วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 20] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi


กราบสวัสดี รีดที่เคารพรักทุกท่านค่ะ M_ _M  ไรท์....ไรท์ปรากฏตัวแล้วค่ะ //ตาโหล//  ในที่สุด! ไรท์ก็เพิ่งจะสำเหนียกได้เสียทีว่า เราจิต้องลงฟิคแล้วละหนาาา  นานมากแล้วว ลงสักทีเห๊อะ.....เมื่อคิดได้ดังนั้น ไรท์ก็เลยเปิดหน้าเวิร์ดแล้วก็อ่านทวนแบบ ที่ไรท์คาดว่าน่าจะไม่มีอะไรผ่านสายตาไรท์ไปได้ค่ะ สมองไรท์ตอนนี้อยู่ในระดับที่โอเคค่ะ 

แต่ร่างกายมิไหวแล้ว วันนี้รู้สึกปั่นจักรยานไกลไปหน่อย ฮาาาา  ไม่ได้ออกกำกายนะคะ  ไปซื้อของมาทำของแถมการ์ดฉลองปิดฟิค 55555 //รีดบอกว่า เมื่อกี้หลงคิดไปว่า Healthy เถอะแก//  ปั่นไปถึงปรากฏว่าไม่มี! ฮาเลยค่ะ 555  อิโด่! รอไปตลาดก็เดะ -3- ชริๆๆ

เข้าเรื่อง!! อย่าฝอยยยยย มาต่อกันที่ Part ที่แล้วแบบจ่อก้น จ่อสถานการณ์เลยนะคะ ><  จะเกิดอะไรขึ้นนะ ที่หลังพุ่มไม้พุ่มนั้น  แล้วๆๆๆ //จะสปอยล์//  เอาเป็นว่า Part นี้จะบอกอะไรแก่รีดๆ ในเรื่องราวที่เล็กน้อยแต่ทว่าก็สำคัญยิ่งก็แล้วกันนะคะ ^^ 

อร๊ายยยยยยยยยย อดใจไม่ไหวล่ะ  เดี๋ยวจิเวิ่นเว่อร์ สปอยล์ด้วย 55555 ไปอ่านกันเลยค่าาา  พิมพ์ผิด หรือเล็ดรอดสายตาไรท์ไปในส่วนที่ตกหลน ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ M_ _M  


----------------------------------------------------------------------------------------------


แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงสวบสาบเกิดขึ้นตรงพุ่มไม้ อยู่ห่างออกไปจากด้านหลังของพวกเค้า  โรนัลโด้และเมสซี่หันไปมองทางต้นเสียงทันที......มันเป็นเสียงสั้นๆ อาจเป็นเสียงใบไม้ใบใหญ่ที่กระทบกันเพราะสายลมแรงก็ได้

แต่คืนนี้พวกเค้าผ่านอะไรมาเยอะแล้ว อะไรที่เกิดขึ้นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ควรชะล่าใจ  สองสายตายังคงจ้องมองพุ่มต้นปาล์มไม่ละไปไหน  จนกระทั่งร่างเล็กหันกลับมาเอ่ยสั้นๆ

“เดี๋ยวผมจะไปดูเอง”

เดี๋ยว  ไม่ ลีโอ....” ในขณะที่ร่างเล็กกำลังลุกขึ้นเดินออกไปอยู่นั้น โรนัลโด้ก็จับมือเล็กๆ ไว้  ร่างสูงส่ายหน้าไม่ยอมให้เค้าไป

เมสซี่ส่ายหน้าตอบ “คงไม่มีอะไรหรอก  ถ้ามีล่ะก็โผล่ออกมาแล้วล่ะ ผมแค่จะเดินไปดูให้แน่ใจเฉยๆ คุณเจ็บนี่.....นั่งพักอีกนิดเถอะ  เดี๋ยวผมกลับมา”

โรนัลโด้ไม่ชอบใจนัก “แต่ว่า.....”

“ผมจะรีบกลับมา” ว่าแล้วเมสซี่ผู้ดื้อดึงไม่แพ้กันก็ดึงมืออกมาอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยๆ เดินตรงไปยังต้นเสียงเมื่อครู่อย่างที่โรนัลโด้เคยทำแต่ก็ไม่ค่อยเหมือนนัก  และเมื่อไปถึงร่างเล็กกลั้นหายใจก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดู..........

ว่างเปล่า

เมสซี่ดึงหน้ากลับมาแล้วทำหน้าเหมือนตัวเองบ๊องไปแล้ว ก่อนจะหันหลังกลับมายักไหล่ใส่โรนัลโด้

“ไม่มีอะไรเลย สงสัยเป็นลมน่ะ”

โรนัลโด้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งใจ  เค้ายิ้มออกมาก่อนจะพาตัวเองลุกแล้วเดินไปหาเมสซี่

ร่างเล็กก็ตั้งใจจะเดินกลับมาหาคนเจ็บบ้าง

หาอะไรอยู่งั้นเหรอ”

ลีโอ!!” โรนัลโด้ตะโกนเสียงดัง

แต่ไม่ทันเสียแล้ว กบฏตัวเขื่องที่โผล่ออกมาจากอีกที่หนึ่งเข้ามารัดคอร่างเล็กไว้จากด้านหลังแล้วเอามีดจ่อคอขาวๆ ของคนที่ระวังตัวไม่พอ  ใบมีดกดเข้าไปจนโดนเนื้อนิ่มโอบอุ้มไว้

“อึก คริส!” เมสซี่เอื้อมมืออกมาหาโรนัลโด้ สีหน้าหวาดกลัวและตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

“อย่าดิ้นสิว้อย!....รู้ไหม ว่ากว่าจะหาตัวแกได้น่ะมันวุ่นวายขนาดไหน” ผู้ร้ายคนนั้นสะบัดร่างเล็กในอ้อมกอดแล้วออกแรงรัดแน่นขึ้น  เมสซี่เกือบหายใจไม่ออก

“แกอย่าทำอะไรเค้านะโว้ย!!” โรนัลโด้ตะโกนออกไป เสียงของเค้าฟังดูคุกคามไม่น้อยเลย  ใบหน้าที่แสดงถึงความโกรธและความไม่พอใจ ที่เค้าเองก็สับเพร่ายอมให้เมสซี่เดินออกไปคนเดียว

“แกอย่าคิดทำอะไรเค้าเป็นอันขาด” โรนัลโด้ประกาศ  ตอนนี้ร่างสูงยืนห่างออกไปไม่มากนักและยืนจนเต็มความสูงอย่างมั่นคง  เค้าลืมอาการเจ็บปวดที่เคยรู้สึกไปเสียสิ้น.....สิ่งที่เค้ายอมแลกตอนนี้คือความปลอดภัยของร่างเล็ก

.............ปืนที่เหน็บไว้ตรงเข็มขัดยังคงไม่ได้ชักออกมาใช้  เพราะเค้าจะไม่ชักมันออกมาแล้วยิงเด็ดขาด อีกคนที่เค้าห่วงใยอาจโดนลูกหลงได้............

เจ้าโจรหน้าเหี้ยมยิ้มเหี้ยมเข้ากับหน้าตา แล้วหัวเราะเยาะ “ฮ่าๆๆ บ้าไปแล้วเหรอ! กว่าข้าจะอุตส่าห์เจอตัวเจ้านี้ได้ข้าต้องโกหกกับเชือดคอหอยไปหลายอยู่นะ.....และปืนสุดที่รักของข้าด้วย” มันว่าพลางไล่ใบมีดไปตามแนวเส้นเอ็นบนลำคอของเมสซี่ผู้ตัวสั่น

ร่างเล็กเอี่ยวคอหนีอย่างนึกกลัวและรังเกียจยิ่งกว่า  ร่ำๆ อยากจะตะโกนออกมาว่า “ไม่อยากรู้! เสียด้วยซ้ำไป  แต่ก็รู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นมันจะเป็นความคิดที่โง่มากๆ   มือทั้งสองข้างของเค้าพยายามแกะแขนใหญ่เทอะทะให้ออกไปจากคอของตัวเอง

โรนัลโด้ทำท่าจะวิ่งไปหา แต่เจ้าโจรหน้าไม่เป็นมิตรนั่นก็ขู่ไว้

“อย่าเข้ามานะเว้ย! อย่าเล่นตุกติก ไม่งั้นข้าคงต้องเสี่ยงทำร้ายเพื่อนของแก.....เล่นกดดันกันแบบนี้  ก็ข้าไม่มีปืนนี่หว่า.....”

“ไอ้คนถ่อย” โรนัลโด้คำรามรอดไรฟัน  คนได้รับก็ยิ้มหน้าตาชื่นมื่น รัดตัวประกันที่หัวหน้าต้องการไว้แน่นราวกับทองคำ

หึ  แกมันไอ้หน้าโง่.....เข้ามาแส่เรื่องของคนอื่นทำไม” มันหัวเราะเยาะอีก  จากนั้นก็สั่งให้โรนัลโด้เดินเข้ามาหาพร้อมกับยกมือขึ้นมาไว้บนหัว

“อย่าตุกติกน่ะ....ไม่งั้นมีดนี่ได้จิ้มลงไปในคอหอยเจ้านี่แน่” ชายผู้ไร้คราบแห่งความปราณีว่าพลางกดมีดลงไปหาร่างที่อยู่ในอ้อมกอด  เมสซี่สะดุ้ง ขนลุกไปทั้งตัวและจะร้องไห้  ดวงตากลมโตกับจมูกโด่งรั้นออกสีแดงจัดเพราะพยายามอดกลั้นเอาไว้

“อึก...ฮะ ฮึก”

โรนัลโด้มองสีหน้าที่ไม่ค่อยสู่ดีของร่างเล็กแล้วก็ต้องกัดฟันอดทนไว้  ร่างสูงตวัดสายตากลับไปมองผู้ร้ายที่อยู่ตรงหน้าอย่างคุกคาม

“แกหยุดอยู่ตรงนั้นล่ะ” มันบอก และร่างสูงก็ทำตามนั้น ก่อนคนที่คุมสถานการณ์ตอนนี้จะโยนเชือกเส้นผอมๆ มาไว้ตรงหน้าโรนัลโด้

“มัดตัวเองซะ!” มันคำราม และยิ้มเยาะอย่างเหนือกว่า  มือก็ยังคงกำมีดแน่น........นึกภาพหน้าหัวหน้าตอนดีใจว่าจะเป็นยังไง เมื่อมันพาตัวทำเงินไปให้เจ้านายได้ถึงสองคน

“เร็วๆ สิว่ะ! มองข้ายังงั้นหมายความว่าไง....จะหืองั้นเหรอ”
                            
อ๊าา!” พูดไม่พูดเปล่า ผู้ร้ายร่างเทอะทะกดมีดลงไปบนต้นคอของร่างเล็กจนรู้สึกเจ็บแปลบ

ลีโอ! .....ฮึ๊ย ไอ้คนสกปรก!” โรนัลโด้มองตาเดือดดาลใส่อย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายใช้วิธีหน้าตัวเมียแบบนั้นกับคนที่ไม่มีทางสู้และบังคับให้เค้ายอมจำนน  แต่ร่างสูงก็ไม่มีทางเลือก...............

หากจะช่วยก็ต้องช่วยเดี๋ยวนี้  ไม่ให้มันได้ทันตั้งตัว  หรือไม่มีโอกาสอีกเลย

โรนัลโด้ที่ค่อยๆ หยิบเชือกขึ้นมา ทำทีเป็นสนใจมันแล้วเตรียมตัวพุ่งเข้าไปแย่งมีดออกมาจากอีกฝ่าย.........แม้เค้าจะบาดเจ็บและใช้ปืนได้ก็ตาม

แต่ก็อย่างว่า  เค้าเจ็บและมันอาจส่งผลต่อการยิงของเค้าด้วย  แต่ก็ต้องลองดู.........

โรนัลโด้ขว้างเชือกลงกับพื้น

“เฮ้ยแกคิดจะทำ.....”

ปังง!!

อ๊ากก!

แต่ทันใดนั้นก่อนผู้ถือไพ่เหนือกว่าจะได้ทันพูดจบ  ร่างของมันก็ทรุดลง  มีดและแขนที่เกาะกุมร่างเล็กไว้อ่อนกำลังลง  ใบหน้าของมันดูบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดก่อนจะทรุดลงกับพื้นอย่างรวดเร็วแล้วแน่นิ่งไป........กระสุนโดนจุดสำคัญ

หากแต่มันไม่ใช่กระสุนที่มาจากร่างสูง  โรนัลโด้ยังไม่ได้ชักปืนออกมาเสียด้วยซ้ำและเค้าคิดที่จะพุ่งเข้าไปแย่งมีดและช่วยเมสซี่ออกมาต่างหาก  ร่างสูงมีสีหน้างุนงงไม่น้อยที่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากด้านหลังของผู้ร้ายที่จับตัวเมสซี่ไว้

.........ใครเป็นคนยิงกัน?.........

และทันทีที่โจรชั่วได้ตายไปอย่างรวดเร็วด้วยกระสุนเจาะเข้ากลางสมอง  ร่างเล็กที่ขาอ่อนไร้การพยุงก็ทิ้งตัวลงบ้าง แต่ดีที่ร่างสูงวิ่งมารับตัวไว้ได้ทัน

โรนัลโด้ขมวดคิ้วและงงยิ่งกว่าเดิม แต่ท่าทางเค้าก็ไม่ไว้ใจสถานการณ์...........

ก็คนที่วิ่งไปรับน่ะ มันก็ไม่ใช่เค้าอีกนั่นแหละ!!

ร่างสูงกำยำยังกะเจคอบในหนังเรื่องทไวไลน์ โผล่มารับตัวเมสซี่ไว้.......ชายคนนี้ไม่ใช่โจรแน่ๆ เพราะเค้าสวมสูทดูสะอาดสะอ้าน  คล้ายๆ จะเป็นลูกครึ่งอเมริกันซะด้วยซ้ำ  และดูมีทักษะ  และหน้าตาดี  คนแบบนี้คงจะไม่ใช่โจรเป็นแน่..........

โรนัลโด้เดินเข้าไปใกล้ เพื่อขอตัวเมสซี่ที่ทำท่าจะลมจับกลับมาหาตัวเอง  แต่ชายคนนั้นก็หันตัวร่างเล็กหนีอย่างนึกระแวง ก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าของร่างสูงใกล้ๆ

“อ้าว คุณ....โรนัลโด้นี่เอง  ไม่ต้องกังวลแล้วครับ......ผมเจ้าหน้าที่จาโร สังกัดหน่วยความปลอดภัยพิเศษแห่งริโอครับ”

โรนัลโด้ถอนหายใจ แล้วลู่ไหลลงอย่างโล่งอก


.


.


.


***************************************************************************************


“นั่งลงไปไอ้บ้า! แกเมากัญชามากพอแล้วคืนนี้”

เสียงขู่กรรโชกระคนเอือมระอาว่า  ก่อนจะเหวี่ยงคอเสื้อแล้วกระแทกร่างๆ หนึ่งลงที่เดิม

“โอ๊ยย! เบาๆ สิวะ  นุ่มนวลหน่อยไม่เป็นรึไง!” ร่างนั้นตะเบ็งเสียงกลับมา  ผู้ร้ายที่มาส่งเค้าถึงที่ส่ายหน้าน้อยๆ ..............ถ้าหากหัวหน้าไม่กำชับให้คุมตัวประกันเฉยๆ อย่าทำอะไรแล้วล่ะก็....จะขอใช้ปืนตบหน้าไอ้หมอนี่สักครั้งหนึ่งเหอะ!

คิดอารมณ์เสียกับตัวเองในขณะที่หัวเสียไม่แพ้กัน  ก่อนเดินออกไปประจำตำแหน่งตามเดิม

เนย์มาร์ปัดมือที่เปื้อนฝุ่นของตัวเอง แล้วหันมากอดเข่ายักคิ้วให้เพื่อนที่นั่งรออยู่ “ไง  ใช้ได้ไหม?” สีหน้าเค้าดูทะเล้นไม่น้อยเลย  ผิดกับเปเป้ที่เพิ่งฟังเสียงปรบมือเกรียวกราวของแขกทุกคนเมื่อเพลงของเนย์มาร์จบเมื่อกี้นี้

“ใครบอกแกว่าทำยังนั้นแล้วเท่ห์น่ะห๊ะ” เปเป้ยังคงข้องปนเอือมอายไม่หาย

“ทำไม่ได้อย่างฉันล่ะซี่....”

“เออ! ใครจะไปหน้าด้านเท่าแกว่ะ”

“เจ๋งสุดไปเลย ท่านเนย์มาร์”

“สงสาร Adam   Lambert ......มีแฟนคลับที่เอาเพลงเค้ามาร้องเสียๆ หายๆ แบบนี้เนี่ย”

“ฮ้า ฮา ฮ๊าาา” เนย์มาร์ประชด ทำท่าเผยมืออกไปเหมือนปล่อยนกพิราบ  เปเป้อุดหู

และอีกครั้งที่มึลเลอร์หมดความอดทน

พระเจ้า! ทำไมฉันถึงไม่ย้ายที่นั่งซะว่ะเนี่ย!......ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วว้อยย ไอ้บ้าสองคนจอมปากหมานี่! .......อ้าวเฮ้ย  มานูเอล!  นายเจอ.....เฮ้! ชไวนี่ หวัดดี....ฉันนึกว่าเราจะหานายไม่เจอซะแล้ว” แต่แล้วร่างสูงเจ็ดฟุตหนึ่งก็ต้องดีดตัวขึ้นอย่างดีใจ เมื่อนอยเออร์ที่คอยๆ เดินบนข้อเท้าเข้ามาร่วมวงด้วย พร้อมกับที่ดึงมือชไวนี่มาด้วย กลับมาหาเพื่อนพ้องได้อย่างปลอดภัย

มึลเลอร์กอดชไวนี่ แล้วเนย์มาร์กับเปเป้ก็หันมาหาพร้อมกับร่วมยินดีด้วย

“ไง นอยเออร์....ชไวนี่ ดีใจที่ได้เจอนายนะ”

“ไง ทั้งสองคน....ว้าว โชคดีชะมัดเลยที่พวกนายไม่ได้เป็นอะไรน่ะ”

นอยเออร์พยักหน้าเป็นเชิงรับเงียบๆ ตามแบบฉบับ “ขอบใจ....และอีกอย่างฉันออกไปหาชไวนี่คนเดียว ไม่ใช่เรา” ชายร่างสูงที่สุดพูด  คนโดนพูดใส่ก็ยิ้มแห้ง

“ฮา ฉันดีใจไปหน่อยน่ะโทษที”

ชายหนุ่มทั้งห้ากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เหมือนบอยแบนด์ในตำนาน  ทุกคนต่างนั่งล้อมวงกันคุยถึงปัญหาสุดท้ายที่พวกเค้ายังคงกังวลอยู่

“แล้วโรนัลโด้กับเมสซี่ล่ะ มีใครเห็นพวกเค้าหรือยัง?” ชไวนี่เปิดสนามถามคนแรก ถึงหัวข้อที่อยู่ในอกของทุกคนตอนนี้  นอยเออร์มีสีหน้าไม่ชอบใจสถานการณ์อีกครั้ง แต่เนย์มาร์ก็โพล่งขึ้น

“ไม่ต้องห่วง  มีคนไปช่วยสองคนนั่นแล้วล่ะ  แล้วแถมเค้ายังโทรศัพท์ไปเรียกกำลังเสริมมาแล้วด้วยนะ” แต่นอยเออร์ก็ถามขึ้นอีก

“เดี๋ยว  นายบอกว่าใครโทรไปเรียกกำลังเสริมนะ...”

“เจ้าหน้าที่จาโรไง.....ใช่ไหม  เค้าชื่อนั้นใช่รึเปล่า”

“อืม ใช่ๆๆ เค้าเสียสละแล้วก็กล้าหาญมากเลยล่ะ”

แต่คนเริ่มคำถามแรกกลับขมวดคิ้วพร้อมกับคำพูดที่ทำให้อีกสามคนหน้าเสีย

“ก็ไหน พวกนายบอกว่าสัญญาณโทรศัพท์โดนตัดยังไงล่ะ” นอยเออร์มีสีหน้านิ่งไป เสียงเค้าราบเรียบแต่ทว่าตึงเครียดเป็นอย่างมาก  แล้วพูดต่อ

“จากที่ฉันได้ยินพวกนั้นคุยกัน  พวกมันสื่อสารกันผ่านวิทยุความถี่ของตัวเอง  มันจะส่งสัญญาณแค่ในบริเวณนี้เท่านั้น......นอกนั้นถือว่าหมดสิทธิ์ พวกมันตัดกำลังเราไม่ให้โทรไปเรียกกำลังเสริมได้”

เนย์มาร์ยกนิ้วขึ้นเหมือนมีความเห็น แต่โดนนอยเออร์ชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“ถ้าเค้าเรียกไปจริงก่อนโดนตัดสัญญาณ ......นี่มันก็ผ่านมาเกือบค่อนคืนแล้ว ถ้ากำลังเสริมได้รับข้อความจริง ก็คงมากันตั้งนานแล้ว”

ทุกคนมองหน้ากันไปมา

“เจ้าหน้าที่อะไรนั่นของพวกนายโทรออกไปขอความช่วยเหลือจากกำลังเสริมไม่ได้หรอกนะ  เค้าไม่มีสิทธิ์พูดด้วยซ้ำว่าทำแบบนั้นไปแล้ว”

คราวนี้ทุกคนหน้าซีดเผือด


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------


ห๊ะ! ห๊าาาา! O_o ว่าเยี่ยงไรนะเฮียมานูเอลขาาา!OMG!!เป็นแบบนั้นไปเสียแล้ววว >{}<  นี่ล่ะค่ะ ที่ไรท์พยายามจะบอกรีดๆ .........เค้ามาแล้วววว

อร๊ายยย ว่าแต่นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่วันเดียวแล้วนะคะ สำหรับ เวลาเปิดจองการ์ดฉลองปิดฟิค พร้อมของแถมสุดเริด! ใครยังไม่ได้เสนอชื่อค่ะ  รีบด่วนเลยค่ะ  เพียงแค่วันพรุ่งนี้วันสุดท้ายเท่านั้น  เช้าวันถัดไป ไรท์จะปิดรับแล้วนะคะ  วันรุ่งพรุ่งนี้ทุกท่านยังมีโอกาสอยู่ค่ะ  แต่ถ้าหากเลยเถิดไปจนถึงวันรุ่งของพรุ่งวันที่ 1 พฤษภาคมแล้ว  ไรท์จิไม่รับแล้วนะคะ ><



วันพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะคะ >///<!!  นี่คือเฟสของไรท์ค่ะ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< เข้ามาทักทายหรือพูดคุยกันได้เสมอเลยนะคะ (แต่ช่วงนี้ไรท์ไม่ว่างนะเออ ยุ่งนิดหน่อยค่ะ) 

และใน Part ต่อไปจะเป็นอย่างไร?  เค้าที่เพิ่งถูกเปิดโปงจะทำอะไร?  และเฮียกับเหมียวของเราจะเป็นไปยังไง?  เฮียจะปกป้องเหมียวได้หรือไม่?  ติดตามชมกันได้ใน Part หน้าค่ะ!

รักรีดนะเออ See You Again ค่ะ //คิดถึงพี่พอล TWT...Fast 7 เกี่ยวไรด้วย//

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 19] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi


สวัสดีค่ะรีดๆ สาวก RonalSi ทุกท่านนนนนนน ><  ก่อนอื่นเลยค่ะไรท์ต้องขอหน่อยค่ะ...........กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! >{}<   //กรีดร้อง// 

อะ โอ๊ยยย  ตรวจทาน Part นี้ไปแล้ว ไรท์ก็พะเอิญเปิดเพลง Marry Me – Jason  Derulo ไปด้วยค่ะ  เท่านั้นล่ะค่ะ >///<  อร้ายยยยยยยยยยยยยตายแล้ว......ไรท์นี่นึกว่าอ่านตอนจบอยู่เลยค่ะ >///< (แต่ตอนจบจะเหมือนงี้ไหม  ไรท์ไม่บอกนะค้าาา >///<) + //สักพักโทรศัพท์ลอย// 555555

แต่ว่า อร้ายยยยย จริงๆ เลยค่ะ  เพลงนี้มันใช่เลยค่ะ  เหมาะกับ Part นี้มากๆ เลยยยยย  รีดๆ ก็ลองเปิดฟังดูนะ  ถ้าได้ลองอ่านไปด้วยและฟังไปด้วยแล้วจิได้อารมณ์มากๆ เลยค่ะ  ถึงแม้เค้าจะไม่ขอแต่งงานกันจริงๆ ก็เหอะ 555555+

โอ๊ยยยย ระทวยเลยค่ะ  เจอเฮียโด้รู้สึกแบบนั้นกะเหมียวเข้า  อ่าาาา  ถึงวันนี้จะร้อนมาก  แต่เฮียก็ทำเอาไรท์ร้อนวาบจนหน้าแดงเลยนะคะ >////< //นี่ฟิคตัวเองนะเนี่ย....บ้าไปแล้ว -_-“//

และไรท์มาอัพได้สักทีแลว้วนะค้าาา : ) รีด June Hyuk  เห็นคอมเม้นท์ว่าเข้ามาส่องทุกวันเลย 55555 คนนี้ก็อยากกรี๊ดใส่ค่ะ 5555+  อุ ปลื้มม เลยค่ะ  ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ติดตาม >///<  และไรท์มีกิจกรรมแจกการ์ดพร้อมของแถมสุดชิกสไตล์ RonalSi  ไม่อยากให้พลาดกันเลยค่ะ  จะแปะกติกาไว้ข้างใต้ในท้าย Part นะคะ  และฟรีค่ะ!! >< 

อื้มมมมม รู้สึกไรท์จะหายไปนานเลยค่ะ  เมาท์จิบจ้อยไปทั่วเลย 55555  ที่นี้ถ้าหากรีดคนไหนเปิด Marry Me จ่อรอไว้แล้วก็ไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}<!!!


----------------------------------------------------------------------------------------------


“เฮ้ยย ตามหามันเจอรึยัง! แล้วใครกันที่เป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้า หาตัวมันมาด้วย.....ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้เสียงดัง! ป่านนี้ตำรวจคงจะแห่กันมาหมดทั้งกรมแล้วรีบหาตัวเจ้านั่นให้เจอแล้วโกยออกไปจากที่นี่ ให้ไวเลย......บัดซบเอ้ย! บัดซบกันทุกตัวจริงๆ !!

เสียงมหาเทพแห่งซ่องโจรดังขึ้นอีกครั้งอย่างหัวเสีย  ทำให้เหล่าลูกน้องพากันเอียงคอหนีหูฟังที่ใส่กันอยู่แทบไม่ทันเลยทีเดียว  ชายกลุ่มย่อมๆ ที่ยืนมองต้นไม้ราคาแพงอยู่ข้างสระน้ำก็พากันสะดุ้งเฮือกอนึ่งหัวหน้ามาเอง แล้วกอดปืนห่อตะบึงวิ่งออกไปอย่างรู้หน้าที่เพื่อไม่ให้ตัวเองดูว่างงาน

เสียงวิ่งหนักๆ ของรองเท้าบู๊ตที่ทำให้ร่างของคนที่อยู่ใต้น้ำอกสั่นขวัญแขวนเคลื่อนไปทางทิศเหนือ และเงียบไปในที่สุด  ทำให้ทั้งสองที่หลบอยู่รีบพากันขึ้นมาบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว

เมสซี่กำลังจะโผล่ขึ้นมาคนแรก แต่ก็โดนร่างสูงกดหัวเอาไว้และเป็นเค้าเสียเองที่โผล่ขึ้นมาดูลาดลาวก่อน  เมื่อสถานการณ์ปลอดภัยจริงๆ แล้ว  มือแกร่งก็ดึงเสื้ออีกคนหนึ่งที่จับมือเค้าไว้ให้ขึ้นมาบนผิวน้ำบ้าง........ทั้งคู่สะบัดน้ำและกอบโกยอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด  เมสซี่ดูหอบและเกือบจะสำลักน้ำแต่ดีที่โรนัลโด้กอดเค้าไว้ให้ศีรษะโผล่อยู่พ้นเหนือน้ำเสมอ

ร่างเล็กพ่นน้ำออกจากปากในขณะที่ถูกลากเข้าฝั่ง  เมสซี่กลิ้งตัวขึ้นมานอนบนขอบสระเมื่อร่างสูงดันเค้าขึ้นมา แล้วตามมาด้วยเจ้าตัวที่เจ็บอยู่พอสมควร

ร่างเล็กของลีโอเนล   เมสซี่นอนเเผ่อกกระเพื่อม โดยไม่รู้ว่าร่างสูงเป็นอะไร  ในขณะที่ร่างสูงที่ช่วยเค้าไว้พาตัวเองมานั่งพิงอยู่ที่ราวจับของสระว่ายน้ำ  โรนัลโด้ใช้มือขวากดหัวไหล่ของตัวเองไว้แน่น  และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดาวอยู่กระจ่างตาเพื่อหาเรื่องอื่นใส่หัวแทน  ลูกกระเดือกบนลำคอของเค้าเลื่อนขึ้นลงเมื่อร่างสูงกลืนน้ำลายลงไป.....และมันบ่อยมากขึ้นทุกที

“โอ้ พระเจ้า  ผมนึกว่าเราจะไม่รอดซะแล้วสิ......เฮ้ คุณเป็นอะไรน่ะ” ร่างเล็กที่เพิ่งรอดตายมาด้วยการจุมพิตหัวเราะออกมาน้อยๆ อย่างเหลือเชื่อในขณะที่ลุกขึ้นนั่ง  แต่ก็ต้องทำหน้าตาตกใจทันทีที่เห็นคนที่ช่วยเค้ามีสีหน้าไม่ค่อยดีหนัก  เมสซี่คลานไปหาโรนัลโด้ที่นั่งพิงราวจับอยู่ใกล้ๆ ร่างเล็กดูใจหายไม่น้อยเลย

แต่ยังไม่ทันที่คนถามจะได้เอ่ยอะไรก็ถูกตัดประโยคอย่างรวดเร็วไปเสียก่อน “คุณ....”

ไม่  ผมไม่เป็นอะไร” โรนัลโด้พูดเสียงแข็ง และหันไหล่หนีราวกับโดนน้ำร้อนลวก  มือแกร่งถูกยกขึ้นมาห้ามร่างเล็กที่พยายามเข้ามาดูเค้า แต่มันก็โชกไปด้วยเลือด............

เมสซี่ตกใจ  ดูเหมือนคนช็อคและหน้าซีดไปชั่วขณะเมื่อเห็นเลือดเพื่อนเก่า ก่อนจะสะดุ้งตัวเหมือนเพิ่งได้สติแล้วกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความกลัวของตัวเองออกไป........คนกลัวเลือดทำหน้าจริงจังในขณะที่เอ่ยออกไป

“แต่คุณเลือดออกนะ  ไม่เป็นอะไรซะที่ไหนล่ะ”

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ เดี๋ยวมันก็หยุดไหลไปเองแหละ” ร่างสูงว่า ยังคงไม่ยอมให้อีกคนเข้ามาดูแผลของเค้า

“แต่มือคุณเลือดโชกเลย” ร่างเล็กเถียง  และตัดสินใจเลิกพยายามเข้าไปดูแล้วแต่ลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งแทน

โรนัลโด้ลดมือลง  ถอนหายใจอย่างยอมแพ้แล้วทำหน้าเซ็งเมื่ออีกคนเดินอ้อมมาหาแผลของเค้าเสียเอง  ร่างสูงนับถอยหลังรอเมสซี่เป็นลม เพราะเจ้าตัวกลัวเลือดอย่างแรง


...............แต่กลับไม่มีเสียงล้มพับ หรืออุทานก่อนสลบแต่อย่างใด  โรนัลโด้แปลกใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเสียงเหมือนเจ็บแทนเค้าเสียเอง...........

แล้วร่างสูงก็ต้องแปลกใจมากขึ้นไปอีก  เมื่อเห็นเมสซี่ถอดเสื้อนอกของตัวเองออกมาอย่างเงอะๆ งะๆ  แล้วกดมันกับแผลบนไหล่ของเค้า..........ใบหน้าเมสซี่ดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง และตัวสั่น

โรนัลโด้มีสีหน้าไม่เข้าใจการกระทำของร่างตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง “คุณ...ทำอะไรน่ะ?” เค้าถามหน้าเอ๋อ ในขณะที่อีกคนหนึ่งตอบหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ก็ห้ามเลือดให้คุณไงถามได้” เมสซี่เสียงบูดในขณะพยายามทำอย่างที่ตนว่า

.............รู้ไหม ว่าเค้าต้องพยายามอย่างหนักขนาดไหนให้กล้าถอดเสื้อตัวเองออกมาแล้วกดเข้าไปตรงแผลที่มีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมดน่ะ!?  แย่ชะมัดที่เค้าทำได้แค่เพียงจับเสื้อให้แช่ไว้อยู่อย่างนั้นด้วยมือที่สั้นหงึกๆ และไม่สามารถใช้แรงทั้งหมดที่มีได้

เค้าแค่กำลังจะเอาชนะความกลัว เพื่อขอให้ได้ช่วยโรนัลโด้บ้างก็เท่านั้น

แม้มันจะทำให้เค้ารู้สึกสั่นไม่น้อยก็ตามเถอะ(ซึ่งตอนนี้สั่นไปทั้งตัวแล้ว)  แต่อย่างน้อยเค้าก็ดีใจที่นี่เป็นครั้งแรกในการพยายามเอาชนะความปอดแหกของตัวเองที่มีต่อเลือดสดๆ ที่เค้าไม่ชอบเอาเสียเลยได้

โรนัลโด้งงจัด  ร่างสูงรู้สึกถึงมือที่กดลงมาบนไหล่เค้า ซึ่งสั่นและบอบบางของคนที่เห็นเลือดก็เป็นลมอย่างเมสซี่  ร่างสูงไม่เข้าใจว่าร่างเล็กจะทำไปทำไมในเมื่อไม่ต้องทำอะไรก็ได้แท้ๆ

............โรนัลโด้ไม่คิดว่าจะมีคนยอมลำบากและพยายามอย่างสูงเพื่อช่วยเค้า........

ร่างสูงมองใบหน้าอ่อนเดียงสาเกินกว่าที่ควรจะเป็นของชายชาวอาร์เจนไตน์  แล้วเพิ่งกระจ่างแจ้งในใจว่าคนๆ นี้.......ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เอาเสียเลย

เชื่อเค้าเลย......ร่างสูงคิดในใจแล้วยิ้มออกมาตามแบบฉบับของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงนุ่ม

“คุณไม่กลัวเลือดหรือไง” โรนัลโด้ยิ้มละมุน  เมสซี่หันมามองเค้าแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่ออย่างตั้งใจ แล้วหน้าแดง

“มะ...ไม่รู้สิ  ผมแค่อยากช่วยคุณ” ประโยคขาดๆ หายๆ ฟังดูประหม่าและไม่แน่ใจของร่างเล็กเรียกเสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงได้เป็นอย่างดี

“คุณกลัวเลือดจับใจขนาดนี้  แล้วไปรู้วิธีห้ามเลือดมาจากไหนล่ะ?”

“ดูทีวี” ร่างเล็กตอบสั้นๆ หน้าเค้าเหมือนเด็กที่กำลังมุ่งมั่นกับอะไรสักอย่าง.....หรือแท้ที่จริงแล้ว เค้ากำลังทำเป็นไม่สนใจคนที่ยิ้มละมุนมองเค้าอยู่กันแน่

โรนัลโด้พินิจมองท่าทางน่ารักนั้นแล้วไล่มองไปทั่วร่างอันสั่นเทาของอีกคน

 “ขอบคุณ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาปนกับรอยยิ้ม  ร่างสูงหลับตาพริ้มแล้วยิ้มคนเดียวอย่างรู้สึกว่าคืนนี้เค้าช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เป็นเพียงคนเดียว........ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันน่ายินดีนี้ของเมสซี่

ร่างเล็กไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่ทำหน้าที่ต่อไป และมีสีหน้าแปลกๆ หลังจากได้ยินคำขอบคุณที่พาให้หัวใจเบาหวิวของร่างสูง

และจนกระทั่ง โรนัลโด้คิดว่าบาดแผลตัวเองหยุดเต้นตุ้บๆ แล้วจึงบอกให้หน่วยพยาบาลผู้กล้าหาญของเค้า ละออกไปอย่างอ่อนโยน

“ลีโอ  พอแล้วล่ะ มันคงหยุดไหลแล้ว” ร่างสูงพูดแค่นั้น ก่อนจะจับมือของเมสซี่ออกมาจากไหล่ของเค้าอย่างนุ่มนวล  รอยยิ้มบางๆ ยังคงฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั้นของร่างสูง

ร่างเล็กชะโงกหน้าเข้ามาดูแผลของร่างสูงบ้าง ก่อนเจ้าตัวจะอุทานออกมาเหมือนเด็กเจอรถแต่งซิ่ง

โอ้โฮ  แผลคุณลึกน่าดูเลยนะ  ดูสิ.....” เมสซี่ทำท่าจะเข้าไปใกล้อีก แต่ร่างสูงก็หันไหล่หนีเสียก่อน  เค้าไม่ต้องการให้ร่างเล็กต้องเห็นมันอีกแล้ว.......เมสซี่ไม่ควรอยู่ใกล้แผลสดๆ ที่เลือดเพิ่งหยุดไหลไป

“คุณไม่ต้องดูมันแล้วล่ะ” ร่างสูงยิ้มน้อยๆ รู้สึกขอบคุณมากที่อีกคนพยายามเพื่อเค้า

แต่เมสซี่ทำหน้าถอนหายใจใส่เค้า “คุณเจ็บรึเปล่า” ร่างเล็กเอ่ยถาม

“ไม่  ผมไม่เจ็บ” โรนัลโด้ส่ายหน้า  สีหน้าเค้าดูเหมือนกำลังมองออกไปในสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก เพราะใบหน้าของร่างสูงไม่เคยปราศจากรอยเปื้อนยิ้มเลย

แต่เมสซี่ไม่แน่ใจ  โรนัลโด้เป็นคนมีแผล และก็เป็นเค้าอีกนั่นแหละที่ไม่ได้เป็นอะไรเลย.........ทั้งๆ ที่ นี่มันเป็นเรื่องวุ่นวายของเค้าแท้ๆ  แต่ดูแล้วร่างสูงที่ยิ้มเหมือนคนเมายาตรงหน้าก็หัวดื้อไม่น้อยเลยทีเดียวและคงจะปากแข็งอีกด้วย  ดังนั้น ร่างเล็กจึงต้องปล่อยไปอย่างเสียไม่ได้ เมสซี่เอ่ยถามเสียงอ่อยๆ

“คุณแน่ใจนะ” แต่สีหน้ากังวลก็ยังไม่ไปไหน

“อืม ผมแน่ใจ” และก็เป็นอีกครั้งที่ร่างสูงมีสีหน้าขัดกับสภาพของตัวเอง

เมสซี่มองตามอย่างทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้นแล้ว  เพราะเค้าไม่ได้เก่งอย่างโรนัลโด้ ที่รู้ว่าควรทำอะไรในสถานการณ์แบบไหน  และนึกเสียใจที่ทำตัวไม่ดีไปกับร่างสูงตั้งแต่แรกที่เจอกัน

“ผมขอโทษนะ  ที่ทำตัวไม่ดีใส่คุณตอนที่อยู่บนดาดฟ้านั่นน่ะ” ทีนี้คนที่เริ่มสำนึกผิดก็ก้มลงมองต่ำไปยังพื้นเปียกๆ ที่พวกเค้ากำลังนั่งอยู่  โรนัลโด้เลิกคิ้วอย่างสงสัย  ก่อนจะยกมุมปากขึ้นมา

............อ๋อ ได้สิ เล่นเกมเปลือยใจกัน...........

“อ๋อ  ไม่หรอก  ผมเองก็ไม่น่าไปพูดแบบนั้นกับคุณก่อนเลย..... .ทั้งๆ ที่ควรจะทำตัวให้น่าคบมากกว่ากว่านั้นเสียด้วยซ้ำ” โรนัลโด้ก็เพิ่งนึกได้ว่าบนดาดฟ้าไม่มีสื่อมวลชนคอยแอบทำข่าวของพวกเค้าอยู่หรอก.......ยกเว้นโจรในสลัมสองคนที่หมอบอยู่หลังต้นไม้นั่นน่ะนะ

“แฮ่ๆ ผมแอบว่าคุณลับหลังด้วยล่ะ” ร่างเล็กว่า พลางอมยิ้มอายๆ เป็นครั้งแรก  ร่างสูงชะงักเล็กน้อยแต่ก็เก็บอาการหัวใจกระตุกไว้ได้  แล้วถามออกไปหลังจากมองไปรอบๆ

“แล้วคุณ ว่าผมว่าอะไรล่ะ” โรนัลโด้กระซิบ  ไม่ใช่เพราะระแวดระวังแต่เป็นเพราะเค้าจงใจจะให้มันฟังดูเบาที่สุดแล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างเล็ก

“เอ่อ....ผม...” เมสซี่อ่ำๆ อึ่งๆ และไม่คิดว่าร่างสูงอยากรู้ลึกถึงขนาดนี้  ยิ่งลดเสียงต่ำลงด้วยแล้ว   ร่างเล็กดูไม่แน่ใจ แต่ก็คิดว่าคนใจกว้างอย่างโรนัลโด้คงจะมองข้ามมันไปได้สบายๆ

“เอ่อ...ผมว่า ใครอยากจะไปคุยกับคนแบบคุณกัน น่ะ” แต่ถึงแม้จะคิดว่าอีกคนจะยอมยกโทษให้เค้า แต่เสียงของร่างเล็กก็เบาลงไปทุกที

โรนัลโด้หัวเราะเป็นเชิงบอกว่าเค้าไม่ได้คิดติดใจอะไรเลยแถมยังเห็นว่ามันน่ารักด้วยเสียด้วยซ้ำไป (เพียงแต่เค้าไม่ได้บอกกับเมสซี่ออกไปก็เท่านั้น)

นินทาในใจได้แรงดีจริงๆ เลยแฮ่ะ เป็นคนอื่นคงแช่งถึงสโมสรไปแล้ว.......ร่างสูคิดในใจ  ก่อนจะชวนถามคำถามอื่น 

“แล้วคุณขึ้นไปทำอะไรบนนั้นล่ะ  คุณกลัวความสูงไม่ใช่เหรอ” โรนัลโด้ถาม  บริเวณนี้เมื่อขาดแสงไฟส่องสว่างจากสระน้ำไปแล้วก็เกือบมืดสนิทไปเลย  หากมองมาจากอีกฝั่งหนึ่งก็จะมองไม่เห็นพวกเค้าด้วยซ้ำ  ดังนั้นเค้าจึงขออ้อยอิ่งเสียหน่อย.........เพราะอีกไม่นานเค้าก็จะพาเมสซี่ออกไปจากที่นี่แล้ว

“คือผมแค่หลบหน้าผู้หญิงสองคนที่พยายามบังคับให้ผมพูดน่ะ  ผมพูดไม่เก่งเท่าไรเลยไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเธอได้ไหม.....และพอผมพูดคงจะฟังดูแปลกๆ แหง” เมสซี่ไม่มีความมั่นใจในการเข้าสังคมเสียเท่าไร  แต่โรนัลโด้นี่คิ้วกระตุกเลยทีเดียว

“คุณพูดไม่เก่งอย่างนั้นเหรอ  โอ้โฮ...ผมเกือบไม่เชื่อเลย” ร่างสูงว่าเสียงออกขำๆ เลยโดนฟาดไปเสียทีหนึ่ง  โรนัลโด้งอตัวแต่ก็ยังกลั้นขำอยู่  เมสซี่หน้าเสียกะทันหัน

“โอ้ ขอโทษ! ผมลืมไปว่าคุณเจ็บ” ร่างเล็กรีบขอโทษของโพย  แต่คนโดนก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย ยังคงกลั้นขำต่อไปแล้วเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะออกมาในที่สุด

“คุณหยุดหัวเราะได้แล้ว....มันน่าหัวเราะตรงไหนกัน  ผมแค่อยากออกไปเที่ยวข้างนอกเท่านั้นเองนะ” เมสซี่ทำหน้าตาย เมื่อเค้ากำลังโดนอีกคนหนึ่งหัวเราะใส่ในความน่ารักโดนที่เจ้าตัวไม่รู้เลยแบบหยุดไม่อยู่  โรนัลโด้ยอมหยุดในที่สุดและหันมาสนใจร่างตรงหน้าเค้าอีกครั้ง

“ออกไปเที่ยวข้างนอกงั้นเหรอ?” โรนัลโด้มีสีหน้าสนอกสนใจ  เช่นเดียวกับที่ร่างเล็กทำหน้าชื่นมื่นขึ้นมาทันทีที่เค้าคิดถึงความคิดอันอิสระของตัวเอง

“อืม  คุณคิดดูสิ ว่าเมืองข้างล่างนั่นน่ะน่าออกไปค้นหาแค่ไหน  มีแต่รถราสัญจร....ท้องถนนไม่เคยเงียบเลยแม้ในตอนกลางคืน  ไฟที่ประดับประดาไปทั่วทั้งเมือง  ไหนยังจะผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลกอีกล่ะ....มันทำให้ผมคิดว่าคงจะดีไม่น้อยเลยถ้าได้ไปเจอผู้คนแปลกหน้ามากมายที่ไม่เคยรู้จัก และกลางคืนก็ไม่เคยเงียบหรือมืดมิดเลย.....” เมสซี่ยิ้มบางๆ ไม่รู้เลยว่าคนข้างๆ เค้าก็กำลังจ้องมองรอยยิ้มนั้นของเค้าอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยเช่นกัน

“....แต่ผมไม่เข้าไปคุยกับพวกเค้าหรอกนะ” ร่างเล็กยิ้มอายอีก แต่ทีนี้หันมาหาร่างสูงโดยตรงเลย  ทำเอาโรนัลโด้แทบสบตาไม่ทัน.....แต่เค้าก็เนียนใช้ได้เลย

“อ่อ งั้นเหรอ....นั่นสินะ  มันน่าออกไปเที่ยวมากกว่ามาเดินไปเดินมาในงานเลี้ยงแบบนี้ชะมัดเลย  ความคิดคุณเข้าท่าไปเลยนะ” ร่างสูงว่า  มันออกมาจากใจจริงของเค้า  และมันก็ทำให้เมสซี่หน้าแดงอีกครั้ง

“ฮ่ะๆ ขอบคุณ....”

"คุณรู้ไหม ในบรรดาแขกทุกคนที่มาร่วมงาน....คุณดูโดดเด่นมากที่สุด" จู่ๆ ร่างสูงก็พูดขึ้นมา  โดยที่เค้าไม่ได้ละสายตาไปจากอีกคนหนึ่งเลย........... 

............และเรื่องที่เค้าปิดบังมาโดยตลอดคือ เค้าจ้องมองร่างเล็กๆ นี้มาตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในงานแล้ว

  ..........และไม่อาจรู้เหตุผลของตัวเองด้วยว่า พอเห็นคนๆ นี้แล้วทำไมจะต้องมองตามอย่างเสียไม่ได้ทุกทีไป?...........

  แต่บางทีโรนัลโด้อาจเข้าใจแล้วว่าทำไมเค้าจึงเป็นเช่นนั้น  เพราะในบรรดาเหล่าชายหญิงมากมายที่ต่างพากันแต่งตัวสวยงามอยู่ในงานนั้น  ร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งซึ่งทอดมองออกไปนอกกระจกแล้วทำหน้าละห้อยหาราวกับโดนกักขังอยู่นั้น

  ..........ช่างแตกต่าง..........

  แตกต่างไปจากคนส่วนมากที่พากันปั้นรอยยิ้มเสแสร้งไม่จริงให้แก่กันแล้วก็พูดโอ้อวดถึงสิ่งที่ตนมีหรือสิ่งที่ตนเป็น..........แต่ทว่าลีโอเนล   เมสซี่ตรงหน้าของเค้าไม่ใช่แบบนั้น  ไม่ใช่เลยสักนิด.............

  ...............ใบหน้าขาวกระจ่างและฝ่ามือที่เป็นเช่นนั้นไม่แพ้กัน ช่างตัดกับชุดสูทเรียบง่ายที่เจ้าตัวสวมใส่เป็นอย่างมาก  และเค้าต้องการจะเรียบง่าย ทำตัวราวกับว่าอยากหายหน้าหายตาไปจากตรงนั้นเสียให้ได้แต่ทว่ากลับยิ่งดูไม่น่าละสายตาไปได้เลยเเม้แต่นาทีเดียวสำหรับโรนัลโด้

  เมสซี่ที่เค้าแอบจ้องมอง  มีสีหน้าลำบากใจและกังวลใจเป็นอย่างมาก ราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งเคยขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก  และเมื่อยามร่างสูงนี้จ้องมองไปยังร่างเล็กที่ไม่แม้แต่จะรู้ตัว ก็รู้สึกเหมือนโลกรอบตัวนั้นหยุดหมุน  ผู้คนล้วนเดินช้าลง พร้อมกับเสียงเอะอะที่เริ่มเงียบลงไปทุกชั่วขณะ

  ............เหลือไว้แต่เพียงเค้าทั้งสอง...........

  โรนัลโด้ที่เฝ้าดูผ่านจากผู้คนเหล่านั้น โดยที่เมสซี่ไม่มีทางรู้เลย.........เมสซี่ไม่มีทางรู้หรอก  จนกระทั้งถึงตอนนี้.........

  “คุณว่าอะไรนะ” ร่างเล็กเอ่ยถามเสียงงุนงงระคนเขินอาย เมื่อสายตาที่จ้องมองเค้าไม่เลิกนั้นเปล่งประกายวิบวับจนเค้าไม่อาจห้ามใจไม่ให้รู้สึกเช่นนั้นได้เลย

          ร่างสูงไม่ตอบยังคงเหม่อมองต่อไป  แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะโลกหยุดหมุนอีกรอบไปแล้วสำหรับเค้า..........เพียงแค่ตอนนี้ภาพของคนที่เค้าแอบมองกำลังอยู่ตรงหน้าเค้าอย่างใกล้ชิดเท่านั้นเอง

โรนัลโด้เอามือข้างที่ปราศจากเลือดยกขึ้นไปทาบบนผิวแก้มใสและเย็นของอีกคนหนึ่ง  เมสซี่ผงะหนีในคราแรกแต่ก็ยอมให้โรนัลโด้จับแต่โดยดีเพราะเค้ารู้ว่าร่างสูงไว้ใจได้และจะไม่ทำอะไรให้เค้าเจ็บเด็ดขาด

โรนัลโด้สัมผัสพวงแก้มเย็นนั้นอย่างนุ่มนวล อ่อนโยนและค่อยๆ แปรเปลี่ยนมันให้เป็นอบอุ่นจากฝ่ามือของเค้าเอง  ก่อนจะไล่เกลี่ยด้วยนิ้วโป้งอย่างทะนุถนอม  ร่างสูงเอ่ย

“เราจะต้องผ่านไปได้......ผมจะดูแลคุณเอง  คุณไม่ต้องห่วง” คำมั่นสัญญานั้นกระซิบบอกให้ได้ยินเพียงเค้าทั้งสองคนเท่านั้น  ร่างสูงกระพริบตาช้าๆ เหมือนโลกหยุดหมุน ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อย

ดวงตาที่กลมโตประกายใสราวกับลูกแก้วสบมองการกระทำนั้นแล้วลดเปลือกตาลงจนเกือบปิด

.........ร่างสูงที่ปากคอเราะร้ายในตอนแรกหายไปไหนแล้ว 

ข้างในนั้น......เค้าต่างเต็มไปด้วยความใจดีและอารี  อ้อมกอดพร้อมทั้งคำพูดที่โอบอุ้มร่างเล็กมาตลอดนั้นอบอุ่นดุจแสงตะวัน  จนยากที่จะถอดถอนออกมาได้......ยากมากมายจริงๆ

ต่างจากยามแรกที่เจอกัน  กลับเข้ากันได้ดีและสนิมสนมอย่างรวดเร็วราวกับว่า เกิดมาเพื่อให้คู่กัน....................

ร่างสูงไม่ใช่ทั้งคนที่แย่ๆ หรือนิสัยไม่ดีอย่างที่ตัวเค้าเองได้คิดไว้

..............จนตอนนี้เมสซี่ก็ไม่แน่ใจแล้ว ว่าตัวเองรู้จักอีกคนหนึ่งจริงๆ หรือเปล่า

ราวกับมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น ชักนำใบหน้าของทั้งสองเข้าหากัน  ใบหน้าของร่างสูงโน้มลงมา  พร้อมทั้งที่อีกคนหนึ่งก็เคลื่อนเข้าหา......ใกล้ขึ้นอีก  ใกล้ขึ้นอีก  และใกล้ขึ้นอีก

ระยะห่างของพวกเค้าเกือบเหมือนเส้นแบ่งขอบฟ้าที่เล็กแคบลงไปทุกที  และดวงอาทิตย์กับพื้นน้ำก็บรรจบเข้าด้วยกัน

ทั้งคู่จูบกันและกอดรัดกันอย่าแผ่วเบาเช่นเดียวกับตอนเคลื่อนเข้าหา  ต่างมอบไออุ่นให้กันและกัน   และด้วยใจรู้ หากพ้นคืนนี้ไปแล้วพวกเค้าจะไม่ได้เจอกันอีก..............

พวกพี่ๆ ที่รายล้อมร่างเล็กคงจะไม่ยอมให้เข้าใกล้โรนัลโด้อีกเป็นอันขาด

และร่างสูงเองก็รู้ ว่ามีคนหลายๆ คนไม่ต้องการให้พวกเค้าอยู่ด้วยกัน  ทั้งคนในทีมเค้าและอีกฝ่ายก็คงไม่เห็นด้วยที่จะให้พวกเค้าพบกันอีก...............

เพราะทิฐิที่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยเปิดใจเข้าหากัน  คืนนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่โรนัลโด้กับเมสซี่จะได้อยู่ด้วยกัน  เรียนรู้กันและกันในฐานนะที่ขอละไว้ในใจกันอยู่เพียงสองคน

เพราะต่างฝ่ายต่างไม่กล้าคิดเอาเองว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้มันคืออะไร............

และมันคือจุมพิต  ไม่มีการจาบจ้วงใดๆ เหมือนเช่นเคย เพราะร่างสูงคิดว่าการได้สัมผัสอีกคนโดยที่เค้าอนุญาตก็ดีแค่ไหนแล้ว  ร่างที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตเนื้อดีตัวเปียกแนบเนื้อเห็นสัดส่วนที่แกร่งไปทั่วทั้งตัวนั้น ดูดเม้มเป็นครั้งสุดท้ายอย่างต้องการตราตรึงมันไว้ แล้วถอนริมฝีปากของตัวเองออกมา

ร่างทั้งสองต่างใช้มือสัมผัสบนท้ายทอยของกันและกันหลังจูบเสร็จ และเก็บความทรงจำของอีกฝ่ายไว้

ในเวลานี้เหมือนโลกหยุดหมุนโดยสมบรูณ์ พร้อมกันทั้งเมสซี่และโรนัลโด้  พวกเค้าไม่ต้องการคำพูดใดๆ ต่างซึมซับเอาความเงียบที่หัวใจของทั้งสองต่างพรำบอกกันและกันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงสวบสาบเกิดขึ้นตรงพุ่มไม้ อยู่ห่างออกไปจากด้านหลังของพวกเค้า


.


.


.


TBC.


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ฮาาาาาา  ใครคิดเหมือนไรท์บ้างค่ะ -///-  เฮียเนี่ยเจ้าเล่ห์จริงๆ เลยอ่ะ  ชอบเค้า  แอบมองเค้าตั้งแต่แรกก็ไม่บอกกกกกก  โห่------- //สักพักมีลูกบอกไม่ทราบที่มาพุ่งมาอัดกลางหัวไรท์//   ขอแซวหน่อยก็ไม่ได้เฮีย -_-“  แต่ว่า Part นี้โดยส่วนตัวแล้วชอบมากเลยค่ะ  ในสถานการณ์ที่ลุ้นระทึก  ทุกนาทีหมายถึงชีวิตของตัวเองและคนรอบข้าง  ก็ยังมีช่วงเวลาอันน้อยนิดให้อิ่มเอมหัวใจ และมีแรงผลักดันที่จะสู้ต่อไปได้ค่ะ

.........ออกไปให้ได้นะคะ  ออกไปสานต่อความสัมพันธ์ >///////<...........

ฮิ้วววววววว //จัดไปอีกหนึ่งดอก//  ไรท์ว่าเดี๋ยวสักพักเฮียเนย์จะมาเอง....มาแตะหัวไรท์นี่แหละค่ะ -..-  ไม่เป็นไรนะคะเฮียเนย์ เฮียทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ.....ถึงเวลาหลีกทางให้ตัวจริงเค้าแล้ว //ตบบ่าเฮียเนย์// + //สักพักโดนต่อยแว่นแตก5555//

5555555  ถ้ามีเหมียว แล้วก็มีเนย์ให้ช้ำใจเล่นๆ สินะคะ 5555 และสำหรับท่านรีดใดที่อยากได้การ์ดฉลองปิดฟิค พร้อมของแถมสุดเชอร์ไพรส์ RonalSi  แต่ว่ายังไม่ได้ลงชื่อก็ตามนี้เลยค่ะ  ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นนะเออ




เข้าไปในเฟสของไรท์ได้เลยค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  จิ้มได้เลยค่ะ ^^

และ Part หน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป  จะมีอะไรในก่อหญ้าหรือไม่?  ต้องติดตามกันค่ะ >//<  และขอบคุณรีดทุกท่านที่ติดตามค่ะ แต่ถ้าใครคอมเม้นท์แล้วจะรักเป็นพิเศษค่ะ 5555 //สักพักโดนยิง//  ชอบอ่านคอมเม้นท์ของรีดๆ มากๆ เลยล่ะค่ะ  ><  รักรีดทุกท่านมากๆ เลยนะคะ

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund