อ๊ากกกกกก กราบบบบบสวัสดีรีดๆ
ผู้รอคอยของไรท์ทุกท่านค่ะ ฮาาา เลยเวลาลงฟิคมาแล้วอ่ะ อูยยยย ขออภัยอย่างสูงเลยนะคะ ไรท์ไม่เคยเงียบขนาดนี้มาก่อนเลย นั่งหลังขดหลังแข็งทำงานตลอด 5
วันต็มเลยค่ะ ง่าาา ทามมายพระเจ้าไม่เห็นใจไรท์เลยอ่ะ T^T อิเพื่อนกลุ่มเดียวกันก็ไปเที่ยวค่ะ ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันสุขสันต์ ส่วนอิทาสที่ไม่ได้ไปก็ทำงานยาวๆ
ไปค่ะ ชริๆ งานหน้าฉันจะอยู่นิ่งๆ (ส่วนงานต่อไปซึ่งเริ่มปลายอาทิตย์หน้านี่เอ็งทำต่อคนเดียวอีก
-*-)
เฮ้ยยยยยย มาบ่นอะไรฟระเนี่ยยย!! มาลงฟิคไม่ใช่เนอะ มาลงฟิค! //รีดลดเปลือกตาลงครึ่งหนึ่งมองไรท์// ว่าด้วยเรื่องของ Part นี่น้านนนน
เราจะมาต่อจากความค้างคาที่แคทนิสได้สร้างเอาไว้ค่ะ
ซึ่งไรท์เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งนางไปแล้วค่ะ เผื่อรีดๆ ด้วย มิต้องห่วงนะคะ (รีดบอก แกนั่นแหละที่ฉันจะฆ่า -=- )
หวาาา อย่าเพิ่งฆ่าไรท์นะคะ ไรท์ยังมีบ่วงอีกเยอะค่ะ 5555555 ขอให้ enjoy และมีความสุขกับเรื่องราวต่อไปนี้นะคะ
เลสสึโกววววววววววววว >0<
------------------------------------------------------------------------------------------
“พีต้า”
เสียงนั้นดังขึ้นอย่างไม่เต็มเสียงนัก “นายนอนหรือยัง?”
มันดังขึ้นหลังเสียงเคาะประตู
และคนพูดนั้นมาจากหลังประตู
แคทนิสทำให้ชายหนุ่มสองคนที่กำลังกอดก่ายกันอยู่หันมามองที่บานประตูกันอย่างรวดเร็ว
พวกเค้าผละปากออกจากกันแต่ก็ยังเกี่ยวท่อนล่างไว้อยู่ คนเคาะถามไม่ได้พยายามเข้ามาด้วยความผลีผลามแต่อย่างใด
มีเพียงแค่เสียงค่อนข้างเบาของเธอเท่านั้นที่ทำให้ทั้งสองรู้ว่าแคทนิสอยู่ตรงนั้น
พีต้าหัวใจเต้นรัวยิ่งกว่ากลองในขณะที่ตอบออกไปไม่เต็มเสียงเช่นครั้งแรกที่แคทนิสเรียกชื่อเค้าว่า
“ชะ ใช่ ฉันกำลังจะนอนแล้ว”
แต่ฟินนิคใช้มือโอบหลังเค้าไว้และแตะที่หน้าอกเพื่อบอกว่ามันจะไม่เป็นไร เธอไม่ได้เข้ามาหรอก
“งั้นเหรอ” เสียงแคทนิสแว่วมาแล้วเงียบไปเหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่มันกลับมีเพียงแค่ว่า
“งั้นก็...เอ่อ ราตรีสวัสดิ์นะ” เธอพูดเหมือนมีคำต่อจากงั้นก็...
แต่ก็ไม่ได้เปิดปากว่าอะไรต่อนอกจากตัดบทแล้วหายไปเสียอย่างนั้น
ทิ้งให้พีต้าและฟินนิคนั่งหอบและหัวใจเต้นรัวอยู่บนเตียงหลังเดิมของเด็กหนุ่ม ไม่มีใครพูดอะไร
เว้นเสียแต่เสียงถอนหายใจของทั้งสองฝ่าย
การเข้ามาขัดจังหวะของแคทนิสทำให้ฟินนิคได้ชะงักทุกอย่างไปจนทำให้เค้าฉุดคิดถามตัวเองขึ้นได้ว่าดีแล้วหรือที่ฝืนทำหากพีต้าไม่เต็มใจ
เพราะในตอนนี้ใบหน้าที่ยังคงฉายแววของความตื่นเต้นระคนหวาดวิตกเมื่อได้ยินเสียงของแคทนิสเมื่อครู่นี้นั้น
ร่างสูงสังเกตเห็นน้ำตาหยดน้อยที่คลอกักอยู่ข้างหางตาที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
เช่นเดียวกับจมูกโด่งเด่นในแสงสลัวของพีต้า
ไม่แน่ หากแคทนิสไม่เข้ามาเค้าอาจทำให้พีต้ารู้สึกไม่ดีมากกว่านี้ก็เป็นได้
เพราะความต้องการที่เอาแต่ใจ
ฟินนิคเลยไม่ทันคิดถึงพีต้าให่มากกว่านี้เหมือนอย่างที่เค้าเคยทำมาตลอด
การได้รักพีต้านั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับเค้าแล้ว
และการที่รู้ว่าเด็กหนุ่มก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันก็เป็นเรื่องโชคดีที่สุดด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเค้าจะรออีกสักหน่อยจะเป็นอะไรไปล่ะ
ร่างสูงแตะแก้มของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา เกลี่ยน้ำตานั้นด้วยมือข้างเดิม “พีต้า ฉัน...”
ฟินนิคหลับตาแล้วส่ายหน้าอย่างสำนึกผิด
ใคร่ครวญแล้วว่าพวกเค้ายังคงไม่พ้นคำว่าจูบไปได้
แต่คนโดนพูดด้วยกลับทาบฝ่ามือลงมาแล้วยืดตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ตัวพีต้าสั่นเล็กน้อยแต่ก็พูดว่า
“นายจะไม่จูบฉันอีกเหรอ?”
ความประหม่าทำให้ไม่ใจกล้าเท่าไรนัก
แต่ทว่าบางสิ่งที่เปิดรับเฉพาะแต่ฟินนิคนั้นกำลังเต้นระริกอยู่ในอกของพีต้าและทำให้เด็กหนุ่มยืดตัวตรงอย่างไม่หวาดกลัว
ร่างเล็กให้คำตอบแล้ว
ถึงแม้ร่างสูงจะยังต้องการมันหรือไม่อยู่ก็ตาม
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่ถึงห้าวินาทีทันทีที่เสียงเบาๆ
ของพีต้าเงียบลง
ฟินนิคก็ตรงเข้าช่วงชิงริมฝีปากบางคู่นั้นอีกครั้ง พีต้ากอดรอบคอสีแทนนั้นไว้เพราะมันช่างรุนแรงและเร่าร้อนกว่าใครใดๆ
ที่เคยทำมา พวกเค้าจูบกัน ดึงดูดรุนแรงราวกับแย่งกันกลืนกินกันและกัน
แต่ดูเหมือนว่าฟินนิคจะเป็นฝ่ายสอนพีต้าเสียมากกว่า
ร่างเล็กถูกโน้มเอียงให้นอนราบลงบนเตียงอีกครั้ง
แขนก็ยังคงโอบรอบแผ่นหลังของอีกคนหนึ่งอยู่อย่างหาที่เกาะเกี่ยวจนกระทั่งต่อมาแขนคู่นั้นก็เลื่อนขึ้นมาอยู่ที่กลุ่มผมของฟินนิค
เพราะอีกคนหนึ่งเลื่อนกายต่ำลงมาเพื่อทักทายทำความรู้จักกับผิวกายเปื้อนรอยจูบนั้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ร่างสูงรีบตรงเข้าไปปลอบประโลมแกนกายที่ถูกทิ้งให้เสียขวัญอยู่นานด้วยความเห็นใจอย่างยิ่ง
ร่างของหนุ่มทำขนมกระตุกอย่างแรงขึ้นหลายครั้ง พีต้าเผลอจิกเข้าไปกลุ่มผมและบ่าของฟินนิคโดยที่คราแรกตั้งใจไว้ว่าจะจับเบาๆ
เพียงเท่านั้น แต่ทว่าความอุ่น
เปียกลื่นของโพรงปากและน้ำลายนั้นก็ทำให้เด็กหนุ่มเต้นกระตุกโดยไม่ได้ทันตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย
“อื้อ ฟินนิค”
พีต้ากำมือของตัวเองแน่น
บ่าของฟินนิคและนิ้วของเจ้าตัวเปลี่ยนสีเป็นสีขาว และเด็กหนุ่มที่กำลังจะถึงจุดหมายอยู่แล้วรอมร่อเมื่อสองนาทีที่แล้วก็กดหลังเข้าหาหมอนที่ไร้ความหายของเค้า
แล้วรู้สึกว่าสะโพกที่เอนสูงขึ้นนั้นสั่นไปมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
“อ๊าา
ฟินนิค! มะ ฉันจะ...ฟินนิคเดี๋ยวก่อน
อือ...อาา ฟินนิค...อ้า!” คำห้ามปรามไม่ให้เปรอะเปื้อนนั้นไม่ให้ประโยชน์อะไรเลยกับคนที่ไม่สนใจอย่างร่างสูง
พีต้าปลดปล่อยออกไปอย่างไม่สามารถอดกลั้นได้
ปากของฟินนิคยังคงครอบครองแกนกายแข็งขืนนั้นไว้ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะคลายร่างกายที่บิดเกร็งของตัวเองแล้วหอบหายใจอย่างหมดแรงแล้วก็ตาม
เป็นการปลดปล่อยที่รวดเร็วของพีต้า
และถือว่าเป็นครั้งแรกอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ฟินนิคถอนปากออกมา
ยืดตัวขึ้นปัดผมที่เริ่มยาวซึ่งปรกติดแก้มชื่นเหงื่อของพีต้าออกอย่างนุ่มนวล ก่อนจะไล่สันจมูกไปหาแก้มใสนั้น สูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆ
ของขนมปังที่เค้าจำได้ดีว่าเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของพีต้าเข้าไป ก่อนจะไล่ลงมาหาลำคอที่เส้นชีพจรเต้นตุ้บๆ
อย่างมีชีวิตชีวา
เรื่อยลงมายังยอดอกทั้งสองที่ทำเอาเจ้าของตัวสั่นเทิ้มและร้องออกมานิดๆ
เมื่อปลายจมูกแหลมนั้นสะกิดโดนมัน
เจ้าของจมูกโด่งเป็นสัน
ปลายแหลมนั้นวนกลับมาที่เดิมยังด้านล่างอันชื่นแฉะของเด็กหนุ่ม พีต้าหายใจเสียงดังจนเสียงหวานนั้นหลุดลอดออกมาจากลำคอนับครั้งไม่ถ้วน แต่ร่างสูงกลับไม่พูดอะไรเลย เค้าไม่สามารถพูดได้
ร่างสูงจับขาเรียวขาวนั้นให้ตั้งฉากก่อนจะจับมันอ้าออก
พีต้าหนีบหว่างขาใส่ในตอนแรกก่อนจะยอมว่าง่ายในไม่ช้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไม่อยากคาดเดาว่าฟินนิคจะทำอย่างไรต่อซึ่งจะว่าไปแล้วเจ้าตัวเองก็ไม่รู้อะไรเลย
จึงได้แต่นอนอยู่เฉยๆ
ยอมให้อีกคนหนึ่งแหวกขาของตัวเองออกแล้วสอดนิ้วพันกับผ้าห่มและหมอนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
เมื่อไม่รู้ว่าจะเอามือไปวางไว้ตรงไหนดี
ร่างสูงแลบลิ้นออกมาลากผ่านขาอ่อนที่นุ่มนิ่มของเด็กหนุ่มเบเกอร์รี่เล็กน้อยแล้วลากยาวลงมายังแก้มก้นกลมกลึง เด็กหนุ่มสะดุ้งจนเสียงหายใจหลงกระเซ้า
ฟินนิคไม่ลังเลเลยแม้สักนิดที่จะจูบเข้าไปที่เนินแก้มกลมๆ
นั้นที่เชื่อมต่อกับโคนขา
พีต้าเหยียดปลายนิ้วเท้าจรดกับผ้าปูที่นอนจนมันขึงตึงขึ้นมา
และปลายนิ้วเท้าน้อยๆ นั้นก็ลอยขึ้น
เมื่อมือหนาจับง้ามขาบริเวณใกล้สะโพกให้ยกสูงขึ้น
“อ้า” พีต้าจิกหมอนกับผ้าห่ม
รู้สึกว่าหายใจลำบากเพราะสะโพกถูกยกสูงขึ้น และเกร็งตัวเมื่อปลายลิ้นอุ่นๆ
แตะโดนผิวเนื้อนุ่มหยุ่นที่ปิดมิดชิดอยู่ใต้เนินแก้มก้นที่บีบตัวเบียดเสียดกันอยู่ เด็กหนุ่มจิกนิ้วเท้าเข้าหากันแน่นเช่นเดียวกับที่นิ้วมือขยำลงไปบนที่รองรับ
ฟินนิคใช้ลิ้นของตัวเองย้อมความชุ่มชื่นให้กับเนื้อนุ่มๆ นั้น มันหดตัวหนีลิ้นของเค้าก่อนร่างสูงจะให้ความเอ็นดูมันจนชุ่มแฉะ
“อือ..อ...ฟิ ฟินนิค เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน ฮะ อ่าา อืออ ฮึก อะ ตรงนั้น
อ้า อย่า...อย่าทำ ย๊ะ อย่าแหย่สิ”
ร่างสูงนั้นยังคงไล่เลียแต่งแต้มอย่างที่ใจต้องการ
ทว่าเด็กหนุ่มที่เป็นเสมือนผืนผ้าใบให้เค้าได้ตวัดปลายลิ้นจิ้มเข้าไปนั้นกลับทำได้เพียงแต่บิดตัวไปมาอย่างกระส่ำกระส่ายเท่านั้น ฟินนิคจับต้นขาเค้าไว้แน่น
“อ้า โอ้ พระเจ้า
ได้โปรดเถอะฟินนิค...ปละ ปล่อยฉันก่อน อย่าเพิ่ง เดี๋ยว มัน...อ่าา ยะ อย่านะ”
เด็กหนุ่มร้องห้าม
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเค้าสอดลิ้นเข้าไปข้างในรอยปุ๋มเล็กๆ
ที่ต่อมากลายเป็นรูที่แสนน่ารักนั่นได้สำเร็จ
มือไม้ของพีต้าไม่อยู่สุขคอยจับรั้งแขนของฟินนิคไปเรื่อย
เช่นเดียวกับร่างสูงอีกคนหนึ่งที่ลิ้นไม่อยู่เฉยทำงานตามหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง รูเล็กๆ
ของพีต้ามีน้ำลายของฟินนิคเคลือบอยู่เต็มไปหมด
ร่างสูงผละออกมาเล็กน้อยแล้วลองแตะปลายนิ้วเข้าไปเพียงเล็กน้อยก่อนก้นของเด็กหนุ่มจะกระดกขึ้นและขมิบแน่น
ออกแรงสู้กับนิ้วของเค้า
ฟินนิคจึงกดน้ำหนักลงไปอีกจนนิ้วหลุบเข้าไปในตัวของเด็กหนุ่มได้หนึ่งข้อเต็มๆ พีต้าร้องออกมา เค้าจึงขยับเข้าออกเล็กน้อยแล้วก้มลงประกบปากกับรอยปุ๋มน่ารักนั้นอีกครั้ง
ปลายลิ้นช่ำชองเบิกทางพร้อมกับปล่อยน้ำสีขาวขุ่นที่เค้ารับเอามาจากพีต้าคืนร่างเล็กไป
มันเอ่อล้นออกมาจากช่องทางที่ตื้นเขินนั้นอย่างช่วยไม่ได้จนฟินนิคต้องใช้นิ้วช่วยให้มันง่ายขึ้น
“อ้าา
ฟินนิค” พีต้าขยับขาแรงขึ้น
“โทษทีพีต้า แต่นายต้องรอหน่อย”
ร่างสูงบอก “ฉันไม่อยากทำให้นายเจ็บ”
แต่พีต้าเจ็บไปแล้ว
เด็กหนุ่มผูกคิ้วเป็นปมแน่นแล้วขยับปากอ้อนวอนเค้า “แต่ แต่ว่าตอนนี้มันก็เจ็บอยู่ อ่า...อยู่นะ อ้าา” คนด้านล่างบอก
ร่างสูงเลิกคิ้วแล้วพีต้าก็เห็นเหมือนเค้าไหวไหล่
“โอ้ว นั่นมันก็เลี่ยงไม่ได้อีกล่ะ”
“ให้ตายสิ” ร่างเล็กทำเสียงโอดครวญ
“เอานิ้วนายออกไป....อ่า อย่าขยับสิ
เอามันออกไปก่อนได้ไหม?”
ฟินนิคชักนิ้วออกแต่ยังไม่สุด
“อ่า อึก” เพียงเท่านั้นก็เรียกเสียงร้องหลงๆ
ของพีต้าได้แล้ว เจ้าตัวหลับตาแน่น
ส่วนมือก็เอื้ออมจับไปที่มือของคนด้านล่าง “ฮึก...อา อ๊ะ”
“นายเจ็บเหรอ?”
“อือ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ
เป็นเชิงประกอบคำตอบและดวงตาคู่นั้นยามเมื่อมันปรือขึ้นมองน้อยๆ ก็ช่างทำให้รู้สึกน่าสงสาร
ดังนั้นร่างสูงจึงตัดสินใจแหย่นิ้วเข้าไปใหม่จนสุดโคนแล้วใช้ปากครอบครองแกนกายอ่อนยวบที่นอนแน่นิ่งอยู่บนท้องน้อยใต้สะดือของร่างเล็ก พีต้าสะดุ้งตัวอย่างตกใจเหมือนเดิม
ก่อนจะครวญครางและบิดกายไปมาอย่างอึดอัด กระทั่งเปลี่ยนเป็นความทรมานในที่สุด ฟินนิคเคลื่อนนิ้วที่แฉะเต็มไปด้วยน้ำรักหล่อลื่นของพีต้า แล้วเค้าก็เพิ่มนิ้วเข้าไปอีกเรื่อยๆ
จนร่างเล็กต้องอ้าขากว้างขึ้นมากกว่าเดิมแล้วเกร็งนิ้วตลอดเวลาอย่างอดทน
“ฟินนิค...ฮึก อ่า
ไม่ไหวแล้ว อะ ฉันเจ็บ...อืออ
อ้าา ได้โปรดเถอะ”
เด็กหนุ่มที่มีน้ำตาไหลหลั่งลงมาตามหางตากล่าวอ้อนวอน
และเมื่อเห็นท่าว่าควรพอแล้วชายหนุ่มจึงละปากออกมาจากแกนกายที่กลับมาตั้งชันเหมือนเดิมของร่างเล็ก
พร้อมทั้งถอนนิ้วออกมาจากช่องทางเล็กๆ นั้นด้วย
แต่แล้วน้ำรักบางส่วนที่ร่างสูงใช้เป็นตัวช่วยให้ไหลลื่นนั้นก็ยังมิวายไหลย้อนตามนิ้วของเค้ามาอีก
ฟินนิคตัวร้อนผ่าวและแกนกายของเค้าก็พองตัวมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ปลดปล่อยมันออกมาแต่อย่างใด เค้าเป็นห่วงพีต้ามาก
ทว่าเรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว
ร่างกายบิดเร้าที่มีเหงื่อผุดพรายของพีต้า
และช่องทางเปิดขยายที่มีของเหลวสีขาวไหลออกมานั้นก็ทำให้ความอดทนทุกอย่างของเค้าขาดผึ่งในพริบตาเดียว
ฟินนิคยืดตัวขึ้นเต็มความสูง
ถอดเสื้อออกแล้วก้มลงจูบพีต้าอย่างแนบแน่นอีกครั้งพร้อมกับร่นถอดกางเกงของตัวเองออกไปด้วยอย่างรวดเร็ว ความเป็นชายของเค้าใหญ่โตและแข็งขืนขึ้นเต็มที่
มันสัมผัสกับสิ่งเดียวกันนั้นของร่างเล็ก
จนอีกคนสะดุ้งตัวขึ้นเพราะความอุ่นร้อนที่แตะทาบลงมา
ร่างสูงเคลื่อนมือลงไปจับมันและรวบของพีต้าไปกอบกุมไว้ด้วย ก่อนจะค่อยๆ
ขยับไปมาช้าๆ ตามจังหวะการกระเพื่อมขึ้นลงของหน้าอก
มือหนาข้างหนึ่งนั้นก็ลูบไล่จับให้เรียวขาด้านล่างมาวางพาดไว้ข้างเอวอย่างอ่อนโยน
ร่างสูงเอาลิ้นออกมาจากโพรงปากที่ไม่ประสาของพีต้าแล้วถาม
“นายพร้อมไหม?”
ร่างเล็กช้อนสายตามองเค้ากลับมาด้วยน้ำตาที่ทำให้ดวงตานั้นดูระยิบระยับ
แต่ทว่าเรียวคิ้วที่ผูกกันเป็นปมแน่นก็แสดงออกให้เห็นถึงความวิตกกังวลอย่างชัดเจน
“นายกลัวเหรอ?” เสียงของฟินนิคช่างอ่อนโยน
“กลัว
ใช่ ฉันกลัว” พีต้าสารภาพ
ก่อนจะคล้องแขนกับลำคอแกร่งที่โน้มลงมาใกล้จนเกือบประชิดของฟินนิค
“แต่ฉันก็คิดถึงนายมากเหมือนกัน” เด็กหนุ่มว่า
กอดอีกคนหนึ่งไว้แน่นและคิดถึงวันเวลาที่ไม่มีฟินนิคอยู่ข้างตัว
ร่างสูงซบหน้าผากกลับไป เค้าลูบต้นขาที่พาดอยู่ข้างเอวอย่างอ่อนโยนในขณะที่พีต้าก็กระซิบต่อไปอย่างรวดร้าว
“ฉันคิดถึงเสียงของนาย ยิ้มของนาย”
ร่างสูงจับหว่างขาขาวให้อ้าออก ขึ้นมาเล็กน้อย
“เสียงของนายในตอนที่กระซิบและหัวเราะ”
ฟินนิคยกขาซ้ายของพีต้าขึ้นมา
“มือของนาย ตอนที่จับลงมาแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจ และ...” เค้าประคองแกนกายที่แทบจะเต้นตุ้บๆ
ของตัวเองไปจ่อกับช่องทางฉ่ำเยิ้มของพีต้าก่อนจะดันมันเข้าไปช้าๆ
“อา อ้า!....อึก
และกอดของนาย” เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงในตอนแรก
ก่อนจะพูดต่อให้จบด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแต่ปนวาบหวาม มือที่คอยปลูกต้นกล้าขยำจิกแผ่นหลังสีแทนเอาไว้แน่น
ลำตัวสีขาวเนียนกระเพื่อมขึ้นตามอีกคนหนึ่งที่เคลื่อนกายไปด้านหน้า
ฟินนิคขบกรามแล้วคำรามในลำคอเพราะความคับแน่นที่ไม่เคยมีใครได้แตะต้องของพีต้า
“อ่าา”
ร่างสูงจับต้นขาของร่างเล็กให้ถ่างมากขึ้นไปอีก
ความใหญ่โตนั้นเคลื่อนเข้าไปได้เพียงแค่นิดเดียวเสียงกระท่อนกระแท่นของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้นเสียงแล้ว
“ฟินนิค ดะ เดี๋ยว...อ้า!
อือ เจ็บ...ฉันเจ็บ....อ้าา”
มือเด็กหนุ่มเย็นเยียบในขณะที่กดนิ้วไปบนลาดไหล่แข็งแรง
เจ้าตัวร่างสั่นเทิ้มเพราะความชุ่มช่ำข้างในนั้นไม่เพียงพอสำหรับการชำแรกตัวของแกนกายที่มีขนาดใหญ่มากกว่านิ้วสามนิ้วของฟินนิค
ร่างสูงกัดฟันแน่น เสียงครางอืออึงของเค้าทั้งคู่แทบแยกไม่ออกแล้วว่าของใครเป็นของใคร
เนื่องจากคนหนึ่งก็เจ็บปวดอ้อนวอนขอให้ตัวเองได้มีโอกาสพักหายใจบ้าง
ส่วนอีกคนหนึ่งก็คอยปลอบโยนเพื่อให้ได้แหย่กายเข้าไปได้จนสุด
“อ้าา พีต้าผ่อนคลายสิ ไม่อย่างนั้นนายจะเจ็บมากกว่าที่เป็นอยู่นะ”
ร่างสูงว่าพลางชักมือกับแกนกายที่เริ่มสั่นและปวกเปียกของเด็กหนุ่ม
“อือ ฟินนิค เดี๋ยวก่อนสิ...อ่าา
ช้า...ช้าลงหน่อย” แต่ความจริงแล้วร่างสูงไม่ได้ดึงดันอะไรเลย
เค้าเพียงแค่ขยับกายเข้าออกช้าๆ เท่าที่รูเล็กๆ
นั้นจะยอมเอื้ออำนวยให้กันได้เพียงเท่านั้น
“อาา...ไม่ต้องกลัวนะ กอดฉันไว้สิ” ร่างเล็กจิกเล็บแน่นขึ้น “อา
แล้ว...” แรงกดบนแผ่นหลังทำให้ฟินนิครู้สึกว่าเค้าทั้งคู่กำลังเร่าร้อนขึ้น “อ่าา
แล้วที่นี้นายก็ผ่อนคลายหายใจเข้าลึก...” พีต้ายอมทำตามอย่างว่าง่าย “...ลึก
อ่าา ใช่ อย่างนั้นแหละเด็กดี
โอเค นายเก่ง...นายเก่งมาก
อาา พีต้าอย่ารัดมากนะฉันจะ...”
“อ้าา...า ฮา ฟินนิค” ฟินนิคดันเข้าไป
สวนกายลึกมากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว “อ่า ฮะ
อือ...ฟินนิคลึกจัง”
อาจเป็นเพราะการผ่อนคลายอย่างไม่อิดออดของร่างเล็กจึงทำให้แกนกายของร่างสูงสอดเข้าไปได้มากขึ้น
เค้าจึงสามารถขยับเข้าออกได้อย่างถนัดและเป็นจังหวะ
แต่ทำให้พีต้ารู้สึกเหมือนโดนเฉือนเนื้อออกทีละน้อยจากการที่ช่องทางกำลังจะฉีกขาด
“อือ ลึก...ลึก ฟินนิคมันลึกไปแล้ว”
เด็กหนุ่มเกี่ยวคอคนขยับไว้
ช่องทางที่ไม่เคยรับความต้องการที่ใหญ่โตเช่นนี้มาก่อนบอกพีต้าว่าไม่สามารถรับได้อีกแล้ว
ก่อนเจ้าของจะส่งสายตาขอความเห็นใจให้ขยับช้าลงหน่อย
แต่พีต้าไม่รู้อะไรเลยว่ามันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ความยาวของฟินนิคยังเข้าไปไม่สุดด้วยซ้ำ...
“โทษที ฉันจะทำช้าๆ นะ”
ร่างสูงกระซิบเสียงแหบพร่าประชิดใบหูนิ่มของอีกคนหนึ่ง เค้ากอดพีต้าไว้ด้วยอ้อมแขนของความอบอุ่น
พร้อมทั้งขยับสะโพกอย่างเชื่องช้า จะสุดบ้างไม่สุดบ้างเค้าก็ไม่ใคร่สนใจเนื่องจากเสียงครวญครางของคนด้านล่างนั้นคอยบอกเค้าว่าเจ้าตัวพร้อมที่เจอของจริงแล้วหรือไม่
แกนกายขยายใหญ่เต็มที่นั้นกำลังเสือกตัวต่อสู้อยู่กับช่องทางคับแคบที่เต้นได้ มันขยับตุ้บๆ
อย่างเป็นจังหวะพาให้ความอดทนขาดผึ่ง
แต่ด้วยความที่ไม่เร่งรีบทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
ถึงแม้ฟินนิคจะต้องคอยตะล่อมปลอบพีต้าอยู่เกือบตลอดเวลาก็ตามแต่เค้าก็เข้าใจดีว่าครั้งแรกนั้นเป็นเช่นไร มันคงยากลำบากมากสำหรับตัวเด็กหนุ่มเอง
จนในที่สุดเสียงเฉอะแฉะจากภายในตัวของร่างเล็กก็ดังขึ้น
เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับพวกเค้า
เด็กหนุ่มเบเกอร์รี่นอนทิ้งแขนหอบหายใจเหนื่อยล้าอยู่บนเตียงของตัวเองโดยที่มีชายหนุ่มที่เค้าคุ้นเคยซ้อนกายอยู่ด้านบน ตัวของพวกเค้าติดกัน ฟินนิคมีความอดทนและเก่งมากที่สามารถรอจนพีต้าพร้อมอย่างเต็มได้โดยที่ไม่ทำให้ร่างเล็กต้องเบะปากร้องไห้เพราะบอกว่าเจ็บไปเสียก่อน
“ทำดีมากพีต้า นายทำดีมาก”
ฝ่ามือหนาลูบผ่านหน้าผากที่มีผมปรกอยู่ แล้วก้มลงจูบอย่างแสนชื่นชม
เค้ายิ้มพร้อมกับทำเสียงหัวเราะเหมือนพ่นลมหายใจ
จนอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าอิดโรยแต่ทรมานต้องหัวเราะตาม
“นายทำฉันหายใจลำบาก”
พีต้าว่าเหมือนบ่นแต่ก็กำลังยิ้มเพราะฟินนิค
“นายพร้อมที่จะหายใจลำบากมากกว่านี้รึยัง?”
ร่างสูงถามขึ้น
“ฉันคิดว่านะ” พีต้าทำตาไหวระริก
ภาวนาขอให้ตัวเองทนไหว แต่ภายในลึกๆ แล้วเค้าต้องการฟินนิคมากกว่าสิ่งใด ไม่ว่าอะไรเค้าก็ทนได้
จะให้เจ็บมากแค่ไหนเค้าก็จะทน
ขอแค่อย่าให้ฟินนิคหายไปอีกก็พอแล้ว
พีต้าขอเพียงแค่นั้น
“นายโอเคนะ”
ร่างสูงกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสียงครางของเค้าจะหลุดลอดออกมาจากลำคออย่างพึงพอใจ
เมื่อความต้องการที่ขยายจนคับช่องทางนั้นได้เสียดสีกับผนังอ่อนนุ่มที่ขยันตอดรัดอยู่เป็นนิจ
“อ้า ฟินนิค!”
พีต้ารั้งกอดอีกคนหนึ่งไว้แน่น สะโพกของเจ้าตัวถูกดันให้กระเถิดขึ้นไปเล็กน้อย
ร่างสูงพรมจูบใช้ริมฝีปากเล็มไปทั่วลำคอและลาดไหล่ขาวนุ่มนวลของพีต้า
เค้ากดกายตัวเองแนบชิดคล้ายกับจะรวมเป็นร่างเดียวกันกับเด็กหนุ่ม
แล้วขยับสะโพกด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอในระดับหนึ่ง
ทว่าร่างเล็กกลับไม่ได้รู้สึกค่อยเป็นค่อยไปเช่นนั้นเลย
พีต้ากระสับกระส่าย
ทุกครั้งที่ฟินนิคขยับต่างออกไปหรือเร็วขึ้นเจ้าตัวจะร้องเสียงดังและตัวสั่นกระตุกราวกับลูกแมวถูกทำให้ตกใจ เสียงเฉอะแฉะและเนื้อกระทบกันดังขึ้นปะปนกับเสียงครางร้องเหมือนกับว่าไม่มีใครคิดถึงแคทนิสที่เพิ่งมาเคาะประตูขัดจังหวะเมื่อครู่นี้เลยสักคน
ฟินนิคสอดแขนไปในข้อพับใต้หัวเข่าของพีต้าแล้วใส่กายอย่างไร้ความอดทน
ส่วนเด็กหนุ่มด้านล่างก็ขยำผ้าปูที่นอนเพื่อรั้งตัวเองไว้กับจุดนอนอย่างเต็มที่ หน้าอกที่มียอดอกบวมช้ำนั้นถูกคลอนให้สั่นไปมาอย่างไม่ยอมหยุด
เช่นเดียวกับเสียงหวานที่ไม่เคยเงียบลงเลย
การขยับของร่างสูงทำให้น้ำรักของร่างเล็กที่ใช้หล่อลื่นในคราแรกไหลย้อนออกมากองอยู่บนผ้าปูที่นอนใต้ตัวของพวกเค้าจนหมด และความชื่นแฉะภายในนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยตัวตนอันอุ่นร้อยนของฟินนิค
ฟินนิคหยัดตัวขึ้นจนเหยียดตรง เค้าทำให้เตียงและพีต้าส่งเสียงอยู่ได้สักพักก่อนผนังนุ่มๆ
ข้างในตัวของเด็กหนุ่มจะทำให้เค้าแทบคลุ้งคลั่ง
ชายหนุ่มรู้สึกร้อนรุ่มจนแทบอยู่ไม่ได้
เค้าขยับกายเร็วถี่ในจังหวะสุดท้ายเมื่อแกนกายของเค้าปวดหนึบขึ้นอย่างแรง
“พีต้า..อ้าา ฉันจะ...” หนุ่มผิวสีแทนจากเขต
4 ค้ำตัวไว้เหนือเด็กหนุ่มแล้วกระแทกแกนกายถี่รัวใส่สะโพกคนข้างล่างไม่ยั้ง
“อื้อ! ฟินนิค! อา! อา!
อ๊า! มันกำลังจะ...อ้าา”
และดูเหมือนว่าร่างเล็กเองก็แสนจะใจตรงกันกับร่างสูง
พีต้าบิดกายจนหน้าอกแอ่นขึ้นสูงแล้วช่องทางเล็กๆ
ที่บวมช้ำนั้นก็ขมิบรัดอย่างบ้าคลั่ง
ตอดรัดแท่งกายใกล้ปะทุที่กระชั้นกายเข้าออกอยู่อย่างไม่พักหายใจ
“นิดเดียวพีต้า อีกนิดเดียว...อึก อ่า!”
ท้องน้อยร่างสูงแนบชิดกับต้นขาที่อ้าออกกว้างจนไร้ช่องว่างใดๆ
กล้ามเนื้อตึงแน่นของฟินนิคเบียดเข้ากับกล้ามเนื้อที่ต้นขาอ่อนของพีต้าเสียจนแทบหลอมกันเป็นเนื้อเดียว
“อ้าา!”
ร่างเล็กปลดปล่อยไปแล้ว
ไม่ฟังคำรั้งใดทั้งสิ้น
น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากแกนกายสั่นระริกที่ตั้งชันอย่างไร้ความอดทนและไร้เดียงสา จนกระทั่งอีกคนหนึ่งตามไปติดๆ ด้วยการปลดตัวเองให้เข้าไปเจิ่งนองเต็มช่องทางที่ไร้ช่องว่างของอีกคนหนึ่ง
ร่างเล็กหอบอากาศเข้าเต็มปอดก่อนจะทิ้งตัวเองลงกระแทกกับเตียงอย่างหมดแรง
ร่างสูงเองก็หอบหนักเช่นกันก่อนจะลูบหน้าที่ชื่นเหงื่อของอีกคนหนึ่งอย่างแสนรักแล้วก้มลงจูบบนหน้าผากนั้น
ก่อนจะเคลื่อนมาจูบลึกล่ำอย่างชื่นชม
“เก่งมาก
นายวิเศษที่สุดเลยพีต้า” ฟินนิคกระซิบ
พีต้าเอื้อมมืออันอ่อนแรงขึ้นมาทาบทับกับฝ่ามือหนาที่อยู่บนแก้มของตัวเอง ก่อนคนสอดแกนกายจะขยับเอาของๆ
ตัวเองออกมาอย่างช้าๆ แต่นั่นก็เรียกเสียงครางพร้อมกับสีหน้าเหยเกอีกระรอกหนึ่งของร่างเล็กได้ไม่ยากนักเลยเช่นเดียวกัน
พีต้ารู้สึกกลวงโล่งอย่างน่าประหลาด และน้ำสีขาวของฟินนิคที่ไหลกลับออกมาก็มีมากกว่าของเจ้าตัวในคราแรกเสียอีก
เด็กหนุ่มตัวสั่นแล้วม้วนตัวเข้าหาอ้อมอกของชายหนุ่ม
พีต้าหมดแรงแล้วสิ่งเดียวที่เค้าต้องการก็คือการได้นอนและตื่นสายในวันพรุ่งนี้
ฟินนิคจูบหัวไหล่และขมับของร่างเล็กเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเค้าจะกระซิบอย่างยินดี
“ฉันรักนายพีต้า...ฉันรักนาย”
และเด็กหนุ่มก็ซุกตัวเข้าไปอีกแทนคำตอบนั้น
และในคืนนั้นพวกเค้าไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่ไม่ได้รับความสนใจไปช่วงเวลาหนึ่งไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว
หลังจากเธอพูดคุยกับพีต้าที่รู้อยู่แล้วว่าอยู่กับฟินนิคผ่านประตูห้อง
เธอก็เดินเลยออกไปขอค้างคืนที่บ้านแสนสุขของเฮย์มิชผู้ยากไร้และเมามาย
และแล้วในคืนนั้นแคทนิสก็นอนสูดเอาเชื้อราเข้าไปตลอดทั้งคืนบนโซฟายาวตัวโปรดของชายขี้เมา
.
.
.
TBC.
---------------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊ากกก อิโรติคค่ะ
เป็นคู่ที่ดูเหมือน Normal แต่ว่าพอถึงบทก็อิโรติคไม่น้อยหน้าคู่ไหนเลยค่ะ
5555555 ก็เป็นไรท์นี่เนอะ เอิ๊กๆๆๆ
ขอโทษนะคะที่ ปล่อยให้รอนานเหลือเกิน งืมมม Part ก็เริ่มต้นชีวิตคู่ในเขต 12 แล้วล่ะค่ะ >///< อร๊ายยยยยยยยย เขินแทน จะมีอะไรดีๆ รึเปล่าน้าาาา รอติดตามนะคะ ><
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund