มาแล้วค่ะ หลังจากที่หายไปหลายวันอยู่ 5555 ช่วงนี้คงจะไม่ได้ลงฟิคถี่นักนะคะ
เพราะว่างานเยอะอย่างไม่ปราณีไรท์เลยค่ะ ไรท์จะพยายามลงในทุกๆ อาทิตย์นะคะ จะได้ไม่ขาดช่วงนานนัก เลยต้องขออภัยรีดๆ ในเรื่องของความล่าช้ามา ณ
ที่นี้ด้วยนะคะ M_ _M
อร๊ายยยยยย ปรับฟีลมาเข้าเรื่อกันอย่างรวดเร็วค่ะ >< ฮ่อลลล ฟินนิคกำลังจะไปแคปปิตอลแล้ว จะดำเนินไปตามเนื้อเรื่องในหนังในแบบของไรท์นะคะ
5555 ชอบความใกล้ชิดของพ่อฟินนิคแมนและพีต้าน้อยๆ
มากเลยค่ะ....อุ๊บ!! อย่าพวดเซ่! >0<
ก็
มันก็จะเป็นไปตามเนื้อเรื่องอยู่อ่ะเนอะหลังจากนี้ เชื่อว่ารีดหลายๆ ท่านก็คงจะรู้กันแล้วแน่นอนค่ะ ถ้าใครชอบฟิควายที่สนุกมีฉากตื่นเต้นพอให้มีรสชาติแปลกใหม่ เรื่องนี้รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนเลยค่ะ
(แน่นอน ไรท์รวมถึงภาคแล้วๆ ที่ผ่านมาของ The Hunger
Game ด้วยค่ะ 5555 โดยเฉพาะสองภาคแรก ทั้งตื่นเต้นและบีบหัวใจ เอื้อออออ)
โอเคค่ะ เราไปอ่านกันเลยค่ะ >< !!
--------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเดินลงจากเครื่องบิน
มีทั้งทหารของฝ่ายกบฏและคนธรรมดาที่ไร้ที่อยู่เต็มไปหมด
พวกเค้าพากันมองผมเป็นตาเดียวจนผมต้องหยุดเดินแล้วมองกลับไป นึกอยากถามไม่น้อยว่าผมไม่เป็นที่ต้อนรับหรือเปล่า
แต่ไม่เลย...สายตาของพวกเค้าไม่ได้บอกว่าอย่างนั้น และผมเดาว่าแคทนิสก็คงจะถูกมองแบบเดียวกันนี้ในตอนที่เธอมาถึง
มีชายในเครื่องแบบคนหนึ่งนำทางผมไปสมทบกับแคทนิสและพรรคพวก
และดูเหมือนว่าผมจะไปถึงทันเวลาพอดี
คณะเดินทางอย่างไม่เป็นทางการกำลังรวมพลในตอนนั้นเอง
แคทนิสก็เลิกสนใจผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจัดแจงทุกอย่างแล้ววิ่งมากอดผมแต่ก่อนหน้านั้นเธอทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตาเหมือนผมอยู่ผิดที่ผิดทาง......แต่ถึงยังไงผมก็มาแล้ว
ผู้หญิงคนที่แคทนิสไม่ให้ความสนใจคือร้อยโทแจ็คสัน
เธอบอกว่าหน่วยนี้เป็นหน่วยของเธอและเธอเป็นหัวหน้าแต่ก็ไม่ใหญ่เท่าบ็อกส์ซึ่งเป็นคนถือโฮโลและนำทางให้แก่เราอีกทีหนึ่ง กระทั่งเราออกเดินทางไปสู่แคปปิตอล เครสสิด้าบอกว่าเราต้องถ่ายทำกันในซากปรักหักพังเพื่อสื่อถึงสิ่งที่สโนว์ได้สร้างขึ้นและทิ้งเอาไว้ ลูกทีมของเธอคือพอลลักซ์และแคสเตอร์พวกเค้าดูเป็นคนอัธยาศัยดีแต่ระวังตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนทหารที่ถูกฝึกมา และผมชอบพวกเค้า
ซึ่งผิดจากลูกทีมของแจ็คสันที่อ้างว่ามาคุ้มครองเรา
ผมเดาว่าการเดินเท้าเข้าไปหาความสยดสยองของพวกบ้าอำนาจคงจะทำให้พวกเค้าสั่นกลัวไม่น้อยถึงแม้จะไม่เห็นมันบนสีหน้าของพวกเค้าแต่ผมก็รู้ดี......ใช่
เพราะผมไม่ได้รู้สึกแบบพวกนั้น เราเลยไม่เหมือนกัน
บ็อกส์บอกรายละเอียดทุกอย่างที่เราต้องรู้และกัดกินขวัญกำลังใจของเรา
ทว่าผมกลับรู้สึกดีอีกทั้งยังกระปรี้ประเปร้าที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องน่าตื่นเต้นอีกครั้ง
ถึงแม้มันจะไม่น่ายินดีนักแต่ผมก็รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมรู้สึกสนุกเหมือนคนบ้าเพราะเราจะไปฆ่าสโนว์กัน
“ผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอต้อนรับสู่ฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 76”
ผมพูดในขณะที่กล้ามเนื้อเริ่มเต้นกระตุก
******************************************************************
เราออกเดินทางอย่างเงียบๆ
จนดูเหมือนแอบหนีออกมาจากค่ายกบฏด้วยซ้ำ
บ็อกส์คอยนำทางโดยมีโฮโลคอยอ่านพล็อตกับดักและช่วยไม่ให้เราไปติดกับจนตาย แจ็คสันและลูกทีมของเธออีกสี่คนปิดท้ายกลุ่มสร้างความอุ่นใจให้แก่พวกเรา ผมสวมชุดป้องกันสีดำล้วนของทหาร
รู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างน่าประหลาด
กี่เดือนกันแล้วนะที่เขตอพยพที่ 1
ถูกโจมตีก่อนเราจะย้ายมาอยู่กับตัวตุ่นใต้ดินในเขต 1 ผมกลายเป็นคนมืดมนหัวใจห่อเหี่ยวกี่ไปเดือนกัน?
เกือบหลงลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนตัวเองเคยทำอะไรได้
และมีคนเรียกชื่อผมด้วยเสียงกึกก้องอันดังมากแค่ไหน ทุกอย่างถูกผมขว้างทิ้งไปและหมกตัวอยู่กับความรู้สึกผิดที่พีต้าถูกจับตัวไป......ไม่ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก
พีต้าจะไม่ต้องหวาดกลัวอีกแล้วเพราะผมจะปกป้องเค้าเอง
ทำให้เกมส์ที่กลายเป็นสงครามนี้จบลงซะอย่างที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
เราเดินทางเข้าใกล้ใจกลางเมืองขึ้นเรื่อยๆ เครสสิด้าหยุดทีมให้ถ่ายทำอยู่หลายครั้ง
ผมรู้แคทนิสไม่ได้เกลียดเครสสิด้าแต่บางครั้งเธอก็ดูอารมณ์เสียกับการที่ต้องสร้างภาพอยู่หน้ากล้อง เราย่างย่องไปต่ออย่างระมัดระวัง
หยุดพักที่ซากตึกเพื่อทานมื้อเที่ยงและในตอนนั้นเองที่มีรถน่าสงสัยแล่นเข้ามา เสียงล้อยางบดเศษซากปูนและขี้เถ้าดังเข้าหูเรามา พวกทหารตื่นตัวรีบรุดออกไปดูยกเว้นแจ็คสัน เธอวอร์วิทยุไปถามฐานว่ามันเป็นรถของใคร
“ไม่มีอะไรแล้วทุกคน มันเป็นมิตร” เธอบอก
แล้วสีหน้าตึงเครียดของทุกคนก็หายไป
แต่รถคันนั้นทำให้ผมหยุดหายใจ มีทหารในเครื่องแบบเดินลงมาท่าทางขึงขังพร้อมจะฆ่าศัตรู
มีคนหนึ่งดึงตัวทหารในเครื่องแบบอีกคนหนึ่งออกมาจากรถ คนๆ นั้นโซเซเพราะแรงฉุด ก้มหน้างุดพร้อมกับห่อไหล่อย่างไม่สนโลกอันตรายภายนอก ผมนิ่งค้าง
รู้สึกเหมือนโดนเสาหินทุบเป็นครั้งแรกในเวลานั้นเอง
พีต้า
ใช่แน่ จำไม่ผิด
ไม่มีทางไม่ใช่เค้า
พีต้าถูกทหารดึงออกห่างจากรถก่อนจะดันหลังเค้าที่เดินก้มหน้ากุมตาแทบไม่มองทางด้วยซ้ำให้เดินตรงมาหาเรา......ไม่มีทาง เค้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เค้ากำลังป่วยอยู่นี่ เค้าไม่ควร......
“ผมชื่อ
พีต้า เมลล์ลาร์ค บ้านอยู่เขต 12 ผมชื่อ พีต้า
เมลลาร์ค บ้านอยู่เขต 12 ผมชื่อ...”
พีต้างึมงำมาตามทางเหมือนทหารพวกนั้นชวนเค้าท่องจำเพื่อฆ่าเวลาก่อนมาถึงนี่
และทันทีที่ได้ยินเสียงไม่สนโลกของเค้าจู่ๆ
แคทนิสก็หยิบลูกธนูขึ้นมาน้าวสายแล้วเล็งไปที่เค้า ดูเธอช็อคมากแต่ก่อนจะได้ทำอะไรโง่ๆ
อย่างการยิงพีต้าที่เพิ่งเข้ามา
เสียงบ็อกส์ก็แว่วขึ้นว่า “พอแล้ว”
แต่ผมรู้ว่าเธอจะไม่ฟัง
แคทนิสไม่เคยฟังใคร
ผมจึงเดินเข้าไปขวางด้วยใจและขาที่ไวกว่า
“หยุดก่อน
ทุกคนใจเย็นๆ” อันที่จริงผมบอกเธอ....แคทนิสใจเย็นๆ เธอบ้าไปแล้ว!
พีต้าเงยหน้าขึ้นมองผม เป็นครั้งแรกนับจากที่ลงจากรถ
ผมวาดมือขวางแคทนิสไว้เพื่อความอุ่นใจของพีต้า
เพราะผมรู้ว่าเค้ารู้ว่าผมจะปกป้องเค้าและพีต้าเชื่อใจผมได้เสมอ เด็กหนุ่มของผมตัวสั่นจนเผลอกัดริมฝีปากเมื่อเห็นแคทนิสง้างสายธนู......ไม่เอา ผมจะไม่ยอมให้ผู้หญิงบ้าที่อยู่ด้านหลังทำร้ายความรู้สึกดีๆ
อันน้อยนิดที่ผมเพียรสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากของพีต้าที่มีต่อเธอให้พังทลายลงไปแน่นอน ผมรู้
ถึงแคทนิสจะผิดที่ทิ้งพีต้าในตอนนั้นแต่อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนของเค้า
“แจ็คสันใส่กุญแจมือ”
ผมได้ยินเสียงบ็อกส์สั่งการ
และอยากท้วงแต่ก็เพิ่งนึกได้ว่าพีต้าจะไม่ทำร้ายผมเพียงแค่คนเดียว สถานการณ์กดดันอาจบีบคั้นเค้าอีกได้
และดูเหมือนแจ็คสันจะเข้าใจว่าพีต้าเป็นอย่างไรเธอจึงพูดตะล่อมอย่างอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่นิสัยแข็งกร้าวของเธอจะเอื้อได้
ผมยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ข้างเค้าแทบพูดอะไรไม่ออกเพราะตกใจมาก
“นายโอเคไหมพีต้า?”
ผมกระซิบถามเค้าขณะโอบกอดไหล่ของเค้า
พีต้าก้มหน้าลงอีกแล้วและผมก็ทำตามเค้าเพื่อหาคำตอบ
แต่เค้าไม่ได้พูดเอาแต่มองหน้าผมอย่างเดียว
“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะอยู่ข้างนายเอง นายจะปลอดภัยฉันสัญญา”
ผมลูบผมเค้าอย่างให้กำลังใจ
ก่อนจะพาเค้าเข้าไปนั่งรวมกับคนอื่นๆ
ในซากตึก.....อย่างน้อยเค้าก็ไม่พึมพำแล้วว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ให้ตายเถอะ เค้าไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย
หลังจากที่บ็อกส์บอกว่าผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าประธานธิบดีอยากเห็นพีต้าอยู่ในโฆษณาร่วมกับแคทนิสด้วย อัลม่าไม่ควรทำแบบนี้......รู้อะไรไหม? โฆษณาปลุกระดมน่ะมันงี่เง่าและเธอมันก็งี่เง่าพอกันเลย ผมอยากกดด่าเธอแต่เธอเป็นผู้หญิง เธอเลยรอดตัวไป
แต่หลังจากนี้ผมจะบอกตัวเองไว้ว่าให้สิบแต้มสำหรับการไม่ทำตามผู้นำอย่างเธอเมื่อเธอขึ้นเป็นประธานธิบดีแทนสโนว์
****************************************************************
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างไหลลื่น
ทุกคนกำลังถ่ายทำเสร็จสมบรูณ์และใกล้ได้กลับค่าย......
แต่อัลม่าส่งพีต้าไป
“ผมชื่อพีต้า เมลลาร์ค บ้านอยู่เขต 12” เธอส่งเค้าไปร่วมกับหน่วย 415 เพื่อทำให้แคทนิสไขว่เขว ถ่วงความปลอดภัยของทีมและทำให้เธอตายในที่สุด แต่ฟินนิคก็ดูแลเค้าได้เป็นอย่างดีเช่นที่ในคอเตอร์เควลย์
ชายหนุ่มจากเขต 4 รู้สึกฉุนอัลม่าไม่น้อยที่ส่งพีต้ามา...เธอก็รู้ว่าเค้าจะไม่รอดเเน่ แต่ฟินนิคจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด
“พวกเค้าอยากให้มีพีต้าด้วย ให้เห็นว่าเค้าอยู่ข้างเรา”
บ็อกส์พูดหลังพีต้ามาถึงจุดพักของ 415
ฟินนิคดูแลพีต้า สอนพีต้าทุกอย่าง และฟื้นความทรงจำเค้าทีละน้อยถึงแม้จะอยู่ในสมรภูมิ
มีอยู่ครั้งหนึ่งเค้ากอดพีต้าในตอนที่เจ้าตัวจะทุบแคทนิสด้วยด้ามปืน มันบ้ามากทุกคนบอกอย่างนั้นเพราะตอนเกิดเรื่อง
กับดักของสโนว์เล่นงานทุกคนอีกครั้งและพีต้าก็ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ทำร้ายแคทนิส เธอเกือบตายแล้ว
ถ้าฟินนิคไม่ดึงพีต้าออกมาแล้วลากเจ้าตัวหนีของเหลวหนืดสีดำหรือที่เรียกกันว่าน้ำมันดิบที่ท่วมลามขึ้นมาหาหน่วย
415 ทั้งกลุ่ม
“วิ่งเร็วเข้า! เร็ว เข้าไปในนั้น” มีคนกรรโชกเสียงขึ้นฟินนิคจับได้ว่ามันมาจากความหวาดกลัว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ร่างสูงเหวี่ยงปืนไว้ด้านหลังแล้วกอดพีต้าไว้
พาเค้าขึ้นไปบนชั้นสองของซากตึกที่ร้างผู้คนไปนานแล้ว ณ ที่นั่นไม่มีใครเหลือยู่เลยนอกจากตัวแทนกบฏผู้กล้าหาญ ของเหลวที่น่าสยดสยองนั้นลามตามพวกเค้าขึ้นมาอย่างกระชั้นชิดราวกับว่าเนื้อที่บริเวณนั้นเป็นบ่อไม่ใช่เขตเมืองชั้นนอกของแคปปิตอล
“อยู่กับฉัน”
ฟินนิคกดเด็กหนุ่มที่คุ้มคลั่งกับผนังกำแพง “ชู่ว ชู่ว”
พร้อมกับพยายามให้เค้าใจเย็นในขณะที่มีคนทำให้เค้าสงบลงด้วยการฉีดยาระงับประสาท เด็กหนุ่มผมสีทองหมดสติลงในที่สุดอย่างรวดเร็ว
ฟินนิครับเจ้าตัวไว้แล้วกอดกระชับเข้าหาตัวราวกับว่าพีต้าโดนตีหัวจนสลบ
ชายหนุ่มนั่งฟังเสียงที่ถกเถียงกันอย่างงี่เง่าไม่ดูเวลาของแจ็คสันและแคทนิส
มีคนตายเพราะกับดักไปแล้ว บ็อกส์
ลูกทีมของแจ็คสัน
และพี่น้องลิ๊กก็กำลังจะตามไปอีกหนึ่งคนเพราะเป็นตัวถ่วงแต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเค้าก็เสียพี่น้องลิ๊กไปทั้งคู่เนื่องจากไม่สามารถให้พวกเธอลดทอนความเร็วของการหลบหนีได้เมื่อมีพิซคีปเปอร์เป็นร้อยกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ พวกเค้าจึงจำเป็นต้องไป
ฟินนิครีบอุ้มพีต้าขึ้นพาดบ่าเพื่อไม่ให้มีใครได้เสนอว่าควรให้เด็กหนุ่มรอหน่วยช่วยเหลือเป็นเพื่อนพี่น้องลิ๊กได้ ซึ่งเค้ารู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้พวกพิซคีปเปอร์จะมาถึงที่นี่ก่อนครบสามนาทีแน่ๆ เมื่อออกมาจากที่ๆ
ทิ้งพี่น้องลิ๊กได้ไม่ไกลทุกคนก็ได้ยินเสียงกราดยิงชุดหนึ่งแล้วเงียบไป......และรู้ดีว่าเสียพวกเธอไปแล้ว
ในเวลาต่อมาฟินนิคยังคงกอดพีต้าจนกระทั่งเค้าฟื้น
ร่างสูงไม่ได้ร่วมวงวางแผนการกับแคทนิสและคนอื่นๆ
มากนักเนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของเค้า
หลายคนในนี้ไม่เคยรู้จักเค้าและไม่รู้ด้วยว่าเค้าเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนของเขตอพยพที่
1 มาก่อน แต่แคทนิสรู้
หลายครั้งเธอหันมามองหน้าเค้าหวังว่าฟินนิคจะพูดแทรกอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้างแต่กลับรับรู้แต่เพียงความเงียบกริบของชายหนุ่ม ฟินนิคปิดปากเงียบ ปล่อยพีต้าจากอ้อมแขนแล้วถึงไม่ได้ทำอะไรแต่ก็ยังอยู่ข้างๆ
เด็กหนุ่มเบเกอร์รี่ที่หน้าเสียเพราะรู้ว่าตัวเองทำตัวคลุ้มคลั่งไป ไหล่ของเค้าทั้งสองกระทบกันและไม่แยกจากกันเลย
“เราจะเข้าไปที่แมนชั่นของสโนว์เหรอ?”
พีต้ากระซิบจ้องมองโฮโลที่แสดงแผนภาพสามมิติของเมืองและพล็อตเขม็ง
ราวกับว่ามันเป็นแผนที่สุสานที่ใครเข้าไปแล้วก็จะไม่ได้กลับมา
ฟินนิคเม้มริมฝีปากแต่ดูคล้ายจะยิ้มอบอุ่นให้พีต้า
เค้ารู้ดีว่าสโนว์อาจเคยพาพีต้าไปที่นั่นเพื่อทรมาน “ใช่
เราอาจจะลอบเข้าไปได้ถ้าแผนลุยแบบไม่มองซ้ายมองขวาของแคทนิสสำเร็จ”
ร่างสูงดึงสายรัดแขนที่เป็นกุญแจมือของพีต้าให้สูงขึ้นไปบนแขนเสื้อเพื่อไม่ให้บาดข้อมือของเด็กหนุ่ม สายตาสีน้ำตาลเข้มนั้นบอกพีต้าว่ามันจะไม่เป็นไร
เค้าจะต้องปลอดภัยแน่ และแผนหยาบๆ
ของแคทนิสก็จะไม่มีวันสำเร็จ
แต่พีต้ากลับมองหญิงสาวคนดังกล่าวเขม็งอีก
ก่อนจะถูกฟินนิคติติงด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเค้าเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนและจะต้องเป็นแบบนั้นต่อไป
“มันเป็นเรื่องดีที่เรามีเพื่อนพีต้า
อย่าให้ภาพลวงตาที่พวกนั้นสร้างขึ้นทำให้นายเปลี่ยนไปสิ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกล่าว “พีต้าที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนแบบนั้น” พวกเค้าทั้งสองคุยอะไรกันเงียบๆ
ในระหว่างที่คณะเดินทางมีแคทนิสและเครสสิด้าเป็นตัวเต็งหลักในการทบทวนวางแผนการเดินทาง แต่พอลลักซ์กลับเป็นคนเสนอวิธีที่ดีที่สุดและนำทางให้แทน
คาสเตอร์บอกว่าพี่ชายของเค้าบอกว่าทางใต้ดินปลอดภัย
ดังนั้นทุกคนจึงลงใต้ดิน
*******************************************************************************
ไม่ดีเลย ที่นี่แฉะมากแถมยังมีกลิ่นเหม็นของๆ เสียจากสารเคมีลอยอบอวนไปทั่วอีกด้วย แต่พอลลักซ์เป็นใบ้ เค้าพูดไม่ได้ผมเลยไม่โกรธเค้า
แต่ถึงรู้ก็ไม่ถือสาเพราะมันเลี่ยงไม่ได้และเค้ากับน้องชายก็เป็นคนดีมาก
พอลลักซ์เดินนำทางเราไปใต้ท่ออุโมงค์ที่มีน้ำท่วมถึงหน้าแข้งใต้เมืองแคปปิตอล ที่นี่ปราศจากพล็อต......เป็นเรื่องดี
แต่บางอย่างบอกผมว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เหมือนเรากำลังเดินเหยียบมันอยู่
ไม่รู้แต่เพียงว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็เท่านั้น
เราเดินมาได้นานพอสมควร
ผมอยู่ข้างหลังพีต้าตลอดจนกระทั่งถึงเวลาค่ำ เราดูนาฬิกาก่อนแจ็คสันจะบอกว่าควรพักได้เสียที
เธอจัดเวรยามให้ตัวเองตื่นอยู่คนเดียวในกะแรกและแคทนิสเป็นคนที่สองต่อจากเธอ พีต้าไม่ยอมหลับ
ผมรู้สึกได้ถึงไหล่ที่สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาของเค้า
“นายหนาวเหรอ?”
ผมไม่ได้ถามเค้าเพราะรู้ว่าไม่ใช่ความหนาวที่ทำร้ายเค้า
แต่ก็ใช้มันเพื่อเข้ากอดพีต้าได้อย่างไม่ให้เค้ารู้สึกสับสนกับเจตนาของผม
“พะ พวกเค้าเลี้ยงมัน...”
เค้ากระซิบพร้อมซุกตัวเข้าอ้อมแขนผม
“อะไรเหรอพีต้า?”
คราวนี้ผมถามเค้าจริงๆ รู้สึกขนอ่อนลุกชันไปทั่วทั้งตัวด้วยความประหลาดใจ
เค้าไม่ได้ตอบผมในทันที
ตัวสั่นขึ้นอีกแล้วหันมามองผม “เค้าหย่อนพวกมันลงมาในนี้...ที่นี่”
แล้วไม่พูดไปอีกพักหนึ่งเอาแต่ขดตัว
“ฉันเห็น...เห็นพวกเค้าส่งพวกต่อต้านที่โดนซ้อมจนน้วมลงมาที่นี่....ฮึก
มีเสียงฟินนิค ฉันได้ยินเสียง! พวกนั้นกรีดร้อง ฮึก...กรีดร้องกันดังมาก พิซคีปเปอร์โยนพวกนั้นลงมาให้พวกมันกิน อึก ฮึก ฉัน ฉัน...”
“พอแล้วพีต้า ไม่ต้องเล่าแล้วล่ะ...ชู่ ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่
นายปลอดภัยแล้วโอเคไหม?
ไม่ต้องห่วงนะ เลิกคิดถึงมันซะเถอะ”
อันที่จริงผมอยากฟังต่อแต่ว่าอาการสั่นจนพาลร้องไห้ของเค้าก็ทำให้ผมต้องใจอ่อน......พอแล้วกับการเห็นพีต้าร้องไห้ ถึงแม้จะอยากรู้แค่ไหนแต่ว่าก็ไม่อาจต้องทนเห็นเค้าหวนนึกถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่ถูกนำไปทรมานอีกแล้ว
พีต้าหลับไปในที่สุด
ผมรู้สึกถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเค้าอยู่ในอ้อมอกจึงคลายตัว
เพื่อปล่อยให้เค้าหายใจได้สะดวก
จนกระทั่งพีต้าพลิกตัวออกไปนอนได้ด้วยตัวเองในที่สุด ผมเกือบหลับแล้วในตอนที่ได้ยินเสียงแจ็คสันมาเปลี่ยนกะกับแคทนิส
คนถูกปลุกไม่ได้เดินออกไปดูปากทางอุโมงค์ย่อยที่เราซ่อนอยู่
แต่เดินมานั่งข้างพีต้า
ผมได้ยินเสียงทั้งสองคนคุยกัน พีต้าพยายามบอกว่าเค้ากำลังสับสน
ไม่แน่ใจว่าอะไรจริงอะไรเท็จหลังจากที่ถูกสโนว์ปล่อยตัวออกมา และเค้าบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับเธอ...
ผมยิ้ม ไม่มีใครเห็นเพราะหันมาอีกด้าน
ดูเหมือนหนุ่มเบเกอร์รี่ของผมกำลังพยายามที่จะเชื่อว่าแคทนิสเป็นเพื่อนอย่างสนิทใจ เค้าเป็นเด็กดี ใช่
ผมชอบที่เค้าเป็นเด็กดีถึงแม้จะสับสนกับความคิดเลวร้ายที่สโนว์เป่าหูให้แต่เค้าก็เชื่อใจผมเสมอ
ผมเล่าให้เค้าฟังทุกเรื่องตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนหายตัวไป ทุกเรื่อง
ยกเว้นเรื่องที่เค้าเคยแอบชอบแคทนิส.......ผมรู้มันฟังดูเห็นแก่ตัว
ผมแอบหวังในใจว่าพีต้าจะจำไม่ได้ว่าเคยแอบชอบเธอแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว
ถึงแม้เราจะเคยคุยกันว่าเค้าไม่ได้รักเธออีกต่อไปแล้วเพราะความทรงจำที่เพิ่งรับรู้มาหลังจากเธอเป็นม็อกกิ้งเจย์
แคทนิสหยาบคายและขึงขังขึ้นมากนั่นทำให้พีต้ารู้สึกกลัว
แต่ผมก็ไม่อยากให้เค้ารู้ว่าตัวเองเคยคิดอย่างไรกับแคทนิส
ผมอยากรักและครอบครองเค้าไว้คนเดียว......ใช่ไหมล่ะ
ผมมันเห็นแก่ตัว
พอเช้า เอ่อ ผมว่าตอนนี้เช้าแล้ว เราออกเดินทางกันอีกครั้ง
ปลอดภัยไม่มีพล็อตและแทบไม่ต้องใช้โฮโลอีกเลยแต่ถึงกระนั้นทุกก้าวที่ออกเดินก็ทำให้ผมยิ่งต้องระวังตัว
เสียงน้ำที่ดังกระเฉาะเมื่อยามที่เรายกเท้าก้าวเดินมันทำให้ผมต้องเกร็งหู นอกจากเราแล้วจะยังมีใครที่เรามองไม่เห็นได้ยินการเคลื่อนไหวของเราอีกหรือเปล่า
ท่าไม่ดี ท่าไม่ดีเอามากๆ
ผมเดินใกล้พีต้ามากขึ้นและสอดส่องสายตาไปรอบข้างมากขึ้นทุกขณะ
หอกของผมพร้อมใช้งานอยู่ในมือและปืนพกที่เหน็บอยู่บนต้นขาซ้าย แต่แล้วบรรยากาศก็เริ่มบีบคั้นอะดรีนาลีนของเรา เสียงหวืดหวือเบาๆ สะท้อนมาตามอุโมงค์ เราจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น แจ็คสันนำไป
ผมไม่เห็นด้วยที่เราจ้ำอ้าวใส่น้ำที่ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งอุโมงค์แบบนั้น เป็นผมผมจะเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ
ไม่แปลกใจเลยทำไมเสียงสะท้อนลึกลับนั้นถึงดังบ่อยขึ้นและชัดเจนขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรอยู่ดีจึงได้จ้ำอ้าวกันต่อไป
ตอนนี้ทุกคนมีอาวุธพร้อมท่าอยู่ในมือแล้ว
(ยกเว้นพีต้า) ผมอยู่หลังเค้าเหมือนเดิม
เราเดินเร็วขึ้นผลักกันเหมือนกลัวตายเต็มที่ ผมกันพีต้าจากการผลักของเครสสิด้า
เสียงเงียบไปแล้ว
จู่ๆ มันก็เงียบไป
ไม่ชอบมาพากล
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------
Oh god! เรื่องกำลังจะตื่นเต้นขึ้นแล้วค่ะ!
O_o
อัลม่าเธอสมควรตายตั้งแต่ส่งพีต้าฉันไปและ! >{}< ชริๆๆๆๆ ทำไมกันเนี่ยยย แล้วฟินนิคจะ อูยยยย จะอ่อนโยนและแอบบ้าไปไหนคะ(?) gเหมือนรู้สึกดีที่จะได้เข้าไปเจอเรื่องตื่นเต้นอีก
ต่างจากคนอื่นลิบลับ
พอเจอพีต้าก็โอยยยยยย
เหมือนโลกนี้มีกันอยู่สองคนค่ะ 55555
พีต้าน่ารักมากก ฟินนิคก็น่ารัก คอยเทคแคร์ตลอด
เรื่องดำเนินมาถึงจุดใกล้แตกหักแล้วค่ะ ใช้คำนี้เว่อร์ไปไหม 555555 ถัดฉากนี้ไปจะเป็นตอนที่บีบหัวใจแฟนเกิร์ลทุกคนค่ะ
T^T ไม่!! ม่ายยยยยยยย
แต่ในฟิคนี้จะเป็นอย่างไรก็ต้องคอยชมกันไปค่ะ
>< ขอฝากฝังฟิค The Hunger
Game ภาคสุดท้ายนี้ไว้ในอ้อมใจของรีดทุกท่านด้วยนะคะ >//< วันนี้ไรท์ขอลาค่ะ ล้าเหลือเกิน 5555555 งานทำร้ายหนักมากกกกก ขอบพระคุณที่รับชมรับอ่านนะคะ รักสุดหัวใจเลยค่ะ //วาดหัวใจบนจอ//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund
ป.ล. แคทนิสเธอมันบ้าไปแล้ว ไปตายซะ!!
บังอาจจะยิงพีต้าของฉัน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น