วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

[SF – Star Trek]+[Part 2] Really Love You…รักคุณจริงๆนะ- Spock x Kirk [After Rain 1]

...........................................................

มาแว้ววววววว รู้สึกเซ็งๆ กับการทำ SEO ยังไงบอกไม่ถูกค่ะ

มันยากสุดๆ ไปเลย เฮ้อ.....ไม่อยากพูดถึงมันแหละ

.......ไปอ่าน SF กันต่อดีกว่าเนอะ ^^

..............................................................


----------------------..........................------------------------ (ย้อนไปเมื่อกาลก่อน ไม่นานมานี่....หมอนัดคุยกับสป็อคเป็นการส่วนตัว -_-“)


“ก็อย่างที่บอกพวก......จิมมันเปลี่ยนไป”


“ผมไม่เข้าใจคุณ....คุณหมอ  คุณกำลังจะบอกว่ากัปตันเปลี่ยนไปอย่างไรครับ” ร่างสูงของวัลแคนขมวดคิ้วเรียวอย่างสงสัยถึงข้อความที่หมอแมคคอยต้องการสื่อ “ผมไม่สามารถรับรู้ถึงข้อเปลี่ยนแปลงนั้นได้เลย.......แม้ด้วยความที่ว่าผมได้ใช้เวลาอยู่กับกัปตันมากกว่าใครๆ ก็ตาม แต่ข้อคิดเห็นของคุณ  ผมไม่เห็นด้วย”


หมอแมคคอยกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย พลางถอนหายใจ “ก็คนที่อยู่ตัวแทบติดกันอย่างนายจะไปสังเกตห่าอะไรล่ะวะ.....ไม่คิดบ้างรึไงว่า.....” หมอแมคคอยเหลือบไปมองซ้ายขวา ทั้งๆ ที่ตอนนี้เค้าลากวัลแคนหนุ่มมาที่ลับตาคนแล้วก็ตาม ”ไอ้เจ้านั่นมันดูสวยขึ้นเห็นๆ”

สป็อคเลิกคิ้วน้อยๆ เอียงคอสิบองศา

หมอแมคคอยถอนหายใจอีกรอบ“ก็ไอ้ที่นายเรียกว่า ชวนตะลึงนั่นแหละ” นั่นเป็นคำนิยามที่สป็อคได้ให้ไว้กับจิมในวันแรกที่เค้าได้ผูกพันธนการใจกัน


“ครับ”


“จิมไม่รู้ตัวเองหรอก แต่คนอื่นๆ ก็เห็นด้วยกับฉัน ว่าหมอนั่นน่าดึงดูดขึ้น! .......แม้จะเป็นกับเพศเดียวกันก็เหอะ....” ประโยคสุดท้ายหมอสงวนไว้ให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น


“มันไม่สมเหตุสมผล........ในเมื่อความน่าหลงใหลเหล่านั้นควรจะเกิดขึ้นกับผมเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะกัปตันคือคู่ของผม....”


“เอ่อๆ ช่วงนี่มันดูตัวเล็กๆ ผมยุ่งๆ ชอบทำหน้าตาขี้สงสัยนี่หว่า แถมปากก็สีสดผิดปกติ  คนอื่นๆ เห็นมันก็ต้องค้างกันทั้งนั่น....ขนาดพวกผู้หญิงเห็นยังต้องชะงักเลย” หมอแมคคอยยื่นใบบันทึกตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดให้กับสป็อค


“ฉันยอมรับว่านายดูแลจิมดีจริงๆ แอลกอฮอล์งด ทานอาหารครบทุกมื้อ บลาๆ ทุกอย่างดีหมด ........ถึงใบนี้มันจะบอกอะไรแบบ....นั้นไม่ได้นะ  แต่ฉันว่าฟีโรโมนวัลแคนของนายทำให้คู่ของนาย........เอ่อ จิมน่ะ...ดูดีขึ้น ในแบบที่เรียกว่าเพศตรงข้ามน่ะ ”


“ผมไม่สามารถอนุมานได้ว่า  จิมจะสามารถรับฟีโรโมนของผมได้อย่างไร........”


“ก็เซ็กซ์ไง” อู่ว์หมอ  ตรงมากก


“ที่พวกนายนอนด้วยกันไง...........ทุกครั้งที่นายเสร็จในตัวหมอนั่นน่ะแหละ” เหมือนหมอจะพูดลำบาก แต่หมอก็พูดไปแล้ว ไม่กระดากปากเลยด้วยซ้ำ


เสร็จ.......ผมคงต้องขอให้คุณขยายความคำนี้ด้วยครับคุณหมอ”


“ก็..ฮืมม” หมอแมคคอยพัก ระบายลมหายใจออกมาเสียงดัง ......ทำไมไอ้หนูผีเลือดเขียวหูแหลมนี่ถึงเข้าใจยากอย่างนี้ฟระ!........


“ก็คือ เมื่อนายปลดปล่อยเข้าไปในตัวของจิมไง ไอ้หนูผี!” ฉันไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ ไม่ได้คอยแอบดูเพื่อนซี้มีอะไรกันทุกวี่ทุกวันหรอก ให้พูดบ่อยมันก็ไม่ดีนักหรอกนะ....... (คอยแอบดูทุกวี่ทุกวันงั้นเหรอหมอ.....-_-* : Ray - Aund)


“เข้าใจแล้วครับ” วัลแคนหนุ่มตอบ เหมือนเข้าใจบทเรียนที่อาจารย์กำลังสอนอยู่


“เฮ้อ......สป็อค  เอาเป็นว่าคอยระวังไว้หน่อยแล้วกัน ถ้าเผลอล่ะก็  โดนคนอื่นคาบไปกินแน่ๆ ” หมอแมคคอยก็ค่อนข้างเอือมกับความเย็นชาของคนตรงหน้า จึงได้เตือนเป็นนัยๆ ไว้  เพราะเค้าก็เป็นห่วงเพื่อนของเค้าอยู่เหมือนกัน  เมื่อฟังคำบอกเล่าของหมอแมคคอยสป็อคก็มีท่าทีเฉยๆ  แต่แท้จริงแล้วในอกของสป็อคตอนนี้ร้อนดังไฟ..................


-----------------------------..............................---------------------------------


“วู่ว์..ว..ว...เอาเลย..ย..” กัปตันจิม เคิร์ก กำลังดีดดิ้นอยู่บนฟลอร์เต้นรำอย่างสนุกสนาน ไม่ลืมหูลืมตา ไม่อายฟ้าอายดิน......


“คุณมาคนเดียวหรือครับ” อยู่ๆ ก็มีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่งเข้ามาทักจิมกลางฟลอร์เต้นรำ เค้าคนนั้นรูปหน้าเรียวคม เข้ากับตาคมมีเสน่ห์ และที่สำคัญจมูกโด่งรั้นนั้นก็ยังคมเข้าเซ็จทั้งใบหน้า  ช่างเป็นคนที่....หล่อเหลาเสียจริงๆ


“หา  นายว่าอะไรนะ” เสียงเพลงดังมาก  ทำให้เค้าหูไม่ดี


“ผมถามว่า.........คืนนี้คุณมาคนเดียวหรือครับ” คนถามย้ำอีกรอบ  แต่ครั้งนี้เค้าเข้าไปใกล้จิมมากขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก


“หึ  แล้วนายว่าไงล่ะ........” แต่กลับถามคำถามออกไปแทนคำตอบ  แถมจิมมี่ยังยักคิ้วใส่คนตรงหน้าอีกต่างหาก


.............แบบนี้มันจงใจยั่วกันชัดๆ................


“คุณมาคนเดียว.....” หนุ่มรูปหล่อนิรนามเออออให้เสร็จ คืนนี้ที่เค้ารู้สึกสนใจคนๆ นี้ขึ้นมาก็เพราะดวงตาสีฟ้าแวววาวฉ่ำเยิ้มคู่นั้นมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ตอนนี้เค้าถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กที่สติสตางค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคนนี้


เนื่องจากทั้งคู่อยู่ห่างกันแค่คืบ ชายหนุ่มจึงใช้แขนทั้งสองข้างเลื่อนมาโอบเอวเล็กของกัปตันที่เมาไม่ได้สติ


เสียงเพลงได้เปลี่ยนเป็นจังหวะช้าๆ แต่ยังคงความแรงของอินโทรนอยู่  จึงดูเหมือนเสียงเพลงจะเป็นใจให้ชายหนุ่มนิรนามถือโอกาสโยกตัวมาแนบชิดกับคนตัวเล็กกว่า


“นายอยากเต้นหรือ” กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งออกมาเต็มไปหมด


“ครับ...ผมอยากเต้นกับคุณ” ชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ดูหื่นกระหายกว่าเก่า  เค้าก้มลงสูดกลิ่นกายประจำตัวของจิม โดยที่คนถูกกระทำก็ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น  ตอนนี้จิมรู้สึกแปลกๆ รู้สึกถึงอารมณ์รุนแรง ความโกรธที่กำลังแผดเผาใจของเค้าอยู่  มันทำให้เค้ารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ความรู้สึกนั้นเหมือนจะสามารถฉีกใครได้เป็นชิ้นๆ เลยทีเดียว


หนุ่มหล่อนิรนามเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้หน้าของจิมจนจมูกแทบติดกัน  “ผมว่า...เราไปทำเรื่องอะไรที่มันสนุกกว่านี้ดีกว่านะ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ้ม ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปหมายจะจูบกัปตันเคิร์กให้ได้


แต่ทันใดนั้นก็มีมือมากระชากไหล่ของชายหนุ่มออกอย่างแรง รวดเร็วพอๆ กับที่คนกระชากเหวี่ยงหมัดใส่เค้าจนล้มตึงลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นได้ในหมัดเดียว.........ด้วยแรงที่มากกว่ามนุษย์ธรรมดาถึงสามเท่า


“สป็อค......” นี่เค้าต้องฝันไปแน่ๆ ถึงได้เห็นสป็อคมายื่นอยู่กลางฟลอร์เต้นรำแบบนี้  แถมยังต่อยคู่เต้นเค้าจนสลบเหมือดอยู่คาพื้นอีก ............ฝันๆๆ ฉันแค่ฝัน............. จิมภาวนาขอให้มันเป็นแค่ภาพหลอน  เพราะตอนนี้ภาพสป็อคตรงหน้าเค้าช่างน่ากลัวเหลือเกิน ..........มือที่กำหมัดแน่น  แววตาที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล  และคิ้วเรียวที่เคยชี้ บัดนี้กลับดูบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ


...............ไม่.......นี่ไม่ใช่สป็อค..............


.............ต้องเมามากไปแน่ๆ.....ใช่..ฉันแค่เมา.........แล้วก็เห็นภาพหลอนงี่เง่าก็เท่านั้น.................


ร่างสูงเดินเข้ามา จับข้อมือของจิมแล้วกระชากให้ตามเค้าไป


โอ๊ะโอ.......ดูเหมือนจะเป็นของจริง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าจิมตอนนี้จับต้องได้  พูดให้ถูก เค้ากำลังโดนสป็อคลากไปที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังไม่พูดอะไรเลยสักคำ  คงเป็นเพราะสป็อคกำลังโกรธกระมัง


........โกรธเหรอ.......สป็อคก็มีอารมณ์โกรธที่โฉ่งฉ่างเป็นกับเค้าเหมือนกันงั้นเหรอ  แต่การกระชากคนอื่นมาต่อยจนสลบคาพื้นแบบนี้มันไม่สมเหตุสมผล........ไม่ใช่หมอนั่นเลยด้วยซ้ำ ..........แล้วทำไม........................


“สป็อค เดี๋ยว.........เฮ้! สป็อคเดี๋ยวก่อนสิ.......” จิมร้องเรียกตลอดทาง  แต่อีกคนที่เดินนำเค้าก็ไม่แม้จะหันมาสนใจเลย  ทั้งร้องก็แล้วสะบัดมือก็แล้ว  มันไม่ได้สร้างความรำคาญใจให้กับสป็อคเลยสักนิด 


ทั้งคู่ฉุดกระชากลากถูกัน จนมาถึงที่พักของพวกเค้า  ‘ตึกหอพักบุคคลากรของสตาร์ฟลีตร่างสูงดึงให้คนตัวเล็กที่เหนื่อยหอบให้เดินตามไปต่อ จนพวกเค้ามาถึงชั้นที่แปด ซึ่งห้องนอนของพวกเค้าอยู่ประตูตรงข้ามกันเท่านั้นเอง สป็อคเดินมาหยุดอยู่ระหว่างประตูห้องของเค้าและกัปตัน หันไปเปิดประตูห้องของตัวเองแล้วลากเคิร์กเข้าไปด้วยกัน......ทันทีที่สป็อคปล่อยมือ จิมก็อดไม่ได้ที่จะเอามืออีกข้างมานวดข้อมือที่โดนแรงมหาศาลของสป็อคบีบ


“นายเป็นอะไรของนายเนี่ย” จิมหันไปคาดโทษ แต่ก็กลับต้องทำหน้าจ๋อยเพราะอีกคนดูโกรธมากกว่า  อารมณ์โมโหรุนแรงก็ยังคงไม่จางหายไป


“คุณทำอะไร” ในที่สุดคนที่เงียบมาตลอดก็พูดสักที แต่เสียงที่ออกมานั้นดูแข็งกร้าว น่ากลัว  จนจิมต้องถอยหลังไปสองสามก้าว


คนถูกถามไม่พูด  ร่างสูงตรงหน้าทำให้เค้ารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจจนพูดอะไรไม่ออก


ความรู้สึกกลัวของจิมถูกส่งผ่าน ไปถึงสป็อค............อีกใจหนึ่งก็นึกสงสาร แต่สิ่งที่มาเหนือเหตุผลเค้าตอนนี้ก็คือความโกรธ ..........โกรธที่จิมดื่มเหล้า......โกรธที่มีคนเข้ามาใกล้คนของเค้า........โกรธทุกสายตาที่จ้องมองจิม...........โกรธที่จิมถูกคนอื่นจาบจ้วง.............


“คุณทำอะไร” ถามย้ำอีกครั้ง แต่เสียงฟังดูน่ากลัวขึ้น


“ฉะ ฉันก็แค่......” จิมที่ยังกำมือตัวเองอยู่รู้สึกตัวเล็กลงทันที เค้าละล้ำละลักพูดอะไรไม่ถูก


“คุณไม่เพียงดื่มเหล้าจนขาดสติ.........แต่คุณยังพยายามเชื้อเชิญคนอื่นให้มาสัมผัสตัวคุณอีก..” เสียงเย็นของสป็อคดังขึ้นเรื่อยๆ จนจิมต้องถอยหลังหนี้ แต่มิวายสป็อคก็ยังคงเดินตามไปอยู่ดี  จนหลังของหนุ่มผมทองติดกำแพง.....ไร้ทางหนี


จิมไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย  เค้าไม่เคยเจอสป็อคที่ไร้เหตุผลและโกรธรุนแรงขนาดนี้  มันทำให้เค้ากล้วและหวาดหวั่นยิ่งกว่ากองทัพคลิงออนทั้งดาวซะอีก  สป็อคใช้แขนทั้งสองข้างท้าวกำแพงล้อมจิมไว้ให้อยู่ในออ้มอก  เสียงลมหายใจของสป็อค จิมได้ยินชัดเจน  สป็อคโมโหมากจนอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจอย่างเห็นได้ชัด  ส่วนคนที่อยู่จนแทบติดอกของร่างสูงก็เม้มปาก มองคนที่กำลังโมโหอย่างตัดพ้อ................โกรธงั้นเหรอ...ใครก็แน่ที่ควรโกรธ!.........


“ก็ฉันเหงานี่” ในที่สุดก็พูดออกมาได้เต็มประโยค แต่จิมก็น้อยใจสป็อคอยู่ไม่น้อยเช่นกัน.............ที่สป็อคโมโห เพราะกำลังหาเรื่องเลิกกับเค้าอยู่รึเปล่า


“นายไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย!....ไม่เคย....แม้แต่ฉันฉันนึกแล้วว่าสักวันนายก็จะเบื่อฉัน.......คำหวาน คำบอกรักจอมปลอมทั้งหลายน่ะมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ..........สักวันนายก็จะทิ้งฉันไป ทิ้งฉันไป!.....” จิมระเบิดอารมณ์ใส่หน้าวัลแคนไร้ความรู้สึก นี่ไง......ช่วงเวลาที่เค้ากลัวว่าจะมาถึงในสักวัน  แต่จะช้าหรือเร็วมันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี ...........เค้ามันพวกส่ำส่อน หาคู่นอนไม่เลือกหน้า........ (นี้คือคำพูดที่ออกมาจากปากสป็อคในเรื่อง How High the Moon Prat 2 ค่ะ เคิร์กฝังใจอย่างแรง...: Ray - Aund)


สป็อคก็รู้สึกเจ็บไม่แพ้กัน......ตลอดมาเค้าเฝ้าเอาใจใส่  ดูแลจิมด้วยความรัก  ประคบประหงมอย่างดี เหมือนคนตรงหน้าคือลมหายใจของเค้า หากขาดไปแม้แต้นาทีเดียวเค้าคงต้องตายแน่ๆ แม้จะมีบางครั้งที่กัปตันหนุ่มทำตัวเป็นเด็กดื้อ แต่เค้าก็จะใจเย็น และพร้อมมอบความอบอุ่นให้คนตัวเล็กเสมอ  แต่ความคิดของจิมตอนนี้  มันทำให้เค้ารู้สึกโกรธและเจ็บขึ้นมาในคราวเดียวกัน

 ..........ทำไม มาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีก  ผมได้บอกคุณไปแล้วว่าคุณคือลมหายใจของผม และผมจะรักคุณตลอดไป


แต่คนดื้อดึงกลับไม่ยอมฟัง...........เค้าใช้มือทั้งสองข้างปิดหูไว้แน่น 


 ไม่อยากรับรู้อะไรของนายอีกแล้ว


จิม......


ไม่.....ออกไปให้พ้น......ฉันไม่อยากฟัง........ออกไปจากหัวฉันนะ.......


การที่คนของเค้าดื้อดึงไม่ยอมฟัง  ทำให้อารมณ์โกรธของสป็อคยิ่งทวีคูณและไม่สามารถควบคุมมันได้อีก  วัลแคนหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างตรึงหน้าของอีกคนหนึ่งไว้ แล้วบดเบียดริมฝีปากร้อนลงไป...........บดขยี้ริมฝีปากของอีกคน


ความรู้สึกอบอุ่นของริมฝีปากร่างสูงทำให้จิมอดที่จะรู้สึกดีไม่ได้........เค้าต้องการมากว่านี้  ร่างเล็กจึงเผยอปากออกเพื่อให้ลิ้นร้อนของอีกคนจาบจ้วงเข้ามาในปากของเค้าได้  การแลกลิ้นแสนดุเดือดจึงเกิดขึ้น ทั้งลิ้นเล็กและลิ้นหนาต่างเกี่ยวกระหวัดกันและกัน


เนิบนาน........จากการจูบอย่างดูดดื่มและร้อนแรงที่สุด  แม้กัปตันหนุ่มก็ยังแปลกใจ เพราะที่ผ่านมาวัลแคนหนุ่มไม่เคยจูบเนิบนานและร้อนแรงขนาดนี้มาก่อน  จูบนั้นแฝงไปด้วยความร้อนแรงและความเสน่หา กระทั่งความเอาแต่ใจของวัลแคนหนุ่มก็มี


จนจิมหมดอากาศที่จะหายใจเค้าใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบเข้าที่อกของอีกคนเป็นการประท้วง  สป็อคยอมถอนริมฝีปากออกมาในที่สุด  แต่ไม่ทันที่จิมจะได้เอยปากพูดอะไร  วัลแคนหนุ่มก็จับเค้าขึ้นเตียง ล็อคแขนทั้งสองข้างให้ติดกับที่นอนอย่างง่ายดาย


“....สป็อค.........”


วัลแคนหนุ่มก้มลงไซร้ซอกคอขาวไรตำหนิของอีกคน สูดดมกลิ่นกายหอมหวนที่อบอวนไปด้วยแอลกอฮอล์อ่อนๆ  ภาพเมื่อครู่ที่หนุ่มผมทองกำลังโดนชายอื่นก้มลงจูบก็ทำให้ร่างสูงยิ่งหงุดหงิดจึงดูดเม้มทิ้งร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ทั่วลำคอ


สป็อคถล่กเสื้อบางขึ้น ก้มลงจูบอกขาวไม่แพ้คอของอีกคนอย่างหิวกระหาย ทั้งขบเม้มสร้างรอยจางๆ ไว้เต็มไปหมด บางครั้งก็เผลอใช้แรงวัลแคนขบกัดลงไป ทำให้คนตัวเล็กต้องหน้าแบ้ด้วยความเจ็บปวด..........เมื่อวัลแคนหนุ่มรับรู้ถึงความเจ็บนั้น จึงผ่อนแรงลง


..............คุณเจ็บเหรอ...............


...........ก็เอ่อน่ะสิ............


ผมขอโทษ...........ด้วยความเจ็บปวดของอีกคน ทำให้สป็อครู้สึกแย่ขึ้นมา.......ถ้าคู่พันธะของเค้าเจ็บ.....เค้าก็เจ็บด้วย...........


นายเป็นอะไรน่ะสป็อค.......


ผม...ผมขอโทษ.......ผมไม่เคยโกรธมากขนาดนี้มาก่อน ทำให้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของผมไม่เป็นผลเท่าที่ควร ผมขอโทษ.......ดูเหมือนวัลแคนหนุ่มจะเริ่มได้สติแล้ว


นายโกรธอะไรของนาย...............น่ากลัวชะมัด


คนตัวสูงกว่าหงอยขึ้นมาทันที...........ผมขอโทษ ตอนนั้นผมเห็นคุณอยู่กับชายอื่น และชายคนนั้นกำลัง....จูบคุณ


 “ก็ใช่น่ะสิ! ถ้านายเห็นฉันทำแบบนั้น.....งั้นฉันก็คงจะทำไปก็เพราะนายนั่นแหละ!


“เพราะผม”


“ใช่ ตลอดมานับจากวันนั้น วันที่นายบอกว่าฉันคือคู่ของนายฉันก็ไม่แตะเหล้าอีกเลย  แต่วันนี้ที่ฉันดื่มจนเมาแอ๋ ก็เพราะมีคนๆ หนึ่งที่ฉันอยากให้เค้ามา แต่ก็ดันไม่มา.........อึก....” อยู่ๆ หนุ่มผมทองก็ระเบิดอารมณ์ใส่วัลแคนแน่นวิชาการ ก่อนเค้าจะมีน้ำตาไหลออกมาซะเอง


คุณร้องไห้หรือ……..วัลแคนหนุ่มบรรจงใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้กัปตันหนุ่มอย่างอ่อนโยน...........หากผมอนุมานไม่ผิด คนที่คุณกำลังรออยู่ คือผมใช่ไหมครับ.......


“จะใครซะอีกล่ะ!


ไม่มีความจำเป็นที่คุณต้องรอผมเลย.......


“ช่างมันเหอะน่า!  ฉันจะรอหรือไม่รอ มันก็เรื่องของฉัน..........นายเลิกใช้โทรจิตนั้นสักที......แล้วช่วยอ้าปากพูดกับฉันหน่อยจะได้ไหม!


“ครับกัปตัน”


ถ้าไม่ติดว่าสป็อคใช้มือทั้งสองข้างจับแขนเค้าตรึงอยู่กับที่นอนแล้วล่ะก็  เคิร์กคงจะใช้มันก่ายหน้าผากทั้งสองข้างให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย


เฮ้อออ.....ให้ตายสิ........จะบื้อไปไหนเนี่ย


......................................................

เอืออออออออ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

[SF – Star Trek]+[Part 1] Really Love You…รักคุณจริงๆนะ- Spock x Kirk [After Rain 1]



            กิ๊กกิ้ววววว สวัสดีค่ะ เพิ่งสร้างบล็อกเป็นของตัวเองครั้งแรก และตั้งใจอยากกระพือFicในอุดมคติ?ของตัวเองเต็มที่เลยค่ะ............อันที่จริง SF เรื่องนี้มีอิทธิพลมาจากเรื่อง Fic (KirkSpock) How High the Moon ไม่รู้จะพูดยังไงเช่นกันแต่...NCCCCCCC!!!!!  เรื่องนี้มีด้วย แต่กว่าจะ...กัน ปาไปเกือจบ(จริงๆ)  เรื่องนี้ค่อนข้างประทับใจค่ะ ชอบมากๆ สป็อคหวงจิมมากๆ แม้กระทั่งแต่กับหมอก็เหอะ คิคิ น่ารักอ่ะ..^^ 


และด้วยความที่ว่า Ray เป็นคนมัก Nc หลายๆ (ไม่ค่อยบ่งบอกเลย ว่าตัวเองหื่นเพียงใด -..-) มันเลยคาใจค่ะ ก็เลยขออนุญาติเเต่ง SF เรื่องนี้มาเป็นภาคต่อของ How High the Moon ในเรื่องของความหฤหรรษ์นะค่ะ เหอๆ  เชิญรับชมได้เลยค่าาาา m_ _m


            ป.ล.
Part สุดท้าย Nc กระฉูดดดดดดดดดด วะฮะฮ่าาาา ....อุ เเค่กๆ  สำลักน้ำลายตัวเองงง


            พอเเล้ว!!! ....ไร้สาระ ///โดนไล่ฟาด/// จบการเวิ่นเว่อออออ


            เดี๋ยววววววววววว! ใครอยากอ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นก็อ่าน เรื่อง  Fic (KirkSpock) How High the Moon ก่อนได้เลยค่าา...จิ้มโลด  แต่ถ้ายังไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรค่ะ รู้เรื่องเหมือนกัน How High the Moon จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพบรักของกัปตันใจกล้าแต่น่ารักและวัลแคนแน่นหลักการค่ะ



            ----------------------------------------------------------------------------------



ภายในตึกวิทยาศาสตร์ของสตาร์ฟลีต..............................

            ร่างสูงของชาววัลแคนนั่งทำงานอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ ........เงียบจริงๆ  เพราะในห้องที่เค้ากำลังนั่งทำงานอยู่นั่นมีเค้าเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครอยากเข้ามาทำงานกะดึกในคืนวันศุกร์แบบนี้หรอก  เพราะนี่ก็เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ ทุกๆ คนก็อยากไปปลดปล่อยและดื่มฉลองกัน หลังจากลุยงานกันมาแล้วตั้งห้าวัน

ยามรักษาความปลอดภัยของตึก ซึ่งเดินขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยอยู่เป็นประจำ  ก็ได้เดินเข้ามาแวะเวียนเช็คความเป็นอยู่ ของบุคคลซึ่งสำคัญที่สุดอีกคนหนึ่งของยาน Enterprise

พุงโลที่ถูกรัดด้วยเครื่องแบบ เดินนำหน้าเข้าไปในห้องแลปใหญ่  ภายในถูกแบ่งแยกเป็นบล็อกเล็กๆ เพื่อใช้สำหรับเก็บและศึกษาตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตหายาก

หนึ่งในบล็อกนั้น ร่างผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีเข้ม กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับการทดลองสารบางอย่างกับสิ่งมีชีวิต แปลกประหลาด

ใบหูแหลมของเค้าไวต่อเสียง จึงทำให้รู้ว่ามีผู้มาเยือนตั้งแต่ก่อนก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้ว  แต่เค้าก็ยังคงทำงานของตัวเองต่อไป เพราะการมาของยามประจำตึกนั้น อยู่ในการคำนวณอันหลักแหลมของเค้าแล้วว่ามันจะเกิดขึ้น

คุณสป็อค........ยังไม่กลับอีกหรือครับลุงยามผิวดำทักขึ้นอย่างเป็นมิตร

ครับร่างสูงตอบตรงคำถาม..........มาก -_-“

นี่คืนวันศุกร์นะครับ  ทุกๆ คนก็ออกไปฉลองกันหมด พรุ่งนี้ก็พักผ่อน  คุณก็น่าจะออกไปพักผ่อนหรือสนุกบ้าง  ผมเห็นคุณทำงานกะดึกทุกวันศุกร์เลยก็ว่าได้”  ลุงเค้าหวังดี อยากให้คนบ้างานอย่างสป็อคได้พักผ่อนบ้าง

เช่นเดียวกับคุณครับ  ที่จะขึ้นมาตรวจสอบความเป็นไปของชั้นที่เจ็ดนี้ ในเวลา 20.45 น. ของทุกๆ คืนอย่างที่รู้กันว่าชาววัลแคนแน่นหลักการเอามากๆ เค้าสามารถคำนวณความเป็นไปของทุกอย่างได้เป็นอย่างดี  (คนรึหุนยนต์นี่............-_-)

คร้าบบ งั้นก็ตามใจ ผมไม่กวนใจคุณแล้วก็ได้  ตอนนี้เพื่อนบนยาน Enterprise ของคุณคงกำลังมันส์กันสุดเหวี่ยงอยู่แหงๆลุงยามพูดลอยๆ พลางเดินออกไปจากแลปของวัลแคนหนุ่ม

สป็อคหยุดมือที่กำลังทำงานอยู่ทันที  คำพูดทิ้งท้ายของยามวัยสี่สิบห้า  ทำให้เค้ารู้สึกกังวลถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมาตะหงิตๆ

หลังจากนั้น....... สป็อคก็รู้สึกถึงความคิดถึงและความตัดพ้อของอีกคนหนึ่ง  ก็แหงล่ะ ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกของเค้าตอนนี้เลย เป็นของอีกคนหนึ่งที่เค้ารู้สึกเป็นห่วงตะหงิตๆ เมื่อกี้นี้นั่นแหละ.......................



++++++++++++*****+++++++++++



ถ้าคุณทำงานในสตาร์ฟลีต  คุณคงรู้จักคนๆ นี้ดี

ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร

หรืออยู่ที่ไหน........

............ก็คงไม่พ้นการถูกจับจ้องไปได้

แต่นั้นเป็นเรื่องที่เราจะพูดถึงต่อจากนี้ต่างหาก

ก่อนที่กัปตันใจกล้าแห่งยาน USS Enterprise จะ...............เอ่อ.............เอาเป็นว่าตอนนี้ เค้ากำลังนั่งสั่งเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์ประจำของเค้ากับลูกเรือ

            ตาสี ฟ้าเปล่งประกายแวววาว ตอนนี้ดูหมองลงไปถนัดตา  จิม เคิร์ก นั่งจิบเครื่องดื่มอย่างเหม่อๆ ดูก็รู้ว่าต้องกำลังคิดถึงคนอื่นอยู่แน่ๆ

เสียงถอนหายใจ ถูกพ่นออกมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วในคืนนี้  ถ้าไม่มีใครบอกก็คงไม่รู้ว่านี่คือกัปตันเจมส์ ทีไบเรียส เคิร์ก แห่งยาน Enterprise ผู้ที่ซึ่งทำให้เกิดปาร์ตี้ได้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ปาร์ตี้ สนุกกับปาร์ตี้ได้สุดเหวี่ยงกว่าใครทั้งหมด

ขอนั่งด้วยได้ไหมค่ะสาวสวยรูปร่างเพรียวบางคนหนึ่งเข้ามาทักเค้า

เคิร์กหันไปส่งยิ้มแบบฉบับประจำตัวให้ ตามสบายครับคนสวย

หญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเริ่มหย่อนตัวลงกับเก้าอี้ข้างๆ เคิร์ก  เธอรู้ตั้งแต่เดินเข้ามา รู้ตั้งแต่เห็นแผ่นหลังและเรือนผมสีทองยุ่งเหยิงนั่นแล้ว ว่าเค้าต้องเป็นกัปตันเจมส์ ที. เคิร์ก แน่ๆ  สาวต่างดาวจงใจจะเข้ามาออ่ยเพื่อทดสอบคำร่ำลือของผู้ชายคนนี้โดยเฉพาะ 

แต่ก็ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น  คืนนี้มีสาวเข้ามาแวะเวียนทักทายเค้าอยู่ไม่มีหยุดหย่อน...........ก่อนที่เธอจะเข้ามาทักซะอีก  แต่คืนนี้เคิร์กไม่ได้ตอบรับสาวๆ คนใดเลยซักคน  เพราะตอนนี้ในใจของเค้ากำลังว้าวุ่นอย่างหนัก  พอคิดถึงหน้าม้าเต่อๆ กับหูแหลมๆ นั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดหนักเข้าไปอีก

คุณมาคนเดียวหรือคะ.....คืนนี้สาวเจ้าเริ่มเข้าประเด็นส่งสายตาเย้ายวนไปให้เคิร์กทันที

ก็ไม่เชิงครับผมมากับเพื่อนๆ เจ้าพวกนั้นไปสิงกันอยู่ทางฝั่งนู้นแน่ะเคิร์กเพยิดเพย้อไปทางฝั่งตรงข้ามบาร์ที่เค้ากับสาวเจ้านั่งอยู่

ทั้งหมอแมคคอย  ซูลู  เชคอฟ  สก็อต  และอูฮูร่า จับกลุ่มกันอยู่ที่โต๊ะพลู บ้างก็กำลังดื่ม บ้างก็โชว์ฝีมือการแทงลูกอย่างสุดสะวิง  เห็นได้ชัดว่ากัปตันเคิร์กคนนี้จงใจปลีกตัวออกมาจากกลุ่มชัดๆ

คืนนี้ฉันเหงาจังค่ะเธอพูดพลางใช้ฝ่ามือเรียวเล็กลูบไปที่ต้นแขนของเคิร์ก

            “งั้นเหรอครับถ้าเป็นยามปกติเค้าคงไม่ปล่อยให้เธอเหงาแน่ๆ  แต่คืนนี้เค้ารู้สึกหมดอาลัยตายอยาก อย่างบอกไม่ถูก  ใบหน้าของหนุ่มผมทองบ่งบอกเลยว่า กำลังไม่มีความสุข

สาวต่างดาวร่างเล็กลุกขึ้น แล้วหมุนเก้าอี้ของอีกคนให้หันหน้ามาหาเธอ แล้วขึ้นไปคร่อมบนหน้าตักของกัปตันหนุ่ม

มันเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดามากสำหรับจิม เคิร์ก  แต่หมอแมคคอยที่นั่งดื่มเงียบๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามนี้สิ ตอนนี้ตาโตเท่าไข่ห่านไปเรียบร้อยแล้ว

หมอใหญ่ของยาน Enterprise พรวดพราดลุกจากที่นั่ง แล้วรีบเดินเข้ามากระชากตัวสาวใจกล้าออกมาจากตัวเคิร์กทันที

ว๊ายยย! อะไรเนี่ย

ขอประทานโทษเถอะคุณผู้หญิง คุณไม่เห็นเหรอหมอนี่กำลังซึมมากขนาดไหน  คืนนี้คุณไปหาคนอื่นเถอะแมคคอยพูดใส่เธอหน้าตาเฉย

สาวร่างเล็กหันไปกล่าวโทษคนที่ไม่ได้พูดอะไรเลย คุณไม่เห็นบอกว่ามีคนคอยหวงคุณอยู่ด้วยแล้วเธอก็หันมาถลึงตาใส่สุภาพบุรุษแดนใต้ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ  ก่อนจะเดินสะบัดก้นออกไป

ไอ้โบนส์..........หนุ่มผมทองหัวยุ่งกลอกตาใส่เพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเรียนของเค้า  แล้วหันเก้าอี้กลับไปเท้าแขนบนบาร์เหมือนเดิม

ร่างสูงของหมอแมคคอยนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กัน  แล้วหันไปพูดกับเพื่อนที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก

            “นายรอมันทั้งคืน.......ไอ้หูแหลมนั่นก็ไม่โผล่มาหรอก  ออกไปสนุกซะทีเถอะน่า

ฉันก็เกือบจะได้สนุกอยู่แล้วนั้นไงเคิร์กตอบพลางชี้นิ้วโป้งไปข้างหลัง

นายจำไม่ได้รึไง  ครั้งสุดท้ายที่นายไปยุ่งกับสาวต่างดาวน่ะ มันเป็นยังไง

โอรีออนเหรอ

ใช่.........ไงล่ะ ยิ่งกว่าซัดสองแปดห้าเข้าไปทั้งลังซะอีก” (อื่ม BAN 285 เหล้าสียี่ห้อนี้ พ่อของไรเตอร์กับแก็งค์ของเค้าชอบกินกัน...ไม่รู้มันอร่อยตรงไหน : Ray - Aund)

ไม่เอาน่า นั้นมันผ่านมาตั้งสามเดือนแล้วนะใช่  ตั้งแต่เค้าได้ผูกเป็นคู่พันธะกับ...........................สป็อค  เค้าก็ไม่ได้เกี้ยวสาวไหนขึ้นเตียงอีกเลย  เหตุผลที่เค้าซังกะตายในคืนนี้ก็เพราะ วันนี้เป็นวันครบรอบที่เค้าทั้งสองได้ผูกพันธะกันมาเป็นเวลาสามเดือน........สามเดือนแล้ว

ฉันรอนายอยู่นะสป็อค............รอนายอยู่!!!

รึว่าเจ้าหุ่นยนต์นั่นจะจำไม่ได้หว่า  หรือบางทีเรื่องพรรค์นี้ อาจจะไม่ได้อยู่ในสมองวัลแคนอย่างหมอนั่นเลยก็ได้.........ห๊ะ...............อะไรนะ!

ฮึ่ม!.......น่าโมโหจริงๆ ...................ไอ้หูแหลมเอ้ยยย!!! ><

(หนูเคิร์กทนไม่ไหวแล้วนะ : Ray - Aund)

ว่าแล้วเคิร์กกี้ขี้น้อยใจก็สั่งคาร์ดาเชี่ยน  ซันไรส์ มาสามแก้วรวด

โว้ว......จิม นั่นนายสั่งมาอาบเรอะหมอแมคคอยถึงกับต้องเบรกไว้

เปล่าเว้ยแต่เบรกหมอคงจะแตก  เพราะตอนนี้คนไข้รายพิเศษของเค้า กระดกคาร์ดาเชี่ยน  ซันไรส์ รวดเดียวหมดสามแก้วติดกันเลย

ให้มันน้อยๆ หน่อยจิมมี่  กระดกประสดชีวิตขนาดนี้ นี่แสดงว่านายเลิกรอแล้วใช่ไหม  หมอแมคคอยถาม  .......กรึ๊บ ไม่สิ.........ต้องเรียกว่ายกดั๊มซะขนาดนั้น  คงจะโมโหไอ้หู้แหลมเลือดเขียวนั่นแล้วจริงๆ

รออะไร  ฉันไม่ได้รอหนิ..........เอ่อ ใช่  ฉันรอฤกษ์อยู่  ได้ฤกษ์ออกไปมันส์แล้วโว้ยหัวยุ่งสั่งคาร์ดาเชี่ยน  ซันไรส์ มาอีกสองแก้ว  กระดกหายไปแก้วหนึ่ง แล้วหยิบอีกแก้ว เดินไปหาเพื่อนๆ ที่รวมกันอยู่ที่โต๊ะพลู

หมอแมคคอยถลันตามคนตัวเล็กไปแทบไม่ทัน

จิม  จิมม!.........คืนนี้ฉันสั่งงดแอลกอฮอล์นาย!!....!” พยายามตะโกนแข่งกับเสียงเพลง......(......ไปเหอะ : Ray – Aund)

ม่าย ไม่  ไม่...โบนส์........คืนนี้นายต้องเมากับฉันกัปตันตัวเล็กยกแก้วในมือขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง  แล้วยัดที่เหลือเข้าปากโบนส์เพื่อนรัก ................ทีเดียวหมดจอก

แมคคอยใช้หลังมือเช็ดปากที่คละคลุ้งไปด้วยคาร์ดาเชี่ยน   แล้วจ้องคนที่ยัดมันเข้าปากเค้าเขม็ง เหมือนอยากจะจับเจ้าหมอนี่แก้กางเกง ให้เหลือแต่ชั้นใน แล้วพ่อจะจัดการตีก้นมันให้ลายไปเลย........มันน่านัก

ไปเร็วโบนส์..........เคิร์กดึงหมอแมคคอยไปข้างหน้า แต่ดูเหมือนแขนของแมคคอยจะคอยพยุงเค้าไม่ให้เซจนล้มลงไปซะมากกว่า

เอ่อ เอ่อให้ตายสิวะ..........คืนนี้สงสัยต้องคุมเข้ม

ถึงแม้ว่าหลังจากนั้น เคิร์กจะไม่ได้ดื่มอะไรอีก  แต่คาร์ดาเชี่ยน  ซันไรส์ สี่แก้วก็เป็นน้ำเมาอย่างดี ที่ทำให้กัปตันเมาเยิ้มได้ตลอดงานเลยทีเดียว

เย  เย่.....เย้.......ย....ตอนนี้เจมส์ ที. เคิร์ก กำลังเด้งหน้า เด้งหลังอยู่บนตักหนาของนายแพทย์แมคคอย ผู้ซึ่งตอนนี้ต้องใช้แขนทั้งสองข้างรัดกัปตันตัวน้อยไว้ให้อยู่บนตัก  เพื่อไม่ให้ไปเด้งหน้า เด้งหลังใส่ใครที่ไม่ใช่เค้าเข้า

นายจับฉัน ทามมาย...ย โบนส์....มาม่ะ..เราไปสนุกกันดีฝ่าาพูดแล้วก็ทำท่าจะเด้งออกจากตักของป๊ะป๋า(?)ให้ได้อีกรอบ  จนคนตัวสูงกว่าต้องออกแรงดึงให้หัวทองตัวน้อยกลับเข้ามาในออ้มอกเหมือนเดิม

จ้าๆ ดิ้นอยู่บนตักฉันนี่แหละ มันส์ดีสุดแล้วดูท่าทางคงจะงอนเจ้าหนูผีเลือดเขียวนั้นแล้วจริงๆ  เห็นมานักต่อนักแล้ว  ไอ้พวกที่เฮิร์ตๆ แบบนี้ เผลอเมื่อไร มันต้องไปสั่งเหล้ามาซดอีกแน่นอน ...........ไม่ได้ๆ ต้องเฝ้าไว้ไม่ให้คลาดสายตา......ฮึ่ม.......

แต่หมอใหญ่ก็ไม่รู้เลยว่ามีคนแอบมองเค้าอยู่ หนุ่มน้อยเชคอฟที่นั่งคุยอยู่กับซูลู อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแมคคอยเท่าไรเลย  เพียงแค่มองตรงมาข้างหน้าก็เห็นหน้ากันแล้ว กำลังมองดูหมอแปลงร่างเป็นเก้าอี้ให้กัปตันของเค้านั่งเล่นอยู่ อันที่จริงเด็กหนุ่มลอบมองหมอแมคคอยตั้งแต่เข้าบาร์มาแล้ว  หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เชคอฟคนนี้แอบมองหมอแมคคอยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วต่างหาก  ด้วยความที่ว่าหมอเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นๆ อยู่เสมอ  รวมทั้งเค้าด้วย

แม้ว่าเชคอฟจะทำหน้าที่เป็นคนรายงานสิ่งต่างๆ บนยาน นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ได้เดินไปไหน  แต่พอเดินไปไหนมาไหนทีไร  ก็เป็นต้องเดินเตะนู้นสะดุดนี่อยู่เป็นประจำ  แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเชคอฟน่ะซุ้มซ้ามขนาดไหน จะมีก็แต่ซูลู และแน่นอนคุณหมอลีโอนาร์ด  แมคคอย ที่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเวลาเด็กหนุ่มไปทำเปิ่นจนเกิดอุบัติเหตุเข้า

นายน่ะ  หัดระวังซะบ้างซิ  ถ้าลื่นล้มหัวฝาดไป....จ้อไม่ได้  ใครจะรับผิดชอบห๊าหมอมักจะพูดพลางใช้มือขยี้หัวฟูฟ่อง(?)ของเชคอฟอย่างหมั่นเคี้ยว

.........ก็หมอไง..........

เชคอฟได้แต่เก็บคำพูดไว้ในใจ ขอบคุณครับ  ผมไปได้รึยังครับ

เดี๋ยว  นั่นข้อศอกนายช้ำหนิ....ไหน  มานี่สิ.........ฉันบอกแล้วไงเวลาล้มน่ะอย่าใช้ศอกแหลมๆ รับน้ำหนักตัว เดี๋ยวมันก็จะ.....บลาๆ......บลา..แล้วก็เรื่อยเปื่อย........ยาวเลย  แต่ทุกคำที่ออกมาจากปากคุณหมอก็มีแต่คำตักเตือนที่แฝงความห่วงใยมาด้วยทั้งนั้น

นี่ไง  หมอที่เค้าหลงใหล   ด้วยความที่ว่าแมคคอยเอาใจใส่คนไข้ของเค้าอยู่เสมอ ทำให้เชคอฟรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีหมออยู่ใกล้ๆ  พอรู้ตัวอีกทีก็คิดถึงหมอแมคคอยตลอดเวลา ไปซะแล้ว

ตาดวงน้อยๆ มองดูนายแพทย์หนุ่มกับเพื่อนผมทองอย่างละห้อย  จะมีโอกาสสักครั้งไหมนะ ที่เค้าจะได้ทำอะไรแบบนั้นบ้าง....................อยากทิ้งตัวลงบนตักอบอุ่นของคนที่เค้าใฝ่ฝันบ้างจัง............................

เชคอฟใจลอยอยู่ได้ไม่นาน  เสียงของซูลูที่อยู่ข้างๆ ก็ดึงเอาความสนใจของเค้าไป

นี่...นายฟัง.........เฮ้ เชคอฟ  นายโอเครึเปล่าคนถามมีท่าทางเป็นห่วง

อะ อ๋อ....เปล่า....เปล่า ไม่มีอะไรหรอกฮะ คุณซูลู............ผมสบายดี

            “ถ้านายรู้สึกไม่ดีก็บอกฉันนะ.......ฉันจะได้พานายออกข้างนอกซูลูย้ำด้วยความเป็นห่วงอีกเช่นเคย

            “เป็นห่วงกันซะขนาดนี้  คืนนี้พวกนายเป็นคู่เดทกันรึไงเนี่ยนายสก็อตตี้ที่กำลังเมากรึ้มๆ ชี้นิ้วมาที่เชคอฟกับซูลู

ซูลูไม่ว่ากระไร  แต่เชคอฟรีบส่ายหน้าดิก ปฏิเสธทันที ไม่ใช่ๆๆ ไม่ใช่นะครับ

หน้าตาเชคอฟตอนนี้จริงจังแบบสุดๆ ทำให้คนรอบโต๊ะพลูพากันหัวเราะชอบใจเด็กหนุ่มกันใหญ่  เว้นก็แต่เคิร์กเมาเยิ้มที่หันไปหาสก็อตตี้ในจังหวะที่หมอแมคคอยกำลังเผลอไปสนใจเชคอฟอยู่นั่น

นายพอมีอะไรที่มันแรงๆ หน่อยไหม............ฉันอยากได้มาย้อมใจสักแก้ว

            “มีสิ   นี่เลย...บูมบูม ชอตท์ บรัมมิ่ง ........แก้วนี้ฉันยกให้นายเพื่อน................เอิ๊ก..ก...ดื่มให้มันลืมไอ้เจ้าสป็อคขี้เก๊กนั่นไปเล้ยยดูเหมือนสก็อตตี้จะกุไม่กลับแล้ว ต้นกลแห่ง Enterprise ยกแก้วที่มีเหล้าสีเขียวอมฟ้าให้เคิร์กเพื่อนรัก แรงกระแทกจาย...ย...

ยังไง

ไอ้แก้วจิ๋วๆ แก้วนี่ยิ่งกว่าเตกีล่าเจ็ดแก้วรวมกับบรั่นดีอีกเป็นขวดเลยนาา.........ร๊าบรองแก้วเดียว  คืนนี้นายนอนได้โดยไม่ต้องมีเจ้านั่นนอนข้างๆ เลยด้วยซ้ำ......เอิ๊ก....

อืมม รู้จายยเคิร์กชี้หน้าสก็อตตี้แล้วหัวเราะคิกๆ  ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าสีสวยมาจากอีกคน  แต่คนที่ได้แก้วไปนั่นกลับเป็นหมอแมคคอยซะนี่

            “ไม่ต้องเลยไอ้หนูทันใดนั้นหมอคนเก่งก็กระดกเทของเหลวสีสวยลงคอตัวเองไปคนเดียวหมดแก้ว

สก็อตตี้มองแล้วอ้าปากค้าง........กินหมดแก้วเลย........ แล้วกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก

...........พรุ่งนี้คอยฟังข่าวบ้าๆ ของหมอแมคคอยล่ะกันน้า..............

นายยังไหวไหมเพื่อนเคิร์กหันไปตบหน้าเพื่อนหมอแรงๆ

            “อืม.....นายเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย........ปวดหัวชะมัดหมอแมคคอยหันไปมองสก็อตตี้อย่างคาดโทษ

 “ก็ฉันกำลังจะบอกนายอยู่นี่ไง......ว่าต้องค่อยๆ จิบ  ไม่ใช่กระดกหมดแบบนั้นสก็อตตี้หันไปมองแก้มบูมบูม ชอตท์ บรัมมิ่ง  แล้วหันกลับมามองหน้าหมอ ไม่เป็นไรนะเพื่อน  ตอนแรกก็จะปวดหัวจี๊ดๆ แบบนี้แหละ  แต่พอผ่านไปสักพัก มันก็จะโอเคเอง........... .............นายก็จะเหมือนล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์เลยล่ะ

โอเคกะผีน่ะสิแมคคอยสวนขึ้นมาทันควัน  ตอนนี้หัวเค้าปวดตุ้บๆ ไปหมดแล้ว ยิ่งกว่าสูดฟีโรโมนของพวกโอรีออนซะอีก  หมอแมคคอยคลายมือออกมาจากเคิร์ก แล้วใช้มันกุมขมับตัวเองแทน  ..........แถมยังรู้สึกร้อนขึ้นมาซะด้วยสิ...............

เคิร์กใช้จังหวะนี้ ขยับตัวออกจากหมอเพื่อนรัก  ปล่อยให้หมอปวดหัวไปนั่นแหละ  ส่วนเค้า...........จะไปลั๊นลาที่ฟลอร์เต้นรำ!............


.


.


.


TBC.


-----------------------------------------------------------------------------------------------------


                


              อร๊ายยยยยย ชอบกันมั่งไหมอ่ะยังไงก็รบกวนขอคำติชมบ้างนะค่ะThank U หลายๆ เด้อค่าาาาาา......................รักนะจุบุๆ.......Ray - Aund