วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2559

[SF - RonalSi] + [Part 3...END] The Spring...สายลมแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ – Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 1.5]


สวัสดีค่ะรีดๆ ขาา TUT  ฮ่อลลล ไหลไปกับกระแสน้ำที่เค้าสาดกันเล่นเลยค่ะ ไรท์ 555555  แต่! ไม่ได้หายไปกะเค้าค่ะ  อยู่บ้านโดนแม่จิกหัวใช้จนผมร่วงเลยค่ะ 5555 แล้วแบบว่าโดนใช้ไม่พออากาศดันร้อนจนคิดอะไรไม่ออกอีก แต่ถึงจะหัวไบรท์ยังไงก็โดนแม่ใช้อยู่ดีค่ะรีด TwT  บางทีไรท์ก็อยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครสังเกตเห็นบ้างง่า.....นี่ เอะอะเรียก เอะอะใช้  มากไปและ

เอ่อ ไรท์นี่แหละค่ะมากไปแล้ว   รู้สึกมาฝอยยังไม่รู้ค่ะ 5555555   วันนี้เราก็มาต่อกันกับตอนจบของภาค 1.5 นะคะ >///<  อุว๊ายยยยยย  ต่อจาก Part ที่แล้วว่าเฮียเค้าจะทำอะไรต่อหลังจากที่คว้ามือเหมียวมาแล้วค่ะ  เฮือกกกกก  เฮียถนอมหน่อย ถึงน้องจะหลับก็ขอให้ถนอมหน่อยค่ะ อย่าจับแรง //กลัวเหมียวโดนทำร้ายจนขึ้นสอง -*-//

Part นี้ไรท์แอบอมยิ้มตอนจบด้วยล่ะค่ะ  น้องเหมียวซนน่ารักมาก 55555  อย่าคิดว่าไม่มีคนเห็นนะแจ๊ะ  มีคนเหนหนูอยู่วววววว 555555  พอ เลิกรั่ว!

โอเคค่ะ ไรท์จะเรียนรีดๆ ที่เคารพรักของไรท์ทุกท่านด้วยว่า หลังจากที่จบ Part ไปแล้ว ไรท์จะงดลงฟิคนะคะ  เพราะว่าตอนนี้กำลังเร่งเขียน รุ่นพี่เฟี้ยวกับแก็งค์น้องเฮี้ยวสุดซ่า : Ronaldo x Messi เล่ม 2 – 3 ให้จบอยู่ค่ะ  เนื่องจากไม่สามารถช้าได้ค่ะและไรท์ต้องทำการเองทุกอย่างใหม่อีกครั้งทั้งทำรูปเล่ม ของแถม  แพ็คของ //อันนี้ชอบมากกกก// ซึ่งไรท์ตื่นเต้นและชอบมากเลยค่ะจะได้ส่งของไปให้รีดๆ อีกแล้ววววว >0< 55555555  และไรท์ก็จะเริ่มเขียนฟิคเรื่องใหม่หลังจากที่ส่งของแล้วนะคะ 

ต่อจากความเดิมในตอนที่แล้ว...



----------------------------------------------------------------------------------------



ฝ่ามือน้อยๆ สีขาวราวกับกระดาษสีชมพูอ่อนน่าจับจองและดูเปราะบางเกินไปเมื่อมันเป็นของ ลีโอเนล   เมสซี่ เด็กหนุ่มผู้ไม่เคยแม้แต่จะมองโลกในแง่ร้ายเลยสักครั้ง  แต่ทว่าฝ่ามือเย็นเชียบคู่นั้นกลับมีริ้วรอยสีสดสะดุดตาปรากฏชัดอยู่หลายแห่งบนฝ่ามือคู่นั้น......ซึ่งแน่นอน เมสซี่ได้มันมาจากการเจียดน้ำใจเก็บกุหลาบแล้วส่งคืนให้กับชายโง่เง่าส่งดอกไม้คนนั้น

ร่างสูงชักสีหน้าไม่พอใจ  พลันเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่นี้ที่อ่อนลงทันที  เค้ารู้สึกโกรธ  หงุดหงิด  ที่ความมีน้ำใจของร่างเล็กโดนมองข้ามไปอย่างไม่ใส่ใจ

ถ้าเด็กนี่ไม่เก็บให้แก  แกก็คงจะได้จ่ายค่าดอกไม้ด้วยเงินเดือนทั้งหมดของแกแน่เจ้าเซ่อ....โรนัลโด้นึกติงอยากจะกล่าวออกมาเสียให้ได้  เค้าเห็นควรว่าหลังจากคืนนี้ไปควรจะไปที่ร้านแล้วทำให้ชายคนนี้เดือดร้อนเล่นเสียหน่อย

ฟังแล้วอาจดูเหมือนร่างสูงแข็งแกร่งนี้ร้ายกาจ  แต่เค้าเองก็นึกไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี หรือนี่อาจเป็นไปตามพื้นเพนิสัยของเค้าก็เป็นได้  และคงจะใช่  เค้าเองก็ร้ายกาจ........

โรนัลโด้พินิจสายตาไปมา  ก่อนจะลุกออกไปแล้วกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว  เค้าไม่ได้สนใจสิ่งใดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบตัวเลย  ไม่สนใจเสียงของลุงตัวเองที่กำลังขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ น้อยๆ บนเวที...ไม่  เสียงนั้นไม่เข้าหูร่างสูงอยู่แล้ว  ไม่สนใจแม้กระทั่งสายตาของพนักงานเสิร์ฟที่ดูแลความเรียบร้อยที่เพิ่งเดินส่วนเค้าไปที่ผ้าม่านกั้นฉากระหว่างหลังงานและหน้างาน 

พนักงานคนนั้นรูดม่านให้ปิดกั้นอย่างพอดี  เพื่อไม่ยอมให้มีสิ่งใดโผล่พ้นไปได้อันจะเป็นการทำให้คนภายนอกมองเข้ามาแล้วดูไม่เรียบร้อย  ไม่สมบรูณ์แบบสำหรับงานหรูหราเช่นนี้   คนผู้นั้นไม่สนใจโรนัลโด้ที่ควรออกไปหน้างาน  และเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในส่วนของหลังงาน

ร่างสูงเดินกลับมานั่งที่เดิม  วางของไว้ข้างตัวร่างเล็กของเด็กหนุ่ม แล้วจับมือเล็กๆ คู่นั้นขึ้นมาอย่างไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง  ก่อนมือแกร่งจะวางแผ่ฝ่ามือของอีกฝ่ายบนมือของตัวเองแล้วเริ่มใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นที่ตนเพิ่งจะหามาได้เมื่อครู่ค่อยๆ ซับไปตามรอยซับเลือดเหล่านั้น

นี่ในครัว หาของพวกนี้ได้ง่ายอยู่แล้ว.........

โรนัลโด้ทำอย่างเบามือ  ถึงแม้จะไม่เคยมีใครสามารถยืนยันได้ว่าร่างสูงมีประสบการณ์และเคยทำอย่างนี้มาก่อนหรือไม่  แต่เค้าก็เช็ดคราบเลือดแห้งกรังจากฝ่ามือของร่างเล็กออกไปได้อย่างนุ่มนวลและเชี่ยวชาญแล้ว  ร่างสูงค่อยๆ ทำต่อไปเรื่อยๆ  ไม่เร่งรีบจนอาจทำให้อีกฝ่ายตื่นได้  แต่แล้วเมสซี่ก็ขยับตัวเล็กน้อย จนร่างสูงของรุ่นพี่เกรงว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะตื่นเอา  หากแต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย  เมสซี่เพียงแค่ขยับตัวให้เข้าที่เข้าท่าอย่างรู้สึกอุ่นสบายก็เท่านั้น

ไม่เคยมีใครรู้ว่าร่างสูงทำอะไรเช่นนี้เป็นด้วย  ไม่เคยเลย  ไม่มี  เว้นเสียแต่เค้าจะอยากให้ใครรู้  ซึ่งก็บอกตามตรงเลยว่าเค้าไม่เคยทำให้ใครถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ  ด้วยความที่ว่าดูเข้าถึงยากเพราะเงียบขรึมและดูดุดัน  กอปรกับมีฐานะดีจนดูถือตัวไปโดยปริยาย  จึงไม่มีใครกล้าคิดภาพที่ร่างสูงคนนี้จะยอมทำตัวอ่อนโยนเพื่อใคร ใส่หัวของตัวเอง

แต่จะคิดไปก็เท่านั้น  เพราจะไม่มีครั้งที่สองที่โรนัลโด้คนนี้จะทำมันอีกเป็นแน่  นั่นก็เพราะว่า.....

ป๊อกก!

เสียงเปิดขวดไวน์รสชาติดีที่สุดของงานได้ถูกเปิดแล้ว  พร้อมด้วยร่างกายน้อยๆ ที่สะดุ้งสะเทือนขึ้นอย่างขวัญอ่อน

โรนัลโด้หยุดมือและจ้องมองรุ่นน้องซึ่งยังคงดิ่งตัวลงสู่ห้วงนิทราอย่างที่เป็นในคราแรก  ใครกันช่างคิดให้เอาไมค์จ่อจุกก๊อกตอนมันเด้งออกจากขวด 

งี่เง่าชะมัด!......โรนัลโด้คิดสบถในใจอีกระรอกหนึ่งแต่ก็มิได้จริงจังนัก เท่ากับการที่ได้รู้ว่าเมสซี่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างที่เค้าหวั่นเอาไว้

มือข้างหนึ่งถูกซับรอยเลือดออกไปจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ร่างสูงจึงทำแบบเดียวกันกับข้างที่สองอย่างแผ่วเบาและละเมียดละไมเท่าที่เค้าจะทำได้  ผ้าชุบน้ำอุ่นจากหม้อต้มน้ำที่เหลือน้ำอยู่ช่วยได้มากกับการลบรอยบาดแผลเล็กๆ ซึ่งแห้งกรังนี้ให้ออกไปได้จนหมดจด  โรนัลโด้ประคองฝ่ามือของเมสซี่ไว้ในอุ้งมือของตัวเอง  พร้อมกันนั้นมือข้างหนึ่ง เค้าก็ประกบผ้าชุบน้ำอุ่นให้เคลื่อนตัวละเลียดผ่านแผลซึ่งทิ้งรอยเลือดซึมแห้งกรังนั้นไว้ด้วย  ราวกับว่าร่างสูงกำลังประกบมือของตัวเองกอบกุมฝ่ามือของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลับใหลไปไม่ได้สติอยู่ข้างที่หลับนอน

และผ่านไปไม่นานนัก  ร่างสูงก็เลิกใช้ผ้าที่สูญเสียความอุ่นนั้น  แล้วเปลี่ยนมาเป็นเช็ดน้ำยาทำความสะอาดบาดแผลในรอบๆ บริเวณนั้นแทน เพื่อไม่เสี่ยงให้มันติดเชื้อ ถึงแม้ว่าจะละเลยมาเกือบร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม  ร่างสูงเขี่ยกล่องปฐมพยาบาลเข้าไปใต้มานั่งของเมสซี่แล้วโยนสำลีทิ้งลงข้างตัวอย่างไม่ใคร่สนใจนัก ในตอนที่เค้าทำทุกอย่างที่พึงทำในตอนนี้เสร็จลงแล้ว

ในยามที่ค่ำคืนเข้าปกคลุมม่านฟ้าของเมือง  อากาศดูหนาวเย็นเป็นพิเศษจากบริบทหลายๆ สิ่งรอบตัว  เด็กหนุ่มผู้มุ่งมั่น  ทุ่มเท  และเศร้าสร้อยนอนอิงราวจับม้านั่งตัวยาวสวยอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเงียบเหงา

ใช่  ถ้าเค้าไม่ลืมตาและรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ จนกระทั่งหลับต่อไปอย่างลืมกังวลเวลา.......

หากเจ้าของร่างนั้นลืมตาขึ้นมาสักนิด  เจ้าตัวอาจจะพบเข้ากับร่างสูงผู้ซึ่งแทบจะบดบังวิสัยทัศน์รอบข้างเมื่อมองออกไปของร่างเล็กได้เลยทีเดียว  ร่างสูงผู้นั่งนิ่งไม่แสดงกิริยาก่อกวนใดๆ เช่นที่ปรกติร่างเล็กอาจคิดไปว่าเค้าจะทำเมื่อมีโอกาส  แต่ชายผู้นั้น...ชายผู้นั้นที่ร่างสูงและดูสง่า  นั่งหลังตรงจ้องมองใบหน้าอ่อนเดียงสาที่ปรากฏความเหนื่อยล้าของรุ่นน้องผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างไร้คำอธิบาย  นั่นอาจเป็นเพราะจิตใจรวมทั้งความคิดของร่างสูงสุดที่จะหยั่งถึงได้  ไม่ว่าใครก็คาดไม่ได้ว่าเค้าคิดจะทำอะไร  แม้แต่แม่ของเค้าเอง

ทุกคนจะรู้...ก็ต่อเมื่อเค้าลงมือทำหรือเฉลยคำตอบแล้วท่านั้น

โรนัลโด้กอบกุมฝ่ามืออ่อนนุ่มข้างหนึ่งของร่างเล็กไว้  ซึ่งบัดนี้มันดูน่ามองมากกว่าครั้งแรกนักเป็นไหนๆ  ข้างนอกนั่นกำลังเปิดเพลงเลี้ยงฉลองและสังสรรค์  แต่ไม่สนุกสนานเช่นที่เค้าคิดไว้  โรนัลโด้ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไปที่ข้างมือของเมสซี่เงียบๆ เช่นเดียวกับที่นิ้วหัวแม่มืออีกข้างหนึ่งของเค้าก็กำลังทำเช่นเดียวกันกับพวงแก้มใสที่เริ่มขึ้นสีระเรื่ออมชมพูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เค้าชอบให้เด็กคนนี้ยิ้ม  โรนัลโด้ชอบเสมอ  ถึงแม้ว่าเมสซี่จะไม่มีมันให้เค้าก็ตาม  แต่ใครจะไปรู้อะไรถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเค้า  ไม่มีใครรู้เหตุผลที่เค้าต้องการจะให้เด็กคนนี้ออกจากชมรมด้วยซ้ำ  และเหตุผลที่เค้าหน่ายโลกก็คงจะไม่ต่างกัน

ถ้ามีคนแอบดูอยู่แล้วไปเล่าให้เด็กคนนี้ฟังเอาทีหลัง คงจะโดนหัวเราะเยาะเอาใส่เป็นแน่  เพราะไม่มีวัน  ไม่มีทาง ที่เมสซี่จะเชื่อว่ารุ่นพี่ผู้ใจร้ายคนนี้จะนั่งอยู่ข้างๆ เจ้าตัวอย่างสงบปากคำและท่าทาง พร้อมทั้งอ่อนโยนเช่นนี้ได้  เพราะงั้นให้มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้น่ะดีแล้ว.....มันจะได้เป็นความลับต่อไป  และไม่มีใครรู้ว่าเค้าทำเช่นนั้นให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องต้องหัวเราะเยาะหาว่ามันเป็นเรื่องโกหก

บอกใครไปก็ไม่โง่เชื่อกันหรอก.....โรนัลโด้แค้นเสียงดังหึในลำคอ  รอยยิ้มแสยะอย่างนึกดูแคลนในใจ เคลือบอยู่บนริมฝีปากของร่างสูง

แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้จนโรนัลโด้ต้องยอมรับเลย คือการที่เค้าคิดถึงเด็กคนนี้...คิดถึงอย่างมากมายจริงๆ  โรนัลโด้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันผ่านมาเพียงแค่ไม่ถึงสองสัปดาห์เท่านั้นที่เค้าไม่ได้พบกับเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้  แต่ในความรู้ในใจของเค้านั้นมันกลับนานแสนนานเหมือนกับวิ่งอยู่ในความฝันที่ไม่มีวันตื่น และเค้าจะต้องวิ่งต่อไปอย่างไร้จุดหมาย

แต่ทว่าวันนี้ที่ได้บังเอิญพบกับร่างเล็ก  ทุกความขุ่นมัวในหัวใจของร่างสูงก็ถูกฉีกกระชากออกไปจนไม่เหลือชิ้นดี  และเค้าไม่อาจลืมความรู้สึกของวันนี้ที่ได้ไล่นิ้วไปตามพวงแก้มใสรวมทั้งฝ่ามืออ่อนนุ่มที่ไม่ควรต้องหยิบจับอะไรให้ต้องระคายผิวได้  โรนัลโด้เก็บทุกรายละเอียดไว้จนกว่าจะถึงขีดจำกัดความอยากของฟางเส้นสุดท้ายของเค้า  ตราบใดที่เค้ายังสามารถทนคิดถึงเมสซี่ได้ โรนัลโด้ก็จะปล่อยให้เด็กหนุ่มคนนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป.....

วันนี้ท้องฟ้ามืดลงถูกแทนที่ด้วยดวงดาวที่ดาษดื่นเคลื่อนตัวขึ้นมาเต็มท้องฟ้ายามราตรี  อากาศเริ่มเย็นลง  ผิวเนียนนุ่มที่โรนัลโด้สัมผัสจับอยู่เริ่มเย็นเชียบ  แม้แต่ฝ่ามือของเค้าเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเครื่องปรับอากาศในตัวอาคารนี้ทำงานหนักมากจนเกินไปจริงๆ

มือข้างหนึ่งของร่างสูงผู้ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยสิ่งใดถูกยกขึ้นไปแตะแก้มใสอีกรอบ  และพบกับความเย็นที่ไม่ต่างอะไรจากน้ำแข็งเลย  โรนัลโด้กระชับมือขาวนวลที่จับอยู่โดยไม่รู้ตัว  ก่อนจะละมือออกมาถอดเสื้อนอกของตัวเอง คิดจะห่มคลุมให้ร่างของรุ่นน้องแต่พลันกลับมีเสียงอื่นที่ใกล้ตัวดังขึ้นมาเสียก่อน

ร่างเล็กสะดุ้งตัว ศีรษะที่หนุนอยู่บนราวจับของม้านั่งขยับขึ้นเพราะตกใจมากกับเสียงเรียกเข้าของตัวเอง  ร่างกายของเมสซี่ขยับไปมาอย่างไม่สบายตัวและงอแข้งงอขาเข้าหาตัวเล็กน้อยคล้ายเด็กที่ใกล้จะตื่นนอนแล้ว

โรนัลโด้ซึ่งจับขอบเสื้อนอกทำท่าจะถอดออกอยู่รอมรอก็ชะงักไปและถอยตัวออกมาอย่างรวดเร็ว  ร่างสูงขยับกายออกมาสร้างระยะห่างเมตรครึ่งอย่างเร็วรี่  ก่อนชายหนุ่มร่างสูงจะมองใบหน้าที่กำลังจะตื่นจากนิทราของเมสซี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างทันท่วงที  ชายเสื้อของเค้าสะบัดไหวก่อนจะหายเข้าไปในความมืด

“อะ  อือ...” ร่างเล็กขยี้ตาแล้วรู้สึกปวดแปลบที่ท้ายทอยขึ้นมา จากคอที่พาดอยู่บนขอบราวจับม้านั่งแข็งๆ เป็นเวลานาน  เด็กหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นมา  รู้สึกเหมือนตัวเองหลับไปนานมากหลังจากที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอหลับไป  เมสซี่ยกมือขึ้นนวดท้ายทอยเล็กน้อย เค้ามีสีหน้าเหยเกแต่ก็กลับเปลี่ยนไปเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับประตูห้องเก็บของที่โล่งเวิ้งว้างไร้สิ่งกีดขว้างใดๆ ในที่สุด  และโทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ฮะ ฮัลโหลครับแม่” เมสซี่รีบรับ เอ่ยเสียงตะกุกตะกักตอบไปเมื่อแม่ของเค้าโทรมาหาอีกรอบ

“จะ จะกลับแล้วครับแม่...เมื่อกี้ผมหลับไป  ไม่ ไม่หรอกครับ  เอ่อ จอนห์กลับไปแล้วครับ  ผมรอ...ฮะ?  ไม่เอาหรอก ผมรอเสื้อผ้าของผมอยู่ ผมจะไม่ให้แม่ล้อผมอีกเด็ดขาดเลย...นั่นไม่ใช่ชื่นชมเลยครับ  แม่นั่นล่ะที่....แม่  เเม่ครับเดี๋ยว....โธ่  แม่อ่าา”

เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าตัวโดนผู้เป็นแม่ที่ไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็ยังมิวายเอ่ยแซวถึงเรื่องชุดที่ได้ข่าวมาว่าลูกชายของเธอใส่แล้วดูหล่อเอามากๆ ในวันนี้  เมสซี่เริ่มหน้าบูด  แม่ของเค้าบอกว่า “ไหนๆ ก็ไหนๆ กลับมาให้แม่ดูชุดของลูกหน่อยสิ” วางสายตัดไปเสียอย่างนั้น  แล้วเด็กหนุ่มก็เอ่ยประท้วงกับตัวเองถึงมารดาที่ไม่เคยหยุดหยอกเย้าเค้าเลย  เมสซี่หน้าบูดอีก ริมฝีปากบางด้านล่างยื่นออกมาเล็กน้อยก่อนไหล่เล็กทั้งคู่จะพร้อมใจทิ้งตัวลงมาอย่างหนักอึ้ง

........ไม่มีทาง  เค้าจะไม่เดินกลับบ้านด้วยสภาพที่ดูตลกอย่างนี้แน่นอน........

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว  ร่างที่ไม่ใหญ่โตนักของชายหนุ่มตัวน้อยๆ ก็ผุดลุกขึ้นออกเดินไปยังห้องเก็บของที่เค้ารออย่างใจเย็นมาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม  ก่อนจะเกือบสะดุดเข้ากับเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ถูกวางขว้างทางเค้าไว้  เมสซี่ชะงักเพื่อเบี่ยงหลบมาได้  ดวงตาคู่กลมโตกวาดมองเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ตรงหน้าเค้าอย่างนึกฉงน

..........ตอนแรกก็ไม่เห็นมีนี่  เอ คนอื่นๆ ออกไปกันหมดแล้วนะ  เสียงงาน พวกเค้ากำลังสังสรรค์กันนี่นา  คนอื่นๆ คงจะออกไปดูแลความเรียบร้อยของงานกันหมดแล้วล่ะ  พวกเค้าอาจรีบมาก.......

เมสซี่มองเก้าอี้ตัวนั้น  นึกคิดไปว่าอาจเป็นเพราะความเร่งรีบของคนครัวหลังงานที่ไม่เป็นห่วงความเป็นระเบียบที่จะเก็บข้าวของให้เข้าที่ก็ได้  แล้วละสายตาออกมาอย่างไม่นึกติดใจอะไร ก่อนจะวิ่งเข้าห้องเก็บของไปเปลี่ยนชุดเดิมที่เค้าชอบมากกว่าชุดที่ใส่อยู่เป็นไหนๆ

เด็กหนุ่มหายเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว  แต่ร่างสูงของรุ่นพี่อย่างโรนัลโด้ก็ยังคงแอบกายอยู่หลังผ้าม่าน  เฝ้ามองแผ่นหลังที่ถูกซ้อนทับด้วยบานประตูของร่างเล็กด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกอีกเช่นเคย  ใบหน้าโรนัลโด้ดูคล้ายเฝ้ามองสวนหลังบ้านที่น่าพอใจของตัวเองอยู่

เด็กหนุ่มตัวน้อยๆ ของเค้าวิ่งออกมาแล้ว  พร้อมกับถุงใส่ชุดสูทที่ดูใหญ่มากเกินไปหน่อยเมื่ออยู่ในมือของเมสซี่  เด็กหนุ่มกอดมันไว้อย่างเบามือ  ปิดประตูห้องเก็บของกลับคืนอย่างสุภาพแม้ไม่มีใครคอยจับผิด  เมสซี่ใส่กางเกงขาสั้นรองเท้ากีฬาถุงเท้าสั้นเท่าตาตุ้มและเสื้อยืดลายการ์ตูนตัวโปรดของเจ้าตัว  ก่อนจะเดินออกไปจากงานทางประตูหลังอย่างเงียบเชียบและไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็น

ใช่  นั่นล่ะเมสซี่  ลีโอเนล   เมสซี่ ที่แสนจะเรียบง่ายและขี้อาย  โรนัลโด้รู้ข้อนั้นดี..........

และนึกขอบคุณที่เด็กหนุ่มไม่เอะใจเลยว่ามีชายคนหนึ่งคอยเฝ้าดูและแตะตัวของเค้าในตอนที่หลับไป  โรนัลโด้ที่แอบดูอยู่ตรงรอยแยกของม่านกั้นงานยกยิ้มให้กับตัวเองอย่างเบาบางซึ่งหาดูได้ยากเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งจากชายหนุ่มร่างสูงผู้นี้

คริส...คริสเตียนโน่  แกหายหัวไปไหนมา?!

โรนัลโด้หันหลังไปหาต้นเสียงที่สวมรองเท้าหนังขัดมันแว้บ สาวเท้าก้าวเข้ามาหาเค้าอย่างเอาเรื่อง  ร่างสูงหมุนตัวบนสันเท้า  กลับมาวางตัวสง่าผ่าเผยอีกครั้งและเป็นการเป็นงาน

เค้าเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งรอฟังคำถามในตอนที่ลุงของเค้าทำหน้าโมโหใส่  แล้วสูดหายใจเข้าไปอย่างเบื่อหน่ายเสียเต็มปอด

“แกคิดว่าแกทำอย่างนั้นกับฉันต่อหน้า....”

หุบปากซะตาแก่...อ่อ แล้วก็ไปตายซะ  ยืนพูดมากอยู่ได้  ไม่รู้เลยรึไงว่ามันน่ารำคาญน่ะ” โรนัลโด้ขยับปากและเปล่งเสียง  คิ้วทั้งสองข้างของเค้าวาดอยู่เหนือดวงตาเสมอกันอย่างเฉยเมยในคำเกรี้ยวกราดของลุง  ก่อนคำพูดที่ดูแสนธรรมดายิ่งกว่าในความรู้สึกของคนอย่างเค้า จะสามารถหุบปากลุงบังเกิดเกล้าของตัวเองได้

ชายแก่แต่งตัวดีหน้าแข็งตึง และถลึงตาใส่หลานชาย  คำว่า “แกว่าอะไรนะ?! ฉาบอยู่บนใบหน้าปรากฏริ้วรอยชัดยามเมื่อโมโหของเค้า

โรนัลโด้อมยิ้ม  พลางเลิกคิ้วขึ้นเสสายตามองไปยังด้านหลังของชายแก่เจ้าอำนาจ  ก่อนร่างสูงแข็งแกร่งจะเอามืออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วติดกระดุมเสื้อนอกของตัวเองให้เรียบร้อยในขณะที่เดินสวนออกไปอย่างสุภาพ

“ขอบคุณมากที่รับฟัง  แต่ผมต้องไปแล้วขอโทษนะครับคุณลุง  ผมต้องขอตัวก่อน”

ก่อนร่างสูงจะหันไปยิ้มให้กับคู่ค้าทางธุรกิจเมื่อชั่วโมงที่แล้วของลุงตัวเอง พร้อมกับลูกสาวที่ดูท่าทางคาดหวังเสียเต็มเปี่ยมของพวกนั้น  โรนัลโด้พยักหน้าให้เธอด้วยรอยยิ้มบาดใจแล้วเดินออกไป  แสร้งทำเหมือนว่ามีธุระด่วนจริงๆ  บุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ มาเร็วพอที่จะได้ยินร่างสูงเอ่ยเสียงสุภาพกับชายแก่เมื่อครู่นี้

“อ้าว  ไหนบอกเราว่าจะแนะนำเค้าให้รู้จักยังไงล่ะ  เค้าจะรีบไปไหนเสียแล้วล่ะ?  หลานคุณดูดีมากเลยนะ  เมโลดี้น้อยของเราสนใจเค้ามากเลย” เป็นอีกครั้งที่คู่ค้าธุรกิจถามคำถามเสียดหน้าแทงใจ จนลุงของร่างสูงอยากจะเอาขวดแชมเปญฟาดหน้าเข้าให้เสียจริง

เจ้าคริสเตียนโน่!!

และเป็นอีกครั้งที่โดนหักหน้าจากหลานชายอย่างยับเยิน



**************************************************************



“แม่นะแม่  ให้ตายยังไงผมก็ไม่กลับบ้านไปในสภาพตลกๆ อย่างนั้นหรอก...แวะเอาชุดไปให้จอนห์ก่อนดีกว่า กลับไปแม่จะได้ไม่บังคับให้ผมใส่มันอีก” เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ เดินด้วยขาที่แข็งแรงและความเร็วอันคงที่ไปตามทางเดินเท้าแคบๆ ขนาดเท่าสองคนเดินโอบกันได้  ขาเล็กๆ เดินไป ปากน้อยๆ ก็บ่นอุ่บอิ่บไปเรื่อย ถึงแม่ที่รอบังคับเค้าอยู่ที่บ้าน

เมสซี่ยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นมาดู  และแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อพบว่ามันขาวสะอาด  เค้าจำได้นี่ว่าล่าสุดก่อนจะไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน  มันยังซับเลือดเป็นริ้วน้อยๆ ทั่วมืออยู่เลย  และตอนนี้ก็ไม่ปวดแล้วด้วย.....

มันคงจะหายไปเองล่ะมั่ง  แผลเล็กนิดเดียวเองนี่นา.....ร่างเล็กออกความเห็น  พลางคิดไปว่าตัวเองเผลอเอามือไปลูบนู่นลูบนี่ในตอนหลับบ้างหรือเปล่า  เลอะเทอะน่าดูเลยเมสซี่.....

ร่างเล็กหน้าเหยเกใส่ตัวเอง  และไม่รู้เลยว่ามีคนเดินมาส่งเค้าที่บ้านอย่างห่างๆ ไกลจากเจ้าตัวไปเพียงหกเมตรเท่านั้น  ตลอดทางเดินนั้นมีรั้วถูกสร้างขนานไปตลอดทางและเต็มไปด้วยต้นไม้พืชพันธ์ต่างๆ ที่ถูกจงใจปล่อยให้ขึ้นกลบรั้วจนดูรกรุงรังไปเสียหมด

ชายหนุ่มร่างสูงที่ใส่ชุดสูทปราศจากไทด์ดูทันสมัยเดินตามมาอย่างเงียบๆ และรักษาระยะห่าง  เดินตามเด็กหนุ่มซึ่งลัดเลาะไปตามรั้วข้างทางไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น  เค้ายังเห็นเด็กหนุ่มแสนซนยื่นมือออกไปตบใบไม้ที่เกาะรั้วเล่นอีกด้วย ก่อนจะโดนมันดีดกลับมาเข้าเต็มๆ  โรนัลโด้ยิ้ม เมื่อเด็กหนุ่มหยุดแล้วเอามือข้างเดิมถูหน้าตัวเอง  ก่อนจะเริ่มเล่นใหม่อีกครั้งอย่างไม่รู้จักเข็ดในอีกสองสามนาทีถัดมา

โรนัลโด้ตามหลังไปจนถึงบ้านหลังน้อยของเมสซี่  เด็กหนุ่มวิ่งเข้าบ้านไปและได้ยินเสียงของแม่ตะโกนออกมา  เด็กหนุ่มวิ่งออกมาอีกและหันหลังกอดอกให้แม่ พร้อมกับบอกว่าเจ้าตัวจะไม่ใส่ชุดนั้นอีกแล้ว  แม่ของเค้าถือกล้องเดินตามออกมาแล้วง้องอนลูกชาย  ก่อนจะโดนลากเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มของแม่อย่างเสียไม่ได้

โรนัลโด้ยิ้มมีความสุขไปด้วยเป็นครั้งแรกในรอบของอะไรก็ตามแต่ซึ่งคาดว่าน่าจะนานมากๆ  .....นานมากๆ แล้วในความรู้สึกของเค้า  เค้าไม่เคยโดนแง่งอนอย่างนั้นมาก่อน  โดยเฉพาะกับแม่เพราะเค้าดูจะโตเกินไปแล้วที่จะทำแบบนั้น  แต่เด็กคนนั้นกลับแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ  ซึ่งนั่นก็บริสุทธิ์อย่างยิ่งในการกระทำของเมสซี่

เพราะเค้าเป็นเด็กหนุ่มแห่งรอยยิ้ม  ความสดใส  และความอ่อนโยน

และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป  ตราบใดที่เมสซี่ยังคงเป็นเมสซี่เสมอ  ไม่เปลี่ยนแปลง........



.



.



.



เฮ้  เค้ารู้บ้านของเมสซี่แล้ว  ที่นี้จะโผล่หัวมาที่นี่บ้างก็คงจะไม่แปลกสินะ

โรนัลโด้ยิ้มกริ่มขณะหมุนตัวกลับ แล้วติดระดุมเสื้อนอกเหมือนเดิม



.



.



.



THE END
จบภาค Falling In Love Again : 1.5



--------------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยย!!! >[]<  อรั๊ยๆๆๆๆ   ขออรั๊ยสักสิบทีเถอะค่ะ!  เฮียท่านทำอันใด?  ใยจึงได้ดูอ่อนโยนเช่นนั้น ใครโยนสคริปให้ท่านผิดอย่างนั้นหรือ?......ผั๊วะ! //โดนตบ//  โอยยยยยย พ่อคุณเอ้ยยยยย  บทจะอบอุ่นก็อุ่นจนร้อนจี๊ดจี๊เลยนะคะ >///<  รักเค้าทำไมไม่บอกเค้าไปล่ะ หือออ?  ไปแบดใส่เค้าตั้งแต่ตอนแรกงั้นสินะเลยต้องแอบทแบบนี้ตอนหลับน่ะ  เหมียวก็น่ารักตลอดเลยค่ะ  อร๊ายยยย  //คนนี้ขออรั๊ยสักร้อยครั้ง// 

หนูเสียบริสุทธิ์ทั้งตอนตอนและตอนหลับเลยนะจ๊ะ ไรท์ขอแสดงความเสียใจด้วยจ๊ะ //เช็ดน้ำตา//  หาคำไปบอกพ่อกับแม่ดีๆ นะจ๊ะ พาเฮียไปด้วย ฮะ ฮาาาาา  //โดนเหมียวมองจิก// อันที่จริงไรท์ต้องแสดงความยินดีเนอะ 55555  ยัง...ยังไม่จบ -.-

ค่ะ ก็จบไปแล้วนะคะ กับภาค 1.5 ของซีรี่ย์เรื่องนี้  หวังว่าคงจะถูกใจรีดๆ ของไรท์ไม่มากก็น้อยนะคะ ^^   ต่อไปเรื่องราวจะดำเนินไปในตอนหลังจากที่เฮียไปแมนยูแล้วค่ะ  เหมียวก็จะได้ออกไปเผชิญโลกกว้างแล้วเหมือนกันค่ะ ><  ทั้งสองฝ่ายต่างได้เจอทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าค่ะ....อ้าว?  ยังไง??

และมันจะแบบว่า //ทำเสียงซาบซึ้ง// เรื่องราวของพวกเค้าจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นค่ะ เพราะว่าพวกเค้าโตกันแล้ว! ><  ตอนแรกไม่กะเขียนให้ถึงขนาดนี้เลยนะคะ กะเอาเรื่องเดียวจบค่ะแต่ว่าแฟนเรียกร้อง 555555 ไรท์เองก็ชอบโครงเรื่องแนวนี้ค่ะ 555555 //ไอ้บ้า!//  เฮื้ออออออออออ จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตาม Falling In Love Again : 3 ค่ะ!!! >///<

และย้ำค่ะ  ไรท์จะงดลงฟิคตั้งแต่วันนี้จนถึงตอนที่เขียนเรื่องใหม่เสร็จแล้วนะคะ  ตอนนี้หมดมุขแล้วจริงๆ ค่ะ ไม่มีเรื่องไหนดองไว้แล้วค่ะ TUT  ก่อนอื่นต้องเร่งเขียนรุ่นี่เฟี้ยวอย่รางเดียวเลยค่ะ

รักรีดๆ ทุกท่านมากนะค้าาา >< โอ้ๆๆๆ แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< แฮ่ๆๆ 

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




ไม่มีความคิดเห็น: