วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 22] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



อ่าาาาา  มาต่อตามที่สัญญาแล้วค่ะรีดๆ >3<  ช่วงนี้ไรท์ไม่ค่อยได้แวะมาลงบ่อยๆ เลยค่ะ  ต้องขออภัยอย่างมหาศาลจริงๆ เลยนะคะ  และช่วงนี้ก็ทราบว่ารีดหลายๆ ท่านก็คงจะเปิดเทอมกันแล้ว(เข้าวังวนสู่เทศกาลโลกแตกอันน่าเบื่อ)  ฮาาา สู้ๆนะคะ  การเรียนนี่ต้องใช้ความอดทนและความพยายามกันเป็นอย่างมากเลยนะเออ //อย่าว่าแต่เค้าเลย แกก็เหมือนกันยะ!// 55555

แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< สามารถเข้ามาติดตามและเข้ามาพูดคุยกับไรท์ได้เลยค่ะ //หากช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็ต้องอภัยด้วยนะคะ  M_ _M // 

อืมม มาว่าด้วยเรื่อง Part ที่แล้วที่เราค้างกันไว้ดีกว่านะคะ......จาโรชักปืนขึ้นมาแล้วลั่นไกใส่เฮียค่ะจะเกิดอะไรขึ้น!?  ไปอ่านกันเลยค่าาาาา ><


----------------------------------------------------------------------------------------------


จาโรเดินดุ่มๆ มาหาโรนัลโด้แล้วชักปืนออกมาจากเข็มขัดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลั่นไกโดยไม่คิด

ปัง!

เมสซี่ตาเบิกโพลง อ้าปากค้างและหยุดหายใจ..........


.


.


.


******************************************************************


.


.


.


กระสุนยิงลงไปในสระ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินมาถึงหน้านักเตะพอดี แล้วจี้ปลายกระบอกปืนไปที่แผลสดซึ่งมีเลือดไหลออกมาหมาดๆ ของโรนัลโด้

“ฉันจะไม่ฆ่าแกรู้ไหมคริสเตียนโน่ เพราะไม่อยากให้เสียรายได้จากการทำธุรกิจ....”

อ้าา!...อึก ใครอนุญาตให้แกเรียกชื่อต้นของฉันกัน ไอ้สารเลว....อ๊ากก!” หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันกดมือที่ถืออาวุธสังหารลงไปแรงอีก ปลายกระบอกปืนร้อนๆ ส่งเสียง ฉี่ เบาๆ บนบาดแผลของโรนัลโด้  ประสาทสัมผัสของความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมองของเค้าจนร่างสูงต้องร้องออกมา

“แกไม่มีสิทธิ์พูด เพราะว่าฉันจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเมื่อไรก็ได้!” ว่าแล้วจาโรที่มีสีหน้าเหมือนโมโหโกธาเป็นพิเศษ ก็จัดการใช้สันปืนตบเข้าไปที่มุมปากของโรนัลโด้อย่างเต็มแรง  จนร่างสูงหน้าหันพร้อมเลือดกบปาก

“อันนี้ฉันจัดให้ก่อนแกโดนรับน้อง” ว่าเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับลูกน้องเพียงเล็กน้อย  แล้วถอยออกมา ในขณะที่ชายฉกรรจ์สี่คนจะรุมอัดร่างสูงที่ถูกยำติดกับพื้น

“เป้าหมายคือตัวเมสซี่......ไม่ใช่แก เพราะงั้นก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะได้แกมาเป็นตัวทำเงินอีกคนหนึ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถนอมแกนักหรอก....เฮ้ย! ไม่ต้องเน้นหน้า เอาตัวมันให้ช้ำไปถึงไส้ติ่งก็พอ”

หนุ่มลูกครึ่งตะโกนบอก  แล้วถอยหลังออกให้ความสนใจกับร่างเล็กๆ ที่พร่ำพูดทั้งน้ำตาบ้าง....จาโรยืนมองเมสซี่ที่กู่ร้อง อยู่ห่างๆ

“ไม่! อย่าทำอะไรเค้า...อย่า! คุณก็ได้ตัวผมแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก....ปล่อยเค้าไป อย่าทำอะไรเค้าอีกเลย  ได้โปรดเถอะ  เค้าลำบากเพราะผมมากเกินพอแล้ว!....อึก  ฮือ  คริส! ไม่! อย่า อย่าทำเค้า....พอแล้ว  ฮืออ  อึก ได้โปรด....พอเถอะ”

จาโรยิ้มละมุนแต่ทว่าร้ายกาจราวกับคนที่พร้อมจะเชือดนิ่มคนอื่นได้ตลอดเวลา  ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเมสซี่  แล้วจุปากไปมาอย่างนึกสงสาร

“ไม่เอาน่าคนน่ารัก  อย่าร้องไห้สิ.....คุณไม่ควรดูภาพที่ไม่น่าดูแบบนั้นเลยนะ” ว่าเสียงอ่อนโยนพลางเช็ดน้ำตาให้อีกคนหนึ่งอย่างอ่อนโยนเช่นกัน  แต่ร่างเล็กกลับสะดุ้งหนีสัมผัสนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ได้โปรดหยุดเถอะ  คุณได้ตัวผมแล้ว หยุดทำร้ายเค้าเถอะผมขอร้อง....แล้วผมจะยอมไปกับคุณแต่โดยดี.....ได้โปรดเถอะนะ” เมสซี่แสดงสีหน้าอย่างสุดจะอธิบายเมื่อเค้าไม่เคยรู้สึกแย่และเจ็บขนาดนี้มาก่อนเลย.......คนที่ช่วยเค้า  โอบอุ้มเค้า  และใจดีอารีกับเค้ามาโดยตลอดกำลังจะตายทั้งเป็น 

ถ้าโดนซ้อมเข้ามากๆ อาจจะเล่นฟุตบอลไม่อีกเลยตลอดชีวิต

“ได้โปรดเถอะ  หยุดเถอะ หยุดสักที...อึก” ร่างเล็กหมดแรงห้อยตัวเองกับชายทั้งสองที่จับร่างของเค้าไว้  ชายลูกครึ่งอเมริกันบราซิลออกมายืนบังร่างเล็กไว้ไม่ให้เห็นภาพที่บุคคลซึ่งกำลังถูกพูดถึงอยู่นั้นโดนรุมซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย

“โอ้ เงียบซะเถอะ....เงียบซะ” จาโรว่าเสียงเห็นใจอย่างเสแสร้ง ก่อนจะหรี่เสียงท้ายประโยคให้เบาลงเพื่อให้ดูสมจริง........ชายคนนี้เก่งเรื่องเล่นละครซึ่งสวนกับสถานการณ์ของความเป็นจริงเสมอ........แล้วจรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากที่นุ่มมือจนเค้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ  ก่อนจะทำหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง

“แต่เสียใจ ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้” แล้วจากนั้นจาโรก็ทำหน้าเคร่งขรึมราวกับพลิกกลับบทบาทของตัวเองใหม่ ก่อนจะหมุนตัวบนสันเท้าแล้วพูดเสียงกรรโชก “เฮ้ย! เลิกเล่นได้แล้ว จัดการมันให้สลบ....อยู่ไปก็ยุ่งยากกันเปล่า  ดูท่ามันเอาเรื่องชะมัด”

เสียงตุ้บตั้บดังขึ้นอีกเป็นสองเท่า  มันเกือบจะดังประสานกันจนร่างเล็กแทบแยกไม่ออก แต่แล้วก็มีการเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้น  มีคนก้าวเข้ามา.........

“ดูสิ ใครไม่ทำให้ผิดหวัง.....โอ้ จาโร สมแล้วกับที่เป็นมือขวาของฉัน” ชายร่างใหญ่ออกท้วมคนหนึ่งเดินเข้ามา เค้าผายมือออกอย่างยินดีแต่พูดเสียงยินดียิ่งกว่า แสดงท่าทีราวกับว่าเจอหลานชายที่หายหน้าหายตาไปนาน........และทุกอย่างกำพลันหยุดชะงักลง  ชายฉกรรจ์สี่คนที่ซ้อมโรนัลโด้ก็หยุดมือไปด้วยแล้วยืนตัวตรงแน่วเพื่อทำความเคารพหัวหน้าสูงสุด

.............เมสซี่เห็นโรนัลโด้นอนจมกองเลือด  มีเลือดไหลออกมาจากปาก  จมูก และบาดแผล  ร่างสูงดูบอบช้ำไม่น้อยเลย  และหมดสติไปนานแล้ว..........

“โอ้ คริส......” เมสซี่พูด เสียงฟังดูเหมือนใจสลาย.....เค้าทั้งสงสาร และเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เพื่อนร่างสูงต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้  เป็นเพราะเค้าคนเดียวแท้ๆ

เป็นเพราะเค้าคนเดียว...........



********************************************************************************



“ไอ้จาโร ไอ้คนหลอกลวง!” เปเป้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วกำมือแน่น

“ไอ้บัซบเอ้ย! อย่าให้ฉันเจอมันอีกนะ” เนย์มาร์ที่อยู่นั่งแปะข้างๆ ก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน  แถมยังช่วยชูกำปั้นเป็นเพื่อนเปเป้อีกด้วย

สองหนุ่มสองเชื้อชาตินั่งอารมณ์เดือดเพราะถูกหลอกอยู่กันเพียงสองคน  จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยตัดปัญหาขึ้นมา

“ช่างเถอะน่า ยังไงเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว  อีกอย่างหมอนั่นโกหกพวกนายไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา พวกนายก็ติดแหง็กอยู่นี่  ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” เปเป้กับเนย์มาร์มีทำหน้าเจ็บนิดๆ ........ราวกับจะย้ำเตือนว่าพวกเค้าไร้ประโยชน์กันซ้ำๆ หน้าอย่างไรไม่รู้.............แต่เนย์มาร์ก็ยังเจ็บใจอยู่อย่างเสียได้

“ก็มันเจ็บใจอ่ะ! เอาความหวังของฉันกะหมอนี่มาล้อเล่น.....มันไม่มีอะไรให้ทำรึไงไอ้บ้านั่นน่ะ!

“หรือบางทีเค้าอาจมีเหตุผล” มึลเลอร์พูดอย่างครุ่นคิด

“แล้วมันคืออะไรล่ะ”

“อืม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันชไวนี่.....แต่การโกหกพวกเราที่ติดอยู่ตรงนี้และทำอะไรไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีนั่นแหละ” มึลเลอร์ตอบเพื่อนชาติเดียวกันที่นั่งทำหน้าตาเหมือนสถานการณ์ปรกติอยู่ข้างๆ  แล้วยกมือขึ้นจับคางอย่างครุ่นคิดยิ่งกว่าเดิม  แต่แล้วก็โดนเปเป้ตีเข้าที่หน้าตัก  คนที่ไม่ยอมอยู่เฉยเอ่ยอย่างไม่ใคร่รู้สึกดีนัก

“ช่างเรื่องนั้นเถอะน่า มาช่วยกันคิดดีก่อนกว่าว่าจะทำยังไงดี......เราต้องเรียกตำรวจนะ”

เนย์มาร์พยักหน้า “อืม ฉันก็เห็นด้วยกะเจ้าหมอนี่นะ  เราต้องทำอะไรสักอย่าง.....”

“เสียงปืนดังเมื่อกี้คงจะเรียกตำรวจมาแล้ว” มึลเลอร์ขัด แล้วโดนขัดขึ้นอีกที

“มันจะไปทันอะไรล่ะ สู้เราไม่หาทางเร่งเอาเองดีกว่าเหรอ   ดูสิ ขนาดอพยพคนออกจากตึงยังช้ายังกะแจกบัตรคิวโรงพยาบาลในที่ราบสูงยังงั้นแหละ  แล้วกว่าจะเคลื่อนตัวออกมากันได้ทั้งกรม โอยยย.........แถมไอ้หมอนั่นมันยังบอกอีกด้วยว่ากรมตำรวจน่ะอยู่ห่างออกไปตั้งไกล  โอ๊ยย ฉันหวังว่าหมอนั่นคงจะโกหกเราอีกนะ” เนย์มาร์พูด แล้วยกมือขึ้นโอดครวญกับตัวเอง  จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยขึ้นบ้าง

“จริง....กรมตำรวจห่างจากนี่ไปหกสิบไมล์” เพราะในระหว่างทางที่มาโรงแรมเค้าคอยสังเกตรายตลอด ไม่ได้หลับคาเบาะเหมือนคนอื่นๆ ในทีม  เนย์มาร์ทึ่งหัวตัวเอง  ดูเหมือนสติใกล้แตกเต็มที

อ๊ากก โอยยย  มันจะไปสร้างอะไรไกลขนาดนั้นว่ะ.....บอกฉันสิ ถ้าออกไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี่ได้ฉันจะบริจาคให้สร้างใหม่ใกล้ๆ ที่นี่สักที่หนึ่งเหอะ......เฮงซวยเอ้ยย!

“เฮ้ยย! อย่าสติแตกไอ้หน้าโจร  คุมสติให้ได้อย่างฉันสิ......ออกไปแล้วฉันจะควักตังค์ซื้อน้ำมันก๊าดทั้งปั๊มไปเผากรมมันแมร่งเลย  มาอพยพพลเรือนก็มาเท่าหยิบมือหนู แล้วพอเกิดเรื่องร้ายแรงแล้วยังจะเคลื่อนตัวกันช้าเป็นเต่าอยู่ได้!  นวยนาถจริงๆ!” เปเป้ดูเหมือนจะมีสติดีมากกว่าแต่ก็ไม่ต่างกันเสียเท่าไรเลย แถมยังขุดเอาภาษาสมัยคุณลุงที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยเข้าใจมาใช้อีก 

แต่เนย์มาร์ผงกหัวขึ้น เลิกทึ่งหัวตัวเองแล้ว  เปลี่ยนมาเป็นสะบัดมันมาหาเปเป้แทน  และทำหน้าชั่วใส่อีกคน “ความคิดบรรเจิดมากไอ้เพื่อนยาก!” แล้วยื่นมือออกไปเช็คแฮนด์กับเปเป้อย่างหมายมั่นปั้นมือ

เลยโดนนอยเออร์โบกกันไปคนละตั้บ

“ไร้สาระไปไหนพวกนายน่ะ....เลิกคิดอะไรบ้าๆ แล้วมาตกลงกัน ว่าจะเอายังไงแน่กันดีกว่า” เค้าเอ่ยถามเป็นจริงเป็นจัง  เปเป้และเนย์มาร์ตอบพร้อมกับเสียงแน่วแน่ไม่มีแววล้อเล่นสักนิดเดียว  ใบหน้าพวกเค้าดูพร้อมที่จะไปเต็มทีแล้ว

“เราจะออกไปตามตำรวจ” และไม่มีคำตอบที่เป็นอื่นอีกแล้ว

แต่มึลเลอร์ส่ายหน้า “แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้นายก็รู้  มีพวกมันอยู่เกลื่อนไปหมด” ร่างสูงพูดแบบกระชับได้ใจความและตรงประเด็นอย่างที่สุด

สองหนุ่มหัวใจห้าวหาญเลยลู่ไหล่ลงเมื่อโดนเบรกด้วยเหตุผลที่เป็นจริงที่สุด  แต่แล้วชไวนี่ก็ยื่นหน้าเข้ามากลางวงแล้วพูด จนนอยเออร์ต้องมองเค้าอย่างห้ามปรามน้อยๆ

“แต่มานูเอลทำได้นะ”

จจนทำให้สามคนนั้นหันหน้ามาพูดพร้อมกัน อย่างแทบไม่เชื่อหู “นายว่าอะไรนะ!....// อุ  แกเบาๆ สิ // แกนั่นแหละเบา เดี๋ยวมันก็ได้ยินเข้าพอดีหรอก // พวกนายสองคนนั่นแหละแหกปากอยู่ได้  หุบปากเลย  ทั้งคู่นั่นแหละ!” เปเป้  เนย์มาร์ถกกันไปมา  ก่อนจะจบด้วยประโยคสุดเหลืออดของมึลเลอร์  แล้วเปิดไฟเขียวให้ชไวนี่พูดต่อ

“ก็ตอนที่ฉันติดอยู่ในโรงแรมน่ะ  มานูเอลเข้าไปช่วยฉันในนั้นแล้วก็พาออกมาหาพวกนายนี่แหละ.....ตอนนั้นชุลมุนมากเลยนะ พวกแขกก็วิ่งกัน  ฉันก็วิ่งตามพวกเค้าไปแบบเนี่ย  แบบเนี่ย แล้วก็มีคนยิงปืนเสียงเบาๆ ฟิ้วๆ แบบนี้ด้วยนะ  และแขกพวกนั้นก็วิ่งชนกัน  มีคนหนึ่งหันมาชนฉันด้วย......โอ้ พระเจ้า  พวกนายไม่รู้หรอก  ทั้งหมดนั่นมันดูบ้ามากๆ เลย”

ผู้ที่ประสบเหตุมาด้วยตัวเองอธิบายให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มในตอนท้าย พร้อมกับทำท่าประกอบ............ชไวนี่ทำหน้าตาตื่นจำลองเหตุตอนที่เค้าวิ่ง และทำมือเป็นปืนกระดกขึ้นลงประกอบเสียง ฟิ้วๆ  

เนย์มาร์และเปเป้มองหน้ากันเหรอๆ ราวกับจะบอกชไวนี่ว่า “นายนั่นแหละที่บ้า” แต่ไม่นานก็เข้าใจเพราะชไวนี่ค่อนข้างโลกสวยและไม่เคยจริงจังกับอะไรนอกสนามเลย......เป็นคนดีเกินเหตุเสียด้วยซ้ำ  ดังนั้น เนย์มาร์และเปเป้จึงหันกลับมาฟังต่อ หลังจากที่กระพริบตาใส่กันเหมือนระคายอะไรบางอย่าง

“.....ฉันเกือบโดนเหยียบตายแล้วแน่ะรู้ไหม  ถ้ามานูเอลไม่เข้ามาฉุดให้ฉันลุกขึ้นแล้วก็พาไปหลบที่อื่นเสียก่อน  เรามองตะลีบันพวกนั้นต้อนแขกออกไปอีกที่หนึ่ง....”

“เดี๋ยวๆๆ ตะลีบันนี่มันผู้ก่อการร้ายเลบานอลนะ” เปเป้ถ่างมือขึ้นขัด  แต่ก็โดนมึลเลอร์ผู้ทำหน้าปลงๆ สะกิดเข้าที่ไหล่เข้า

“ปล่อยเค้าไปเถอะ  ต้องเข้าใจ หมอนี่โลกสวย  รู้จักอยู่แค่นั้นแหละ”

อ่อ อ๋อๆๆ” เปเป้พยักหน้าพร้อมกับเนย์มาร์ที่รับฟังไปด้วย ก่อนจะปล่อยให้ คนโลกสวย เล่าเรื่องต่อไป

“แขกที่วิ่งไปทั่วในโรงแรมโดนต้อนออกไปอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้มารวมอยู่ที่นี่เหมือนกับเราหรอกนะ  มานูเอลก็เลยพาฉันอ้อมออกมาอีกทางหนึ่งแต่ก็โชคไม่ดีเท่าไรที่ดันเจอผู้ร้ายพวกนั้นเข้า  แต่ไม่มีปัญหาเพราะมานูเอลจัดการซะเรียบเลย  ฉันก็เลยมานั่งคุยกับพวกนายอย่างปลอดภัยอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ” ชไวนี่ว่า หน้าชื่นตาบานพร้อมกับกอดคอนอยเออร์ซึ่งต้องลดไหล่ลงมาตามแขนที่เกี่ยว ของชไวนี่น้อยๆ 

“นายเจ๋งว่ะ” เนย์มาร์ว่า

“ฉันเป็นผู้ชายนะ ไม่ใช่ผู้หญิง” นอยเออร์ว่ากลับไปแบบสั้นๆ แต่มีความหมาย  ทำให้ชายหนุ่มที่เหลือในวงต้องรีบพิจารณาตัวเองโดยด่วนเลยว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่   เนย์มาร์สะบัดหัว

“โอ๊ย  เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันสักที  เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะ....มานูเอลนายนำไปเลย  ตอนนี้เราขยับมาอยู่ท้ายๆ แล้ว  ถ้าจะไปล่ะก็ทางสะดวก.....ขอร้องเหอะ ฉันอยากเจอลีโอ  รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้แฮะ” เนย์มาร์พูดเสียงสุดจะทนกับความอัดอั้นที่เค้านั่งตบตีกับมันอยู่


.


.


.


TBC


------------------------------------------------------------------------------------------


อ๊ากกกกกกกกก  ออกไปตามตำรวจข้างนอกน่ะเรอะแล้วจะไปยังไงกันคะ  เฮียนอยเออร์ของเราคงจะรับศึกหนักเสียแล้วล่ะค่ะ  ถ้าพวกเค้าคิดจะไปกันจริงๆ ก็คงจะต้องออกแรงรักษาชีวิตลูกเสืออีกสี่คนที่ติดสอยห้อยตามฝากชะตากรรมกับเฮียไว้ ด้วยนะคะ  ฮาาาาาา  ออกไปทำให้ได้นะคะ แล้วพาตำรวจเข้ามาเคลียร์ //แต่คงไม่วิ่งกันไปจนถึงกรมตำรวจหรอกนุ 5555  ใครจะไปวิ่งตั้งหกสิบไมล์ -*- //

แล้ว  แล้ว!  แล้วเฮียกะเหมียวของเราล่ะคะ!!   อร๊ายยยยยยยยยยยยยย! >< ไรท์ล่ะเจ็บปวดหัวใจแทนเหมียวจริงๆ เลยค่ะ >{}<!!  ใยจึงทำกับเฮียของเหมียวแบบเน่ -----แกบอกให้ลูกน้องของแกถอยไปห่างๆ เดี๋ยวนี้เลยนะจาโร...รวมถึงแกด้วยแล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะ!! //ง้างมัด// + //สักพักไรท์โดนยิงแสกหน้า//

 เฮียขาาาา  ฟื้นขึ้นม๊าาา  ฟื้นขึ้นมาช่วยเหมียวก่อนนนน T^T  อย่าทำงั้นสิคะ  เหมียวร้องไห้จนหมดแรงแล้วววววว  เห็นไหมมมมมม >{}< //เขย่าคอเสื้อเฮีย//  แล้ว...แล้ว...แล้วมันจะทำอะไรเหมียวของเฮียไหมล่ะคะเนี่ย  ตื่นนนนนน!! //ตบหน้าเฮีย//

อ่าาาาา  เหล่าลูกเสือและนายกองนอยเออร์จะออกไปขอความช่วยเหลือได้หรือไม่  แล้วเฮียกับเหมียวที่เผชิญสถานการณ์ขั้นวิกฤตนั้นจะเป็นเช่นไร  ติดตามได้ใน Part หน้ากันเลยค่ะ ><  ง่าาาาา  ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอย่างที่แกคิดแน่จาโร......จำคำฉันเอาไว้! //เอานิ้วจ่อหน้า//

ร๊ากกกกก รีดนะค้าาาาา >3<

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund


2 ความคิดเห็น:

มิลค์ กล่าวว่า...

โจรชั่ว!!! ทำแบบนี้ได้ไง แกมันใจโฉดที่สุดเลย TT อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะคะเฮีย ต้องอยู่กับเหมียวนะ
หวังว่าน้อยจะพาพวกที่เหลืออกไปได้อย่างปลอดภัย พาตำรวจกลับมาให้ด้ายยยย!!
p.s. ไรท์รักษาสัญญาที่สุดเลยค่ะ บอกจะมาต่อก็มาจริงๆด้วย ไม่ทำให้รีดผิดหวังเลย ขอบคุณนะคะ รักไรท์ที่ซู้ดดดดดดด ♥♥♥♥

demon กล่าวว่า...

ให้มันได้อย่างนี้สิ! จาโร หมอนี่กำลังทรมานคริสและลีโอ ทำไมจาโรร้ายกาจได้ขนาดนี้นะ แถมไม่ใช่จาโรคนเดียวอีก ยังมีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหรือนี่!!?

แต่คิดว่าปริศนาทั้งหมดน่าจะกำลังคลี่คลายลงบ้างแล้วล่ะค่ะ ให้พวกเนย์มาร์ทำสำเร็จก็แล้วกัน คริสกับลีโอ กำลังตกที่นั่งลำบากมากๆเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนซ้อมจนสะบักสะบอมแบบนี้ อ่านไปแล้วภาพลอยมาเป็นฉากๆเลยค่ะ นึกอิมเมจจาโรๆด้เป็นรูปเป็นร่างด้วยแหละ

แต่อยากจะบอกว่า...หมอนี่มันร้ายลึกจริงๆ ตีบทแตกมาตั้งนาน แสดงเป็นสายลับสองหน้าได้เก่งมาก พอตอนนี้ก็แสดงความร้ายกาจออกมาแบบสุดๆ ตัวละครตัวนี้ดูน่าสนใจมากค่ะ