วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

[Fic – The Hunger Game] + [Part 13] The Possible – Finnick x Peeta





อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย //โหยหวน//  มาแล้วค่ะรีดๆ ขาาา  อร๊ายๆๆๆๆ  (รู้สึกบ้า) ไรท์ใกล้จะปิดเทอมแล้วค่ะรีดๆ   อร๊ายยยย ใกล้แล้วววว  //เขย่าขารีด// ถ้าปิดเทอมนะ ไรท์จะอัพฟิคมันถี่ๆ เลยค่ะ อ๊ากกกกกกกก  //คุกเข่า แล้วเอนตัวไปข้างหลัง//  รู้สึกว่าจะบ้าขึ้นสมองแผ่ซ่านไปยันทั่วร่างแล้วล่ะค่ะ 555555

ฟินนิคกับพีต้ากำลังจะจบแล้วค่ะ  อีกน่าจะประมาณ 3 Part ต่อจากนี้ค่ะ  น่าจะนะคะ  แฮ่ๆ  มันจะเป็นตอนจบที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกเค้าค่ะ....โอยยย ฟังแล้วดูใจหายจังง TUT  พีต้าน้อยๆ ของไรท์กำลังจะได้เป็นฝั่งเป็นฝ่าแล้วค่ะ TUT //ร้องไห้อีกสักทีด้วยความปิติ//   

ฟินนิคดูแลพีต้าให้ดีๆ นะเคอะ!! //จับมือฟินนิคขึ้นมาบีบทั้งสองข้าง//  ขอฝากฝังพีต้าด้วยนะคะ.....เฮยยย เดี๋ยว นี่ยังไม่จบเลยนาา  ดูความหวาน  และชีวิตอันสงบสุขของเค้าก่อนซี่----
  
โอเคค่ะ ก็ได้ที่กล่าวไปนะคะ  ว่าพวกเค้าจะมีเรื่องดีๆ อะไรเกิดขึ้นอีก  แต่ว่า....ไรท์ว่าอาจไม่แน่ค่ะ  ฟินนิคกำลงจะกลับบ้านนี่เนอะ  มองในแง่ของความเป็ฯจริง ก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ  แต่ว่าเค้าสองคนฝ่าฟันอะรมาด้วยกัน  จนมาถึงจุดนี้!   อ๊ากกกกก  จะแยกกันง่ายๆ อย่างงี้เลยรึไงฟระ! >[]<  //แกทำยังกะฟินนิคใช่คนบอกว่าให้ตัวเองกลับบ้านเองยังงั้นแหละ -*-//

โอเคค่ะ  พีต้าจะทำเช่นไร  และฟินนิคจะทนกับเสียงเต้นกระตุกของหัวใจตัวเอง ตัดใจบอกลาพีต้าได้หรือไม่  ไปอ่านกันเลยค่าาา! >0<



-------------------------------------------------------------------------------------------



“พีต้าคือว่าฉัน...อีกไม่กี่วันฉันจะต้องกลับบ้านแล้วนะ”



.



.



*******************************************************************************



.



.



“กลับบ้านเหรอ?” เด็กหนุ่มคิดว่าฟินนิคจะอยู่กับเค้าตลอดไปแต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ถึงแม้จะแอบหวังให้ฟินนิคลืมกลับบ้านต่อไปเรื่อยๆ ก็ตาม

“ถ้างั้นแล้วนายจะไปเมื่อไรงั้นเหรอ?” เจ้าตัวถามออกไปด้วยความไม่ชักช้า  เรื่องนี้ทำให้พีต้าใจสั่น  เจ้าตัวคิดเรื่องี้เอาไว้อยู่แล้วแต่ก็อดใจหายไม่ได้  เพราะเมื่อครู่พวกเค้ายังหัวเราะถึงคนที่ทำงานมาด้วยกับตลอดทั้งสัปดาห์อยู่เลย  เด็กหนุ่มคิดว่าเรื่องหวนคืนกลับบ้านจะผุดเข้ามาในความคิดของชายหนุ่มช้ากว่านี้  ถึงแม้จะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่พีต้าก็ไม่เคยเป็นเช่นนั้นเลยนอกจากกับฟินนิค  เด็กหนุ่มไม่แม้แต่กระพริบทีเลยเดียวเมื่อคนข้างๆ บอกว่าจะต้องจากกันแล้ว  พีต้ากำลังตั้งใจฟังอย่างหนักยิ่งกว่าเมื่อตอนทบทวนแผนลอบสังหารสโนว์เสียอีก

“คงอีกไม่นานหรอก” ฟินนิคคราง  และแปลกใจว่าเหตุใดตัวเองจึงเรียบเรียงคำพูดได้ยากนัก  ถ้อยคำของเค้าหดหายไปเพราะสีหน้าที่หงอยลงของพีต้า  ปรกติแล้วเค้ามักจะหาคำพูดที่ทำให้เรื่องดูแย่น้อยลงได้เสมอ แต่ตอนนี้กลับยากเกินไป

พีต้าวางแก้วลงบนฟางหญ้าชื่นๆ แล้วหันมาหาคนข้างๆ อย่างเต็มตัว

“ฟินนิค...” พีต้าไม่รู้จะพูดอะไรเพราะรู้ดีว่าไม่ได้มีความสุขนักกับคำว่า จะกลับบ้าน ของฟินนิค  ชายหนุ่มจากเขต 4 ได้ส่งจดหมายกลับบ้านไปเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว  บอกว่าเค้ายังไม่ตาย  ปลอดภัย และอยู่กับพีต้าที่เขต 4  แอนนี่น้องของเค้าส่งจดหมายกลับมาหลังจากผ่านไปเพียงไม่ถึงสิบวัน เนื้อหาด้านในฟินนิคไม่ได้บอกไว้แต่เดาว่าเธอคงจะเร่งให้เค้ากลับบ้านเพื่อคลายความกระวนกระวายอย่างปลื้มปิติของเธอเป็นแน่

แต่คนที่ได้กอดฟินนิคเป็นคนแรกคือพีต้า และได้จูบเค้าด้วย

เด็กหนุ่มสลัดความหวนแหนที่ไม่ควรทำออกไปและพยายามคิดถึงตอนที่ฟินนิคกอดลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้  หนุ่มเบเกอร์รี่กลืนของเหลวลงคออย่างแนบเนียนแต่ไม่พ้นสายตาร่างสูง  แล้วกระพริบตามองชายหนุ่มที่ทำสีให้เค้าใช้อย่างแสนเศร้า “มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่  ฉันรู้ นายควรกลับบ้าน  อันที่จริงนายควรกลับไปที่นั่นมากกว่ามาหาฉันที่นี่ด้วยซ้ำ” พีต้าจำได้ว่าอีกคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่ารีบเร่งแค่ไหนเมื่อตัวเองหายดีแล้ว  เด็กหนุ่มวาดยิ้ม  แต่ฟินนิครู้สึกว่ามันช่างฝืนนัก

“ทุกคนคงคิดถึงนาย” ใบหน้าพีต้าแสดงออกถึงความจริงใจ แต่สีหน้ากลับไม่ดีนัก “น้องสาวนายคงรอนายอยู่  ป่านนี้เธอคงกำลังบ่นนายอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ ในลำคอ  และร่างสูงจำได้ว่าพีต้าเลียนแบบการทำให้คนอื่นลำบากใจน้อยที่สุดมาจากเค้า

ร่างสูงยกมือขึ้นแตะข้างแก้มของเด็กหนุ่มอย่างปลอบโยน “ฉันต้องมาหานายก่อนใครแน่นอนอยู่แล้วสิ” ฟินนิคปัดเรื่องของคนในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวออกไปโดยสิ้นเชิง  เค้าคิดถึงและรักเด็กหนุ่มคนโปรดคนนี้มากกว่าใคร  หกเดือนที่จากกันฟินนิคคิดถึงพีต้าเหลือเกิน ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้าใจเค้าได้  แต่มันถึงเวลาแล้วที่เค้าต้องกลับบ้านไปบอกคนที่รออยู่และคิดว่าเค้าตายไปแล้ว

เด็กหนุ่มวาดยิ้มขึ้นมาเฉียบพลัน ราวกับสิ่งที่แสนดีปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง “การที่ได้เห็นนายที่ทุ่งวันนั้นมันดีมากเลยฟินนิค  เป็นวันที่ฉันรู้สึกดีที่สุดในชีวิต” เด็กหนุ่มแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเท้าตัวติดพื้นตอนที่วิ่งไปหาฟินนิคที่ยังไม่ตายหรือเปล่า  และชายหนุ่มเดินทางรอนแรมเพื่อมาหาเค้าเป็นคนแรก

มันเป็นวันที่พระเจ้าประทานฟินนิคกลับมาให้พีต้า

ร่างสูงมองรอยยิ้มที่ทำให้หวนนึกถึงจูบครั้งนั้นใต้แสงสุดท้ายของวัน แล้วถามอย่างเป็นห่วง “ถ้าฉันไปนายจะโอเคไหมพีต้า?” ฟินนิคถามตรง และไม่อยากให้เด็กหนุ่มของเค้าต้องโกหก

พีต้ายักไหล่ แล้วส่ายหน้าอย่างไม่แน่ใจแทน “เอ่อ...คงจะไม่เป็นไรหรอกนะฉันคิดว่า...” ก่อนฟินนิคจะเลื่อนมือซุกเข้าไปใต้ไรผมนุ่มของเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วทำให้คำพูดเสียงเบาลงไปทุกขณะนั้นเงียบหายไป

“ฉันรู้ว่านายจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร” ฟินนิคลดเปลือกตาลงอย่างอ่อนโยนและยิ้มอย่างอ่อนโยนไม่แพ้กัน ส่วนมือก็ยังคงคลึงอยู่ใต้ไรผมนั้น “ฉันรู้ว่านายต้องเหงาแน่” แล้วร่างสูงก็ยิ้มอย่างมั่นใจ พีต้าจึงกวาดตามอง ฟังฟินนิคพูดว่า “เชื่อฉันสิ” เค้าพูดเหมือนรู้จักพีต้าดีและมั่นใจมาก

แต่เฟินนิคก็ไม่ได้พูดผิดเลยแม้สักคำ  กระทั่งไม่ต้องให้พูดย้ำอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็เอื้อมมืออีกข้างหนึ่งไปจับท้ายทอยที่อยู่ตรงข้ามแล้วก้มหน้า

“นายก็แค่กลับบ้านนี่ใช่ไหม” พีต้าหัวเราะใส่ตัวเองเบาๆ  ใช่แล้ว  ฟินนิคแค่กลับบ้าน เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องทำหน้าเศร้าเสียด้วยซ้ำ...ก็แค่กลับบ้านแล้วพวกเค้าอาจไม่ได้เจอกันอีกหลายเดือน  ใจจริงพีต้าอยากจะกอดขยำเสื้ออีกคนหนึ่งแล้วอ้อนวอนขอไปด้วยแต่เจ้าตัวโตแล้ว  โตเกินไปที่จะทำแบบที่ไม่มีใครเค้าทำกันแล้ว

ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการอยู่ที่นี่ แต่ว่าฟินนิคคือทุกอย่างของเค้า

“เฮย์มิชกับแมวของพริมยังไม่น่ารำคาญเท่าแคทนิสเลยนะ” ร่างสูงเอ่ยถึงตอนที่เจ้าหล่อนชอบโมโหแล้วมาลงที่พีต้าก่อนจะโดนเค้าบอกให้เย็นลงทุกครั้งไป  พีต้าหัวเราะให้กับคนกล้าหาญที่สุดที่กล้าต่อกรกับอารมณ์บูดของแคทนิส แต่ร่างสูงกลับคลึงไรผมนั้นเบาๆ เรียกให้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นเงยขึ้นมาสบตากัน

“นายแน่ใจเหรอว่าจะไม่ร้องไห้เหมือนตอนที่อยู่คนเดียวอีก” พีต้าขมวดคิ้วแล้วทำสีหน้าเหมือนเด็กโดนจับความผิดได้แต่ก็ไม่ยอมรับผิด “แคทนิสบอกฉัน  เธอดูเบาใจขึ้นเยอะพอฉันกลับมา” ก่อนเค้าจะหัวเราะในลำคอเล็กน้อย “ไม่รู้สิ  บางทีเธออาจจะไม่ได้ดีใจที่ฉันไม่ตายก็ได้ แต่ดีใจทำให้นายเลิกแอบร้องไห้คนเดียวได้แล้วสักที  เธอดูหงุดหงิดเวลาพูดเรื่องนี้นะ  นายแอบส่งเสียงให้เธอได้ยินเหรอ”

“เธอไม่ควรเล่าให้นายฟังเลยรู้ไหม” พีต้าพูดเสียงเบาและรู้สึกอาย  แต่ฟินนิคชอบทุกอย่างที่เป็นเค้า  ไม่ว่าจะเป็นคำพูด  รอยยิ้ม  และสาเหตุที่ว่าทำไมพีต้าจึงร้องไห้

“นายรักฉันรึเปล่า?” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นโดยไร้สถานการณ์

พีต้าไม่ตอบทันทีในคราแรก เพียงแต่ยักคิ้วช้าๆ แล้วพูดเบายิ่งกว่าเดิม “อืม ก็คงงั้น...”

ก่อนชายหนุ่มผู้เติบโตมากับสายน้ำจะเลื่อนมือของตัวเองลงมารวบกุมกับมือของอีกฝ่าย “งั้นนายสนใจอยากจะวาดรูปทะเลสีครามที่มีปูตัวเล็กๆ คอยแอบดูนายอยู่ไหม?”

“หา” พีต้าเลิกคิ้วอีก แต่ไม่ขยับมันลงมาอีกเลย “ทะเลกับปูเหรอ?” เจ้าตัวทวนคำ

“ของจริงเลยล่ะ” นิ้วมือของชาวประมงเลื่อนขึ้นมาเกี่ยวผมของร่างเล็กขึ้นไปถัดหู  “แล้วฉันคิดว่านายน่าจะชอบตอนคลื่นซัดเข้ากับกราบเรือตอนที่เรานั่งเรือเข้าไปในเกาะ  หรือไม่นายก็อาจจะคลื่นไส้แล้วอ้วกใส่มันแทน” ชายหนุ่มผิวสีแทนหัวเราะเมื่อนึกถึงภาพที่เคยเห็นตอนคนต่างเขตนั่งเรือเป็นครั้งแรก และไม่แน่ใจว่าพีต้าของเค้าจะเป็นอย่างนั้นไหม

พีต้ากระตุกสายตาแวววาวเด่นชัด  แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอ่ยอะไรออกไปดี  แต่ที่แน่ๆ วาดรูปบนกระดาษว่างเปล่า  ตกแต่งบ้านสร้างใหม่  และการอยู่กับแคทนิสตลอดทั้งวันไม่ใช่สิ่งที่เค้าอยากทำไปตลอดชีวิตแน่  ก่อนร่างสูงจะโน้มตัวลงมาประชิดข้างหูแล้วกระซิบพร้อมรอยยิ้มลุ้นระทึก

“นายอยากจะกลับบ้านไปกับฉันไหมพีต้า?” ฟินนิคไม่อยากคาดเดาว่าเด็กหนุ่มของเค้าจะตอบเช่นไร  แต่มือข้างหนึ่งที่ใช้กอบกุมของเค้าถูกดึงออกมาแล้วพีต้าก็ชี้นิ้วไปที่โรงเก็บซึ่งมีคนสังสรรค์อยู่มากมาย

“งั้นนายก็ต้องไปบอกลาพวกเค้าทุกคนพร้อมกับฉันแล้วล่ะ” พีต้าพูดต่อขณะกลืนน้ำลาย “แล้วก็บอกแคทนิสให้ด้วยนะว่าฉันจะไม่อยู่บ้านสักพักหนึ่ง” ร่างเล็กเก็บนิ้วของตัวเองแล้ววางบนตัก “ฉันคิดว่าคงไม่มีใครว่าอะไรโดยเฉพาะเธอ และฉันก็อยากรู้ว่าบ้านของนายเป็นยังไงเหมือนกัน” เด็กหนุ่มวาดยิ้มอย่างช้าๆ และเอ็นดู

ฟินนิคกระตุกยิ้มตอบโดยฉับพลัน  ตอนแรกหลงคิดไปว่าเค้าจะถูกปฏิเสธเสียแล้ว แต่เด็กหนุ่มที่หัวเราะตอบน้อยๆ ก็ไม่เคยทำให้เค้าผิดหวังเลย  พีต้าเปลี่ยนมาเป็นอมยิ้มตื่นเต้นแล้วกลิ้งลูกแก้วที่นัยตามองขึ้นไปยังคนที่บังแสงไฟอยู่ตรงหน้า

ฟินนิคกระพริบตาแผ่วเบาครั้งหนึ่ง  ทำให้รอยยิ้มของตัวเองเบาบางลงแต่ไม่ได้เลือนหายไป  ก่อนเค้าจะยกมือขึ้นลูบข้างแก้มของพีต้าอย่างนุ่มนวล ทำอย่างนั้นอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะกระซิบเสียงเบาหวิวเหมือนสายลมบนชายฝั่งของเขต 4 แต่ทว่าพีต้ากลับอบอุ่นไปจนถึงขั้วหัวใจ

“ฉันรักนาย” แสงจากเปลวไฟทำให้ผมของฟินนิคเป็นสีส้มประกายทองจ้า

ลมหนาวไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มได้อีกแล้ว เพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นมีชีวิตชีวาอยู่ในอก  พีต้ารู้สึกได้ถึงฝ่ามืออบอุ่นของฟินนิคที่เลื่อนไปยังท้ายทอยของเจ้าตัวอีกครั้งหนึ่ง และก็เลือกที่จะเอื้อมมือขึ้นสอดนิ้วเข้าไปยังกลุ่มผมสีส้มสว่างเพราะเปลวไฟนั้นด้วยเช่นกัน

“ฉันก็รักนาย” พีต้าพูดเบากว่ามาก  แต่รอยยิ้มของตัวเองก็ไม่สามารถปกปิดได้มิดเลย  ก่อนฟินนิคจะโน้มหน้าลงมา ดันต้นคอของร่างเล็กให้รับกับจูบของเค้า  พีต้าอ้าปากก่อนทั้งคู่จะแลกลิ้นกันอย่างเงียบๆ ท่ามกลางเสียงแตกเปรี๊ยะของกองไฟและเสียงเฮฮาของคนเมาในงานเลี้ยงซึ่งดังอยู่แว่วๆ

ฟินนิคทิ้งแก้วของตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ได้  เค้าลูบผ่านแผ่นหลังและร่นเสื้อของพีต้าขึ้นมาอย่างเร่าร้อนแต่ทะนุถนอม  กอดให้รู้สึกถึงกายที่เบียดเข้าหากัน  ชายหนุ่มทั้งสองคนดูดดึงกันอย่างไม่รีบร้อนและไม่เป็นที่สนใจ  ก่อนจะผละปากออกจากกันแล้วสบตา

“เราไม่ควรจูบกันที่นี่นะ” พีต้าบอก  หายใจแรงอย่างเห็นได้ชัดจากการจูบ

“งั้นก็ได้  ไม่ใช่ที่นี่” ฟินนิคยิ้มหวานให้  ยกมือขึ้นลูบแก้มของพีต้าก่อนจะเลื่อนลงไปที่หลังใบหูอ่อนนุ่มนั้น



.



.



.



เสียงถอดเสื้อผ้าหลังปิดประตูดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงล็อคประตู  เค้าจูบร่างเล็กที่ยังคงไม่ได้จับชายเสื้อตัวเองด้วยซ้ำ พีต้าก็หลังแอ่นไปติดประตูเพราะแรงโถมของฟินนิคเสียแล้ว  ชายหนุ่มผิวสีแทนลำตัวเปลือยเปล่ากำลังไล่มือไปตามแผ่นหลังคุ้นมือที่เค้าชื่นชอบนักหนาอย่างเร่าร้อน  พีต้าหายใจสะดุด หลายครั้งเด็กหนุ่มส่งเสียงเล็กๆ ออกมาจากลำคอในตอนที่จูบและลิ้นร้อนไล่ไปตามต้นคอขาว

ฟินนิคหายใจจังหวะเดียวกับพีต้า  เสียงจูบของพวกเค้าดังจ๊วบจ๊าบราวกับคับแค้นกันมาเนินนานก่อนร่างสูงจะตัดใจผละออกแล้วถอดเสื้อของร่างเล็กออกไป  ฟินนิคประชิดตัวเข้าไปอีก  ใช้หว่างขาของตัวเองแทรกตรงกลางของพีต้าไว้  ประจบลิ้นป่านจะกลืนกินเด็กทำขนมอีกครั้ง  ก่อนร่างกายแข็งแรงจะยกตัวอีกคนหนึ่งขึ้นแล้วอุ้มไปยังเตียงที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง

พีต้าหลังกระแทกกับฟูกเด้งดึ๋ง  เส้นผมที่เรืองแสงสว่างเมื่อต้องกับแสงเทียนกระดกไปมาเล็กน้อย  ก่อนเจ้าของมันจะยิ้มแล้วหัวเราะคิกคักใส่อีกคนหนึ่งที่ก้มลงมาจูบหน้าท้องของเค้า  ฟินนิคดูสนุกมากกว่าทุกครั้ง  ร่างสูงไล่ไปตามที่นั่นที่นี่ ชอบทำให้พีต้าหัวเราะอยู่เรื่อยไปแต่ถึงกระนั้นก็ไม่ลืมที่จะทิ้งสัมผัสวาบหวามไว้ด้วย  พีต้าเริ่มร้องเสียงต่างออกไป  บ่อยขึ้นและกระเซ้าขึ้น  แขนของเจ้าตัวก็ยกขึ้นมากอดเกี่ยวกับอีกคนหนึ่งราวกับว่าขาดไปไม่ได้ไปด้วย

พวกเค้าฟังเสียงหายใจของกันและกัน  ฟินนิคจับเสียงหวานของพีต้าและทำให้มันดังขึ้นมากกว่าเดิม  เค้าถอดกางเกงของตัวเองและพีต้าออก  ฝังตัวเด็กหนุ่มของเค้าไว้ใต้ร่างและแทบจมหายไปในกองผ้าห่มกับเสื้อผ้าในตอนนี้พีต้ากำลังอ้าขาขึ้นพาดบ่าของเค้าและกำผ้าปูที่นอนไว้อย่างกระชับมือ

“อะ อา...า  อ๊า” เด็กหนุ่มเริดหน้าขึ้นในตอนที่เสียงเฉอะแฉะเมื่อยามสอดใส่ดังขึ้น

“โทษที นายเจ็บเหรอ?” ฟินนิคถาม  มองหน้าเด็กหนุ่มที่ไม่ลืมตามองเค้า  แต่ก็หรี่ตามองกลับมาเล็กน้อยคลายคนง่วงงุน

“ไม่  ฉันโอเค” พีต้าบอก  ก่อนฟินนิคจะดันกายเข้าไปลึกมากกว่าเดิมและไม่หยุดเลยจนกระทั่งจรดจนสุดปลาย  พีต้าดิ้นอยู่หลายครั้ง  ร้องเสียงหลงและทำเสียงวาบหวามในลำคอแต่ก็ไม่ได้บอกห้ามอะไรให้ร่างสูงต้องหยุดไปเลยแม้แต่น้อย 

จนกระทั่งช่องทางที่ถูกแหวกออกบีบรัดแกนกายที่คาอยู่อย่างแน่นกระชับ  ฟินนิคจึงก้มลงจูบดูดดื่มกับเด็กหนุ่มที่ใช้ขาเกี่ยวเอวของเค้าไว้  ลูบไล้ไปเสียทุกส่วนที่เค้าชื่นชอบและหลงใหลก่อนจะตบท้ายด้วยการออกแรงขยับกายอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพราะพีต้ายังคงไม่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้เท่าที่ควรนัก

“อ่าา...ฮะ...อืออ ฟินนิ...อ๊ะ! อ้า”

“ไหนนายบอกว่าฉันไม่ได้ทำนายเจ็บไง” เมื่อได้ยินเสียงร้องที่ไม่ขาดช่วงของเด็กหนุ่ม  ชายหนุ่มที่คร่อมอยู่ด้านบนก็อดที่จะติงไม่ได้เลยถึงความไม่ตรงไปตรงมาของพีต้า

“กะ ก็มัน...อ้าา” พีต้าจับต้นแขนของฟินนิค “บอกไปแล้วนายจะหยุดจริงๆ ไหมล่ะ?”

ร่างสูงวาดยิ้ม “นายก็น่าจะพูดบ้างว่าเจ็บ” ก่อนจะดึงสะโพกออกแล้วดันเข้าไปให้แกนกายเคลื่อนเข้าไปให้ช่องทางเล็กๆ นั้นดูดกลืน  พีต้าร้องอีกแต่ทำหน้าแบบที่ฟินนิคเรียกว่า ไม่ธรรมดา ใส่  ร่างสูงถูกบีบรัดอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นทุกขณะเพราะความอ่อนประสบการณ์จากอุโมงค์คับแคบนั่น  เค้าท้าวแขนค้ำตัวเองไว้เหนือเด็กหนุ่มที่หน้าอกเปียกเชื่อเต็มไปด้วยน้ำลายของเค้า

“อ่า...อ่าา  อา...พีต้า...โอ้...อ้า” เค้าปล่อยเสียงเสียวซ่านออกมา และเดาว่าเด็กหนุ่มก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกับตนถึงได้ร้องออกมาตลอดเวลาอย่างนั้น “ใช่...อา ฉันเองก็ชอบมันเหมือนกัน  อาา

“อ้า  ฟินนิค  ลึก..ลึกไป...อ๊าา” เด็กหนุ่มหน้านิ่ว  ตะครุบลำแขนแกร่งไว้แน่นก่อนความรู้สึกขาวโพลนจะแล่นเข้ามาจี้ที่โสตประสาทของเจ้าตัว  พีต้าถูกขยับไปมาซ้ำอย่างนั้นอยู่หลายครั้งจนทำให้เด็กหนุ่มตัวสั่นระริก  น้ำตาไหลฉ่ำอยู่ที่หางตาและหายใจหอบถี่ราวกับกำลังจะหมดอากาศ

“อือ!” หนุ่มเบเกอร์รี่ถูกโลมเลียด้วยลิ้นที่ยอดอกของตัวเองอีกครั้ง  เข้าแอ่นกายหาอีกคนหนึ่งอย่างเสียวซ่านและเร้าระริก  เสียงหายใจของพวกเค้าทั้งสองประสานกัน  แก่งแย่งกันดังในห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะนั่นและกำแพงไม่อาจกักเก็บมันไว้ได้  โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่

“นายชอบออกไปข้างนอกไหมพีต้า  หืม?” จู่ๆ ฟินนิคก็เอ่ยขึ้นเคล้ากับเสียงหายใจฟืดฟัดเพราะความรุ้มร้อนของเค้า  พีต้านิ่วหน้ากับช่องทางที่เผลอโดนกระแทกใส่

“มะ ไม่รู้สิ” ข้อนี้เจ้าตัวคิดไม่ออก

“แล้วชอบนั่งรถไฟไหม?..อื้อ!

อ้า! ชอบ...อ่า ฉะ ฉันชอบ! อ่า!” ฟินนิคกระแทกเข้ามาถูกที่

“แล้วนายชอบปูไหม?”

หา?

ปูน่ะ กับลมแรงๆ บนหาด” ฟินนิคกระดกกายเร็วขึ้นอีกเพราะเสียงทวนคำอันไร้เรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มมันช่างเซ็กซี่

อ๊า ปู..อ้า!” พีต้าแอ่นสะโพกขึ้น “ไม่รู้สิ  ปูที่ทะเลเป็นยังไงล่ะ?  อือ....อื้อ ฮึก” พีต้ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะไปจิกผ้าปูที่นอน และเอ่ยออกไปเพราะไม่รู้จริงๆ

ร่างสูงสไลด์กายประกบเข้ากับสะโพกของร่างเล็กอย่างเบามือที่สุดแล้วแต่พีต้าก็ยังร้องอึกอัก  ก่อนเค้าจะโน้มตัวต่ำลงไปจูบใต้วงแขนไวสัมผัสของพีต้าและใช้มือลูบไล้อีกข้างหนึ่งก่อนจะเลยสูงขึ้นไปยังเรียวแขนที่เกาะอยู่กับผ้าปูที่นอน  มือใหญ่สอดเกี่ยวเข้ากับนิ้วเล็กๆ ทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มอย่างแนบแน่น

“มันก็จะค่อยๆ โผล่ออกมาจากรูแล้วก็แอบไต่ขึ้นไปบนเท้านายตอนที่นายหลับไง” ร่างสูงตวัดปลายลิ้นไปบนหน้าอกขาวเนียนของคนด้านล่าง  แต่งแต้มไปทีละจุดอย่างเย้าหยอก  เหมือนขาเล็กๆ ของปูตัวน้อยที่เค้าเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆ  พีต้าสั่นระริกไปเลยก่อนร่างสูงจะทำจนพอใจแล้วยืดตัวออกมา

พีต้าที่ถูกแกล้งจนแกนกายสั่นระริกและฉ่ำเยิ้มก็ยกตัวขึ้นมาบ้าง  กอดรอบลำคอแกร่งนั้นไว้แล้วกระซิบประชิดใบหน้าของอีกคนหนึ่ง “งั้นฉันก็ชอบมันมากเลย” ก่อนทั้งคู่จะประกบปากเข้าดูดกลืนกันอีกครั้ง  สงครามโรมรันของลิ้นดังไปทั่ว  พอๆ กับเสียงอื้ออึงในลำคอ  เสียงขยับกายไม่หยุดแม้จะนั่งทับกันอยู่ก็ไม่แพ้กัน

“ที่นั่นไม่ได้มีแค่ปูใช่ไหม?” เด็กหนุ่มทำเสียงหอบหายใจหนัก ขณะกำลังถูกโยกตัวไปมาบนตักของอีกคนหนึ่ง

ฟินนิคเองก็หายใจอย่างหนักหน่วงมากขึ้นทุกขณะ “แล้วนายหวังอยากจะได้เจออะไรล่ะ?”

“อะไรก็ตามที่นายจะบอกฉัน...อ๊า!

“อ้า...พีต้า...อาา  พีต้า”

“อื้อ ฟินนิค...อ้า ฉัน...” เด็กหนุ่มทั้งกอดแล้วจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังสีแทนเซ็กซี่  ก่อนชายหนุ่มจะออกแรงดึงกลุ่มผมสีบล์อนที่อยู่ในมือตัวเองให้เอียงออกมาเล็กน้อย

“งั้นฉันจะบอกก็แล้วกันว่าอยู่ที่นั่นฉันใช้หอกของตัวเองหาปลายังไง” ฟินนิคยิ้มก่อนจะกดจูบกับเด็กหนุ่มของเค้าอย่างออกรสอีกครั้ง

แกนกายของฟินนิคแหวกเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิมและเด็กหนุ่มก็สั่นด้วยความร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะ  จนในที่สุดแล้วเด็กหนุ่มถูกยกขาขึ้นข้างหนึ่งด้วยแขนแข็งแรงที่ออกกำลังอยู่เสมอของชายหนุ่ม  เจ้าตัวกอดรัดร่างที่สูงกว่าไว้แน่น ในขณะที่คนขบเม้มติ่งหูนิ่มอย่างเพลิดเพลินก็ขยับสะโพกสวนกายขึ้นไปอย่างกระชั้นถี่ในเวลาเดียวกัน พวกเค้าพากันร้องระงมไปทั่วห้องเมื่อความร้อนในกายกำลังพาให้สติกระเจิง  แผ่นหลังชื่นเหงื่อของพีต้าเสียดสีกับหน้าอกของฟินนิคไปมาก่อนเด็กหนุ่มจะแอ่นมันออกห่างเมื่อแท่งร้อนระอุนั้นจะทำให้เสียวซ่านและขมิบช่องทางมากกว่าครั้งใดๆ

“อื้ออ..ฮืออ...ฟินนิ...อ๊ะ! อ่าา...ฉันกำลังจะ อ่า  อ่า อาา...า ฟินนิค!” เด็กหนุ่มตัวสั่นคลอนอยู่เคียงข้างกับร่างกายกำยำของหนุ่มชาวประมงที่กอดรัดคนรักของเค้าอย่างเร่าร้อน  ก่อนแรงตอดรัดจากพีต้าจะทำให้เค้าล้นทะลักออกมาด้วยความเปี่ยมล้นแห่งอารมณ์

ร่างสูงกอดเอวเด็กหนุ่มของเค้าไว้ก่อนจะกระแทกกระทั้นใส่เข้าไปครั้งสุดท้ายแล้วกดแช่ไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนความอุ่นร้อนที่แผ่กระจายเจิ่งนองอยู่ในช่องทางคับแคบจะทำให้พีต้าต้องปลดปล่อยตามออกมาบ้าง

อ้า!” เด็กหนุ่มเอนตัวไปข้างหน้าอย่างหมดแรง  ฟินนิครับไว้ในอ้อมอก  คนด้านหลังค่อยๆ ปล่อยร่างของเด็กหนุ่มให้นอนลงกับพื้นเตียงอย่างนุ่มนวลก่อนเค้าจะดึงกายออกอย่างนุ่มนวลยิ่งกว่า  น้ำไหลเยิ้มออกมจากช่องทาง แต่หนุ่มเบเกอร์รี่ของเค้าก็หลับไปเสียแล้วก่อนที่ร่างสูงจะทันได้เอ่ยอะไร

ฟินนิคกกกอดคนรักที่ร่างเล็กกว่าด้วยหัวใจทั้งหมดที่เค้ามีและหลับไปในคืนนั้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับคนที่ดื่มเบียร์จนเมาและแข่งกันเปลื้องผ้าอยู่ที่โรงเก็บผลผลิต



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยย!!!  ฟินนีคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค  อร๊ายยยยยยยยยย!!  คิดไว้แล้วใช่ไหมคะเนี่ยยยยยยย  อร๊ายย กรี๊ดดดด! ><  ถ้าอย่างนี้ก็ขอแต่งงานเลยค่ะ  ขอให้เค้ามาบ้านตัวเองแล้วก็.....ห่างกันไม่ได้แล้วสินะ 5555555555

ชอบความที่ขอให้กลับบ้านด้วยกันแล้วจัดงานฉลองกันสองคนแบบเร่าร้อนและเงียบๆ ในห้อง 5555555 เนื่องในโอกาสอะไรคะ?......ได้พีต้ากลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วยงั้นใช่ไหมคะ? 5555555  //น่าจะมีอิโมจิมองด้วยสายตาโลมเลียนะคะ 555555//

อร๊ายยยยยยยยยย  พีต้าจะออกไปจากอ้อมอกและคุก(?)ของเธอแล้วแคทนิสสสสส  เค้าจะไปแล้วยะเธอไม่ได้แอ้มเค้าแน่นอน  ไม่มีวันไม่มีทางด้วยถึงรวมเล่มฉันก็จะไม่ให้เธอได้เจอเค้าหรอก  5555!!  //อินี่เริ่มน่ากลัวและ -*-//  รีดเห็นด้วยไหมคะ?   //หาแนวร่วม// 55555

Part จะเป็นอย่างไร  รอชมกันนะคะ ^^ จะจบแล้วนะเออ  ง่อวววว  คงจะคิดถึงสองคนนี้มากๆ แน่เลยค่ะ....โอย พูดแล้วก็จะร้องไห้อีกแล้ว T^T  รักรีดทุกท่านะคะ 

แปะเฟสจ๊ะ แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด  (เรื่องไร้สาระและเรื่องที่ไม่ควรรู้ของไรท์ค่ะ 5555) 

ขอบพระคุณสำหรับการอ่านและรับชมฟิคของไรท์นะคะ ^^  //แจกหัวใจจากฝ่ามือ//  แล้วเจอกันค่ะ >//<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




ไม่มีความคิดเห็น: