//และใน Part แรกนี้ขอหยิบยกเอาภาพ
The Hunger Game ภาคสุดท้ายมาให้เปิดตัวนะคะ ทำให้นึกถึงตอนที่ฟินนิคพูดถึงครั้งที่ 76th
เพื่อเป็นการหยอดมุขเลยนะคะ//
อร๊ายยยยยยยย อร๊ายยยยย!! >0< กราบสวัสดีค่ะรีดๆ
ที่รักทุกท่านขาา หลังจากหายไปพักหนึ่งไรท์ก็กลับมาแล้วค่ะ 555555
เปิดเทอมแล้วกลับไปเป็นซอมบี้ต่อเหมือนเดิมค่ะ 5555 โธ่ ช่างน่าเบื่อเสียนี่กระไร
แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะ! ฮะ ฮ่า!
อย่างน้อยได้กลับมาลงฟิคแล้วก็ทำให้ไรท์รู้สึกดีมากมายอย่างแรงเลยค่ะ ฮ่อลลลลล
คิดถึงรีดกับบล็อกฝุ่นเขรอะของตัวเองจังเลยค่ะ //เดินเข้าไปกอดรีดแล้วจูบแก้ม// เรื่องดีที่สุดของไรท์ในตอนเปิดเทอมใหม่ๆ นี้คือได้กลับมาหาพีต้ากับฟินนิคอีกครั้งหนึ่งค่ะ โอ้ ฟินนิคแมนจะได้รับการช่วยเหลือจากไรท์และความฟินของพวกเราเองค่ะ
รีดๆ ขา! 555555555
//อินี่ออกแนวเฟื่อง -*-//
โอเคค่ะ
ก่อนอื่นเลยไรท์ขอแนะนำให้อ่าน Part สุดท้ายของเรื่องที่แล้วหรืออ่านทั้งเรื่องไปเลยก็ได้ค่ะ 55555
เพื่ออรรถรสที่ต่อเนื่องของฟินนะคะ ^^ และอย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่าหนัง
The Hunger Game 3 ภาคสุดท้ายนั้นเป็ดที่ปวดหัวบีบขมับมากสำหรับใครหลายๆ
คน (ไรท์ล่ะค่ะคหนนึ่งแล้ว ฮาา) เพราะงั้นไรท์ขอให้รีดๆ
ที่เคยดูภาคสุดท้ายผ่านๆ ตาแล้วนั้น
ลบภาพทั้งหมดทิ้งไปค่ะแล้วไม่ต้องกลับไปดูซ้ำนะคะ 55555 พาเครียดค่ะ เครียดแคทนิส
เครียดเนื้อเรื่องและชะตากรรมของแต่ละคนค่ะ
ฟินนิคว่าน่าสงสารแล้วยังไม่น่าเศร้าเท่าพีต้าที่ลงเอยกับแคทนิสค่ะ TUT โอยยย พีต้า หนู.....หนูเหมือนพี่ชายเลยลูก
ไม่เหมือนพ่อคนเลยสักนิด
ส่วนแคทนิสก็เหมือนแม่โทรมๆ อุ้มน้องคนสุดท้องของหนูคอยดูหนูกับน้องคนรองเล่นกันในทุ่งหญ้า โอยยยยยย
บอกเพ่แกรร์รี่กับป้าซูซานเปลี่ยนตอนจบด่วนค่ะ ให้แคทนิสมีลูกได้ยังไง เดี๋ยวก็พาลูกเพี้ยนด้วยพอดี
มีการจะเล่าเรื่องหลอนขแงแคปปิตอลเก่าให้ทารกฟังด้วย อ๊ากกกก
ไรท์ทนไม่ด้ายค่าา
โอเค หยุดนอกเรื่อง
555555 และแน่นอนค่ะ
อย่างที่สาวกวายและแฟนๆ The Hunger Game เห็นพ้องต้องกันทุกคน ฟินนิค โอแดร์ ในเรื่องนี้จะไม่ตายค่ะ 5555555 //ลั่นแบบมหาวายร้าย//
พ่อฟินนิคแมนของเราจะยังอยู่รอดเป็นพระเอกที่ยอดเยี่ยมโลดแล่นอยู่ในบล็อกของไรท์อีกคนหนึ่งค่ะ
5555555
โครงเรื่องในช่วงแรกนั้นไรท์จะเท้าความไปยังเนื้อหาในหนังก่อนนะคะ
แต่เป็นในแบบของไรทืเองนะเออ 5555
แล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่โหมดที่เป็นโลกของเราค่ะ มโนแหลกค่ะ 55555
ใครที่โดนเพ่แกร์รี่และป้าซูซานทำร้ายมาในฉากที่ฟินนิคตายและตอนจบนั้น ฟิคเรื่องนี้จะรักษาแผลนั้นของรีดๆ เองค่ะ
รีดว่าไหมคะ ขนาดตอนจบยังปวดหัวเนอะ
ยังไม่ทันหายปวดหัวจากความเครียดในต้นเรื่องหนังก็จบซะและ โอยยยย ไรท์ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ ต้องเปลี่ยนด่วนๆ ลย
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปรับชมกันเลยค่าาา >0<
------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะผมคือ พีต้า เมลลาร์ค.....
“ฟินนิค...”
ผมพูดเป็นคำแรก
ในตอนที่น้ำตาของเค้าอยู่ๆ ก็ไหลออกมาเหมือนหยดน้ำ
เค้ามีสีหน้าประหลาดใจ
และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้
.....เพราะผมคือ พีต้า เมลลาร์ค
พีต้า เมลลาร์ค ที่รัก ฟินนิค โอแดร์
.
.
.
*********************************************************************************
.
.
.
พีต้าจำได้แล้ว ถึงจะยังไม่มากนัก แต่ก็จำได้แล้ว......
เรื่องนี้ต้องขอบคุณฟินนิค ถึงแม้ว่าทีมแพทย์จะลงความเห็นว่าชายหนุ่มผมบล์อนจากเขต
4 คนนี้อาจมีอิทธิผลต่อจิตใจของคนไข้มากพอที่จะทำให้เค้าฟื้นความจำขึ้นมาได้บ้างก็ตาม แต่แคทนิสก็รู้ดีว่าฟินนิคมีอิทธิพลต่อจิตใจของพีต้ามากกว่านั้น มากพอๆ กับที่หนุ่มเบเกอร์รี่เองก็มีผลพวงอย่างยิ่งยวดต่อจิตใจของฟินนิคผู้ที่เริ่มกลับมามีเรี่ยวมีแรงอีกครั้งด้วยเช่นกัน
ไม่สิ ต้องเรียกว่ามีกำลังใจดีขึ้นต่างหาก ตั้งแต่ที่พีต้ากลับมาพูดเหมือนกับคนปรกติได้อีกครั้ง
แคทนิสก็เห็นฟินนิคออกมาจากห้องพักบ่อยขึ้น
เค้าเก็บตัวน้อยลง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้บีทีบอกกับเธอที่แวะเข้าไปหาว่าฟินนิคมาเอาหอกของเค้าและออกไปเล่นกับมันคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนั่นต่างจากที่ร่างสูงเป็นอยู่ก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ
พีต้าทำให้ฟินนิคดีขึ้น ใช่
อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
และแคทนิสก็ขอลงความเห็นเหมือนทีมแพทย์บ้าง
ว่าแอนนี่น้องสาวของเค้าแทบจะไม่ได้รับการใส่ใจจากพี่ชายเท่าเด็กหนุ่มจากต่างเขตอย่างพีต้าเลย แคทนิสเห็นฟินนิคเข้าไปหาพีต้าทุกวัน วันละหลายๆ หน
และเค้าเป็นคนเดียวที่เป็นฝ่ายเดินจากมาด้วยการบอกลาและออกมาเอง
โดยไม่โดนพีต้าไล่ตะเพิดไปเหมือนคนอื่นๆ
ถึงแม้มันจะฟังดูเสียหน้า แต่แม้แต่พิมน้องสาวของเธอเองก็ต้องรีบถอยห่างออกมา
โดยที่ได้เอ่ยปากพูดกับชายหนุ่มผมทองที่ยังดูไม่แข็งแรงแต่พลังทำลายล้างเหลือล้นคนนั้นได้เพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น เพราะหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องของเธอ...
.
.
“นายแน่ใจเหรอฟินนิค?”
เสียงของหญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างมีความหวัง
ถึงแม้ว่าเธอพอจะคาดเดาคำตอบของมันได้ก็ตาม แต่เธอก็อยากที่จะเชื่อว่าฟินนิคจะตอบเธอว่า ไม่แน่ใจ
“ไม่รู้สิ เธอคาดหวังอะไรล่ะแคทนิส?” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามกลับมา เป็นเพราะเค้าไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรอยู่กันแน่ สีหน้าของเธอเหมือนต้องการอยากให้เค้าบอกว่า ไม่
แต่ความจริงในใจเอนเอียงให้เค้าตอบคำว่า ใช่
......ฟินนิคไม่คิดว่าเธอพร้อมที่จะคุยกับพีต้าเพราะหากอยู่ในสภาพอารมณ์แบบนั้น
พีต้าจะไม่มีวันอยากคุยกับเธอ......
แคทนิสถอนหายใจ ก่อนจะเอนตัวไปพิงกับพนักพิงเก้าอี้อย่างแรง เธอดูไม่พอใจที่คำว่า ใช่ ดูเหมือนจะได้ออกมาจากปากของฟินนิคมากกว่าประโยคที่ว่า
“ไม่ ฉันคิดว่าเธอก็น่าจะมีหวังนะแคทนิส พีต้าที่โดนสโนว์ล้างสมองให้ฆ่าเธอคงไม่ได้เกลียดเธอเสียเดียว”
ฟินนิคไม่ได้ถอนหายใจตามเธอถึงแม้ว่าอยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม
เค้าคิดในใจ......ก็เธอนั่นแหละที่สโนว์เป่าหูให้พีต้าจงเกลียดจงชัง
ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ว่ากระไรต่อ เค้าเพียงเม้มริมฝีปากแล้วกระชับฝ่ามือที่กุมกันอยู่บนโต๊ะประชุมเอาไว้หลวมๆ
ภายในห้องนี้มืดสลัวและแสงน้อยเป็นเพราะว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่หารือกันอยู่ในห้อง แสงสว่างเดียวคือแสงจ้าสีขาวจากห้องข้างๆ ที่ทะลุผ่านกระจกเข้ามา
“แต่ว่าเราส่งแคทนิสเข้าไปได้”
“จะบ้าเรอะ!
นี่นายไม่ได้ฟังที่เราถามกันอยู่เมื่อกี้หรือยังไง?”
“ไม่มีผลอะไร หากฟินนิคไม่ให้คำตอบเรา...ถ้าเธออยากเข้าไปแคทนิส ก็เข้าไปได้เลย” พลูตาร์ชว่า “ไม่จำเป็นต้องกังวลหรือเสียงดังหรอกเฮย์มิช”
เฮย์มิชที่ยืนพิงโต๊ะประชุมอยู่มีสีหน้าไม่ยินดีนัก แต่ฟินนิคไม่รู้ว่าเค้าพิงโต๊ะเพราะอารมณ์เฉพาะตัวหรือว่ากำลังเมากรึ่มๆ
อยู่กันแน่ เฮย์มิชหันมามองหน้าฟินนิคอีก คล้ายจะย้ำถามแทนแคทนิส
“เธอคงไม่ชอบถ้าผมตอบ หรือไม่สนใจอยู่ดีถ้าผมตอบออกไปจริง
ยังไงเธอก็เข้าไปอยู่ดี” เค้าว่า และก็เป็นเช่นนั้นจริง
พอพลูตาร์ชบอกว่าเข้าไปได้ แคทนิสก็ยกตัวขึ้นจากเก้าอี้
มันครูดพื้นออกไปด้านหลังจนเกิดเสียงดัง เธอดูไม่รีรอเลยถ้าหากมีคนส่งเสริมในทางที่เธอชอบ
หญิงสาวผมสยายเดินออกไปจากห้องประชุมย่อยที่ถูกจัดขึ้นมาใหม่แล้วเข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังของกระจกสองด้านนั้น
“ผมไม่แนะนำให้เธอเข้าไปนะ”
ฟินนิคเอ่ยออกมาในที่สุด เค้ารู้ข่าวว่าเธอเพิ่งหายจากอาการเส้นเสียงบวมและอักเสบเพราะโดนพีต้าบีบคอไป ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีเค้าเพียงคนเดียวที่เข้าไปคุยกับพีต้าได้ก็ตาม แต่แคทนิสดูแน่วแน่และแน่ใจมากที่จะเข้าไปเผชิญหน้ากับพีต้าในรอบหลายวันหลังจากเธอบาดเจ็บเพราะเค้า
แต่ก็นั่นแหละ ถึงอย่างไรฟินนิคก็ยังเป็นคนเดียวอยู่ดีที่พีต้าไม่ไล่ตะเพิดออกมา
แต่ความดื้อดึงของแคทนิสก็น่ารำคาญในระดับหนึ่ง มันมากพอที่ชายหนุ่มผิวสีแทนจะไม่รั้งเอาไว้ และทันทีที่แคทนิสเข้าไป คนหนึ่งที่นั่งบนเตียงแพทย์ดูโดดเดี่ยวอยู่กลางห้องกับอีกคนหนึ่งที่เพิ่งผลักประตูเข้าไปก็เริ่มคุยกัน
ฟินนิคลุกขึ้น เดินเข้าไปใกล้กระจกสองด้านที่กั้นพวกเค้าเอาไว้แล้วฟังคนที่อยู่ในห้องสว่างๆ
นั้นคุยกัน ไม่ยากเลย มันคาดเดาได้ไม่ยากเลยที่แคทนิสจะถูกพีต้าว่าร้ายและไม่ยอมญาติดีด้วย แต่ชายหนุ่มผมบล์อนที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ตอนนั้นก็ล่วงรู้ถึงความลับอย่างหนึ่งที่พีต้าไม่เคยเล่าให้ฟัง
........พีต้ายอมโดนแม่ตี
เพียงเพราะอยากที่จะแบ่งปันอาหารให้เด็กสาวที่หิวโซ ฟินนิคยกยิ้มขึ้นมาในตอนที่พีต้าบอกว่าเจ้าตัวจงใจทำขนมปังไหม้เพื่อที่จะสามารถนำมันมาให้แคทนิสได้.........
“....ฉันเลยโดนแม่ตี”
พีต้าว่า มองแคทนิสตาเขม็ง “ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย ไม่น่าแบ่งมันให้เธอเลย”
ก่อนพีต้าจะพูดต่อไปแล้วแคทนิสก็ขอตัวออกมาจากห้องอย่างกะทันหัน.....
ฟินนิคมีสายตาราบเรียบ คล้ายอ้อมแขนจากการกอดอกแล้วมองดูพีต้าในห้องนั้นต่อไป แต่เค้ากำลังคิด...คิดว่าแคทนิสกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอทำเหมือนพีต้าไม่มีหัวใจ ชายหนุ่มเบเกอร์รี่ของเค้าไม่มีความหมายสำหรับ
แคทนิส เอเวอร์ดีน มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงได้แคร์พีต้านัก ทั้งๆ ที่พีต้าก็ยังเหมือนเดิม รึว่าแคทนิสแค่รู้สึกผิด...ฟินนิคเอนเอียงไปในข้อนั้นมากกว่า
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดฟอร์มของเขต
13 ได้ยินเสียงเฮย์มิชออกไปตามแคทนิสที่พรวดพราดออกจากห้องของพีต้าไป พลูตาร์ชเดินออกไปบ้าง เมื่อความพยายามของหญิงสาวที่เพิ่งเดินร้องไห้ออกไปไม่เป็นผล แต่ชายวัยกลางคนร่างท่วมยิ้มบางๆ ก๋อเอ่ยขึ้นก่อนเดินออกไป
และรอยยิ้มนั้นของเค้าก็ดูไม่จริงใจเลยเช่นทุกคราที่เค้ายิ้ม
“ดูท่า เด็กคนนั้นจะฟังเธอคนเดียวนะ”
สีหน้าของพลูตาร์ชดูเจ้าแผนการ เป็นพวกชอบวางกลยุทธ์โดยกำเนิด แต่คงจะเป็นประโยชน์กับนักการเมืองและอะไรที่ใช่ในการทรมานคนเท่านั้นเสียมากกว่า ฟินนิคออกความคิดเห็น ไม่ได้สนใจพลูตาร์ชพอๆ กับพวกของเค้า
และนี่อาจเป็นอีกครั้งหนึ่งที่จอมวางแผนอย่างพลูตาร์ชพูดถูก
พีต้าฟังเค้าแค่คนเดียว
.
.
***************************************************************************
.
.
“เธอมันร้ายกาจ เห็นแก่ตัว
น่ารังเกียจ” เด็กหนุ่มที่ใส่ชุดขาวสะอาดตากัดฟันกรอดๆ ในตอนที่มือของเจ้าตัวถูกผมกุมเอาไว้
“เธอเคยเป็นเพื่อนนายนะ”
ผมพูด
“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ”
พีต้าทำเสียงหงอยลง
หลังจากที่ผมเอ่ยเค้าก็ดูอ่อนลงไปทันที
เค้าดูเหมือนเด็กที่ไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับเด็กผู้หญิงหัวดื้อเจ้าอารมณ์ และผมเหมือนพี่ชายที่คอยไกล่เกลี่ยไม่ให้เค้าโกรธเคืองเธอไปมากกว่านี้
“เธอไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกพีต้า นายแค่...แค่สับสนน่ะ”
เค้ามองหน้าผม
ก่อนผมจะยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริงด้วยสายตาและสีหน้าที่ไร้แววโกหกเค้า
ผมนั่งอยู่บนเตียงของเค้า เข้ามาคุยกับพีต้าทุกครั้งที่มีโอกาสและบ่อยครั้งมากเท่าที่ผมต้องการ พีต้าคุ้นเคยกับผมอย่างรวดเร็ว
ก่อนผมจะรู้ตัวว่าเป็นเพียงคนเดียวที่เค้าไว้ใจ อาการของพีต้าดีขึ้น นั่นคือเรื่องที่ผมดีใจที่สุด
ในตอนนั้นเองก็มีคนเข้ามาตามตัวผมแล้วออกไป ผมฝืนใจอยากที่จะปฏิเสธเค้าแต่ก็ไม่อยากให้อัลม่าจับจ้องเพราะแข็งข้อมากกว่าที่เป็นอยู่อีกแล้ว งั้นผมไปแค่เดี๋ยวเดียวก็คงได้กระมัง ผมบอกลาพีต้า
บอกเค้าว่าจะกลับมา และออกไปที่งานเลี้ยงนั่นชั่วคราวผมเจอแอนนี่ เต้นรำกับเธอ
ผมเจอแคทนิสยืนคุยอยู่กับโจฮันน่า
และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นเธออยู่ที่เขต
13....
แคทนิสกำลังจะพยายามเข้าไปในแคปปิตอล
ผมได้ยินพวกเค้าคุยกันแบบนั้น และรู้ทันทีว่าเธอกำลังจะทำอะไร ผมต้องไปสมทบด้วยถึงแม้ว่าจะไม่อยากห่างจากพีต้าไปก็ตามแต่ว่าสงครามนี้ควรต้องจบได้แล้วเสียที
ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไป ผมกอดแอนนี่เป็นครั้งสุดท้ายในตอนที่พาเธอกลับห้องโดยที่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอผมและไปหาพีต้าเป็นคนสุดท้ายก่อนตามแคทนิสไปแคปปิตอล
“มีอะไรงั้นเหรอฟินนิค?”
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในขั้นเฝ้าระวังแต่เด็กผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียงก็สามารถมองสีหน้าผมออกว่ามีเรื่องอะไรอยู่ในใจ
นี่คงไม่ใช่การแวะเวียนมาคุยก่อนนอนเป็นแน่......พีต้าคงคิดเช่นนั้น
ผมหันกลับมา วาดยิ้มให้เค้าทีหนึ่งก่อนจะกลับมานั่งที่ข้างเตียงเหมือนเดิมแล้วกุมมือเค้าไว้
“ฉันจะไปไม่นานพีต้า”
“ไป? ไปไหนเหรอ?” สีหน้าของเค้าดูอ่อนแรงแต่ก็มีสีสันขึ้น นั่นผมจะไม่ลืมเลยและเฝ้ารอเวลาที่จะได้เห็นเค้ากลับมาเจิดจรัสอีกครั้งอย่างที่เคยเป็น ผมขยับเข้าไปกระซิบใกล้หูพีต้าเพราะรู้ว่าคงไม่ใช่เราเพียงสองคนที่สนทนากันอยู่ในห้อง และทันทีที่ผมพูดจบมือของพีต้าก็ขยุ้มมือผมแน่นขึ้น
“ไม่! ไม่ได้นะ!...อย่าไป! ไม่ ฉันไม่ให้นายไป” มันแรงจนผมเองก็ต้องชักสีหน้าในขณะที่เด็กหนุ่มเบเกอร์รี่ของผมโถมเข้ามากอดผม
“ฉันไม่ให้นายไปหรอก” เค้าบอกและไม่ยอมปล่อยผมแม้จะถูกผมขอร้องไว้ก็ตาม
“ฉันจำเป็นต้องไปพีต้า...ฉันคิดดูแล้วแคทนิสต้องมีฉันไปด้วย เกมส์บ้าๆ ของสโนว์สมควรต้องปิดฉากลงแล้วสักที นายไม่อยากให้มันจบเหรอ?” ผมกระซิบข้างหูเค้า ไม่ได้พยายามโน้มน้าวอย่างที่ควรจะทำแต่กลับกอดร่างที่ซูบลงมามากกว่าเมื่อสามเดือนก่อนอย่างเต็มใจและปลอบประโลมเค้า
ผมได้ยินเสียงเหมือนพีต้าร้องไห้
“นายไปไมได้ฟินนิค พวกเค้าจะฆ่านาย...จับนายไปทรมาน บังคับให้นายกินยาพิษทุกวันแล้วก็ฆ่านายทิ้งซะ....ไม่เอา
อย่าไปเลยนะ ได้โปรดเถอะฉะ
ฉันไม่อยากให้นายไป” ผมรู้สึกถึงแรงขย้ำเสื้อที่สวมใส่อยู่อย่างแรงราวกับว่าพีต้าอยากจะบีบคอฆ่าแคทนิสเป็นรอบที่สอง แต่ผมรู้ ฟังจากน้ำเสียงของเค้าแล้วก็คงไม่อยากให้ผมไปจริงๆ
......ไม่อยากให้ผมไป เพราะเค้าเคยอยู่มาก่อนและรู้ว่าฝ่ายต่อต้านสโนว์จะได้รับผลตอบแทนเช่นไรเมื่อคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายแก่ผู้นั้น......
แต่ถึงอย่างไงผมก็ต้องไป ผมกอดตอบพีต้าแน่นมากแต่ไม่มากพอที่เหมือนจะฆ่าคนได้เท่าเค้า
“เราต้องเลิกกลัวพีต้า...ฉันเสียใจที่ต้องบอกนายว่าฉันจำเป็นต้องไป แต่หลังจากเรากลับมาจะไม่มีใครต้องกลัวอีกแล้ว”
ผมจูบขมับที่ไม่มีร่องรอยของความบอบช้ำนั้น
จูบนาน หนักและอ่อนโยน ซึ่งใจจริงผมอยากจูบเค้าแต่ก็รู้ว่าที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่เราถึงแม้จะไม่มีใครดูพีต้าอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของกระจกแต่ในนี้ก็มีกล้องของพวกเค้าอยู่ และผมเกลียดที่พวกเค้าล่วงรู้อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับผมหรือพีต้า
พีต้าร้องไห้ออกมาในที่สุด แน่นอน เค้าทำให้ตาที่กำลังจะหายช้ำ
ช้ำยิ่งกว่าเดิมอีกเล็กน้อยและผมสัญญากับเค้าว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด
บอกเค้าว่าไม่ต้องกลัวว่าความทรงจำที่สับสนจะกลับมาเล่นงานเค้าได้อีก แค่อย่าคิดถึงมันก็พอ
และรอยคอยอย่างเด็กดีจนกว่าผมจะทำภารกิจดับชีวิตสโนว์ได้สำเร็จ อีกทั้งยังสัญญาด้วยว่าจะพาเค้าออกไปดูพระอาทิตย์ตกอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ
และทุกๆ อย่างที่เค้าอยากทำ
ก่อนพีต้าจะยอมให้ผมปิดประตูห้องลงได้ในที่สุด......มันเป็นเรื่องดีที่ไม่เห็นเค้าโวยวายอย่างตอนที่นึกถึงแคทนิสอีก
รุ่งเช้าหลังจากที่แคทนิสหายตัวไปเมื่อคืน ผมก็เดินทางออกมาจากเขต 13 ด้วยความรู้สึกบีบอัดที่ข้างขมับ หัวใจของผมรู้สึกโล่งสบายเพราะเต็มใจจะไปแคปปิตอลเพื่อจบระบอบป่าเถื่อนนั่น
แต่ทว่าการทิ้งพีต้ามามันทำให้ผมปวดหัวตุ้บๆ เหมือนกำลังต่อต้านและบอกว่า......ห้ามไป!
อย่าทิ้งเค้าเด็ดขาด นายเคยปล่อยเค้าไปอย่างไม่น่าให้อภัยมาแล้ว อย่าทิ้งเค้า กลับไปซะ!
แต่ท้ายที่สุดแล้วพอเครื่องลงจอดที่พรมแดนของพันธมิตรความรู้สึกผิดที่ทำร้ายหนักหน่วงยิ่งกว่าบาดแผลก็หายไป เมื่อความจริงตั้งอยู่ตรงหน้าและกระซิบบอกผมว่านายต้องทำ นายต้องไปเพื่อพีต้า ใช่ ผมจะทำเพื่อเค้าและเพื่อวันพรุ่งนี้ของทุกคนหากเราเอาชนะความป่าเถื่อนที่เกาะกุมมาเนินนานนั้นได้สำเร็จ
.
.
.
TBC.
---------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยย ฟินนิคอย่าจากพีต้าปายย เหมือนแบบ
ให้ความรู้สึกเหมือนชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องไปทำหน้าที่รับใช้ชาติรึออกไปทำภาระกิจลับในฐานะหน่วยลับสุดยอดของรัฐบาลที่ต้องจากแฟนหนุ่มที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นอนซมอยู่ในโรงพยาบาลซึ่งแสนจะน่ารักของเค้ายังไงยังงั้นเลยค่ะ ฮ่อลลลลลลล
โอยยยย ดูน่ารักอ่า
พีต้าติดฟินนิคคนเดียวด้วยล่ะค่ะ >///< ดูโกรธเกลียดแคทนิสมาก อันนี้ไรท์ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องส่วนตัวของไรท์
5555 //เหลือกตามองบน// อูยยย
อย่าร้องตามฟินนิคนะคะ
ไม่ร้องน้า //แบะปากตามพีต้า//
เอาล่ะค่ะก็จบไปแล้วกับ
Part 1 ในภาคสุดท้ายของ The Hunger Game นะคะ ฝากคอมเม้นท์กันหน่อยนะค้าา ถึงเรื่องนี้จะไม่ค่อยดังหรือมีคนนิยมมากแต่ใครที่จิ้นแล้วก็จะซาบซึ้งถึงทรวงไปเลยล่ะค่ะ
555555
รับรองว่าติดใจกันแน่นอน ฝากช่องทางติดต่อเป็นเฟสบุ๊คนะคะ
^^
ขอบพระคุณสำหรับการแวะเข้ามาเยี่ยมฟิคและบล็อกของไรท์นะคะ
^^ รักรีดๆ
มากเลยค่ะ ต่อจากนี้เรื่องก็ยังจะดำเนินไปตามเนื้อเรื่องในหนัง
แต่จะมีฉากหวานของทั้งสองจากไรท์มากน้อยแค่ไหนต้องติดตามค่า >////<
ขอบคุณนะคะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น