ภาพนี้ต้องการให้ใหญ่ 55555
กราบสวัสดีค่ะ รีดๆ
ที่รักของไรท์ทุกท่านขาาาา M><M อร๊ายยยยยยยยย
หายไปนานอยู่พอควรเลยค่ะ
ตั้งเดือนกว่าแหนะที่ไม่ได้ลงฟิค (ใช่ไหมนะ?) 555555 อร๊ายๆๆๆๆๆ
ต้องขอกรี๊ดหน่อยค่ะ เพราะตอน King’s Cup ที่ไทยแข่งกับซีเรียเนี่ยดีงามากเลยค่ะ ไหนจะภาพเก็บตกจากตอนซ้อมอีก อร๊ายยยยยย!
เลือดสาววายไรท์แตกเลยค่ะ แบบว่าจะไม่เขียนแล้วนะ
แต่ว่าทริสตองน้อยๆ ก็น่ารักเหลือเกินค่ะ
ท่านพี่มิก้าก็...โอ๊ยยย แซ่บ! ไหลเลยจะอดใจไหว
ไรท์ก็เลยเปิดหน้า Word ขึ้นมาค่ะ เขียนสองบรรทัดแล้วกดทิ้งเลยค่ะ
55555 คิดอยู่ว่าจะเขียนดีไหม กลัวเขียนไม่จบ
แต่พอครึ่งหลังมาเจอมิก้าลงสนามแล้วเห็นทริสตองไรท์เปิดอีกรอบแล้วเขียนไปสองหน้าเลยค่ะ
55555 แหม่! เสียดายพ่อกับแม่บอกให้นอนซะก่อนไม่งั้นคงจะแป้นกระจายไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว
55555555 ตอนแรกกะจะเขียนสั้นๆ พอให้หายคิดถึงสองคนนี้กันค่ะ
แต่ไรท์เตลิดไปนิสหนึ่งค่ะ ย้ำว่า นิดหนึ่ง
จริงๆ ค่ะ
คือนั่งดูบอลไปไรท์ไม่ทำอะไรหรอกค่ะนอกจากอวยสองคนนี้อย่างเดียวเลย
55555 แต่แน่นอนว่าต้องลุ้นเกมส์ด้วย โอยยยยย
อะไรจะเหมาะสมกันประล่ำประเหลือขนาดนั้นค่ะ 555555 โอเคค่ะ
ไรท์ว่าเราไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ
เออะ! ลืมไปเลยค่ะ เรื่องชื่อเรื่องไรท์นั่งคิดอยู่เป็นชั่วโมงเลยค่ะ
คิดไม่ออก คิดไม่ตก จนในที่สุดก็ได้ออกมาอย่างที่เห็นค่ะ 555555 คือมันดูน่ารักและเป็นปัญญาด้านนิ่มไปไหม? ถามตัวเองอยู่หลายทีค่ะก่อนจะบอกว่า
“เอาก็เอาดิ!” 555555
โอเค
เลิกบ้าได้แล้วไอ้ไรท์บ้า!! เชิญรีดๆ ไปอ่านกันเลยค่ะ ^^
------------------------------------------------------------------------------------
“พี่มิก้าา พี่มิก้า!”
เสียงเรียกดังมาจากเด็กหนุ่มที่กระชับสายสะพายกระเป๋าบนบ่าเล็ก
อีกมือหนึ่งก็โบกขึ้นจนสุดแขนเพื่อส่งสัญญาณหาอีกคนหนึ่งไปด้วย
“ทริสตอง” ชายหนุ่มที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเช่นกันวาดยิ้มออกมาก่อนจะเดินฝ่าฝูงเพื่อนร่วมทีมเข้าไปหารุ่นน้องที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง
“แหมมม หวานกันจังเลยน้าพวกเอ็ง ห้องก็แคบแค่นี้ทำไมจะต้อง ‘พี่มิก้าา ทริสตองง’ ด้วยวะ ตะโกนหากันเป็นหนังอินเดียไปได้” เกริกฤทธิ์ที่นั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวยิ้มหมั่นไส้พร้อมทำเสียงเลียนแบบสองคนที่หันมามองเค้าที่นั่งอยู่กลางห้อง
ก่อนอีกคนหนึ่งที่ทำเสียงกระเหน็กกระแหน่ได้อย่างน่าแจกมะแหงกมากกว่าจะถือผ้าขนหนูแล้วยื่นหน้าเข้ามาในกรอบสนทนาเป็นทัพเสริม
“พี่มิก้าาา ทริสตองงงง...จ๋าาา”
“ฮ่าๆๆ เจ...เหมือนว่ะ เหมือน
เหมือนๆ ฮ่าๆๆ” ทั้งห้องเครื่องฮาครืนก่อนคนที่นุ่งผ้าขนหนูและมีอีกผืนหนึ่งพาดไหล่คอยท่าจะเข้าไปอาบน้ำต่อจะยิ้มแป้นออกมาจนตาหายไปจากใบหน้า ก่อนมิก้าที่อยู่ข้างๆ จะแกล้งกระตุกผ้าขนหนูช่วงล่างเบาๆ
“อุ่ย อย่าทำงี้ดิพี่
ลมมันจะเย็นมากเอานะ ตัวเปล่าๆ
เลยเนี่ย” เจ้าเจ ชนาธิป กอดตัวเองและยึดปมผ้าขนหนูไว้แน่น พลางยิ้มแฮ่ๆ
อย่างใจไม่ดี
ไม่รู้ว่าถ้าผ้าขนหนูหลุดไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง กลางห้องพักนักกีฬาที่เนืองแน่นเต็มไปด้วยคนแบบนี้เสียด้วย
มีหวังคงได้อายเค้าตายแหงๆ
“กลับบ้านด้วยกันว้อย หุบปากไปเลย
ไม่พูดสักอย่างจะตายไหมหา?” ร่างสูงเหมาะรวม
ไม่ได้กล่าวหาเพียงแค่ชายหนุ่มร่างเล็กเป็นหลักกิโลที่บ่นกระปอดกระแปดปนรอยยิ้มของชนาธิป
“เป็นแฟนกันอ่อ กลับบ้านด้วยกันอ่ะ?”
มิวายคนพูดมาก ยึกยักไม่หยุดยังก็ไม่ยอมเข็ด
เอ่ยเย้าคนคนที่ร้อนตัวแก้ข่าวอย่ารู้ทัน ก่อนกระโดออกห่างมาจากมิก้าที่ยื่นมือมาจะกระตุกอีกรอบแต่คราวนี้คิดจะเอาให้หลุดไปซะเลย พูดมากดีนัก แต่ก็ต้องชวดไปเพราะคนตัวเตี้ยไวกว่ามาก
“ทางผ่านพอดีหรอก” เค้าว่า เสียงห้วนเพราะโดนจ้องมองด้วยสายตากระลิ่มกระเลี่ยที่ดูไม่เชื่อจากเพื่อนในห้อง พร้อมกับทั้งกล่าวแทนทริสตองที่เอาแต่บีบสายกระเป๋าแล้วก้มหน้านิ่งไม่มองใครทั้งสิ้นเพราะแม้แต่ร่างสูงของมิก้าก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันอันแรงกล้าที่อยากจะสอดรู้สอดเห็นของคนในทีม
“โอ้ เหรออ งั้นหรอกเหรอ ทางผ่านพอดี”
เพื่อนๆ ช่วยกันสาวเรื่องต่อกันอีกก่อนจะโดนชายหนุ่มลูกครึ่งเวลส์ - ใต้บอกปัดอย่างรำคาญใจ
“เฮ้ยย จะถามอะไรกันนักหนาฮึ วันนี้รีบกลับ จะกลับแล้ว”
มิก้าว่าจนสำเนียงใต้โผล่แลบออกมา
ก่อนจะเดินนำรุ่นน้องที่ถูกอ้างว่าติดรถไปด้วย ไปยังรถของตัวเอง….เดินออกไปเสียให้พ้นๆ
พวกเสียงนกเสียงกา
ซึ่งแท้จริงแล้วชายหนุ่มทั้งสองไม่เคยคุยกันจริงจังนักว่าจะทำอย่างไรหากเพื่อนๆ
ในทีมทั้งทีมชาติและสโมสรรู้ว่าทั้งสองคนคบกันอยู่ ในห้องตลอดจนเดินออกมามิก้าเดินนำทริสตองอย่างเจ้าของรถที่ควรรับรองแขก
แต่พอลับสายตาของคนอื่นไปแล้วร่างสูงเจ้าของรถราคาแพงก็หยุดรอแล้วหันไปผายมือรอรับเด็กหนุ่มที่จ้ำตามมาให้อยู่ข้างกาย
ก่อนจะออกเดินไปด้วยกัน
มิก้ายอมรับรู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่สามารถเปิดเผย จนพาลให้น้องชายต้องคอยหลบสายตาและข้อซุบซิบนินทาของคนอื่นไปด้วย บางทีทริสตองอาจไม่อยากใช้ชีวิตใต้เงาแบบนี้
แต่ชายหนุ่มลูกครึ่งเวลส์ก็ไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มที่เค้าเอาแต่ประคบประหงมปกป้องจากคนอื่นนั้นรู้สึกดีใจแค่ไหนที่รุ่นพี่ยอมเดินอยู่ข้างกัน ทริสตองหน้าแดงทุกครั้งที่โดนมิก้าจับมือจนหลายครั้งที่เจ้าตัวอดยิ้มออกมาอย่างเนียมอายไม่ได้เมื่ออีกคนหนึ่งจับได้ว่ายังไม่ชินเสียทีที่คนเป็นแฟนกันจะทำแบบนี้
มิก้าดึงกระเป๋ามาจากทริสตอง
ปลดล็อครถก่อนจะโยนกระเป๋าของพวกเค้าใส่สัมภาระยิบย่อยแต่จำเป็นไปที่ด้านหลังของรถ ทริสตองขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้วในตอนที่มิก้าประจำตำแหน่งคนขับหลังพวงมาลัย แต่เด็กหนุ่มดันติดปัญหาเรื่องการคาดเข็มขัดที่ตัวเองต้องทะเลาะกับมันอยู่เป็นประจำจนต้องเดือดร้อนพี่ชายมายุติข้อวิวาทให้อีก มิก้าหัวเราะพร้อมบอกทริสตองว่าต้องออกแรงเยอะหน่อย
แต่เด็กหนุ่มก็ทำหน้าเหมือนไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาดใส่เค้าเสียอย่างนั้น กระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วรถคันสวยก็แล่นออกไปบนท้องถนนอย่างรวดเร็ว
“ทริสตองไม่เห็นจะต้องเกรงใจพี่เลยนี่นา”
มิก้ากล่าว
ไม่เข้าใจความเกรงใจของรุ่นน้องหรือเป็นเพราะว่าอีกฝ่าหนึ่งยังไม่ชินกันแน่
คนโดนกล่าวพิงหลังกับเบาะแล้วทำทีมองออกไปนอกหน้าต่าง
.....สงสัยจะยังไม่ชินสินะ.....
มิก้ายิ้ม “เฮ้ออ ลืมไปสินะ”
จงใจพูดลอยๆ ให้อีกคนหนึ่งได้แก้มแดงมากกว่าเดิมเล่นๆ “เด็กยังไม่เคยมีแฟนนี่น้าา”
“ไม่ใช่ซะหน่อย!” ทริสตองสะบัดหน้าขึ้นมามองรุ่นพี่ที่ชอบหาเรื่องแกล้งเจ้าตัว
“เหรอ แล้วแฟนคนแรกของทริสตองเป็นใครอ่ะ?”
เข้าแผนของร่างสูง เค้าเด็กหนุ่มไปติดกับแล้วทำเอาทริสตองตอบไม่ได้อีก
อีกคนหนึ่งนึกอยากจะบ่นใส่ก็คิดหาคำไม่ได้ ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ
แล้วหุบลงไปตามเดิมก่อนจะมองคนที่อายุมากกว่าตาเขียวเพราะทำอะไรไม่ได้ แต่ชายหนุ่มร่างสูงก็เอานิ้วเขี่ยแก้มของคนตาเขียวเล่นเหมือนหยอกเด็กน้อย
เนื่องจากรอยยิ้มที่เก็บไว้ไม่มิดของทริสตองมันดูน่ารักน้อยเสียเมื่อไรกันล่ะ
“พี่มิก้าอย่าแหย่สิ”
เด็กหนุ่มปัดออกก่อนจะถูกจิ้มอีก
ชายหนุ่มสองคนที่ไม่ใช่เด็กน้อยกันแล้วหยอกล้อกันไปอยู่พักหนึ่ง กระทั่งยุติในตอนที่เด็กหนุ่มกัดเข้าที่นิ้วชี้ของรุ่นพี่จนอีกคนหนึ่งขู่เข้าไว้ว่าอย่าให้ได้ลงรถเมื่อไรเค้าจะเอาคืนอย่างสาสมเป็นแน่
คราวนั้นจึงเป็นคราวที่ทริสตองได้หัวเราะบ้าง และในที่สุดทั้งสองก็มาถึงจุดหมายเสียที มิก้าคิดในใจเค้าโกหกออกไปคำโตเลยตอนที่บอกเพื่อนๆ
ในห้องเก็บตัวว่าจะพาทริสตองไปส่งบ้านเนื่องจากมันเป็นทางพาพอดีแต่ว่าแท้จริงแล้วเค้ากลับพาน้องมาที่คอนโดของตัวเอง ร่างสูงคิ้วกระตุก ก็ไม่ใช่ว่าคิดอกุศลหรอกนะ
......ก็รถมันติดอีกแล้วนี่หว่า......
ร่างสูงจอดรถแล้วหยิบเอากระเป๋าของรุ่นน้องมาถืออีกครั้งก่อนจะเข้าไปเรียกปลุกเจ้าตัวเบาๆ
เพราะโดนความเหนื่อยจากเกมส์ของคืนนี้เล่นงานเอาอย่างไม่เป็นท่า
แล้วแถมไม่แถมก็เรียกยากเสียด้วยสิ
“ทริสตอง” ไม่ยอมตื่นเลย “ตื่นเถอะ
เรามาถึงแล้ว” ไร้วี่แววตอบรับ
ร่างสูงถอนหายใจอย่างอ่อนใจ
หากเป็นในเวลาปรกติเค้าคงจะจนปัญญาปลุกไปแล้ว
เนื่องจากโดยส่วนตัวก็เป็นคนไม่ชอบจู้จี้คนอื่นอยู่แล้ว
การไปรบกวนใครต่อใครมิก้าไม่ค่อยชอบทำนักมันเป็นนิสัยที่ดีอย่างหนึ่งของเค้า ครั้นจะปล่อยให้อยู่ตรงนี้ก็กะไรอยู่
คงไม่วายจะต้องอุ้มขึ้นไปส่งถึงห้องอย่างเสียไม่ได้เป็นแน่ แต่ว่านั่นหมายถึงเมื่อก่อนในตอนที่ร่างสูงยังไม่ได้จูบทริสตองและไม่เคยรู้มาก่อนว่าเด็กคนนี้แอบชอบเค้าอยู่
ตอนนั้นกับตอนนี้มันคนละเรื่องกันแล้ว...
ดังนั้น
ชายหนุ่มที่ลอบยิ้มกริ่มอยู่คนเดียวเงียบๆ อย่างดูร้ายกาจจึงค่อยๆ
โน้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากคู่บางแต่ขึ้นสีระเรื่อสดนั้นอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมทั้งดึงดูดย้ำอย่างเป็นจังหวะ
ก่อนเด็กขี้เซาจะเริ่มขยับตัวยุกยิกไปมา......ทริสตองตื่นแล้ว
มิก้าจึงเลื่อนไปจูบแก้มใสอย่างหนักหน่วงแล้วกระซิบเบาๆ
“ตื่นได้แล้วทริสตอง”
เสียงทุ้มกดต่ำลงแต่นุ่มนวล
“หืม?....อืออ อือ
อืม อืม”
เค้ายิ้มอีกเมื่อได้ยินเสียงงัวเงียของคนที่ไม่ยอมตื่น
ให้ตาย มิก้าเกือบได้แบกทริสตองขึ้นไปอีกรอบเพราะเจ้าตัวยังคงง่วงงาวหาวนอนอยู่
เค้าต้องรออยู่พักหนึ่งกว่าเด็กขี้เซาจะขยี้หูขยี้ตาให้ตื่นแล้วออกจากรถมาได้เสียที ร่างสูงใจเย็นพอที่จะรอและอารมณ์ดีทุกครั้งเมื่อได้เห็นทริสตองที่ต้องการความดูแล
พวกเค้าเดินเข้าไปในตัวคอนโดซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งคนเป็นพี่ต้องดึงมือน้องให้ถอยกลับมาเพราะเดินเตลิดลิฟต์ไปหลายก้าวอยู่
“ทริสตองยืนตรงๆ ก่อน ทริสตอง...”
มิก้าที่ถือกระเป๋าอยู่ก็ไม่สามารถช่วยอีกคนหนึ่งได้
จึงทำได้แต่เพียงใช้ไหล่ดันประคองให้ร่างเล็กไม่เอนตัวล้มลงแต่เพียงเท่านั้น
“ทริสตอง เดี๋ยว ตื่นก่อนดิ ทริสตอง อ้าว
เฮ้ย...อืมม” มิก้าครางในลำคอ......ยอมใจเลย
ยืนพิงลิฟต์หลับอีกต่างหาก
เค้าทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มและแอบหัวเราะเบาๆ
กับตัวเอง
********************************************************************
“เอาล่ะถึงแล้ว”
.
.
“อะ อา...ฮึก พี่มิก้า อย่า...”
เด็กหนุ่มร่างกายขาวเนียนที่ถูกบังคับทำให้เปลือยเปล่านั่งพิงหัวเตียงสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู
ตัวสั่นอยู่ตรงนั้น หน้าของเค้าแดงฉ่า
โดยที่มีชายหนุ่มร่างสูงกำยำก้มประกบปากอยู่ด้านล่างของลำตัวที่ขยับยุกยิกอย่างจั๊กจี้นั้น
“อ๊าา อืมม ฮึก อ่าา พี่มิก้าา...”
เสียงเด็กหนุ่มร้องขัด ขอคั่นเวลา “ฮืมม ผม ผมง่วงนะ”
ทริสตองบอกในตอนที่สัมผัสชื้นแฉะล่วงวนอยู่ที่รอยปุ๋มน่ารักบนหน้าท้อง คนด้านบนที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าห่มผืนหนาอย่างหมิ่นเหม่อไม่ได้สนใจว่ามันจะร่นลงมาหรือไม่ เค้าเองก็เปลือยเปล่า ไม่สนใจ
แม้แต่ประโยคยื่นอุทธรณ์ที่ชวนให้เห็นใจกันของร่างเล็ก
หนำซ้ำร่างสูงยังเอื้อมขึ้นไปล็อคข้อมือเล็กที่ปัดป่ายตัวเค้าให้ผละออกไป
ให้ติดกับหัวเตียงก่อนจะเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาขึ้นมาบรรจงจูบยอดอกสีชมพูที่กำลังส่ายไปมาเพื่อหนีคนขี้แกล้งที่ไม่ยอมให้เจ้าตัวนอนหลับเสียทีอีกด้วย แต่หารู้ไม่มันยิ่งทำให้มิก้ารู้สึกว่ายอดสีลูกกวาดนั้นน่ากินขึ้นมากว่าเดิมเป็นสองเท่า
“อ้าาา...า อือ ฮะ! อา พี่มิก้าอย่ากัดสิ”
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าคนเป็นพี่หนักปากไปหน่อยจนเจ้าตัวต้องทำหน้าเบ้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ชายหนุ่มร่างสูงจึงใช้ลิ้นเลียยอดอกที่ถูกเผลอทำให้บอบช้ำจนแข็งเป็นไตอย่างเอาใจและอ้อยอิ่ง ก่อนจะขยับตัวขึ้นมา เหยียดกายขึ้นตามความสูงแล้วโน้มหน้าเข้ามาหาเด็กน่าแกล้งของเค้า
“ที่กัดนิ้วพี่เมื่อกี้นี้เจ็บมากเลยนะ”
เค้ากระซิบพร้อมขบกดติ่งหูนิ่มไปด้วยแล้วหัวเราะหึๆ ในลำคอ
ทริสตองตัวสั่นจนหน้าเสียเพราะความเสียวซ่านจากจุดอ่อนไหวนิ่มๆ
นั้น “อื้ออ มะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยหนิ”
เจ้าตัวกัดริมฝีปากจนขึ้นขอบเป็นสีขาว เมื่อริมฝีปากซุกซนและจมูกโด่งคมไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น
“อย่าทำผม...อืออ ฮึก! อื้ออ พี่มิก้า”
ร่างสูงรู้ว่าร่างเล็กอ่อนไหวแค่ไหนกับการสัมผัสวาบหวาม
เค้าจึงใช้ทั้งจมูกและปากกลั่นแกล้งเด็กหนุ่มต่อไปเรื่อยๆ
จนทริสตองต้องเอียงตัวหนี
แต่จะทำให้หลุดพ้นจากคนที่ชอบแกล้งไม่รู้เวลานี้ได้อย่างไรในเมื่อข้อมือขาวๆ
นั้นถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนายิ่งกว่าโซ่ตรวนใดๆ
“พี่มิก้าา...ฮาา...อึก”
ร่างเล็กห่อไหล่ “อยะ อย่าแกล้งผม...ฮะ ไม่เอา” เจ้าตัวไม่รู้สึกถึงเสียงตอบรับของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย ได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจกระฟึดกระฟัดที่กำลังเมามันอยู่กับการพรมจูบไปทั่วลาดไหล่สีน้ำนม
มิก้าปล่อยมือทริสตองแล้วและหันมากอดแผ่นหลังลื่นมือของเด็กหนุ่มอย่างห้ามใจไม่อยู่แทน
ร่างกายกำยำบดเบียดกับอีกคนหนึ่งจนแทบไม่มีช่องว่างที่ห่างกัน
ทำเอาร่างเล็กที่โดนกดทับอยู่รู้สึกถึงความร้อนรุมจากร่างกายของรุ่นพี่ที่ผะผ่าวราวกับจะหลอมละลายตัวเองไปด้วยในขณะเดียวกัน
มิก้าปลุกปล้ำเด็กที่โยเยต้องการนอนเสียจนมีอารมณ์ขึ้นมา
ได้อย่างชำนาญและช้ำชอง
ร่างสูงรู้สึกสนุกไม่น้อยที่ได้เอาคืนคนที่กัดนิ้วเค้าเสียจนอีกฝ่ายต้องร้องเสียงหวานกระเซ้าออกมาและไม่มีทางเลือกไหนเลยที่จะต่อรองกับเค้า
ถึงแม้ว่ามันจะดูเกินควรไปหน่อยแต่ร่างสูงก็มีผลประโยชน์พลอยได้ที่ตั้งใจเอาไว้อยู่แต่ไหนแต่ไรแล้ว
มือแกร่งเลื่อนลงไปขยำก้นกลมกลึงเบาๆ
เพื่อเป็นการทักทายพอให้ทริสตองได้สะดุ้งตัวก่อนจะเคลื่อนมาด้านหน้าที่บางอย่างกำลังตื่นขึ้น
“อ๊ะ อ๊า! อื้ออ อย่าจับ มะ
ไม่เอา...พี่มิก้า” เด็กหนุ่มคราง
รั้งข้อมือแข็งแรงนั้นไว้อย่างรวดเร็วราวกับโดนกระแสไฟสะกิด ก่อนจะร้องประท้วงของจริงเป็นชื่อของเค้าอย่างแง่งอน.....นี่จะไม่ยอมให้กันนอนจริงๆ
ใช่ไหม?
ชายหนุ่มร่างสูงที่มีสีหน้าภูมิใจกับการกระทำของตัวผละหน้ามาจากกิจแห่งการใช้ปากสร้างรอยรักแล้วก็เจอเข้ากับใบหน้าที่เว้าวอนขอนอนอย่างน่าสงสารของรุ่นน้องที่หารู้ไม่เลยว่าตนเองไม่ได้แสดงสีหน้าของความง่วงออกมาเลย
มิก้าเห็นใบหน้าที่อ่อนล้า
แต่มันถูกเคลือบด้วยความกระจ่างใสที่สวนทางกับจมูกโด่งรั้นแต่ขึ้นสีชมพูระเรื่อนั้น
ไหนจะยังริมฝีปากบางที่กลายมาเป็นบวมเจ่อจนขึ้นสีเชอร์รี่สดนั่นอีกล่ะ
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่รื้นน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัวช่างเข้าคู่กันได้ดีกับคิ้วปลายเรียวคู่เข้มที่ยกขึ้นอย่างขอความเห็นใจ
นั่นไม่ใช่ใบหน้าของคนอยากจะนอนเลยแม้แต่นิดเดียว......มิก้าออกความคิดเห็น อย่างน้อยๆ
มันก็ทำให้เค้าไม่เกิดอาการอยากจะแยกย้ายกันนอนก็แล้วกัน
แต่ดูท่าเด็กหนุ่มของเค้าคงจะไม่รู้เนื่อรู้ตัวเลยว่าประพฤติตัวไม่น่าปล่อยให้นอนมากแค่ไหน เจ้าตัวคงยังงอแงต้องการพักผ่อนอยู่ต่อไป ดังนั้นร่างสูงจึงรั้งท้ายทอยของร่างเล็กมาใกล้ๆ
เพื่อป้อนสัมผัสจูบอ่อนโยนให้
“อืออ”
ทริสตองที่ถูกล้วงล่ำเข้าไปในโพรงปากอุทานอยู่เล็กน้อยก่อนจะถูกชักนำด้วยการกวาดต้อนและลากไล่อย่างมีประสบการณ์จากมิก้า
และคำชักชวนให้วิ่งเล่นในโพรงปากของคนเป็นพี่ก็ถูกตอบรับในที่สุด เด็กหนุ่มยอมเล่นด้วย
กวัดเกี่ยวและโรมรันด้วยกันเสียจนน้ำใสจากปากไหลลอดออกมา มิก้ายังคงไม่หลุดมือด้านล่าง
ขยับเนิบช้าต่อไป
ก่อนเค้าจะยื่นข้อเสนอเป็นคำขาดให้เด็กที่อาจจะโกรธเค้าเพราะไม่ยอมปล่อยให้หลับนอน
“อยู่กับพี่สักสิบนาทีสิ”
ร่างสูงว่า “ถ้าทำพี่หมดแรงจะยอมให้นอนเลย” ร่างสูงยิ้มแต่อีกคนหนึ่งกลับยื่นปากใส่
ช่างกล้าพูดนะมิก้า......
.
.
.
TBC.
-------------------------------------------------------------------------------
อั๊ก! พี่อย่าแกล้งน้องสิคะ
เป็นสุภาพบุรุษจะต้องอ่อนโยนและให้เกียรติสิคะ //มิก้าบอก....อย่ามายุ่ง!// ฮาาา พี่ท่านคงเกิดอารมณ์อยากแกล้งน้องล่ะมั้งค่ะ ทริสตองก็น่ารักเว่อร์เลยค่ะ หนูดูเดียงสาแถมยังขี้อายเหมือนแสงจันทร์อีกต่างหากน่าถนอมมากเลยลูกกกก
>< //ดูมันเปรียบ//
มิก้าไม่มีอะไรจะพูดมากหรอกค่ะก็ยังเซ็กซี่เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือความแซ่บ!
อูยยยยย ไรท์ล่ะชอบจริงๆ เลยค่ะที่เวลาหื่นใส่น้อง....เอ้ย เดี๋ยว
เดี๋ยวก่อน
เดี๋ยวเค้าก็รู้กันหมดหรอกว่าแกเป็นคนยังไง
รู้กันหมดและ
พอ...เลิกรั่ว 555555 บอกไม่ถูกเลยค่ะว่าดีใจแค่ไหนที่ได้ลงฟิคอีกครั้งหนึ่ง
ตอนออกเล่มที่เพิ่งผ่านมายอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยเลยค่ะเพราะทำคนเดียว
แต่รีดพอใจก็หายเหนื่อยเลยค่ะ ชื่นนนนนจายยยยย ฮาาา //สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด//
แต่ว่า Part นี้ค้าง รอก่อนนะคะ รอก่อนนนน เดี๋ยวจะรีบลงเลยค่ะ หากแรงอวยดีจะปั่นองค์ให้ครบคืนนี้เลยค่ะ รูปบานแตไม่รู้จะเอารูปไหนลงดีเลย 555555 The
Secrets เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร สอบผ่านคววามรู้สึกของรีดๆ หรือไม่
ช่วยคอมเม้นท์ให้ไรท์หน่อยนะคะ ><
อ่อ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสของไรท์เองค่ะ ^^ ขอบคุณรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ >< //หลบรองเท่ารีด Part 2 เค้ารออยู่นะยะ! -*-//
อ่ะ แถมๆๆๆ คริๆๆ >///<
ด้วยรักและแรงหื่น -.,-
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น