อ่าาาาา มาต่อตามที่สัญญาแล้วค่ะรีดๆ >3< ช่วงนี้ไรท์ไม่ค่อยได้แวะมาลงบ่อยๆ
เลยค่ะ ต้องขออภัยอย่างมหาศาลจริงๆ
เลยนะคะ และช่วงนี้ก็ทราบว่ารีดหลายๆ
ท่านก็คงจะเปิดเทอมกันแล้ว(เข้าวังวนสู่เทศกาลโลกแตกอันน่าเบื่อ) ฮาาา สู้ๆนะคะ
การเรียนนี่ต้องใช้ความอดทนและความพยายามกันเป็นอย่างมากเลยนะเออ
//อย่าว่าแต่เค้าเลย แกก็เหมือนกันยะ!// 55555
แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< สามารถเข้ามาติดตามและเข้ามาพูดคุยกับไรท์ได้เลยค่ะ
//หากช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็ต้องอภัยด้วยนะคะ M_ _M //
อืมม มาว่าด้วยเรื่อง Part ที่แล้วที่เราค้างกันไว้ดีกว่านะคะ......จาโรชักปืนขึ้นมาแล้วลั่นไกใส่เฮียค่ะ! จะเกิดอะไรขึ้น!? ไปอ่านกันเลยค่าาาาา ><
----------------------------------------------------------------------------------------------
จาโรเดินดุ่มๆ มาหาโรนัลโด้แล้วชักปืนออกมาจากเข็มขัดอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะลั่นไกโดยไม่คิด
ปัง!
เมสซี่ตาเบิกโพลง อ้าปากค้างและหยุดหายใจ..........
.
.
.
******************************************************************
.
.
.
กระสุนยิงลงไปในสระ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินมาถึงหน้านักเตะพอดี
แล้วจี้ปลายกระบอกปืนไปที่แผลสดซึ่งมีเลือดไหลออกมาหมาดๆ ของโรนัลโด้
“ฉันจะไม่ฆ่าแกรู้ไหมคริสเตียนโน่
เพราะไม่อยากให้เสียรายได้จากการทำธุรกิจ....”
“อ้าา!...อึก ใครอนุญาตให้แกเรียกชื่อต้นของฉันกัน
ไอ้สารเลว....อ๊ากก!” หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันกดมือที่ถืออาวุธสังหารลงไปแรงอีก
ปลายกระบอกปืนร้อนๆ ส่งเสียง ฉี่ เบาๆ บนบาดแผลของโรนัลโด้ ประสาทสัมผัสของความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมองของเค้าจนร่างสูงต้องร้องออกมา
“แกไม่มีสิทธิ์พูด เพราะว่าฉันจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเมื่อไรก็ได้!” ว่าแล้วจาโรที่มีสีหน้าเหมือนโมโหโกธาเป็นพิเศษ
ก็จัดการใช้สันปืนตบเข้าไปที่มุมปากของโรนัลโด้อย่างเต็มแรง จนร่างสูงหน้าหันพร้อมเลือดกบปาก
“อันนี้ฉันจัดให้ก่อนแกโดนรับน้อง”
ว่าเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับลูกน้องเพียงเล็กน้อย แล้วถอยออกมา ในขณะที่ชายฉกรรจ์สี่คนจะรุมอัดร่างสูงที่ถูกยำติดกับพื้น
“เป้าหมายคือตัวเมสซี่......ไม่ใช่แก
เพราะงั้นก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะได้แกมาเป็นตัวทำเงินอีกคนหนึ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถนอมแกนักหรอก....เฮ้ย! ไม่ต้องเน้นหน้า
เอาตัวมันให้ช้ำไปถึงไส้ติ่งก็พอ”
หนุ่มลูกครึ่งตะโกนบอก แล้วถอยหลังออกให้ความสนใจกับร่างเล็กๆ ที่พร่ำพูดทั้งน้ำตาบ้าง....จาโรยืนมองเมสซี่ที่กู่ร้อง
อยู่ห่างๆ
“ไม่! อย่าทำอะไรเค้า...อย่า! คุณก็ได้ตัวผมแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก....ปล่อยเค้าไป
อย่าทำอะไรเค้าอีกเลย ได้โปรดเถอะ เค้าลำบากเพราะผมมากเกินพอแล้ว!....อึก ฮือ คริส! ไม่!
อย่า อย่าทำเค้า....พอแล้ว
ฮืออ อึก ได้โปรด....พอเถอะ”
จาโรยิ้มละมุนแต่ทว่าร้ายกาจราวกับคนที่พร้อมจะเชือดนิ่มคนอื่นได้ตลอดเวลา ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเมสซี่ แล้วจุปากไปมาอย่างนึกสงสาร
“ไม่เอาน่าคนน่ารัก อย่าร้องไห้สิ.....คุณไม่ควรดูภาพที่ไม่น่าดูแบบนั้นเลยนะ”
ว่าเสียงอ่อนโยนพลางเช็ดน้ำตาให้อีกคนหนึ่งอย่างอ่อนโยนเช่นกัน แต่ร่างเล็กกลับสะดุ้งหนีสัมผัสนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ได้โปรดหยุดเถอะ คุณได้ตัวผมแล้ว หยุดทำร้ายเค้าเถอะผมขอร้อง....แล้วผมจะยอมไปกับคุณแต่โดยดี.....ได้โปรดเถอะนะ”
เมสซี่แสดงสีหน้าอย่างสุดจะอธิบายเมื่อเค้าไม่เคยรู้สึกแย่และเจ็บขนาดนี้มาก่อนเลย.......คนที่ช่วยเค้า โอบอุ้มเค้า
และใจดีอารีกับเค้ามาโดยตลอดกำลังจะตายทั้งเป็น
ถ้าโดนซ้อมเข้ามากๆ อาจจะเล่นฟุตบอลไม่อีกเลยตลอดชีวิต
“ได้โปรดเถอะ หยุดเถอะ หยุดสักที...อึก” ร่างเล็กหมดแรงห้อยตัวเองกับชายทั้งสองที่จับร่างของเค้าไว้ ชายลูกครึ่งอเมริกันบราซิลออกมายืนบังร่างเล็กไว้ไม่ให้เห็นภาพที่บุคคลซึ่งกำลังถูกพูดถึงอยู่นั้นโดนรุมซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย
“โอ้ เงียบซะเถอะ....เงียบซะ” จาโรว่าเสียงเห็นใจอย่างเสแสร้ง
ก่อนจะหรี่เสียงท้ายประโยคให้เบาลงเพื่อให้ดูสมจริง........ชายคนนี้เก่งเรื่องเล่นละครซึ่งสวนกับสถานการณ์ของความเป็นจริงเสมอ........แล้วจรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากที่นุ่มมือจนเค้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ก่อนจะทำหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“แต่เสียใจ ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้”
แล้วจากนั้นจาโรก็ทำหน้าเคร่งขรึมราวกับพลิกกลับบทบาทของตัวเองใหม่
ก่อนจะหมุนตัวบนสันเท้าแล้วพูดเสียงกรรโชก “เฮ้ย! เลิกเล่นได้แล้ว จัดการมันให้สลบ....อยู่ไปก็ยุ่งยากกันเปล่า
ดูท่ามันเอาเรื่องชะมัด”
เสียงตุ้บตั้บดังขึ้นอีกเป็นสองเท่า
มันเกือบจะดังประสานกันจนร่างเล็กแทบแยกไม่ออก
แต่แล้วก็มีการเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้น
มีคนก้าวเข้ามา.........
“ดูสิ ใครไม่ทำให้ผิดหวัง.....โอ้ จาโร
สมแล้วกับที่เป็นมือขวาของฉัน” ชายร่างใหญ่ออกท้วมคนหนึ่งเดินเข้ามา เค้าผายมือออกอย่างยินดีแต่พูดเสียงยินดียิ่งกว่า
แสดงท่าทีราวกับว่าเจอหลานชายที่หายหน้าหายตาไปนาน........และทุกอย่างกำพลันหยุดชะงักลง ชายฉกรรจ์สี่คนที่ซ้อมโรนัลโด้ก็หยุดมือไปด้วยแล้วยืนตัวตรงแน่วเพื่อทำความเคารพหัวหน้าสูงสุด
.............เมสซี่เห็นโรนัลโด้นอนจมกองเลือด มีเลือดไหลออกมาจากปาก จมูก และบาดแผล ร่างสูงดูบอบช้ำไม่น้อยเลย และหมดสติไปนานแล้ว..........
“โอ้ คริส......” เมสซี่พูด เสียงฟังดูเหมือนใจสลาย.....เค้าทั้งสงสาร
และเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เพื่อนร่างสูงต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้ เป็นเพราะเค้าคนเดียวแท้ๆ
เป็นเพราะเค้าคนเดียว...........
********************************************************************************
“ไอ้จาโร ไอ้คนหลอกลวง!”
เปเป้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วกำมือแน่น
“ไอ้บัซบเอ้ย! อย่าให้ฉันเจอมันอีกนะ”
เนย์มาร์ที่อยู่นั่งแปะข้างๆ ก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน แถมยังช่วยชูกำปั้นเป็นเพื่อนเปเป้อีกด้วย
สองหนุ่มสองเชื้อชาตินั่งอารมณ์เดือดเพราะถูกหลอกอยู่กันเพียงสองคน จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยตัดปัญหาขึ้นมา
“ช่างเถอะน่า
ยังไงเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
อีกอย่างหมอนั่นโกหกพวกนายไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา พวกนายก็ติดแหง็กอยู่นี่ ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” เปเป้กับเนย์มาร์มีทำหน้าเจ็บนิดๆ
........ราวกับจะย้ำเตือนว่าพวกเค้าไร้ประโยชน์กันซ้ำๆ หน้าอย่างไรไม่รู้.............แต่เนย์มาร์ก็ยังเจ็บใจอยู่อย่างเสียได้
“ก็มันเจ็บใจอ่ะ! เอาความหวังของฉันกะหมอนี่มาล้อเล่น.....มันไม่มีอะไรให้ทำรึไงไอ้บ้านั่นน่ะ!”
“หรือบางทีเค้าอาจมีเหตุผล”
มึลเลอร์พูดอย่างครุ่นคิด
“แล้วมันคืออะไรล่ะ”
“อืม
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันชไวนี่.....แต่การโกหกพวกเราที่ติดอยู่ตรงนี้และทำอะไรไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีนั่นแหละ”
มึลเลอร์ตอบเพื่อนชาติเดียวกันที่นั่งทำหน้าตาเหมือนสถานการณ์ปรกติอยู่ข้างๆ แล้วยกมือขึ้นจับคางอย่างครุ่นคิดยิ่งกว่าเดิม แต่แล้วก็โดนเปเป้ตีเข้าที่หน้าตัก คนที่ไม่ยอมอยู่เฉยเอ่ยอย่างไม่ใคร่รู้สึกดีนัก
“ช่างเรื่องนั้นเถอะน่า
มาช่วยกันคิดดีก่อนกว่าว่าจะทำยังไงดี......เราต้องเรียกตำรวจนะ”
เนย์มาร์พยักหน้า “อืม
ฉันก็เห็นด้วยกะเจ้าหมอนี่นะ
เราต้องทำอะไรสักอย่าง.....”
“เสียงปืนดังเมื่อกี้คงจะเรียกตำรวจมาแล้ว”
มึลเลอร์ขัด แล้วโดนขัดขึ้นอีกที
“มันจะไปทันอะไรล่ะ สู้เราไม่หาทางเร่งเอาเองดีกว่าเหรอ ดูสิ
ขนาดอพยพคนออกจากตึงยังช้ายังกะแจกบัตรคิวโรงพยาบาลในที่ราบสูงยังงั้นแหละ แล้วกว่าจะเคลื่อนตัวออกมากันได้ทั้งกรม
โอยยย.........แถมไอ้หมอนั่นมันยังบอกอีกด้วยว่ากรมตำรวจน่ะอยู่ห่างออกไปตั้งไกล โอ๊ยย ฉันหวังว่าหมอนั่นคงจะโกหกเราอีกนะ”
เนย์มาร์พูด แล้วยกมือขึ้นโอดครวญกับตัวเอง
จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยขึ้นบ้าง
“จริง....กรมตำรวจห่างจากนี่ไปหกสิบไมล์”
เพราะในระหว่างทางที่มาโรงแรมเค้าคอยสังเกตรายตลอด ไม่ได้หลับคาเบาะเหมือนคนอื่นๆ
ในทีม เนย์มาร์ทึ่งหัวตัวเอง ดูเหมือนสติใกล้แตกเต็มที
“อ๊ากก โอยยย มันจะไปสร้างอะไรไกลขนาดนั้นว่ะ.....บอกฉันสิ
ถ้าออกไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี่ได้ฉันจะบริจาคให้สร้างใหม่ใกล้ๆ
ที่นี่สักที่หนึ่งเหอะ......เฮงซวยเอ้ยย!”
“เฮ้ยย! อย่าสติแตกไอ้หน้าโจร
คุมสติให้ได้อย่างฉันสิ......ออกไปแล้วฉันจะควักตังค์ซื้อน้ำมันก๊าดทั้งปั๊มไปเผากรมมันแมร่งเลย มาอพยพพลเรือนก็มาเท่าหยิบมือหนู
แล้วพอเกิดเรื่องร้ายแรงแล้วยังจะเคลื่อนตัวกันช้าเป็นเต่าอยู่ได้! นวยนาถจริงๆ!” เปเป้ดูเหมือนจะมีสติดีมากกว่าแต่ก็ไม่ต่างกันเสียเท่าไรเลย
แถมยังขุดเอาภาษาสมัยคุณลุงที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยเข้าใจมาใช้อีก
แต่เนย์มาร์ผงกหัวขึ้น เลิกทึ่งหัวตัวเองแล้ว เปลี่ยนมาเป็นสะบัดมันมาหาเปเป้แทน และทำหน้าชั่วใส่อีกคน “ความคิดบรรเจิดมากไอ้เพื่อนยาก!”
แล้วยื่นมือออกไปเช็คแฮนด์กับเปเป้อย่างหมายมั่นปั้นมือ
เลยโดนนอยเออร์โบกกันไปคนละตั้บ
“ไร้สาระไปไหนพวกนายน่ะ....เลิกคิดอะไรบ้าๆ
แล้วมาตกลงกัน ว่าจะเอายังไงแน่กันดีกว่า” เค้าเอ่ยถามเป็นจริงเป็นจัง
เปเป้และเนย์มาร์ตอบพร้อมกับเสียงแน่วแน่ไม่มีแววล้อเล่นสักนิดเดียว ใบหน้าพวกเค้าดูพร้อมที่จะไปเต็มทีแล้ว
“เราจะออกไปตามตำรวจ”
และไม่มีคำตอบที่เป็นอื่นอีกแล้ว
แต่มึลเลอร์ส่ายหน้า
“แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้นายก็รู้
มีพวกมันอยู่เกลื่อนไปหมด” ร่างสูงพูดแบบกระชับได้ใจความและตรงประเด็นอย่างที่สุด
สองหนุ่มหัวใจห้าวหาญเลยลู่ไหล่ลงเมื่อโดนเบรกด้วยเหตุผลที่เป็นจริงที่สุด แต่แล้วชไวนี่ก็ยื่นหน้าเข้ามากลางวงแล้วพูด
จนนอยเออร์ต้องมองเค้าอย่างห้ามปรามน้อยๆ
“แต่มานูเอลทำได้นะ”
จจนทำให้สามคนนั้นหันหน้ามาพูดพร้อมกัน
อย่างแทบไม่เชื่อหู “นายว่าอะไรนะ!....// อุ แกเบาๆ สิ // แกนั่นแหละเบา
เดี๋ยวมันก็ได้ยินเข้าพอดีหรอก // พวกนายสองคนนั่นแหละแหกปากอยู่ได้ หุบปากเลย ทั้งคู่นั่นแหละ!” เปเป้ เนย์มาร์ถกกันไปมา ก่อนจะจบด้วยประโยคสุดเหลืออดของมึลเลอร์ แล้วเปิดไฟเขียวให้ชไวนี่พูดต่อ
“ก็ตอนที่ฉันติดอยู่ในโรงแรมน่ะ มานูเอลเข้าไปช่วยฉันในนั้นแล้วก็พาออกมาหาพวกนายนี่แหละ.....ตอนนั้นชุลมุนมากเลยนะ
พวกแขกก็วิ่งกัน ฉันก็วิ่งตามพวกเค้าไปแบบเนี่ย แบบเนี่ย แล้วก็มีคนยิงปืนเสียงเบาๆ ฟิ้วๆ
แบบนี้ด้วยนะ
และแขกพวกนั้นก็วิ่งชนกัน
มีคนหนึ่งหันมาชนฉันด้วย......โอ้ พระเจ้า
พวกนายไม่รู้หรอก ทั้งหมดนั่นมันดูบ้ามากๆ
เลย”
ผู้ที่ประสบเหตุมาด้วยตัวเองอธิบายให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มในตอนท้าย
พร้อมกับทำท่าประกอบ............ชไวนี่ทำหน้าตาตื่นจำลองเหตุตอนที่เค้าวิ่ง
และทำมือเป็นปืนกระดกขึ้นลงประกอบเสียง ฟิ้วๆ
เนย์มาร์และเปเป้มองหน้ากันเหรอๆ
ราวกับจะบอกชไวนี่ว่า “นายนั่นแหละที่บ้า” แต่ไม่นานก็เข้าใจเพราะชไวนี่ค่อนข้างโลกสวยและไม่เคยจริงจังกับอะไรนอกสนามเลย......เป็นคนดีเกินเหตุเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น เนย์มาร์และเปเป้จึงหันกลับมาฟังต่อ
หลังจากที่กระพริบตาใส่กันเหมือนระคายอะไรบางอย่าง
“.....ฉันเกือบโดนเหยียบตายแล้วแน่ะรู้ไหม ถ้ามานูเอลไม่เข้ามาฉุดให้ฉันลุกขึ้นแล้วก็พาไปหลบที่อื่นเสียก่อน เรามองตะลีบันพวกนั้นต้อนแขกออกไปอีกที่หนึ่ง....”
“เดี๋ยวๆๆ ตะลีบันนี่มันผู้ก่อการร้ายเลบานอลนะ”
เปเป้ถ่างมือขึ้นขัด
แต่ก็โดนมึลเลอร์ผู้ทำหน้าปลงๆ สะกิดเข้าที่ไหล่เข้า
“ปล่อยเค้าไปเถอะ ต้องเข้าใจ หมอนี่โลกสวย รู้จักอยู่แค่นั้นแหละ”
“อ่อ อ๋อๆๆ”
เปเป้พยักหน้าพร้อมกับเนย์มาร์ที่รับฟังไปด้วย ก่อนจะปล่อยให้ คนโลกสวย เล่าเรื่องต่อไป
“แขกที่วิ่งไปทั่วในโรงแรมโดนต้อนออกไปอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้มารวมอยู่ที่นี่เหมือนกับเราหรอกนะ
มานูเอลก็เลยพาฉันอ้อมออกมาอีกทางหนึ่งแต่ก็โชคไม่ดีเท่าไรที่ดันเจอผู้ร้ายพวกนั้นเข้า แต่ไม่มีปัญหาเพราะมานูเอลจัดการซะเรียบเลย ฉันก็เลยมานั่งคุยกับพวกนายอย่างปลอดภัยอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ”
ชไวนี่ว่า หน้าชื่นตาบานพร้อมกับกอดคอนอยเออร์ซึ่งต้องลดไหล่ลงมาตามแขนที่เกี่ยว ของชไวนี่น้อยๆ
“นายเจ๋งว่ะ” เนย์มาร์ว่า
“ฉันเป็นผู้ชายนะ ไม่ใช่ผู้หญิง”
นอยเออร์ว่ากลับไปแบบสั้นๆ แต่มีความหมาย
ทำให้ชายหนุ่มที่เหลือในวงต้องรีบพิจารณาตัวเองโดยด่วนเลยว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่ เนย์มาร์สะบัดหัว
“โอ๊ย เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันสักที
เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะ....มานูเอลนายนำไปเลย ตอนนี้เราขยับมาอยู่ท้ายๆ แล้ว ถ้าจะไปล่ะก็ทางสะดวก.....ขอร้องเหอะ
ฉันอยากเจอลีโอ รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้แฮะ”
เนย์มาร์พูดเสียงสุดจะทนกับความอัดอั้นที่เค้านั่งตบตีกับมันอยู่
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊ากกกกกกกกก ออกไปตามตำรวจข้างนอกน่ะเรอะ! แล้วจะไปยังไงกันคะ
เฮียนอยเออร์ของเราคงจะรับศึกหนักเสียแล้วล่ะค่ะ ถ้าพวกเค้าคิดจะไปกันจริงๆ ก็คงจะต้องออกแรงรักษาชีวิตลูกเสืออีกสี่คนที่ติดสอยห้อยตามฝากชะตากรรมกับเฮียไว้
ด้วยนะคะ ฮาาาาาา ออกไปทำให้ได้นะคะ แล้วพาตำรวจเข้ามาเคลียร์
//แต่คงไม่วิ่งกันไปจนถึงกรมตำรวจหรอกนุ 5555
ใครจะไปวิ่งตั้งหกสิบไมล์ -*- //
แล้ว แล้ว! แล้วเฮียกะเหมียวของเราล่ะคะ!! อร๊ายยยยยยยยยยยยยย!
>< ไรท์ล่ะเจ็บปวดหัวใจแทนเหมียวจริงๆ เลยค่ะ >{}<!! ใยจึงทำกับเฮียของเหมียวแบบเน่ -----! แกบอกให้ลูกน้องของแกถอยไปห่างๆ
เดี๋ยวนี้เลยนะจาโร...รวมถึงแกด้วย!
แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะ!! //ง้างมัด//
+ //สักพักไรท์โดนยิงแสกหน้า//
เฮียขาาาา
ฟื้นขึ้นม๊าาา ฟื้นขึ้นมาช่วยเหมียวก่อนนนน
T^T อย่าทำงั้นสิคะ เหมียวร้องไห้จนหมดแรงแล้วววววว เห็นไหมมมมมม >{}<
//เขย่าคอเสื้อเฮีย// แล้ว...แล้ว...แล้วมันจะทำอะไรเหมียวของเฮียไหมล่ะคะเนี่ย ตื่นนนนนน!! //ตบหน้าเฮีย//
อ่าาาาา เหล่าลูกเสือและนายกองนอยเออร์จะออกไปขอความช่วยเหลือได้หรือไม่ แล้วเฮียกับเหมียวที่เผชิญสถานการณ์ขั้นวิกฤตนั้นจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ใน Part หน้ากันเลยค่ะ >< ง่าาาาา ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอย่างที่แกคิดแน่จาโร......จำคำฉันเอาไว้!
//เอานิ้วจ่อหน้า//
ร๊ากกกกก รีดนะค้าาาาา >3<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
2 ความคิดเห็น:
โจรชั่ว!!! ทำแบบนี้ได้ไง แกมันใจโฉดที่สุดเลย TT อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะคะเฮีย ต้องอยู่กับเหมียวนะ
หวังว่าน้อยจะพาพวกที่เหลืออกไปได้อย่างปลอดภัย พาตำรวจกลับมาให้ด้ายยยย!!
p.s. ไรท์รักษาสัญญาที่สุดเลยค่ะ บอกจะมาต่อก็มาจริงๆด้วย ไม่ทำให้รีดผิดหวังเลย ขอบคุณนะคะ รักไรท์ที่ซู้ดดดดดดด ♥♥♥♥
ให้มันได้อย่างนี้สิ! จาโร หมอนี่กำลังทรมานคริสและลีโอ ทำไมจาโรร้ายกาจได้ขนาดนี้นะ แถมไม่ใช่จาโรคนเดียวอีก ยังมีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหรือนี่!!?
แต่คิดว่าปริศนาทั้งหมดน่าจะกำลังคลี่คลายลงบ้างแล้วล่ะค่ะ ให้พวกเนย์มาร์ทำสำเร็จก็แล้วกัน คริสกับลีโอ กำลังตกที่นั่งลำบากมากๆเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนซ้อมจนสะบักสะบอมแบบนี้ อ่านไปแล้วภาพลอยมาเป็นฉากๆเลยค่ะ นึกอิมเมจจาโรๆด้เป็นรูปเป็นร่างด้วยแหละ
แต่อยากจะบอกว่า...หมอนี่มันร้ายลึกจริงๆ ตีบทแตกมาตั้งนาน แสดงเป็นสายลับสองหน้าได้เก่งมาก พอตอนนี้ก็แสดงความร้ายกาจออกมาแบบสุดๆ ตัวละครตัวนี้ดูน่าสนใจมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น