สวัสดีค่ะรีดๆ
แฟนมิตรที่รักทุกท่าน.....มาอย่างต่อเนื่องค่ะ
สำหรับ Part2
ต้องขอเรียนก่อนเลยค่ะว่า
เรทติ้งของ Part 1 ทันทีที่ลงทำให้ไรท์ตกใจมากเลยค่ะ ขึ้นชร์าตเป็นอันดับ
1ของบล็อกไรท์ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ! แซงหน้าบทความอื่นๆ
ในบล็อกไรท์จนชิดซ้ายไปเลยค่ะ! อุ แม่เจ้าาา >{}<!!
ตกใจและปลื้มมากเลยค่ะ HOT จริงๆ ค่ะ
วันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ
แค่อยากจะมาบอกว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มลงของฟิคเรื่องนี้ค่ะ ย้ำค่ะ Fic ........ยาวด้วยค่ะ ไรท์ก็ตกใจตัวเองค่ะว่าทำไมเอ็งเขียนยาวจัง ไม่เคยเวิ่นยาวขนาดนี้มาก่อน -_-“ 555555+
ไรท์ไม่กวนล่ะ ไปเขียนต่อดีกว่าค่ะ......เกือบจวนจะเสร็จล่ะ (เกือบจวนนะคะ...เกือบจวน)
รีดๆ ก็เชิญไปอ่านกันต่อได้เลยค่าาาา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
“โรนัลโด้”
--------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------
--------------------------------
ร่างสูงยักคิ้วอีกข้างหนึ่งแล้วมองเค้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แค่นั้นเองหรือ?” เค้าพูด เมสซี่ไม่อาจบอกได้ว่าสีหน้าของร่างสูงตรงหน้ากำลังแสดงว่าดูถูกเค้าหรืออย่างไรกันแน่........แต่เมสซี่คิดว่าคงจะเป็นอย่างแรกที่เค้าคิดออกมากกว่า
เนย์มาร์กับคนอื่นๆ
บอกว่าสำหรับเค้าแล้ว
ชายร่างสูงตรงหน้านี้ถือว่าไว้ใจไม่ได้มากที่สุด ว่าตามตรงเมสซี่ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่
แต่เท่าที่ทุกคนบอกมา ว่าโรนัลโด้กับเค้ามีฝีมือสูสีพอๆ
กันและอีกฝ่ายตั้งใจจะเหนือกว่าเค้าให้ทุกคนได้เห็น และจะดูถูกเค้าทุกครั้งที่มีโอกาส ดังนั้นเมสซี่จึงไม่ควรจะไว้ใจโรนัลโด้เป็นอย่างยิ่ง..........พี่ๆ
ที่สโมสรเป้าหูไว้ว่าอย่างนั้นน่ะนะ
ถึงแม้จะเพียงแค่เจอหน้ากันในงานที่เค้าไม่แม้แต่อยากจะมีส่วนร่วมก็ตามเถอะ
..................แต่ว่าเค้าเพิ่งทำแชมเปญหกใส่เสื้อของโรนัลโด้นะ!...............
ร่างที่เล็กกว่ากวาดตามองรอบๆ อย่างคิดไม่ออก และร่ำๆ อยากจะเดินออกไปเสียดื้อๆ ด้วยซ้ำ
แต่ว่านั่นเสียมารยาทเกินไป (ปรกติแล้วเมสซี่ไม่รู้เลยว่าเค้ามารยาทดีเกินไป)
“อะ เอ่อ ผม...ขอโทษ” เมสซี่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่รอคอยการพูดของเค้าอยู่
และพยายามทำหน้าตาให้ดูเหมือนไม่ตกใจให้มากที่สุด
โรนัลโด้ที่ได้รับคำขอโทษก็ถึงกับยกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ดูเหมือนจะล้อเลียนคนซุ้มซ่ามนิดหน่อยว่า
“คำว่าขอโทษสำหรับผมเนี่ยดูเหมือนมันจะหลุดออกมาจากปากคุณยากเหลือเกินนะ”
ร่างสูงทำท่ามุ้ยปากแล้วกลอกตาขึ้นฟ้าราวกับเพิ่งนึกอะไรได้ “โอ้
ผมลืมไป คุณคงไม่คิดจะขอโทษคู่อริของตัวเองหรอกใช่ไหมคุณเมสซี่”
ร่างสูงเน้นคำพูดสุดท้ายอย่างชัดเจนราวกับต้องการจะประชดประชันอีกคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
โดยที่ความหมายเหล่านั้นก็พุ่งเข้าหาคนโดนพูดใส่เต็มๆ เมสซี่มองกลับไปด้วยดวงตากลมโตที่แสนน่ากลัว(?)
แล้วก็ต้องกัดฟันแน่นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูประชดประชันไม่แพ้กันเลย
“อ๋อ
งั้นผมก็คงต้องขอโทษด้วยนะ
ที่คำขอโทษของผมมันไม่ซาบซึ้งพอที่จะทำให้คุณประทับใจ” ร่างเล็กว่าอย่างรู้สึกฉุนจนน่าประหลาด
แต่ทว่าร่างสูงกลับนึกขำอยู่ในใจเพราะท่าทางนั้นของเมสซี่ดูเป็นอย่างอื่นมากกว่าแทนที่จะดูน่ากลัว ดวงตาคมสีน้ำตาลยังคงมีแววเรียบเฉยจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งแหกฝูงชนออกมาเรียกเค้า
โรนัลโด้หันไปมองก่อนจะหันมาส่งสายตาไม่เป็นมิตรนักสำหรับร่างเล็ก
แล้วหมุนร่างหันกลับเข้าไปในฝูงชนพร้อมกับสะบัดผ้าเช็ดหน้าที่เหน็บอยู่บนกระเป๋าเสื้อออกมาเช็ดคราบเลอะบนเสื้อของตนเองอย่างรู้สึกหงุดหงิดที่มันดูไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็นเสียด้วยซ้ำ
ฝ่ายร่างเล็กที่ถูกทิ้งไว้ดังเดิมก็รู้สึกฉุนไม่น้อยที่โดนทำสายตาแบบนั้นใส่ เค้าไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจตอนไหนกันแน่
แต่ที่รู้ๆ สิ่งที่พี่ๆ ของเค้าเล่าให้ฟังดูเหมือนล้วนแต่เป็นความจริงทั้งหมด
“ใครอยากจะไปขอโทษคนนิสัยแบบนั้นกัน”
เมสซี่พึมพำกับตัวเอง แล้วก็ต้องรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมเมื่อนอกจากจะต้องติดเหง็กอยู่ที่นี่แล้วเค้าเพิ่งจะได้เจอกับคนที่ไม่ชอบหน้าเค้าแบบปุ๊บปั๊บรับโชคอีกด้วย
เจ๋งเลย.....เมสซี่คิดพลางอยากเอาหัวฟาดพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสีย......รู้งี้เค้าน่าจะแกล้งทำเป็นป่วยแล้วบอกทุกคนว่ามาไม่ได้ฃะก็ดีหรอก.........เมสซี่คิดอย่างนึกเสียดาย
ก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นตื่นตัวทันทีเมื่อมีหญิงสาวสองคนเดินตรงมาหาเค้าและทำหน้าราวกับว่าเธอเจอล็อตเตอร์รี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่งวางทิ้งไว้
“อุ๊ยตายแล้ว! นี่เมสซี่ตัวจริงเสียงจริงนี่นา....โอ้
ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะที่ได้พบคุณ
เรามางานนี้ก็เพื่อมาพบคนที่มีความสามรถและรูปหล่ออย่างคุณโดยเฉพาะเลย” หญิงสาวผมบล์อนในชุดเดรสรัดรูปสีบานเย็นสดใสพูดขึ้น
พลางจับมือเมสซี่ที่ทำอะไรไม่ถูกมาเขย่าเบาๆ แต่ทว่านานเป็นพิเศษ จนเพื่อนอีกคนต้องส่งสายตาปราม แล้วคว้ามือที่ดูเล็กกว่าของพวกเธอมาจับแล้วส่งยิ้มหวานให้บ้าง
“ฉันลิซซี่ค่ะ.....ยินดีที่ได้รู้จัก
ส่วนนี่เพื่อนฉันสเตล่า” ลิซซี่หรือหญิงสาวคนที่สองพูดขึ้น
โดยมีสายตาขุ่นเคืองของสเตล่าส่งตรงมายังเธอ
หลังจากที่สาวเจ้าโดนแย่งซีนแนะนำตัวไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนคนที่ยังไม่แม้แต่จะได้เอ่ยอะไร
หรือถึงจะมีโอกาสแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปอยู่ดี เค้าเปลี่ยนมาเป็นทำหน้าแตกตื่นทันทีหลังจากที่โดนเจอตัวเข้าให้แล้ว.........นี่ไง
ที่เค้าหวั่น เมสซี่เป็นคนที่คุยไม่เก่งแถมยังไม่รู้จะพูดอะไรอีกด้วย
ถึงแม้คนฟังจะปรารถนาที่จะฟังแค่ไหนแต่มันจะต้องดูโง่มากๆ แน่.........เค้าแน่ใจ
“อะ เอ่อ.....ครับผม...” เอาแล้วสิ เมสซี่ไม่รู้ว่าตัวเค้าเองกำลังแค่พูดคำว่า “ครับ”
หรือกำลังจะพุดอะไรต่ออยู่กันแน่
เป็นครั้งที่สองของคืนนี้ที่เค้าอยากจะเอาหัวฟาดพื้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป.........
“อู้ว์ ให้ตายเถอะพระเจ้า! เราสองคนมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเยอะแยะเลยถ้าคุณไม่รังเกียจ หลังจากเราถ่ายรูปคู่กับคุณแล้วน่ะค่ะ” สเตล่าพูดก่อนจะส่งสายตาค่อนค้อนไปให้เพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง
พร้อมกับควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าไปด้วย
“อะ ฮะ....คุยหรือครับ” เมสซี่อ้าปากน้อยๆ
ในขณะที่มองเธอทั้งสองพยักหน้ารัว
ขอโทษนะครับ
ที่สิ่งที่คุณสองคนต้องการมันเป็นสิ่งที่ผมถนัดน้อยที่สุด.......ร่างเล็กผู้กระวนกระวายคิดในใจ
ก่อนจะตัดสินใจว่าจะพูดออกไปแบบนั้นดีหรือไม่
แต่สุดท้ายก็คิดว่าไม่ดีกว่าเพราะมันคงฟังดูน่าขำเอามากๆ ดังนั้นเมื่อเห็นแสงรำไรแล้วว่าเค้าจะต้องตอบคำถามสาวๆ
พวกนี้ เมสซี่จึงค่อยๆ เดินถอยหลังออกไป พร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงตะกุกตะกักว่า
“อะ เอ่อ.....คือผมต้องขอโทษพวกคุณสองคนด้วยจริงๆ
นะครับที่มันค่อนข้างแย่ที่จะ ที่จะ
เอ่อ........” เค้าพูดเสียงฟังดูเบาลงในขณะที่หัวเค้าก็เริ่มตื้อแล้วว่าจะพูดอะไรต่อ และเป็นเวลาเดียวกับที่ลิฟต์ข้างหลังเค้าซึ่งห่างออกไปราวๆ
หกเมตรเปิดขึ้นพร้อมกับที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งซึ่งเพิ่งเดินควงกันออกมาพอดี
ดูเหมือนเค้าจะมองเห็นทางรอดแล้วล่ะ!
“อะ เอ่อ....ใช่! คือ คือ ผมรู้สึกอยากจะอาเจียนน่ะครับ
คงต้องขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย
ต้องขอโทษด้วยนะครับ เอ่อ....ถ้าผมดีขึ้นแล้วและถ้าได้เจอพวกคุณอีก ผมยินดีจะตอบคำถามทุกคำถามของคุณอย่างแน่นอนครับ
ผมสัญญาเลย.........อุ๊บ ลิฟต์” ร่างเล็กพูดไปเรื่อยๆ
จนเกือบโดนลิฟต์ปิดหนีจนต้องรีบแทรกตัวเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วท่ามกลางเสียงอุทานอย่างนึกเสียดายของหญิงสาวปากมันทั้งสอง
และพวกเธอพยักหน้ารับกับคำแก้ตัวของเมสซี่
ซึ่งพวกเธอคิดว่ากลายเป็นคำสัญญาจริงๆ ไปเสียแล้ว และเพื่อไม่ให้คลาดจากนักเตะคนโปรดของพวกเธอ
รวมทั้งให้แน่ใจด้วยว่าเค้าจะได้เจอพวกเธออีกครั้ง
ดังนั้นทั้งลิซซี่และสเตล่าจึงตกลงปลงใจกันว่าจะยืนรออยู่หน้าลิฟต์ตัวนั้นทั้งคืนจนกว่าเมสซี่จะมาและพบพวกเธอ แต่สุดท้ายแล้วจนกระทั่งจบงานพวกเธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเค้า..............
ส่วนคนที่หนีและรอดพ้นเรื่องเสี่ยงตายมาได้อย่างหวุดหวิดก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่ง
อก แล้วก็ต้องนึกถอนหายใจให้กับความซื่อของตัวองอีกครั้ง
ในเมื่อเค้าบอกพวกเธอว่าต้องออกไปสูดอากาศข้านอก เค้าจึงกดไปที่ชั้นดาดฟ้าตามที่ตัวเองปรารถนาอย่างรวดเร็ว
(อันที่จริงเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกดชั้นอะไรไป เพราะรีบมากๆ )
“ชั้นดาดฟ้า.....โอ๊ย
ลีโอเจ้าบ้าเอ้ยย” ร่างเล็กยกมือขึ้นขย้ำหัวตัวเองแล้วก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่ว่าเค้าจะต้องขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของโรงแรมหรู
โดยที่เค้าเองก็กลัวความสูงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
.........หรือถ้าให้คิดในแง่ดี
อย่างน้อยเค้าก็ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในงานเลี้ยงหรูๆ นั่นอีกแล้วล่ะกัน นั่นถือว่าดีมากๆ แล้ว...........
ลิฟต์ของโรงแรมที่นี่มีอยู่สองแบบ
นั่นคือลิฟต์หลักสำหรับแขกเป็นลิฟต์แก้วโปร่งใสที่มีขนาดกว้างขวางพอสมควร
และลิฟต์สำรองที่มีลักษณะเหมือนลิฟต์ทั่วๆ ไปคือทึบและแคบซึ่งก็เป็นลิฟต์ที่เมสซี่กำลังยืนหายใจเข้าหายใจออกอยู่ในตอนนี้นั่นเอง.......อันที่จริงก็ดีแล้วล่ะนะ
ที่บังเอิญได้เข้าลิฟต์ตัวนี้พอดี
เพราะถ้าหากเค้าได้ใช้ลิฟต์ตัวหลักมีหวังได้อ้วกแตกจริงๆ แน่
ตอนมาตอนแรกเค้าก็เอาแต่ซุกหน้าเอาไว้บนหลังของเนย์มาร์
อีกคนหนึ่งก็ค่อยบอกเค้าว่าไม่ต้องมองลงไป ให้หายใจเข้าลึกๆ แต่พอไปพอมากลับเกี่ยวเค้าเข้ามากอดเองเสียนี่.......ไม่ว่าสถานการณ์ไหน
เมสซี่ก็ดูเหมือนจะไว้ใจเนย์มาร์ไม่ได้เลย..........แต่อันที่จริงสาเหตุที่ทำให้เมสซี่ต้องหายใจเข้าหายใจออกลึกๆ
อยู่ในลิฟต์ทึบๆ นี่ก็คือ
เค้าไม่ชอบที่แคบ
นั่นแหละเหตุผลเดียวของตอนนี้เลย.............
แต่ชายหนุ่มร่างเล็กก็ยืนก้มหน้ามองพื้นอยู่ได้ไม่นาน
เสียง ติ้ง ก็ดังขึ้นพร้อมกับที่บานประตูลิฟต์ได้เปิดออก ในช่วงนาทีนั้นเอง ลีโอเนล เมสซี่ก็รีบเบียดร่างอันปวกเปียกของตัวเองออกมาทันทีและยืดตัวขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์ที่เค้าเองก็แทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะรู้สึกสดชื่นขนาดนี้
ลมเย็นๆ พัดเข้ามาปะทะใบหน้าของเค้าพร้อมๆ กับที่ลิฟต์ได้ถูกปิดลง
เมสซี่เดินออกมาอีกเพียงสองสามก้าวให้ห่างจากลิฟต์
และไม่กล้าเดินไปใกล้ขอบดาดฟ้ามากกว่านั้นนัก
เพราะอะไรก็คงไม่ต้องบอกหรอกนะ.........ชายหนุ่มชื่นชมกับทัศนียภาพเบื้องบนทั้งดวงดาว ท้องฟ้า
เมืองและผู้คนด้านล่าง และรวมไปถึงสวนหย่อมที่จำลองสภาพป่าดิบชื่นที่เหมือนยกเอาทั้งป่าอะเมซอนมาวางไว้บนยอดตึกของโรงแรมนี้ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
“เฮ้อ....อย่างน้อยผมก็ไม่ได้หนีออกไปจากงานอย่างที่พี่สั่งห้ามไว้หรอกนะ ผมก็ยังอยู่นี่หนิ”
เค้าพึมพำกับตัวเองแต่ดูเหมือนกำลังบอกกับบุคคลที่สองซึ่งไม่อยู่ที่นี่มากกว่า......และร่างเล็กดูเหมือนจะยกยิ้มให้ตัวเองอย่างภูมิใจที่หนีรอดความวุ่นวายข้างล่างมาได้
แต่เค้าก็ต้องรู้สึกแปลกใจเล็กๆ เมื่อจู่ๆ เค้าก็รู้สึกสังหรณ์อะไรบ้างอย่างขึ้นมาทั้งๆ
ที่คืนนี้ก็มีแต่คนที่มีความสุขกันทั้งนั้น
........เอ่อ ยกเว้นเค้าน่ะนะ......
“เอาล่ะ ฉันจะอยู่ที่นี่โดยที่จะหาอะไรสักอย่างทำ....ไม่มีใครแอบดูอยู่แล้วนี่นา”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเองแล้วออกเดินไปรอบๆ บริเวณที่เค้ายืนอยู่ห่างออกไปสองสามก้าว
ไม่ไกลไปกว่านั้น.........
และในขณะที่เดินโต๋เต๋ๆ อยู่นั้นก็มีแสงแวววาวบางอย่างสะท้อนมาเข้าตาร่างเล็กเข้า เป็นเหตุให้เค้ามองตามจุดวิบวับบนพื้นที่อยู่ห่างออกไปแล้วคิด.....อย่างน้อยอยู่บนนี้คนเดียวก็ไม่น่าเบื่อเสมอไปแฮะ.......แล้วเดินดุ่มๆ
เข้าไปใกล้กับราวเหล็กมันวาวที่ดัดเป็นลวดลายโค่งสวย เมื่อเดินมาถึงร่างเล็กถึงกับชะงักเล็กน้อยเมื่อแสงแวววาวนั้นพาให้เค้าเดินเข้ามาเกาะขอบรั้วตรงดาดฟ้าเข้าอย่างจัง
และใต้ราวเหล็กมันวาวนั่นคือ เหรียญเล็กๆ
เหรียญหนึ่งที่....ใหม่เอี่ยมมากเสียด้วย เหมือนมันยังไม่เคยผ่านการใช้บ่อยๆ
มาก่อนอย่างที่มันควรจะเป็น หล่นอยู่บนพื้นหญ้าสำเร็จรูปที่ถูกปูทับไปทั่วทั้งพื้นที่
ทำให้มันช่างดูเด่นและสะดุดตาเป็นอย่างมากเมื่อกระทบกับแสงจันทร์ในยามนี้
และที่นั่น บนดาดฟ้า.......เบื้องหลังพุ่มไม้ของต้นอาไซอิที่ยังโตไม่เต็มที่
ห่างออกไปจากชายหนุ่มร่างเล็กพอสมควร
“เฮ้ย! อย่าขยับสิว่ะ! เดี๋ยวมันก็รู้ตัวก่อนพอดี” เสียงทุ้มแหบกระซิบรอดไรฟัน
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่า
ก็ปืนมันหลุดมือข้านี่!” อีกเสียงหนึ่งฟังดูขู่กรรโชกไม่แพ้กัน พูดตอบมาอย่างหัวเสีย
“ข้าบอกแล้วใช่ไหม
ว่าอย่าใส่กางเกงตัวนี้มา! กระเป๋าแกมันรั่วเหรียญใหม่ที่เราปล้นมาหล่นอยู่ตรงนั้นน่ะแกเห็นไหม!
ถ้าไอ้เจ้านั่นเกิดรู้ตัวขึ้นมาว่าเราอยู่นี่แล้วจะทำยังไง!” ทีนี้ข้อกล่าวหาใหม่ก็ทำเอาโจรอีกคนหนึ่งถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ขมวดคิ้วมองกลับไปเท่านั้น
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่า.....ก็ข้ามีอยู่ตัวเดียว”
“แล้วนี่จะเอายังไง......จับมันเลยดีไหม
แยกตัวออกมาจากคนอื่นแล้วจับได้สบายๆ” เสียงแรกถามความเห็นกลายๆ
อยากจะตัดบทเรื่องกางเกงเพื่อน แต่เพื่อนข้างๆ
กลับเงียบไปไม่พูดอะไรต่อแต่อย่างใด
จนทำให้คนถามเริ่มหงุดหงิดกับความลังเลของเพื่อน “เอ้า! ข้าถาม! จะเอายังไง!”
“เอ่อ...คือข้าไม่ได้เอาที่เก็บเสียงมาด้วยว่ะ
ลืมหยิบมา......อุ๊ยย!”
ผั๊วะ!!
“ไอ่โง่! เอ็งจะเอาปืนไปฆ่ามันรึไงว่ะ!
หัวหน้าบอกว่าใช้ปืนเฉพาะยามฉุกเฉินเท่านั้น! ไม่ใช่ให้ยิงหัวเป้าหมายแล้วแบกศพกลับไปให้หัวหน้า
ควายยยย” ด่าออกไปฉาดใหญ่กับความหัวถั่วของเพื่อนร่วมพรรคแล้วก็ถึงกับต้องส่ายหัวเบาๆ
“เออ....จริงด้วยว่ะ ลืมไป” พูดเสียงล่องลอยพลางทำหน้าเพิ่งตรัสรู้ถึงรสพระธรรมคำสั่งของหัวหน้า
“งั้นก็จัดการเลยล่ะกัน”
โจรคนแรกพูดขึ้นอย่างหมายมั่น แต่ทว่า........
“เฮ้ยเดี๋ยว....มีคนมา!” เสียงติ้งและการเคลื่อนตัวของบานลิฟต์ ทำให้โจรคนที่สองซึ่งสังเกตเห็นทันพอดี
ดึงหัวเพื่อนให้ก้มหมอบลงกับพื้นหญ้าทันเวลาพอดิบพอดีเมื่อมีคนก้าวออกมาจากลิฟต์
และเสียงเตือนเบาๆ
ของลิฟต์สำรองก็มาพร้อมกับร่างสูงสมส่วนในชุดสูทสีดำสนิทรัดรูปพอดีตัว มือแกร่งทั้งสองเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อนอกบริเวณหน้าท้องให้แยกออกจากกันเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับเค้า
และท่าทีสบายๆ นั้นของร่างสูง
ดูเหมือนจะช่างผิดกับอาการตัวแข็งทื่อของคนร่างเล็กที่มาถึงก่อนหน้านี้เสียจริงๆ
...................
เมสซี่หันไปมองยังต้นเสียงอย่างหวั่นๆ
ทันที กลัวว่าจะเป็นใครๆ ที่เค้าไม่อยากเจอ และเมื่อเค้าหันไปก็ทำให้ต้องเกาะราวเหล็กใกล้ๆ
ตัวแน่น เมื่อเป็นเวลาเดียวกับที่คู่ปรับของเค้าหันมาเจอเค้าเข้าพอดี
ดวงตาสีน้ำตาลเฉดเดียวกัน สบมองประสานกันในครู่หนึ่งเมื่อต่างฝ่ายต่างหันมาจรดสายตาต่อกันพอดี สายลมยามค่ำคืนบนตึกสูงพัดหวีดหวิวปะทะร่างกายของชายหนุ่มทั้งสอง
พัดพาทำเอาผมด้านหน้าของร่างเล็กปลิวไหวน้อยๆ ตามแรงลม ผิดกับชายหนุ่มที่ร่างสูงกว่าซึ่งจัดแต่งทรงผมมาอย่างดี.....ลมบนยอดตึกจึงไม่สามารถทำอะไรเค้าได้
ชายหนุ่มที่เพิ่งมาใหม่หยุดอยู่กับที่
ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ขอโทษที ผมไม่รู้ว่ามีคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวอยู่บนนี้” ดูเหมือนร่างสูงเองก็ต้องการมาหาพื้นที่ส่วนตัวเพื่อสูดอากาศด้วยเช่นกัน
และดูจะแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่บังเอิญมาเจอเข้ากับคนที่เพิ่งทำแชมเปญหกใส่เสื้อตัวโปรดของเค้า
เมสซี่ยืนนิ่งขณะมองหน้าของโรนัลโด้อย่างเงียบๆ
หวังอยากให้อีกคนเดินกลับเข้าไปแล้วหาพื้นที่ส่วนตัวแห่งใหม่เสีย แต่ทว่าร่างสูงกลับยืนนิ่งและสูดหายใจเอาอากาศเย็นๆ
เข้าสู่ปอดแล้วเดินเข้ามาใกล้เค้า เมสซี่มองการกระทำที่เดาไม่ออกอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้เค้าจนมุมเสียแล้ว......ตอนนี้ร่างเล็กทำได้แต่เพียงบอกตัวเองเท่านั้นว่า
อย่ามองลงไปข้างล่าง
แล้วตัดสินใจพูดอะไรสักอย่างเพื่อให้เหตุการณ์ดูไม่น่าอึดอัดเกินไปสำหรับเค้า
“คุณมีอะไรรึเปล่า” เพราะดูท่าทางร่างสูงที่กำลังเดินมาหาเค้าจะเรียบเฉยเอาเสียเหลือเกิน
และแทบจะทันทีที่จบประโยคสั้นๆ
แก้เก้อของร่างเล็ก
ฝ่ามือใหญ่ก็ถูกยื่นออกมากั้นระหว่างเค้าทั้งสองในแนวยี่สิบห้าองศา เมสซี่มุ้นหัวคิ้วเล็กน้อยมองมือที่ยื่นมาของโรนัลโด้
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการคุณเมสซี่.....”
เสียงทุ้งต่ำนั้นถูกพูดออกมาด้วยความราบเรียบตามแบบฉบับร่างสูง
แต่ทว่าร่างเล็กตรงหน้ากลับรู้สึกว่ามันทุ้มกังวานอย่างน่าประหลาด
คนถูกหยิบยื่นก็เลิกลั่กเล็กน้อย
ก่อนจะส่งมือไปจับตอบแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเขย่าเบาๆ
“เช่นกันครับ....คุณ เอ่อ โรนัลโด้”
เมสซี่คิดว่าเสียงที่เค้าพูดออกไปฟังดูเบามากๆ เลย เพราะเค้าไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะพูดกับอีกคนด้วยภาษาแบบไหนดี ได้แต่พูดคำว่า ‘คุณ’ อย่างเป็นทางการตามที่ร่างสูงทำเท่านั้นเอง
ความไม่เข้าใจยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวของเมสซี่จนกระทั่ง
ร่างสูงตรงหน้าเค้าล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วมองสำรวจทิวทัศน์ไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับมาพูดเสียงเบากับเมสซี่
“ผมแค่ทำตามมารยาท
เพราะแค่คิดว่ามันเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้กล่าวทำความรู้จักกันอย่างจริงจังก่อนลงสนาม”
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมามองด้วยดวงตากลมตาที่แฝงไปด้วยคำถามว่า
“เพราะงั้นเองหรือ?” ที่ร่างสูงเดินเข้ามาทำความรู้จักและข้อจับมือกับเค้าเพียงเพราะมันเป็นมารยาทที่ใครๆ
ก็ควรปฏิบัติเท่านั้นเองน่ะหรือ รู้ไหม
มันทำให้ร่างเล็กหลงคิดไปว่าคนๆ นี้ต้องการจะรู้จักกับเค้าจริงๆ และเราเองก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้........งั้นนี่ก็คงไม่ใช่เลยน่ะสินะ
อุตส่าห์หลงคิดไปว่าโรนัลโด้จะไม่คิดว่าเค้าเป็นศัตรูอย่างที่เค้าเองก็คิดเช่นนั้น
.............แต่เห็นทีแล้วเรื่องที่พี่ๆ
ในทีมพูดจะเป็นเรื่องจริง.............
“เอ่อ.....ขอบคุณนะที่คุณยังอุตส่าห์ไม่ลืมทำตามมารยาทอย่างที่ควรทำ”
เสียงของเมสซี่สั่นเล็กน้อยในขณะที่ก็ยังคงจ้องมองใบหน้าคมสันแสนเรียบเฉยนั้นของร่างสูง
ซึ่งก็ก้มลงมามองเค้าด้วยเช่นกัน
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------
Part นี้ดูเค้าจะไม่ชอบหน้ากันยังไงไม่รู้แฮะ
[- - ]
แต่ก็อย่างที่ไรท์ได้สปอยล์ไว้นานแล้วค่ะ
ว่าแรกๆ ของสองคนนี้จะดูกัดกันและไม่ชอบหน้ากันน่าดู แต่พอสุดท้ายแล้วทั้งคู่ดูเหมือนใครจะขาดคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้เลยยย
--- ฮาาาาา //ทำหน้าฟิน....วางยารีดรอบที่.........เอ่อ
เท่าไรแล้วไม่รู้ง่ะ// 5555+ น่ารักแน่ค่ะ
น่ารัก
และ Part หน้าเค้าจะเริ่มใกล้ชิดกันแล้วนะเออ......แบบว่าฟรุ้งฟริ้งมากขึ้นอ่ะค่ะ
>//< //แกเป็นอะไรยะ!!
พอแล้วอย่าฝอยนาน.....จะได้ไปเขียนต่อ//
ติอต่อต่อ Part หน้านะคะ ไรท์ไปแล้วค่ะ ........RonalSi ทำพิษ -////- //กำเดาหกรดคอม//+//เดี๋ยวๆ เรื่องนี้ไม่ใช่แนวแบบ The Storm นะ //
รักรีดทุกท่านะคะ //ยิ้มกว้าง//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
2 ความคิดเห็น:
โอ้
ตอนนี้อ่านตรงทอล์คแล้วต้องขอกล่าวถึงเสียหน่อย ใช่เลยค่ะ คู่นี้เขาเรตติ้งมาแรงแซงโค้งจริงๆว่าไหม Hot ไม่หยุดฉุดไม่อยู่แบบนี้ต้องมาสานต่อไวๆเนอะคะ ฮ่าๆ :D
เริ่มการทำความรู้จักของทั้งสองดูเหมือนจะชวนอึดอัดชอบกล สงสัยจะเป็นที่ท่าทีของคริสเตียโน่หรือเปล่านะ แต่นี่แหละแบบฉบับและเสน่ห์ของเขาละ สงวนท่าที ซ่อนเร้น เหมือนมีอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา จนลีโอเองก็ยังมองเขาไม่ออก...แต่ก็อย่าเพิ่งเชื่อพี่ๆในทีมเสียหมดล่ะ ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมากจริงไหมคะ //เอ๊ะ ยังไงกันน้อ~~
บทสนทนาดูเหมือนจะประชดประชันกันไปมาเลยนะแบบนี้ โดยเฉพาะ'คุณเมสซี่'นี่แหละ -//- แต่เดี๋ยวก่อน! 'คุณโรนัลโด้'เองก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน เชือดเฉือนแบบนิ่มๆ แต่ทำให้คนฟังอึ้ง(และคาดว่าคงจะผิดหวังอยู่เหมือนกัน)ได้ แม้แต่จะขึ้นไปหาพื้นที่ส่วนตัว //ชอบศัพท์คำนี้จริงๆ//ก็ยังเจอกันจนได้ ช่างบังเอิญ(?)เสียเหลือเกิน
แก๊งโจรอ่านแล้วชอบค่ะ ขำดี มีคนมาคอยสร้างสีสันอยู่เรื่อยๆ บทสนทนาที่พูดกันฮามากค่ะ เรียกได้ว่าฟิคเรื่องนี้คงจะมีครบทุกรสชาติเชียวล่ะ แปลกใหม่และน่าสนใจจริงๆ รออ่านต่อด้วยใจจดจ่อเช่นเคย อิอิ
อร๊ายยยยไรท์วางยารีดขั้นรุนเเรงเลยนะเนี่ย!!!
เรื่องนี้อ่านไปยิ้มไปเขินไป555
เฮียก็วางมาดซะพูดดีดีกับเหมียวหน่อยก็ไม่ได้
เหมียวเรานี่ก็ขยันกลัวจริงจริ๊ง.....กลัวหมดที่สูงที่มืดที่แคบจะกลัวอะไรอีกมั้ยนี่ ทำตัวน่ารักเกินไปแล้วนะ ฝากไรท์บอกเฮียให้จัดเต็มเลยนะ
โอ้ยยยยยอยากอ่านอีกอ่ะไรท์มาต่อไวไวเลยนะ
อย่าให้รีดรอนานเดี๋ยวคลั่งตายกันพอดี^3^
Gingaksorn
แสดงความคิดเห็น