ฮ่อลล สวัสดีค่ะ
รีดที่รักของไรท์ทุกๆ ท่าน T^T คือเกือบหายสาบสูญไปเลยอ่ะ ตอนแรกสารภาพเลยค่ะว่าเกือบลืมไปเลยว่าตัวเองจะต้องลง
Part นี้วันนี้ 55555
//โดนรีดโบกเข้าให้// งือออ
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วค่ะ ไรท์กำลังจิได้เป็นไทในช่วงเวลาสั้นๆ แล้ววววววว //ชูกำปั้น//
แต่มันต้องผ่านสงครามก่อนเราจะออกมาพักร้อนได้ //หน้าหนาวหนิ
ต้องพักหนาว.....อุบาทว์ไป -*-//
โอเคค่ะ เราก็มาถึงบทสรุปของ เอ่อ...ของ....(อุ) ของเรื่องราวที่เหมือนจะแสนหวานและน่ารักมากตอนเด็กๆ
แต่พอไปพอมากลับกลายเป็นความจริงของชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของทั้งคู่กันแล้วนะคะ.......ฮ่ะ! //สูดหายใจ
เมื่อกี้พูดยาวมากเลยค่ะ คืออารายยย//
คือเหมียวยังอยู่ดีเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ค่ะ แต่ชีวิตเฮียค่อนข้างหนักกว่าค่ะ
เลยเป็นอะไรที่ทำร้ายเหมียว....อุ๊บ!! อย่าสปอยล์!!
โอเคค่ะไปอ่านกันเลยค่ะ
ขืนอยู่นานกว่านี้ ไรท์ได้สปอยล์หมดแน่ๆ เลยค่ะ
ไม่ได้คุยกะรีดนาน 5555 โอเคค่า
ไว้เจอกันที่อีกฝั่งหนึ่งของ part ค่ะ
ฟิ้วววววววววววววว >3<
------------------------------------------------------------------------------------------
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เค้าจะได้กอดน้องชาย...
.
.
ช่วงบ่ายของวันต่อมา...
“ห๊ะ พี่คริสไปไหนนะครับ?!” เด็กชายตัวน้อยที่หนีบลูกบอลลูกเดิมมาในบ้านพี่ชายตัวแข็งอยู่ที่หน้าประตูแล้วกล่าวทวนคำอย่างไม่เชื่อหู
หลังจากที่คุณป้าบอกว่าอีกคนหนึ่งขึ้นเครื่องไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเพราะมีกำหนดการมาใหม่ หลังจากที่ร่างเล็กกลับบ้านไปเพียงไม่กี่นาทีนี่เอง
“อ้าว คริสยังไม่บอกลีโออีกเหรอ? ป้าก็นึกว่าล่ำลากันแล้วเสียอีก” หญิงที่กำลังถือผ้าชำรุดเพื่อซ่อมแซมอยู่มีสีหน้างุนงงก่อนเธอจะเปลี่ยนเป็นคิดถึงอย่างแสนเศร้า
ลูกบอลที่เหน็บอยู่ข้างเอวเล็กกลิ้งตกลงพื้น และหญิงเจ้าของบ้านก็รีบวิ่งกรูเข้าไปหาเด็กน้อยที่ร้องไห้จ้าโดยไม่มีสาเหตุอย่างกับเด็กๆ โดยกลายเป็นว่าแม่ของเจ้าตัวต้องมารับกลับบ้านเพราะเด็กน้อยโยเยเรียกหาแต่พี่ชายที่จากไปแล้วท่าเดียว
“ฮือออ พี่คริสไม่บอกผมเลยสักคำ อึก ฮึก พี่คริสโกหกผม...ฮืออ ทำไมพี่คริสไม่บอกโผมม ฮาา ทำไมล่ะฮะคุณป้า ทำไมอ่า ทำมายย” เมสซี่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมฟังใครทั้งสิ้น จนกระทั่งเริ่มหมดแรงแล้วก็เบาเสียงร้องลงเอง ผู้หญิงทั้งสองอธิบายให้ฟังว่าโรนัลโด้จะต้องไปเพราะหน้าที่ ทำในสิ่งที่เค้ารักให้ประสบความสำเร็จสูงสุดซึ่งมันมากเกินกว่าที่เด็กหนุ่มคนไหนจะคาดฝันถึง แม่บอกเมสซี่ว่าถ้าอยากเจอพี่ชายอีกครั้งก็ต้องตั้งใจเล่นให้เก่งๆ
เหมือนเค้าจะได้เจอกันในสักวันหนึ่ง
“อึก..ฮะ ผมจะเล่นให้เก่งๆ...ฮึก...แล้วไปเตะกับพี่คริส”
เมสซี่หมายความว่าสักวันหนึ่งหากโชคดี เค้าทั้งสองอาจจะได้เตะฟุตบอลด้วยกัน
“ผมจะไปเตะพี่คริสครับ...ฮึก...พี่คริสบ้าา! จะเก่งกว่าพี่คริสให้ได้เลยคอยดู”
และหลังจากนั้น เด็กชายที่เติบโตเป็นเด็กหนุ่มก็มุ่งหวังกับการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก จนสโมสรดังๆ ซื้อตัวไปเล่นจนมีชื่อเสียงขึ้นมาแต่เค้าก็ยังแวะเวียนกลับมาเยี่ยมเยือนที่บ้านบ่อยๆ
เพื่อหวังว่าอาจจะโชคดีได้พบกับพี่ชายที่มาเยี่ยมคุณป้าบ้าง แต่หลังจากที่ตระเวนแข่งกับต่างสโมสรจนรู้สึกว่าไม่มีอีกแล้วร่างเล็กก็เริ่มท้อใจ คิดสงสัยว่าโรนัลโด้ถูกหลอกไปขายเป็นแรงงานเถื่อนเหมือนอย่างที่คุณพ่อเคยหลอกเอาไว้หรือเปล่านะ ไม่เคยเห็นหน้าของอีกฝ่ายเลยตลอดหลายปีมานี้
แต่ตอนนี้พี่น้องทุกคนของอีกฝ่ายหนึ่งก็กลับมาอยู่บ้านหลังเดิมที่ถูกสร้างใหม่จนใหญ่โตผิดหูผิดตา
เรียกได้ว่าดูดีกว่าบ้านในย่านนี้หลายเท่าตัวนัก
ทุกคนดูมีความสุขดีกับคุณป้าที่ดูดีขึ้นจากเมื่อหลายปีก่อน เมสซี่มองเห็นคนเหล่านั้น เห็นความสุขของคุณป้าผู้แสนจะใจดีที่มีเหล่าลูกๆ
มาอยู่รวมกัน หางานดีๆ ทำและลงหลักปักฐานอย่างหมั่นคง เมสซี่ยินดีด้วยเมื่อเห็นทุกคนมีความสุข...ทุกคน ยกว้นโรนัลโด้ที่เค้าไม่เคยเห็นหน้าอีกคนหนึ่งเลยนับจากตอนนั้น
หรือบางทีโรนัลโด้อาจไปเจอผู้หญิงสวยๆ
แล้วใช้ชีวิตกินอยู่กันไปแล้วและลืมคนที่รออยู่ทางนี้แล้วก็ได้
ชุมชนที่มองไปทางไหนก็พบแต่ความทรงจำอันแสนจะยากลำบากตั้งแต่เด็กๆ
โรนัลโด้คงจะไม่อยากมาที่นี่แล้วนึกถึงมันเป็นแน่
ไม่ ถ้าเป็นเค้าก็คงไม่อยากจะคิดถึงมันเหมือนกัน ไม่อยากเห็นเลยทุกๆ อย่าง รวมทั้งผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย พี่ชายคนนั้นจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว
เมสซี่เริ่มหมดหวัง และยังคงหวังที่จะเจอโรนัลโด้ต่อไปอย่างหม่นหมอง กี่ปีกันแล้วที่เจ้าตัวเฝ้าตามหา สิบปีมันฟังดูนาน...ใช่ มันก็นานมากจริงๆ แต่มันก็เป็นสิบปีที่เมสซี่ไม่เคยเลยที่จะไม่คิดถึงพี่ชายและมีความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะเจอเข้าสักวัน แต่สิบปีมาแล้ว...สิบปีเลยเชียวนะ
************************************************************************
เมสซี่อายุครบยี่สิบหกเมื่อสามเดือนก่อน...
“ทำไมถึงถอนหายใจบ่อยนักล่ะลูก?”
“อะ เอ่อ เปล่าครับแม่ ผมแค่...แค่รู้สึกเบื่อๆ น่ะครับ”
คนเป็นแม่ท้าวค้างแล้วยิ้มให้ลูกชายอย่างรู้กัน
“แล้วสาวอันโตเนลล่าคนนั้นล่ะ หืม?”
เมสซี่ชะงักแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“เราเลิกกันแล้วน่ะครับ ผมคิดว่าเธอควรอยู่กับผู้ชายที่มีเวลาให้เธอมากกว่าผม”
“โถ่ ลูกรัก ก็เราเล่นลงเตะมันทุกงานเลยนี่นาแม่ก็บอกแล้วว่าให้เพลาๆ
ลงบ้าง” แม่เดินเข้ามาแล้วประคองดวงหน้าขาวใสไม่ต่างจากตอนเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ไว้ราวกับว่าเมสซี่ยังเป็นเพียงเมสซี่ตัวเล็กๆ
เมื่อยี่สิบปีก่อนและมันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย คู่สนทนาพยายามบอกว่าเรื่องแบบนั้นมันทำไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ของเค้าที่ต้องลงแข่งขัน แต่ดวงตาที่ปิดบังและมีเรื่องไม่สบายใจก็ยังคงฉายชัดอยู่ดี
“ถ้าเราจะบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาก็อย่าถอนหายใจใส่แม่แล้วพูดว่าเบื่อแบบนี้สิ”
เธอมองลึกลงเข้าไปในดวงตาของลูกชายแล้วแย้มยิ้มราวกับว่าคนเป็นแม่อ่านออกพร้อมทั้งเข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้
เมสซี่ถอนหายใจออกมาอีกแต่คราวนี้ระบายยิ้มออกมาด้วย เค้ากอดแม่และจูบแก้มก่อนจะออกมาเดินเตร็ดเตร่นอกบ้าน
ดั่งเช่นที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ
*************************************************************************
“เฮ้ นี่นายแน่ใจเหรอว่าทางนี้น่ะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ถูกชัวร์”
“นี่ๆ หายไปสิบกว่าปีก็ใช่ว่าทางมันจะเหมือนเดิมนะ”
“พวกนายจะท้วงอะไรกันนักหนาเนี่ยห๊ะ...ไม่เชื่อให้ฉันหลับตาขับให้ดูเลยก็ได้เอ้า”
เค้าหลับตา แล้วรถก็ขับเบี้ยว
“เฮ้ยยย!! เชื่อแล้ว!
เชื่อแล้วโว้ยย อย่าหลับตาสิคริส! เราเชื่อนายแล้วว ลืมตาสิโว้ยยย!” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหลังบีบคอเขย่าเพื่อนคนขับที่ทำทีแกล้งแรงๆ
ร่างสูงเจ้าของรถหัวเราะขำก่อนจะยอมขับตามปรกติแต่โดยดี ยอมรับว่ารำคาญไม่น้อยที่เพื่อนจอมจุ้นทีมเดียวกันขอติดสอยห้อยตามมาด้วยเค้าเลยไม่สามารถนำรถสปอร์ตคันเก่งของตัวเองมาได้
เลยทำให้ต้องเอารถที่นั่งโดยสารพอดีกับจำนวนคนมาแทน
ฉันรีบกลับบ้านแทบตาย แต่พวกนายดันมาคอยกวนใจฉัน น่าเบื่อชะมัด...โรนัลโด้กลอกตาขึ้นฟ้า แต่เสียงเอะอะพลางกล่าววิจารณ์ของเพื่อนก็ดังโหวกเหวกตลอดทาง
ไม่เกรงใจคนที่ถูกรบกวนอย่างร่างสูงเจ้าของรถเลย
เท่าที่โรนัลด้จำได้ บ้านเปลี่ยนไปมาก และตัวเค้าเองก็เช่นกันตอนอายุสิบห้าที่เริ่มจากมาเค้าเป็นเพียงเด็กหนุ่มตัวผอมแห้งหน้ากร้านแดดเปื้อนสิวที่มีเพียงฟุตบอลติดตัวเหมือนคนอื่นๆ
เท่านั้นแต่ว่าชายหนุ่มต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพในการเล่นกีฬาให้มากยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีวินัยอย่างมากเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ
จนกระทั่งเวลาผ่านไปโรนัลโด้ก็ได้รับการยอมรับและมีฝีมือ ทักษะการเล่นอันเป็นที่โจษจันอย่างเลืองลือ แต่ทว่าเค้ากลับเอาแต่เก็บตัวเงียบ
ไม่เปิดเผยชื่อเสียงเพื่อเฝ้ามองชื่อเสียงอันโด่งดังของคนๆ
หนึ่งมาโดยตลอดตั้งแต่ได้ยินข่าวคราว...
โรนัลโด้คอยเฝ้ามองเด็กน้อยที่เคยวิ่งตามและเรียกหาเค้าอยู่ตลอดเวลา
น้องชายตัวน้อยที่แสนจะน่ารักและไม่ต้องแปลกใจเลย
ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่...ลีโอตัวน้อยของเค้า
“นี่
ถ้าพวกนายไม่หุบปากและทำน้ำอัดลมหกใส่รถฉันล่ะก็ ฉันจะถีบพวกนายลงซะตรงนี้แล้วปล่อยให้โบกรถกลับสเปนเองไปเลย”
เจ้าของรถที่สวมแว่นดำพูดเป็นคำสุดท้ายก่อนเค้าจะบอกตัวเองว่าควรทำแบบนี้มาตั้งแต่ไมล์แรกที่ออกมาแล้ว
ใช้เวลาเพียงไม่นาน รถยนต์ที่ดูผิดหูผิดตากับคนในพื้นที่ก็มาจอดอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งเพราะมีผู้โดยสารประท้วงมาว่าปวดฉี่ มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้ออกมายืดเส้นยืดสาย โรนัลโด้ซื้อน้ำออกมาดื่มอยู่ด้านนอกของร้าน หันหลังให้ผู้คนซึ่งเดินไปเดินมาทั้งที่พยายามและไม่พยายามมองว่าพวกเค้าเป็นใคร
การมาเยือนครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีนี้ร่างสูงตั้งใจมาเยี่ยมครอบครัวกับลบคำสบประมาทของเพื่อนๆ
ที่เคยว่าเค้าไว้ในตอนเด็ก
และเหนือสิ่งอื่นใดโรนัลโด้กลับมาหาน้องชายที่เค้าใจร้ายใส่ได้ลงคอเมื่อครั้งที่จากกัน ไม่แม้แต่จะบอกอีกฝ่ายว่าจะต้องจากกันนานถึงเพียงนี้
“ลีโอ” ร่างสูงไม่รู้แม้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเอ่ยชื่อนั้นหลุดรอดออกมา ถึงแม้บ้านของเมสซี่จะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้แต่ใจของเค้าก็ล่องลอยไปรอท่าถึงที่อยู่แล้ว สายลมที่พัดโชยอ่อนๆ พัดพาเอากลิ่นอายที่คุ้ยเคยมาหวนให้คิดถึงอีกครั้งจนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะหันกายไปรอบๆ
เพื่อซึมซับความทรงจำในวันเยาว์อีกครั้ง เค้าหลับตา ผ่านถนนสายเก่าที่เคยส่งหนังสือพิมพ์ ผ่านบ้านหลังเก่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านแห่งนี้ ผ่านรั้วสีขาวที่เค้าเคยเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆ และผ่านชายหนุ่มที่ยืนอมไอศกรีมรสนมสตอว์เบอร์รี่อยู่หน้าร้านซูปเปอร์มาร์เก็ต
โรนัลโด้สิ้นสุดการหมุนเพียงเท่านั้น และยืนประจันหน้ากับคนที่มือหนึ่งถือไอศกรีม
อีกมือหนึ่งก็กำลังหย่อนซองพลาสติกลงถังขยะไปด้วย และดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตสีเดียวกันกับเค้าก็จ้องมาราวกับโดนสาปให้แข็ง
โรนัลโด้แข็งไปด้วย
ยืนมองคนที่อมไอศกรีมเหมือนเด็กๆ
ชายหนุ่มผิวขาวสะอาดคนนั้นเอาไอศกรีมออกจากปาก กระพริบตาที่จ้องเค้าสองสามทีราวกับจำผิดคนแล้วกลืนน้ำหวานๆ
รสนมสตอว์เบอร์รี่ลงคอ คนๆ นั้นดูไม่แน่ใจ
และโรนัลโด้เองก็เช่นกัน...
“ลีโอ” แต่ถึงอย่างไร
ปากของเค้ามันก็พูดออกไปแล้ว
ถึงแม้จะไม่ใคร่แน่ใจนักแต่ว่าเค้าก็ค่อนข้างจำได้ ดวงตากลมโตนั้นที่เหลือบมองอย่างดูออดอ้อน...เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
อีกฝ่ายหนึ่งยื่นไอศกรีมออกห่างจากตัวอย่างช้าๆ
“พี่คริส...” เสียงเบาหวิวนั้นเบากว่าของโรนัลโด้มาก แต่เพียงไม่นานเท่านั้นเมสซี่ก็ทิ้งไอศกรีมแท่งนั้นแล้ววิ่งเข้าไปหาโรนัลโด้ ก่อนจะโถมกอดพี่ชายที่รวบตัวเข้าไปกอดอย่างแนบแน่นเช่นเดียวกัน
เค้าแน่ใจแล้วว่าใครอยู่ตรงหน้า มั่นใจอย่างที่สุดแล้วว่าใครบีบกายร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเค้าในตอนนี้ ไม่เคยต่างจากเดิมเลย น้องชายตัวน้อยของเค้าเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เส้นผมที่นุ่มลื่นราวกับเส้นไหมนี้ ผิวนุ่มลื่นที่โรนัลโด้ไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดจึงได้น่าสัมผัสขนาดนี้ และความคุ้นเคยที่ไม่มีอะไรมาขว้างกั้นนี้ ไม่มีสิ่งใดเลยที่เค้าจะจำไม่ได้ กลิ่นเสื้อผ้าเมื่อครั้งเมสซี่ยังเด็กๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม
ทั้งสองกอดรัดกันราวกับหากปล่อยอ้อมกอดนี้ไปจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล ความรู้สึกตลอดระยะเวลาสิบสามปีที่สะสมของเมสซี่ถูกฉีกกระชากให้กระจายออกเดี๋ยวนั้นนี่เอง โดยมีอ้อมแขนอันอบอุ่นที่แข็งแรงกำยำขึ้นผิดจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนเป็นที่พักพิง
แต่ถึงจะเปลี่ยนแปลงไป กระนั้นความรู้สึกที่พร้อมจะมอบทุกอย่างให้ร่างเล็กก็ไม่ได้จางหายไปเลยแม้แต่น้อย
พี่คริสยังคงเป็นพี่คริสคนเดิมที่พร้อมจะโอบอุ้มร่างเล็กเอาไว้ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี
และลีโอก็ยังคงเป็นลีโอคนเดิมที่ขี้แยไม่หาย...
“พี่ขอโทษลีโอ พี่ขอโทษที่ทิ้งไป” โรนัลโด้รู้ว่าเสียงตัวเองฟังดูสั่นเครือ แต่เสียงสะอื้นที่ไม่ปกปิดของน้องชายก็ดังยิ่งกว่า เมสซี่ร้องไห้และร้องไห้อีก บอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรที่พี่ชายกลับมาได้เสียที จะดีใจดีไหมที่ได้เจอกัน แต่ทว่าก็โกรธที่อีกฝ่ายหายหน้าหายตาไปไม่ยอมบอกสักคำ ความน้อยใจ
อายที่ร้องไห้ ไม่พอใจ โล่งใจที่ได้เจอและไม่ตาย ทุกอย่างหมุนวนผสมกันอยู่อย่างแยกไม่ออก
“อึก...ผม ผมคิดถึงพี่” ร่างเล็กส่งเสียงอู้อี้แต่ฟังออกได้อย่างชัดเจน
“ผมตามหาพี่..ฮะ ฮึก...ผมไม่อยากให้พี่หายไป”
“พี่ขอโทษลีโอ ขอโทษจริงๆ พี่เองก็ไม่อยากให้ลีโอต้องมาเสียใจแต่...”
เค้ารู้ว่ามันเลี่ยงไม่ได้ “...มันเลี่ยงไม่ได้” ใช่ นั่นแหละถูกต้องแล้ว
“ทำไมพี่ถึงไม่ยอมบอกผม” เมสซี่เช็ดหน้ากับเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบแต่พอดีตัวของโรนัลโด้
น้ำเสียงฟังดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
“เพราะมันจะทำให้ลีโอเป็นแบบนี้ไง”
ร่างสูงลูบกลุ่มผมนุ่มมือน่าหลงใหลนั้นอย่างปลอบประโลม แต่เพราะวันนั้นกำหนดการถูกเลื่อนเข้ามาเร็วขึ้นจึงยังไม่มีแม้แต่เวลาที่จะโทรไป
เมสซี่ผละออกมาจากการกอดพี่ชายแล้วเตะเข้าที่หน้าแข้งของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย! ลีโอทำอะไรเนี่ยพี่เจ็บนะ”
โรนัลโด้กุมหน้าแข้งตัวเองพลางโดดโหย่งๆ แล้วมองหน้าอีกคนหนึ่งอย่างไม่เข้าใจ ก่อนเมสซี่จะบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เค้าสมควรโดนแล้ว ใบหน้ายามแง่งอนของร่างเล็กก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย โรนัลโด้มองน้องชายที่ตอนนี้โตจนผิดไปจากเดิมลิบลับแล้วยิ้มออกมา
“โทษที” เค้าไม่ได้เตรียมตัวมาพูดคำนี้แต่ว่าก็ไม่มีอะไรที่จะอธิบายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ร่างสูงขยับเข้าไปกอดร่างเล็กที่หน้ายู่น้ำตานองหน้า
กดศีรษะหอมนุ่มที่คอยซบบ่าของเค้าอยู่ตลอดเวลาเมื่อสิบกว่าปีก่อนเอาไว้
และใช่ว่าโรนัลโด้จะไม่รู้ว่าเมสซี่ดีใจแค่ไหนที่ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ใบหน้ายู่ยี่แบบเมื่อครู่นี้ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างเล็กเท่านั้น แต่แรงกอดที่ตอบกลับมากลับแรงขึ้นทุกขณะราวกับว่าเมสซี่ร้องไห้อีกรอบหนึ่งไปด้วย และใช่
จากนี้เค้าคงจะต้องมีเรื่องหลายอย่างที่อยากจะเล่าให้น้องชายฟังเป็นแน่ โรนัลโด้รอมานานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งขอโทษ
ทั้งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย
และเพื่อกลับมากอดร่างเล็กนี้อีกครั้งหนึ่ง โรนัลโด้ยิ้มแล้วจูบลงไปที่กลุ่มผมนุ่มลื่น
“พี่กลับบ้านแล้ว”
.
.
.
FIN.
“เฮ้ย นั่นใครอ่ะ?”
“ก็คริสไง”
“มายช่ายย คนนั่นน่ะที่กอดอยู่กะคริสน่ะ”
“เฮ้ย นั่นเมสซี่ไม่ใช่เรอะ!”
“เวรเถอะ เค้าไม่ได้กอดกัน
กำลังจะฆ่ากันรึเปล่าว่ะนั่น”
“ไอ้บ้า เค้าจะมาฆ่ากันเรื่องอะไร”
“ก็เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เชื่อเหอะ พนันได้เลย สองคนนี้ป้ะหน้ากันต้องไม่ลงรอยกันชัวร์”
“คนแพ้ต้องแก้ผ้าโชว์ปิกาจูรอบเมืองนะโว้ย”
“แหม่ เซ้นฉันมันจะไปผิดอะไรเล่า!”
และหลังจากที่โรนัลโด้พาเมสซี่มาให้เพื่อนๆ
รู้จัก เห็นทีวันนี้จะต้องมีคนแก้ผ้าเดินรอบเมืองเป็นแน่.
-----------------------------------------------------------------------------------------
คือเฮีย! หนูนึกว่าเฮียจะถูกหลอกไปขายจริงๆ
ซะแล้วนะเนี่ยยย เหมียวก็กลัวด้วยเหมือนกัน เล่นหายไปสิบสามปี
เฮียคิดอะไรของเฮียอยู่เนี่ยย!! เหมียวของหนู //โดนฟาดที่หัว//...ของเฮีย
เหมียวของเฮียร้องไห้คิดถึงเฮียทุกวันเลยรู้ไหมคะ? นิสัยไม่ดีอย่างนี้สมควรโดนเหมียวเตะค่ะ
คือตอนท้ายจะติดเศร้าเฉยเลยค่ะ แต่เฮียก็กลับมาแล้ว กลับมาหาน้องชายตัวน้อยของเฮียค่ะ ฮ่อลลลลล
ไรท์ชอบจังเลยค่ะที่เฮียกอดเหมียวแล้วก็บอกว่า “พี่กลับบ้านแล้ว”
ให้ความรู้สึกเหมือนหนังตอนจบ แล้วดนตรีขึ้นหนึ่งจังหวะก่อนไตเติ้ลจบจะขึ้นค่ะ
55555555 คิดไปนั่น
เป็นยังไงกันบ้างล่ะคะสำหรับฟิคเฮียเหมียวเล็กๆ
น้อยๆ ที่ปล่อยออกมาให้หายคิดถึงทั้งคู่กัน
แต่ไรท์รู้ดีค่ะว่าหลายๆ ท่านคงกำลังรอคอย Falling In Love Again ภาค
3 กันอยู่ 5555555!! ยังไม่ได้แพลนอะไรเลยค่ะสารภาพ!
แต่อย่าเพิ่งตบไรท์นะคะ
ความเครียดจากงานเขียนและการบ้าน งานสอบที่เยอะมากเกินไปทำให้ไรท์เขียนออกมาได้ไม่ดีค่ะ มันไม่ดีต่อฟิคที่กำลังจะเขียนออกมาค่ะ ไรท์เลย Let it go //โดนรีดแทง// พอถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วก็จะออกมาให้รีดๆ ได้หายคิดถึงกันแน่นอนเลยค่ะ
><
ช่วงนี้ไรท์แจกการ์ดปีใหม่อยู่นะคะ
ยังเปิดรับรายชื่ออยู่ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันที่ 16 ธันวาคมเลยนะคะ มาร่วมสนุกกันเยอะๆ นะเออ แวะไปหาไรท์ที่เฟสของไรท์ ส่งชื่อที่อยู่
ชื่อเล่นภาษาไทย-อังกฤษมาที่แชทของไรท์แล้วรอรับการ์ดขอบคุณ+ปีใหม่ที่บ้านเลยค่าาา
Facebook >>
แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด
แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะค้าาา
สำหรับวันนี้สวัสดีค้า และขอบคุณมากๆ เลยค่ะ >< รักทูกโคนนนนะเออ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund