วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[Fic - RonalSi] + [Part 8] The Sunset...แสงสุดท้ายก่อนหมดวัน - Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 2]



อร๊ยยยยยยยยยย  มาแล้วค่ะรีดขาาา ><  พอรู้ว่าจะลง Part นี้แล้วไรท์ตื่นเต้นมากเลยค่ะ  อร๊ายยยยย  Part นี้จะเป็นเหตุผลแบบเนื้อๆ ของเฮียแล้วค่ะ  เป็นของจริงที่ไรท์จะไม่เอ่ยอะไรทั้งสิ้นค่ะ  รีดๆ จะต้องไปสาวความรู้สึกของเฮียด้วยตนเองค่ะ (?)  //ใช้คำว่า “สาว” ดูสยองไปไหม?// 

โอ้  รีดขาา //พัดมือใส่ตัวเองพับๆ// ไรท์อ่านทวนแล้วไม่รู้จะเอ่ยอะไรเลยค่ะ  อยากรู้จังรีดๆ จะว่าเช่นไรเมื่ออ่านทั้งหมดที่เฮียทำแล้ว.......ง่าาาา ต้องอ่านให้จบก่อนนะคะ จึงจะสรุปความได้  ในเรื่องนี้คาแรกเตอร์เฮียเข้าใจยากค่ะ  //ไรท์เองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจแก// + //ว่าไงนะ?//  เป็นเพราะว่าเฮียเค้าความลับเลอะเหลือเกินค่ะ  และการกระทำมันลึกเกินจะหยั่งถึง  แต่ว่า โอ้ พระเจ้าา  อ่าน Part นี้แล้วเจ็บปวดหัวใจจจ (ลามไป Part หน้าด้วย)

แต่ถามว่าเจ็บปวดเพราะอะไรต้องไปดูกันค่ะ  ถ้าเช่นนั้นก็อย่าเสียเวลาเลย  ไปอ่านกันเลยค่ะ  เลสซึโกววววววว!! >{}<



--------------------------------------------------------------------------------------------------



เค้ามาไกลแล้ว.........และไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่เค้าเพิ่งจากมาจะเป็นเช่นไร 



.



.


***************************************************************************************



.



.



ลีโอตื่นหรือยัง?  หรือว่ากำลังร้องไห้เพราะเค้าอยู่กันแน่..........

โรนัลโด้แทบไม่อยากจะคิด  แต่ว่ามันก็เลี่ยงไม่ได้ในเมื่อนั่นคือความจริงที่เค้าทั้งคู่ต่างต้องเผชิญ  แต่ไม่เหมือนกันตรงที่ว่าเค้าเป็นเพียงแค่คนที่ต้องมองดูเด็กหนุ่มเสียใจเพียงเท่านั้น  ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่แทบนอนกุมหน้าอกจนปวดร้าวเพราะความเสียใจอย่างเมสซี่  และดูเหมือนเรื่องระหว่างเค้าทั้งคู่ เด็กหนุ่มผู้นั้นดูจะเป็นคนที่แบกรับความรู้สึกเอาไว้หนักหนาเอาไว้มากที่สุด........

“พี่น่ะ หัวใจทำด้วยอะไรกันแน่...”

พอได้ยินคำนี้หัวใจเค้าถึงกับหยุดเต้น  จริงอยู่ที่การกระทำของเค้ามันเป็นที่ครหา  แต่จริงๆ แล้วใครจะไปรู้เล่า ว่าคนที่เจ็บที่สุดนั้นคือใคร  ใครต่อใครอาจบอกได้ว่าโรนัลโด้เต็มใจลงมือและไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น........บางคนบอกว่าจิตใจของเค้าด้านชาและหนาวเหน็บป่านน้ำแข็งก้อนสุดท้ายของฤดูหนาว

แต่ใครจะไปรู้จริงอีกนั่นแหละ  ว่าร่างสูงเก็บงำความรู้สึกอะไรเอาไว้ในใจ.....และมันมากมายนักหากจะเอาไปเทียบกับบุคคลธรรมดา

ไม่ได้หรอก  คนพวกนั้นตัดสินใจทำอะไรเด็ดขาดแบบเค้าไม่ได้ด้วยซ้ำ  ใช่ และนั่นคือสิ่งที่โรนัลโด้กำลังเผชิญ

อันที่จริงก็เกือบจะสักพักหนึ่งได้แล้วที่เค้ารู้ที่อยู่ของเมสซี่  และไม่คิดที่จะบุกไปหาเด็กหนุ่มเร็วขนาดนั้น  แต่ทว่าสถานการณ์มักชอบเล่นตลกกับเค้าเสมอ  ดังนั้นโรนัลโด้จึงได้ไปปรากฏตัวที่บ้านของเด็กหนุ่มด้วยแผนการอันแยบยลของตัวเค้าเอง........แน่นอนเด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนเห็นผีไปเลย เมื่อเจอเค้า  และความทรงจำครั้งสุดท้ายเมื่อจากกันก็ไม่ใคร่จะดีเสียเท่าไรนักด้วย

สายตาคมไร้แสงและเหม่อลอยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นเครื่องมา  โรนัลโด้ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง  จนกระทั่งผู้ดูแลที่ติดมากับเครื่องเดินผ่านมาและเอ่ยถามเรียกสติของร่างสูงเข้า

“คริสเตียนโน่เธอโอเครึเปล่า?”

โรนัลโด้กระพริบตาหนักๆ กับกระจกหน้าต่าง  ก่อนจะหันกลับมาตีสีหน้าไม่ยินดียินร้ายเช่นเดิมแล้วส่ายหน้าบอกปัดไปอีกเช่นเคย

ไม่ครับ  ไม่มีอะไร  ผมโอเค” ร่างสูงย้ำหนัก  เพราะไม่ต้องการให้ใครมาจู้จี้กับเค้าอีก  ก่อนจะหันออกมาจากคนถามแล้วมองตรงไปยังด้านหน้า โดยที่คู่สนทนายังไม่ทันที่จะได้พยักหน้ารับเสียด้วยซ้ำ

ผู้ดูแลรับรู้แล้วเดินออกไป  ปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงอยู่ตามลำพังอย่างที่ควรจะเป็น พลางนึกฉงนหาคำตอบอยู่ในใจอยู่ไม่น้อยว่า เพราะเหตุใดชายหนุ่มผู้นี้ถึงได้เก็บรักษาอาการ ไม่แสดงท่าทีลิงโลดอย่างที่คนอื่นๆ ซึ่งเคยผ่านมาเป็นได้ดีถึงเพียงนี้

เค้าได้อยู่คนเดียวอีกครั้ง  และหลุบตาลงอย่างสงบนิ่ง

เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอยู่ตรงนี้เสียด้วยซ้ำ........โค้ชและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนคิดว่าเค้าอยากมา  และต้องเอาชนะทุกคน  ทำทุกอย่าง  แสดงความสามารถทุกสิ่งที่มีเพื่อให้ตัวแทนจากสโมสรมอบโอกาสให้เค้า  เพราะใครๆ ก็ต่างรู้กันดีอยู่ว่าถ้าหากโรนัลโด้คนนี้นั้นคิดอยากจะได้อะไร  สุดท้ายแล้วเค้าก็ต้องได้  เพราะเค้าไม่เคยยอมแพ้กับอะไรทั้งสิ้น

แต่ผิดแล้ว  มันไม่ใช่  ร่างสูงของประธานชมรมฟุตบอลผู้นี้ไม่เคยมีความคิดพรรคนั้นอยู่ในหัวเลยจนกระทั่งวันนั้นที่โค้ชเดินมาบอกข่าว ซึ่งทำเอาเค้ารู้สึกเหมือนโดนทุ่มด้วยท่อนซุงจนหัวหมุนไปเลย

.............มันไม่สมควรจะเป็นแบบนี้  ไม่ควรจะได้เป็นเค้า  โรนัลโด้ไม่ควรออกมาจากเมืองและจากบ้านมาไกลขนาดนี้.............

แต่ถึงกระนั้นความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในแววตาของแม่ก็สมทบตรรกะในใจทำให้เค้าเลือกที่จะมาแทนที่จะปฏิเสธไป  และถึงแม้จะไม่อยากมา  แต่ร่างสูงก็สามารถวางท่าทางได้อย่างเหมาะสมในแบบของเค้า

โรนัลโด้กระชับมือกับผ้าเชียร์ทีมฟุตบอลทีมโปรดของเมสซี่ที่เค้าหยิบมาแน่น...........

อีกกี่ปีหนอ  กว่าเค้าจะได้กลับมาหาลีโอของเค้า

.

.

************************************************************

.

.

18 วันก่อนหน้านี้.....

“อีกไม่กี่เดือนก็จะลงแข่งกับโรงเรียนรัฐข้างๆ แล้วนี่  แล้วตกลงวันไหนแน่วะ  ไม่เห็นโค้ชโผล่หัวมาบอกเลย” เสียงฮึดฮัดบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์  ชายหนุ่มในชั้นปีสุดท้ายของโรงเรียนและชมรมฟุตบอลส่วนมากรวมตัวกันอยู่ในห้องล็อคเกอร์ของชมรมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับบ้าน หลังจากที่โหมซ้อมกันมาจนย่ำเย็น

“ถึงโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ถ้านายอยากรู้แล้วยังเสนอหน้านั่งอยู่ตรงนี้  วันนี้โค้ชนัดฉันไปเอาใบกำหนดการลงแข่ง  นั่นหน้าที่ฉัน  นายไม่จำเป็นต้องบ่นหรอกว่าเมื่อไรกำหนดการจะมาน่ะ  ถ้าอยากรู้มากนักล่ะก็แบกปากไปถามโค้ชเลยสิ บางทีเค้าอาจบอกพวกปากเก่งอย่างนายก็ได้”

เสียงเย็นเยียบดังขึ้น เอ่ยตอบกลับมาพร้อมทั้งกลบเสียงพูดคุยเรื่องรอบตัวของเพื่อนคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี  ทุกคนเงียบกริบตั้งแต่เจ้าของเสียงเฉียบขาดเอ่ยยังไม่ทันจบประโยคเสียด้วยซ้ำ

เจ้าของเสียงซึ่งฉายความเงียบไปทั่วห้องนั้นกำลังหยิบข้าวของที่จำเป็นออกมาจากล็อคเกอร์ และยัดมันใส่ระเป๋าของตัวเองอยู่  เค้าหันหลัง พูดโดยไม่มองหน้าใครทั้งสิ้น  สองมือก็ยังคงจัดการของตรงหน้าไปอย่างไม่ใส่ใจ  แต่สายตาคมก็เหลือบหางตามองไปยังคู่กรณีที่พ่นคำไม่พอใจอย่างลอยๆ ไปด้วย

ชายคนแรกที่เอ่ยปากแพ่มไปทั่วก็ถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก และคิดกับตัวเองว่าวันนี้ไม่น่ามาโรงเรียนแล้วเอ่ยประโยคนี้ออกไปเลย.......ไปพูดไม่เข้าหูเค้าเอาเข้าจนได้

“พูดเล่นน่ะคริส  อย่าคิดมากเลยเพื่อน....ขำๆ น่ะ ฮ่าๆๆ” ฟังจากเสียงหัวเราะท้ายประโยคแล้ว  เพื่อนๆ คนที่เหลือของเค้าก็ออกความคิดเห็นทางสีหน้าอย่างเห็นใจว่ามันเป็นเสียงหัวเราะที่แห้งมากและไม่ควรทำอย่างยิ่ง  มันจะทำให้เพื่อนร่างสูงที่พูดน้อยแต่ต่อยหนักคนนี้มองว่าน่ารำคาญ

ปังง!

ร่างสูงกระแทกปิดล็อคเกอร์ดับเสียงหัวเราะแห้งนั้นซะ  เป็นเหตุให้หลายๆ คนพากันสะดุ้งตัวเพราะตกใจเกรงว่าจะเกิดเรื่องอะไรหรือไม่  แต่ร่างสูงผู้น่ากริ่งเกรงก็เพียงแค่คว้ากระเป๋าสะพายขึ้นพาดไว้บนบ่าแล้วเดินออกไปจากห้อง  พร้อมทั้งแจกสายตาแช่แข็งไปให้คนที่เริ่มหัวข้อสนทนาด้วย

“รู้อะไรไหม  ชมรมนี้มีแต่คนเจ๋งๆ โดยเฉพาะหมอนี่...น่ากลัวชะมัดเลย  แทบฆ่าฉันด้วยสายตาแหน่ะ” ชายหนุ่มปากเสียพูดพลางถูไหล่ตัวเอง  จนเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ถอนหายใจออกมาน้อยๆ แล้วเอ่ยสมทบ

“ก็ดีแล้วที่เค้าไม่ฆ่านายจริงๆ น่ะ”

คนปากไม่ดีขนลุก “ขอบใจเนย์มาร์  นายช่วยให้ฉันเห็นภาพได้เยอะเลย”

“ยินดีช่วย” ร่างสูงโปร่งผิวสีเข้มเอ่ยตอบกลับอย่างไม่สนใจ  พลางมองไปยังประตูที่เพื่อนร่างสูงเพิ่งออกไป.....นึกขอบคุณเพื่อนช่างพูดน้อย ที่ไม่ต่อยเจ้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เค้าเข้าเสียจริงๆ

ห่างออกไปจากห้องล็อคเกอร์ของชมรม  โรนัลโด้เดินตรงไปยังห้องพักครูในสาขาวิชาพละศึกษาเพื่อไปรับใบแจ้งกำหนดการแข่งขันฟุตบอลในนัดต่อๆ ไปที่พวกเค้าควรจะรู้ไว้

“ไงคริส  มาพอดีเลย  ครูกำลังมีแขก มารับใบไปสิ” โค้ชที่สวมเสื้อวอร์มแขวนคอด้วยนกหวีดหันมาเอ่ยกับประธานชมรมที่ฝากผีฝากไข้ได้แถมยังออกคำสั่งเด็ดขาดที่สุดเท่าที่เค้าเคยมีมา แล้วส่งใบกระดาษบอบบางใบหนึ่งให้ชายหนุ่มร่างสูงไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่ได้มองหน้าของโรนัลโด้ด้วยซ้ำ........โค้ชคงรีบมาก อาจมีเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

โรนัลโด้สังเกตเห็นชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของโค้ช ดูจากการแต่งตัวแล้วคงจะต้องไม่ใช่คนที่นี้เป็นแน่  เพราะชายคนนี้ดูเหมือนผู้ดีสะอาดสะอ้านที่ไม่เคยย่างเท้าออกจากคฤหาสน์ของตัวเองเลย........ต้องมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างกับชมรมของเค้าแน่  ขนาดโค้ชยังไม่สนใจโรนัลโด้เท่าที่ควรเลย

ดังนั้น เมื่อเดินออกมาแล้ว ร่างสูงกำยำจึงยืนอยู่หลังกำแพงอีกพักหนึ่งเพื่อฟังชายสองคนในห้องคุยกัน

“เราถึงไหนกันแล้วนะครับคุณลูคัส” นั่นเสียงโค้ช

“ผมกำลังจะบอกว่าทางสโมสรของเราสนใจเด็กในความดูแลของคุณเพื่อดึงตัวเข้าไปอยู่ในสโมสรของเราน่ะครับ” นี่คงเป็นคนที่ชื่อลูคัสผู้ไม่เคยก้าวเท้าออกมาจากคฤหาสน์ของเค้า.......โรนัลโด้ตั้งสถานะให้เค้าเล่นๆ

“จริงหรือครับ!?  โอ้พระเจ้า ผม...เราไม่อยากจะเชื่อเลยครับ  รู้สึกเป็นเกียรติ์จริงๆ” เสียงโค้ชฟังดูตื่นเต้นอย่างมากมาย  ร่างสูงไม่เคยเห็นโค้ชเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง  โรนัลโด้จึงหันไปมองช่องกระจกซึ่งเผยให้เห็นภาพของโค้ชร่างไม่ผอมเพรียวนัก ทำท่าทางแทบจะไปจับมือกับคนฝั่งตรงข้ามได้อยู่แล้ว  ชายหนุ่มฟังต่อไปอย่างตั้งใจ  ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจเค้าอย่างห้ามไม่ได้

“แต่น่าเสียดายที่เราสามารถรับไปได้แค่คนเดียว  ไม่อย่างนั้นคงจะได้ไปหมดสมใจผมทุกๆ คน”

“โอ้  แย่จัง  แล้วคุณลูคัสเลือกเด็กคนไหนของเราไปหรือครับ?”

“ไม่ครับ  ไม่ใช่ผม แต่เป็นทางสโมสรชี้ตัวมา”

โค้ชที่ทำหน้าหงอลงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนมันก็ยังไม่พอที่จะทำให้เค้าหุบยิ้มลงได้ “แล้วเด็กของเราคนนั้นคือใครกันครับ?”

คนที่ชื่อลูคัสหยิบแฟ้มเอกสารบางๆ ชุดหนึ่งขึ้นมา แล้วเปิดดูก่อนจะบอกชื่อแก่โค้ชไป

“ลีโอเนล   เมสซี่ ครับ”

โรนัลโด้รู้สึกถึงเสียงสูดหายใจของตัวเอง.......

เค้ามองลอดผ่านกระจกไปเห็นรูปของเด็กหนุ่มในชมรมของเค้า  และสัญลักษณ์ประจำสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

............ผู้ชายคนนี้จะเอาเมสซี่ไป..........

ความมึนงงฉายปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มผู้รู้สึกไม่ใส่ใจในเรี่ยวแรงถือกระดาษที่เริ่มหายไปของตัวเองแล้วในขณะนี้

ใช่  จริงอยู่ที่เด็กหนุ่มคนนี้ฉายแววด้านฟุตบอลออกมาอย่างแจ่มชัด  และมุ่งมั่นตั้งใจเอามากๆ ข้อนี้เค้าเห็นด้วย เพราะเหตุนั้นจึงได้เลือกตัวเมสซี่ลงแข่งในนัดต่อไปที่กำลังจะมาถึงนี้  ใช่สิ เค้าจำได้  ก็เป็นคนใส่ชื่อเด็กคนนั้นเองกับมือหนิ.........

แต่ทำไมกัน  ทำไมถึงเป็นเด็กคนนี้ไปได้.......

“โอ้  เด็กคนนี้นี่เอง  ครับ เค้าเก่งมาก  เป็นนักเรียนที่เก่งมากของเราคนหนึ่งเลยทีเดียว” โค้ชดูคาดไม่ถึงเล็กน้อย  แต่ก็ยังไม่อาจลบรอยยิ้มบนหน้าออกไปได้

“ตราบใดที่อยู่โรงเรียนนี้ สิทธิ์ในการไปแมนยูจะยังเป็นของเค้าครับ  แต่ถ้าหากไม่ เราอาจต้องเปลี่ยนคน  เพราะทางสโมสรสั่งผมมาชัดเจนว่าผมควรมองหาเด็กจากโรงเรียนไหนและไม่ควรที่จะโลเล”

“ครับ  เรื่องนั้นเรารู้ดี  และยินดีอย่างยิ่งครับ...”

หลังจากนั้นก็ดูเหมือนโค้ชของเค้าจะกล่าวขอบคุณเสียยกใหญ่  แต่โรนัลโด้ไม่ได้อยู่ฟังมันทั้งหมด ในตอนที่ร่างสูงกำยำกำใบแจ้งกำหนดการแข่งขันระดับประเทศในมือแล้วออกเดินไปยังรถของเค้า

โรนัลโด้ยอมรับ  มันเกินความคาดฝันของเค้าไปมากโขที่จะต้องมาได้ยินเรื่องแบบนี้  ไม่ใช่การที่ได้รับรู้ว่าเด็กหนึ่งคนในโรงเรียนจะได้ไปติดสโมสรชื่อดังระดับโลกหรอกนะ  แต่การปล่อยให้เด็กคนนั้นไป ถือเป็นเรื่องสาหัสสำหรับเค้าต่างหาก......... 

ใช่ มันแย่มาก  เพราะเด็กคนนี้คือเหตุผลว่าทำไมร่างสูงถึงยินดีมาซ้อมบอล  เป็นประธานชมรมที่พาทีมไปสู่การแข่งขันระดับสูงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา  และทนฟังคำต่อล้อต่อเถียงอันน่ารำคาญของเพื่อนรอบตัวให้เสียเวลาเล่นๆ ในทุกๆ เย็น

เพราะมันเป็นช่วงเวลาเดียวของวันที่เค้าจะได้พบเด็กหนุ่มผู้ขยับขันแข็งคนนี้อย่างใกล้ชิด  แม้ไม่ได้เดินตามกันจนเหมือนแฝดก็ตาม  แต่การที่ได้เห็นเมสซี่อยู่ในสายตาตลอดเวลานั้นเป็นอะไรที่โรนัลโด้ยินดีที่จะแลกเพื่อให้ได้มา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม  นั่นมันก็คุ้มค่าที่สุดสำหรับเค้าแล้ว

แต่จะเอาเด็กคนนี้ไปน่ะหรือ  เค้าไม่ยอมหรอก.........



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------------------



โอ้ เหมียวหนูได้.............โอ้  ดีใจด้วยนะจ๊ะ  แต่ว่านี่มันคือเหตุผลที่เฮียทำอย่างนั้นลงไปงั้นเหรอออออ!!! []0[]  Oh god!! เฮียไปแอบฟังเค้าอย่างนั้นมีมารยาทมากเลยนะคะ!  //แต่ถ้าเฮียไม่แอบฟังก็คงไม่รู้ *..*//

ฮึก ฮัก อ๊อกกกกก  นี่มันคือความจริงของเฮียใช่ไหมคะ????   เป็นเพราะเฮียไม่ยินยอมใช่ไหมคะเลยต้องทำแบบนั้น  โอ้ววววววววววววววว  เฮียขาาาาา  //รอเฮียแถลงการณ์ต่อ Part ต่อไป//

รีดคิดยังไงคะ?  จะให้อภัยเฮียไหม?  รึว่าหมั่นไส้เฮียมากกว่าเก่า?   โอ้ ตอนนี้ไรท์สุดจะบรรยายค่ะ  ฮ่อลลลลลลลล  เฮียเคอะ ถ้าเฮียพูดอะไรกับเหมียวในเรื่องเชิงสร้างสรรค์และมาจากใจเฮียมากกว่านี้หน่อยก็คงจะดีนะคะ  พูดสิคะ  ทำไมไม่พูดดด!!!  พูด บอกๆๆ เหมียวไปเลย  ฮ่วยย!  >{}< //ภาษาพ่อออกแล้วบัดนี้ไรท์ -**-// ขัดใจไรท์อย่างแรงค่ะ  ชริๆๆๆ   //แต่ก็ยังชริๆ ใส่เฮีย//

แต่ว่าประโยคนั้นก็ทำเอาเฮียสะอึกเลยเนอะ “พี่น่ะ หัวใจทำด้วยอะไรกันแน่...” เป็นไรท์ก็สะอึกค่ะ  อูยยย ถ้าเป็นเฮียจะกุมหัวใจตัวเองเลยเถอะ  แหม่ เฮียนี่ก็น่าให้ถ้วยนะคะ  ทนได้ไงเนี่ยยย  555555  //โดนเฮียตบหัวทิ่ม......นี่เห็นเป็นเรื่องตลกรึไง -..- คนกำลังเครียด//

ไม่รู้ว่าจะถูกใจรีดไหมนะคะ กับจุดพลิกเรื่องอีกหนึ่งจุด  อันที่จริงอันนี้มันเป็นปมเรื่องเลยนะ -*-  ไม่ใช่แค่จุดพลิก  เฮียแกเป็นคนก่อเองล้วนๆ เลย  //ใครบอก  อิตาลูคัสไง  ไปยิงแกกันค่ะ// + //เฮ้ยยย  อย่าก่อวินาศกรรมโดยใช่เหตุ!//  ฮ่อลลลลล  ร่วมกันคอมเม้นท์ด้วยนะคะ  บอกความในใจของท่านมา และขอขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะที่ยังคงอ่านกันอย่างเหนียวแน่น  และขอบคุณรีดๆ ที่เพิ่งเข้ามาอ่านด้วยนะคะ  รักรีดทุกท่านนะคะ  จ๊วบบบบ >3<  

รอติดตาม Part หน้าด้วยนะคะ  เป็น Part สำคัญ  เพราะเป็น Part จบแล้วค่ะ ><

แปะเฟสตามธรรมเนียมค่ะ  >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มเลยค่ะ  แวะเข้ามาทักและคุยกันได้นะคะ >///<  อยากให้คุยค่ะ  ไม่ต้องเขินนะคะ 55555 //แกสิหน้าด้านอยู่คนเดียว// 

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[Fic - RonalSi] + [Part 7] The Sunset...แสงสุดท้ายก่อนหมดวัน - Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 2]



สวัสดีค่ะรีดๆ ขาาาา  >{}<  อ๋อยยยย  มาจนได้ในที่สุดค่ะ  เพิ่งจิสอบย่อยไป รอสอบใหญ่อีกสองอาทิตย์  ฮาาาา  (หนังสงหนังสือยังไม่ได้ทวน)  555555  ข้ามไป!

วันนี้มาต่อเฮียกับเหมียวแล้วค่าาาา >///<  ฮาาา  หลังจากที่ Part ที่แล้วเลือดซึมกันไปเล็กน้อยแล้วนะคะ 5555  มาต่อกันที่เหตุผลของเฮียที่เป็นข้อข้องใจมาตั้งแต่ภาค 1   ว่าทำไมเหตุใดเฮียจะต้องกระทำชำเราและไม่ปราณีปราสัยเหมียวของแม่ยกอย่างเราๆ จนถึงเพียงนี้ด้วยค่ะ! >< 

ฮอยยยยย  มันจี๊ดใจมากเลยค่ะรีดดด  พออ่านทวน Part นี้แล้วไรท์เบะปากสงสารเหมียวอีกแล้วค่ะ TWT  ฮ่อลลล  ไมเนี่ยยยย เฮีย  ทำงี้ไม???

ถ้าเช่นนั้นก็อย่ากระไรเลยค่ะ รีดๆ ที่รักของไรท์ทั้งหลายขา  เราไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ >//<  ไปโล้ดดดดดดดดดด!!



--------------------------------------------------------------------------------------------------



“ลาก่อนลีโอ”


.


.


โรนัลโด้เดินลงบันไดมาอย่างไม่เร่งเวลา  ทั้งๆ ที่เค้าควรจะต้องรักษาเวลา  ร่างสูงเดินออกมาจากบ้านหลังน้อยแต่ทว่าอบอุ่นยิ่งของเมสซี่เป็นเวลาเดียวกับที่สมาร์ทโฟนของเค้าดังขึ้น  ร่างสูงอ่านชื่อ  อกกำยำขยับขึ้นลงเมื่อถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะกดรับเอ่ยออกไป ด้วยเสียงของคนที่ไม่ชอบต่อปากต่อคำ

“รู้แล้ว  ฉันจะไปที่สนามบินเลย  บอกเค้าไม่ต้องรอฉัน”

แล้วกดวางสายไป  ก่อนคนที่เป็นธุระให้เค้าจะทันได้บ่นอะไรเสียด้วยซ้ำ  และเหมือนยิ่งเร่งเร้าโดยไม่ใช่เรื่องก็ยิ่งทำให้ร่างสูงอารมณ์เสียแต่อยู่ในรูปของการก่อกวน  โรนัลโด้เดินเฉื่อยไปเรื่อยอีกระยะหนึ่ง เพื่อไปยังรถของเค้าที่จอดเอาไว้รอคอยการกลับมาของเจ้านาย  ไกลโขอยู่เหมือนกันหากมีรถราคาค่อนข้างแพงขนาดนี้แล้วเลือกที่จะจอดมันทิ้งไว้ตั้งแต่ยังมองไม่เห็นปลายทางเช่นนี้  เจตนาเค้าเหมือนเลือกที่จะเดินไปอย่างคนที่ตั้งใจมาออกกำลังกาย

แต่ถ้าหากไม่ทำอย่างนี้  เค้าก็คงจะไม่ได้เจอกับพ่อแม่ของเด็กหนุ่มที่คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าจะต้องผ่านบริเวณนี้เพื่อกลับบ้านอย่างแน่นอน........ผู้ใหญ่สองคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรนัลโด้มาเดินเล่นไกลบ้านขนาดนี้เพื่อให้ทั้งคู่คิดว่าเค้าบังเอิญผ่านมาแล้วช่วยเหลืออย่างไม่หวังผลตอบแทน

และโรนัลโด้รู้ดีว่าใครรอสองคนนี้อยู่ที่บ้าน.........

ร่างสูงคว้ากุญแจรถขึ้นมา  ปลดล็อคโดยไม่ต้องรั้งรอ  เปิดประตูรถอย่างชำนาญแล้วหันปีกหมวกฮิบฮอบไปด้านหลังก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน  พร้อมกับไม่ลืมหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่แล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว  และความจงใจเอื่อยช้าเมื่อครู่ที่ผ่านมาอาจได้รับการซิ่งชดเชยโดยที่เค้าไม่รู้ตัว  ด้วยความที่ว่าแม่ไม่ได้นั่งรถกับเค้าบ่อยนักจึงไม่มีใครบ่นโรนัลโด้ในเรื่องนี้

ก่อนพ้นออกไปจากย่านนี้  สายตาคมก็เบนขึ้นไปมองทางเข้าที่เค้าเพิ่งเดินออกมาอย่างเสียไม่ได้และเค้าจะยังคงจำมันได้ หากมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก...........


********************************************************************


อุ่น...อุ่นจัง

อึก  เจ็บ  เจ็บไปหมดเลย......

อะไรกัน  ทำไมถึงเหนียวเหนอะขนาดนี้..........

.......พี่คริส

“อ๊ะ! โอ๊ย!” ร่างของเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะตื่นจากการพักผ่อนสะดุ้งตัวขึ้น  ก่อนความเจ็บแปลบจะแล่นริ้วเข้ามาทำร้ายเค้าอย่างไม่มีคำกล่าวล่วงหน้า

“อะ  อึก” เด็กหนุ่มฝืนลุกขึ้นมา  ตัวสั่นเพราะความทรงจำล่าสุดที่เพิ่งนึกขึ้นได้

..............ทั้งคำพูดและการกระทำที่รุนแรง............

โรนัลโด้กลับมาและทำเรื่องอย่างนั้นอีกแล้ว!  เมสซี่กอดตัวเองแน่นแม้จะโดนขืนใจไปแล้ว   เค้าตัวสั่นอีก  และได้ยินเสียงแม่เรียกเค้าจากข้างล่าง

“ลีโอลูกรัก  อาหารเย็นจ๊ะ  หลับคาวิดีโอเกมส์อีกแล้วสิท่า....ถ้าทำอย่างงั้นมากเกินไปแม่จะงดเกมส์เรานะ” เสียงของแม่ฟังดูร่าเริง  คงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเกิดขึ้น  เด็กหนุ่มมองไปที่ลูกบิดซึ่งล็อคอยู่ของเค้า  หายใจสะดุด  และรีบตอบกลับแม่ไปทันที  ก่อนจะกุลีกุจอชำระร่างกายด้วยความเร็วสูงสุดที่ทำได้ไม่ใกล้เคียงนัก  แต่ใช้เวลาไม่นานซึ่งร่างเล็กเสียไปกับการเลือกเสื้อผ้าก็ลงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงจนเกิดความสงสัย

“หนาวเหรอลูก” แม่เห็นเค้าใส่เสื้อฮู้ดคอสูงลงมาจากบันได

“ฮะ ฮะแม่...ผมคิดว่าอากาศเริ่มเย็นแล้ว” เด็กหนุ่มตอบอ้อมแอ้มกลับไปเพียงแค่นั้นก่อนจะนั่งลงที่ประจำของตัวเอง  เมสซี่จำกัดคำในการพูดคุยบนโต๊ะอาหารเช่นเดิม แต่ความรู้สึกเมื่อตอนกลางวันยังคงหายใจรดต้นคอของเค้าอยู่  เด็กหนุ่มอิ่มอย่างรวดเร็วเช่นทุกวัน  แต่วันนี้ข่าวกีฬาพาดหัวข่าวทางช่องทีวีฉุดความสนใจของเค้าเสียก่อน

มันเป็นข่าวของสโมสรอังกฤษอันโด่งดัง...........

และเมื่อผ่านไปไม่นาน เราก็ได้เด็กผู้เก่งกาจและโชคดีคู่ควรกับการเซ็นสัญญาเข้าสโมสรดังแห่งแดนผู้ดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ  วันนี้ คริสเตียนโน่   โรนัลโด้ ชายหนุ่มจากโรงเรียนไฮลสคูชื่อดังที่ได้ผ่านการคัดเลือกทางคุณสมบัติความสามารถจากตัวแทนสโมสรให้เป็นเด็กหนุ่มผู้โชคดีที่สุดเพียงคนเดียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะได้ไปเซ็นสัญญากับทางสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และได้เดินทางขึ้นเครื่องไปยังสหราชอาณาจักรแล้วในบ่ายวันนี้ครับ....

“เฮ้...นั่นคริสที่มาบ้านเราเมื่อเช้านี้ไม่ใช่เหรอ  คริสที่เป็นรุ่นพี่ของลีโอ...อ้าว  พ่อลูกชายจะไปไหนล่ะ?” ชายอีกคนหนึ่งของครอบครัวชี้นิ้วลอยๆ ไปยังหน้าที่โดนรัวชัตเตอร์ของร่างสูงในทีวี  พ่อของเมสซี่ดูตกใจไม่น้อย  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรแก่ลูกชาย  เด็กหนุ่มคนเดียวในบ้านของพวกเค้าก็เดินออกไปเห็นแต่หลังไวๆ เสียแล้วในเวลานั้น

พ่อของร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้น  นึกอยู่ในใจว่าจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างไปสะกิดใจลูกชายของตัวเองเป็นแน่แท้  เค้าหันมาหาภรรยาผู้ซึ่งมีสีหน้าแบบเดียวไม่แพ้กัน  เพียงแต่ว่าไม่นานเธอก็บึ้งตึงใส่

“ฉันงดข้าวเย็นคุณ” แม่ของเมสซี่พูด  และเธอเอาจริงที่สามีทำให้ลูกชายของเธอต้องเดินหนีไปแบบนั้นอีกแล้ว

.

.


**************************************************************************************

.

.

ตึก! ตึก! ตึก!

ตึก! ตึก! ตึก!

ปัง!

ปั้ก...

“อึก...ฮึก” เมสซี่วิ่งขึ้นมาบนห้อง  ปิดประตูลงทันทีโดยไม่อ้อมแรงที่ส่งมันกลับบานพับดั่งเช่นเด็กนิสัยดีอย่างเค้าเคยทำ.....บางอย่างทำเค้าสั่นคลอน  อาการเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก  และตามมาด้วยการวูบไหวที่ดวงตากลมโตโดยที่เจ้าตัวไม่ยังไม่ทันที่จะได้สนใจมัน 

หมดแรงแล้ว.....ไม่รู้จะทำอะไรแล้วสำหรับเด็กหนุ่มที่ชื่อ ลีโอเนล   เมสซี่  เค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่  แผ่นหลังบางถูกลู่ลงมาตามบานประตูที่เจ้าตัวเพิ่งปิดลงไป  และท้ายที่สุดก็จบด้วยการโอบกอดเข่าของตัวเองแล้วปล่อยสะอื้นออกมา

คนที่ทำร้ายเค้ากลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่เค้าหวังอยากจะเป็นได้อย่างไร.............

โชคดีเป็นบ้าเลย  อึก.......ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาแล้วเช็ดน้ำตาที่จู่ๆ ก็เพิ่มมากขึ้นโดยไร้สาเหตุ  ก่อนเมสซี่จะตั้งคำถามเล็กๆ กับใครบ้างคนว่าตัวเค้าเองเคยได้รับโชคดีบ้างหรือเปล่า  ทำไมเรื่องแย่ๆ จะต้องเกิดขึ้นแต่กับเค้า  ทำไมไม่เป็นเค้าบ้างที่ได้รับสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์จะได้.........ขอแค่สักครั้ง  อะไรก็ได้ ที่ทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าตัวเองไม่ถูกทอดทิ้งหรือมองข้ามไปแค่นั้นก็พอแล้ว

ขอเพียงแค่ได้รับโอกาสนั้น  เมสซี่ก็จะกอดมันไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่กลับไม่ใช่เค้าที่โชคดี..........

และที่บีบหัวใจร่างเล็กมากที่สุดก็คือ  ชายผู้ที่เอาชนะเค้าอย่างไม่ยุติธรรมจนน่าเดียจฉันท์นั้นกลับได้รับโอกาสไปอย่างหน้าตาเฉย  ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้บ้าง  ไม่ใช่ว่าเมสซี่อิจฉาที่โรนัลโด้ได้ไป แต่เป็นเพราะสงสัย  ร่างเล็กแค่สงสัย....ว่าเหตุใดทำไมจึงจะต้องเป็นชายคนนี้

ยิ่งรู้ว่าคนที่ได้ไปอังกฤษเป็นโรนัลโด้  เมสซี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเค้าเองถูกโชคชะตาตอกย้ำเหมือนกลั่นแกล้ง.........เท่านี้ก็เท่ากับว่าเค้าโดนเยาะเย้ยพร้อมๆ กับที่อีกคนหนึ่งได้บินไปสู่อนาคตอันสดใสงั้นสินะ

แค่ได้ไปที่นั่น  ก็ไม่จำเป็นต้องการอะไรอีกแล้ว  มีทุกอย่างเกินกว่าจะคิดไหว  ทั้งสังคมไฮโซที่ผิดแผกไปจากเดิม  ทั้งเส้นทางที่ทอดไปสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพซึ่งแทบจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสียด้วยซ้ำ หากใครได้ไปอยู่ถึงขนาดสโมสรชื่อดังขนาดนั้น  หากรุ่นพี่ร่างสูงคนนั้นได้ไปก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรให้นึกภวังค์ถึงสิ่งที่ทิ้งไว้ด้านหลังอีกแล้ว

......ไม่แคร์หรอก  โรนัลโด้ไม่เคยคิดจะแยแสใครอยู่แล้ว  คนที่อยู่ข้างกายอีกฝ่ายก็ถูกมองว่าเป็นพวกไร้ประโยชน์ทั้งนั้น  รวมทั้งเค้าด้วย........

โรนัลโด้คงรู้อยู่แล้วว่าจะต้องออกเดินทางวันนี้ ก็เลยคิดจะมาดูแคลนร่างเล็กเป็นครั้งสุดท้าย  ทำไว้อย่างเจ็บแสบและทำให้เค้าต้องจดจำไปตลอดชีวิต.....มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย  ความทรงจำก่อนรุ่นพี่จะโด่งดังอย่างนี้เมสซี่ไม่ต้องการ

เด็กหนุ่มตัวน้อยๆ เพียงต้องการอยากรู้ว่าทำไม?  เพราะเหตุใดกันรุ่นพี่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนั้นถึงสองครั้งสองคราวด้วย  แค่รอให้เมสซี่เปิดดูทีวี หรือเดินมาบอกเองด้วยท่าทางเย้ยเยาะเห็นแก่ตัวเหมือนเด็กเกเรคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ  ไม่เห็นจะต้องทำร้ายร่างกายและจิตใจกันถึงขนาดนี้เลย  โรนัลโด้ต้องการอะไรกันแน่

และที่เด็กหนุ่มไม่เข้าใจที่สุดก็คือ  เหตุใดทำไมเจ้าตัวจะต้องใจสั่นและปวดแปลบขนาดนี้ด้วย  รู้ว่าอีกคนหนึ่งโชคดีเพียงใดแล้วยังไม่เท่าไร  แต่พอรู้ว่าโรนัลโด้จะต้องบินไปไกลเกือบอีกซีกโลกหนึ่งและจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตราบนานเท่าที่จะใคร่ครวญได้ 

เมสซี่ควรดีใจ  ใช่สิ  ร่างเล็กควรยิ้มแย้มออกมาแท้ๆ  แต่เจ้าตัวกลับเจ็บ

เจ็บที่หัวใจ.......

เท้าเล็กๆ ภายใต้ขาที่ยกขึ้นมาชันเข่า  ถูกขยับเข้าหากันอย่างเดียวดาย

หรือเป็นเพราะอย่างนี้หรือเปล่า  โรนัลโด้ถึงได้ไล่เค้าออกจากชมรม  เป็นเพราะไม่อยากให้เมสซี่ไปเป็นตัวเกะกะสำหรับการคัดตัวอันแสนสำคัญนั้น...........

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร  รุ่นพี่ประธานชมรมร่างสูงคนนั้นก็ได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของสโมสรขึ้นน่านฟ้าไปแล้ว  ถึงจะมีหรือไม่มีเมสซี่อย่างไร  โรนัลโด้คนนั้นก็ไม่มีทางหันมาสนใจหรอก

เพราะเค้าอาจได้สิ่งที่ต้องการแล้ว......หัวใจของเด็กหนุ่มหดตัวและสั่นสะเทือนอีกครั้ง

มือเล็กเลื่อนมากอบกุมหน้าอกตัวเอง  และกอดกายตัวเองคลายความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน

.

.

*******************************************************************************

.

.

บนเครื่องบินเจ็ทของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด......

ชายหนุ่มผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องบินสัญชาติอังกฤษนี้นั่งเอนตัวพิงกับเบาะหนังหนาหนุ่มสีครีมอย่างไม่แสดงอาการใดๆ  เค้าดูไม่ตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำที่ทางสโมสรถึงกับส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับเค้าเช่นนี้  หากเป็นในกรณีอื่นๆ ก็คงจะให้ว่าที่นักเตะในสโมสรนั่งเครื่องตามสายการบินมาเอง  แต่กับชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพราะเหตุใดใยถึงส่งเครื่องบินเจ็ทมารับได้ก็สุดรู้

แต่ความถูกให้ความสำคัญจนดูว่าออกนอกหน้านั้นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงเนื้อเต้นแต่อย่างใด.......ซึ่งก็ว่ากันตามตรง  เกิดมาโรนัลโด้ยังไม่เคยมีอาการเนื้อเต้นกับเค้าเลยสักครั้ง  และในกรณีนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มผู้อยู่ในชุดกีฬาแสนสบายราวกับพักอยู่ในบ้านของตัวเอง  เค้าบอกปัดปฏิเสธการบริการทุกอย่างตั้งแต่ขึ้นเครื่องมาแล้ว เนื่องจากไม่มีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ   ใบหน้าคมสันภายใต้หมวกฮิบฮอบที่หันปีกไปด้านหลังนั้นเสมองไปด้านนอกหน้าต่างช่องเล็กๆ ถัดลงไปเบื้องล่างคือแสงไฟดวงน้อยๆ ที่แต่งแต้มเต็มพื้นที่ของเมืองจนแทบไม่เหลือที่ว่าง  สายตาคมประดุจเหยี่ยวจับจ้องไปยังดวงไฟในบ้านเรือนดวงน้อยๆ ที่ยากจะเห็นได้จากความสูงในระดับนี้

เค้ามาไกลแล้ว.........และไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่เค้าเพิ่งจากมาจะเป็นเช่นไร  ตั้งแต่เครื่องลอยลำโรนัลโด้ก็เอาแต่จับตาดูบ้านเรือนด้านล่างแล้วและแอบคิดไปว่าหากมองจากตรงนี้ เด็กหนุ่มของเค้าจะกำลังทำอะไรอยู่กันแน่


.


.


.


TBC.



---------------------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!  อิเฮียยยยยยยยยยย!!  จะไปไหนนะคะ! ห๊าาาา!!  ละๆๆๆๆๆ แล้วเหมียวว.....โถ่ววววว  เหมียวน้อย เหมียวว่าง่ายของไรท์อย่าเพิ่งเสียใจหนักมากนะคะ  //ลูบหลังปลอบ//  อิเฮียมันเป็นความจริงรึเปล่าห๊ะ  พูด!

//จริงไม่จริง  เค้าก็อยู่บนเครื่องแล้วล่ะ -*-//

อู่วววว  เหมียวนี่น่าสงสารจับจิตจริงๆ เลยค่ะ  เฮียไม่คิดจะบอกอะไรเหมียวหน่อยเหรอคะ //จ่อไมคฺสัมภาษณ์// + //โดนเฮียตบทิ้ง//  อ๊าาา  เฮียอ่ะ  นิสัยบอกอะไรเหมียวหน่อยก็ไม่ได้  สงสารเหมียวบ้างไหมเนี่ยห๊าหึ!?    ไม่เลยเหรอคะ

แต่ว่ารีดๆ ขา.....เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ค่ะ  สงครามยังไม่จบอย่างเพิ่งนับศพทหารนะคะ  เรื่องจะยังคงดำเนินต่อไปในรูปของความรู้สึกของเฮียค่ะ  และเหตุผลที่แท้จริงของเค้านั้น ยังไม่ถูกเปิดเผยออกทั้งหมดค่ะ  ยังคงจะต้องรออ่านใน Part ต่อไปนะคะ >////<

รักรีดทุก่านนะคะ  ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ >3<  //จุ๊บ//

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund