วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[Fic – God Of Egypt] + [Part 8…END] Eternally...ชั่วนิจนิรันดร์ – Horus x Bek



  
สวัสดีค่ะรีดๆ ที่น่ารักของไรท์ทุกท่านขาา >0< !! ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวันเลย  งืออ  ไรท์กำลังโดนแม่ใช้งานก่อนเปิดเทอมค่ะ  ง่อววว จะเปิดเทอมแล้วแฮ่ะ  เจองานกะอาจารย์อีกและ เซงงงงง  และตอนนี้ไรท์กำลังหลงอยู่ในห่วงของหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ค่ะ  คือความวายมันออกนอกหน้ามากถึงแม้ว่าจะเขียนปกอยู่ทนโท่ก็ตามว่า “หมวดนวนิยายสำหรับเยาวชน/แฟนตาซี”  เพราะเจ้าช่วย  เจอเข้าไปถึงกับอ่านซ้ำค่ะ 55555  “สายเลือดปีศาจ” มีสองเล่มค่ะ  แนะนำเลยที่โฆษณาให้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียค่ะ  ฟินจัด! 5555

อร๊ายยยย!! ดูดวงตาสีท้องนภาโปร่งใสของเค้าสิ อะไรจะช่างงดงามขนาดนี้ //เคลิบเคลิ้ม//  เทพราใยท่านจึงได้สรรสร้างหลานชายได้สมบรูณ์แบบถึงเพียงนี้  พอถึงตรงนี้ข้าชักจะรู้สึกอิจฉาเบคเสียแล้วค่ะ  แต่ก็อยากให้เค้าเสียตัวเพื่อฮอรัสตลอดไปเช่นกัน....เอาให้จนกว่าตะวันและจันทราจะสลายไปเลยนะเทพรา 55555555  ค่ำฟ้าไปเลย 555555 //โดนเทพราพ่นแสงใส่//

โอเคหยุดเรามาอยู่กับปัจจุบันของเรากันดีกว่านะคะ ^^  ก็เดินทางมาถึง Part สุดท้ายกันแล้วสำหรับบททดสอบความรักที่มีเส้นบางๆ ของความรู้สึกและความเข้าใจขวางกั้นอยู่ของฮอรัสกับเบคน้อยของเรา

สุดท้ายแล้วฮอรัสจะเลิกมีมารยาทอย่างน่าประหลาด(?)  และเบคจะยอมเลิกปากแข็งสักทีหรือไม่  เราจะไปดูพร้อมกันค่ะ  แต่ก่อนอื่น นี่เฟสของไรท์ค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ค่ะ  ค-ลิ๊ก เพื่อเป็นเพื่อนกันและพูดคุยค่ะ ^^ 

ฮอรัสบินมาหาเบคแล้วโดยมีซาญ่าเป็นคนส่งตัวให้พุ่งขึ้นทะยานไปบนท้องฟ้าอีกแรงหนึ่งค่ะ  //กำหมัดมาดมั่น//  ซาญ่าทำดีมาก มารับรางวัลเป็นทองถุงหนึ่งของเธอไปสิ //คนจ้างอยู่นี้จ๊ะ// 55555  โอเคค่ะ เรื่องจะจบแฮปปี้แอนดิ้งมากแค่ไหน  เตามไปดูกันเลย

เกลียวละอองทรายในสายลมกำลังจะพัดไปอียิปต์แล้วล่ะค่ะ  ไปด้วยกันสิคะ ^^



------------------------------------------------------------------------------------------



ซาญ่าได้ทำหน้าที่ของนางแล้ว...



.



.



**************************************************************************



.



.



คืนนี้ดวงดาวล่องลอยเต็มท้องฟ้าอย่างดาษดื่น มีดวงจันทร์คอยปกครองให้แสงอย่างทั่วถึง  เบคบอกปัดน้ำใจของสาวใช้ให้กลับไปไม่ต้องคอยอยู่รับใช้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว  เด็กหนุ่มเนื้อตัวเปลือยเปล่าพินิจดูตัวเองบนเตียงนอนแล้วสั่นขึ้นมาทั้งกายและใจ  นึกถึงเรี่ยวแรงมหาศาลที่ใช้เพียงน้อยนิดลิดรอนอิสรภาพของเค้าไปรวมทั้งแรงกายที่โถมแทรกสอดเข้ามานั่นด้วย มันช่างรุนแรง  อ้อมแขนของฮอรัสกอดรัดและตอกตรึงเบคไว้อย่างแน่นหนาเร้าร้อนจนแทบหายใจไม่ออก 

แต่ทว่าทำไม...เด็กหนุ่มจึงรู้สึกถึงความอบอุ่นยามเมื่ออยู่ใกล้ร่างนั้น  ถึงแม้จะนอนร่างไห้อยู่ใต้ร่างของฮอรัสแต่เบคกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างน่าประหลาด  ฮึ น่าขำสิ้นดี ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ตัวสั่นระริกเพราะความกลัวจนทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้วยังมีหน้ามาทำตัวหวั่นไหวกับอ้อมกอดและสัมผัสลูบไล้ของอีกฝ่ายหนึ่งอีก

เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายผืนหนาเพื่อช่วยป้องกันความหนาวเย็นจากอุณหภูมิที่กลับขั้วของทะเลทรายยามค่ำคืน  เบคผูกเชือกรอบเอวเพื่อกระชับเสื้อคลุมก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วบอกตัวเองว่าให้เลิกคิดถึงรอยจูบที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ของฮอรัสซะที  ก่อนดวงตากลมโตที่เกือบจะหลุบแสงลงจะหันไปเห็นผ่าม่านผืนใหญ่ที่เปิดโล่งให้ลมพัดโชยเข้ามาอย่างเต็มที่

เฮ้อ ให้มันได้ยังงี้สิ......เด็กหนุ่มตัวเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับขนาดห้องที่เค้านอนเกลือกกลิ้งอยู่ถอนหายใจยาวก่อนจะลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งอย่างเสียไม่ได้  ผมหยักศกทรงสวยสีน้ำตาลของเค้าฟูฟ่องอยู่รอบกรอบใบหน้าหวานที่ดูน่าเอ็นดูและน่าถนอมนั้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน  คงจะต้องลากสะโพกที่ยังคงมีอาการเจ็บแปลบไม่หายดีของตัวเองไปไกลถึงอีกฝั่งหนึ่งของห้องเลยสินะ

แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวจากเตียงเลยด้วยซ้ำ เสียงหวีดหวิวแทรกผ่านอากาศส่งข่าวมาถึงข้างหูพร้อมกับลมหอบใหญ่ที่พัดกระพือผืนผ้าประดับห้องของร่างเล็กให้ปลิวสะบัดราวกับเกิดพายุ  ก่อนลมจะเบาลงอย่างกะทันหันในท้ายที่สุดทำให้ชายผ้าทิ้งตัวคืนเดิมราวกับลอยตัวอยู่ใต้ผืนน้ำ

ผืนผ้าม่านสะบัดกลับคืนพร้อมปรากฏเงาร่างสูงใหญ่อยู่ด้านหลัง  และเมื่อมันหยุดนิ่งผู้มาเยือนจึงไม่จำเป็นต้องแนะเลยว่าตนเองเป็นใคร  เบคกระพริบตา หัวใจเต้นหนักระรัว  ผมนุ่มลื่นแต่ไม่เป็นระเบียบของเจ้าตัวถูกลมพัดให้ดูน่าลูบมากกว่าเดิม เด็กหนุ่มนั่งซุกนิ้วเท้าและฝ่ามืออยู่ในกองผ้าห่มนั่งมองร่างสูงใหญ่ประกายโลหะเรืองรองด้วยแสงทองย่ำเท้าเสียงดังมาหาตน  เบคกลืนน้ำลาย ดวงตาสุกใสที่มองกลับไปนั้นทำให้ฮอรัสนึกอยากมองไม่เคยเบื่อหน่ายเลย

ร่างของเทพที่สูงใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดากว่าสามเท่าเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างเดิมของตนเอง  ฮอรัสดูสง่างามอย่างยิ่งแม้จะเดินทอดตัวอยู่ใต้แสงจันทร์มิใช่แสงอาทิตย์ก็ตาม “ขอโทษที่ข้ามากวนเจ้า” เค้ากล่าว มองออกว่าเจ้าของห้องคงจะตกใจอยู่ไม่น้อย “วันนี้นอนเร็วไปนะ  เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?” 

“อะ ปละ เปล่า  วันนี้ข้ามีเรื่องให้ทำเยอะน่ะ” เด็กหนุ่มยักไหล่ พลันในกายก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเมื่อพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ “ว่าแต่ท่านมีธุระอะไรกับข้ายังงั้นเหรอ?” เบคว่า ตั้งใจจะทำเสียงเรียบข่มฮอรัสแต่ทว่าเจ้าตัวกลับสั่นพร่าส่งผ่านเสียงไปด้วยเสียอย่างนั้น  เมื่อเทพแห่งท้องนภาทำท่าทางขึงขังเดินดุ่มๆ เข้ามาราวกับมีปัญหาคับข้องใจกับเบค

ไม่สิ อย่าทำ! อย่าทำแบบนั้น......เบคกำลังกลัวอีกแล้วยังงั้นหรือ  ทำตัวสั่นราวกับสัตว์ตัวเล็กหวาดกลัวไร้ทางสู้อีกแล้วหรือ  จะน่าสมเพชตลอดไปเลยหรือยังไงกัน! ไม่นะ เจ้าควรโกรธ...เจ้าควรโกรธเค้า  เอาสิ เค้าอนุญาตให้เจ้าโกรธได้  ทำหน้าว่าโกรธเค้าเลยสิ  ทำเสียเดี๋ยวนี้เบค

แต่สัญชาติญาณที่ไม่ยอมใครของร่างเล็กก็ไม่อาจเอาชนะความหวาดหวั่นที่มีต่อฮอรัสได้ในที่สุด  ท่าเดินและเสียงที่บ่งบอกถึงความเร่งรัดนั้นราวกับว่าเบคไปทำอะไรให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจอีกอย่างนั้นล่ะ......อีกแล้วหรือ?ไม่เอานะ  แย่จริง ถึงแม้จะพยายามหลบหน้ารึออกห่างก็แล้ว ยังไปทำให้เทพช่างเอาแต่ใจผู้นี้ไม่พอใจอีกหรือ  เบคไม่กล้าขยับเขยื้อน  นิ้วมือที่อยู่ใต้ผ้าห่มกำรวบผ้าฝ้ายที่ใช้ปูรองนอนแน่น  ทำใจดีสู้เสื้อที่ชะลอฝีเท้าเมื่อมาถึงเตียง

ฮอรัสเห็นเด็กหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างประวิง  เค้านั่งลงตรงหน้าของเบค  จับไปเข้าที่ต้นแขนใกล้มือนั้น  แม้ไม่ได้ออกแรงบีบแต่ก็รู้สึกถึงแรงเกร็งจนสั่นของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

“เรื่องที่ซาญ่าพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” ฮอรัสรู้มันอาจฟังดูน่าขัน  แต่เค้ารู้ว่าซาญ่าพูดบ่อยเกินกว่าเบคจะทำเมินได้แล้ว

ซาญ่า?  ซาญ่าพูด....นางพูดอะไรกัน  นะ นางพูดอะไรกับท่านยังงั้นเหรอ?!” เบคขยับแขนหนีแต่ไม่สำเร็จและไม่คิดทำต่อ  ก่อนจะถามเสียงดังขึ้นมาอย่างกระวนกระวายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคงจะไม่พ้นเรื่องนั้นเป็นแน่

......ซาญ่า  เจ้าไม่เห็นใจข้าแล้วหรือไง ทำไมทำกับข้าแบบนี้! ข้าจะไม่พูดกับเจ้าแล้ว......

คราวนี้หัวใจเบคเต้นระรัวจนหูอื้อ  ไม่อาจหาคำแนบเนียนใดมาแอบอ้างได้อีกเมื่อฮอรัสพูดอย่างตรงจุดไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้  ใบหน้าคมของเทพเหยี่ยวนั้นบ่งบอกว่ารู้ดี

“มันจริงหรือไม่เบค?  ข้าอยากฟังจากปากเจ้า” ฮอรัสกระชับแขนเล็กของมนุษย์นั้นทีหนึ่ง  ก่อนเด็กหนุ่มจะตีความสีหน้านั้นไปอย่างพรั่นพรึง  ฮอรัสไม่พอใจและรู้สึกรังเกียจอย่างนั้นหรือ ก็แน่ล่ะ เค้าต้องรู้สึกอย่างนั้นแน่ เทพองค์ไหนกันจะพิสมัยจนรู้สึกดีกับความรักที่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ นี้จะมีให้แล้วยิ่งเป็นมนุษย์ด้วยแล้วเทพที่เป็นถึงผู้ปกครองอียิปต์คนนี้จะไม่พาลไล่เบคออกจากวังเลยหรือ

คนถูกตรัสถามในระยะประชิดไม่ตอบ  ยังคงถูกความกลัวบีบคั้นความรู้สึกจนทำให้หัวใจเกร็งกระตุก  แต่ฮอรัสยังคงอยากให้เจ้าตัวพูดแม้จะรอนานเพียงใดก็ตาม “เอ่อ  ข้า...” แต่ไม่มีสิ่งใดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มมากกว่านั้นเลย  ถือว่าน่าสมเพชนักที่ทำตัวเหลาะแหละต่อหน้าเทพที่เคยต่อปากต่อคำใส่อย่างไม่เกรงกลัวและอวดเก่งเลย......เป็นอย่างไรเสียแล้วล่ะเบค  ดีหรือไม่ที่เจ้าทำตัวอ่อนแอให้คนอื่นจับเรื่องน่าอายได้

ฮอรัสรอคำตอบนานแล้วและเบคคิดว่าคงจะโดนกล่าวเสียงแข็งใส่อย่างขัดเคืองใจเป็นแน่  ชั่วเสี้ยวนาทีที่ฮอรัสกลั้นหายใจหลังสูดลมหายใจนั้นร่างเล็กคิดว่าตัวเองคงจะโดนท้วงถามเข้าอีกเสียแล้ว  แต่มือใหญ่ที่อบอุ่นดั่งแสงอาทิตย์นั้นกลับคลายออก ก่อนน้ำเสียงนุ่มนวลยิ่งกว่าครั้งใดจะเอ่ยขึ้น

“ได้โปรดเถอะ  ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าต้องปิดบังอีกแล้ว” มันฟังดูเหนื่อยใจจนเบคยอมช้อนดวงตาบอบช้ำขึ้นมามอง  ฮอรัสดูต่างออกไป ไม่อารมณ์ร้ายหรือเอาแต่ใจเช่นเมื่อก่อนอีกแล้วแต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังกล้าหาญและดูน่าลุ่มหลงเหมือนดั่งครั้งแรกที่เบครู้สึก

“นางพูดเรื่องอะไรกับท่านงั้นหรือ?” ดวงตากลมโตที่ทอแสงไหวระริกแต่ก็มีความซุกซนแอบหลับใหลอยู่นั้นทำให้ฮอรัสรู้สึกอยากถนอมเบคยิ่งกว่าครั้งใด เค้ากระพริบตาแล้วยกมุมปากยิ้มบางๆ

“เรื่องที่เจ้าละนางทิ้งออกจากใจ โดยที่นางไม่ได้มีท่าทีอะไรเลย” ใช่  ซาญ่าช่างแตกต่างจากฮาธอร์นัก  แต่น่าเทิดทูนเหมือนกัน

“นางบอกหรือว่ามันเป็นเพราะอะไร” เด็กหนุ่มหลุบดวงตากลมโตที่ทอแสงจันทร์ลงต่ำ  เลี่ยงไม่สบตากับฮอรัสเพราะไม่สามารถทำได้อีกแล้ว  มันช่างชวนระทึกจนทำให้ปวดใจแก่เบคเสียจริง  ร่างเล็กใคร่สงสัยว่าฮอรัสจะคิดเช่นไร......ไม่พูดออกมาตรงๆ หรือว่าเค้าไม่สามารถรักใครได้นอกจากฮาธอร์

“นางบอก...” ร่างสูงกำลังเอ่ย แต่กลับเปลี่ยนใจกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้นพอ “เจ้ารักข้า  จริงหรือไม่?” ฮอรัสได้ยินเสียงลมหายใจที่ผ่านเข้าจมูกโด่งรั้นนั้นของสหายตัวน้อยพร้อมทั้งดวงตาที่ไหววูบไปมาอย่างสับสนไม่มั่นใจ  ก่อนเค้าจะจับเสื้อคลุมที่ร่วงหล่นลงจากหัวไหล่ขาวเพราะการมาของตนเมื่อครู่นี้ให้กลับคืนเข้าที่อย่างแผ่วเบา

ใกล้เหลือเกิน......ถึงแม้จะคิดคำตอบอยู่ในใจเอาไว้แล้วแต่เบคก็พบว่ามันยากเกินไปที่จะทำเป็นไม่รู้สึกถึงร่างกายสูงใหญ่ที่ทาบทับบดบังแสงจันทร์อยู่ตรงหน้า  กล้ามเนื้อที่นาบลงมาบนผิวของเจ้าตัวจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้  ไหนจะยังลมหายใจอุ่นร้อนที่ผะผ่าวออกมาอีกนั่นล่ะ  หากเป็นไปได้เบคอยากจะร่นตัวให้ถอยห่างออกไปเสียเดี๋ยวนี้เพื่อให้ตัวเองได้หายใจหายคออย่างสะดวกบ้าง  แต่พวกเค้าก็ต่างรู้ดีว่าทำไม่ได้......

ฮอรัสหลุบตามองตามใบหน้าหวานที่ก้มหนีต่ำลง  ข้างหนึ่งของมือแกร่งที่นำพามาซึ่งอิสรภาพนั้นยกขึ้นทาบทับไปบนข้างแก้มใสของเบคอย่างปลอบประโลมและไม่ให้หันหนีไปไหนได้อีก  ก่อนใบหน้าของทั้งสองจะหันเข้าหากันแล้วโน้มมาใกล้กันในที่สุด  ฮอรัสจุมพิตกดทับกับริมฝีปากเนียนนุ่มของเด็กหนุ่มซึ่งเผยอรับอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ

พวกเค้าทั้งคู่ก็ต่างรู้ดีว่าคำตอบของเบคคืออะไร  และก็ต่างรู้กันดีว่าฮอรัสนั้นมีใจเสน่หาเช่นไร

เทพแห้งท้องนภาประคองแก้มที่ถูกถ่ายทอดความอบอุ่นนั้นเอาไว้ก่อนจะกดจูบแหวกกลีบปากของอีกฝ่ายออกแล้วเข้าไปทักทายด้วยลิ้นร้อนที่ต้องการของตนเอง  เด็กหนุ่มที่เงยหน้ารับจูบนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด แขนเล็กยกขึ้นไปเกี่ยวรั้งลำคอแกร่งเอาไว้เพื่อเป็นที่พึ่งพิงก่อนจะตอบรับคำเชื้อเชิญให้เกี่ยวกระหวัดกันในโพรงปากอย่างลึกล้ำ กระทั่งมันเร่าร้อนขึ้นอย่างเสียไม่ได้จากการรุกคืบที่ปานจะกลืนกินของร่างสูง  เสียงหอบหายใจที่กอบโกยอากาศได้ไม่ทันท้วงทีและดูเหนื่อยหอบดังขึ้นปะปนกับเสียงแลกลิ้น ทำให้โอรสแห่งโอซิริสจำใจต้องปล่อยเบคไปก่อนเพราะหวั่นว่าอีกคนหนึ่งจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน

แสงจันทร์สาดส่องเริงระบำไปกับสายลมที่พัดเอื้อยระเรื่อยเข้ามาในห้อง  ให้เงาของทั้งคู่ทาบทับไปบนกำแพงและปรากฏเป็นเงาภายใต้ม่านมุ้งที่ไหวไปมาตามกระแสลมเย็นยามค่ำคืนนั้น  เบคสูดหายใจจนไหล่ขยับขึ้นลง  เรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงอย่างอิสระนั้นพิงอยู่บนอกแกร่งของเทพแห่งนภา

“นางพูดเรื่องจริง” เค้าเฉลย “ข้ารักท่าน

ก่อนเทพผู้เป็นหนึ่งในท้องนภาจะมอบจูบอันแสนเร่าร้อนให้อีกครั้ง  และแก้ผ้าคลุมอันหมิ่นเหม่อของเด็กหนุ่มออก  สอดมือเข้าไปใต้แขนคู่นั้นแล้วลูบไล่แผ่นหลังเนียนหมดจดอย่างแสนคำนึงหาราวกับห้าปีที่ผ่านมานี้ร่างสูงวาดฝันเอาไว้ว่าจะได้กลับมาสัมผัสมันมาโดยตลอด  เบคปลดแขนออกจากอาภรณ์ช่วยอีกแรงหนึ่ง  กอดตอบฮอรัสและสนองจูบอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ มาให้อิดออดได้อีก

ความเป็นอิสระทั้งหมดของฮอรัสโถมเข้าใส่เด็กหนุ่มผ่านรสจูบที่ดูดดื่มและเมามัน  ไม่มีพันธะของฮาธอร์มาขวางกันเลยแม้แต่น้อยเบครู้สึกได้  ฮอรัสเต็มใจจูบเค้าพอๆ กับที่เค้าเองก็โหยหาอยากที่จะทำมัน

เสียงหอบหายใจดังขึ้นสลับกับเสียงเสียดสีจากการลูบไล่ผิวกายที่ตึงแน่นด้วยกล้ามเนื้อของทั้งสอง  เสียงอื้ออึงในลำคอสอดประสานกัน  เสียงเฉอะแฉะเพราะรสจูบนั้นก็ไม่ได้ต่างกันเลย  ฮอรัสเอนกายลงทาบทับร่างน้อยๆ ของมนุษย์ที่นอนราบลงกับเตียง  มือแกร่งยกขึ้นลูบขาอ่อนที่ชันขึ้นแนบลำตัวของเค้า และไล่มันเรื่อยขึ้นไปยังสะโพกนุ่มมือที่จมอยู่บนกองผ้าคลุม  ชายหนุ่มทั้งสองกอดกันราวกับไม่สามารถแยกออกจากกันได้  เกี่ยวกระหวัด  และรัดรึงร่างกายราวกับคับแค้นกันมานานนับปีแต่ทว่าคราวนี้กลับเป็นไปอย่างอ่อนโยนยิ่ง

ตัวของเด็กหนุ่มจมหายไปกับเตียงโดยมีบุรุษร่างสูงคร่อมกายอยู่ด้านบน  ฝ่ามือของฮอรัสสำรวจเค้นคลึงไปทั่วทุกซอกมุมของอีกฝ่ายดั่งเช่นครั้งก่อนที่เคยได้มีสัมพันธ์กัน  แต่ครั้งนี้เค้าจะจดจำให้ดี  เก็บทุกรายละเอียดว่าเบคเป็นอย่างไร ทำไมเจ้าเด็กหัวขโมยคนนี้ถึงได้ชวนหลงใหลนัก  หนำซ้ำยังขโมยหัวใจของเค้ามาจากฮาธอร์ได้อย่างง่ายอีกด้วย

“เบคของข้า” ฮอรัสกระซิบแล้วฝังจมูกโด่งคมลงบนต้นคอขาวของเด็กหนุ่ม

ว่ากันว่าดวงตาของฮอรัสนั้นข้างหนึ่งเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ ข้างหนึ่งเป็นตัวแทนของดวงจันทร์  คล้ายความสมดุลที่ขนานกันอยู่เป็นนิจของกลางวันและกลางคืนเพราะมันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ชั่วนิจนิรันดร์  เฉกเช่นที่เจ้าของดวงตาทั้งสองนั้นจะอยู่กับคนที่ขโมยมันกลับคืนมาสู่เค้าอย่างนั้นตลอดไป

เสียงอื้ออึง  กระซิบกระซาบถามไถ่เสียงแหบพร่า  และเสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางอย่างประทับใจในที่สุด  ค่ำคืนภายใต้แสงจันทร์และผืนผ้าม่านที่พลิ้วไหวยังคงดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้าราวกับจะทดแทนช่วงเวลาตลอดห้าปีที่ขาดหายไปให้แก่คนทั้งสองคนและแน่นอนฮอรัสป้อนสัมผัสให้ตลอดทั้งคืนถึงแม้เบคจะงอแงตั้งแต่แรกก็ตาม  ก่อนที่พรุ่งนี้เช้าเค้าทั้งสองจะตื่นขึ้นมาแล้วคุยกันในอีกหลายต่อหลายเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง

เบคที่รักของข้า......ฮอรัสกระซิบพูดตลอดทั้งคืน  ในขณะที่เด็กหนุ่มใต้อ้อมกอดเองก็เช่นกัน

เจ้าเทพบ้าที่รักของข้า......หัวขโมยยิ้มพริ้ม

แสงวันมาเยือนพร้อมกับความรู้สึกใหม่  ทั้งสองยังคงพร่ำพูดใส่กันเช่นนั้นอยู่อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย  เหมือนกันกับที่ดวงตะวันและจันทราจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหยอกล้อกันเพื่อให้ได้ขึ้นเด่นสาดแสงต้องส่องปกครองอียิปต์อีกครั้ง  และมันจะเป็นเช่นนั้น

ตราบนานเท่านาน



.



.



.



.THE END.



----------------------------------------------------------------------------



จบแล้ว......จบแล้ว Oh my god!!   โอ้ จบแล้วค่ะรีดขาา >0< จบแล้วววว  รู้สึกผูกพันไม่อยากให้จบอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ TUT  //น้ำตาไหลพราก//  สุดท้ายแล้วก็เข้าใจกันและทะลายกำแพงนั่นสักทีนะคะ  คือก็เหมือนรู้ว่ารักเค้ามากแต่เพราะว่ามีผู้หญิงของอีกฝ่ายอยู่เลยไม่กล้าแสดงออกอย่างชัดเจนนั่นเองค่ะ  แต่ว่าฮาธอร์ก็ยอมจากไปแล้วและซาญ่าก็กลายเป็นสาววายไปแล้ว 555555555  //ลั่น//  ก็คงไม่มีอะไรต้องให้ทั้งเบคและฮอรัสห่วงแล้วล่ะเนอะ ^^

อร๊ายยยย  Make Love กันหลังเปิดใจด้วยค่ะ อร๊ายยยยย!! >.,<  //อาการส่อเป็นที่สุด// 55555  เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ  รีดๆ ให้เรื่องนี้ผ่านไหมเอ่ย?  จะบอกว่าตอนที่เริ่มเขียนไรท์ใส่แผ่นหนังเรื่องนี้เข้าไปในคอมไม่ยอมเอาออกจนเขียนเสร็จเลยค่ะ (มีบางวันลืมไปเลยค่ะ) 55555  ประทับใจเนื้อเรื่องและกราฟฟิกมากเลยค่ะ  รวมทั้งนิโคไลและลุงเจิดด้วยยยยย อร๊ายยยยย!! 555555  ลุงเจิดเอาใจหนูไปเลยย  //ควักให้//  เฮ้ยย พอแล้ว! 5555  นอกเรื่องค่ะ  ท่านฮอรัสกะเบคกี้กุมหัวใจไรท์อยู่หมัดตลอดเวลาที่อยู่ท่ามกลางกลิ่นอายทะเลทรายในเรื่องเลยล่ะค่ะ

หวังว่ามันจะเป็น Fic God Of Egypt ที่ถูกใจรีดหลายๆ ท่านนะคะ  เรื่องนี้เป็นฟิคพีเรียตเรื่องแรกของไรท์เลยค่ะและขอบอกว่าเป็นฟิคพีเรียตที่ดีที่สุดที่ไรท์เคยเขียนก็ว่าได้ค่ะ  //ก็เอ็งเพิ่งเขียนอยู่เรื่องเดียว....-*-//  555  หวังว่าจะได้เขียนฟิคย้อนยุคแบบนี้อีกในโอกาสหน้านะคะ  และยิ่งเป็นประเภทอาหรับหรือตะวันออกลางอย่างนี้ยิ่งทำให้ไรท์ตื้นเต้นเข้าไปอีกค่ะ! ><  ชอบม้วกกกก  555555  ตัวละครดูเซ็กซี่ดี 55555

โอ้ เราต้องจากกันแล้ว  มองทะเลทรายที่มีมหานครอยู่ด้านหลังและถูกกระนาบข้างด้วยแม่น้ำไนล์นั่นสิคะ  อ่าา....//ผายมือ// เทพรากำลังลากพระอาทิตย์ไปแล้ว ช่างสวยงามจริงๆ เลยค่ะรีดๆ มองดูสิคะ  เห็นเบคกับฮอรัสไหม เค้ายืนเคียงข้างกันอยู่ตรงนั้น  ไหล่ของพวกเค้ากระทบกันด้วย  โบกมือลาพวกเค้าสิคะรีดๆ ของไรท์  //ไรท์โบกมือ//  TUT  ง่าาา  อย่าร้องไห้ ฮาห์ พวกเค้าจะอยู่เป็นนิรันดร์ค่ะ  อร๊าย!!! >{}<  //คลุ้มคลั่ง//

ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับ Fic God Of Egypt เรื่องนี้  สนุกมากๆ เลยค่ะ  มีรีดๆ คอเชียร์และทำให้ไรท์เขียนจนจบได้  ขอบพระคุณจริงๆ เลยค่ะ ^^  (พูดจริงนะเออ)  ขอบคุฯนะคะ  และหวังว่าเราจะเจอกันในเร็ววันนี้นะคะ  เรื่องต่อไป ไรท์จะเขียนภายใต้ชื่อของคู่ไหนมาลุ้นกันค่ะ!! 

รักรีดสุดหัวใจที่ไรท์มี

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[Fic – God Of Egypt] + [Part 7] Eternally...ชั่วนิจนิรันดร์ – Horus x Bek





//ไม่ได้ขี้เกียจแต่งภาพแต่อย่างใดนะคะ  เพียงแต่ว่าชอบรูปนี้มากๆ เท่านั้นค่ะ 5555  แต่ทำไมมันดูมืดและสลัวมากล่ะหาาา???  คือเบคน้อยคุดคู้น่ารักมากเลยค่ะ >//<  อยู่ภายในอ้อมกอดของฮอรัส  ฮ่อวววว  อร๊ายยย  ฟินไม่จบไม่สิ้นนนน  ภาพนี้เหมือนต่อจาก Part ที่แล้ว...ก็ใช่น่ะสิ -*-//

อร๊ายยยยย  มาลงต่อแล้วค่ะรีดขาา ><  สวัสดีตอนค่ำค่ะ 555555  หายไปสองวันไรท์ไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำตามบัญชาของแม่ค่ะ 5555  เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านุ ^^

ถึงจะไม่ใช่ NC แต่รีดหลายๆ ท่านก็อยากจะรู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรกับความรู้สึกของทั้งคู่ที่รักนะ...แต่ไม่พูด -----  ไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ  ท่านฮอรัสก็กำลังจะพูดแต่ก็โดนสัญชาติญาณดิบของตัวเองชิงตัดหน้าไปก่อนซะได้ โธ่....อั๊กๆๆๆ! //โดนหอกแหลมแทงรัวๆ//  เบคน้อยที่ควรโกรธก็เริ่มหวั่นไหวกับความรู้สึกหวั่นไหวของตัวเองแล้วล่ะค่ะ >< (?)  ซาญ่าใส่ไฟเยอะๆ 55555  //นางพยักหน้ารับ//  เป็นครั้งแรกอ่ะที่ได้เขียนให้ผู้หญิงในเรื่องมีบทแบบนี้  โอ้ คาดตัวเองไม่ถึงจริงๆ ค่ะ 555 //ลั่นดังมาก//

ไรท์อยากจะบอกว่าตอนที่เขียนเรื่องนี้ไรท์เปิด Google ถามอากู๋ไปด้วยค่ะ 55555  เพราะฉะนั้นจะมีข้อมูลที่เป็นข้อมูลเฉพาะอยู่นะคะ  สนุกมากเลยค่ะได้เขียนแบบอิงศาสตร์และวัฒนธรรมจริงของพวกเค้า  โดยส่วนตัวแล้วไรท์หลงใหลประเทศแถบตะวันออกกลางมากเลยค่ะ ^^  รู้สึกคู่วายแถบนั้นดูเซ็กซี่ 5555555  //มีความบ้าคลั่ง// อะไรที่เป็นตะวันออกกลางไรท์จะชอบมากเป็นพิเศษค่ะ  แต่ว่าฟิคเรื่องนี้ไรท์ให้ความสำคัญเช่นเรื่องอื่นๆ ค่ะ  สนุกและตั้งใจเขียนเหมือนกันเลยเพียงแต่ว่าฟิคสไตล์ตะวันออกลางทะเลทรายแบบนี้เพิ่งจะเคยเขียนเป็นครั้งแรก (และเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้เกี่ยวหรืออิงกับสภาพแวดล้อมของเค้าเสียเท่าไรเลย -*-)

แฮ่ะๆ แต่ว่าก็ยังมีกลิ่นอายของตะวันออกอยู่ดี  แล้วยิ่งหนังเรื่องนี้ฟินมากมายไรท์ก็ยิ่งกระชุ่มกระชวยค่ะ 55555  หลังอะไรใครเป็นคนเขียนบทและสร้างกัน  โดยใจไรท์ทั้งกราฟฟิก  เอฟเฟค และบทสวาท....เอ้ยย! บทบาทเลยค่ะ 5555 //บทสวาทนั้นเป็นตอนที่เรามโนเองไม่ใช่หรือห๊ะ?!//

555555  โอเคพอแล้วฝอยมาก น้ำลายกระจุย 5555  เชิญรีดๆ ไปหาคำตอบที่เมืองเลียบแม่น้ำไนล์ของฮอรัสได้เลยค่ะ เค้ากำลังรอรีดไปอ่านอยู่ ^^



-------------------------------------------------------------------------------



หลายวันผ่านไปหลังจากเทพแห่งท้องนภาพาสหายรักถลาลมกลับห้องของตัวเองอย่างแนบเนียน และตอบคำถามการหลบหน้าเลี่ยงงานเลี้ยงของทุกคนได้อย่างเข้าที  งานของกษัตริย์แห่งอียิปต์ก็เริ่มต้นขึ้น  และเป็นดั่งเช่นที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้ พระองค์ทรงทำงานหนักมากกว่าผู้รักษาการณ์เป็นสองเท่า ให้ทางออกที่ดีและรวดเร็วกว่าสามเท่า ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนแนะนำให้เทพฮอรัสปรึกษาที่ปรึกษาส่วนพระองค์บ้างเพื่อแบ่งเบาภาระในเรื่องยิบย่อยต่างๆ ของพระองค์ แต่คนได้รับการแนะกลับเฉย โบกมือปัดอย่างใจเย็นแล้วบอกว่าไม่จำเป็นเรื่องเพียงแค่นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะด้วยในใจรู้ว่าอีกคนหนึ่งกำลังหลบหน้าเค้าอยู่

หลังจากวันสุดท้ายที่คุยกัน  ร่างเล็กของสหายมนุษย์ก็คอยแต่หาทางเดินผ่านไปโดยไม่มีโอกาสได้สบตากันตลอด  ช่วงนี้จึงถูกพวกผู้ใหญ่ตำหนิว่าเอาแต่เก็บตัวไม่เหมาะสมกับหน้าที่การงาน  ซึ่งแน่นอนล่ะ เบคไม่เคยสนใจ แต่ฮอรัสอ่านท่าทียามเมื่อเห็นแผ่นหลังและเส้นผมที่เค้าชื่นชอบอยู่ไวๆ นั้นออก  มองออกว่าเบคคงไม่อยากที่จะเจอหน้ากันอีก การเผชิญหน้ากันคงยากเกินไปสำหรับเจ้าตัวถึงแม้จะมีผู้อื่นรายล้อมอยู่รอบตัวเค้าทั้งสองอยู่มากมายก็ตาม

เหล่าขุนนางพากันกล่าวชมการบริหารดูแลของฮอรัส เฉกเช่นที่เหล่าราษฎรก็สรรเสริญกษัตริย์ของพวกเค้าที่นำพาความร่มเย็นและผาสุกมาให้เช่นกัน  เทพแห่งท้องฟ้าทำหน้าที่ได้ดีมากเกินกว่าที่บิดาของเค้าจะคาดหวัง แต่ตัวเค้าเองในบัดนี้กลับดูเศร้า  ใบหน้าหล่อเหล่าที่เรียบเฉยในเวลาว่าราชการนั้นเป็นสิ่งที่ข้าราชบริพารมองข้ามไปอย่างผิวเผินด้วยเหตุผลที่ว่านายเหนือหัวคงกำลังมุ่งมั่นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่และพ้อมรับมือกับปัญหาหนักหัวทุกอย่างของอียิปต์

แต่ไม่เลย ฮอรัสกำลังเหนื่อยใจ......

ในค่ำวันหนึ่ง หลังจากการถกเถียงอย่างน่าเบื่อและชวนหัวเป็นบางครั้งของเหล่าขุนนางอำมาตย์ในห้องประชุมว่าด้วยเรื่องปากท้องของประชาชนหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้  ฮอรัสนั่งพิงเก้าอี้ประจำตน พยายามทำตัวให้ตรงและดูตั้งใจฟังเข้าไว้ ก่อนเค้าจะนั่งท้าวคางและห้าวออกมาในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควรจนกระทั่งจบการประชุม  และจบด้วยการปิดท้ายสั้นๆ จากองค์กษัตริย์

“ข้าว่า เราอาจต้องการพีระมิดเพิ่มหลังพิธีขอบคุณเทพฮาปิของพวกชาวนา หลังจากช่วงนั้นแล้วก็เป็นฤดูอาเคต .....หากชอบใจความคิดข้าก็บอกพวกเค้าว่าเราจะจ่ายค่าจ้างเป็นอาหารและค่าตอบแทนอีกเล็กๆ น้อยๆ จากเบี้ยมากล้นจนเหลือใช้ของพวกท่านที่เรี่ยไรกันลงขันกันมาก็แล้วกัน......มันมากพออยู่แล้วนี่ จริงไหม?” ฮอรัสพูด เสียงถอนหายใจอย่างสิ้นสุดการรอคอยถูกพ่นออกพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เดินออกไปเป็นคนแรก  ประโยดยืดยาวของเค้าดูไม่เปลืองเวลาเลยเมื่อเทียบกับสงครามน้ำลายของเหล่าขุนนางที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้

[เทพฮาปิ เป็นเทพแห่งความอุดมสมบรูณ์ เชื่อว่าเป็นเทพที่ดลบันดาลให้เกิดแม่น้ำไนล์และโอเอซิสต่างๆ ในทะเลทรายค่ะ ^^]
[ฤดูอาเคต คือช่วงต้นปีในอียิปต์ที่น้ำหลาก น้ำจากแม่น้ำไนล์จะท่วมริมฝั่งทั้งสองที่ใช้สำหรับเป็นพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ทำการเกษตรไม่ได้  และหลังจากน้ำลดก็จะทิ้งโคลนและสารอาหารไว้เป็นแร่ธาตุที่ดีในการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปค่ะ ^^]

จบกระบวนไป......

หากมองข้ามถึงความเห็นแก่ตัวของพวกมียศถาบรรดาศักดิ์เสีย การดูแลราษฎรก็จะง่ายขึ้น  เทพเพียงหนึ่งเดียวในบัลลังของอียิปต์ย่อมรู้เรื่องนี้ดีและยินดีที่จะนำเงินเหลือใช้เหลือขว้างที่ขุนนางกำลังจะได้ ไปแบ่งปันให้ชาวนาที่ต้องการทางออก  เรื่องเพียงแค่นี้จะเปลืองน้ำลายเสียเวลามาเถียงกันทำไม ฮอรัสไม่เข้าใจพวกมนุษย์หนังเหี่ยวที่แก่ความรู้จนผมร่วงหมดหัวพวกนั้นว่าเงินทองจะสงวนไว้ใช้เพื่ออะไรในเมื่อไม่นานก็จะไปอยู่ในโลกหลังความตายกันอยู่รอมร่อแล้ว

ฮอรัสเดินกลับมาที่ปีกตะวันตกหรือวิหารห่วงห้ามที่เป็นของเค้านั่นเอง  ช่วงนี้เทพร่างสูงรักความสงบมากเป็นพิเศษ  หลังจากเวลาทรงงานแล้วก็แทบจะไม่เห็นเค้าออกมาเดินปรากฏกายให้ใครเห็นเลย ถึงแม้จะได้รับความเห็นใจจากผู้อื่นว่ากษัตริย์รู้สึกเหนื่อยเพลียจากการโหมงานแต่นางกำนันที่เข้าไปให้การรับใช้ก็ยังเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าพระองค์ทรงดูเหม่อลอยยิ่งนัก

และวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่เปลี่ยนชุดใหม่ภายในห้องบรรทมของตัวเองเสร็จอย่างที่ชอบทำเป็นประจำแล้ว  นางกำนันที่เตรียมกระยาหารก็เข้ามาพร้อมกับ......แน่นอน อโนซิสที่คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในทุกๆ วัน  นางคอยชี้นิ้วสั่งนู่นนั่นเมื่อเห็นอะไรที่ไม่เข้าตา  แม้แต่ฮอรัสเองก็ยังถอนหายใจแทนเหล่านางกำนัน

“อโนซิส มื้อเย็นข้าไม่เคร่งนะ”

“ฝ่าบาทอย่างเพิ่งทรงพูดเพคะ หม่อนฉันกำลังทำงานถวายพระองค์อยู่” นั่นอย่างไรล่ะ ถึงแม้จะเป็นผู้ที่มีฐานะต่างกัน แต่อโนซิสก็ทำตัวไม่ต่างราวกับเป็นแม่นมของเค้าเลย  เผลอๆ อาจจะมากกว่าคนที่เลี้ยงเค้ามาเสียด้วยซ้ำ

“เฮ้อ เอาเถอะ” เถียงกับนางไปก็ป่วยการณ์  แต่หากขาดหญิงแก่ผู้ไม่มีเชื้อเทพคนนี้เทพร่างสูงก็คงจะรู้สึกเงียบเหงาไปด้วยเช่นกัน  ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เทพแห่งท้องฟ้าที่แต่งกายแต่เพียงท่อนล่างด้วยผ้าฝ้ายเนื้อหนาสีขาวสะอาดนั้นจึงนอนเอนกายลงบนม้านอนตัวยาวที่ตั้งรับลมเฉื่อยเย็นกายจากระเบียงช่องมโหฬาร  คิดเสียว่าอโนซิสไม่ได้ออกปากเขี้ยวเข็ญนางกำนันอยู่ในห้องก็แล้วกัน......ฮอรัสปลอบตัวเองว่าเช่นนั้น

และว่ายังไม่ทันขาดคำ เมื่อกีดกันตัวเองออกจากโลกรอบตัวได้สำเร็จ ฮอรัสก็นำเรื่องของเบคกลับมาขบคิดในใจอีกครั้ง  คนที่ทำเรื่องร้ายแรงผู้นี้ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าความผิดของตนยากจะให้อภัย ยิ่งเป็นคนอย่างเบคด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้แล้วใหญ่  แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็ยังคงคิดว่าจะต้องทำอย่างไรหนอจึงจะได้เห็นใบหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงและได้ยลยินเสียงพูดคุยที่แสนคุ้นหูนั่นอีกครั้ง  จะผิดหรือไม่หากผู้ที่เป็นคนผิดเช่นเค้าอยากที่จะได้อยู่ใกล้ชิดอีกฝ่ายหนึ่งอีกครั้ง

และในขณะนายเหนือหัวแห่งอียิปต์กำลังเอนกายทำหน้าเคร่งเครียดและถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นั้นเองนางกำนันคนหนึ่งก็ยกเครื่องดื่มมาถวายพระองค์เพื่อรอเวลาที่หัวหน้านางกำนันจะจัดแจงทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย

“พระองค์ไม่ควรเก็บกดความกังวลเอาไว้คนเดียวนะเพคะ เพราะมันจะทำให้ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์รู้สึกเช่นไรและสุดท้ายแล้วจะไม่มีใครเห็นใจพระองค์เลยแม้สักคนเดียว”

ซาญ่า

หญิงสาวเจ้าของชื่อที่ถือถาดทองคำวางแก้วสีเดียวกันนั้นยิ้มหวานเช่นอิสตรีวัยเยาว์ให้คนที่เอ่ยชื่อนางออกมา  ซาญ่าคุกเข่าลงข้าม้านั่งยาวในตอนที่ฮอรัสรับแก้วทองคำนั้นมา  นางแต่งตัวดีมากกว่านางกำนันทั่วๆ ไป  เนื่องจากหญิงผู้นี้เป็นถึงนางกำนันชั้นรองมาจากอโนซิสจึงมีตำแหน่งการงานที่ดีกว่ามาก

“ฝ่าบาท” ซาญ่าขานรับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบกับพระพักตร์ที่ยังคงมีริ้วรอยแห่งความครุ่นคิดอยู่ไม่หายของฮอรัส “เบคเป็นคนบอกกับหม่อมฉันเมื่อนานมาแล้วเพคะ” ก่อนจะบอกถึงที่มา หากกษัตริย์ของนางจะอยากรู้......และแน่นอน เค้าต้องอยากรู้แน่

งั้นเหรอ  ข้านึกว่าเค้าเป็นเพียงแค่เด็กพูดมากจอมมุทะลุอย่างเดียวเสียอีก” คนว่ายิ้ม และได้ยินเสียงหัวเราะจากซาญ่า  นางนั่งลงกับพื้นหินอ่อนโดยเรียบร้อย

“ก็มีบางครั้งที่เค้าพูดเรื่องดีๆ บ้างเพคะ ถึงแม้จะเป็นอย่างที่พระองค์ว่าตลอดเวลาก็ตาม” นางกำนันผู้สูงศักดิ์ได้รับอนุญาตให้สนทนากับเชื้อเทพวงศ์แห่งเทพรา เพื่อกันไม่ให้พวกเค้าเหล่านั้นเฉาปากเอาได้และซาญ่าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นถึงแม้ว่านางจะเคยอาศัยอยู่อยากยากไร้มาก่อนก็ตาม

ฮอรัสยิ้ม  เอนตัวลงนอนบนหมอนขนสัตว์และผ้าไหมใบเล็กใบน้อยหลายใบอย่างผ่อนคลายและเหนื่อยล้าในเวลาเดียวกัน  ชายผู้อยู่สูงเหนือทุกผู้ทุกคนในอียิปต์ประสามือรองไว้ใต้ศีรษะของตนเองก่อนจะสูดเอากลิ่นทะเลทรายเข้าไปเต็มปอดแล้วพ่นออกมาอย่างไม่ปกปิด  คิดว่าพอแล้วเสียทีกับความกดดันที่แสนจะเดียวดายของตนเอง บางทีเค้าอาจพูดบางเรื่องกับซาญ่าได้

“เบคเป็นอย่างไรบ้าง?” เทพร่างสูงเอ่ยถามอย่างไม่ปกปิด  สายตาเหม่อมองออกไปนอกวิหารที่คลาคล่ำเต็มไปด้วยบ้านเรือนของประชาชนและนึกภาพของตนเองที่อุ้มพาเบคบินออกไปในวันนั้น

นางกำนันที่นั่งอยู่ข้างๆ มองฝ่าบาทของนางเล็กน้อยและใช้เวลาอยู่พอสมควรก่อนจะผลักตัวเองออกมาจากภวังค์ได้  ซาญ่าก้มหน้าตอบอย่างมีมารยาท “ไม่ค่อยดีนักเพคะ  หม่อนฉันคิดว่าเค้าไม่ค่อยเหมือนเดิมนัก  ดูเค้า...เซื่องซึมไป เหม่อลอยอยู่บ่อยครั้งมากกว่าแต่ก่อนที่พระองค์จะกลับมาเพคะ”

ฮอรัสรู้สึกฉงน  ไม่บ่อยนักที่เบคจะหยุดความลิงโลดและคึกคะนองของตนได้  แต่ทว่ากลับไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเบคมีท่าทางเหม่อลอยเป็นกับเค้าด้วย  ช่างผิดวิสัยของเจ้าตัวเสียจริง  เมื่อได้ยินเรื่องน่าสนใจดังนั้นเทพร่างสูงจึงใช้ข้อศอกค่ำยันตัวเองขึ้นมาในทันใด

“ก่อนข้าจะกลับมายังงั้นหรือ?” เค้าทวนถาม น้ำเสียงฟังดูกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันเรียกรอยยิ้มจากซาญ่าอย่างเสียมิได้

“เพคะ หากไม่เป็นการบังอาจเกินไปหม่อนฉันขอทูลว่าพระองค์คงไม่รู้ว่าเค้าว้าวุ่นใจแค่ไหนหลังจากท่านไปได้เพียงไม่ถึงปี”

“ช่างเรื่องมารยาทที่อโนซิสบอกเถอะซาญ่า  เจ้าจงโปรดพูดต่อเถอะ” ในตอนนี้บุตรชายผู้รับหน้าที่ต่อจากเทพโอซิริสผู้เป็นบิดาก็ลุกขึ้นนั่งพร้อมฟังนางอย่างเต็มที่แล้ว  เค้าไม่หวังให้ตำแหน่งของใครมาเป็นอุปสรรค์ในการรับรู้เรื่องที่ตนอยากรู้อีกแล้ว  ฝ่ายนางกำนันผู้เป็นหญิงคนสนิทของสหายพระราชาก็อมยิ้มหวานแล้วเล่าต่ออย่างไม่ปกปิด ไม่กลัวว่าคนที่โดนเปิดโปงจะโกรธใส่เลยแม้แต่น้อย......หึ ถ้าเบคได้มานั่งฟังอยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะโกรธนางได้อยู่หรอก

“เค้า เอ่อ...ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลยเพคะ หลายครั้งหม่อมฉันเห็นเค้าทำหน้าเหงาใจราวกับอยู่เพียงลำพังคนเดียวบนโลกแล้วก็เหม่อลอยตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่อยู่กับหม่อมฉัน” ซาญ่าบอกตามตรง

ฮอรัสกลืนน้ำลาย รู้สึกผิดเล็กน้อยหากเบคเป็นแบบนั้นเพราะเค้าจริงๆ ก็ไม่ใคร่ดีนักหากได้ยินมันจากปากของซาญ่าเอง “โอ้” เทพแห่งท้องฟ้าเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะส่งเสียงออกมาเป็นเชิงว่าเสียใจด้วย

แต่ซาญ่ากลับยิ้มตอบแล้วส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้ทำให้นางติดใจอะไรเลย  สิ่งที่อยู่ในใจเบคนางมองออกตั้งแต่แรกเห็นเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งมีท่าทางเปลี่ยนไป “แล้วเค้ายังเอาแต่ค่อนค้อนถึงท่านอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย...”

“งั้นเหรอ?” ฮอรัสขมวดคิ้ว และนึกดีใจที่อีกฝ่ายเลิกใช้คำราชาศัพท์อ้อมค้อมแล้วสื่อความหายให้เข้าใจอย่างรวดเร็ว “เค้า...ค่อนค้อนข้า แม้ข้าจะไม่อยู่อย่างนั้นหรือ?”

“ชอบเอ่ยถึงพระองค์โดยไม่รู้ตัวด้วยเพคะ  บางครั้งต้องให้หม่อมฉันเป็นคนเตือนเสียด้วยซ้ำว่าอย่าเปรยถึงพระองค์ในทางไม่ดีบ่อยนัก” ฮอรัสหัวเราะในขณะที่ซาญ่าเริ่มใช้ปลายนิ้วถูผิวเล็บที่หัวแม่มือของตัวเอง  โอกาสนี้สำคัญที่สุดแล้ว  ใช่ นางรู้  นางรู้  อโนซิสให้เวลาน้อยและไม่คอยท่านักแต่การจะพูดเช่นนั้นมันก็ยากไม่หยอกอยู่เหมือนกัน

“...เอ่อ หม่อนฉันรู้มันอาจฟังดูแปลกพิกลแต่ว่า ฝ่าบาทหม่อมฉันคิดว่าเบคไม่ได้มีใจรักหม่อมฉันอีกต่อไปแล้ว” หญิงสาวรู้สึกเหมือนได้ขว้างพีระมิดออกจากอกและต่อมานางก็รู้สึกเหมือนจมอยู่ที่ก้นแม่น้ำไนล์แทน  เมื่อบุรุษผู้อยู่เหนือทุกคนนิ่งเงียบไปราวกับจะให้ซาญ่าพูดอะไรต่อเพื่อทำลายอาการนิ่งของเค้าไปด้วย  แต่จะให้พูดอะไรต่อเล่าในเมื่อนางก็รอคำโต้ตอบจากเค้าอยู่เช่นกัน

ข้าพูดอย่างนั้นออกไปดีหรือไม่นะ......ซาญ่าประวิงในใจ  ชั่วเสี้ยววินาทีนึกเข้าใจเช่นเดียวกับเบคว่าฮอรัสอาจไม่ได้มีใจเช่นที่อีกฝ่ายคอยหลบเลี่ยงอยู่บ่อยๆ จากการนิ่งเงียบเช่นนี้ก็เป็นได้

......แต่ไม่ใช่เลย เทพร่างสูงกลับโดนคำพูดนั้นฟาดเข้าอย่างจังที่หน้าอกและความรู้สึกยามเมื่อบอกลากับฮาทอร์หวนกลับมาอีกครั้งราวกับว่าเค้าได้โผบินกลับคืนสู่อียิปต์เพื่อมาหาเบคอีกครา ซึ่งช่วงเวลานั้นมันช่างพาให้หัวใจอันเฉื่อยชาของฮอรัสรู้สึกเป็นสุขได้อย่างน่าประหลาด คล้ายกับคนพเนจรหลงทางกลางทะเลทรายที่เจอโอเอซิส......

กระทั่งหญิงสาวผู้เป็นนางกำนันทำลายความเงียบได้สำเร็จ “พระองค์...ฝ่าบาท  เอ่อ ท่านฮอรัสเพคะ” ซาญ่าเอ่ยสะกิดทุกราชศัพท์กว่าจะได้ผล

โอรสแห่งโอซิริสถูกเรียกสติกลับมาและได้รับการยืนยันจากซาญ่าอีกครั้งหนึ่งว่านางไม่บังอาจล้อเล่นกับกษัตริย์เป็นแน่ อีกทั้งนางยังแน่ใจอีกด้วยว่าความอ้างว่างที่ทำให้เหม่อลอยไม่รู้สึกตัวของเบคนั้นเป็นเหตุว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงได้มีท่าทีหงุดหงิดใจใส่ฮอรัสนักทันทีที่กลับมาถึงบ้าน

ไปตายซะ!......เทพแห้งท้องนภานึกภาพอีกคนหนึ่งถลึงตาใส่พร้อมกับคำพูดไม่ระวังปากอย่างที่ชอบทำเวลาไม่สบอารมณ์ได้เลย  และเดาว่าเบคคงคิดแบบนั้นเช่นกันในตอนที่ตัวเค้าเค้นถามว่าเป็นอะไร ทำไมจึงได้โกรธเคืองกันนักหนา......ก็สมควรอยู่หรอก ฮอรัสลืมคิดถึงเรื่องการรอยคอยของเบคไปเสียสนิทเลย

“ข้าคงแย่มากสินะ ที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเค้าในช่วงเวลาที่แสนนานขนาดนั้น”

“เรียนพระองค์  ห้าปีในช่วงชีวิตของมนุษย์ไม่นานขนาดนั้นหรอกเพคะ หากแต่เพียงว่าเค้าไม่ได้รอพระองค์กลับมาด้วยความรู้สึกของสหาย  เบคทำหน้าเหมือนจะตายทุกครั้งที่เค้าถอนหายใจและพบว่าตัวเองต้องทำแบบนั้นต่อไปอีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด”

“เจ้ากำลังจะบอกอะไรข้างั้นหรือซาญ่า?” ฮอรัสรู้อยู่แล้วว่าการสนทนานี้ว่าด้วยหัวข้อเรื่องอะไร แต่การเปลี่ยนผันหัวใจของเบคอาจทำร้ายซาญ่าเช่นเดียวกับที่เค้าทำให้ฮาธอร์เป็นเช่นนั้น  ร่างสูงไม่แน่ใจนักว่าหญิงสาวตรงหน้าจะยอมรับมันได้

เบครักพระองค์เพคะ” นางกระซิบ สีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดแต่ทว่าไม่มีแววลังเลเลยราวกับว่านางรอที่จะพูดคำนี้มาทั้งชีวิต “จะว่าหม่อนฉันทูลอย่างไม่บังควรก็ได้แต่ว่าเค้าดูไม่ได้เป็นอื่นไปเลยจากที่...พระองค์ เอ่อ พระองค์  ท่านฮอรัส

“ฮอรัส...เอ่อ ฝ่าบาทจะเสด็จไปไหนหรือเพคะ ทุกอย่างพร้อมแล้ว...”

“ข้าไม่หิวอโนซิส  ขอโทษด้วยข้าเพิ่งรู้ตัวว่าอิ่มแล้ว” สุรเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกไป ฟังดูรีบเร่งทำให้ไม่ได้ควบคุมเสียงจนมันกังวานก้องไปทั่วทั้งห้องบรรทม  ซาญ่าที่เห็นฮอรัสผุดลุกขึ้นต่อหน้ามีอาการตื่นตกใจยิ่งกว่าอโนซิสเสียอีก เพราะไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันจนเป็นเหตุทำให้เทพร่างสูงพรวดพลาดออกไป มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่าฮอรัสจะไปไหน  แต่ทว่ากษัตริย์หนุ่มกลับเดินเลี่ยง  ไม่ได้เดินไปทางประตูหน้า

เหล่านางกำนันที่อยู่ใกล้ระเบียงต่างรีบรี่ถอยเมื่อฮอรัสเดินมาถึง  ก่อนพวกนางจะส่งเสียงอื้ออึงจนเกิดกลายเป็นความฮือฮา “เค้าจะบิน...ท่านฮอรัสกำลังจะบิน!” ด้วยความแตกตื่นพวกนางจึงเผลอพูดคำสามัญชนออกไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ทำให้ความตื่นตาของพวกนางลดน้อยลงเลย  เหล่านางกำนันที่หลีกทางให้เทพแห่งท้องฟ้าต่างมองภาพตรงหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่ง เนื่องจากไม่เคยได้เห็นการแปลงร่างกลับไปเป็นเทพเยี่ยงนี้มาก่อนเลยในชีวิต

อโนซิสรีบเดินตามมา หวังจะตามให้ทันและฉุดรั้งฮอรัสเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตาของนางไปได้ “ท่านจะบิน...” จะบินไปไหนอย่างนั้นหรือ  นางคงไม่มีโอกาสได้พูดประโยคนั้นต่อให้จบเสียแล้วกระมัง เพราะแรงลมที่กระพือพัดเข้ามาอย่างไม่เกรงใจนั้นได้ส่งตัวของเทพร่างสูงออกไปแล้วในตอนที่อโนซิสมาถึงพอดี

ไม่ทันเสียแล้ว  นางกำนันได้แต่มองและกระซิบใส่กันอย่างกล่าวขวัญถึงความสง่างามของเทพฮอรัส  อโนซิสทำได้เพียงแค่กดเสียงถอนหายใจของตนเองให้ฟังดูเบาที่สุด  ส่วนซาญ่านั้นนางยืนแตะมือไปที่เสาโอเบลิคก์มองดูภาพของชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ด่วนรี่หายไปบนท้องฟ้า เมื่อนางบอกว่าคนที่เป็นสหายหนุ่มของนางในตอนนี้ว้าวุ่นใจแค่ไหนเมื่อครั้งที่ร่างสูงไม่อยู่

“ขอให้เจ้าโชคดีเบคนะ  ข้าว่าข้าคงไม่พูดมากเกินไปหรอกสำหรับความปากแข็งเยี่ยงเด็กที่ไม่ยอมโตของเจ้า” หญิงสาวกระซิบ  กระแสลมจากปีกของฮอรัสพัดปอยผมของนางให้ปลิวประโลมผ่านแก้มไปแทนคำขอบคุณ  ซาญ่ายิ้ม รอเรื่องสนุกของเบคที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากที่นางได้ทำในส่วนของตัวเองแล้ว



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------------------------



ซาญ่าเป็นสาววาย!!  ยุคนั้นมีสาววายไหม?  //โดนต่อยหน้า//  55555 

คือใช่เลยค่ะ  การเชียร์แบบหัวเด็ดตีนขาดแบบนั้น แถมยังอมยิ้มกรุ่มกริ่มตอนที่ยกแฟนตัวเองให้ผู้ชายอีก(?)  นี่แหละค่ะอาการของสาววาย....ซาญ่าถือว่าเธอโชคดีมากเลยนะที่ได้รับการละเว้นให้ถ่ายทอดบทนี้จากไรท์  เพราะปรกติแม่หญิงทั้งหลายจะถูกไรท์ไล่ออกอย่างไม่ใยดีเลยค่ะ 55555  เธอได้อยู่ซาญ่าเธอได้อยู่ 55555  เพราะได้เล่นบทดันความรักของทั้งคู่

ฮอรัสไปแล้วค่ะ...ฮอรัสไปหาเบคแล้วค่ะรีดด >{}<  //ทำตัวดี๊ด๊า//  กรี๊ดดดดดด จะเกิดอะไรขึ้นน้า??  //อมยิ้มมองบน//  พ่อเทพสุดเซ็กซี่เปิดเผยมากเลยค่ะว่าคิดถึงเบคคค อร๊ายยยย....ไปหาเบคแล้วล่ะค่ะ >////<  ไรท์ไม่ใช่คนโหดร้ายกับเคะที่จะทำให้เค้าเจ็บเป็นครั้งที่สองทั้งๆ ที่แผลเก่ายังไม่หายหรอกนะคะ....อุ๊บบบบ!!  ง่างงง  ไม่ได้สปอยล์หรอกนะคะ ^^  คือ Part หน้าจะเป็นเยี่ยงไรรีดๆ ต้องลองคิดเล่นๆ กันรอก่อนแล้วล่ะค่ะ ><  

Part หน้าเป็นบทสรุปแล้วล่ะค่ะ...โอ่วววว ไม่น้าาา >0< ม่ายยย  ฮอรัสเบคน้อยอยู่กับเราก่อนนน  //เอื้อมมืออกไป//  รักรีดๆ นะคะ ^^  มาคุยกันได้ที่ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< ค่ะ  จิ้มโล้ดด

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund