สวัสดีค่ะ รีดๆ ของไรท์ทุกท่านขาาา ฮ๊ากกกกก
ไรท์เกลียดงานกับคนที่ไม่ทำงานค่ะ! //หยุดพ่น// โอเคค่ะ
หยุดพ่น 555555 มาต่อกันที่ part
ที่เราค้างไว้ดีกว่านะคะ
นี่มันเรื่องอะไรกัน!? เทเรซ่าไหนเธอลองแก้ตัวมาสิ
ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน.....ไม่จ๊ะ ไม่แก้ตัวเลย ไม่มีอะไรจะแก้ //แบมือ ยักไหล่
แล้วเบ้ปาก// โอเค เรื่องของเธอแล้วกัน
อิฉันชิกมินโฮกับโทมัสอยู่นะ สองคนนั้นจิเป็นอย่างไรบ้างเนี่ยยยย อ๊ากกกกก
ตอนจบของเรื่องทำไรท์ใจสลายปนค้างนิดๆ เลยค่ะ เอ้ย ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ นี่จับมินโฮไปเป็นตัวประกันทำไมฟะ! //ชี้นิ้ว// แต่จริงๆ
แล้วป้าเอวาแกเอาใครไปทำกำไรได้แกก็เอาไปหมดเลยค่ะ แหม่ มินโฮ ไปกะเค้าแบบง่ายๆ เลยเนอะ 555555
//โดนตบหัวสะบัด// แต่อย่างไรก็ตามมินโฮก็ทำตัวเป็นพระเอก
คุ้มกันเพื่อนๆ จนตัวเองโดนช็อตแล้วลากตัวไปนะคะ
เนอะ เราต้องให้ใจเค้าในเรื่องนี้ค่ะ
โทมัสอย่าร้องไห้นะจ๊ะ เพิ่งจะได้...แกร๊ก (ทำเสียงเดาะลิ้น)
กันไปเอง //ยิ้ม// + //ก่อนโดนตบอีกรอบ//
5555555 แหมๆๆๆ อยากแซวอ่าาา
5555555
โอเค พอหยุด...หยุดไร้สาระก่อน ไรท์รู้สึกว่าตัวเองจะหลุดมากขึ้นไปทุกทีแล้วล่ะค่ะ
-^- 5-5-5-5 ไม่เสียเวลารีๆ แล้วค่ะ ไปอ่านกันเลยค่าาา ><
โอ้ ตายตะเถรแหก! ไรท์ลืมค่ะ ลืมไปเลย
Part นี้จะดำเนินเรื่องถึงตอนจบของเรื่องในหนังค่ะ แต่จะมีต่อไปอีก (อันที่จริงต้องย้อนความสิเนอะ
555) และนี่แหละค่ะ ทีเด็ดของไรท์ เอาหนังมายำมั่วเขียนตามใจตัวเองล้วนๆ เลยค่ะ
55555 แต่รีดๆ จะต้องอ่านค่ะ ตอนตัด Part นี่ไรท์คงต้องกระโดหลบเข้าบังเกอร์เลยค่ะ //ว่าแล้วก็กระโดดเลย 555//
--------------------------------------------------------------------------------------------------
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ฟรายลุกขึ้นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
พร้อมคิดว่าไม่น่ากอดเธอตอนที่วินสตันตายเลย
และนิวท์ที่ถามตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
ก่อนโทมัสจะกล่ำกลืนของเหลวหนืดคอลงไปแล้วเอ่ยตอบข้อข้องใจของเพื่อนสั้นๆ
“เธอเป็นพวกเค้าไง”
ในน้ำเสียงของโทมัสแฝงไปด้วยความปวดร้าวระคนรังเกียจที่เทเรซ่าทำให้ความไว้วางใจของทุกคนต้องเสียเปล่าไปอย่างไม่น่าให้อภัย ถึงแม้แจนสันจะบอกว่าการฟื้นความจำของเธอจะเป็นผลดีก็ตาม แต่พวกเค้าไม่คิดแบบนั้น
ถ้าหากจะทำกันแบบนี้ก็ให้เธอกลายไปเป็นพวกวิกเก็ตโดยสมบรูณ์ไปเลยดีกว่า แม้แต่แอช
แดเนียล
และแอริสเองก็ยังรู้สึกเหมือนโดนฟาดท้ายทอยไปด้วย
การโดนหักหลังทำให้โทมัสเจ็บปวดมาก มินโฮรู้ดีเค้าจึงเดินเข้าไปแล้วบีบไหล่โทมัสอย่างหนักหน่วง
ตอนนี้ในดวงตาของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญมีแต่ความเจ็บปวดและอ่อนล้า
มินโฮรู้ว่าโทมัสเศร้าใจเพียงใดแต่นั่นก็ไม่อาจทำให้สายตาที่จ้องเขม็งของเค้าอ่อนลงได้
เด็กหนุ่มทุกคนจอบจ้องไปยังผู้หญิงสองคนตรงหน้าที่สมควรเป็นแม่ลูกกันทั้งเทเรซ่าและเอวา
ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะน่ารังเกียจไปมากกว่าพวกเธออีกแล้ว
และแน่นอนถึงเธอจะทำหน้าตาน่าสงสารเรียกร้องขอความเห็นใจจากเพื่อนๆ
ก็ไม่มีใครที่อยากจะเชื่อเธออีกแล้ว
ก่อนหมอแมร์รี่ที่รู้จักกับเอวามาก่อนจะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เอวาหยิบยกเอามาเกลี่ยกล่อมเด็กๆ
และถึงแม้จะบอกว่าตัวเองเป็นแพทย์หญิงที่ดีแต่เอวาก็พูดคุยกับแมร์รี่ด้วยความเย็นชาอนึ่งคนไม่เคยรู้จักกัน การเสแสร้งของเธอแย่มาก กระทั่งจู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้น....
แจนสันยิงแมร์รี่ท่ามกลางความตกตะลึงของเชลยทุกคน แล้วในตอนนั้นเองความกลัวของโทมัสก็ขาดผึ่ง
พลิกกลับมาเป็นความโกรธแค้นแทน
หมอแมร์รี่เธอทำให้เค้ารู้สึกดีเช่นไรนั่นก็ทำให้โทมัสคิดถึงแม่ของตัวเองมากขึ้นเท่านั้นแต่คนพวกนี้ไม่ควรทำ...ไม่ควรทำให้ใครต้องตายอีก
“ถอยออกไป ถอยออกไปนะ!”
โทมัสควักระเบิดกับตัวจุดชนวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเอง ชูมันขึ้น ขู่ว่าเค้าจะทำหากต้องจำเป็น
แจนสันรีบวิ่งเข้ามาห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ยิงเด็กหนุ่มและตกใจไม่แพ้กันที่โทมัสจะใจหาญกล้าถึงเพียงนี้
ก่อนเทเรซ่าจะเสนอตัวขอพูดคุยเพื่อเกลี่ยกล่อมโทมัสราวกับคนเสียสติหรือบางเธออาจเสียสติไม่แล้วก็ได้
แต่เอวาไม่ได้ฟังเธอเลย
เทเรซ่าจึงบอกข้อเสนอของเธอที่ขอกับเอวาให้โทมัสได้รู้
ทำตัวเหมือนว่าเธอควบคุมได้ทุกอย่าง ก่อนเอวาจะเห็นช่องทาง
เสริมคำพูดของเด็กสาวผมเผ้ารุงรังว่าเป็นเช่นนั้นจริง พร้อมด้วยแจนสันที่พยายามบอกว่าทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้หากเด็กหนุ่มอย่างโทมัสไม่ดึงดันและทำตัวดื้อรัน
เค้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้หากโทมัสยอมไปด้วยกันแต่โดยดีและการสูญเสียก็จะไม่เกิดขึ้นหากพวกเด็กทุ่งไม่หนีออกมา
แจนสันชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่เด็กๆ ได้ก่อเอาไว้.....
โทมัสรู้สึกเจ็บ เจ็บที่หน้าอกในตอนที่แจนสันบอกว่าจะไม่เกิดขึ้น ใช่ หากเค้าไม่พาเพื่อนๆ
ทุกคนออกมาวินสตันก็คงไม่ตาย
หมอแมร์รี่
และพวกไรต์อาร์มก็คงไม่โดนพบเข้าแบบนี้
แต่ทว่าความจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นโทมัสไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นมา.....
มินโฮเดินเข้ามาอยู่ด้านหลังโทมัสพร้อมกับนิวท์และฟรายเพื่อบอกว่าเพื่อนจะอยู่ข้างเค้าเสมอไม่ว่าโทมัสจะตัดสินใจเช่นไร
โทมัสไม่ผิดเพราะที่ทุกคนรอดมาได้ก็เนื่องมาจากความกระตือรือร้นของเค้า ในคราแรกโทมัสคิดจะกดชนวนระเบิดให้ตายกันทั้งหมด
เอวา เพจ
จะได้ไม่รอดออกทำเรื่องโหดร้ายกับเด็กคนอื่นๆ ต่อ
แต่แล้วฮอร์เฮกับเบรนด้าก็กลับมาพร้อมกับรถคันใหญ่ที่เปิดฉากพุ่งเข้าชนเฮลิคอปเตอร์แล้วการจลาจลเพื่ออิสรภาพก็เกิดขึ้น กองกำลังอันน้อยนิดของไรต์อาร์มและเด็กๆ
ลุกขึ้นสู้โต้ตอบกับวิกเก็ตด้วยมือเปล่าและพลิกกลับมาเหนือกว่าได้ในที่สุด ก่อนเอวาจะจำเป็นต้องหนีไปเพราะสถานการณ์เกินจะควบคุมได้แล้วในขณะนั้น
เด็กจากวงกตแห่งท้องทุ่งที่เหลืออยู่เพียงสี่คนวิ่งหลบหนีห่ากระสุนที่สาดใส่กันอย่างบ้าคลั่งของทั้งสองฝ่ายและเอาตัวรอด
มินโฮเป็นคนแรกที่คว้าปืนขึ้นมาได้ก่อนจะยิงคุมกันให้เพื่อนของเค้าปลอดภัย มินโฮบอกให้ทุกคนไปก่อน
เค้าจะยิงคุ้มกันให้จนกว่าจะแน่ใจแต่แล้วกระสุนก็เกิดหมดขึ้นมา
ชายหนุ่มเอเชียจึงโดยช็อตไฟฟ้าใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วถูกลากขึ้นเครื่องไปพร้อมกับเอวาและเทเรซ่าที่ยืนอยู่ข้างหญิงจอมเผด็จการอย่างขี้ขลาด
โทมัสวิ่งถลาเข้าไป ไม่สนใจแล้วว่ากระสุนจะพุ่งมาหาเค้าหรือไม่และเพื่อนๆ
จะฉุดรั้งเค้าเช่นไรก็ตาม
แต่การที่ได้เห็นมินโฮโดนเอาตัวไปต่อหน้าต่อตาก็ทำให้โทมัสใจสลาย
เด็กหนุ่มที่เอาแต่ร้องเรียกมินโฮไม่สามารถทำอะไรได้เลย
โทมัสสะบัดแขนทุกคนที่กอดรั้งเค้าออกอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแม้แต่ฮอร์เฮที่ดูอาวุธโสที่สุด
เด็กหนุ่มซึ่งร้องไห้ออกมาแล้วถึงแม้ว่ายังไม่หยุดดิ้นก็ผลักอย่างแรงเสียจนชายแก่ล้มก้นจั้มเบ้าลงไปกับพื้น
“ไม่ โทมัส!” นิวท์ตะโกนก่อนจะหันไปหาเพื่อนๆ
ที่เอาตัวรอดหลบกระสุนกันอยู่อย่างอุตลุด “ห้ามเค้าไว้เร็ว!” เจ้าตัวว่า
หากให้โทมัสไปเอวาจะถือไพ่เหนือกว่าที่เป็นอยู่และถึงแม้นิวท์จะไปเข้าห้ามเองก็คงจะรั้งโทมัสไว้ไม่อยู่เป็นแน่
จนสุดท้ายแล้วเป็นแอชที่แข็งแรงที่สุดวิ่งออกมาจากกลุ่มควันแล้วดึงรั้งโทมัสไว้ก่อนจะโดนต่อต้านอีก
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งจึงจำต้องจับเด็กชายทุ่งแสนดื้อรั้นคนนั้นขึ้นพาดบ่าโดยไม่สนใจคำทักท้วงหรือแรงทุบตีของเด็กหนุ่มที่กำลังร้องไห้เลยแม้แต่น้อย
โทมัสขอร้องแอชและร้องเรียกหามินโฮที่หมดสติไปแล้ว
“แอชปล่อยฉัน...ปล่อย! ได้โปรดเถอะ...ไม่! มินโฮ! มินโฮฮ”
แต่ถึงกระนั้นแอชที่เห็นใจอยู่สักเพียงไหนก็ไม่สามารถปล่อยโทมัสไปได้ จนกระทั่งเครื่องบินของวิกเก็ตทุกลำลอยลำขึ้นสู่น่านฟ้าแล้วบินหายลับไป เด็กๆ
ทุกคนจำได้ดีถึงใบหน้าที่เย่อหยิ่งของเอวาโดยที่มีเทเรซ่ายืนอยู่ข้างๆ และมินโฮ
เพื่อนของพวกเค้าที่หมดสติไปโดยสิ้นเชิง.....
ในยามนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว
จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่แอชจะต้องกักขังโทมัสไว้อีกต่อไป
เด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยมินโฮมองเครื่องบินที่พาเพื่อนของเค้าไปจนลับสายตา เสียงใบพัดขนาดใหญ่ กระแสลมที่บาดเข้าดวงตาไม่สามารถสร้างความสั่นกลัวให้ร่างบางได้อีกต่อไป
แต่ความเสียใจและสูญสลายปรากฏชัดอยู่ในดวงตาของโทมัส เค้าไม่เคยคิดเลยว่าหากไม่มีมินโฮต่อไปมันจะเป็นยังไง เค้าจะกล้าหาญเหมือนเดิมได้ไหม
โทมัสจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีมินโฮ
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำคนนั้นเป็นคนสำคัญของเค้า
************************************************************************
รุ่งเช้า ทุกอย่างก็สงบลงอย่างแท้จริง กองไฟหยุดมอดไหม้ คนตายกับคนเป็นถูกคัดแยกออกจากกัน
และคนที่เหลือรวบรวมทุกอย่างที่พอจะใช้ได้เพื่อนำไปใช้ต่อไป
ความเสียหายในครั้งนี้ทำร้ายความรู้สึกรวมทั้งขวัญและกำลังใจของใครหลายๆ
คน
ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเช่นเดียวกับฟรายที่ไม่เก็บความสงสับนั้นไว้
เค้าถามมันออกไปอย่างท้อแท้
“ตอนนี้จะทำไงต่อ?”
ถึงแม้จะไม่ได้บอกว่าเค้ารู้สึกแย่เพียงใดแต่ความเหนื่อยล้าและความเสียใจก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของฟราย
ก่อนวินซ์จะบอกว่าถึงอย่างไรเค้าคงจะทำตามแผนเดิมคือพาเด็กหนุ่มสาวที่เหลืออยู่ไปที่ปลอดภัยแล้วเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง แต่ทว่าโทมัสกลับพูดต่างออกไป
“ผมคงไม่ไปกับคุณนะ”
“อะไรนะ?” วินซ์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจพร้อมกับคนอื่นๆ
ที่อยู่ตรงนั้น
“ผมให้สัญญาไว้กับมินโฮ
ผมจะไม่ทิ้งเค้าไว้ผมจะกลับไปช่วยเค้า” โทมัสพูด ท่าทางลังเลของเค้าดูเหมือนเด็กที่เพิ่งจะหนีออกจากบ้านเป็นครั้งแรกแต่น้ำเสียงของเด็กหนุ่มก็แฝงไปด้วยความดึงดันไม่แพ้กันเลย
แต่วินซ์ก็พูดต่ออย่างทักทวง “เฮ้
ไอ้หนูมองความจริงหน่อยเราเพิ่งถูกวิกเก็ตเล่นงานมา คิดดูว่านายต้องเจออะไรบ้าง” ชายซึ่งเป็นผู้นำแห่งไรต์อาร์มแจ้งให้เด็กผู้ชายที่กำสายสะพายกระเป๋าแน่นอยู่ตรงหน้า
บอกโทมัสว่าเค้าจะเจอสิ่งที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความวินาศเมื่อคืนนี้เป็นแน่
แต่นั่นกลับไม่ได้อยู่ในความสนใจของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมไม่ได้ขอให้ใครไปกับผม” เด็กหนุ่มคนเดิมพูด
“โทมัสฟังฉันพูดนะ
ฉันรู้จักมินโฮมา...มานานมากเท่าที่ฉันจำได้
ถ้ามีทางไหนที่จะช่วยเค้านายเชื่อฉันได้ฉันจะขึ้นไปยืนอยู่ข้างนายเลย”
นิวท์มองหน้าโทมัส
ไม่อยากจะเสียเพื่อนไปอีกคนหนึ่ง
“แต่เรื่องที่นายกำลังพูดเนี่ยมันเป็นไปไม่ได้หรอก” ถึงแม้จะไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนหลังจากเพิ่งเจอเรื่องร้ายมาหมาดๆ
เมื่อไม่นานมานี้มากแค่ไหนก็ตาม
แต่นิวท์ก็ไม่เห็นว่าโทมัสจะมีทางเลือกมากไปกว่าอยู่เฉยๆ อีกแล้ว
และข้อนั้นแม้แต่ฮอร์เฮก็ยังเสริมทัพกับเค้าด้วย
“ไปฆ่าตัวตายซะเปล่าๆ”
ชายแก่เดินเข้ามาในวงสนทนาอันเริ่มจะอึดอัดเพราะความแน่วแน่ของโทมัส
“ก็อาจใช่
แต่ผมรู้ว่าผมควรทำอะไรตอนนี้” เด็กหนุ่มคนเดิมตัดบทอย่างนุ่มนวล
เค้าคิดว่าทุกคนในที่นี่ไม่มีใครเข้าใจเค้าเลย
โทมัสเพียงแค่อยากจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ
บอกทุกอย่างที่พวกเค้าควรรู้เอาไว้ก่อนจะสูดหายใจเข้าเล็กน้อย
“มันไม่ใช่แค่มินโฮคนเดียว มันเกี่ยวกับเราทุกคน...เกี่ยวกับทุกคนที่วิกเก็ตจับตัวไปและกำลังจะถูกจับ”
เด็กหนุ่มที่เคยเป็นที่รักของเอวาชี้ให้ทุกคนฉุดคิดขึ้นมา.....โทมัสไม่รู้ว่าก่อนถูกส่งเข้าไปในวงกตเค้าเคยทำอะไร
เคยสามารถทนมองดูเด็กหนุ่มสาวทุกคนถูกทรมานได้มากแค่ไหน หรือว่าเคยเป็นที่รักของเอวาจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เธอทำนี้มันดูจะเกินไปเสียหน่อย
ผู้หญิงคนนี้เริ่มห่างไกลจากคำว่ามนุษย์มากขึ้นทุกที
“พวกเค้าจะไม่หยุด เพราะว่าพวกเค้าไม่หยุดฉันจะหยุดมันเอง” โทมัสนึกถึงใบหน้ามินโฮในคืนแรกของพวกเค้าที่วงกตมฤตยูแสนจะอันตรายนั่น และจูบแรกที่มินโฮยอมฝืนกฎของอัลบี้เพื่อจูบเค้า
“ฉันจะไปฆ่า เอวา เพจ” โทมัสพูดขึ้น
ไม่มีความขลาดใดแฝงไปทั้งสิ้น
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนั่นคือคำตอบลึกๆ ในใจของทุกคน.....ต้องยอมรับ
เจ้าหนูจอมหาเรื่องคนนี้พูดถูก
ทุกคนคิดเช่นนั้น
ก่อนวินซ์จะถามถึงแผนการของโทมัส
.
.
.
*******************************************************
.
.
.
6 วันก่อนหน้านั้น
หลังจากที่สามารถเอาชีวิตรอดจากวงกตมฤคยูมาได้แล้ว
เด็กๆ
ทุกคนก็ถูกพาเข้ามาในสถานที่แห่งใหม่ที่ซึ่งเปรียบเสมือนปราการแข็งแรงแต่กลับดูน่าหดหู่อย่างประหลาด เด็กชาวทุ่งจากวงกตมีความรู้สึกสับสนงุนงงไม่น้อย
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนออกมารับประกันว่าที่นี่ปลอดภัยและพวกเค้าสามารถอยู่ได้อย่างเป็นสุขไร้กังวลใดๆ
เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่มาถึงอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
และพร้อมกันนั้นแจนสันยังไล่เด็กที่เหนื่อยล้าจากท้องทุ่งทุกคนให้ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสะอ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอันแสนปรกติอีกด้วย
และเป็นการยากที่จะปฏิเสธน้ำอุ่นที่มีให้ใช้อย่างไม่จำกัดได้ตามใจตนเองอย่างนี้....
เด็กหนุ่มทุกคนต่างเดินแยกย้ายกันไปตามห้องอาบน้ำส่วนตัวของตัวเอง เสื้อผ้าเก่าของพวกเค้าถูกทิ้งไปโดยไม่มีวันได้นำกลับมาใส่ใหม่
ซึ่งเรื่องนั้นแจนสันจะเป็นจัดหาเสื้อผ้าใหม่ที่ใส่สบายกว่ามาทดแทนให้
และจนกระทั่งเสียงเปิดน้ำดังขึ้นทุกห้องเมื่อเด็กหนุ่มทุกคนพร้อมใจกันรับความสดชื่นนั้นอย่างไม่อิดออด
ความรู้สึกสดชื่นในรอบหลายวันพุ่งปะทะใส่เด็กหนุ่มที่มีแต่คราบไคล
หรืออาจจะพูดได้ว่าพวกเค้าไม่เคยรู้สึกสบายตัวเช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้
สายน้ำล้างเหงื่อไคลและคราบเลือดที่แห้งกรังออกไปจากเนื้อตัวจนหมดสิ้นและพวกเค้าก็ไม่ลืมที่จะอ้อยอิ่งอยู่กับสายน้ำที่แสนอุ่นสบายนั้นไปด้วย
ทุกคนดูชื่นชอบห้องอาบน้ำเล็กๆ นี้เป็นอย่างมาก
แต่ทว่ากลับมีเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่ไม่ใคร่จะใส่ใจสายน้ำอุ่นสบายกายนั้นเสียเท่าไรนัก
โทมัสก้มมองเลือดและเศษฝุ่นดินที่ไหลตามน้ำลงไปยังช่องระบายอย่างเหม่อลอย
ในใจเค้ากำลังครุ่นคิดอย่างหนักถึงท้องทุ่งที่เค้าเพิ่งจากมา...ความสูญเสีย ความทรงจำ เพื่อนพ้องที่ยังคงอยู่ในวงกต และการตัดสินใจครั้งสำคัญของเค้า
เจ้าตัวเฝ้าถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าดีแน่แล้วหรือที่พาคนอื่นออกมาด้วยแบบนี้
ทำให้มีคนตายหลายต่อหลายคนในระหว่างทางของการปลดแอกนี้ของเค้า และพวกผู้ใหญ่พวกนี้จะเชื่อถือได้ไหม การเชื่อใจเป็นสิ่งที่โทมัสกลัวที่สุด....
แต่แล้วประตูห้องของเค้าก็ถูกเปิดออกอย่างไร้สุ่มเสียง
พร้อมกับกายของใครบางคนที่เดินลอบเข้ามาด้านหลังเพื่อหวังไม่อยากให้โทมัสรู้ตัว
และผู้มาใหม่ก็ทำสำเร็จ
กายน้อยๆ
ที่มีน้ำใสสะอาดไหลย้อนลงมาตามซอกคอขาวผุดผ่องที่ได้รับการขัดถูมาอย่างดีแล้ว
สะดุ้งจนตัวโยนเมื่อจู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนึ่งกดทับอยู่บนไหล่ของเจ้าตัว
โทมัสรีบปัดมือนั้นทิ้งไปก่อนจะหันกลับมามองว่าเป็นใครกันที่แอบเข้ามาในพื้นที่ของเค้าในเวลาแบบนี้
“เฮ้ ฉันเอง ขอโทษนะฉันคงทำนายตกใจใช่ไหม?”
“มินโฮ นะ นายนี่เอง”
ร่างบางที่สะดุ้งตัวไปเมื่อครู่ได้รับการแถลงแล้วว่าใครกันที่มาเยี่ยมเยือนเค้าในตอนนี้ แต่ทว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก
“มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?
นายไม่ควรเข้ามาที่นี่นะ”
ร่างสูงที่โดนสบตาด้วยกระพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมตัวไปเปิดน้ำด้านหลังโทมัสให้แรงขึ้น
แล้วเข้าไปกระซิบข้างหูของเจ้าตัวอย่างแผ่วเบา “นายโอเคใช่ไหมโทมัส
ฉันเห็นนายทำหน้าไม่ค่อยจะดีตั้งแต่เราเข้ามาแล้ว
ฉันเป็นห่วงนายนะ
เป็นอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า
ฉันแค่ยังสงสัยอยู่น่ะว่าที่นี่เป็นที่แบบไหน
เราไว้ใจทุกคนได้รึเปล่า” โทมัสกระซิบตอบ
เค้าพอเข้าใจในเหตุผลที่มินโฮเปิดน้ำให้แรงขึ้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามีอีกคนหนึ่งอยู่ในนี้ด้วย
และคำพูดของโทมัสก็ไม่แตกต่างไปจากมินโฮเลยร่างสูงเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตัวเค้าเองและเพื่อนๆ
พอจะไว้ใจแจนสันได้รึเปล่า
ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วเพิ่งแค่ยิ้มบางๆ
ออกมาประดับมุมปากเพียงเท่านั้น
ก่อนจะท้าวแขนตีกรอบไว้รอบตัวของโทมัส
อีกคนหนึ่งแปลกใจแต่ไม่ได้เสียงดังใส่เช่นยามเมื่อตื่นตระหนก โทมัสเพียงแค่ดันอกมินโฮที่ยังคงชิดใบหน้ากับใบหูของตนเองเอาไว้เพียงเท่านั้น
“นี่มินโฮ เดี๋ยวก่อน” โทมัสเบือนหน้าหนี ก่อนร่างสูงที่โดนเรียกชื่อจะยอมชะงักอยู่ที่ข้างใบหูนิ่ม
มินโฮรอฟัง
และปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวตกกระทบจนไหลเป็นสายลงมาตามลำคอแกร่งของเค้าที่เกิดจากการออกกำลังทุกวันอย่างไม่มีวันหยุด
ร่างสูงป้องกันการสาดกระเซ็นของสายน้ำให้แก่โทมัสที่อยู่ใต้ร่างของเค้า
“มันเป็นเรื่องของนิวท์”
โทมัสเขยิบเข้าไปกระซิบข้างหูของคนตรงหน้า
ก่อนจะหันมาสบตาเรียวตามแบบคนเอเชียของมินโฮที่เกิดคำถามขึ้นอย่างเฉียบพลัน
“ฮะ?” มินโฮทำเสียงและทวนถาม นึกไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ
เรื่องของนิวท์ถึงได้ถูกยกมาเป็นหัวข้อคุยได้
ก่อนโทมัสจะเม้มริมฝีปากเบาบาง
บอกเตือนตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะมามัวลังเลใจอยู่อีกแล้ว
“เอ่อ
คือฉันรู้แล้วนะเรื่องที่นายพูดกับนิวท์ในวันนั้นน่ะ”
ร่างบางดูใจกล้าแล้วแต่ทว่ามันก็ยังคงไม่พอสำหรับมินโฮที่ไม่เข้าใจว่าโทมัสกำลังต้องการจะพูดถึงเรื่องอะไร
ดังนั้นคนเริ่มหัวข้อจึงจำเป็นต้องขยายความอีก
“วันแรกที่ฉันได้วิ่งเข้าไปในวงกตกับนายไง.....ที่นิวท์รู้เรื่องของเรา”
คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนคนที่อยู่ใต้เงาของเค้าจะเอ่ยคำบอกกล่าวย้ำไปอีก
“วันนั้นที่เค้าคุยกับนาย นิวท์เป็นคนบอกฉันเอง”
พอมาถึงคราวนี้คนที่รอฟังอย่างรอคอยปนงงงวยก็ได้เกิดความประหลาดใจก่อนที่จะถอยหลังไปบ้าง
แต่ทว่าเค้าก็กลับมาตั้งตัวได้ทันแล้วทำหน้าประมาณว่าเค้าเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนักหนากับการแสดงความเป็นเจ้าของๆ
ตัวเอง มันก็เป็นแค่เรื่องที่มินโฮต้องทำเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจที่มีใครต่อใครมาหักห้ามสิทธิ์ของเค้าในตัวของโทมัส
คราวนี้โทมัสขบเม้มริมฝีปากอีกครั้ง
คลายช่างใจว่าจะบอกดีไหมแต่กลับทำท่าอมยิ้มออกมาแทนเสียเอง
ร่างเล็กขยับเข้าไปใกล้มินโฮอีกครั้งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่โทมัสรู้สึกสนุก
“ที่จริงเค้าไม่ได้ชอบฉันหรอก
นิวท์ไม่ได้คิดกับฉันมากเกินกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ
เค้าบอกฉันว่าตอนแรกที่เห็นฉันเค้าเป็นห่วงมาก...หึ
เพราะฉันเอาแต่วิ่งสติแตกไปทั่วทุ่ง” โทมัสพูดกลั้วเสียงหัวเราะเบาๆ
ในลำคอไปด้วยก่อนจะกระซิบข้างหูเพื่อนร่างสูงอีกครั้ง “ความจริงแล้วเค้าชอบนายต่างหากล่ะ”
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------
ห่ะ!! อะไรนะโทมัส
เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะ!?
นั่นไงคะ
ไรท์บอกแล้วค่ะว่าต้องอ่านให้จบเรื่องก่อน (แต่นี่ยังไม่จบนะเออ 555
มีอีกนิดหน่อยค่ะ) ตอนจบของภาคแรกในฟิคไรท์นิวท์ไม่ได้หัวเสียเพราะโทมัสค่ะ แต่เป็นเพราะมินโฮต่างหาก.....นี่ มินโฮ ตัวคิดไปเองคนเดียวล้วนๆ เลยนะ 55555555
//ว่าแล้วก็ลั่น...มือมินโฮลั่นโดนหัวไรท์ค่ะ TUT// ก็นั่นแหละค่ะ เหตุที่ว่าทำไมนิวท์ นิ้วท์ถึงได้บอกให้มินโฮอยู่ให้ห่างๆ
โทมัสเข้าไว้ 555555 นุ้งนิวท์ต้องเป็นเคะเท่านั้นค่ะ หน้าตากับหุ่นเพรียวบางแบบนั้นจะต้องเกป็นเคะที่ดีได้แนนอนเลยค่ะ
>< และเค้าคู่กะใครรีดก็น่าจะเดาออกแล้วใช่ไหมคะ ครั้นจะเหาะไปหาอัลบี้ก็กระไรอยู่ จะลากพี่แกลงมาจากสวรรค์ก็เบียดเบียนค่ะ
5555555
แอชนี่หล่อและเหมาะสุดแล้วค่ะ
ถึงแม้จิมโนเอาก็ตาม 555555
แต่ไรท์ก็คัดสรรมาอย่างดีเพื่อนุ้งนิวท์ นิ้วท์ของพวกเราค่ะรีดขาา ฮาาาา
เดี๋ยวภาคต่อไปจิสาธยายถึงความหล่อเหลาของแอชค่ะ จะทำให้รีดเคลือบเคลิ้มค่ะ
//เดี๋ยว...หนูอย่าลืมนะลูก พระเอกเรื่องนี้เค้าชื่อมินโฮจ้ะ แอชในมโนหนูเป็นพระรองนะจ๊ะ -0-// 555555
แหม กอดแท่นกันหล่อไปเลยค่ะทั้งสองคนนี้! 5555555 ฮี่ๆๆๆ
และ Part ต้องติดตามค่ะ
เอ่อ...ถึงแม้ว่าไรท์จิลงล่าหรือไม่ล่า
ก็ต้องติดตามค่ะรีดๆ ขา! >< เดี๋ยวขาดทุนนะคะ Part
หน่ห้ามพลาดค่ะ
มินโฮคงไม่ได้เข้ามาหาโทมัสเพียงเพื่อให้โทมัสบอกเรื่องน่าประหลาดใจกับเค้าแน่ค่ะ หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ 555555555 โอ้ย พออออออ
โอเคค่ะ นี่เฟสไรท์ค่ะ
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< คลิกเลยจ๊ะ แฮ่ๆๆ
วันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามและรับชมค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ รักเฟ่อร์เลยนะคะ ><
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น