วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF - RonalSi] + [Part 3...END] My Boy – Ronaldo x Messi





ฮ่อลล สวัสดีค่ะ รีดที่รักของไรท์ทุกๆ ท่าน T^T  คือเกือบหายสาบสูญไปเลยอ่ะ  ตอนแรกสารภาพเลยค่ะว่าเกือบลืมไปเลยว่าตัวเองจะต้องลง Part นี้วันนี้ 55555  //โดนรีดโบกเข้าให้//   งือออ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วค่ะ ไรท์กำลังจิได้เป็นไทในช่วงเวลาสั้นๆ แล้ววววววว  //ชูกำปั้น//  แต่มันต้องผ่านสงครามก่อนเราจะออกมาพักร้อนได้ //หน้าหนาวหนิ ต้องพักหนาว.....อุบาทว์ไป -*-//

โอเคค่ะ  เราก็มาถึงบทสรุปของ เอ่อ...ของ....(อุ) ของเรื่องราวที่เหมือนจะแสนหวานและน่ารักมากตอนเด็กๆ แต่พอไปพอมากลับกลายเป็นความจริงของชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของทั้งคู่กันแล้วนะคะ.......ฮ่ะ! //สูดหายใจ เมื่อกี้พูดยาวมากเลยค่ะ  คืออารายยย//  คือเหมียวยังอยู่ดีเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ค่ะ  แต่ชีวิตเฮียค่อนข้างหนักกว่าค่ะ เลยเป็นอะไรที่ทำร้ายเหมียว....อุ๊บ!! อย่าสปอยล์!!  

โอเคค่ะไปอ่านกันเลยค่ะ ขืนอยู่นานกว่านี้ ไรท์ได้สปอยล์หมดแน่ๆ เลยค่ะ  ไม่ได้คุยกะรีดนาน 5555   โอเคค่า ไว้เจอกันที่อีกฝั่งหนึ่งของ part ค่ะ   ฟิ้วววววววววววววว >3<



------------------------------------------------------------------------------------------



คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เค้าจะได้กอดน้องชาย...



.




.




ช่วงบ่ายของวันต่อมา...

“ห๊ะ พี่คริสไปไหนนะครับ?!” เด็กชายตัวน้อยที่หนีบลูกบอลลูกเดิมมาในบ้านพี่ชายตัวแข็งอยู่ที่หน้าประตูแล้วกล่าวทวนคำอย่างไม่เชื่อหู หลังจากที่คุณป้าบอกว่าอีกคนหนึ่งขึ้นเครื่องไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเพราะมีกำหนดการมาใหม่  หลังจากที่ร่างเล็กกลับบ้านไปเพียงไม่กี่นาทีนี่เอง

“อ้าว  คริสยังไม่บอกลีโออีกเหรอ?  ป้าก็นึกว่าล่ำลากันแล้วเสียอีก” หญิงที่กำลังถือผ้าชำรุดเพื่อซ่อมแซมอยู่มีสีหน้างุนงงก่อนเธอจะเปลี่ยนเป็นคิดถึงอย่างแสนเศร้า

ลูกบอลที่เหน็บอยู่ข้างเอวเล็กกลิ้งตกลงพื้น  และหญิงเจ้าของบ้านก็รีบวิ่งกรูเข้าไปหาเด็กน้อยที่ร้องไห้จ้าโดยไม่มีสาเหตุอย่างกับเด็กๆ  โดยกลายเป็นว่าแม่ของเจ้าตัวต้องมารับกลับบ้านเพราะเด็กน้อยโยเยเรียกหาแต่พี่ชายที่จากไปแล้วท่าเดียว

“ฮือออ  พี่คริสไม่บอกผมเลยสักคำ  อึก ฮึก  พี่คริสโกหกผม...ฮืออ  ทำไมพี่คริสไม่บอกโผมม  ฮาา ทำไมล่ะฮะคุณป้า ทำไมอ่า ทำมายย” เมสซี่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมฟังใครทั้งสิ้น  จนกระทั่งเริ่มหมดแรงแล้วก็เบาเสียงร้องลงเอง  ผู้หญิงทั้งสองอธิบายให้ฟังว่าโรนัลโด้จะต้องไปเพราะหน้าที่  ทำในสิ่งที่เค้ารักให้ประสบความสำเร็จสูงสุดซึ่งมันมากเกินกว่าที่เด็กหนุ่มคนไหนจะคาดฝันถึง  แม่บอกเมสซี่ว่าถ้าอยากเจอพี่ชายอีกครั้งก็ต้องตั้งใจเล่นให้เก่งๆ เหมือนเค้าจะได้เจอกันในสักวันหนึ่ง

“อึก..ฮะ ผมจะเล่นให้เก่งๆ...ฮึก...แล้วไปเตะกับพี่คริส” เมสซี่หมายความว่าสักวันหนึ่งหากโชคดี เค้าทั้งสองอาจจะได้เตะฟุตบอลด้วยกัน

“ผมจะไปเตะพี่คริสครับ...ฮึก...พี่คริสบ้าา! จะเก่งกว่าพี่คริสให้ได้เลยคอยดู”

และหลังจากนั้น  เด็กชายที่เติบโตเป็นเด็กหนุ่มก็มุ่งหวังกับการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก  จนสโมสรดังๆ ซื้อตัวไปเล่นจนมีชื่อเสียงขึ้นมาแต่เค้าก็ยังแวะเวียนกลับมาเยี่ยมเยือนที่บ้านบ่อยๆ เพื่อหวังว่าอาจจะโชคดีได้พบกับพี่ชายที่มาเยี่ยมคุณป้าบ้าง  แต่หลังจากที่ตระเวนแข่งกับต่างสโมสรจนรู้สึกว่าไม่มีอีกแล้วร่างเล็กก็เริ่มท้อใจ  คิดสงสัยว่าโรนัลโด้ถูกหลอกไปขายเป็นแรงงานเถื่อนเหมือนอย่างที่คุณพ่อเคยหลอกเอาไว้หรือเปล่านะ  ไม่เคยเห็นหน้าของอีกฝ่ายเลยตลอดหลายปีมานี้

แต่ตอนนี้พี่น้องทุกคนของอีกฝ่ายหนึ่งก็กลับมาอยู่บ้านหลังเดิมที่ถูกสร้างใหม่จนใหญ่โตผิดหูผิดตา เรียกได้ว่าดูดีกว่าบ้านในย่านนี้หลายเท่าตัวนัก  ทุกคนดูมีความสุขดีกับคุณป้าที่ดูดีขึ้นจากเมื่อหลายปีก่อน  เมสซี่มองเห็นคนเหล่านั้น  เห็นความสุขของคุณป้าผู้แสนจะใจดีที่มีเหล่าลูกๆ มาอยู่รวมกัน  หางานดีๆ ทำและลงหลักปักฐานอย่างหมั่นคง  เมสซี่ยินดีด้วยเมื่อเห็นทุกคนมีความสุข...ทุกคน  ยกว้นโรนัลโด้ที่เค้าไม่เคยเห็นหน้าอีกคนหนึ่งเลยนับจากตอนนั้น

หรือบางทีโรนัลโด้อาจไปเจอผู้หญิงสวยๆ แล้วใช้ชีวิตกินอยู่กันไปแล้วและลืมคนที่รออยู่ทางนี้แล้วก็ได้  ชุมชนที่มองไปทางไหนก็พบแต่ความทรงจำอันแสนจะยากลำบากตั้งแต่เด็กๆ โรนัลโด้คงจะไม่อยากมาที่นี่แล้วนึกถึงมันเป็นแน่  ไม่ ถ้าเป็นเค้าก็คงไม่อยากจะคิดถึงมันเหมือนกัน  ไม่อยากเห็นเลยทุกๆ อย่าง  รวมทั้งผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย  พี่ชายคนนั้นจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว


เมสซี่เริ่มหมดหวัง  และยังคงหวังที่จะเจอโรนัลโด้ต่อไปอย่างหม่นหมอง  กี่ปีกันแล้วที่เจ้าตัวเฝ้าตามหา  สิบปีมันฟังดูนาน...ใช่ มันก็นานมากจริงๆ แต่มันก็เป็นสิบปีที่เมสซี่ไม่เคยเลยที่จะไม่คิดถึงพี่ชายและมีความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะเจอเข้าสักวัน  แต่สิบปีมาแล้ว...สิบปีเลยเชียวนะ



************************************************************************



เมสซี่อายุครบยี่สิบหกเมื่อสามเดือนก่อน...

“ทำไมถึงถอนหายใจบ่อยนักล่ะลูก?”

“อะ เอ่อ เปล่าครับแม่  ผมแค่...แค่รู้สึกเบื่อๆ น่ะครับ”

คนเป็นแม่ท้าวค้างแล้วยิ้มให้ลูกชายอย่างรู้กัน “แล้วสาวอันโตเนลล่าคนนั้นล่ะ หืม?”

เมสซี่ชะงักแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เราเลิกกันแล้วน่ะครับ  ผมคิดว่าเธอควรอยู่กับผู้ชายที่มีเวลาให้เธอมากกว่าผม”

“โถ่ ลูกรัก ก็เราเล่นลงเตะมันทุกงานเลยนี่นาแม่ก็บอกแล้วว่าให้เพลาๆ ลงบ้าง” แม่เดินเข้ามาแล้วประคองดวงหน้าขาวใสไม่ต่างจากตอนเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ไว้ราวกับว่าเมสซี่ยังเป็นเพียงเมสซี่ตัวเล็กๆ เมื่อยี่สิบปีก่อนและมันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย  คู่สนทนาพยายามบอกว่าเรื่องแบบนั้นมันทำไม่ได้  มันเป็นหน้าที่ของเค้าที่ต้องลงแข่งขัน แต่ดวงตาที่ปิดบังและมีเรื่องไม่สบายใจก็ยังคงฉายชัดอยู่ดี

“ถ้าเราจะบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาก็อย่าถอนหายใจใส่แม่แล้วพูดว่าเบื่อแบบนี้สิ” เธอมองลึกลงเข้าไปในดวงตาของลูกชายแล้วแย้มยิ้มราวกับว่าคนเป็นแม่อ่านออกพร้อมทั้งเข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้  เมสซี่ถอนหายใจออกมาอีกแต่คราวนี้ระบายยิ้มออกมาด้วย เค้ากอดแม่และจูบแก้มก่อนจะออกมาเดินเตร็ดเตร่นอกบ้าน  ดั่งเช่นที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ


*************************************************************************


“เฮ้ นี่นายแน่ใจเหรอว่าทางนี้น่ะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ  ถูกชัวร์”

“นี่ๆ หายไปสิบกว่าปีก็ใช่ว่าทางมันจะเหมือนเดิมนะ”

“พวกนายจะท้วงอะไรกันนักหนาเนี่ยห๊ะ...ไม่เชื่อให้ฉันหลับตาขับให้ดูเลยก็ได้เอ้า” เค้าหลับตา แล้วรถก็ขับเบี้ยว

“เฮ้ยยย!! เชื่อแล้ว! เชื่อแล้วโว้ยย อย่าหลับตาสิคริส! เราเชื่อนายแล้วว  ลืมตาสิโว้ยยย!” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหลังบีบคอเขย่าเพื่อนคนขับที่ทำทีแกล้งแรงๆ

ร่างสูงเจ้าของรถหัวเราะขำก่อนจะยอมขับตามปรกติแต่โดยดี  ยอมรับว่ารำคาญไม่น้อยที่เพื่อนจอมจุ้นทีมเดียวกันขอติดสอยห้อยตามมาด้วยเค้าเลยไม่สามารถนำรถสปอร์ตคันเก่งของตัวเองมาได้ เลยทำให้ต้องเอารถที่นั่งโดยสารพอดีกับจำนวนคนมาแทน

ฉันรีบกลับบ้านแทบตาย แต่พวกนายดันมาคอยกวนใจฉัน  น่าเบื่อชะมัด...โรนัลโด้กลอกตาขึ้นฟ้า  แต่เสียงเอะอะพลางกล่าววิจารณ์ของเพื่อนก็ดังโหวกเหวกตลอดทาง   ไม่เกรงใจคนที่ถูกรบกวนอย่างร่างสูงเจ้าของรถเลย

เท่าที่โรนัลด้จำได้ บ้านเปลี่ยนไปมาก  และตัวเค้าเองก็เช่นกันตอนอายุสิบห้าที่เริ่มจากมาเค้าเป็นเพียงเด็กหนุ่มตัวผอมแห้งหน้ากร้านแดดเปื้อนสิวที่มีเพียงฟุตบอลติดตัวเหมือนคนอื่นๆ เท่านั้นแต่ว่าชายหนุ่มต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพในการเล่นกีฬาให้มากยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีวินัยอย่างมากเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปโรนัลโด้ก็ได้รับการยอมรับและมีฝีมือ ทักษะการเล่นอันเป็นที่โจษจันอย่างเลืองลือ  แต่ทว่าเค้ากลับเอาแต่เก็บตัวเงียบ

ไม่เปิดเผยชื่อเสียงเพื่อเฝ้ามองชื่อเสียงอันโด่งดังของคนๆ หนึ่งมาโดยตลอดตั้งแต่ได้ยินข่าวคราว...

โรนัลโด้คอยเฝ้ามองเด็กน้อยที่เคยวิ่งตามและเรียกหาเค้าอยู่ตลอดเวลา

น้องชายตัวน้อยที่แสนจะน่ารักและไม่ต้องแปลกใจเลย ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่...ลีโอตัวน้อยของเค้า

“นี่ ถ้าพวกนายไม่หุบปากและทำน้ำอัดลมหกใส่รถฉันล่ะก็ ฉันจะถีบพวกนายลงซะตรงนี้แล้วปล่อยให้โบกรถกลับสเปนเองไปเลย” เจ้าของรถที่สวมแว่นดำพูดเป็นคำสุดท้ายก่อนเค้าจะบอกตัวเองว่าควรทำแบบนี้มาตั้งแต่ไมล์แรกที่ออกมาแล้ว

ใช้เวลาเพียงไม่นาน รถยนต์ที่ดูผิดหูผิดตากับคนในพื้นที่ก็มาจอดอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งเพราะมีผู้โดยสารประท้วงมาว่าปวดฉี่  มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้ออกมายืดเส้นยืดสาย  โรนัลโด้ซื้อน้ำออกมาดื่มอยู่ด้านนอกของร้าน  หันหลังให้ผู้คนซึ่งเดินไปเดินมาทั้งที่พยายามและไม่พยายามมองว่าพวกเค้าเป็นใคร

การมาเยือนครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีนี้ร่างสูงตั้งใจมาเยี่ยมครอบครัวกับลบคำสบประมาทของเพื่อนๆ ที่เคยว่าเค้าไว้ในตอนเด็ก  และเหนือสิ่งอื่นใดโรนัลโด้กลับมาหาน้องชายที่เค้าใจร้ายใส่ได้ลงคอเมื่อครั้งที่จากกัน  ไม่แม้แต่จะบอกอีกฝ่ายว่าจะต้องจากกันนานถึงเพียงนี้

“ลีโอ” ร่างสูงไม่รู้แม้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเอ่ยชื่อนั้นหลุดรอดออกมา  ถึงแม้บ้านของเมสซี่จะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้แต่ใจของเค้าก็ล่องลอยไปรอท่าถึงที่อยู่แล้ว  สายลมที่พัดโชยอ่อนๆ พัดพาเอากลิ่นอายที่คุ้ยเคยมาหวนให้คิดถึงอีกครั้งจนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะหันกายไปรอบๆ เพื่อซึมซับความทรงจำในวันเยาว์อีกครั้ง  เค้าหลับตา  ผ่านถนนสายเก่าที่เคยส่งหนังสือพิมพ์  ผ่านบ้านหลังเก่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านแห่งนี้  ผ่านรั้วสีขาวที่เค้าเคยเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆ  และผ่านชายหนุ่มที่ยืนอมไอศกรีมรสนมสตอว์เบอร์รี่อยู่หน้าร้านซูปเปอร์มาร์เก็ต

โรนัลโด้สิ้นสุดการหมุนเพียงเท่านั้น  และยืนประจันหน้ากับคนที่มือหนึ่งถือไอศกรีม อีกมือหนึ่งก็กำลังหย่อนซองพลาสติกลงถังขยะไปด้วย และดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตสีเดียวกันกับเค้าก็จ้องมาราวกับโดนสาปให้แข็ง  โรนัลโด้แข็งไปด้วย  ยืนมองคนที่อมไอศกรีมเหมือนเด็กๆ

ชายหนุ่มผิวขาวสะอาดคนนั้นเอาไอศกรีมออกจากปาก  กระพริบตาที่จ้องเค้าสองสามทีราวกับจำผิดคนแล้วกลืนน้ำหวานๆ รสนมสตอว์เบอร์รี่ลงคอ  คนๆ นั้นดูไม่แน่ใจ และโรนัลโด้เองก็เช่นกัน...

ลีโอ” แต่ถึงอย่างไร ปากของเค้ามันก็พูดออกไปแล้ว  ถึงแม้จะไม่ใคร่แน่ใจนักแต่ว่าเค้าก็ค่อนข้างจำได้  ดวงตากลมโตนั้นที่เหลือบมองอย่างดูออดอ้อน...เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

อีกฝ่ายหนึ่งยื่นไอศกรีมออกห่างจากตัวอย่างช้าๆ “พี่คริส...” เสียงเบาหวิวนั้นเบากว่าของโรนัลโด้มาก  แต่เพียงไม่นานเท่านั้นเมสซี่ก็ทิ้งไอศกรีมแท่งนั้นแล้ววิ่งเข้าไปหาโรนัลโด้  ก่อนจะโถมกอดพี่ชายที่รวบตัวเข้าไปกอดอย่างแนบแน่นเช่นเดียวกัน

เค้าแน่ใจแล้วว่าใครอยู่ตรงหน้า  มั่นใจอย่างที่สุดแล้วว่าใครบีบกายร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเค้าในตอนนี้  ไม่เคยต่างจากเดิมเลย น้องชายตัวน้อยของเค้าเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  เส้นผมที่นุ่มลื่นราวกับเส้นไหมนี้  ผิวนุ่มลื่นที่โรนัลโด้ไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดจึงได้น่าสัมผัสขนาดนี้  และความคุ้นเคยที่ไม่มีอะไรมาขว้างกั้นนี้  ไม่มีสิ่งใดเลยที่เค้าจะจำไม่ได้  กลิ่นเสื้อผ้าเมื่อครั้งเมสซี่ยังเด็กๆ ก็ยังคงเหมือนเดิม

ทั้งสองกอดรัดกันราวกับหากปล่อยอ้อมกอดนี้ไปจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล  ความรู้สึกตลอดระยะเวลาสิบสามปีที่สะสมของเมสซี่ถูกฉีกกระชากให้กระจายออกเดี๋ยวนั้นนี่เอง  โดยมีอ้อมแขนอันอบอุ่นที่แข็งแรงกำยำขึ้นผิดจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนเป็นที่พักพิง  แต่ถึงจะเปลี่ยนแปลงไป กระนั้นความรู้สึกที่พร้อมจะมอบทุกอย่างให้ร่างเล็กก็ไม่ได้จางหายไปเลยแม้แต่น้อย

พี่คริสยังคงเป็นพี่คริสคนเดิมที่พร้อมจะโอบอุ้มร่างเล็กเอาไว้ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี

และลีโอก็ยังคงเป็นลีโอคนเดิมที่ขี้แยไม่หาย...

“พี่ขอโทษลีโอ  พี่ขอโทษที่ทิ้งไป” โรนัลโด้รู้ว่าเสียงตัวเองฟังดูสั่นเครือ  แต่เสียงสะอื้นที่ไม่ปกปิดของน้องชายก็ดังยิ่งกว่า  เมสซี่ร้องไห้และร้องไห้อีก บอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรที่พี่ชายกลับมาได้เสียที  จะดีใจดีไหมที่ได้เจอกัน แต่ทว่าก็โกรธที่อีกฝ่ายหายหน้าหายตาไปไม่ยอมบอกสักคำ  ความน้อยใจ  อายที่ร้องไห้  ไม่พอใจ  โล่งใจที่ได้เจอและไม่ตาย  ทุกอย่างหมุนวนผสมกันอยู่อย่างแยกไม่ออก

“อึก...ผม ผมคิดถึงพี่” ร่างเล็กส่งเสียงอู้อี้แต่ฟังออกได้อย่างชัดเจน “ผมตามหาพี่..ฮะ ฮึก...ผมไม่อยากให้พี่หายไป”

“พี่ขอโทษลีโอ ขอโทษจริงๆ พี่เองก็ไม่อยากให้ลีโอต้องมาเสียใจแต่...” เค้ารู้ว่ามันเลี่ยงไม่ได้ “...มันเลี่ยงไม่ได้” ใช่ นั่นแหละถูกต้องแล้ว

“ทำไมพี่ถึงไม่ยอมบอกผม” เมสซี่เช็ดหน้ากับเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบแต่พอดีตัวของโรนัลโด้ น้ำเสียงฟังดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

“เพราะมันจะทำให้ลีโอเป็นแบบนี้ไง” ร่างสูงลูบกลุ่มผมนุ่มมือน่าหลงใหลนั้นอย่างปลอบประโลม  แต่เพราะวันนั้นกำหนดการถูกเลื่อนเข้ามาเร็วขึ้นจึงยังไม่มีแม้แต่เวลาที่จะโทรไป

เมสซี่ผละออกมาจากการกอดพี่ชายแล้วเตะเข้าที่หน้าแข้งของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง

“โอ๊ย! ลีโอทำอะไรเนี่ยพี่เจ็บนะ” โรนัลโด้กุมหน้าแข้งตัวเองพลางโดดโหย่งๆ แล้วมองหน้าอีกคนหนึ่งอย่างไม่เข้าใจ  ก่อนเมสซี่จะบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เค้าสมควรโดนแล้ว  ใบหน้ายามแง่งอนของร่างเล็กก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย  โรนัลโด้มองน้องชายที่ตอนนี้โตจนผิดไปจากเดิมลิบลับแล้วยิ้มออกมา

“โทษที” เค้าไม่ได้เตรียมตัวมาพูดคำนี้แต่ว่าก็ไม่มีอะไรที่จะอธิบายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว  ร่างสูงขยับเข้าไปกอดร่างเล็กที่หน้ายู่น้ำตานองหน้า กดศีรษะหอมนุ่มที่คอยซบบ่าของเค้าอยู่ตลอดเวลาเมื่อสิบกว่าปีก่อนเอาไว้  และใช่ว่าโรนัลโด้จะไม่รู้ว่าเมสซี่ดีใจแค่ไหนที่ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง  ใบหน้ายู่ยี่แบบเมื่อครู่นี้ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของร่างเล็กเท่านั้น  แต่แรงกอดที่ตอบกลับมากลับแรงขึ้นทุกขณะราวกับว่าเมสซี่ร้องไห้อีกรอบหนึ่งไปด้วย  และใช่  จากนี้เค้าคงจะต้องมีเรื่องหลายอย่างที่อยากจะเล่าให้น้องชายฟังเป็นแน่  โรนัลโด้รอมานานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ  ทั้งขอโทษ  ทั้งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย  และเพื่อกลับมากอดร่างเล็กนี้อีกครั้งหนึ่ง  โรนัลโด้ยิ้มแล้วจูบลงไปที่กลุ่มผมนุ่มลื่น

“พี่กลับบ้านแล้ว”



.



.



.



FIN.



“เฮ้ย นั่นใครอ่ะ?”

“ก็คริสไง”

“มายช่ายย คนนั่นน่ะที่กอดอยู่กะคริสน่ะ”

“เฮ้ย นั่นเมสซี่ไม่ใช่เรอะ!

“เวรเถอะ เค้าไม่ได้กอดกัน กำลังจะฆ่ากันรึเปล่าว่ะนั่น”

“ไอ้บ้า เค้าจะมาฆ่ากันเรื่องอะไร”

“ก็เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้  เชื่อเหอะ พนันได้เลย สองคนนี้ป้ะหน้ากันต้องไม่ลงรอยกันชัวร์”

“คนแพ้ต้องแก้ผ้าโชว์ปิกาจูรอบเมืองนะโว้ย”

“แหม่  เซ้นฉันมันจะไปผิดอะไรเล่า!

และหลังจากที่โรนัลโด้พาเมสซี่มาให้เพื่อนๆ รู้จัก  เห็นทีวันนี้จะต้องมีคนแก้ผ้าเดินรอบเมืองเป็นแน่.



            -----------------------------------------------------------------------------------------



คือเฮีย! หนูนึกว่าเฮียจะถูกหลอกไปขายจริงๆ ซะแล้วนะเนี่ยยย  เหมียวก็กลัวด้วยเหมือนกัน  เล่นหายไปสิบสามปี เฮียคิดอะไรของเฮียอยู่เนี่ยย!!  เหมียวของหนู //โดนฟาดที่หัว//...ของเฮีย  เหมียวของเฮียร้องไห้คิดถึงเฮียทุกวันเลยรู้ไหมคะ?  นิสัยไม่ดีอย่างนี้สมควรโดนเหมียวเตะค่ะ

คือตอนท้ายจะติดเศร้าเฉยเลยค่ะ  แต่เฮียก็กลับมาแล้ว กลับมาหาน้องชายตัวน้อยของเฮียค่ะ  ฮ่อลลลลล  ไรท์ชอบจังเลยค่ะที่เฮียกอดเหมียวแล้วก็บอกว่า “พี่กลับบ้านแล้ว” ให้ความรู้สึกเหมือนหนังตอนจบ  แล้วดนตรีขึ้นหนึ่งจังหวะก่อนไตเติ้ลจบจะขึ้นค่ะ 55555555 คิดไปนั่น

เป็นยังไงกันบ้างล่ะคะสำหรับฟิคเฮียเหมียวเล็กๆ น้อยๆ ที่ปล่อยออกมาให้หายคิดถึงทั้งคู่กัน  แต่ไรท์รู้ดีค่ะว่าหลายๆ ท่านคงกำลังรอคอย Falling In Love Again ภาค 3 กันอยู่ 5555555!!  ยังไม่ได้แพลนอะไรเลยค่ะสารภาพแต่อย่าเพิ่งตบไรท์นะคะ  ความเครียดจากงานเขียนและการบ้าน งานสอบที่เยอะมากเกินไปทำให้ไรท์เขียนออกมาได้ไม่ดีค่ะ  มันไม่ดีต่อฟิคที่กำลังจะเขียนออกมาค่ะ  ไรท์เลย Let it go  //โดนรีดแทง//  พอถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วก็จะออกมาให้รีดๆ ได้หายคิดถึงกันแน่นอนเลยค่ะ ><

ช่วงนี้ไรท์แจกการ์ดปีใหม่อยู่นะคะ ยังเปิดรับรายชื่ออยู่ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันที่ 16 ธันวาคมเลยนะคะ  มาร่วมสนุกกันเยอะๆ นะเออ  แวะไปหาไรท์ที่เฟสของไรท์ ส่งชื่อที่อยู่ ชื่อเล่นภาษาไทย-อังกฤษมาที่แชทของไรท์แล้วรอรับการ์ดขอบคุณ+ปีใหม่ที่บ้านเลยค่าาา


แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะค้าาา  สำหรับวันนี้สวัสดีค้า  และขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ><  รักทูกโคนนนนะเออ

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund





วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF - RonalSi] + [Part 2] My Boy – Ronaldo x Messi




สวัสดีค่ะรีดๆ ที่น่ารักของไรท์ทุกท่านขาาา >< ฮืมมม บอกไม่ถูกว่าคิดถึงแฮงแค่ไหน   ฮ่อลๆๆๆ  //เบะปากร้องไห้//  คือการที่ได้มาอยู่ตรงนี้อีกครั้งมันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยค่ะ  ไรท์คิดถึงมาก  ยอมรับว่าการที่หายไปเคลียร์งานนั้นทำให้ไรท์ไม่ได้ทำอะไรแม้แต่แตะฟิคเพื่อทำให้เรื่องขยับไปเลยค่ะ5555  พอมาลงฟิคแล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะ  เหมือนได้กลับบ้าน TUT  ดูเว่อร์แต่ของจริงค่ะ  ไรท์เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 5555

เอาล่ะค่ะ  ก็มาต่อกันอย่างเชื่องช้าแล้วนะคะสำหรับ Part 2 ของความน่ารักในวัยเยาว์ของเฮียเหมียวในแบบมโน๊ มโนของไรท์ 555555  และเราจะมาเฝ้าดูพวกเค้าเติบโตไปเรื่อยๆ ค่ะ  //พูดเหมือนเรื่องนี้ของแกยาว -*-//  คุณพี่คริสผู้แสนจะอบอุ่นและใจดีกับน้องลีโอด้วยน้อยๆ  อร๊ายยยยยยย!!!  เอาล่ะค่ะ  ไปอ่านกันเลยค่าาา >///<

คิดจะตัดบทก็แสนจะรวดเร็ว 555555   อันที่จริงอยากพูดมากกว่านี้ค่ะแต่ว่าแม่ใช้ตลอด เดี๋ยวจะยิ่งช้า 55555  //รีดบอก ฉันไม่ต้องการให้แกพูดอะไรเลยย่ะ -*-//



------------------------------------------------------------------------------------------



 แต่ว่าเรามีเงินไม่พอนะ!



.



.



“ไงจ๊ะลูกรัก ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ”

“ครับแม่ ทุกอย่างโอเค”

“ที่ซูปเปอร์มาเก็ตมีรถคันเบอเร่อขายด้วยล่ะครับคุณป้า!

“อา จ้า จ้า  งั้นเหรอจ๊ะ  ลีโอเป็นเด็กดีรึเปล่า?”

“ฮะ ไม่กวนพี่คริสเลย” เด็กชายตัวน้อยที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วยิ้มแฉ่ง พลางชูไอศกรีมในมือ

หญิงเจ้าของบ้านที่กอดตะกร้าผ้าไว้แนบอกยิ้มอย่างเอ็นดู พลางมองลูกชายตัวเองที่ไม่รู้เลยว่าเกือบจะร้องไห้เพราะเงินที่แม่ให้ไปเกือบไม่พอ

“ทุกอย่างโอเคครับ” โรนัลโด้เสียงสั่น  เด็กชายร่างสูงขอตัวเอาของเข้าไปเก็บด้านในพร้อมกับน้องชายที่เค้าจับมือไม่เคยปล่อยแม้จะเข้าบ้านมาแล้วก็ตาม  ซึ่งฝ่ายเด็กชายที่จูบปากกับไอศกรีมแท่งเล็กอยู่ในมือก็ไม่ขัดข้องใดๆ  ซ้ำยังมีหลายครั้งที่เจ้าตัวยื่นแท่งรสนมสตอว์เบอร์รี่ให้พี่ชายได้ลิ้มรสมันอีกด้วย

โรนัลโด้แทบยิ้มทั้งน้ำตา  ถึงแม้จะมีจำนวนเงินไปจำกัด  แต่การทำให้เมสซี่ผิดหวังมันก็ยากเกินไปสำหรับเค้า

แต่แม้จะไม่ได้ซื้อเท่าจำนวนที่เด็กน้อยชูนิ้วให้ดู อย่างน้อยก็ได้กลับมาหนึ่งแท่งเพื่อปลอบใจ  ในตอนที่พี่ชายส่งไอศกรีมแท่งเล็กที่สุดให้  เด็กน้อยทำหน้างงแล้วมองอย่างผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็หลงลืมมันไปเมื่อแกะซองพลาสติกออก

ถึงอย่างไร โรนัลโด้ก็คิดว่าดีที่สุดแล้วที่ไม่มีปัญหายุ่งยากอะไรเกิดขึ้น

บางทีเค้าอาจจะตามใจน้องมากเกินไปอย่างที่แม่เอ่ยไว้ก็ได้

ก็ลีโอน่ะ น่ารักน้อยจนทำให้แข็งใจใส่ได้ซะเมื่อไรกันล่ะ



**************************************************************



ตอนวันเกิดอายุครบเก้าขวบของน้อง...

“เอ้า ลีโอเป่าเทียนเลยสิจ๊ะ อย่าลืมอธิฐานด้วยล่ะ” เสียงยินดีอนึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดเสียเองของแม่ดังขึ้น เธอบอกลูกชายที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างแสนรักก่อนเด็กตัวเล็กผิวขาวกระจ่างใสต้องกับแสงเทียนประจำวันเกิดจะทำตามอย่างว่าง่ายและตื่นเต้น  ฝั่งตรงข้ามนั้นคือเด็กชายที่ย่างใกล้เข้าสู่วัยหนุ่มอย่างสมบรูณ์แข็งแรง โรนัลโด้ส่งยิ้มให้ก่อนเมสซี่ที่ยิ้มตอบจนรอยยิ้มนั้นเกือบเปล่งประกายมากกว่าแสงเทียนจะเป่าเทียนทุกเล่มบนเค้กก้อนใหญ่จนดับไปหมด

โรนัลโด้เตรียมของขวัญวันเกิดมาให้เมสซี่ ถึงแม้มันจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากแต่เด็กน้อยก็ชอบมัน  เจ้าตัวชอบมันมากถึงกับออกปากว่ามันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในบรรดาของขวัญทั้งหมดและกอดไว้แนบตัวตลอดเวลาเลยทีเดียว

“แหม ดีจังเลยนะจ๊ะที่คริสมาได้ ไม่งั้นลีโอคงจะต้องร้องไห้กลางงานวันเกิดครบรอบเก้าขวบของตัวเองแหงๆ เลย” แม่ของเจ้าของวันเกิดว่า ขณะหยิบจานขึ้นมาเตรียมแบ่งเค้ก  คนโดนพูดด้วยหลุบสายตาลงแล้วยิ้มน้อยๆ แสดงอาการทั้งเกรงใจและถ่อมตัว

“มะ ไม่ใช่ซะหน่อย คุณแม่ก็!” เสียงเด็กที่ถือของขวัญของโรนัลโด้อยู่ข้างๆ เอ็ดขึ้นก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากคนในงานได้เป็นอย่างดี  แต่พี่ชายที่เป็นเจ้าของสิ่งที่อยู่ในมือของเมสซี่นั้นกลับยกยิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ก่อนออกมาจากบ้านเค้าทะเลาะกับพ่อที่เมากลับมา...ไม่ดีเอาเสียเลย  เด็กชายร่างสูงคิดว่าช่วงพักหลังมานี้พ่อกลับบ้านเลยเวลามากขึ้น พอๆ กับที่ดื่มจัดจนเค้าเห็นแม่ต้องแอบร้องไห้อยู่หลายครั้ง จนพี่คนโตกลัวพ่อจนไม่กล้าทำอะไรแม้แต่ตักเตือนเค้า  มีอยู่หลายครั้งที่โรนัลโด้อยากจะเข้าไปผลักพ่อที่ขโมยเงินไปต่อหน้าต่อตาแม่ ไม่ฟังแม้แต่คำห้ามปรามหรือแรงฉุดดึงของแม่เลย

“แกจะออกไปไหน ไอ้งานงี่เง่านั่นน่ะไม่มีแกแล้วมันจะเริ่มไม่ได้รึไง!พ่อขี้เมาที่นั่งเอียงกะเทเล่บนโซฟาตัวเก่าตะคอกใส่เค้าก่อนโรนัลโด้จะทำเป็นไม่สนใจแล้วออกมาจากบ้าน   เค้ายังได้ยินเสียงแม่อธิบายให้พ่อฟังอยู่เลยก่อนเสียงของพ่อจะตวาดกลับไป...พ่อเคยเป็นคนดีกว่านี้มากตอนไม่เมา

แต่ก็ช่างเถอะ เค้าจะทำเป็นไม่นึกว่าการเงินของเราฝืดเคืองลงเนื่องจากงานอดิเรกใหม่ที่แสนจะสำมะเลของพ่อก็แล้วกัน

ตอนนี้โรนัลโด้อยู่ในงานวันเกิดของน้อง ไม่ควรจะเก็บเอาเรื่องนั้นมาคิดให้อะไรมันแย่ลงไปเสียเปล่าๆ อย่างน้อยวันนี้ก็คุ้มแล้วที่ได้เห็นรอยยิ้มของน้องชายที่เค้าหลงใหล และโรนัลโด้รู้ว่าเมสซี่จะมีมันให้เค้าเสมอ  ซึ่งเด็กหนุ่มที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ก็ถูกคะยั้นคะยอให้แกะของขวัญในวงของแขกผู้มาร่วมงาน  ทุกคนรักเมสซี่เช่นเดียวกับที่เด็กชายซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ห่างออกมาจากตรงนั้นรู้สึกรัก  แต่บางทีโรนัลโด้อาจไม่รู้ ว่าเค้ารักเมสซี่ทั้งหัวใจ  ไม่เพียงแค่ความทรงจำอันแสนสนุกสนานในตอนเด็กเท่านั้นแต่ทุกสิ่งที่ร่างเล็กเป็นมันเกี่ยวรัดทุกอย่างภายในใจของโรนัลโด้จนไม่อาจรู้สึกเลิกรักได้

และบางทีงานเลี้ยงอาจเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว  เด็กน้อยก็จะแกะของขวัญแล้วตบท้ายด้วยการนอนกอดของทุกชิ้นที่ได้มา  ถ้าเช่นนั้นโรนัลโด้ควรกลับบ้านเสียที เด็กชายรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกที่ไม่เหมือนกับคนพวกนั้นที่ถือของขวัญชิ้นใหญ่มาให้เมสซี่จนเจ้าตัวยิ้มแก้มแทบฉีก

โรนัลโด้ขอตัวกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้บอกใครทั้งสิ้น  เดาว่าก็คงไม่มีใครทันนึกถึงเค้าอยู่ดี  วันนี้เป็นวันพิเศษของน้องชาย เด็กชายร่างสูงดีใจที่เห็นน้องมีความสุขมากจนแทบจะยิ้มออกมาเป็นลูกกวาด   ก็มันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ...อย่างน้อยเค้าก็กลับบ้านได้โดยที่น้องไม่ฉุดรั้งไว้จนออกอาการงอแงเหมือนเช่นทุกครั้ง  ถ้าหากเค้ารีบหน่อยน้องก็จะไม่ทันเห็นเค้าด้วยซ้ำ

ผิวกร้านแดดจากการเล่นฟุตบอลของโรนัลโด้ออกสีเข้มกว่าของเมสซี่ เพราะไม่ได้รับการดูแลเช่นร่างเล็กแต่ถึงกระนั้นเด็กชายตัวน้อยก็ผิวพรรณดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เด็กชายร่างสูงเดินออกมาจากบ้านที่ถูกตกแต่งด้วยแสงไฟประจำงานวันเกิดอย่างเงียบเชียบ และหวังไม่อยากให้ใครฉุดคิดแล้วนึกถึงเค้าขึ้นมา

พี่คริสสส!” แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น  โรนัลโด้หลับตาแน่นแล้วเอียงหน้าไปเล็กน้อย  นึกไม่อยากได้ยินเสียงนี้เป็นอย่างยิ่ง “พี่คริสจาปายหนายย ยังไม่ได้กินเค้กเลยนะ...อุ เหวออ!

“อ้าวเฮ้ย  ลีโอ!” เสียงสะดุดดังขึ้นอย่างเบาหวิวพร้อมกับร่างเล็กที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะโชคดีที่ถูกรับตัวไว้ได้ทันจากคนที่อยู่ไม่ห่างไปนัก  โรนัลโด้ประคองเด็กน้อยให้ยืนขึ้นในขณะที่เมสซี่ที่เกาะแขนเค้าอยู่ก็ทำปากสั่น ในตามีน้ำคลอเหมือนใกล้จะร้องไห้

“พี่คริสโกรธลีโอเหรอครับ?” เด็กน้อยเกี่ยวตัวพี่ชายไว้แน่น พร้อมกับยื่นหน้าขึ้นไปใกล้กับคนที่ตัวสูงกว่า  อีกคนหนึ่งรีบบอกปัดทันทีเป็นพัลวัน สาเหตุที่เค้าออกมามันเป็นคนละเรื่องกันเลยกับที่น้องชายว่ามา  เมสซี่ถือของขวัญของพี่ชายออกมาด้วยและเอาติดตัวไว้ตลอดเวลาราวกับกลัวว่ามันจะหายไป

บอกออกไปสิคริสว่านายต้องกลับแล้ว โกหกน้องไปซะ  คนในงานจะต้องไม่ชอบใจแน่ที่ลีโอออกมาแบบนี้...แต่การโกหกเมสซี่ยากมากกว่าที่เคย ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่เค้าเคยตะล่อมเพื่อให้น้องยอมว่าง่าย  แต่ถึงกระนั้นความคิดที่จะกลับบ้านไปแล้วปีนขึ้นหน้าต่างเข้าห้องตัวเองเพื่อหลบหนีพ่อที่หลับคาเก้าอี้เพราะความเมาแต่หูไวอย่างเหลือเชื่อของเค้าก็เป็นได้เพียงทฤษฎีที่อยากทำ  มารู้ตัวและนึกถึงพ่ออีกทีก็ตอนที่ได้กลับมานอนบนเตียงของน้องชายอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนานเสียแล้ว

เมสซี่ไม่ยอมให้เค้าห่างตัวเลย  เด็กน้อยจับมือเค้าตลอดเวลากลัวว่าโรนัลโด้จะหนีไปอีก  ร่างเล็กแทบไม่สนใจอะไรเลยนอกจากพี่ชาย  การที่เด็กชายร่างสูงแอบหายตัวออกไปทำให้เจ้าของวันเกิดคิดรู้สึกผิดไปว่าไม่ให้ความสนใจจนอีกฝ่ายพาลต้องน้อยใจ  เมสซี่ติดโรนัลโด้แจในตอนที่แม่ของเด็กน้อยบอกให้แขกคนสำคัญที่แสนจะคุ้นเคยค้างอยู่ที่นี่สักคืนหนึ่งก่อนจะดีกว่า เนื่องจากในเวลานี้ก็ดึกมากแล้วคงไม่เป็นการดีที่จะให้กลับบ้านไปคนเดียว

“เอ่อ คือว่าผม...”

“โธ่ คริสจ๊ะ  หนูก็เคยค้างที่นี่ออกบ่อยนี่นา  ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ๊ะ” หญิงผู้มีใบหน้าอ่อนโยนพูดขึ้น  ในขณะที่ลูกของเธอก็เขย่าแขนพี่ชายยิกๆ

“นะฮะพี่คริสนะฮ้า  นอนที่นี่เถอะนะฮะ” เมสซี่ตัวน้อยทำตัวออดอ้อน

ดังนั้นเด็กชายร่างสูงโปร่งจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องนอนกับน้องชายที่ย้ายมานอนบนอกของเค้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้  เมสซี่บอกไม่ถูกว่าดีใจแค่ไหนที่วันเกิดปีนี้มีพี่ชายมานอนค้างด้วย

โรนัลโด้ยกแขนขึ้นกอดน้องชายตัวน้อยเอาไว้แล้วร้องไห้เงียบๆ  เด็กชายอายุเพียงสิบเอ็ดปีไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้ความเศร้าที่ครอบครัวกำลังขาดความสุขนั้นดีขึ้น  ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป เค้ารู้  ไม่นานพวกเค้าอาจต้องขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะค่าใช้จ่ายที่แม้แต่เด็กอายุสิบเอ็ดขวบก็ยังรู้ว่ามันแทบจะมีไม่พอ  พ่อสูญเสียความเป็นเสาหลักไปถึงแม้จะย้อมใจไม่ให้เศร้าแค่ไหนแต่มันก็ไม่เคยจะช่วยอะไรได้เลย

โรนัลโด้กอดน้องชายแน่นเท่าที่เค้าจะทำได้โดยไม่ให้เมสซี่ตื่น  ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่เค้าจะได้ทำแบบนี้  อาจจนกว่าจะหมดปีนี้หากไม่มีใครทำอะไร...ตอนนี้ครอบครัวกำลังลำบากมาก  สิ่งเดียวที่ทำให้เด็กชายคนนี้มีความหวังและกำลังใจที่จะยิ้มได้ก็คือน้องชายต่างสายเลือดที่แสนจะไร้เดียงสาคนนี้  โรนัลโด้จะร่าเริงเพื่อเด็กคนนี้และจะเข้มแข็งเพื่อเด็กคนนี้จนกว่าเมสซี่จะไม่ต้องการเค้า  เค้าสัญญากับน้องชายในใจ



***************************************************************************



ตอนเค้าเริ่มทำงานพิเศษครั้งแรก...

“พี่คริสส ไปเล่นบอลกันน!” เสียงเรียกอันเจื้อยแจ้วเช่นเคยดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ต้องเบรกเสียจนเต็มข้อนิ้ว

“โทษทีนะลีโอ พี่ต้องทำงานให้เสร็จก่อนน่ะ” โรนัลโด้แจ้ง และได้รับใบหน้าหงอยเหงาตอบกลับมาจากเด็กชายที่กอดลูกบอลไว้ข้างเอว  แต่คนที่สะพายกระเป๋าส่งหนังสือพิมพ์ก็บอกว่าเค้าจะตามมาเล่นด้วยหลังจากที่เสร็จงานแล้ว

“ตั้งแต่ตอนสายจนถึงตอนเย็นเลยไหมฮะ?” เมสซี่ทำหน้าคาดหวังด้วยรอยยิ้มอีก  แต่พี่ชายยิ้มเศร้าแล้วพูด

“หลังเราเล่นสักชั่วโมงพี่จะต้องไปส่งของให้อีกสองสามร้านน่ะ มันอาจใช้เวลาตลอดทั้งบ่าย” เค้าเองก็จนใจแล้วที่จะรังสรรค์คำให้มันดูน่าฟังมากกว่านี้หน่อย  เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งไม่สามารถโกหกน้องชายได้แล้วหลังจากที่เมสซี่โตพอจะจำท่าทีต่างๆ ของเค้าได้  ร่างเล็กที่กอดลูกบอลขนาดเกือบเท่าศีรษะของตัวเอง ก้มหน้ามองฟุตบาทเล็กน้อยก่อนจะเงยขึ้นมา

“ได้ฮะ ผมจะรอพี่คริสนะ” เด็กน้อยบอกปัดว่าไม่เป็นไรอย่างเข้าใจ แต่ก็ปกปิดความหม่นหมองในน้ำเสียงนั้นได้ไม่มิด  โรนัลโด้ยิ้ม  รู้สึกแย่ไม่น้อยที่ทำให้เมสซี่ผิดหวัง ก่อนจะวางมือลงไปขยี้กลุ่มผมสีออกน้ำตาลของน้องชายเล่นๆ

“แล้วพี่จะรีบไป” โรนัลโด้ว่าแค่นั้นก่อนจะยกตัวขึ้นปั่นจักรยานไปยังเส้นทางลาดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา และน้องชายที่ตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อก็ไม่ลืมที่จะโบกมือเร็วๆ ตามหลังพี่ชายไปด้วยราวกับว่านี้เป็นวันแรกที่โรนัลโด้ออกไปทำงาน

เด็กหนุ่มเริ่มทำงานมาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่อายุก็ยังค่อนข้างน้อยเกินไปที่จะมีใครรับไปทำงาน  คนขายหนังสือพิมพ์เกิดสงสารไม่อยากให้เค้าไปทำงานหนักๆ จึงได้รับไว้  แต่แล้วโรนัลโด้ก็ยังไปรับทำงานส่งของให้กับร้านอื่นๆ อีก

เค้าต้องทำ  ต้องทำเพื่อแม่  และเพื่อตัวเอง หากมีเงินไม่พอเราอาจต้องขายบ้านและย้ายไปอยู่ที่อื่นอย่างที่คาดเอาไว้และเด็กหนุ่มก็จะไม่ได้เจอหน้าน้องชายอีกเลย  ไม่มีทางเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้  โรนัลโด้อายุสิบสามแล้วอย่างน้อยก็พอที่จะทำอะไรได้บ้าง  เค้าคิดว่าควรหยุดเรียนในอีกปีหรือสองปีข้างหน้านี้เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายของคนหลายคนในบ้านแต่เค้าก็ยังคงเล่นบอลอยู่และไม่เคยหมดศรัทธาที่จะเล่นมัน เพราะส่วนหนึ่งมันคือสิ่งที่ผูกเค้ากับเมสซี่เอาไว้ด้วยกัน

โรนัลโด้มีความตั้งใจอย่างสูงสุด  ครั้งแรกที่เค้ายื่นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงให้แม่  แม่ร้องไห้แล้วกอดเค้าไว้แน่นและบอกว่าเค้าดูซูบไปจากการทำงานหนัก  แม่พูดเกินจริงไปหน่อย...โรนัลโด้ออกความคิดเห็นแต่ก็ไม่ปฏิเสธซะทีเดียว



***********************************************************************



ตอนอายุสิบห้า...


หลังจากพวกพี่ๆ แยกย้ายออกไปหางานทำเมื่อปีที่แล้ว พอเค้าหยุดเรียนหนังสือพ่อก็ตายเพราะเหล้าในที่สุด  ทุกคนเศร้ามาก สมาชิกครอบครัวทุกคนมาร่วมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาในรอบหนึ่งปีในงานไว้อาลัยของพ่อ  โรนัลโด้ก็อยู่ที่นั้นด้วยร้องไห้และโศกเศร้าพร้อมกอดแม่ที่เกือบเป็นลมล้มพับไป  เค้าเสียใจและรู้สึกโกรธพ่อที่จากไปโดยที่ครอบครัวยังระห่องระแห่งแบบนี้  ร่างสูงโปร่งหวังว่าสักวันหนึ่งเค้าจะประสบความสำเร็จ และพ่อจะเห็นมันในวันที่ครอบครัวสุขสบายมากกว่านี้

แต่พ่อก็ตายไปเสียก่อน...

เมสซี่เข้ามาหาโรนัลโด้  กอดพี่ชายไว้แน่นหลายครั้ง  ร้องไห้และบอกว่าเสียใจด้วยราวกับว่าเป็นฝ่ายสูญเสียพ่อเสียเอง  แขกทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อไว้อาลัยให้แก่คนที่จากไปและให้กำลังใจให้แก่คนที่ยังอยู่ หลังพิธีฝังศพในตอนกลางวัน  เด็กชายร่างเล็กยังคงอยู่ช่วยพี่ชายแม้ว่าแขกจะกลับกันไปหมดแล้ว

คืนนั้น โรนัลโด้ถอดสูทสำเร็จรูปที่ซื้อมาเพื่องานนี้ออก  เค้าหลงเหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวมีรอยยับที่พับแขนขึ้นมาเพียงเท่านั้น  ร่างสูงนอนราบบนเตียงในห้องเดิมของเค้าตั้งแต่จำความได้

“พี่โอเคนะ?”

“อืม” เจ้าของเตียงส่งเสียงในลำคอตอบรับเด็กชายที่นอนอยู่ข้างเค้า  เมสซี่ได้กลับมาอีกครั้ง  กลับมานอนบนเตียงที่ซึ่งเค้าสองคนเคยเล่นด้วยกัน  เคยนอนกอดกันเมื่อยามหนาว  ความทรงจำในช่วงเด็กช่างแสนสุขและน่าจดจำ  และในครั้งนี้ดูเหมือนเด็กชายจะต้องการความอบอุ่นมากเป็นพิเศษ  เหตุการณ์สะเทือนใจในครั้งนี้ทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่ดีและไม่อยากจะคิดว่าโรนัลโด้จะเสียใจขนาดไหน

แต่ร่างสูงก็เข้มแข็งพอ...เค้ากระชับกอดน้องชายแล้วบอกว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี  แต่ไม่ได้บอกเมสซี่ว่าเค้ารู้สึกเครียดหนักแค่ไหน...ใช่  อย่างหนึ่งที่เค้าโกรธพ่อก็เพราะพ่อไม่ได้อยู่ถึงวันที่เค้าประสบความสำเร็จ  พรุ่งนี้โรนัลโด้จะต้องไปมอบตัวกับสโมสรเยาวชนที่อังกฤษหลังจากที่เล่นฟุตบอลอย่างโดดเด่นมาตลอดหลายปี  ร่างสูงบอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้แต่ข่าวร้ายกลับทำให้ความอิ่มเอมใจนั้นหดหายไป นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่เค้าไม่แน่ใจว่าจะบอกเมสซี่เรื่องต้องย้ายออกไปโดยไม่มีกำหนดการดีไหม  แม่ไม่ได้ไปด้วย  เราไม่ได้ย้ายบ้าน แต่โรนัลโด้จะไปเพียงคนเดียว เค้ารู้มันยากสำหรับเมสซี่  เค้าเองก็เตรียมใจยากเหมือนกันทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวความรู้สึกต่างๆ ปนเปผสมเชคอยู่ในหัวของเค้าจนกลายเป็นความเครียดที่ไม่รู้หนทางว่าจะบอกน้องที่แสนจะรักใคร่อย่างไรดี

“ลีโอ” คนเป็นพี่เริ่มประโยค  น้องชายก็เงยหน้าขึ้นมาเป็นเชิงตอบรับว่าพร้อมฟัง “คือพี่...ต้องออกไปทำงานข้างนอกสักพักหนึ่งน่ะ” โรนัลโด้พยายามพูดให้นิ่มนวลและดูร้ายแรงน้อยที่สุด แต่ก็รับรู้ได้ถึงอาการคาดไม่ถึงจากความเงียบของเมสซี่

“ที่ไหนเหรอครับ  พี่จะไปนานไหม?” เด็กชายถามแล้วกำอกเสื้อของพี่ชายไว้แน่น

โรนัลโด้แอบถอนหายใจแต่เมสซี่ก็รู้สึกถึงมันอยู่ดี “พี่ก็ไม่แน่ใจ  แต่คงจะไม่นานนักหรอก” เค้านึกอยากจะตบปากตัวเองแล้วบอกให้เมสซี่ลืมท้ายประโยคไปเสีย....ไม่นานนักหรอกยังงั้นเหรอ?  ใช่ อย่างต่ำก็ไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนะ  เจ้าบ้าเอ้ย!

เค้าไม่อยากสร้างความหวังที่สูญเปล่าให้กับร่างเล็ก  แต่ถึงกระนั้นโรนัลโด้ก็ไม่อยากจากบ้านไปนาน  เค้าบอกน้องว่าไม่ต้องเป็นห่วงทุกอย่างจะออกมาดีเองและเรียบร้อยทุกอย่าง ในใจก็คิดว่าค่อยบอกลาในตอนที่กำลังจะไปในวันพรุ่งนี้ก็ได้  อย่างน้อยมันก็ดีที่ให้ระยะทำใจกับเค้าอีกสักหน่อย

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เค้าจะได้กอดน้องชาย...



.



.



.



TBC.



---------------------------------------------------------------------------------------------



อ้าวเอ้ย ทำไมเริ่มดราม่าฟระ?!

ฮ๊ากกกก  อัลไลเนี่ย Aundddd  หือออออ  //ลุกขึ้นมาจากท่านอนหมอบ//  แต่รีดคะไม่ต้องห่วงค่ะ!!  จบดีและประทับใจเล็กๆ แน่นอนค่ะ  (ถึงจุดนี้ก็ยังยืนยันคำถามเดิมว่ารีดเค้าจะเหมือนแกรึเปล่า -*-)   แอบกระซิบว่า Part หน้าเป็นPart สุดท้ายแล้วน้าค้าาา  ฮาาา เพราะงี้ไงคะ  บทสรุปที่แฮปปี้มาเร็ว  รีดๆ ก็จะได้ไม่ต้องลุ้นนานกัน 55555  ไรท์เลยไม่ต้องวิ่งหลบรองเท้ารีดของรีดไงคะ 55555  //รู้ตัวดีอิชั้นเป็นเช่นไร// + //กัดผ้าเช็ดหน้า//

ฮ่อลลลล  เฮียก็น่าสงสารเกิ๊นนน  แต่ไรท์เขียนโดยที่อิงเอาชีวิตจริงของเค้ามาเล็กน้อยนะคะ  พ่อตายเพราะเหล้าและเฮียเค้าโกรธพ่อมากๆ เลยค่ะที่อยู่ไม่ถึงวันที่เค้าประสบความสำเร็จ  ฮือออ  ค่อนข้างจะป็นเด็กหนุ่มตัวผอมแห้งพอสมควรเลยค่ะ  และเดี๋ยววันเวลาจะทำให้เฮียกลายเป็น “ซูปเปอร์โด้” ค่ะ 55555  หล่อเลยอ่ะ 55555  .....พอ พอและ   รู้สึกช่วงนี้ไรท์จะหลุดๆ ค่ะ  //อืม  อันที่จริงแกก็หลุดตลอดเวลาอยู่แล้วไม่ใช่รึไงยะ ห๊ะ? -*-//

โอเคค่ะ  ชอบกันหรือไม่คะ  คอมเม้นท์กันหน่อยนะเออ  และอย่าลืมเข้าไปทักทายกันได้ที่ เฟสบุ๊ค


เจ้าค่าาา  สำหรับวันนี้  ลาก่อยยยยย  สวัสดีค่ะ ราตรีสวัสดิ์  และรักรีดทุกท่านสุดหัวใจเลยค่ะ  //ปลายเท้าชิด  ส่งจูบ  แอบตัวไปข้างหน้า//  รอติดตาม Part สุดท้ายด้วยนะคะ >3<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund