อร๊ายยยย มาแล้วค่ะ
มาต่อแล้วค่ะ^^ หลังจากที่รู้ผลกันแล้วว่าผู้ครองแชมป์ World Cup 2014 นี้เป็นใคร TT0TT ไม่เป็นไรนะเมสซี่
ถึงอาร์เจนติน่าจะคว้าชัยมาไม่ได้ แต่นายก็เป็นที่หนึ่งในใจเราเสมอน้าาา
(เป็นที่หนึ่งในใจของโรนัลโด้ด้วย อิๆ)
อู้ยยยย เพื่อนๆ ในทีมน้ำหูน้ำตาไหลกันเป็นแถบๆ
แต่เมสซี่ของอิฉันกลับไม่สะทกสะท้านเลยค่า แค่ยืนอึ้งเฉยๆ 5555 ท่ายืนอึ้งก็ยังน่ารักมากมายอ่ะ.....ไม่เป็นไรน่าาาาาาา
เป็นกำลังใจให้ตลอดกาลจ้าาา
วกกลับมาเข้าเรื่องของเราต่อค่ะ........เรายังไม่บอกอย่างเป็นทางการเลยชิมิค่ะ
ว่านัดที่เป็นแรงบันดาลใจของเรานั้นคือ นัดที่แข่งระหว่างอาร์เจนติน่ากับเบลเยี่ยม
ค่ะ นี่แหละค่ะ
พอเห็นเมสซี่โดนรุมกระทืบแล้วมันชวนจิ้นจริงๆ เลยเชี่ยว
แล้วยิ่งพอพ่อคุณลุกขึ้นมาทำหน้าเหร่อหร่าหลังจากนอนขดอยู่บนพื้นแล้วก็ยิ่งน่ารักค่ะ! ........จิ้นแมร่งเลย!!
5555 นี่แหละคือต้นกำเนิดความบ้าของเรา
และต้องขออภัยรีดเดอร์ทุกคนด้วยค่ะที่บอกว่า Prat นี้จะเป็นตอนจบ แต่!!!!!!!!!
เราเขียนไหลไปหน่อยค่ะ
มันเลยยาวจนต้องต่อ Prat 3 M_ _M แฮ่ๆ ไม่ว่ากันเนอะ เดี๋ยวจะรีบลงเร็วๆ นี้เลยค่ะ ><!!..........Prat นี้ว่าจะลงรูปเพิ่มด้วย
แต่ว่าของดีต้องเก็บไว้ตอนสุดท้ายเนอะ 55555 เดี๋ยวลงตอนหน้านะค่า
อ่านให้สนุกนะค่ะ ^^
---------------------------------------------------------------------------------------------------
“นาย! .....อุ๊บ!!!”
มีคำพูดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของเมสซี่ หลังจากที่เค้าโดนล็อคตัวและตะครุบริมฝีปากไว้ในเวลาเดียวกัน
“อยู่นิ่งๆ
สิพวก ฉันกอดนายไม่ถนัดเลยนะรู้ไหม....”
ร่างนิรนามที่โอบกอดเมสซี่ไว้จากทางด้านหลัง คำรามรอดผ่านไรฟันออกมา เมื่อคนที่อยู่ในอ้อมกอดออกแรงดิ้นและขัดขืนสุดชีวิต แต่ทว่าเค้าคนนั้นก็ใช้ขายาวเก้งก้างของตน
เข้าไปแทรกกลางขัดกับขาของเมสซี่เอาไว้เสียก่อนที่จะเตะเค้าได้
จนกัปตันทีมอาร์เจนติน่ารู้แล้วว่าคงสู้แรงอีกคนหนึ่งไม่ได้ แถมเค้าคนนั้นยังตัวสูงกว่าเค้าอีกด้วย
คงไม่ต้องบอกถึงพละกำลังที่เยอะกว่าเป็นไหนๆ........เมสซี่จึงอยู่เฉยๆ
และเปลี่ยนมาเป็นพยายามแกะฝ่ามือที่เหนี่ยวเป็นตุ๊กแกที่กดทับริมฝีปากของเค้าไว้แทน
“อา ใช่ อย่างนั้นแหละ ไม่ดิ้นนายจะได้ไม่เจ็บตัว.........หึ
นายอยากจะพูดอะไรเหรอ
อยากรู้ว่าฉันเป็นใครใช่ไหม?”
ร่างที่เล็กกว่าพยักหน้าช้าๆ
......เมื่อกี้ที่โดนรวบตัวเค้าไม่รู้ว่าเป็นใคร
เพราะบริเวณตรงนี้มืดเอามากๆ แต่ถ้าลองขยับไปอีกนิดก็จะมีแสงสว่างจากหลอดไฟ
พอให้ความกระจ่างแก่เค้าได้........
“แหม.....เป็นกัปตันที่ว่าง่ายจังแฮะ”
คนพูดกระหยิมก้มหน้าลงมาใกล้ จนร่างที่หันหลังอยู่ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ
ที่สัมผัสใบหูของเค้า
นายเป็นใครกันแน่น่ะ.......เมสซี่เริ่มประวิงในใจแล้วว่า
เค้ากำลังโดนแก็งมาเฟียในริโอลักพาตัวแล้วเอาไปเรียกค่าไถ่รึเปล่า
ชายร่างสูงชะลูดปริศนาลากเมสซี่ขึ้นไปบนทางฟุตบาท
แล้วเหวี่ยงร่างเล็กกว่าที่กำลังสับสน กระแทกเข้ากับผนังคอนกรีตอย่างแรง
ปึ้กก!!!
“อึ๊ก…!!” จากแรงกระแทก
ส่งผลทำให้เมสซี่เสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นคอนกรีตเย็นเชียบเบื้องล่าง
และแล้วเมื่อเมสซี่ที่ช้ำระบมจากการกระแทกไม่บอกไม่กล่าว
เงยหน้าขึ้นไปมองยังบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของตน ชายคนนั้นก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อย พอให้แสงไฟด้านหลังสาดส่องมากระทบตนได้
“นาย....เฟลไลนี่!!” ร่างที่นั่งเก็บเข่าอยู่กับพื้นตาโตด้วยความวิตก
เฟลไลนี่เหยียดยิ้มชั่วร้ายขึ้นที่มุมปาก
“หึ ไง....จำฉันได้ด้วยหรือ”
เค้ายกมือขึ้นท้าวเอว
“นายต้องการอะไร....”
เมสซี่มองสำรวจ พิจารณาคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา กลัวว่าอยู่ๆ เฟลไลนี่จะทำอะไรที่เค้าคาดไม่ถึงเข้า
เฟลไลนี่ไหวไหล่
“ก็ไม่รู้สิ นายคิดว่าไงล่ะ”
“ถ้าเป็นเรื่องในสนามเมื่อตอนนั้นล่ะก็ ฉันไม่ได้เอาความอะไรนายเลยนะ นายหายห่วงได้เลย.....แล้วนี่นายคิดจะทำอะไรบ้าน่ะ!” เมสซี่ร้องลั่น เมื่อเฟลไลนี่ใช้ปลายเท้าเขี่ยเข้าที่ขากางเกงของเค้าเบาๆ
เมสซี่ขยับหนีอย่างหวาดระแวง
ในขณะที่อีกฝ่ายหยุดใช้เท้ากับเค้าแล้ว
“เฮ้พวก ถ้านายมีปัญหาอะไร เราคุยกันดีๆ
ก็ได้หนิ........โอ๊ย!!” เมสซี่พยายามหันมาคุยด้วยเหตุและผล ก่อนจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้น
แต่ทว่าเฟลไลนี่ที่อยู่ตรงหน้ากลับใช้เท้าเตะหน้าแข้งของเมสซี่อย่างแรง จนร่างที่เล็กกว่าล้มกระเด็นลงไปกองกับพื้นอีกรอบ
“หึ.....คุยดีๆ
หรือ? แหมๆๆๆ ดูท่านายคงจะเป็นผู้นำที่ใจเย็นมากเลย...สินะ”
ร่างสูงสะลูดค่อยๆ พูดพลางเอียงศีรษะไปทางขวาอย่างยี้ยวน
ส่วนคนที่นั่งกุมหน้าแข้งตัวเองอยู่ก็มองกลับไปด้วยสายตาขุ่นเคือง
ร่ำๆ อยากจะลุกขึ้นมาเตะฟาดหน้าเจ้าหมอนี่ให้ได้สักครั้งหนึ่ง
“นายต้องการอะไร” เมสซี่พูด
เฟลไลนี่เงียบ
ไม่พูด กลับเอาแต่นิ่งและมองหน้าคนที่เค้าเพิ่งกระทำไปอย่างพินิจพิเคราะห์
“บอกมาสิ....ว่านายต้องการอะไร รึว่านายไม่พอใจที่ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิง”
เมสซี่เริ่มพูดเสียงดังอย่างเหลืออดแล้วกับความลึกลับของเฟลไลนี่ เค้าอ้าแขนออกอย่างยอมจำนน
...............เมสซี่ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร ไม่ว่าจะเพื่อนนักฟุตบอล คนขี้เมา หรือกับใครก็ไม่อยากทั้งนั้น มันทำให้เค้ารู้สึกกังวล..............
หมอนี่เมามารึไงนะ...........เมสซี่คิดอย่างไม่พอใจกับท่าทางราวกับคนเมาอย่างว่าของเฟลไลนี่ เพราะนอกจากเจ้าตัวจะไม่ตอบแล้ว กลับยังจะมายิ้มกวนประสาทใส่เค้าอีก
............ใช่ เค้าจะคิดไปว่าเจ้าหมอนี่เมา
แล้วก็รู้สึกไม่พอใจที่ทีมตัวเองแพ้ขึ้นมา ก็เลยมาทำร้ายร่างกายเค้า แต่เค้าจะไม่เอาความหรอกนะ เมสซี่มีความอดทนมากพอ............
กัปตันอาร์เจนติน่ายกมือขึ้นราวกับยอมแพ้
“โอเค เอาล่ะ......ฉันไม่รู้นะว่านายจะมาตื้บฉันทำไมนะ แต่ฉันจะไม่ว่าอะไรคนที่กำลังเมาอยู่หรอก
เพราะวะ.........” ยังพูดไม่ทันจบ ประโยคของเมสซี่ก็โดนตัดไป ด้วยการกระทำของเฟลไลนี่
ที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนจากยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี มาเป็นตีหน้าขรึม แล้วเจ้าตัวก็ปราดเข้ามาจับข้อมือของเมสซี่ตรึงไว้กับผนังคอนกรีตด้านหลังอย่างแรง
“โอ๊ย! อึก....นายจะทำบ้าอะไรอีกเนี่ย ฉันว่านายน่าจะไปนอนได้แล้วนะ...”
“หุบปาก!!” เมสซี่สะอึก และดูตกใจอยู่ไม่น้อยที่โดนตะคอกใส่หน้าแรงเกินไปแบบนั้น
ความผิดไหน มันจะทำให้เจ้าหมอนี่รู้สึกโกรธได้มากถึงขนาดนี้กันนะ?..........เมสซี่คิด พลางนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดจากแรงที่โดนบีบที่ข้อมือซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที
และเจ็บหน้าขาที่โดนเตะไปเมื่อครู่ จะว่าไป เค้าชักจะรู้สึกโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกันนะ...........
เมสซี่ส่งสายตาที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัวของตนเองกับร่างตรงหน้า
แต่อีกคนกลับไม่สังเกตมันแล้วพูดกระซิบลอดไรฟันออกมาว่า “ฉันไม่ได้เมา! และอีกอย่าง...ที่ฉันมาอยู่ตรงนี้
ไม่ใช่เพราะไม่พอใจที่ทีมตัวเองไม่ชนะ....”
เฟลไลนี่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าขาของเมสซี่
และใกล้มากจนคนที่ถูกเกาะกุมรู้สึกได้ถึงลมหายใจผะผ่าวที่น่าสะอิดสะเอียนของอีกคน เมสซี่พยายามบิดมือออก
แต่ทว่าแรงที่เฟลไลนี่ใช้จับเค้า มันมากจนทำให้มือของพวกเค้าทั้งสองเป็นรอยสีขาว
เมสซี่หันหน้าหนีอย่างสุดคอ “นะ
นายคิดจะทำ...บ้าอะไร อึก ปล่อยฉัน!! ฉันไม่ใช่อีตัวนะเว้ย!!”
หัวใจเค้าแทบหยุดเต้น เมื่อพยายามสะบัดสุดชีวิต แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย
เค้าสู้แรงเฟลไลนี่ไม่ได้
และแทนที่เจ้าโย่งเก้งก้างนี่จะพูดอะไรสักอย่าง เมสซี่กลับรู้สึกได้เพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดต้นคอเค้าเท่านั้นเอง
อะไร! นี่ฉันจะมาโดนคู่แข่งที่ไม่รู้จักกัน
มาขืนใจฉันใต้โทเวย์ยังงั้นเหรอ........อ๊าก ไม่เอาหรอกนะ!!
“นาย.....ให้ตาย! ไม่คิดจะพูดอะไรเลยรึไง
บอกฉันทีสิว่านายเป็นบ้าอะไร!.....แค้นอะไรฉันนักหนา”
เมสซี่ป้าวร้องพลางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร เฟลไลนี่ออกแรงบีบเข้าไปอีกจนเมสซี่หน้าเสีย
“ฉันจะบอกให้ก็ได้....”
เฟลไลนี่ลดเสียงลง แล้วเลื่อนหน้าไปประชิดกับใบหูของเมสซี่
“....ที่ฉันทำนี่ ก็เพราะว่านายไง”
ร่างเล็กที่หันหน้าแนบกับด้านข้างของผนังคอนกรีตแทบหยุดหายใจและรู้สึกเหมือนหัวใจของเค้าหยุดเต้นไปเรียบร้อยแล้ว
............สาเหตุเพราะฉัน?..........
............เพราะฉันเนี่ยนะ
ฉันไปทำอะไร ตอนไหนกัน!............
เมสซี่ยังคงไม่เข้าใจ
ร่างที่เหนือกว่าจึงพูดต่อ “ไม่ใช่เพราะว่าทีมนายได้เข้ารอบ......แต่เป็นเพราะนาย นายคนเดียวล้วนๆ เลยเมสซี่.....ตอนที่วิ่งอยู่ในสนามรู้ไหมสายตาทุกคนที่จับจ้องนายมันเป็นยังไง.......”
เฟลไลนี่ขยับหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นอีก
จนศีรษะของทั้งสองสัมผัสกัน
เมสซี่ขยับหนีอีกพลางตะโกนออกมา “....ยะ ยังไงเล่าาา!”
เฟลไลนี่ขบเขี้ยว
“ก็ด้วยสายตาชื่นชมเสียเต็มประดาไงล่ะ!
ทุกๆ คนชอบนาย.....มองว่าอะไรๆ นายก็ไม่ผิด ทำถูกไปซะทุกอย่าง ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไม.....”
หมอนั่นทำเสียงขู่
เมสซี่ชะงัก ร่ำๆ อยากจะตะโกนกลับไปเสียจริงๆ ว่า “ฉันจะไปรู้ไหม....แล้วมันใช่ซะที่ไหนกันล่ะ
เจ้าบ้าเอ้ย!!” แต่ก็ทำได้เพียงแค่หายใจฟึดฟัดอย่างอึดอัดเท่านั้น
ใครบอกนายกัน ว่าทุกๆ
คนชอบฉัน....มองด้วยสายตาที่ชื่นชมเสียเต็มประดา! อย่างน้อยๆ ก็มีคนหนึ่งล่ะที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
อยู่ๆ เมสซี่ก็มีสายตาหม่นหมองลง
เมื่อนึกถึงคนที่เค้าคิดว่าไม่ได้มองตัวเองด้วยสายตาชื่นชมดังเช่นคนอื่นๆ และคนๆ นั้นก็คงจะไม่ชอบเค้าด้วย...........
................ถ้าได้ย้อนเวลากลับไป
อย่างน้อยเค้าก็จะยิ้มให้กับคนๆ นั้น..............
............หรืออาจมากกว่านั้น
และตอนนี้เมสซี่ไม่รู้ว่าเฟลไลนี่กำลังจะทำอะไร
จะซ้อมเค้าจนเล่นบอลไม่ได้ หรือจะฆ่าเค้ากันแน่............
โอ้ ให้ตายเถอะ.....ฉันควรคิดถึงเค้าในเวลานี้หรือเนี่ย
แต่หลังจากนั้นในหัวของเมสซี่ก็ว่างเปล่ามีเพียงชื่อของโรนัลโด้เท่านั้นที่ก้องอยู่ในหัวของเค้า และหวนถึงเรื่องบ้าๆ ที่เค้าคิดไว้ว่าจะได้เจอโรนัลโด้ยืนรออยู่
เมื่อเค้าหันหลังไป
แล้วเมสซี่ก็หันหน้ากลับมา
แทบจะชนเข้ากับใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ของอีกคน
เมสซี่เอียงคอหนีอีกครั้งแต่ครั้งนี้เค้ากลับร้องส่งเสียงอย่างดีใจ
“เฮ้! คุณ....คุณที่เดินอยู่ตรงนั้นน่ะ ช่วยผมด้วยย!! ช่วยด้วย ไอ้หมอนี่มันจะฆ่าผม!.....อ๊ากก มันจะฆ่าผมแล้วว!” เสียงตะโกนของเมสซี่ที่ส่งผ่านแผ่นหลังสูงไป
ทำให้เฟลไลนี่เผลอปล่อยมือเมสซี่แล้วหันกลับไปมองข้างหลังตน ส่วนคนที่เพิ่งโดนปล่อยจึงใช้โอกาสนี้ตะกายตัวลุกขึ้นมา
แต่ทว่าคนที่ไวกว่าก็มักจะเป็นเฟลไลนี่เสมอ
“เฮ้ย นายจะไปไหน!!”
เฟลไลนี่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วจับมือเมสซี่กระชากกลับมา
“ปล่อยฉัน....โอ้ย!!” เมสซี่สะบัดสุดชีวิตเมื่อตัดสินใจแล้วว่าครั้งนี้จะไม่ยอมอีกแล้ว แต่สิ่งที่เค้าคาดไม่ถึงก็คือมือที่บีบรัดอย่างรุนแรงราวกับคีมเหล็กคู่ใหญ่ของอีกคนนั่นสะบัดไม่หลุดจริงๆ
“แสบนักนะ....กล้าโกหกฉันยังงั้นเหรอห๊ะ!!”
เฟลไลนี่รวบมือเล็กๆ ของอีกคนไว้แนบอกแล้วขู่กรรโชก “น้ำหน้าอย่างนายนอกจากเตะฟุตบอลแล้วก็ทำอะไรไม่ได้หรอก!”
เมสซี่เลือดขึ้นหน้า กับคำครหานั้น
ก่อนจะตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด “หนอย....ไอ้หัวฟูปากเสีย!!” แล้วเตะฟีคิกเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์ของคนซึ่งดูถูกเค้า
“อั๊กก!!”
เฟลลนี่ร้องเสียงหลังก่อนจะงอตัวเข้าหากัน
ปล่อยเมสซี่ให้เป็นอิสระก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแบบไม่ค่อยสู่ดีนักออกห่างไปจากเฟลไลนี่ เพราะอาการบาดเจ็บจากลูกเตะของคนที่ฝากมันไว้บนหน้าแข้งของเค้า
“ช่วยด้วย! ให้ตายใครก็ได้
โผล่หน้ามาที.....อ๊ะ โอ๊ย......ชะ ช่วยด้วย!!”
ให้ตาย ทำได้แค่นี้งั้นเหรอเมสซี่! งั้นนายก็ไม่ต่างอะไรไปจากที่หมอนั่นพูดหรอกนะ!!
รู้งี้เรียนเสริมอย่างอื่นด้วยดีกว่า.....เอาเคล็ดที่ล้มคนตัวโตๆ
กว่าได้ในพริบตาเดียวน่ะ ไม่ใช่เตะน้องชายมันแล้ววิ่งหนีมาแบบนี้............ในขณะที่เมสซี่กำลังคิดว่าตัวเองดูเหมือนเด็กผู้หญิงโรงเรียนไฮสคลู อีกคนหนึ่งที่โดนทิ้งไว้ด้านหลังก็ยืดตัวขึ้น
พร้อมกับความคิดที่ว่า .........ไหนๆ ก็ลงมือแล้ว ก็อย่าให้หลุดไปได้............
ดังนั้นเฟลไลนี่จึงออกวิ่งตามไปด้วยขาที่แข็งแรงกว่า
“ช่วยด้วย....อ๊ะ
อ๊า ชะ ช่วยด้วยยย!”
“จะไปไหน!!” ด้วยความที่ว่าเฟลไลนี่ได้เปรียบมากกว่าทั้งช่วงขาและความแข็งแรง
จึงวิ่งตามเมสซี่จนทันแล้วกระชากเสื้อยืดตัวบางของเมสซี่ไว้
แคว๊กก!!!
“ว๊ากก เสื้อฉัน......เฮ้
อย่านะ! อย่าจับฉะ....” แต่ไม่ทันเสียแล้ว
เสียงของเมสซี่ขาดหายไปเพราะตัวของเค้าถูกกระชากกลับ และพอหันมาเผชิญหน้ากันก็เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างผู้ที่ไม่ยอมโดนบังคับอีกแล้ว
กับผู้ที่จะไม่ยอมให้สิ่งที่ตนเองลงทุนทำมานี่เสียเปล่า
“อย่า! ปล่อยฉันนะ!
ปล่อยสิ.....อุ หวะ เหวออ” เฟลไลนี่ออกแรงโถมเข้ามามากเกินไป
จึงทำให้เจ้าตัวล้มลงทับเมสซี่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“อูยย เจ้าบ้าเอ้ย.....ช่วยด้วยย” แต่พอสำนักความได้คนที่ตัวเล็กกว่าก็ยังไม่วายเอาแต่ตะโกนขอความช่วยเหลือลูกเดียว จนเฟลไลนี่เองก็เหลืออดแล้วเช่นกัน
จึงใช้มือบีบปากสีสดของเมสซี่
“หุบปากสักทีเถอะ!.....ถึงจะร้องเสียงดังแค่ไหน
ใต้โทเวย์ที่ไม่มีใครเดินผ่านแบบนี้ จ้างให้ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงนายหรอก”
“นายต้องการอะไรกันแน่น่ะ.....แล้วนี่ออกไปจากตัวฉันจะได้ไหม
มันหนักนะ” เมสซี่พยายามผลักดันอกของคนด้านบนออก แต่ก็ไม่เป็นผลเลย หน้ำซ่ำยังโดนเฟลไลนี่ไล่จับข้อมือเข้าให้อีก
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าไอ้คนที่ทุกคนพากันชื่นชม
และบอกว่าน่ารักนักน่ารักหนาน่ะ....มันสมคำร่ำรือจริงรึเปล่า”
เฟลไลนี่คำรามลอดไรฟัน และยิ้มชั่วร้ายที่สุดเท่าที่เมสซี่เคยเห็นมา
กัปตันตัวเล็กประจำทีมอาร์เจนติน่าตาโต และหวาดวิตกกับสิ่งที่ต่อไปเค้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
..............นึกไม่ออกจริงๆ.............
“นะ นายจะทำอะไรน่ะ........เฮ้ย! ฉันเป็นผู้ชายนะไอ้โรคจิต”
เมสซี่สะดุ้งเฮือกและตะโกนลั่นทันที เมื่อจู่ๆ เฟลไลนี่กระชากเสื้อยืดที่ขาดรุ่งริ่งอยู่แล้วของเค้า
ให้ขาดสะบันออกจากกาย
“หึๆ ผิวนายนี่เนียนจริงๆ เลยแฮะ
ยังกะผิวเด็กนักเรียนไฮสคลูแหนะ” เฟลไลนี่ว่า พลางลูบนิ้วมือยาวๆ ไปบนหน้าท้องของเมสซี่
ซึ่งโดนบั่นทอนอิสรภาพด้วยการรวบข้อมือไว้เหนือศีรษะไปเรียบร้อยแล้ว
เมสซี่ดิ้นขลุกขลัก และรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที เค้าพูดอะไรไม่ออกเพราะกลัวมาก รู้สึกอยากจะตายให้ได้เลยตอนนี้
ใครก็ได้ช่วยด้วย จะแมว หรือจะหมาที่ไหนก็ได้....ช่วยหน่อยเถอะน่าาา!!
“ไอ้โรคจิต!! ปล่อยฉันนะ!!......อ๊าาา อย่าจับตรงนั้น”
“หึ ร้องเข้าไปเลย
ฉันก็บอกไปแล้วไงว่า.....อั๊กก!”
ผั๊วะะ!!! ตุ้บบบ!!
“เล่นกับใครก็ให้มันสมกับตัวหน่อยเพื่อน......แล้วนี่นายช้ำรักจากผู้หญิงทั้งโลกมารึไงว่ะเนี่ย”
เสียงเข้มทุ้มมีเสน่ห์กล่าวขึ้น ท่ามกลางความตื่นตกใจของเมสซี่...........
เมื่อกี้เค้าแทบดูไม่ทันเลย เพราะจู่ๆ ก็มีมือปริศนามากระชากไหล่ของเฟลไลนี่ออกไป
แล้วก็ซัดหมอนั่นเข้าที่หน้าอย่างเต็มเปา ทำให้เฟลไลนี่กระเด็นออกไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนและนอนกองปวกเปียกอยู่กับพื้น
ร่างสูงเก้งกางของสมาชิกทีมเบลเยี่ยมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้น
และเอามือกุมมุมปากของตัวเองไว้ “แก!! แกเป็นใคร แกกล้าดีมาจากไหน...ห๊าา! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!” คงเป็นเพราะผู้ที่มาใหม่ยืนหันหลังให้กับแสงไฟ ภาพที่เฟลไลนี่เห็นจึงเป็นแบบย้อนแสง ไม่รู้แน่ว่าคนๆ นี้เป็นใคร
แต่พอชายคนนั้นขยับไปด้านข้างเล็กน้อย พอให้แสงไฟได้สาดเข้ามากระทบใบหน้าหล่อเหลา คมคายของเค้า เฟไลลนี่ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง และชายคนนั้นก็กล่าวขึ้นว่า
“ก็ไม่รู้สินะพวก.....ฉันก็เป็นแค่กัปตันทีมโปรตุเกตุธรรมดาๆ
คนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่พระเจ้า คงจะตรัสรู้ไม่ได้หรอกนะ
ว่านายเป็นใคร....” เค้าผายมือแล้วไหวไหล่เล็กน้อย แต่ทว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลานั่นที่ไม่ได้มีแว่นกันแดด
และหมวกปกปิดใบหน้า ก็เหยียดเผยรอยยิ้มออกมา ราวกับจะบอกว่า ฉันจำนายได้นะ
ไอ้ลูกหมา.......
“บ้าน่า.....นาย!” เฟลไลนี่พึมพำกับตัวเอง
ก่อนที่จะสบถออกมา
โรนัลโด้ถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อของเฟลไลนี่ แล้วประเคนหมัดงามๆ เข้าไปอีกครั้งหนึ่ง
ผั๊วะ!!
ไอ้เปรตเอ้ยย!
คิดจะทำอะไรแบบนี้ก่อนฉันได้ยังไงว่ะ
ไม่ยอมโว้ยย!!
โรนัลโด้ปรี๊ดแตก รู้สึกเลือดขึ้นหน้ามาตั้งแต่ตอนที่เค้าเดินตัดตรอกเข้ามาโผล่ใต้โทเวย์นี่แล้ว ตอนแรกเค้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เลยรีบมาดูเผื่อมีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
แต่พอโผล่หน้ามาเท่านั้นแหละ
เค้าก็เห็นว่ามีผู้ชายสองคนกำลังกอดรัดฝัดเหวี่ยงกันอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน ตอนแรกคิดว่าจะไม่ยุ่ง
เพราะมันไม่เกี่ยวกับเรา
แต่พอเพ่งไปเพ่งมา และเสียงที่ร้องลั่นเมื่อกี้มันก็คลับคลายคลับคลาแปลกๆ
และแล้วร่างของกัปตันโปรตุเกตุก็ถึงบางอ้อทันที......เมื่อเค้าเห็นหน้าและแน่ใจอย่างรวดเร็วแล้วว่า
คนที่โดนฉีกเสื้อจนขาดกระจุยและนอนดิ้นขลุกขลักอยู่บนพื้นนั่นน่ะมัน เมสซี่ที่เค้ากำลังคิดถึงอยู่นั่นแหละ -- !!
“ไอ้เกิดมาไม่มียางอาย!”
ผั๊วะ!!
“ไอ้โรคจิต ไอ้ฟู – เสาไฟฟ้าา!”
ผลั๊กก!!
“ไอ้บัดซบเอ้ยย ฮึ๊ยย!!”
ตุ้บบ!....โครมมม!!
ร่างสูงสมส่วนลุกขึ้นกระทืบเข้าไปที่ท้องของเฟลไลนี่เสียเต็มรักอย่างอัดอั้นและเคียดแค้น
กับสิ่งที่เค้าได้เห็นไปเมื่อกี้
“อั๊ก!! ......โอ้ยย”
กองกลางของทีมเบลเยี่ยมนอนจุก
งองุ้มกอดท้องตัวเองอยู่กับที่โดยไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย เพราะแรงอัดอันหนักหน่วงของโรนัลโด้ที่ฝากเอาไว้
ร่างสูงสมส่วนผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรเป็นห่วงอีกคนหนึ่งมากกว่า เค้าหันไปดูเมสซี่แล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหา แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมา แล้วชี้หน้าเฟลไลนี่อย่างเอาเรื่อง
“อย่าให้ฉันเห็นแกอีกเชียวนะ....ไม่งั้นล่ะก็
แกได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ถึงบนสวรรค์แน่” แม้เฟลไลนี่จะไม่เข้าใจว่า พระอินทร์ คือใคร
หรืออะไร แต่ก็มีท่าทีหวั่นเกรงต่อคำขู่ของโรนัลโด้อยู่ไม่น้อย
เพราะชั่งน้ำหนักจากหมัดและลูกถีบของเจ้าตัวแล้วก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว.......เฟลไลนี่ใช้แขนข้างหนึ่งยันตัวเองให้ลุกขึ้น
ในขณะที่อีกข้างหนึ่งก็ยังคงกุมมุมปากที่เต้นตุบๆ ของตัวเองไว้
“ยัง....ยังจะมามองหน้าอีก จะให้ฉันเตะแกโด่งไปเมืองไทยตอนนี้เลยไหม!” โรนัลโด้ง้างเท้าเตรียมจะเตะเต็มข้อ แต่เฟลไลนี่ก็เด้งตัวลุกขึ้นแล้วพุ่งพรวดวิ่งออกไปได้ทัน
ก่อนจะโดนเตะเอาเข้าจริงๆ
“หึ..”
ร่างสูงยิ้มอย่างสะใจกับชัยชนะที่เพิ่งได้มา
แม้เค้าจะยังไม่สะใจเท่าไรก็ตามเถอะ
“อ๊ะ อูย”
“อะ อ้าว...เฮ้ย!
เมสซี่!” แต่หลงระเริงได้ไม่นาน เค้าก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองลืมใครบางคนไป โรนัลโด้รีบถลาเข้าไปหาเมสซี่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนทำท่าจะลุกขึ้น
เมื่อไปถึงตัว ร่างสูงก็รีบเข้าไปประคองกอดพยุงอีกคนไว้ในอ้อมแขนทันที
โดยที่ลืมนึกถึงสถานะที่แท้จริงของพวกเค้าไป
“เฮ้ นายโอเครึเปล่า.....หมอนั่นได้ทำอะไรนายไหม!?” โรนัลโด้ดูท่าทางกระตือรือร้นที่จะอยากรู้เอามากๆ ส่วนทางด้านเมสซี่ก็ค่อนข้างจะตกใจอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
และรู้สึกช็อคเล็กน้อยถึงปานกลางที่เพิ่งเกือบโดนเพื่อนนักฟุตบอลต่างทีมลวนลาม
“อะ เออ...ฉัน” เมสซี่อ่ำอึ้งอยู่ในสายตาของโรนัลโด้อยู่พักหนึ่ง
ก่อนจะตาลุกวาวเมื่อเพิ่งนึกได้ว่าคนที่อยู่ข้างเค้าตอนนี้คือใคร
“นะ นาย..ว๊ากก!”
เมสซี่เด้งตัวออกมาราวกับโดนน้ำร้อนลวก
โรนัลโด้เองก็เช่นกัน........นอกจากนั้นแล้ว หัวใจของทั้งคู่ยังเต้นตูมตามและรู้สึกวาบวามเหมือนกันอีกด้วย
............กายของพวกเค้าในบริเวณที่เนื้อสัมผัสกันมันรู้สึกร้อนวาบ.........
.
.
.
TBC.
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เอื้อออ จบ Prat 2 แล้ว
ต่อไปเป็น Prat 3 ให้กำลังใจกันหน่อยนะค่ะ ^^
รู้สึกว่าโรนัลโด้จะเคยมาเที่ยวไทยบ่อยแฮะ 55555
1 ความคิดเห็น:
พี่โด้ใจเยนน //ดึงแขนเสื้อพี่โด้
(พี่โด้>>เย็นไม่ไหวแล้วว้อยย อ๊ากกก ไอเฟลไลนี่)
'คิดจะทำแบบนี้ก่อนฉันได้ยังไงวะ' โอ้แหม ประโยคนี้ไม่ค่อยส่อเลยนะคะ พี่โด้คิดอะไรกับเหมียวเปล่าเนี่ย * *
(ก็คิดอยู่แล้ว เธอไปอยู่ไหนมา เหอะๆๆ)
แสดงความคิดเห็น