซี่พยายามบิดมือออก แต่ทว่าแรงที่เฟลไลนี่ใช้จับเค้า มันมากจนทำให้มือของพวกเค้าทั้งสองเป็นรอยสีขาว

เมสซี่หันหน้าหนีอย่างสุดคอ “นะ นายคิดจะทำ...บ้าอะไร อึก ปล่อยฉัน!!  ฉันไม่ใช่อีตัวนะเว้ย!!” หัวใจเค้าแทบหยุดเต้น เมื่อพยายามสะบัดสุดชีวิต แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย เค้าสู้แรงเฟลไลนี่ไม่ได้  และแทนที่เจ้าโย่งเก้งก้างนี่จะพูดอะไรสักอย่าง  เมสซี่กลับรู้สึกได้เพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดต้นคอเค้าเท่านั้นเอง

อะไร! นี่ฉันจะมาโดนคู่แข่งที่ไม่รู้จักกัน มาขืนใจฉันใต้โทเวย์ยังงั้นเหรอ........อ๊าก ไม่เอาหรอกนะ!!

“นาย.....ให้ตาย! ไม่คิดจะพูดอะไรเลยรึไง บอกฉันทีสิว่านายเป็นบ้าอะไร!.....แค้นอะไรฉันนักหนา” เมสซี่ป้าวร้องพลางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร  เฟลไลนี่ออกแรงบีบเข้าไปอีกจนเมสซี่หน้าเสีย

“ฉันจะบอกให้ก็ได้....” เฟลไลนี่ลดเสียงลง แล้วเลื่อนหน้าไปประชิดกับใบหูของเมสซี่

“....ที่ฉันทำนี่ ก็เพราะว่านายไง” ร่างเล็กที่หันหน้าแนบกับด้านข้างของผนังคอนกรีตแทบหยุดหายใจและรู้สึกเหมือนหัวใจของเค้าหยุดเต้นไปเรียบร้อยแล้ว

............สาเหตุเพราะฉัน?..........

............เพราะฉันเนี่ยนะ ฉันไปทำอะไร ตอนไหนกัน!............

เมสซี่ยังคงไม่เข้าใจ ร่างที่เหนือกว่าจึงพูดต่อ “ไม่ใช่เพราะว่าทีมนายได้เข้ารอบ......แต่เป็นเพราะนาย  นายคนเดียวล้วนๆ เลยเมสซี่.....ตอนที่วิ่งอยู่ในสนามรู้ไหมสายตาทุกคนที่จับจ้องนายมันเป็นยังไง.......”

เฟลไลนี่ขยับหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก จนศีรษะของทั้งสองสัมผัสกัน  เมสซี่ขยับหนีอีกพลางตะโกนออกมา “....ยะ ยังไงเล่าาา!

เฟลไลนี่ขบเขี้ยว “ก็ด้วยสายตาชื่นชมเสียเต็มประดาไงล่ะ!  ทุกๆ คนชอบนาย.....มองว่าอะไรๆ นายก็ไม่ผิด  ทำถูกไปซะทุกอย่าง  ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไม.....” หมอนั่นทำเสียงขู่

เมสซี่ชะงัก  ร่ำๆ อยากจะตะโกนกลับไปเสียจริงๆ ว่า “ฉันจะไปรู้ไหม....แล้วมันใช่ซะที่ไหนกันล่ะ เจ้าบ้าเอ้ย!!” แต่ก็ทำได้เพียงแค่หายใจฟึดฟัดอย่างอึดอัดเท่านั้น

ใครบอกนายกัน ว่าทุกๆ คนชอบฉัน....มองด้วยสายตาที่ชื่นชมเสียเต็มประดา!  อย่างน้อยๆ ก็มีคนหนึ่งล่ะที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น

อยู่ๆ เมสซี่ก็มีสายตาหม่นหมองลง เมื่อนึกถึงคนที่เค้าคิดว่าไม่ได้มองตัวเองด้วยสายตาชื่นชมดังเช่นคนอื่นๆ  และคนๆ นั้นก็คงจะไม่ชอบเค้าด้วย...........

................ถ้าได้ย้อนเวลากลับไป อย่างน้อยเค้าก็จะยิ้มให้กับคนๆ นั้น..............

............หรืออาจมากกว่านั้น และตอนนี้เมสซี่ไม่รู้ว่าเฟลไลนี่กำลังจะทำอะไร  จะซ้อมเค้าจนเล่นบอลไม่ได้ หรือจะฆ่าเค้ากันแน่............

โอ้  ให้ตายเถอะ.....ฉันควรคิดถึงเค้าในเวลานี้หรือเนี่ย

แต่หลังจากนั้นในหัวของเมสซี่ก็ว่างเปล่ามีเพียงชื่อของโรนัลโด้เท่านั้นที่ก้องอยู่ในหัวของเค้า  และหวนถึงเรื่องบ้าๆ ที่เค้าคิดไว้ว่าจะได้เจอโรนัลโด้ยืนรออยู่ เมื่อเค้าหันหลังไป

แล้วเมสซี่ก็หันหน้ากลับมา แทบจะชนเข้ากับใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ของอีกคน  เมสซี่เอียงคอหนีอีกครั้งแต่ครั้งนี้เค้ากลับร้องส่งเสียงอย่างดีใจ

“เฮ้! คุณ....คุณที่เดินอยู่ตรงนั้นน่ะ  ช่วยผมด้วยย!!  ช่วยด้วย ไอ้หมอนี่มันจะฆ่าผม!.....อ๊ากก มันจะฆ่าผมแล้วว!” เสียงตะโกนของเมสซี่ที่ส่งผ่านแผ่นหลังสูงไป ทำให้เฟลไลนี่เผลอปล่อยมือเมสซี่แล้วหันกลับไปมองข้างหลังตน  ส่วนคนที่เพิ่งโดนปล่อยจึงใช้โอกาสนี้ตะกายตัวลุกขึ้นมา  แต่ทว่าคนที่ไวกว่าก็มักจะเป็นเฟลไลนี่เสมอ

“เฮ้ย  นายจะไปไห!! เฟลไลนี่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วจับมือเมสซี่กระชากกลับมา

“ปล่อยฉัน....โอ้ย!!” เมสซี่สะบัดสุดชีวิตเมื่อตัดสินใจแล้วว่าครั้งนี้จะไม่ยอมอีกแล้ว  แต่สิ่งที่เค้าคาดไม่ถึงก็คือมือที่บีบรัดอย่างรุนแรงราวกับคีมเหล็กคู่ใหญ่ของอีกคนนั่นสะบัดไม่หลุดจริงๆ

“แสบนักนะ....กล้าโกหกฉันยังงั้นเหรอห๊ะ!!” เฟลไลนี่รวบมือเล็กๆ ของอีกคนไว้แนบอกแล้วขู่กรรโชก “น้ำหน้าอย่างนายนอกจากเตะฟุตบอลแล้วก็ทำอะไรไม่ได้หรอก!

เมสซี่เลือดขึ้นหน้า กับคำครหานั้น ก่อนจะตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด “หนอย....ไอ้หัวฟูปากเสีย!!” แล้วเตะฟีคิกเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของคนซึ่งดูถูกเค้า

“อั๊กก!!” เฟลลนี่ร้องเสียงหลังก่อนจะงอตัวเข้าหากัน  ปล่อยเมสซี่ให้เป็นอิสระก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแบบไม่ค่อยสู่ดีนักออกห่างไปจากเฟลไลนี่  เพราะอาการบาดเจ็บจากลูกเตะของคนที่ฝากมันไว้บนหน้าแข้งของเค้า

“ช่วยด้วย! ให้ตายใครก็ได้ โผล่หน้ามาที.....อ๊ะ โอ๊ย......ชะ ช่วยด้วย!!

ให้ตาย ทำได้แค่นี้งั้นเหรอเมสซี่! งั้นนายก็ไม่ต่างอะไรไปจากที่หมอนั่นพูดหรอกนะ!!  รู้งี้เรียนเสริมอย่างอื่นด้วยดีกว่า.....เอาเคล็ดที่ล้มคนตัวโตๆ กว่าได้ในพริบตาเดียวน่ะ ไม่ใช่เตะน้องชายมันแล้ววิ่งหนีมาแบบนี้............ในขณะที่เมสซี่กำลังคิดว่าตัวเองดูเหมือนเด็กผู้หญิงโรงเรียนไฮสคลู  อีกคนหนึ่งที่โดนทิ้งไว้ด้านหลังก็ยืดตัวขึ้น พร้อมกับความคิดที่ว่า .........ไหนๆ ก็ลงมือแล้ว ก็อย่าให้หลุดไปได้............

ดังนั้นเฟลไลนี่จึงออกวิ่งตามไปด้วยขาที่แข็งแรงกว่า

“ช่วยด้วย....อ๊ะ อ๊า  ชะ ช่วยด้วยย!

“จะไปไห!! ด้วยความที่ว่าเฟลไลนี่ได้เปรียบมากกว่าทั้งช่วงขาและความแข็งแรง จึงวิ่งตามเมสซี่จนทันแล้วกระชากเสื้อยืดตัวบางของเมสซี่ไว้

แคว๊กก!!!

“ว๊ากก  เสื้อฉัน......เฮ้ อย่านะ! อย่าจับฉะ....” แต่ไม่ทันเสียแล้ว  เสียงของเมสซี่ขาดหายไปเพราะตัวของเค้าถูกกระชากกลับ และพอหันมาเผชิญหน้ากันก็เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างผู้ที่ไม่ยอมโดนบังคับอีกแล้ว กับผู้ที่จะไม่ยอมให้สิ่งที่ตนเองลงทุนทำมานี่เสียเปล่า

อย่า! ปล่อยฉันนะ!  ปล่อยสิ.....อุ หวะ เหวออ” เฟลไลนี่ออกแรงโถมเข้ามามากเกินไป จึงทำให้เจ้าตัวล้มลงทับเมสซี่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง

“อูยย เจ้าบ้าเอ้ย.....ช่วยด้วยย” แต่พอสำนักความได้คนที่ตัวเล็กกว่าก็ยังไม่วายเอาแต่ตะโกนขอความช่วยเหลือลูกเดียว  จนเฟลไลนี่เองก็เหลืออดแล้วเช่นกัน จึงใช้มือบีบปากสีสดของเมสซี่

“หุบปากสักทีเถอะ!.....ถึงจะร้องเสียงดังแค่ไหน ใต้โทเวย์ที่ไม่มีใครเดินผ่านแบบนี้ จ้างให้ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงนายหรอก”

“นายต้องการอะไรกันแน่น่ะ.....แล้วนี่ออกไปจากตัวฉันจะได้ไหม  มันหนักนะ” เมสซี่พยายามผลักดันอกของคนด้านบนออก  แต่ก็ไม่เป็นผลเลย  หน้ำซ่ำยังโดนเฟลไลนี่ไล่จับข้อมือเข้าให้อีก

“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าไอ้คนที่ทุกคนพากันชื่นชม และบอกว่าน่ารักนักน่ารักหนาน่ะ....มันสมคำร่ำรือจริงรึเปล่า” เฟลไลนี่คำรามลอดไรฟัน และยิ้มชั่วร้ายที่สุดเท่าที่เมสซี่เคยเห็นมา

กัปตันตัวเล็กประจำทีมอาร์เจนติน่าตาโต และหวาดวิตกกับสิ่งที่ต่อไปเค้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

..............นึกไม่ออกจริงๆ.............

“นะ นายจะทำอะไรน่ะ........เฮ้ย! ฉันเป็นผู้ชายนะไอ้โรคจิต” เมสซี่สะดุ้งเฮือกและตะโกนลั่นทันที เมื่อจู่ๆ เฟลไลนี่กระชากเสื้อยืดที่ขาดรุ่งริ่งอยู่แล้วของเค้า  ให้ขาดสะบันออกจากกาย

“หึๆ ผิวนายนี่เนียนจริงๆ เลยแฮะ  ยังกะผิวเด็กนักเรียนไฮสคลูแหนะ” เฟลไลนี่ว่า พลางลูบนิ้วมือยาวๆ ไปบนหน้าท้องของเมสซี่ ซึ่งโดนบั่นทอนอิสรภาพด้วยการรวบข้อมือไว้เหนือศีรษะไปเรียบร้อยแล้ว

เมสซี่ดิ้นขลุกขลัก และรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที  เค้าพูดอะไรไม่ออกเพราะกลัวมาก รู้สึกอยากจะตายให้ได้เลยตอนนี้

ใครก็ได้ช่วยด้วย  จะแมว หรือจะหมาที่ไหนก็ได้....ช่วยหน่อยเถอะน่าาา!!

“ไอ้โรคจิต!! ปล่อยฉันนะ!!......อ๊าาา อย่าจับตรงนั้น”

“หึ  ร้องเข้าไปเลย  ฉันก็บอกไปแล้วไงว่า.....อั๊กก!

ผั๊วะะ!!!  ตุ้บบบ!! 

“เล่นกับใครก็ให้มันสมกับตัวหน่อยเพื่อน......แล้วนี่นายช้ำรักจากผู้หญิงทั้งโลกมารึไงว่ะเนี่ย” เสียงเข้มทุ้มมีเสน่ห์กล่าวขึ้น ท่ามกลางความตื่นตกใจของเมสซี่...........

เมื่อกี้เค้าแทบดูไม่ทันเลย  เพราะจู่ๆ ก็มีมือปริศนามากระชากไหล่ของเฟลไลนี่ออกไป แล้วก็ซัดหมอนั่นเข้าที่หน้าอย่างเต็มเปา  ทำให้เฟลไลนี่กระเด็นออกไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนและนอนกองปวกเปียกอยู่กับพื้น

ร่างสูงเก้งกางของสมาชิกทีมเบลเยี่ยมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้น  และเอามือกุมมุมปากของตัวเองไว้ “แก!! แกเป็นใคร  แกกล้าดีมาจากไหน...ห๊าารู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!” คงเป็นเพราะผู้ที่มาใหม่ยืนหันหลังให้กับแสงไฟ  ภาพที่เฟลไลนี่เห็นจึงเป็นแบบย้อนแสง  ไม่รู้แน่ว่าคนๆ นี้เป็นใคร

แต่พอชายคนนั้นขยับไปด้านข้างเล็กน้อย  พอให้แสงไฟได้สาดเข้ามากระทบใบหน้าหล่อเหลา คมคายของเค้า  เฟไลลนี่ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  และชายคนนั้นก็กล่าวขึ้นว่า

“ก็ไม่รู้สินะพวก.....ฉันก็เป็นแค่กัปตันทีมโปรตุเกตุธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง  ไม่ใช่พระเจ้า คงจะตรัสรู้ไม่ได้หรอกนะ ว่านายเป็นใคร....” เค้าผายมือแล้วไหวไหล่เล็กน้อย  แต่ทว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลานั่นที่ไม่ได้มีแว่นกันแดด และหมวกปกปิดใบหน้า ก็เหยียดเผยรอยยิ้มออกมา ราวกับจะบอกว่า ฉันจำนายได้นะ ไอ้ลูกหมา.......

“บ้าน่า.....นาย!” เฟลไลนี่พึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะสบถออกมา

โรนัลโด้ถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อของเฟลไลนี่  แล้วประเคนหมัดงามๆ เข้าไปอีกครั้งหนึ่ง

ผั๊วะ!!

ไอ้เปรตเอ้ยย!  คิดจะทำอะไรแบบนี้ก่อนฉันได้ยังไงว่ะ  ไม่ยอมโว้ยย!!

โรนัลโด้ปรี๊ดแตก  รู้สึกเลือดขึ้นหน้ามาตั้งแต่ตอนที่เค้าเดินตัดตรอกเข้ามาโผล่ใต้โทเวย์นี่แล้ว  ตอนแรกเค้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เลยรีบมาดูเผื่อมีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น 

แต่พอโผล่หน้ามาเท่านั้นแหละ  เค้าก็เห็นว่ามีผู้ชายสองคนกำลังกอดรัดฝัดเหวี่ยงกันอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน  ตอนแรกคิดว่าจะไม่ยุ่ง เพราะมันไม่เกี่ยวกับเรา  แต่พอเพ่งไปเพ่งมา และเสียงที่ร้องลั่นเมื่อกี้มันก็คลับคลายคลับคลาแปลกๆ   

และแล้วร่างของกัปตันโปรตุเกตุก็ถึงบางอ้อทันที......เมื่อเค้าเห็นหน้าและแน่ใจอย่างรวดเร็วแล้วว่า คนที่โดนฉีกเสื้อจนขาดกระจุยและนอนดิ้นขลุกขลักอยู่บนพื้นนั่นน่ะมัน  เมสซี่ที่เค้ากำลังคิดถึงอยู่นั่นแหละ -- !!

“ไอ้เกิดมาไม่มียางอาย!

 ผั๊วะ!!

“ไอ้โรคจิต  ไอ้ฟู – เสาไฟฟ้าา!” 

ผลั๊กก!!

“ไอ้บัดซบเอ้ยย  ฮึ๊ยย!!

ตุ้บบ!....โครมมม!!

ร่างสูงสมส่วนลุกขึ้นกระทืบเข้าไปที่ท้องของเฟลไลนี่เสียเต็มรักอย่างอัดอั้นและเคียดแค้น กับสิ่งที่เค้าได้เห็นไปเมื่อกี้

“อั๊ก!! ......โอ้ยย” กองกลางของทีมเบลเยี่ยมนอนจุก  งองุ้มกอดท้องตัวเองอยู่กับที่โดยไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย เพราะแรงอัดอันหนักหน่วงของโรนัลโด้ที่ฝากเอาไว้

ร่างสูงสมส่วนผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรเป็นห่วงอีกคนหนึ่งมากกว่า  เค้าหันไปดูเมสซี่แล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหา  แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมา แล้วชี้หน้าเฟลไลนี่อย่างเอาเรื่อง

“อย่าให้ฉันเห็นแกอีกเชียวนะ....ไม่งั้นล่ะก็ แกได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ถึงบนสวรรค์แน่”  แม้เฟลไลนี่จะไม่เข้าใจว่า พระอินทร์ คือใคร หรืออะไร  แต่ก็มีท่าทีหวั่นเกรงต่อคำขู่ของโรนัลโด้อยู่ไม่น้อย เพราะชั่งน้ำหนักจากหมัดและลูกถีบของเจ้าตัวแล้วก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว.......เฟลไลนี่ใช้แขนข้างหนึ่งยันตัวเองให้ลุกขึ้น ในขณะที่อีกข้างหนึ่งก็ยังคงกุมมุมปากที่เต้นตุบๆ ของตัวเองไว้

“ยัง....ยังจะมามองหน้าอีก  จะให้ฉันเตะแกโด่งไปเมืองไทยตอนนี้เลยไหม!” โรนัลโด้ง้างเท้าเตรียมจะเตะเต็มข้อ  แต่เฟลไลนี่ก็เด้งตัวลุกขึ้นแล้วพุ่งพรวดวิ่งออกไปได้ทัน ก่อนจะโดนเตะเอาเข้าจริงๆ

“หึ..” ร่างสูงยิ้มอย่างสะใจกับชัยชนะที่เพิ่งได้มา  แม้เค้าจะยังไม่สะใจเท่าไรก็ตามเถอะ

“อ๊ะ  อูย”

“อะ อ้าว...เฮ้ย!  เมสซี่!” แต่หลงระเริงได้ไม่นาน เค้าก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองลืมใครบางคนไป  โรนัลโด้รีบถลาเข้าไปหาเมสซี่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนทำท่าจะลุกขึ้น

เมื่อไปถึงตัว  ร่างสูงก็รีบเข้าไปประคองกอดพยุงอีกคนไว้ในอ้อมแขนทันที โดยที่ลืมนึกถึงสถานะที่แท้จริงของพวกเค้าไป

“เฮ้  นายโอเครึเปล่า.....หมอนั่นได้ทำอะไรนายไหม!?” โรนัลโด้ดูท่าทางกระตือรือร้นที่จะอยากรู้เอามากๆ  ส่วนทางด้านเมสซี่ก็ค่อนข้างจะตกใจอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น และรู้สึกช็อคเล็กน้อยถึงปานกลางที่เพิ่งเกือบโดนเพื่อนนักฟุตบอลต่างทีมลวนลาม

“อะ  เออ...ฉัน” เมสซี่อ่ำอึ้งอยู่ในสายตาของโรนัลโด้อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตาลุกวาวเมื่อเพิ่งนึกได้ว่าคนที่อยู่ข้างเค้าตอนนี้คือใคร

“นะ นาย..ว๊ากก!” เมสซี่เด้งตัวออกมาราวกับโดนน้ำร้อนลวก โรนัลโด้เองก็เช่นกัน........นอกจากนั้นแล้ว หัวใจของทั้งคู่ยังเต้นตูมตามและรู้สึกวาบวามเหมือนกันอีกด้วย

............กายของพวกเค้าในบริเวณที่เนื้อสัมผัสกันมันรู้สึกร้อนวาบ.........
.

.

.

TBC.


---------------------------------------------------------------------------------------------------



เอื้อออ  จบ Prat 2  แล้ว ต่อไปเป็น Prat 3 ให้กำลังใจกันหน่อยนะค่ะ ^^

รู้สึกว่าโรนัลโด้จะเคยมาเที่ยวไทยบ่อยแฮะ 55555

1 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

พี่โด้ใจเยนน //ดึงแขนเสื้อพี่โด้
(พี่โด้>>เย็นไม่ไหวแล้วว้อยย อ๊ากกก ไอเฟลไลนี่)

'คิดจะทำแบบนี้ก่อนฉันได้ยังไงวะ' โอ้แหม ประโยคนี้ไม่ค่อยส่อเลยนะคะ พี่โด้คิดอะไรกับเหมียวเปล่าเนี่ย * *
(ก็คิดอยู่แล้ว เธอไปอยู่ไหนมา เหอะๆๆ)