วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

[SF - ช้างศึกไทย] + [Part 1] The Secrets...ลับ(ไม่)ลับ หนุ่มน้อยน่ารักกับคุณชายขี้แกล้ง - Mika xTristan



ภาพนี้ต้องการให้ใหญ่ 55555




กราบสวัสดีค่ะ รีดๆ ที่รักของไรท์ทุกท่านขาาาา M><M  อร๊ายยยยยยยยย  หายไปนานอยู่พอควรเลยค่ะ  ตั้งเดือนกว่าแหนะที่ไม่ได้ลงฟิค (ใช่ไหมนะ?) 555555   อร๊ายๆๆๆๆๆ  ต้องขอกรี๊ดหน่อยค่ะ เพราะตอน King’s Cup ที่ไทยแข่งกับซีเรียเนี่ยดีงามากเลยค่ะ  ไหนจะภาพเก็บตกจากตอนซ้อมอีก อร๊ายยยยยย! เลือดสาววายไรท์แตกเลยค่ะ แบบว่าจะไม่เขียนแล้วนะ แต่ว่าทริสตองน้อยๆ ก็น่ารักเหลือเกินค่ะ  ท่านพี่มิก้าก็...โอ๊ยยย แซ่บ! ไหลเลยจะอดใจไหว ไรท์ก็เลยเปิดหน้า Word ขึ้นมาค่ะ เขียนสองบรรทัดแล้วกดทิ้งเลยค่ะ 55555 คิดอยู่ว่าจะเขียนดีไหม กลัวเขียนไม่จบ

แต่พอครึ่งหลังมาเจอมิก้าลงสนามแล้วเห็นทริสตองไรท์เปิดอีกรอบแล้วเขียนไปสองหน้าเลยค่ะ 55555 แหม่! เสียดายพ่อกับแม่บอกให้นอนซะก่อนไม่งั้นคงจะแป้นกระจายไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว 55555555  ตอนแรกกะจะเขียนสั้นๆ พอให้หายคิดถึงสองคนนี้กันค่ะ แต่ไรท์เตลิดไปนิสหนึ่งค่ะ  ย้ำว่า นิดหนึ่ง จริงๆ ค่ะ

คือนั่งดูบอลไปไรท์ไม่ทำอะไรหรอกค่ะนอกจากอวยสองคนนี้อย่างเดียวเลย 55555  แต่แน่นอนว่าต้องลุ้นเกมส์ด้วย  โอยยยยย  อะไรจะเหมาะสมกันประล่ำประเหลือขนาดนั้นค่ะ 555555  โอเคค่ะ  ไรท์ว่าเราไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ  เออะ! ลืมไปเลยค่ะ เรื่องชื่อเรื่องไรท์นั่งคิดอยู่เป็นชั่วโมงเลยค่ะ คิดไม่ออก  คิดไม่ตก  จนในที่สุดก็ได้ออกมาอย่างที่เห็นค่ะ 555555 คือมันดูน่ารักและเป็นปัญญาด้านนิ่มไปไหม?  ถามตัวเองอยู่หลายทีค่ะก่อนจะบอกว่า “เอาก็เอาดิ!” 555555

โอเค เลิกบ้าได้แล้วไอ้ไรท์บ้า!!  เชิญรีดๆ ไปอ่านกันเลยค่ะ ^^  





------------------------------------------------------------------------------------



“พี่มิก้าา  พี่มิก้า!” เสียงเรียกดังมาจากเด็กหนุ่มที่กระชับสายสะพายกระเป๋าบนบ่าเล็ก  อีกมือหนึ่งก็โบกขึ้นจนสุดแขนเพื่อส่งสัญญาณหาอีกคนหนึ่งไปด้วย

“ทริสตอง” ชายหนุ่มที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเช่นกันวาดยิ้มออกมาก่อนจะเดินฝ่าฝูงเพื่อนร่วมทีมเข้าไปหารุ่นน้องที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง

แหมมม  หวานกันจังเลยน้าพวกเอ็ง  ห้องก็แคบแค่นี้ทำไมจะต้อง พี่มิก้าา  ทริสตองงด้วยวะ  ตะโกนหากันเป็นหนังอินเดียไปได้” เกริกฤทธิ์ที่นั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวยิ้มหมั่นไส้พร้อมทำเสียงเลียนแบบสองคนที่หันมามองเค้าที่นั่งอยู่กลางห้อง ก่อนอีกคนหนึ่งที่ทำเสียงกระเหน็กกระแหน่ได้อย่างน่าแจกมะแหงกมากกว่าจะถือผ้าขนหนูแล้วยื่นหน้าเข้ามาในกรอบสนทนาเป็นทัพเสริม

พี่มิก้าาา  ทริสตองงงง...จ๋าาา

“ฮ่าๆๆ เจ...เหมือนว่ะ เหมือน เหมือนๆ ฮ่าๆๆ” ทั้งห้องเครื่องฮาครืนก่อนคนที่นุ่งผ้าขนหนูและมีอีกผืนหนึ่งพาดไหล่คอยท่าจะเข้าไปอาบน้ำต่อจะยิ้มแป้นออกมาจนตาหายไปจากใบหน้า  ก่อนมิก้าที่อยู่ข้างๆ จะแกล้งกระตุกผ้าขนหนูช่วงล่างเบาๆ

อุ่ย อย่าทำงี้ดิพี่ ลมมันจะเย็นมากเอานะ  ตัวเปล่าๆ เลยเนี่ย” เจ้าเจ ชนาธิป กอดตัวเองและยึดปมผ้าขนหนูไว้แน่น พลางยิ้มแฮ่ๆ อย่างใจไม่ดี  ไม่รู้ว่าถ้าผ้าขนหนูหลุดไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  กลางห้องพักนักกีฬาที่เนืองแน่นเต็มไปด้วยคนแบบนี้เสียด้วย มีหวังคงได้อายเค้าตายแหงๆ

“กลับบ้านด้วยกันว้อย  หุบปากไปเลย  ไม่พูดสักอย่างจะตายไหมหา?” ร่างสูงเหมาะรวม ไม่ได้กล่าวหาเพียงแค่ชายหนุ่มร่างเล็กเป็นหลักกิโลที่บ่นกระปอดกระแปดปนรอยยิ้มของชนาธิป

“เป็นแฟนกันอ่อ กลับบ้านด้วยกันอ่ะ?” มิวายคนพูดมาก  ยึกยักไม่หยุดยังก็ไม่ยอมเข็ด เอ่ยเย้าคนคนที่ร้อนตัวแก้ข่าวอย่ารู้ทัน ก่อนกระโดออกห่างมาจากมิก้าที่ยื่นมือมาจะกระตุกอีกรอบแต่คราวนี้คิดจะเอาให้หลุดไปซะเลย  พูดมากดีนัก  แต่ก็ต้องชวดไปเพราะคนตัวเตี้ยไวกว่ามาก

“ทางผ่านพอดีหรอก” เค้าว่า เสียงห้วนเพราะโดนจ้องมองด้วยสายตากระลิ่มกระเลี่ยที่ดูไม่เชื่อจากเพื่อนในห้อง  พร้อมกับทั้งกล่าวแทนทริสตองที่เอาแต่บีบสายกระเป๋าแล้วก้มหน้านิ่งไม่มองใครทั้งสิ้นเพราะแม้แต่ร่างสูงของมิก้าก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันอันแรงกล้าที่อยากจะสอดรู้สอดเห็นของคนในทีม

“โอ้ เหรออ งั้นหรอกเหรอ ทางผ่านพอดี” เพื่อนๆ ช่วยกันสาวเรื่องต่อกันอีกก่อนจะโดนชายหนุ่มลูกครึ่งเวลส์ - ใต้บอกปัดอย่างรำคาญใจ

“เฮ้ยย จะถามอะไรกันนักหนาฮึ  วันนี้รีบกลับ จะกลับแล้ว” มิก้าว่าจนสำเนียงใต้โผล่แลบออกมา  ก่อนจะเดินนำรุ่นน้องที่ถูกอ้างว่าติดรถไปด้วย ไปยังรถของตัวเอง….เดินออกไปเสียให้พ้นๆ พวกเสียงนกเสียงกา

ซึ่งแท้จริงแล้วชายหนุ่มทั้งสองไม่เคยคุยกันจริงจังนักว่าจะทำอย่างไรหากเพื่อนๆ ในทีมทั้งทีมชาติและสโมสรรู้ว่าทั้งสองคนคบกันอยู่  ในห้องตลอดจนเดินออกมามิก้าเดินนำทริสตองอย่างเจ้าของรถที่ควรรับรองแขก  แต่พอลับสายตาของคนอื่นไปแล้วร่างสูงเจ้าของรถราคาแพงก็หยุดรอแล้วหันไปผายมือรอรับเด็กหนุ่มที่จ้ำตามมาให้อยู่ข้างกาย ก่อนจะออกเดินไปด้วยกัน  มิก้ายอมรับรู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่สามารถเปิดเผย จนพาลให้น้องชายต้องคอยหลบสายตาและข้อซุบซิบนินทาของคนอื่นไปด้วย  บางทีทริสตองอาจไม่อยากใช้ชีวิตใต้เงาแบบนี้

แต่ชายหนุ่มลูกครึ่งเวลส์ก็ไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มที่เค้าเอาแต่ประคบประหงมปกป้องจากคนอื่นนั้นรู้สึกดีใจแค่ไหนที่รุ่นพี่ยอมเดินอยู่ข้างกัน  ทริสตองหน้าแดงทุกครั้งที่โดนมิก้าจับมือจนหลายครั้งที่เจ้าตัวอดยิ้มออกมาอย่างเนียมอายไม่ได้เมื่ออีกคนหนึ่งจับได้ว่ายังไม่ชินเสียทีที่คนเป็นแฟนกันจะทำแบบนี้

มิก้าดึงกระเป๋ามาจากทริสตอง ปลดล็อครถก่อนจะโยนกระเป๋าของพวกเค้าใส่สัมภาระยิบย่อยแต่จำเป็นไปที่ด้านหลังของรถ  ทริสตองขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้วในตอนที่มิก้าประจำตำแหน่งคนขับหลังพวงมาลัย  แต่เด็กหนุ่มดันติดปัญหาเรื่องการคาดเข็มขัดที่ตัวเองต้องทะเลาะกับมันอยู่เป็นประจำจนต้องเดือดร้อนพี่ชายมายุติข้อวิวาทให้อีก  มิก้าหัวเราะพร้อมบอกทริสตองว่าต้องออกแรงเยอะหน่อย แต่เด็กหนุ่มก็ทำหน้าเหมือนไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาดใส่เค้าเสียอย่างนั้น  กระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วรถคันสวยก็แล่นออกไปบนท้องถนนอย่างรวดเร็ว

“ทริสตองไม่เห็นจะต้องเกรงใจพี่เลยนี่นา” มิก้ากล่าว ไม่เข้าใจความเกรงใจของรุ่นน้องหรือเป็นเพราะว่าอีกฝ่าหนึ่งยังไม่ชินกันแน่

คนโดนกล่าวพิงหลังกับเบาะแล้วทำทีมองออกไปนอกหน้าต่าง

.....สงสัยจะยังไม่ชินสินะ.....

มิก้ายิ้ม “เฮ้ออ ลืมไปสินะ” จงใจพูดลอยๆ ให้อีกคนหนึ่งได้แก้มแดงมากกว่าเดิมเล่นๆ “เด็กยังไม่เคยมีแฟนนี่น้าา”

“ไม่ใช่ซะหน่อย!” ทริสตองสะบัดหน้าขึ้นมามองรุ่นพี่ที่ชอบหาเรื่องแกล้งเจ้าตัว

“เหรอ  แล้วแฟนคนแรกของทริสตองเป็นใครอ่ะ?” เข้าแผนของร่างสูง เค้าเด็กหนุ่มไปติดกับแล้วทำเอาทริสตองตอบไม่ได้อีก

อีกคนหนึ่งนึกอยากจะบ่นใส่ก็คิดหาคำไม่ได้  ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ แล้วหุบลงไปตามเดิมก่อนจะมองคนที่อายุมากกว่าตาเขียวเพราะทำอะไรไม่ได้  แต่ชายหนุ่มร่างสูงก็เอานิ้วเขี่ยแก้มของคนตาเขียวเล่นเหมือนหยอกเด็กน้อย  เนื่องจากรอยยิ้มที่เก็บไว้ไม่มิดของทริสตองมันดูน่ารักน้อยเสียเมื่อไรกันล่ะ

“พี่มิก้าอย่าแหย่สิ” เด็กหนุ่มปัดออกก่อนจะถูกจิ้มอีก  ชายหนุ่มสองคนที่ไม่ใช่เด็กน้อยกันแล้วหยอกล้อกันไปอยู่พักหนึ่ง กระทั่งยุติในตอนที่เด็กหนุ่มกัดเข้าที่นิ้วชี้ของรุ่นพี่จนอีกคนหนึ่งขู่เข้าไว้ว่าอย่าให้ได้ลงรถเมื่อไรเค้าจะเอาคืนอย่างสาสมเป็นแน่

คราวนั้นจึงเป็นคราวที่ทริสตองได้หัวเราะบ้าง  และในที่สุดทั้งสองก็มาถึงจุดหมายเสียที  มิก้าคิดในใจเค้าโกหกออกไปคำโตเลยตอนที่บอกเพื่อนๆ ในห้องเก็บตัวว่าจะพาทริสตองไปส่งบ้านเนื่องจากมันเป็นทางพาพอดีแต่ว่าแท้จริงแล้วเค้ากลับพาน้องมาที่คอนโดของตัวเอง  ร่างสูงคิ้วกระตุก ก็ไม่ใช่ว่าคิดอกุศลหรอกนะ

......ก็รถมันติดอีกแล้วนี่หว่า......

ร่างสูงจอดรถแล้วหยิบเอากระเป๋าของรุ่นน้องมาถืออีกครั้งก่อนจะเข้าไปเรียกปลุกเจ้าตัวเบาๆ เพราะโดนความเหนื่อยจากเกมส์ของคืนนี้เล่นงานเอาอย่างไม่เป็นท่า แล้วแถมไม่แถมก็เรียกยากเสียด้วยสิ

“ทริสตอง” ไม่ยอมตื่นเลย “ตื่นเถอะ เรามาถึงแล้ว” ไร้วี่แววตอบรับ  ร่างสูงถอนหายใจอย่างอ่อนใจ  หากเป็นในเวลาปรกติเค้าคงจะจนปัญญาปลุกไปแล้ว เนื่องจากโดยส่วนตัวก็เป็นคนไม่ชอบจู้จี้คนอื่นอยู่แล้ว  การไปรบกวนใครต่อใครมิก้าไม่ค่อยชอบทำนักมันเป็นนิสัยที่ดีอย่างหนึ่งของเค้า  ครั้นจะปล่อยให้อยู่ตรงนี้ก็กะไรอยู่ คงไม่วายจะต้องอุ้มขึ้นไปส่งถึงห้องอย่างเสียไม่ได้เป็นแน่  แต่ว่านั่นหมายถึงเมื่อก่อนในตอนที่ร่างสูงยังไม่ได้จูบทริสตองและไม่เคยรู้มาก่อนว่าเด็กคนนี้แอบชอบเค้าอยู่

ตอนนั้นกับตอนนี้มันคนละเรื่องกันแล้ว...

ดังนั้น ชายหนุ่มที่ลอบยิ้มกริ่มอยู่คนเดียวเงียบๆ อย่างดูร้ายกาจจึงค่อยๆ โน้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากคู่บางแต่ขึ้นสีระเรื่อสดนั้นอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมทั้งดึงดูดย้ำอย่างเป็นจังหวะ ก่อนเด็กขี้เซาจะเริ่มขยับตัวยุกยิกไปมา......ทริสตองตื่นแล้ว  มิก้าจึงเลื่อนไปจูบแก้มใสอย่างหนักหน่วงแล้วกระซิบเบาๆ

“ตื่นได้แล้วทริสตอง” เสียงทุ้มกดต่ำลงแต่นุ่มนวล

“หืม?....อืออ  อือ  อืม อืม”

เค้ายิ้มอีกเมื่อได้ยินเสียงงัวเงียของคนที่ไม่ยอมตื่น ให้ตาย มิก้าเกือบได้แบกทริสตองขึ้นไปอีกรอบเพราะเจ้าตัวยังคงง่วงงาวหาวนอนอยู่  เค้าต้องรออยู่พักหนึ่งกว่าเด็กขี้เซาจะขยี้หูขยี้ตาให้ตื่นแล้วออกจากรถมาได้เสียที  ร่างสูงใจเย็นพอที่จะรอและอารมณ์ดีทุกครั้งเมื่อได้เห็นทริสตองที่ต้องการความดูแล

พวกเค้าเดินเข้าไปในตัวคอนโดซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งคนเป็นพี่ต้องดึงมือน้องให้ถอยกลับมาเพราะเดินเตลิดลิฟต์ไปหลายก้าวอยู่ 

“ทริสตองยืนตรงๆ ก่อน ทริสตอง...” มิก้าที่ถือกระเป๋าอยู่ก็ไม่สามารถช่วยอีกคนหนึ่งได้ จึงทำได้แต่เพียงใช้ไหล่ดันประคองให้ร่างเล็กไม่เอนตัวล้มลงแต่เพียงเท่านั้น “ทริสตอง เดี๋ยว ตื่นก่อนดิ ทริสตอง  อ้าว เฮ้ย...อืมม” มิก้าครางในลำคอ......ยอมใจเลย

ยืนพิงลิฟต์หลับอีกต่างหาก

เค้าทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มและแอบหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง



********************************************************************



“เอาล่ะถึงแล้ว”



.



.



“อะ อา...ฮึก  พี่มิก้า อย่า...”

เด็กหนุ่มร่างกายขาวเนียนที่ถูกบังคับทำให้เปลือยเปล่านั่งพิงหัวเตียงสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู ตัวสั่นอยู่ตรงนั้น  หน้าของเค้าแดงฉ่า โดยที่มีชายหนุ่มร่างสูงกำยำก้มประกบปากอยู่ด้านล่างของลำตัวที่ขยับยุกยิกอย่างจั๊กจี้นั้น

“อ๊าา อืมม ฮึก อ่าา พี่มิก้าา...” เสียงเด็กหนุ่มร้องขัด ขอคั่นเวลา “ฮืมม ผม ผมง่วงนะ” ทริสตองบอกในตอนที่สัมผัสชื้นแฉะล่วงวนอยู่ที่รอยปุ๋มน่ารักบนหน้าท้อง  คนด้านบนที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าห่มผืนหนาอย่างหมิ่นเหม่อไม่ได้สนใจว่ามันจะร่นลงมาหรือไม่  เค้าเองก็เปลือยเปล่า  ไม่สนใจ แม้แต่ประโยคยื่นอุทธรณ์ที่ชวนให้เห็นใจกันของร่างเล็ก  หนำซ้ำร่างสูงยังเอื้อมขึ้นไปล็อคข้อมือเล็กที่ปัดป่ายตัวเค้าให้ผละออกไป ให้ติดกับหัวเตียงก่อนจะเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาขึ้นมาบรรจงจูบยอดอกสีชมพูที่กำลังส่ายไปมาเพื่อหนีคนขี้แกล้งที่ไม่ยอมให้เจ้าตัวนอนหลับเสียทีอีกด้วย  แต่หารู้ไม่มันยิ่งทำให้มิก้ารู้สึกว่ายอดสีลูกกวาดนั้นน่ากินขึ้นมากว่าเดิมเป็นสองเท่า

“อ้าาา...า อือ ฮะ! อา พี่มิก้าอย่ากัดสิ” เด็กหนุ่มรู้สึกว่าคนเป็นพี่หนักปากไปหน่อยจนเจ้าตัวต้องทำหน้าเบ้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มร่างสูงจึงใช้ลิ้นเลียยอดอกที่ถูกเผลอทำให้บอบช้ำจนแข็งเป็นไตอย่างเอาใจและอ้อยอิ่ง  ก่อนจะขยับตัวขึ้นมา เหยียดกายขึ้นตามความสูงแล้วโน้มหน้าเข้ามาหาเด็กน่าแกล้งของเค้า

“ที่กัดนิ้วพี่เมื่อกี้นี้เจ็บมากเลยนะ” เค้ากระซิบพร้อมขบกดติ่งหูนิ่มไปด้วยแล้วหัวเราะหึๆ ในลำคอ

ทริสตองตัวสั่นจนหน้าเสียเพราะความเสียวซ่านจากจุดอ่อนไหวนิ่มๆ นั้น “อื้ออ มะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยหนิ” เจ้าตัวกัดริมฝีปากจนขึ้นขอบเป็นสีขาว เมื่อริมฝีปากซุกซนและจมูกโด่งคมไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น “อย่าทำผม...อืออ ฮึก! อื้ออ พี่มิก้า

ร่างสูงรู้ว่าร่างเล็กอ่อนไหวแค่ไหนกับการสัมผัสวาบหวาม  เค้าจึงใช้ทั้งจมูกและปากกลั่นแกล้งเด็กหนุ่มต่อไปเรื่อยๆ จนทริสตองต้องเอียงตัวหนี  แต่จะทำให้หลุดพ้นจากคนที่ชอบแกล้งไม่รู้เวลานี้ได้อย่างไรในเมื่อข้อมือขาวๆ นั้นถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนายิ่งกว่าโซ่ตรวนใดๆ

“พี่มิก้าา...ฮาา...อึก” ร่างเล็กห่อไหล่ “อยะ อย่าแกล้งผม...ฮะ ไม่เอา” เจ้าตัวไม่รู้สึกถึงเสียงตอบรับของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย  ได้ยินเพียงแต่เสียงลมหายใจกระฟึดกระฟัดที่กำลังเมามันอยู่กับการพรมจูบไปทั่วลาดไหล่สีน้ำนม  มิก้าปล่อยมือทริสตองแล้วและหันมากอดแผ่นหลังลื่นมือของเด็กหนุ่มอย่างห้ามใจไม่อยู่แทน  ร่างกายกำยำบดเบียดกับอีกคนหนึ่งจนแทบไม่มีช่องว่างที่ห่างกัน ทำเอาร่างเล็กที่โดนกดทับอยู่รู้สึกถึงความร้อนรุมจากร่างกายของรุ่นพี่ที่ผะผ่าวราวกับจะหลอมละลายตัวเองไปด้วยในขณะเดียวกัน

มิก้าปลุกปล้ำเด็กที่โยเยต้องการนอนเสียจนมีอารมณ์ขึ้นมา ได้อย่างชำนาญและช้ำชอง  ร่างสูงรู้สึกสนุกไม่น้อยที่ได้เอาคืนคนที่กัดนิ้วเค้าเสียจนอีกฝ่ายต้องร้องเสียงหวานกระเซ้าออกมาและไม่มีทางเลือกไหนเลยที่จะต่อรองกับเค้า  ถึงแม้ว่ามันจะดูเกินควรไปหน่อยแต่ร่างสูงก็มีผลประโยชน์พลอยได้ที่ตั้งใจเอาไว้อยู่แต่ไหนแต่ไรแล้ว

มือแกร่งเลื่อนลงไปขยำก้นกลมกลึงเบาๆ เพื่อเป็นการทักทายพอให้ทริสตองได้สะดุ้งตัวก่อนจะเคลื่อนมาด้านหน้าที่บางอย่างกำลังตื่นขึ้น

อ๊ะ อ๊า! อื้ออ อย่าจับ มะ ไม่เอา...พี่มิก้า” เด็กหนุ่มคราง รั้งข้อมือแข็งแรงนั้นไว้อย่างรวดเร็วราวกับโดนกระแสไฟสะกิด  ก่อนจะร้องประท้วงของจริงเป็นชื่อของเค้าอย่างแง่งอน.....นี่จะไม่ยอมให้กันนอนจริงๆ ใช่ไหม?

ชายหนุ่มร่างสูงที่มีสีหน้าภูมิใจกับการกระทำของตัวผละหน้ามาจากกิจแห่งการใช้ปากสร้างรอยรักแล้วก็เจอเข้ากับใบหน้าที่เว้าวอนขอนอนอย่างน่าสงสารของรุ่นน้องที่หารู้ไม่เลยว่าตนเองไม่ได้แสดงสีหน้าของความง่วงออกมาเลย

มิก้าเห็นใบหน้าที่อ่อนล้า แต่มันถูกเคลือบด้วยความกระจ่างใสที่สวนทางกับจมูกโด่งรั้นแต่ขึ้นสีชมพูระเรื่อนั้น ไหนจะยังริมฝีปากบางที่กลายมาเป็นบวมเจ่อจนขึ้นสีเชอร์รี่สดนั่นอีกล่ะ  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่รื้นน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัวช่างเข้าคู่กันได้ดีกับคิ้วปลายเรียวคู่เข้มที่ยกขึ้นอย่างขอความเห็นใจ

นั่นไม่ใช่ใบหน้าของคนอยากจะนอนเลยแม้แต่นิดเดียว......มิก้าออกความคิดเห็น  อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เค้าไม่เกิดอาการอยากจะแยกย้ายกันนอนก็แล้วกัน  แต่ดูท่าเด็กหนุ่มของเค้าคงจะไม่รู้เนื่อรู้ตัวเลยว่าประพฤติตัวไม่น่าปล่อยให้นอนมากแค่ไหน  เจ้าตัวคงยังงอแงต้องการพักผ่อนอยู่ต่อไป  ดังนั้นร่างสูงจึงรั้งท้ายทอยของร่างเล็กมาใกล้ๆ เพื่อป้อนสัมผัสจูบอ่อนโยนให้

“อืออ” ทริสตองที่ถูกล้วงล่ำเข้าไปในโพรงปากอุทานอยู่เล็กน้อยก่อนจะถูกชักนำด้วยการกวาดต้อนและลากไล่อย่างมีประสบการณ์จากมิก้า  และคำชักชวนให้วิ่งเล่นในโพรงปากของคนเป็นพี่ก็ถูกตอบรับในที่สุด  เด็กหนุ่มยอมเล่นด้วย  กวัดเกี่ยวและโรมรันด้วยกันเสียจนน้ำใสจากปากไหลลอดออกมา  มิก้ายังคงไม่หลุดมือด้านล่าง ขยับเนิบช้าต่อไป  ก่อนเค้าจะยื่นข้อเสนอเป็นคำขาดให้เด็กที่อาจจะโกรธเค้าเพราะไม่ยอมปล่อยให้หลับนอน

“อยู่กับพี่สักสิบนาทีสิ” ร่างสูงว่า “ถ้าทำพี่หมดแรงจะยอมให้นอนเลย” ร่างสูงยิ้มแต่อีกคนหนึ่งกลับยื่นปากใส่

ช่างกล้าพูดนะมิก้า......



.



.



.



TBC.



-------------------------------------------------------------------------------



อั๊ก! พี่อย่าแกล้งน้องสิคะ  เป็นสุภาพบุรุษจะต้องอ่อนโยนและให้เกียรติสิคะ  //มิก้าบอก....อย่ามายุ่ง!//  ฮาาา  พี่ท่านคงเกิดอารมณ์อยากแกล้งน้องล่ะมั้งค่ะ ทริสตองก็น่ารักเว่อร์เลยค่ะ  หนูดูเดียงสาแถมยังขี้อายเหมือนแสงจันทร์อีกต่างหากน่าถนอมมากเลยลูกกกก >< //ดูมันเปรียบ//  มิก้าไม่มีอะไรจะพูดมากหรอกค่ะก็ยังเซ็กซี่เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือความแซ่บ! อูยยยยย ไรท์ล่ะชอบจริงๆ เลยค่ะที่เวลาหื่นใส่น้อง....เอ้ย เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน  เดี๋ยวเค้าก็รู้กันหมดหรอกว่าแกเป็นคนยังไง

รู้กันหมดและ พอ...เลิกรั่ว 555555  บอกไม่ถูกเลยค่ะว่าดีใจแค่ไหนที่ได้ลงฟิคอีกครั้งหนึ่ง ตอนออกเล่มที่เพิ่งผ่านมายอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยเลยค่ะเพราะทำคนเดียว แต่รีดพอใจก็หายเหนื่อยเลยค่ะ ชื่นนนนนจายยยยย ฮาาา //สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด// 

แต่ว่า Part นี้ค้าง  รอก่อนนะคะ รอก่อนนนน  เดี๋ยวจะรีบลงเลยค่ะ  หากแรงอวยดีจะปั่นองค์ให้ครบคืนนี้เลยค่ะ  รูปบานแตไม่รู้จะเอารูปไหนลงดีเลย 555555 The Secrets เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร สอบผ่านคววามรู้สึกของรีดๆ หรือไม่ ช่วยคอมเม้นท์ให้ไรท์หน่อยนะคะ ><

อ่อ อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสของไรท์เองค่ะ ^^  ขอบคุณรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ ><  //หลบรองเท่ารีด  Part 2 เค้ารออยู่นะยะ! -*-// 

อ่ะ แถมๆๆๆ คริๆๆ >///<






ด้วยรักและแรงหื่น -.,-
Ray - Aund




ไม่มีความคิดเห็น: