วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[Fic - RonalSi] + [Part 7] The Sunset...แสงสุดท้ายก่อนหมดวัน - Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 2]



สวัสดีค่ะรีดๆ ขาาาา  >{}<  อ๋อยยยย  มาจนได้ในที่สุดค่ะ  เพิ่งจิสอบย่อยไป รอสอบใหญ่อีกสองอาทิตย์  ฮาาาา  (หนังสงหนังสือยังไม่ได้ทวน)  555555  ข้ามไป!

วันนี้มาต่อเฮียกับเหมียวแล้วค่าาาา >///<  ฮาาา  หลังจากที่ Part ที่แล้วเลือดซึมกันไปเล็กน้อยแล้วนะคะ 5555  มาต่อกันที่เหตุผลของเฮียที่เป็นข้อข้องใจมาตั้งแต่ภาค 1   ว่าทำไมเหตุใดเฮียจะต้องกระทำชำเราและไม่ปราณีปราสัยเหมียวของแม่ยกอย่างเราๆ จนถึงเพียงนี้ด้วยค่ะ! >< 

ฮอยยยยย  มันจี๊ดใจมากเลยค่ะรีดดด  พออ่านทวน Part นี้แล้วไรท์เบะปากสงสารเหมียวอีกแล้วค่ะ TWT  ฮ่อลลล  ไมเนี่ยยยย เฮีย  ทำงี้ไม???

ถ้าเช่นนั้นก็อย่ากระไรเลยค่ะ รีดๆ ที่รักของไรท์ทั้งหลายขา  เราไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ >//<  ไปโล้ดดดดดดดดดด!!



--------------------------------------------------------------------------------------------------



“ลาก่อนลีโอ”


.


.


โรนัลโด้เดินลงบันไดมาอย่างไม่เร่งเวลา  ทั้งๆ ที่เค้าควรจะต้องรักษาเวลา  ร่างสูงเดินออกมาจากบ้านหลังน้อยแต่ทว่าอบอุ่นยิ่งของเมสซี่เป็นเวลาเดียวกับที่สมาร์ทโฟนของเค้าดังขึ้น  ร่างสูงอ่านชื่อ  อกกำยำขยับขึ้นลงเมื่อถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะกดรับเอ่ยออกไป ด้วยเสียงของคนที่ไม่ชอบต่อปากต่อคำ

“รู้แล้ว  ฉันจะไปที่สนามบินเลย  บอกเค้าไม่ต้องรอฉัน”

แล้วกดวางสายไป  ก่อนคนที่เป็นธุระให้เค้าจะทันได้บ่นอะไรเสียด้วยซ้ำ  และเหมือนยิ่งเร่งเร้าโดยไม่ใช่เรื่องก็ยิ่งทำให้ร่างสูงอารมณ์เสียแต่อยู่ในรูปของการก่อกวน  โรนัลโด้เดินเฉื่อยไปเรื่อยอีกระยะหนึ่ง เพื่อไปยังรถของเค้าที่จอดเอาไว้รอคอยการกลับมาของเจ้านาย  ไกลโขอยู่เหมือนกันหากมีรถราคาค่อนข้างแพงขนาดนี้แล้วเลือกที่จะจอดมันทิ้งไว้ตั้งแต่ยังมองไม่เห็นปลายทางเช่นนี้  เจตนาเค้าเหมือนเลือกที่จะเดินไปอย่างคนที่ตั้งใจมาออกกำลังกาย

แต่ถ้าหากไม่ทำอย่างนี้  เค้าก็คงจะไม่ได้เจอกับพ่อแม่ของเด็กหนุ่มที่คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าจะต้องผ่านบริเวณนี้เพื่อกลับบ้านอย่างแน่นอน........ผู้ใหญ่สองคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรนัลโด้มาเดินเล่นไกลบ้านขนาดนี้เพื่อให้ทั้งคู่คิดว่าเค้าบังเอิญผ่านมาแล้วช่วยเหลืออย่างไม่หวังผลตอบแทน

และโรนัลโด้รู้ดีว่าใครรอสองคนนี้อยู่ที่บ้าน.........

ร่างสูงคว้ากุญแจรถขึ้นมา  ปลดล็อคโดยไม่ต้องรั้งรอ  เปิดประตูรถอย่างชำนาญแล้วหันปีกหมวกฮิบฮอบไปด้านหลังก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน  พร้อมกับไม่ลืมหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่แล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว  และความจงใจเอื่อยช้าเมื่อครู่ที่ผ่านมาอาจได้รับการซิ่งชดเชยโดยที่เค้าไม่รู้ตัว  ด้วยความที่ว่าแม่ไม่ได้นั่งรถกับเค้าบ่อยนักจึงไม่มีใครบ่นโรนัลโด้ในเรื่องนี้

ก่อนพ้นออกไปจากย่านนี้  สายตาคมก็เบนขึ้นไปมองทางเข้าที่เค้าเพิ่งเดินออกมาอย่างเสียไม่ได้และเค้าจะยังคงจำมันได้ หากมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก...........


********************************************************************


อุ่น...อุ่นจัง

อึก  เจ็บ  เจ็บไปหมดเลย......

อะไรกัน  ทำไมถึงเหนียวเหนอะขนาดนี้..........

.......พี่คริส

“อ๊ะ! โอ๊ย!” ร่างของเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะตื่นจากการพักผ่อนสะดุ้งตัวขึ้น  ก่อนความเจ็บแปลบจะแล่นริ้วเข้ามาทำร้ายเค้าอย่างไม่มีคำกล่าวล่วงหน้า

“อะ  อึก” เด็กหนุ่มฝืนลุกขึ้นมา  ตัวสั่นเพราะความทรงจำล่าสุดที่เพิ่งนึกขึ้นได้

..............ทั้งคำพูดและการกระทำที่รุนแรง............

โรนัลโด้กลับมาและทำเรื่องอย่างนั้นอีกแล้ว!  เมสซี่กอดตัวเองแน่นแม้จะโดนขืนใจไปแล้ว   เค้าตัวสั่นอีก  และได้ยินเสียงแม่เรียกเค้าจากข้างล่าง

“ลีโอลูกรัก  อาหารเย็นจ๊ะ  หลับคาวิดีโอเกมส์อีกแล้วสิท่า....ถ้าทำอย่างงั้นมากเกินไปแม่จะงดเกมส์เรานะ” เสียงของแม่ฟังดูร่าเริง  คงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเกิดขึ้น  เด็กหนุ่มมองไปที่ลูกบิดซึ่งล็อคอยู่ของเค้า  หายใจสะดุด  และรีบตอบกลับแม่ไปทันที  ก่อนจะกุลีกุจอชำระร่างกายด้วยความเร็วสูงสุดที่ทำได้ไม่ใกล้เคียงนัก  แต่ใช้เวลาไม่นานซึ่งร่างเล็กเสียไปกับการเลือกเสื้อผ้าก็ลงมาที่โต๊ะอาหารเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงจนเกิดความสงสัย

“หนาวเหรอลูก” แม่เห็นเค้าใส่เสื้อฮู้ดคอสูงลงมาจากบันได

“ฮะ ฮะแม่...ผมคิดว่าอากาศเริ่มเย็นแล้ว” เด็กหนุ่มตอบอ้อมแอ้มกลับไปเพียงแค่นั้นก่อนจะนั่งลงที่ประจำของตัวเอง  เมสซี่จำกัดคำในการพูดคุยบนโต๊ะอาหารเช่นเดิม แต่ความรู้สึกเมื่อตอนกลางวันยังคงหายใจรดต้นคอของเค้าอยู่  เด็กหนุ่มอิ่มอย่างรวดเร็วเช่นทุกวัน  แต่วันนี้ข่าวกีฬาพาดหัวข่าวทางช่องทีวีฉุดความสนใจของเค้าเสียก่อน

มันเป็นข่าวของสโมสรอังกฤษอันโด่งดัง...........

และเมื่อผ่านไปไม่นาน เราก็ได้เด็กผู้เก่งกาจและโชคดีคู่ควรกับการเซ็นสัญญาเข้าสโมสรดังแห่งแดนผู้ดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ  วันนี้ คริสเตียนโน่   โรนัลโด้ ชายหนุ่มจากโรงเรียนไฮลสคูชื่อดังที่ได้ผ่านการคัดเลือกทางคุณสมบัติความสามารถจากตัวแทนสโมสรให้เป็นเด็กหนุ่มผู้โชคดีที่สุดเพียงคนเดียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะได้ไปเซ็นสัญญากับทางสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และได้เดินทางขึ้นเครื่องไปยังสหราชอาณาจักรแล้วในบ่ายวันนี้ครับ....

“เฮ้...นั่นคริสที่มาบ้านเราเมื่อเช้านี้ไม่ใช่เหรอ  คริสที่เป็นรุ่นพี่ของลีโอ...อ้าว  พ่อลูกชายจะไปไหนล่ะ?” ชายอีกคนหนึ่งของครอบครัวชี้นิ้วลอยๆ ไปยังหน้าที่โดนรัวชัตเตอร์ของร่างสูงในทีวี  พ่อของเมสซี่ดูตกใจไม่น้อย  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรแก่ลูกชาย  เด็กหนุ่มคนเดียวในบ้านของพวกเค้าก็เดินออกไปเห็นแต่หลังไวๆ เสียแล้วในเวลานั้น

พ่อของร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้น  นึกอยู่ในใจว่าจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างไปสะกิดใจลูกชายของตัวเองเป็นแน่แท้  เค้าหันมาหาภรรยาผู้ซึ่งมีสีหน้าแบบเดียวไม่แพ้กัน  เพียงแต่ว่าไม่นานเธอก็บึ้งตึงใส่

“ฉันงดข้าวเย็นคุณ” แม่ของเมสซี่พูด  และเธอเอาจริงที่สามีทำให้ลูกชายของเธอต้องเดินหนีไปแบบนั้นอีกแล้ว

.

.


**************************************************************************************

.

.

ตึก! ตึก! ตึก!

ตึก! ตึก! ตึก!

ปัง!

ปั้ก...

“อึก...ฮึก” เมสซี่วิ่งขึ้นมาบนห้อง  ปิดประตูลงทันทีโดยไม่อ้อมแรงที่ส่งมันกลับบานพับดั่งเช่นเด็กนิสัยดีอย่างเค้าเคยทำ.....บางอย่างทำเค้าสั่นคลอน  อาการเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก  และตามมาด้วยการวูบไหวที่ดวงตากลมโตโดยที่เจ้าตัวไม่ยังไม่ทันที่จะได้สนใจมัน 

หมดแรงแล้ว.....ไม่รู้จะทำอะไรแล้วสำหรับเด็กหนุ่มที่ชื่อ ลีโอเนล   เมสซี่  เค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่  แผ่นหลังบางถูกลู่ลงมาตามบานประตูที่เจ้าตัวเพิ่งปิดลงไป  และท้ายที่สุดก็จบด้วยการโอบกอดเข่าของตัวเองแล้วปล่อยสะอื้นออกมา

คนที่ทำร้ายเค้ากลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่เค้าหวังอยากจะเป็นได้อย่างไร.............

โชคดีเป็นบ้าเลย  อึก.......ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาแล้วเช็ดน้ำตาที่จู่ๆ ก็เพิ่มมากขึ้นโดยไร้สาเหตุ  ก่อนเมสซี่จะตั้งคำถามเล็กๆ กับใครบ้างคนว่าตัวเค้าเองเคยได้รับโชคดีบ้างหรือเปล่า  ทำไมเรื่องแย่ๆ จะต้องเกิดขึ้นแต่กับเค้า  ทำไมไม่เป็นเค้าบ้างที่ได้รับสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์จะได้.........ขอแค่สักครั้ง  อะไรก็ได้ ที่ทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าตัวเองไม่ถูกทอดทิ้งหรือมองข้ามไปแค่นั้นก็พอแล้ว

ขอเพียงแค่ได้รับโอกาสนั้น  เมสซี่ก็จะกอดมันไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่กลับไม่ใช่เค้าที่โชคดี..........

และที่บีบหัวใจร่างเล็กมากที่สุดก็คือ  ชายผู้ที่เอาชนะเค้าอย่างไม่ยุติธรรมจนน่าเดียจฉันท์นั้นกลับได้รับโอกาสไปอย่างหน้าตาเฉย  ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้บ้าง  ไม่ใช่ว่าเมสซี่อิจฉาที่โรนัลโด้ได้ไป แต่เป็นเพราะสงสัย  ร่างเล็กแค่สงสัย....ว่าเหตุใดทำไมจึงจะต้องเป็นชายคนนี้

ยิ่งรู้ว่าคนที่ได้ไปอังกฤษเป็นโรนัลโด้  เมสซี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเค้าเองถูกโชคชะตาตอกย้ำเหมือนกลั่นแกล้ง.........เท่านี้ก็เท่ากับว่าเค้าโดนเยาะเย้ยพร้อมๆ กับที่อีกคนหนึ่งได้บินไปสู่อนาคตอันสดใสงั้นสินะ

แค่ได้ไปที่นั่น  ก็ไม่จำเป็นต้องการอะไรอีกแล้ว  มีทุกอย่างเกินกว่าจะคิดไหว  ทั้งสังคมไฮโซที่ผิดแผกไปจากเดิม  ทั้งเส้นทางที่ทอดไปสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพซึ่งแทบจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสียด้วยซ้ำ หากใครได้ไปอยู่ถึงขนาดสโมสรชื่อดังขนาดนั้น  หากรุ่นพี่ร่างสูงคนนั้นได้ไปก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรให้นึกภวังค์ถึงสิ่งที่ทิ้งไว้ด้านหลังอีกแล้ว

......ไม่แคร์หรอก  โรนัลโด้ไม่เคยคิดจะแยแสใครอยู่แล้ว  คนที่อยู่ข้างกายอีกฝ่ายก็ถูกมองว่าเป็นพวกไร้ประโยชน์ทั้งนั้น  รวมทั้งเค้าด้วย........

โรนัลโด้คงรู้อยู่แล้วว่าจะต้องออกเดินทางวันนี้ ก็เลยคิดจะมาดูแคลนร่างเล็กเป็นครั้งสุดท้าย  ทำไว้อย่างเจ็บแสบและทำให้เค้าต้องจดจำไปตลอดชีวิต.....มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย  ความทรงจำก่อนรุ่นพี่จะโด่งดังอย่างนี้เมสซี่ไม่ต้องการ

เด็กหนุ่มตัวน้อยๆ เพียงต้องการอยากรู้ว่าทำไม?  เพราะเหตุใดกันรุ่นพี่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนั้นถึงสองครั้งสองคราวด้วย  แค่รอให้เมสซี่เปิดดูทีวี หรือเดินมาบอกเองด้วยท่าทางเย้ยเยาะเห็นแก่ตัวเหมือนเด็กเกเรคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ  ไม่เห็นจะต้องทำร้ายร่างกายและจิตใจกันถึงขนาดนี้เลย  โรนัลโด้ต้องการอะไรกันแน่

และที่เด็กหนุ่มไม่เข้าใจที่สุดก็คือ  เหตุใดทำไมเจ้าตัวจะต้องใจสั่นและปวดแปลบขนาดนี้ด้วย  รู้ว่าอีกคนหนึ่งโชคดีเพียงใดแล้วยังไม่เท่าไร  แต่พอรู้ว่าโรนัลโด้จะต้องบินไปไกลเกือบอีกซีกโลกหนึ่งและจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตราบนานเท่าที่จะใคร่ครวญได้ 

เมสซี่ควรดีใจ  ใช่สิ  ร่างเล็กควรยิ้มแย้มออกมาแท้ๆ  แต่เจ้าตัวกลับเจ็บ

เจ็บที่หัวใจ.......

เท้าเล็กๆ ภายใต้ขาที่ยกขึ้นมาชันเข่า  ถูกขยับเข้าหากันอย่างเดียวดาย

หรือเป็นเพราะอย่างนี้หรือเปล่า  โรนัลโด้ถึงได้ไล่เค้าออกจากชมรม  เป็นเพราะไม่อยากให้เมสซี่ไปเป็นตัวเกะกะสำหรับการคัดตัวอันแสนสำคัญนั้น...........

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร  รุ่นพี่ประธานชมรมร่างสูงคนนั้นก็ได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของสโมสรขึ้นน่านฟ้าไปแล้ว  ถึงจะมีหรือไม่มีเมสซี่อย่างไร  โรนัลโด้คนนั้นก็ไม่มีทางหันมาสนใจหรอก

เพราะเค้าอาจได้สิ่งที่ต้องการแล้ว......หัวใจของเด็กหนุ่มหดตัวและสั่นสะเทือนอีกครั้ง

มือเล็กเลื่อนมากอบกุมหน้าอกตัวเอง  และกอดกายตัวเองคลายความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน

.

.

*******************************************************************************

.

.

บนเครื่องบินเจ็ทของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด......

ชายหนุ่มผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องบินสัญชาติอังกฤษนี้นั่งเอนตัวพิงกับเบาะหนังหนาหนุ่มสีครีมอย่างไม่แสดงอาการใดๆ  เค้าดูไม่ตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำที่ทางสโมสรถึงกับส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับเค้าเช่นนี้  หากเป็นในกรณีอื่นๆ ก็คงจะให้ว่าที่นักเตะในสโมสรนั่งเครื่องตามสายการบินมาเอง  แต่กับชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพราะเหตุใดใยถึงส่งเครื่องบินเจ็ทมารับได้ก็สุดรู้

แต่ความถูกให้ความสำคัญจนดูว่าออกนอกหน้านั้นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงเนื้อเต้นแต่อย่างใด.......ซึ่งก็ว่ากันตามตรง  เกิดมาโรนัลโด้ยังไม่เคยมีอาการเนื้อเต้นกับเค้าเลยสักครั้ง  และในกรณีนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มผู้อยู่ในชุดกีฬาแสนสบายราวกับพักอยู่ในบ้านของตัวเอง  เค้าบอกปัดปฏิเสธการบริการทุกอย่างตั้งแต่ขึ้นเครื่องมาแล้ว เนื่องจากไม่มีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ   ใบหน้าคมสันภายใต้หมวกฮิบฮอบที่หันปีกไปด้านหลังนั้นเสมองไปด้านนอกหน้าต่างช่องเล็กๆ ถัดลงไปเบื้องล่างคือแสงไฟดวงน้อยๆ ที่แต่งแต้มเต็มพื้นที่ของเมืองจนแทบไม่เหลือที่ว่าง  สายตาคมประดุจเหยี่ยวจับจ้องไปยังดวงไฟในบ้านเรือนดวงน้อยๆ ที่ยากจะเห็นได้จากความสูงในระดับนี้

เค้ามาไกลแล้ว.........และไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่เค้าเพิ่งจากมาจะเป็นเช่นไร  ตั้งแต่เครื่องลอยลำโรนัลโด้ก็เอาแต่จับตาดูบ้านเรือนด้านล่างแล้วและแอบคิดไปว่าหากมองจากตรงนี้ เด็กหนุ่มของเค้าจะกำลังทำอะไรอยู่กันแน่


.


.


.


TBC.



---------------------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!  อิเฮียยยยยยยยยยย!!  จะไปไหนนะคะ! ห๊าาาา!!  ละๆๆๆๆๆ แล้วเหมียวว.....โถ่ววววว  เหมียวน้อย เหมียวว่าง่ายของไรท์อย่าเพิ่งเสียใจหนักมากนะคะ  //ลูบหลังปลอบ//  อิเฮียมันเป็นความจริงรึเปล่าห๊ะ  พูด!

//จริงไม่จริง  เค้าก็อยู่บนเครื่องแล้วล่ะ -*-//

อู่วววว  เหมียวนี่น่าสงสารจับจิตจริงๆ เลยค่ะ  เฮียไม่คิดจะบอกอะไรเหมียวหน่อยเหรอคะ //จ่อไมคฺสัมภาษณ์// + //โดนเฮียตบทิ้ง//  อ๊าาา  เฮียอ่ะ  นิสัยบอกอะไรเหมียวหน่อยก็ไม่ได้  สงสารเหมียวบ้างไหมเนี่ยห๊าหึ!?    ไม่เลยเหรอคะ

แต่ว่ารีดๆ ขา.....เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ค่ะ  สงครามยังไม่จบอย่างเพิ่งนับศพทหารนะคะ  เรื่องจะยังคงดำเนินต่อไปในรูปของความรู้สึกของเฮียค่ะ  และเหตุผลที่แท้จริงของเค้านั้น ยังไม่ถูกเปิดเผยออกทั้งหมดค่ะ  ยังคงจะต้องรออ่านใน Part ต่อไปนะคะ >////<

รักรีดทุก่านนะคะ  ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ >3<  //จุ๊บ//

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อืม สงสารลีโออะ ความรู้สึกใจสั่นนั้นมันคือ....
สงสารกว่าคือ คุณพ่อ อดเลย

demon กล่าวว่า...

ทำไมตอนนี้อ่านแล้วปวดใจแบบเศร้าๆก็ไม่รู้นะคะ ลองนึกถึงความรู้สึกของลีโอแล้วน้ำตานี่แทบจะออกมา เข้าใจความรู้สึกลีโอ และสงสารมากๆๆ. :(

แหม่ รุ่นพี่โรนัลโด้เขาก็ทำกันได้นะทิ้งกันไปง่ายๆ. แถมก่อนไปยังสร้างบาดแผลเพิ่มให้น้องอีกนะ คนอ่านนี่อยากไปกระชากตัวแกแล้วบอก' กลับมา จะไปไหน!?' ที่ลีโอเจ็บที่หัวใจนี่เพราะอะไรก็พอจะเดาออกค่ะ รู้เลย และยิ่งสงสารเข้าไปใหญ่

ลองคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้างก็ดีนะ โอ้ย หน่วงจริงๆค่ะ!