วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 17] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec



สวัสดีค่ะ........อร้ายยยยยยยย ได้กลับมาแล้วคิดถึงรีดจังเลยค่าาาาา >//< !!!  แฟนๆ MaLec คงจะลืมกันไปแล้วแหงเลย 5555 ทำไมนังนี่ถึงได้หายไปนานนัก แฮ่ะๆ ไรท์หายไปเตรียมการอะไรหลายอย่างสำหรับการแจกการ์ดขอบคุณครั้งแรกของไรท์น่ะค่ะ.....มีของแถมที่น่าจะชอบกัน ^^

เดี๋ยว! เดี๋ยว กลับมาก่อนๆๆๆ ผิดเรื่องแล้ว Ray - Aund ไหนบอกจะมาลงฟิค MaLec ไง RonalSi โผล่มาจากไหนยะ! >{}<  5555555 Sorry ค่าาาา

มาถึง Part นี้แล้วไรท์ล่ะเริ่มจะเจ็บหัวใจนิสๆ แล้วค่ะ.....แม็กนัสอย่าทำให้รู้สึกตามไปด้วยได้ป่ะขอร้อง  แบบว่า...อร้าย! จิสปอยล์ ต้องไปอ่านเองค่ะ >< แต่ว่า Part นี้ต่อจาก Part 16 หรือ Part ที่แล้วเลยค่ะ  ท่านใดที่ลืมแล้วกลับไปอ่านใหม่ด้วยนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไรท์ไม่เตือน.......อารมณ์จะไม่ต่อเนื่องเอาค่ะ //ที่หลังก็อย่าลงช้าสิยะ -_-“....รีดพูด//  55555

ไร้สาระจริงเลยไรท์  เอาล่ะค่ะ ไปอ่านกันเลยค่าาาา >0< !!


--------------------------------------------------------------------------------------------------


เมื่อสามชั่วโมงที่แล้วทันทีที่กลับมาถึงห้อง  แม็กนัสก็จัดการรื้อผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มออกมาและใช้มันห่อของทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าเคยใช้กับอเล็คเมื่อคืนนี้ซึ่งมันกองเรียงรายอยู่บนเตียง  เค้าโยนมันใส่ถังขยะสแตนเลสใบใหญ่ที่สุด แล้วยกมันออกไปนอกระเบียงก่อนจะจุดไฟเผา

สายลมอ่อนๆ ในเมืองพัดกลิ่นไหม้บางส่วนเข้ามาในห้อง  แต่แม็กนัสไม่สนใจ  ร่างสูงสะโอดสะองหยิบซองบุหรี่ที่มีคนซื้อให้ขึ้นมาสูบ  แล้วเค้าก็นึกถึงอเล็คอีก

“สูบบุหรี่มันไม่ดีนะแม็กนัส.....เหม็นจะตาย  ฉันไม่ชอบเลย”

อเล็คเคยเปรยไว้ว่าอย่างนั้นหลังจากที่แม็กนัสลองสูบบุหรี่ตัวแรกของชีวิต และเค้าก็ตัดสินใจจะไม่แตะมันอีกเลย.........แม้กระทั่งตอนที่เครียดที่สุดอย่างตอนนี้ แม็กนัสก็ยังทำใจที่จะสูบมันอีกไม่ได้

ร่างสูงสะโอดสะองที่อยู่ในสภาวะตึงเครียดจัด  นั่งกุมขมับตัวเองอยู่บนขอบเก้าอี้ในขณะที่กริ่งหน้าประตูดังขึ้น  แม็กนัสหันสีหน้าไม่สู่ดีไปทางประตูนั้นและยอมลุกขึ้นไปเปิดมันในที่สุด  และปรากฏว่าเป็นเอลซ่าที่ทำหน้าร่าเริงอยู่ตรงหน้าประตูห้องเค้า  แม็กนัสเชิญเข้ามาและไม่มีกะใจจะตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ  ก่อนเธอจะทำตัวแปลกๆ .................

.............ใช่  แปลกมาก............

“คุณรู้ได้ยังว่าผมมีไวน์อยู่....”

แม็กนัสพูดได้แค่นั้น  ก่อนแฟนสาวของเค้าจะขอตัวกลับออกไปเสียดื้อๆ  แม็กนัสหน้าชาเหมือนโดนตบ  ไม่ใช่เพราะเธอทำท่าเหมือนจะโกรธเค้า  แต่เป็นเพราะเอลซ่ารู้ได้ยังไงว่าเค้ามีไวน์อยู่  ทั้งๆ ที่เค้าเองก็ไม่ชอบดื่มมัน............

ขมับเค้าเต้นตุ้บ  และมันทำให้ร่างสูงรู้สึกปวดหัวมากยิ่งขึ้น

............อะไรกัน  จะบอกว่าเอลซ่ามีส่วนทำให้ไวน์ขวดนั้นเข้ามาอยู่ที่นี้อย่างนั้นเหรอ  ไม่จริงน่า คนอย่างเอลซ่าน่ะเหรอ  จะเป็นคนทำ.............

แม็กนัสนั่งนิ่งบนเก้าอี้  ไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกมาจากปากของเค้า  เป็นเพราะร่างสูงกำลังคิด......คิดว่ามันมีความเป็นไปได้มากแค่ไหนที่เอลซ่าจะเป็นคนทำเรื่องนี้

แต่ความจริงมันชัดเจนอยู่แล้ว  ไม่มีข้อแก้ตัวไหนที่แม็กนัสจะเอามาหักล้างได้  เอลซ่า......เธอดูจะรู้ดีว่ามีอะไรอยู่ในตู้เก็บเหล้าของเค้า

เธอเป็นคนทำให้เรื่องเมื่อคืนนี้เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ  ทำให้เค้าทำเรื่องเลวร้ายกับอเล็ค.........หรือบางทีเธออาจจะอยากเป็นอเล็คเสียเอง  แต่มันไม่เป็นไปตามอย่างที่เธอคิด...........แม็กนัสปวดหัวตึบ

แฟนสาวที่เค้าคิดว่าอ่อนหวานที่สุดและเพรียบพร้อมที่สุดกำลังจะกลายเป็นคนที่ฉีกทุกความสุขของเค้าให้พังทลายลง..........ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอเล็ค  ทุกอย่างที่เค้าเป็นมาตลอด  แม็กนัสคนนี้จะไม่มีสิทธิ์ได้รับมันอีกแล้ว  ไม่มีทาง

............เอลซ่ากำลังทำให้ความสัมพันธ์ของแม็กนัสกับเพื่อนสนิทของเค้าต้องจบลงไป  ทั้งๆ ที่ร่างสูงเองก็เพิ่งจะรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะก่อตัวขึ้นระหว่างเค้ากับอเล็ค..............

บางสิ่งบางอย่างที่เค้าเข้าใจเพียงผิวเผิน  แม้แต่ตัวเค้าเองก็ยังมองไม่เห็นมันเลยด้วย  แต่อเล็คฉลาดและอ่อนโยนกว่าเค้ามาก เลยเก็บงำความรู้สึกที่แม็กนัสไม่เข้าใจนั้นไว้ตลอดมา.............

“นี่ฉันทำอะไรลงไป” แม็กนัสกระซิบ และรู้สึกเหมือนน้ำตาสายหนึ่งไหลอาบแก้ม


**************************************************************************


“เรื่องเฮงซวย.......คีย์การ์ดก็เฮงซวยเป็นบ้าอะไรกันไปหมดยะเนี่ยย!!” นักแสดงสาวกดด่าและกระแทกคีย์การ์ดตัวเองเข้ากับแป้นรูดแต่ทว่ากลับเป็นเล็บยาวๆ ของเธอเสียเองที่เสียหลัก  เอลซ่าหน้าเบ้แล้วกรีดร้องออกมาในที่สุด..........เธอสุดจะกลั้นแล้ว

....................ตอนนี้เธอดูเหมือนนางร้ายที่ดูน่ากลัวมากกว่าคนที่แสดงบทนางร้ายที่เล่นกับเธอมารวมกันซะอีก  เสียงกรี๊ดของเธอทำเอาขนพองสยองเกล้า..............

“ให้มันได้อย่างนี้สิฉันเกลียด...เกลียดอะไรก็ตามที่มันทำให้แผนวันนี้ของฉันเจ้งไม่เป็นท่า!” นักแสดงสาวแทบจะฉีกกระโปรงตัวเอง หากประตูของเธอไม่เด้งออกมาเสียก่อน  เอลซ่าตกใจแต่ก็ผลักประตูออกไปแล้วกระแทกปิดไว้อย่างหาที่ระบายอารมณ์  ภายในที่พักของเธอเงียบและมืดมาก  เหตุเป็นเพราะก่อนออกไปหญิงสาวได้ปิดม่านไว้ทุกจุด........เธอไม่ชอบแสงที่สาดเข้ามาในห้องนัก  มันทำให้เธอรู้สึกแย่เพราะว่าโลกดูสวยเกินไป

เอลซ่าปิดไฟและกระแทกก้นลงบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ก่อนเธอจะโดนผลักจนเซถลาเกือบล้ม

“ว้ายย!

“เอลซ่าอย่านั่งทับผม” เสียงหนึ่งดังขึ้น  จนหญิงสาวที่เกือบทำหน้าเสีย เปลี่ยนมาเป็นตบเอาเข้าที่ไหล่ของผู้มาใหม่

“มิคาเอล! แกทำอะไร  เข้ามาเงียบๆ........นี่ที่ของฉันนะ!” เอลซ่ายืนขึ้น  และมิคาเอลเห็นเธอแทบดิ้นไประหว่างพูด  คนผู้น้องป้องปากหาว

“อันที่จริงผมมารอพี่อยู่ตั้งนานแล้วล่ะ  ตอนที่....เอ่อ  พี่ไปทำอะไรตามประสาสาวๆ ของพี่นั่นแหละ  ถามจริงเสียแผนขนาดนั้นแล้วพี่ยังมีกะใจกลับบ้านช้าอีกเหรอ” มิคาเอลทำหน้าหน่ายโลก

“แกอย่ามาย้อน!  ฉันต่างหากที่จะต้องเล่นแก  ไอ้น้องบ้า....ไหนแกบอกว่ามันอยู่ที่นั้นไง ไอ้ไวน์เสร็งเคร็งขวดนั้นน่ะ!” เอลซ่าชี้นิ้วไปด้านนอกอย่างเดือดดาลและตัวสั่นเมื่อนึกถึงสีหน้าที่แม็กนัสมองเธอก่อนออกมา

“พี่จะมาว่าของๆ ผมไม่ได้  ก็เป็นพี่เองหนิที่ทำตัวเสร็งเคร็งไมได้เรื่องน่ะ.....อุตส่าห์จะเอาตัวเองไปประเคนให้เค้าถึงที่แล้วแต่ก็พลาดโอกาสไป  จุ๊ๆๆ ไม่เอาน่าเอลซ่า  อย่าร้องไห้” ชายหนุ่มที่นั่งไขว้ห่างอยู่บนเก้าอี้นวมสีครีมทำท่าจุ๊ปากใส่พี่สาวของตนเอง............มิคาเอลมีความสุขเสมอที่ได้ล้อเลียนเอลซ่า  และเค้าดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยที่เอลซ่ากำลังจะถูกจับได้  ก็เค้าไม่ได้เสนอหน้าไปกับเธอด้วยหนิ จะกลัวอะไร?

แต่ใช่ว่า สีหน้าของมิคาเอลตอนนี้จะฉายแววออกมาว่ารู้สึกดี

“แกว่าฉันเสนอตัว.....ร่านเหรอ!?”

“พอเถอะเอลซ่า  ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทะเลาะกับพี่อีก.....” มิคาเอลยกมือขึ้นปรามทั้งพี่สาวและทั้งตัวเองด้วย.............เพราะแบบนี้ไง เค้าจึงเลือกที่จะไม่เจอหน้าแล้วหมกตัวอยู่ในรูหนู  วนเวียนอยู่กับสิ่งที่เค้ารักและหลงไหล  แต่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดแบบเด็กมัธยมปลายก็เก็บความอยากที่จะพูดคำว่า “แล้วมันไม่จริงหรือไง” ไว้ในใจ  ก่อนจะหยิบกระดาษชุดหนึ่งขึ้นมา  โยนมันลงบนโต๊ะรับแขกเตี้ยๆ ด้านหน้า  ปึกกระดาษบางๆ กระจายออกจากกันเล็กน้อย

“ผมหามาให้แล้ว” มิคาเอลพูด  ฟังดูเหมือนเค้าเป็นข้าทาสคอยรับใช้เอลซ่าแต่ไม่ใช่เลย.....เค้าก็แค่รำคาญถ้าหากไม่มีคำตอบให้เธอได้หยุดโวยวายเสียทีก็เท่านั้น

และเอลซ่าก็ตาลุกวาว  หญิงสาวก้าวเดินเข้าไป  เธอนั่งลงแล้วหยิบแผ่นแรกขึ้นมาดู  มือของเธอสั่นเพราะความรู้สึกหลายอย่าง........มันเป็นตารางเวลาของคนที่เข้าออก  และกระดาษอีกหลายใบเป็นรูปภาพ

มิคาเอลพูดเนิบๆ “ฐานข้อมูลของโรงแรมบอกผมว่า มีคนเข้ามาพบ แม็กนัส   เบน ของพี่เมื่อคืนนี้  เวลาประมาณทุ่มสี่สิบ  และ ใช่....นั่นคือภาพ  ไม่  ไม่ใช่อันนั้น  อย่าหยิบออกไปก่อนสิเอลซ่า  พี่นี่ซื่อบื่อจริง....เออ  อันนั้นล่ะ  เค้าเป็นเด็กผู้ชาย” คนเป็นน้องเอ่ยเสียงเริ่มฉุนเฉียว  เอลซ่าเลื่อนดูภาพที่มิคาเอลดึงเอามาจากกล้องวงจรปิดของคอมโดแม็กนัส

เธอเห็นภาพที่หน้าประตูของแม็กนัส........ใช่  จริงๆ ด้วย  เป็นเด็กผู้ชายผมสีดำขลับ  ผิวขาวจนเกือบซีด  และเอลซ่าก็รู้สึกคุ้นเอามากๆ แต่เธอนึกไม่ออก  นักแสดงสาวเลื่อนกระดาษดูภาพต่อไป  และเธอก็ต้องเบนสายตากลับไปโฟกัสใหม่  เมื่อภาพในห้องแม็กนัสที่เธอเห็นนั่นมัน..........

ไม่จริงไม่จริงน่า......เอลซ่าคิดในใจพลางจ้องตาแทบถลน

“ใช่  เค้ามีเซ็กซ์กัน” มิคาเอลเอ่ยขึ้น  ตอกย้ำความจริงเหมือนอ่านใจพี่สาวของตัวเองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“มันเป็นใครกัน  แล้วทำไมแม็กนัสถึง....” เอลซ่าเริ่มแผดเสียง แต่แล้วก็ต้องชะงักไปราวกับคนพูดไม่คิด.......ก็ใช่น่ะสิ เพราะไวน์ขวดนั้นอย่างไรเหล่าที่ทำให้เรื่องบ้าๆ แบบนั้นเกิดขึ้นได้

ผู้เป็นน้องส่งกระดาษที่มีรายละเอียดอะไรบ้างอย่างให้พี่สาว แล้วฉวยรูปที่มีเพียงสองสามรูปกลับมากระแทกใส่โต๊ะ  มิคาเอลลุกขึ้นแล้วเดินวนไปรอบๆ อย่างช้าๆ ราวกับว่าเค้าเป็นวิทยากรพิเศษในชั้นเรียน

“เค้าชื่อ อเล็ค   ไลต์วู้ด ใช่ ผมรู้เค้าดูเหมือนเด็กมากๆ เลย  เค้าอายุ 24 ปี  เป็นลูกชายคนแรกของแมรีสและโรเบิร์ต   ไลต์วู้ด  มีน้องสองคน หญิงชายอย่าละหนึ่ง.....จบ การบริหารมาจากมหาลัยเดียวกับที่รักของพี่  พวกเค้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ขึ้นประถมใหม่ๆ จนกระทั่งตอนนี้......ปัจจุบัน เค้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านลาเฟ่ต์เล็กๆ ในย่านที่เร่งรีบที่สุดในเมืองและดูจะเป็นที่ชื่นชอบที่สุดในบรรดาลูกค้าอีกด้วย” มิคาเอลเค้นเสียง “ผมตกอะไรไปไหม?”   และตวัดหางตาไปมองพี่สาวผู้จ้องรูปของอเล็คเขม็งไม่วางตา

...........เอลซ่ามือแข็งค้าง  ที่แท้ก็ไอ้เจ้าเด็กเมื่อวานซืนที่คอยเกาะแกะแม็กนัสอยู่ตลอดเวลานี่เอง  คอยเข้ามาจุ้นจ้านเวลาของเธอกับแม็กนัส  เป็นมารคอหอยชั้นดีและเป็นมารหัวใจไม่ยอมเลิกรา!.........

เอลซ่าจ้องรูปของอเล็คเขม็ง และเผลอขยำมันด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองที่สุดเกินจะบรรยาย  แต่แล้วมิคาเอลก็หยิกมือของพี่สาวแล้วกระชากระดาษกลับมา

“พี่นิสัยเสียใหญ่แล้วเอลซ่า...” มิคาเอลปรามแล้วคลี่กระดาษของตัวเองให้เรียบเหมือนเดิม......เค้าหวงของๆ ตัวเองมากๆ........

“....โว้ว  ใจเย็นสิ  นี่ของผม” ร่างสูงของชายหนุ่มหันข้าง  ทำให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ออกร้ายในอีกมุมหนึ่ง “ผมรู้พี่คงจะ...” เค้ากลอกตาขึ้นฟ้าแล้วยักไหล่ “.....ปรี๊ด  ปรอทแตกเลยใช่ไหม”

“มันมีสิทธิ์มากเกินไป” เอลซ่ากำหมัดแน่นและกัดฟันกรอด  เล็บที่เธอเพิ่งไปทำมาจิกลงไปบนเนื้อนิ่ม.........ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครมีดีมาจากไหนกัน  ทำให้แม็กนัสถึงต้องมีอารมณ์พิศวาสกับมันด้วย  รึจะต้องโทษพระเจ้าเฮงซวยที่ทำให้มันไปหาแม็กนัสในเวลาที่ประจวบเหมาะและทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นแบบนี้  ไม่ใช่ว่าเธอจะชวดจับแม็กนัสอย่างเดียวหรอกนะ  แต่เอลซ่ายังโดนอีกคนหนึ่งสงสัยไปเต็มๆ เลยอีกด้วย........

“ฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นมันมีความสุข หลังจากที่มันได้นอนกับแม็กนัสที่ควรจะเป็นของฉันมากกว่า!” นักแสดงสาวแผดเสียงและโบกไม้โบกมือไปทั่ว

“อย่าพาลสิเอลซ่า  พี่นิสัยเสียอีกแล้วนะ” ผู้จัดการส่วนตัวของเธอปราม และเริ่มจะเหลืออดแล้วกับนิสัยที่พี่สาวชอบเลียนแบบมาจากแม่ที่เค้ารู้สึกไม่ชอบยิ่งกว่ามาก

แต่พี่สาวที่โดนความอิจฉาริษยาครอบงำก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้นอีกต่อไปแล้ว “ฉันอยากให้มันเสียใจ  อยากให้มันอยู่ห่างจากแม็กนัสของฉัน  และไม่มีความสุขอีกเลยตลอดกาล.....” แล้วหญิงสาวก็พูดบางอย่างที่ทำให้น้องชายของเธอต้องรู้สึกขัดใจ

มิคาเอลชักสีหน้า เค้ากอดอกนั่งบนที่ท้าวแขนโซฟาประจันหน้ากับพี่สาว และชูแขนขึ้นข้างหนึ่งอย่างท้วงประเด็น “ผมไม่ชอบไอเดียพี่เลย  หมายถึง...พี่กำลังทำให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่รู้สึกแย่ไปเลยนะ” และใช่  เค้าไม่เห็นด้วยเอาเสียเลย........

“แต่ฉันอยากให้มันเป็นอย่างนั้น  เป็นอย่างที่ฉันต้องการและแกก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์เลยหนิเจ้าน้องชาย  แกควรจะได้ประโยชน์เสียด้วยซ้ำ.....พอถึงเวลานั้นแล้วแกจะทำยังไงก็ได้” เอลซ่าว่าเสียงเย็น และพูดถึงข้อเสนอที่มิคาเอลเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็จริง.........

“ผมทำเรื่องชั่วก็เพราะพี่บอกให้ทำหรอกนะ” เค้าว่า  ก่อนจะโดนพี่สาวตวาดใส่อีกรอบ


************************************************************************


และในทางด้านของอเล็คที่น่าสงสาร................

ร่างบางไม่ได้ออกไปไหนเลย  เอาแต่เก็บตัวอยู่ไหนห้องทั้งวัน แม้ว่าจะไม่มีใครที่เค้าต้องการอยากจะหลบหน้าอยู่แถวนี้ก็ตาม...........แต่อเล็คก็บอบช้ำเกินกว่าที่จะออกไปสูดอากาศข้างนอกแล้ว

เค้ารู้สึกเจ็บและหนาวอย่างประหลาด.........อเล็คนอนขดอยู่บนโซฟาเดี่ยวตัวยาวที่เค้าคิดว่าเพียงแค่จะนั่งพักในตอนแรกเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับนอนกอดตัวเองอยู่บนนั้นและไม่ได้ขยับไปไหนอีกเลย  อเล็คกดจมูกลงกับแขนเสื้อของแม็กนัสที่เจ้าตัวสวมอยู่  ในตอนแรกร่างบางคิดจะถอดมันออก แต่ว่าเค้าก็กลับไม่ได้ทำแบบนั้น.......อเล็คเหนื่อยเหลือเกิน  เค้าไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นและหลับไปในที่สุด

จนกระทั่งเป็นเวลาค่ำแล้ว  โทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้น  เจซโทรมาถามว่าอเล็คเป็นอย่างไรบ้าง และเพื่อนตัวน้อยก็บอกว่าไม่เป็นไร เค้าโอเคอยู่ท่าเดียว.........แต่ใช่ว่าอเล็คจะเคยชนะเจซ  ในตอนที่อเล็คหลุดปากบอกร่างสูงผมบล์อนออกไปว่าอยากพักผ่อนแล้วเพราะรู้สึกปวดหัว

“นายตัวร้อนรึเปล่าอเล็ค”

“อืม ฉัน...” อเล็คอยากจะดีปากตัวเองเสียให้ได้นัก หลังจากที่เค้าเผลอตอบไปแบบนั้นและเจซก็สั่งห้ามเค้าไปทำงานจนกลัวจะหายป่วยรอบสอง

“แต่คุณบีพอทท์ต้องบ่นฉันแน่ๆ เลยนะ” ร่างบางเริ่มงอแงจะกลับไปทำงาน  และเจซสาบานว่าถึงจะต้องพังร้านเค้าก็จะลางานให้อเล็คให้ได้  แค่คุณบีพอทท์ก็ทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก ยกเว้นซะแต่ไล่ออกน่ะนะ (แต่ชายเจ้าของร้านก็ไม่กล้าพอ เพราะพ่อของเจซเป็นคนมีหน้ามีตา)

“สาววัน....ฉันให้นายสามวันอเล็ค ถ้านายยังไม่หายฉันจะไปดูแลนายเอง  ตอนนี้บ้านฉันค่อนข้างยุ่งนิดหน่อย ยัยน้องสาวขี้สำออยของฉันกำลังจะทำบ้านแตกและฉันไม่เข้าใจทำไมทุกคนจะต้องคอยโอ๋เธอด้วย  แค่นี้ก่อนนะ......ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะอเล็ค  ถ้าว่างแล้วฉันจะไปหานาย”

แต่เจซก็ไม่เคยมาเลยตลอดสามวันที่เค้าได้ให้เวลาไว้  เป็นเพราะยุ่งมากทั้งที่ทำงานและที่บ้าน  แต่อเล็คก็ไม่ได้ว่าอะไร  มีอยู่ครั้งหนึ่งร่างบางเคยคิดว่าถ้าแม็กนัสโทรมาจะเป็นยังไงนะ  โทรมาถามเค้าว่าเป็นอย่างไรบ้างอเล็ค?  เหมือนกับเจซ  ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วแม็กนัสติดจะไม่กล้าโทรมามากกว่า ร่างสูงสะโอดสะองรู้สึกผิดเกินไปที่จะคิดว่าอเล็คอยากคุยกับเค้า

แต่ทว่าไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วง........

ในขณะที่องค์รักนาม เจซ   เวย์แลนด์ กำลังตัวปั่นอยู่กับการหาเงินส่งตัวเองเรียนซึ่งเค้าเถียงหัวชนฝาว่าจะไม่ใช้เงินของพ่อเด็ดขาด และกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับน้องสาวที่ไม่รู้ไปกินยาบ้ามาจากที่ไหนนั้น ไม่ว่างมาดูแลอเล็ค   แม็กนัส   เบน ก็นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้  ร่างสูงสะโอดสะองปัดแคนเซิร์นงานทั้งหลายกับผู้จัดการไปจนกว่าเค้าจะพร้อม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคืบแคลงเรื่องแฟนสาวของตัวเองและคิดถึงเป็นห่วงแต่อเล็ค...........

แม็กนัสมาหาอเล็คที่อาร์พาร์ทเมนท์ทุกวัน  แต่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะเค้านึกถึงภาพที่อเล็คตัวสั่นใส่เค้า และถอยห่างเมื่อเค้าเข้าไปใกล้  เพราะฉะนั้นคงจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าจะไปให้อเล็คเห็นหน้า  เค้าทำให้อเล็คผิดหวังและเสียใจ..........

แม็กนัสจะมาที่นี่สามครั้งต่อวัน หรือบางวันอาจมากกว่านั้น  บางทีอาจอยู่ทั้งวันเลยด้วยซ้ำไป  ร่างสูงสะโอดสะองเป็นซี้กับผู้ดูแลอาร์พาร์ทเมนท์ไปโดยปริยายเสียแล้ว เมื่อเค้าไว่วานให้ผู้ดูแลร่างอ้วนเอาอาหารแต่ละมื้อขึ้นไปให้อเล็คได้ โดยอ้างว่าเธอเป็นห่วงอเล็คมาก  และทุกครั้งที่เธอกลับลงมารายงานแม็กนัสด้วยสีหน้าคลั่งไคล่นายแบบหนุ่มว่าอเล็คเป็นอย่างไร  ร่างสูงก็หน้าเสียไปเลย

ในใจแม็กนัสอยากขึ้นไป  อยากพบอเล็คมากเหลือเกิน........เค้าจะรอให้คนดูแลลงมาบอกเค้าว่าอเล็คยอมทานอาหารแล้วถึงจะวางใจแล้วกลับคอนโดไปได้

“อเล็คป่วยด้วยล่ะ เห็นหน้าตาเค้าดูไม่ดีเลย” หญิงร่างไม่ผอมเพรียวบอกกับเค้า  แม็กนัสเลยกระวีกระวาดมากกว่าเป็นสองเท่า  ครั้งถัดมาร่างสูงฝากยาขึ้นไปด้วยและยังคงไม่วางใจหากยังไม่เห็นอเล็คจริงๆ แต่อเล็คจะร้องไห้ถ้าเห็นเค้า..........

“นายเป็นยังไงบ้างอเล็ค...” แม็กนัสรำพึงกับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง และทำหน้าเจ็บปวดใจอย่างที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าแสดงสีหน้าออกมาชัดเจนขนาดไหน

ในเวลาสามวัน  มันช่างนานชั่วกับชั่วกัลป์สำหรับแม็กนัส  วันนี้เป็นอีกวันที่ร่างสูงสะโอดสะองหัวใจล่องลอยไปไกล  เค้ามาที่เดิมแต่กลับไม่พบกับผู้ดูแลที่ชื่นชอบผลงานของเค้ายิ่งกว่าอะไรดี  จนกระทั่งร่างสูงหันไปเจอโน้ตที่ถูกแปะเตือนไว้

ขอโทษนะจ๊ะ  ฉันต้องออกไปเฝ้าพี่สาวที่ผ่าตัดนิ่วฉุกเฉิน....

แน่นอนเธอฝากถึงแม็กนัส  และร่างสูงก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลายเอือกไปเลย  งั้นหมายความว่าเค้าก็ต้องขึ้นไปหาอเล็คด้วยตัวเองสินะ  แม็กนัสชั่งใจ.........นี่ก็มื้อสุดท้ายของวันนี้แล้ว  แค่เคาะประตู แล้ววางของไว้ก็คงจะไม่เป็นไรหรอกมั่ง  เดี๋ยวอเล็คก็คงจะรู้เอง.....แม็กนัสคิดในใจ  เป็นเพราะเค้าไม่อยากให้อเล็คเห็นหน้าเค้านั่นเอง

..........แต่มันก็ดูแย่ไปเสียหน่อย ถ้าหากไม่ดูแลกันเลย  เค้าทำให้อเล็คเจ็บ.........

แต่มันก็ยากนะ.......แม็กนัสจำเป็นต้องฝืนห้ามความอยากที่จะเจอหน้าอเล็ค  เพราะถ้าเค้าดึงดันที่จะทำแบบนั้นแล้วล่ะก็หมายถึงการตอกย้ำความเจ็บปวดให้อเล็ค  และเพื่อนตัวน้อยของเค้าก็คงจะต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ

...........แม็กนัสอาจจะไม่ใช่คนที่อบอุ่นสำหรับอเล็คซะแล้ว...........

นายแบบหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบกับความรู้สึกที่เค้าเองก็ไม่เคยพบเจอ  และไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำเหมือนเพื่อนตัวน้อยซึ่งนอนขดตัวอยู่ในห้อง เมื่อครั้งที่เจ้าตัวต้องโกหกว่าเอากาแฟจากคนที่ร้านมาให้ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่อเล็คตั้งใจจะเอามาให้แม็กนัสเอง  เหมือนกับตอนนี้แต่ทว่ากลับกลายเป็นอีกคนหนึ่งเสียเอง................

ร่างสูงสะโอดสะองที่แต่งตัวเรียบง่ายราวกับว่าไม่ต้องการให้ผู้อื่นสังเกตเห็นเค้า  เดินมาถึงหน้าห้องของเพื่อนตัวน้อยในที่สุด  แต่แล้วจู่ๆ เค้าก็รู้สึกเหมือนโดนแช่แข็งไปทั่วทั้งตัวและตบตีกับความคิดของตัวเอง

..............อเล็คจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?...........

.............ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เห็นอเล็คอีกเลย............

................นายน่าจะเข้าไปแม็กนัส  อเล็คกำลังป่วยและบาดเจ็บ...............

...............เค้าหนาว และต้องการนาย.............

..............ไม่  ไม่ใช่หรอก  อเล็คไม่ต้องการแบบนั้น  อเล็คกลัวนาย............

..............เค้าเกลียดนายแล้ว............

เดจาวูเวอร์ชั่นหวนกลับ และแม็กนัสก็ได้รับรู้ถึงสิ่งที่อเล็คเคยรู้สึก......ว่าความกลัวที่จะถูกปฏิเสธนั้นเป็นเช่นไร

............ใช่  แม็กนัสรู้สึกแล้ว  เพียงแต่ไม่อาจรู้ได้เท่านั้นว่าเพื่อนตัวน้อยของเค้านั้นเคยใจเต้นระส่ำแค่ไหนเมื่อยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของเค้า

เหมือนที่แม็กนัสเองก็ทำอยู่ตอนนี้

อเล็ค......และแม็กนัสเลือกที่จะเคาะประตูในที่สุด


.


.


.


TBC.


---------------------------------------------------------------------------------------------------------


แม็กนัสรู้สึกแล้วสินะว่าอเล็คเคยเป็นยังไงในตอนที่ต้องไปยืนทำตากลมๆ อยู่หน้าห้องนายน่ะ! -{}-  ใจตุ่มๆ ต่อมๆ เลยล่ะสิ ฮ่ะ! //เหมือนไรท์ประกาศตัวเป็นศัตรูแบบโจ่งแจ้งเลยค่ะ -..- //  ไหนตอนแรกใครบอกว่ารู้สึกตาม แต่ตอนนี้ไหงมาก่อบังเกอร์จะรบด้วยซะงั้น -..-“ 55555  แต่ถึงไงนายก็เป็นพระเอกนะแม็กนัส เป็นข่าวเกาเหลากันหน่อยจะเป็นไรไป  รีดๆ เค้าเข้าข้างนายอยู่แล้ว  เป็นพระเอก หล่อด้วยหนิ  ถึงจะโง่มานานมากก็เหอะ 5555

//สักพักโดนสายฟ้าช็อตใส่...เอิ่ม ไม่ใช่ คนละเรื่องล่ะ -..-“ ไม่ใช่ TMI จริงๆ ซะหน่อย//

แต่ว่า อร้ายยยยยยย แม็กนัสทำยังไงต่อล่ะค่ะนี่ เคาะประตูไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นมาหลังจากนั้นเอ่ย?  และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเอลซ่าผู้บงการน้องชายค่ะ  เธอจะให้น้องชายทำอะไร และอเล็คผู้มุ้งมิ้งของเราจะโดนอะไรบ้างนะ *0* ชั่วร้ายยยยย เอลซ่าขี้อิจฉานิสัยไม่ดีเลยยยย มิคาเอลยังมีความเป็นมนุษย์ศิลธรรมและความชั่งใจนึกถึงคนอื่นมากกว่าเลย  เฮอะ--!

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามได้ใน Part หน้าเลยค่ะ ^^

และสำหรับท่านใดที่อยากพูดคุยกับไรท์หรือว่าติดตามข่าวคราวของฟิคคู่ต่างๆ ที่ไรท์เขียนนั้น ตามาเป็นเพื่อนกับไรท์ได้ในเฟสเลยค่ะที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มได้เลยค่ะ ^^ 

และที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ  รีดทุกท่านกรุณาแสดงตัวด้วยค่ะว่าท่านติ่งวาย มิฉะนั้นไรท์อาจไม่รับได้ค่ะ เพราะว่าหลายคนเคยหลงเข้ามาขอเป็นเพื่อนกะไรท์  คือไรท์ไม่อยากให้เค้าใจแตกน่ะค่ะ 5555 และอยากให้แน่ใจว่าไม่มีใครหลงเข้ามา  รบกวนขอความกรุณารีดทุกท่านช่วยแสดงตัวด้วยนะคะ แนะนำตัวในโพสต์หรือในแชทก็ได้ค่ะ....ไรท์จะรีบรับทันทีเลยค่ะ ^^  ขอบคุณค่ะ

รักรีดทุกๆ ท่านมากๆ เลยค่ะ  อย่าลืมเม้นท์ๆ กันนะคะ  ไรท์จะได้มีกะลังใจเขียนให้เสร็จจริงๆ สักที //ยิ้มทั้งน้ำตา// TUT จะได้ลงอีกไวๆ ด้วย ฮาาาาาา

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ไรท์คะ...เอลซ่าเนี่ยะ...เธอเป็นนางมารกลับชาติมา้กิดหรือคะโอ๊ยนางนี่ //หยาบคาย// แม็กนัสนายควรจะรู้ตัวได้แล้วอย่าพึ่งงมโข่งยุ...สงสารอเล็ค..
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรีดขอบอกเลยว่าสะใจยัยเอลซ่ามากและชอบประโยค"ใช่ เค้ามีเซ็กส์กันนน" สะใจอย่างบอกไม่ถูกคะเหมือนตอกย้ำๆๆ
#สุดท้ายนะคะรีดขอให้ไรท์เปลี่ยนพื้นหลังนิดหนึ่งได้ไหมคะ...รีดอ่านแล้วลายตามากเลยคะ ด้วยรักและหวังดีคะไม่ได้มีเจตนาทำให้ไรท์เฟลหรือเสียความรู้สึกอย่างใดคะ