วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[SF – World Cup] + [Prat 1] What Do You Think......ใจเราตรงกันไหมนะ? – Ronaldo x Messi



             อ๊ากกกก   มาแว้วค๊า >[]<!!!!

          วันนี้ไรท์ที่บ้าบอของรีดที่น่ารักทุกคน มาพร้อมกับ คู่ใหม่ - Fandom ใหม่ค่ะ ....../// ปั๊ก!! /// โดนรีดเดอร์ถีบหลัง “แกจะเอายังไงกะฉัน ห๊ะ....เรื่องเก่าฉันยังรออยู่นะ!

            อุ  แฮ่ๆๆๆ ......ก็เค้าเคยบอกแล้วง่า  ว่าความฟินมันไม่เข้าใครออกใคร  พอRayฟินแล้ว ก็ยากที่จะหยุดฟินค่ะ  เราเลยต้องระบายด้วยการบรรเลงฟิคคคคคค /// อิ_อิ ///

            แหมมมม  ตามกระแสกันหน่อยนะค่ะ  เราอยากจะให้ทุกท่านร่วมอิ่มเอมกับเราไปด้วค่ะ ^^  ตามกระแสๆ (เปลี่ยนพื้นหลังเป็น World Cup ด้วยยย ><)

            สาเหตที่เขียนคู่นี้  ก็คือฟินค่ะ....ฟินอย่างเดียวเลย!!  คืนวันเสาร์ที่ผ่านมานอนดูบอลกับพ่อค่ะ  นัดนั้นอาร์เจนติน่าแข่งกับเบลเยี่ยมค่ะ  เมสซี่ในเซตอาร์เจนติน่าของอิฉันน่ารักม้วกกกกกค่า >[]<!!!  อู้ยยยย  ตัวขาวๆ เล็กๆ วิ่งด๊องแด๊งไปในสนาม – น่ารักอ่า ><

          แล้วพอครึ่งแรก ก็เกิดเหตุการณืขึ้นค่ะ.......อ๊า เมสซี่โดนรุมกระทืบบบบ  พ่อคุณโดนเตะขาจนล้ม แล้วก็ลงไปนอดขดตัวอยู่บนสนามเลยค่ะ  ห่อตัวเองได้น่ารักมาก ณ จุดๆ นี้...Ray ขอบอกเลย *0*

            อ๊ารรรรร์  ไม่พอมากและ......

            แปะๆ รูปค่ะ  เอามาฝาก (เพื่อการจิ้นและจินตนาการแบบเห็นภาพ *_*)








[คือแบบว่ารูปที่ Ray อยากให้ทุกคนมันเยอะมากเลยอ่ะค่ะ......จิ้มเนอะจิ้ม....ไปดูรูปกัน ก่อนแป๊บหนึ่ง ><!!]
.
.
.


อร๊ายยยยยยยยย ดูเสร็จแล้วก็ไปอ่านกันเลยค่ะ

เอ.....ในความคิดของเราแล้ว โรนัลโด้ดูจะรั่วๆ กวนๆ นะค่ะเนี่ย  ส่วนเมสซี่ก็มีความเป็นเคะที่น่ารักในตัว *3*

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

           
            “เอาแล้วครับ  เอาแล้ว  อ้าว เมสซี่.....เมสซี่โดนฝ่ายตรงข้ามพยายามแย้งบอลครับ  ล้มลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวครับ   โอโห่  เฟลไลนี่ไม่ยอมปล่อยจริงๆ ครับตามไปจะเอาให้ได้........”

            .............ทำไมนะ  ทำไมผมถึงยังคิดถึงเหตุการณ์นั้นอยู่อีก  หรือเป็นเพราะผมกำลังคิดถึงเค้าด้วย..........

ผมแสยะยิ้มอย่างสมเพชให้ตัวเองพลางส่ายหน้าช้าๆ .....นี่คงต้องเป็นมุขตลกที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาแน่ๆ   ทำไมน่ะเหรอ....ก็เพราะว่าผม คริสเตโน่   โรนัลโด้  กำลังตกหลุมรัก  ลีโอเนล   เมสซี่ เพื่อนนักฟุตบอลคนเก่งอย่างหัวปักหัวปำอยู่น่ะสิ

โอ้  พระเจ้า.....เหลือเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ  ใช่ ผมรู้คุณกำลังอ้าปากค้างอยู่.......หุบปากซะเถอะครับ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ  แม้แต่ผมเองก็ยังช็อคตัวเองอยู่เลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่รู้ๆ คือผมเริ่มจะ คิดถึงเค้า ตั้งแต่ตอนที่ผมแต่งงานได้สักพักหนึ่งแล้ว..............-_-“ ให้ตาย

แล้วผมก็ถามตัวเองว่า เอ็งเป็นเกย์รึเปล่าว่ะ  แต่พอมานั่งไตรตรองดูแล้ว ผมก็คิดถึงแต่เมสซี่คนเดียวนะ  คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมทีม ผมก็ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น  ออกจะหมั่นไส้พวกมันเสียด้วยซ้ำ

และในที่สุดผมก็ได้พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนขอบเหว เพราะเมสซี่ก็แต่งงานแล้ว แถมมีลูกอีกตั้งหนึ่งคน และผมก็แต่งงานแล้วด้วยเช่นกัน......เราทั้งคู่ก็ต่างมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนกันแล้ว แล้วผมมันมาคิดอะไรคนเดียวอยู่ว่ะเนี่ยยยยยยยย!!!!......ช่วยบอกผมทีเหอะว่าผมมันบ้าไปแล้ว ไปหลงรักคนที่มีลูกแล้ว แถมเรายังเป็นคู่แข่งกันอีก!

โอ๊ย........คิดแล้วกลุ้ม  ผมก็เลยซดวอดก้าเพียวๆ เข้าไปอีกช็อตหนึ่งตามหลังสี่หรือห้าซ็อตนี่แหละ ที่ผมซดไปแล้วก่อนหน้านี้

ผมวางแก้วใบเล็กจิ๋วกระแทกกับบาร์เสียงดัง  พร้อมกับยกมือขึ้นบอกบราเทนเดอร์ที่หันมามองผมเพราะเสียงดังตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว  ผมสั่งมาอีกหนึ่งซ็อต  ไอ้หมอนั่นมันมองหน้าผมแปลกๆ คงคิดว่าผมเมาแล้วยังจะกินอีกเหรอ..........

ฮ่ะๆๆ   ไม่หรอกครับ ผมคอแข็งสุดๆ ไปเลยล่ะ  ของแค่นี้ไม่ทำให้ผมเมาได้หรอกครับ

และที่นี่ก็เป็นบาร์เหล้าเล็กๆ คนไม่พลุ่งพล่านมาก แถมยังอยู่ในมุมมืดอีกต่างหาก  ผมตัดสินใจเลือกที่นี่ก็เพราะว่าไม่อยากให้ใครรู้แน่นอนแหงอยู่แล้ว.........ผมมาคนเดียว  ใส่เสื้อฮู้ดสีดำ  หมวก  แว่นตาดำ.......

ผมพร้อมแล้ว ไปปล้นทองกันเถอะ..........เฮ้ยยย!!  เครียดอยู่ไม่ใช่รึไงฟะ!!  เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง.......ก็คงไม่แปลกหรอกมั่งที่บางครั้งแฟนผมเค้าก็บอกว่าผมน่ะ น่ารำคาญเพราะเล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา

เออ! เอาเป็นว่าช่างมันเหอะ.......ยังไงคืนนี้ก็ไม่มีใครมารำคาญได้ผมหรอก  คิดแล้วมันแค้นใจจริงๆ ไอ้พวกเบลเยี่ยมทั้งหลาย   ถ้าผมวิ่งอยู่ในสนามนะ ผมจะเข้าไปต่อยมัน  โดยเฉพาะเจ้า เฟลไลนี่  ไอ้แอปโฟล์นั่น  มันเตะขาเมสซี่จนล้มลงแล้วมันยังไม่วายเข้าไปจะเอารองเท้าสตารท์ย่ำใส่เมสซี่ซะด้วยซ้ำ

แต่ดี.....ที่ผู้ตัดสินวิ่งเข้าไปห้ามไว้ได้ทัน

ตอนนั้นสาบานได้เลย ผมยืนขึ้นตัวตรงแน่ว  หัวใจผมกระตุกวูบ  แค่กลัว.....กลัวว่าเค้าจะเป็นอะไรรึเปล่า  แค่กลัวว่าเค้าจะบาดเจ็บก็เท่านั้นเอง  แต่ท้ายที่สุดแล้วเมสซี่ลุกขึ้นได้และเข้าสู่เกมส์การแข่งขันต่อไป

ตอนนั้นผมคงจะชื่นใจได้แล้วกับความคิดวู่วามบ้าๆ ของตัวเอง  แต่ผมกลับยืนอยู่อย่างนั้น  มองดูเค้า จนกระทั่งตอนที่เค้าวิ่งเข้ามาแล้วผ่านผมไป  ผมก็ยังคงไม่ยอมนั่ง.....ยังคงมองตามเมสซี่ไป  มองดูให้ชัวร์....ก็เท่านั้นเอง

หลังจบเกมส์การแข่งขันผมดีใจด้วยกับอาร์เจนติน่าที่ชนะเบลเยี่ยมมาได้  แม้สิ่งนั้นจะอยู่ในการคาดการณ์ของผมไว้เรียบร้อยแล้วก็ตามเถอะ   แต่ผมก็ยังอยากเข้าไปแสดงความยินดีด้วยกับเมสซี่  ผมเห็นเค้าฉีกยิ้มอย่างดีใจในสนาม  วิ่งเข้าไปกอดกันกับเพื่อนๆ  โห่ร้องอย่างดีใจ  นั่นทำให้ผมฉีกยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ  ผมอยากเข้าไปอยู่ในสนามและยิ้มกับเค้า  กอดเค้า  ขยี้หัวเค้า  แล้วผมก็จะอุ้มเค้าออกจากสนามไปเลย

ใช่  เพราะงี้ไง อีกใจหนึ่งผมก็นึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้เข้าไปอยู่ในสนามจริงๆ  แค่นั่งเชียร์อยู่ติดขอบสนามก็พอแล้ว 

อ้าว...นี่ผมไม่ได้บอกเหรอ ว่าตั้งแต่ตอนเช้าผมอยู่คนเดียว  ซื้อตั๋วไปดูการแข่งขันของเมสซี่ในตอนสาย  ออกมาทำท่าเซ็งๆ อยู่ตอนบ่าย  และตอนนี้ผมก็นั่งซดเหล้าอยู่ที่บาร์เล็กๆ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว

ว่าตามตรง......ผมหงุดหงิดมากเลยทีเดียวในตอนเย็น  เพราะความเซ็งที่ตกตะกอนรวมกันในตอนบ่าย  ผมก็ได้รู้ว่าทำไมตัวเองจึงหงุดหงิด  เป็นเพราะผมเป็นห่วงเค้าที่โดนสตารท์รุมกระทืบแบบนั้น  รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ..........ผมไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งย้ามกับเมสซี่  เพราะเราไม่ได้รู้จักกัน............

ใช่  เราอาจจะเคยลงแข่งรอบเดียวกัน  แต่นั่นก็เป็นในฐานะคู่แข่ง  ในสนามใครมันจะไปญาติดีด้วย......ผมเคยมองเค้าบ่อยๆ จนรู้ว่าเมสซี่เองก็มองผมอยู่เหมือนกัน  แต่มองด้วยสายตาที่แตกต่างจากผม  ถ้าผมโดนเค้าจับได้ว่ากำลังแอบมองเค้าอยู่...ผมจะหลบตา  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมดันอยากลอง ว่าถ้าผมไม่หลบตาก่อนแล้วเมสซี่จะหลบตาผมไหม........นั่นคือ เค้าไม่หลบตาผมเลยครับ  จ้องเขม็งมาที่ผมลูกเดียว

จนผมนี่ต้องขอเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง......เมสซี่คงจะรำคาญและคิดว่าผมจะมองหาพระแสงอะไรนักหนา............

(เอ......แล้วเค้าจะเป็นคนหยาบคายเหมือนผมไหมนะ?  รึว่าผมเป็นอยู่คนเดียว)

พอการแข่งขันจบไปนานพอสมควร  ผมก็เพิ่งเดินเตะฝุ่นออกมาจากสนามเป็นคนท้ายๆ  และมันก็ประจวบเหมาะ......ช่างประจวบเหมาะเหลือเกินที่ทีมของอาร์เจนติน่าออกมาจากห้องเก็บตัวและกำลังจะกลับพอดี   ผมตกใจมากที่จะได้เจอเมสซี่ แต่ในระหว่างที่ผมยืนเก้อยู่นั้น ผู้จัดการทีมอาร์เจนติน่าก็สังเกตเห็นผม  แล้วพวกเค้าทุกคนก็ทักทายผมเยี่ยงนักกีฬาที่ดีมีน้ำใจให้แก่กัน........ผมโบกมือกลับไปและยิ้มหวานให้  ทุกๆ คนทักทายผม  ยิ้มให้  และโบกมือยกเว้นเมสซี่  พอเค้าเห็นผมก็ดึงสายกระเป๋าแล้วก็เดินเลี่ยงผมขึ้นรถไปเลย

ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด  แต่ที่รู้ๆ เค้าไม่มองหน้าผมเลยสักนิดก่อนจากไป......ไม่มองเลย.......นั่นอาจเป็นเพราะผมคงโดนเกลียดเข้าให้แล้วล่ะมั้ง ที่มองเค้ามากเกินไปน่ะ ฮะๆ.....บ้าชะมัดเลยผม

และพอผมรู้ตัวว่าโดนเลี่ยง  ผมก็หน้าเหวอทันทีเลย  ก่อนที่จะบอกลาคนอื่นๆ ในทีมนั้นตามมารยาทแล้วก็เดินแฝงตัวกับนักท่องเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนไปหาที่นั่งในร้านเงียบๆ แห่งหนึ่งได้  และก็นั่นล่ะครับ ความเซ็งของผมก็เริ่มตกตะกอนจนกลายมาเป็นความหงุดหงิดในเวลาต่อมา  ต้องเดินซ่านหาร้านเหล้ากระแทกปากเนี่ย

แต่ถึงกระนั้น  ผมก็ไม่เคยเอาตัวเองไปเทียบกับเมสซี่ ว่าระหว่างเรา  ใครเจ๋งกว่ากัน  และผมก็เข้าใจเค้านะ บางทีเมสซี่อาจจะกำลังเครียดสำหรับนัดต่อไปว่าจะทำยังไงให้พาทีมเข้าสู่รอบชิงให้ได้ แต่พอมาเจอหน้าผมก็เลยหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

ไม่ว่ากันครับ  ความตึงเครียดเป็นสิ่งที่กัปตันที่ดีควรแบกรับเอาไว้  ซึ่งต่างจากผมที่พาทีมตกตั้งแต่รอบแรกๆ เพราะตั้งคติพจน์กับตัวเองไว้ว่า “หน้าที่เครียด ไม่ใช่หน้าที่เรา” ปล่อยให้ความเครียดตกอยู่ที่กุนซือก็โอแล้ว.....นั่นล่ะครับ เราเลยตกรอบ  แต่ผมก็ไม่เครียดนะ และแถมยังไม่ทำให้ลูกทีมเครียดอีกด้วย  ผมเลยพาทุกคนไปฉลอง(?)กันที่บาร์ใหญ่แห่งหนึ่งครับ  ผมปิดบาร์เลี้ยงมันเลย........ไม่มีใครบ่นผม ต่อว่าผมสักคำ  เพราะว่ามันทุกคนนอนแผ่อิริสมาหรากันจนยันรุ่งเช้า

เมาครับ  งานนี่ไม่เมาไม่เลิก......ผมบอกพวกมันยังงี้  มันก็เลยจัดเลยครับ  ตายกันเกลื่อนบาร์กันเลยทีเดียว

ฮะๆ แปลกแฮะ  ร้อยวันพันปี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สามารถทำให้ผมหงุดหงิดหรือเครียดได้  แต่พอมาเป็นเรื่องที่เมสซี่โดนเหยียบและที่โดนเจ้าตัวเมินกันซึ่งๆ หน้า  ก็ทำให้ผมสามารถมานั่งกระดกเหล้าย้อมใจอยู่คนเดียวได้

ผมไม่โกรธใครหรอกครับ  ผมโกรธตัวเองเสียมากกว่า.........ที่ทำอะไรไม่ได้  และไม่เป็นที่พอใจของเมสซี่

ผมนั่งสั่งซ็อตและลาสมาอีกยกใหญ่  ดั๊มไปดั๊มมาก็ปาเข้าไปตีสองเสียแล้ว  ไอ้บราเทนเดอร์เจ้าเก่าก็มองหน้าผมแล้วมองหน้าผมอีก จนผมกลัวเหลือเกินว่ามันจะจำผมได้  แต่เปล่าหรอกครับ หมอนั่นมันคงสงสัยว่าผมจะมีตังค์จ่ายมันรึเปล่าก็เท่านั้นเอง.........หึๆ ร้านเอ็งจะรวยเพราะข้านี่แหละไอ้น้อง

ผมเองก็เริ่มรู้สึกเบื่อมุมอู้ๆ ในร้านมืดๆ นี่แล้วเหมือนกัน  ชักอยากจะออกไปเดินกินลมเล่นใต้แสงไฟสีส้มข้างถนนซะแล้วสิ

ผมก็เลยยืดอกขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพ่นมันออกมา  แล้วลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง  แสงสลัวในร้านสะท้อนเข้ากับแว่นตากันแดดของผมเมื่อผมถอดหมวกออก  ทั้งสันจมูก  โหนกแก้ม  ริมฝีปาก  และสันกราม  ใบหน้าของผมตอนนี้อยู่ภายใต้แสงสลัวสีส้มมัวของร้าน  แต่นั่นก็เพียงพอทำให้รู้ว่าผมหน้าตาเป็นยังไงแม้มีเพียงแว่นกันแดดปิดบังสายตา  ไอ้เจ้าบาร์เทนเดอร์คนเก่าเดินมากะจะเก็บเงินกับผม  ผมเห็นหน้าที่บ่งบอกว่ามันจะพาผมไปล้างแก้วที่หลังร้านของมันได้เลย  แต่พอหมอนั่นเดินเข้ามาใกล้ๆ มองหน้าผมแล้วหยุดสังเกตสักครู่หนึ่ง  ก็นิ่งเป็นเห้งเจียไปเลย

ภาพสุดท้าย หลังจากที่ผมวางเงินเกินราคาเหล้าไว้ที่บาร์ก็คือ  หมอนั่นอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกแล้วก็ตะโกนเรียกชื่อผมลั่นร้าน

ผมเดินออกมาโดยไม่สนใจกับอะไรทั้งสิ้น  ใส่หมวกกลับไว้ที่เดิมแล้วซุกมือเข้ากับกระเป๋าเสื้อฮู้ดตัวโปรดของผมภายใต้แสงไฟสีส้ม เหนือขึ้นไปบนถนนสายที่ร้างซึ่งผู้คนสัญจร


-------------------------------------------------------------------------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------


---------------------------------------


---------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------


-------------------------------------------------------------------------------------------------------


****************** Massi Prat ******************


“เอาแล้วครับ  เอาแล้ว  อ้าว เมสซี่.....เมสซี่โดนฝ่ายตรงข้ามพยายามแย้งบอลครับ  ล้มลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวครับ   โอโห่  เฟลไลนี่ไม่ยอมปล่อยจริงๆ ครับตามไปจะเอาให้ได้........”

โอ๊ย....ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บไม่หาย ที่โดนเจ้านั่นเตะเอา  เมื่อตอนเที่ยงที่มีนัดแข่งขันระหว่างทีมผมอาร์เจนติน่า กับทีมของเบลเยี่ยม  ผมโดน เฟลไลนี่ เตะเอาเข้าที่น่องจนผมเสียหลักล้มลง

ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะไม่เป็นอะไร  จนกระทั่งจบการแข่งขัน น่องของผมก็ปวดตุบๆ  และผมก็ได้แอบเอาน้ำแข็งมาประคบแต่มันก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเท่าที่ควร  จนเพื่อนในทีมคนอื่นๆ ที่เห็นชักเริ่มเป็นห่วงและถามผมว่า โอเคไหม?

ผมบอกปัดไปว่าไม่เป็นไร  ผมจะทำให้ลูกทีมเป็นกังวลไม่ได้โดยเด็ดขาด.........

แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจได้มากที่สุดก็คือ โรนัลโด้........ผมเห็นเค้า  เค้ายืนอยู่ตรงริมขอบสนาม ที่นั่งใกล้ที่สุดในอัฒจันทร์  ผมคงคิดไปเองรึเปล่าว่าใบหน้าเค้าดูลุ้นมากๆ กับการแข่งขันนัดนี้  เพราะดูเค้าจ้องตาไม่กระพริบเลยทีเดียว  ตอนแรกผมออกจะแปลกใจทีเดียวที่เห็นเค้า แต่สักพักก็คิดขึ้นได้ว่า โรนัลโด้คงอาจจะอยากอยู่ร่วมงานจนถึงบอลโลกวันสุดท้ายก็เป็นได้

การมาของเค้าและรู้ว่าเค้าอยู่นี่ ทำให้ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอามากๆ  ตอนนั้น ตอนที่ผมโดนเตะจนล้มลง แล้วกรรมการตัดสินให้ได้ลูกโทษ  ผมเป็นคนยิง แต่ทว่าสิ่งเดียวที่อยู่ในใจผมตอนนั้นคือโรนัลโด้อยู่ทางขาวมือของผม.....กำลังดูผมอยู่  ผมเห็นเค้าตอนที่ตัวเองลุกขึ้นแล้ววิ่งเหยาะๆ ไปเกือบครึ่งสนามเพื่อเช็คขาของตัวเอง  ผมเห็นเค้า.....

เค้าอยู่ที่นั่น  มองมาที่ผมด้วยท่ายืนที่ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมเค้าจะต้องแข็งโด่ขนาดนั้นด้วย  แต่ผมก็วิ่งผ่านเค้าไป  ทำเป็นไม่สนใจเค้า  และเมื่อนาทียิงลูกโทษผมก็รู้สึกแปลกๆ อย่างประหลาด

การยิงลูกโทษเป็นเรื่องง่ายสำหรับผม และไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมจะกังวล  แต่ครั้งนี้ผมหัวใจเต้นรัว   หายใจเข้าออกไม่ทั่วท้อง  และฝ่ามือของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ........ผมออกแรงเตะมากเกินไป บอลของผมก็เลย......

........ลอยข้ามคานไป.........ผมทำพลาดอย่างน่าเสียดาย

ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่  ผมรู้แต่เพียงว่าภาพของโรนัลโด้คนเดียวเท่านั้นที่ลอยอยู่ในหัวผมตอนนั้น....เป็นแบบนั้นจนจบการแข่งขันเลยทีเดียว

ไม่สิ  ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่......

ผมยังคงคิดถึงเค้า  เออ...เปล่า  เปล่านะ ผมไม่ได้คิดถึงเค้าแบบนั้น....เออ คือแบบ......

เฮ้อ  เอาเถอะผม......

ผมไม่รู้ตัวเองเสียด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรไป........

ตั้งแต่รู้ว่าเค้าเอาแต่มองผม.......

.............เมื่อไม่นานมานี้  นัดหนึ่งที่ทีมเราได้ลงแข่งร่วมกัน  ผมยอมรับและไม่ปฏิเสธเลยว่าผมเองก็มองเค้าอยู่เหมือนกัน  ผมเคยตั้งคำถามว่ากล้ามเนื้อตึงแน่นภายใต้เสื้อเนื้อดีตัวนั้น เมื่อโดนเสื้อรัดมันจะเป็นยังไงนะ?  หลังจากที่ผมเคยเห็นโรนัลโด้ถอดเสื้อโชว์กลางสนามหลังจบการแข่งขันมาแล้วหลายนัด

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าเค้ารูปร่างดีแค่ไหน  ถึงแม้ผมจะหักโหมออกกำลังกาย แต่ก็ยังไม่ได้ถึงขนาดเค้าเลยสักนิด   ตัวผมเองก็ส่วนสูงไม่ให้เสียด้วยสิ.........นี่แหละที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยมากที่สุด

ผมตัวเล็ก

หรือที่เดมิเคลิส บอกว่าผมเตี้ย

เทียบกับโรนัลโด้แล้ว  เค้าเพอร์เฟ็กไปเลย

.........ผมวิ่งตามหลังเค้า จนขนาบคู่กันไปในสนาม  แล้วเราก็แยกกัน แต่ผมก็ยังคงมองเค้าจากระยะครึ่งของสนามเมื่อบอลไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผม

สิ่งที่บ้าที่สุดตอนที่ผมกำลังจ้องเค้าอยู่คืออะไรรู้ไหม?

................โรนัลโด้มองกลับมา..................

และสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะเอาหัวกระแทกกับสนามฟุตบอลก็คือ ผมค้างเติ่งอยู่แบบนั้น  ไม่หลบตาเค้าด้วย  นั่นเป็นเพราะผมกำลังช็อค ทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกเค้าจับได้ว่าผมมองเค้าอยู่

แล้วโรนัลโด้ก็หันหน้าหนีแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว........

........บ้าจริง

เค้าคงคิดว่าผมต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ  ที่เอาแต่ยืนจ้องเค้าอยู่แบบนั้น  ผมอายมากๆ เลยตอนนั้น  คงโดนเค้าขยาดไปซะแล้วล่ะ

  และพอมาวันนี้  ผมกลับเจอเค้าอีก  มันยิ่งทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมจ้องตาเค้า  ผมจึงพลานคิดถึงหน้าเค้าไปด้วยว่าจะมองผมด้วยสายตาแบบไหนอยู่กันนะ........จนกระทั่งจบการแข่งขัน  ทีมของผมชนะ  ผมดีใจอย่างสุดๆ ที่ทำให้ทีมผ่านมา จนถึงจุดนี้ได้   โรนัลโด้ก็เช่นกัน  ถ้ารอยยิ้มหล่อเหลาของเค้าเกิดขึ้นเพราะความยินดีน่ะนะ  เค้าอาจจะร่วมยินดีด้วยกับทีมของผม ที่ทุกคนพยายาม  อดทน  และอุตส่าห์สู้ร่วมกันมาจนถึงนัดนี้

ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าเค้าตรงๆ หรอกครับ  เพราะกลัวว่ารอยยิ้มของเค้าจะหายไป  เพราะเห็นว่าผมเพี้ยนมองเค้าอีกแล้ว  ทั้งๆ ที่คนในสนามก็มีกันเป็นหมื่น

และผมก็ไม่ได้มองไปที่เค้าเลย  จนกระทั่งเข้าไปในห้องเก็บตัวนักกีฬา  ผ่านไปนานพอสมควรที่เราทุกคนในทีมจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จ  แต่พอออกมาสิ่งที่ทำให้ผม  หัวใจหยุดเต้นก็คือ โรนัลโด้ก็เพิ่งออกมาพร้อมเราเช่นกัน.......เหมือนโลกของผมหยุดหมุนด้วยความบังเอิญ  ซึ่งเป็นผลมาจากความโชคร้ายของผมรึเปล่าก็ไม่ทราบที่ออกมาพร้อมเค้า   ถ้าโรนัลโด้เห็นผม  ผมอาจทำให้เค้าอารมณ์ไม่ดีได้...........ผมจึงตัดสินใจกระชับส่ายกระเป๋าที่สะพายหลวมๆ ไว้ข้างเดียว ให้แน่นขึ้น  ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวขึ้นมินิแวนของบริษัทไปเลย

พอขึ้นมาบนรถ  ฝ่ามือของผมก็ชุ่มเหงื่ออีกแล้ว........ไม่รู้ว่าทำไม  ผมเป็นอะไรกันแน่

ผมหวาดระแวงเค้า   หรือกลัวเค้า.......

ไม่กล้าเข้าไปทักทาย ทำความรู้จัก  เพียงเพราะครั้งแรกที่เราเจอกันมันไม่น่าประทับใจเสียเท่าไร

ผมคิดไม่ตกเลยกับปัญหานี้  แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนตอนนี้คือการแข่งขันนัดต่อไป......ทีมเราได้ไปต่อ ผมต้องพาพวกเค้าไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้ (และบางครั้งผมก็รู้สึกนึกอิจฉาโรนัลโด้เหมือนกัน  ที่ไม่ต้องแข่งต่อ  ไม่มีเรื่องให้ต้องเครียด.......ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะลองถ้าเค้าดูว่า ทำไมถึงดูไม่เครียดเลยไม่ว่าจะเป็นการแข่งนัดไหนน่ะ)

เพราะอย่างงั้นในเวลาดึกๆ แบบนี้ ผมจึงออกมาเดินคิดคนเดียวให้สมองโล่ง   ผมคิดว่าผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่า  ซึ่งเพื่อนๆ ในทีมของผมก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าผมเป็นคนพูดน้อย  และก็น่าจะลองอยู่กับคนที่พูดเก่งดูบ้างเผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น.......รู้ไหม ผมไม่กล้าคิดหรอกมันจะเป็นยังไง

ตอนนี้ผมเดินออกจากโรงแรมจนมาถึงทางใต้โทเวย์ที่ใกล้โรงแรมที่สุดแล้ว  หลังจากที่นอนไม่หลับ  เพราะคิดไม่ตกกับหลายๆ เรื่องนั้นล่ะครับ  แม้แต่เสื้อโค้ตสักตัวผมก็ลืมหยิบมา......สภาพของผมตอนนี้ก็คือรองเท้าผ้าใบ  กางเกงกีฬาขาสั้น  และเสื้อยืดสีขาวตัวบางๆ

ตอนกลางวันที่ริโออากาศนั้นอบอุ่น จนออกจะเย็นสบายเสียด้วยซ้ำ  แต่พอในเวลากลางคืนแล้ว นี่มันหนาวจริงๆ เลยแฮะ

ผมดึงมืออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น เมื่อมันไม่ได้ให้ความอบอุ่นอะไรผมเลย  แล้วเปลี่ยนมาเป็นเดินกอดตัวเอง ไปบนทางร้างผู้คน ใต้โทเวย์นี่แทน

ข้างล่างนี้เงียบมากๆ เลย  ถึงแม้ข้างบนโทเวย์จะมีรถขับไปมาไม่หยุด  แต่ผมก็รู้สึกว่าข้างใต้ทางด่วนแห่งนี้เป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่ไม่เคยมีใครสังเกตเห็น

...............ซึ่งนั่นในความคิดของผม มันก็ดีแล้ว.............

เดินไปได้สักพักหนึ่งจนเกือบสิ้นสุดแสงเงาของเส้นโทเวย์  ผมก็หยุดอยู่ตรงขอบเส้นเงานั้น ไม่ได้กว้าออกไปหาแสงสว่างของไฟที่อยู่ข้างนอกแต่อย่างใด............

ตรงหน้าของผมอ้างว้าง.........ปราศจากผู้คน........

ถ้าเป็นไปได้..........ถ้าเกิดตอนนี้จู่ๆ ผมเห็นโรนัลโด้เดินเข้ามาใต้โทเวย์นี้พอดี.........ผมจะทักเค้า

แล้วพูดว่าวันนี้ผมเห็นเค้าที่สนาม.......บอกเค้าว่าผมขอโทษที่ไม่ได้ทักเค้า และขอโทษที่เดินหนีเค้าไปเมื่อตอนบ่าย  ออ...แล้วก็ขอโทษเค้าด้วยที่ผมมองเค้ากลางสนามเมื่อหลายปีก่อน

ฮ่าๆๆ ถ้าเกิดเค้าเดินมาที่นี่  ตอนนี้จริงๆ น่ะนะ..........ผมจะบอกเค้า  แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก  ผมรู้.........

ถ้ามันเป็นไปได้  ผมจะขอบคุณพระเจ้า และเชื่ออย่างสนิทใจเลยล่ะว่าพรมลิขิตน่ะมีจริง

...........นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  คิดอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้.........

...........เอาล่ะ  เลิกคิดพุ่งซ่านได้แล้ว  ที่อุตส่าห์ลงทุนแอบออกมานี่ก็ทำให้สมองโล่งได้ไปเยอะเลยล่ะ  ผมคิดว่าตัวเองควรจะกลับได้แล้ว............

ดังนั้น  ผมจึงหมุนตัว ไม่ได้ก้าวเดินออกไปจากใต้เงาของทางด่วน  แล้วออกเดินกลับไปทางเดิมที่ผมเดินมา  จังหวะการจ้ำเท้าของผมสม่ำเสมอ  อาการที่ขาก็ไม่ได้ส่อแววว่าจะเจ็บหนักเหมือนตอนบ่ายอีกแล้ว

แต่สิ่งที่ติดกลับมาด้วยกับใจผมคืออะไรสักอย่าง........อะไรสักอย่างที่ทำให้ผมหยุดเดินเอาเสียดื้อๆ ระหว่างทาง

อะไร........มันคืออะไร ผมพูดออกมาไม่ได้ มันติดอยู่ที่ริมฝีปากของผม

และในวินาทีนั้นเอง  ผมก็หันกลับไป เพื่อดูว่ามีคนเดินตามหลังผมมารึเปล่า........

.............โรนัลโด้จะปรากฏตัวในที่ๆ ผมปรารถนาไว้รึเปล่า............

............แต่ก็ไม่........

หึ.....นี่ผมกำลังคาดหวังอะไรอยู่นะ  หวังว่าเค้าจะเดินเข้ามาแล้วจูบผมรึไง.....บ้าแล้ว

 อ๊ะ! นี่ผมพูดอะไรออกไปนะ.......โอ๊ย  ตอนนี้หน้าของผมแดงฉ่าไปหมดแล้ว อยากจะตบหน้ากับความคิดบ้าๆ ของตัวเองเสียจริง

นายมันบ้าไปแล้วเมสซี่........

ผมยิ้มออกมา ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เอาเถอะ  กลับได้แล้ว.....” แต่พอหมุนตัวกลับมาผมก็ต้องแปลกใจอย่างตั้งตัวไม่ทัน
.

.

.

“นาย! .....อุ๊บ!!!

.

.

.

TBC.


----------------------------------------------------------------------------------------------------

เอิ่มมมม  ไม่รู้ว่าเป็นไงสำหรับทุกท่านนนะค่ะ  อยากได้คอมเม้นต์จัง...........เห็นแกไรท์เตอร์ตาดำๆ เม้นต์ให้ด้วยนะค่า  ไม่ก็ตามไปโพสต์ที่เฟสก็ได้อ่ะ   ไปที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เลยค่ะ  แล้วไปเป็นเพื่อนกันนะค่ะ  มีเพจด้วย like เพจให้ด้วยนะค่ะ ^^* Fic สป็อค เคิร์ก [เรื่องมากจริงนะหล่อน -*-]

อร๊ายยย อยากได้คอมเม้นต์มากมายยยย  คนเขียนบางคนถ้าคอมเม้นต์ไม่ทะลุเป้าก็ไม่ลงตอนต่อไปนะเออ  แต่ว่าเราแค่อยากได้อ่านให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ  พอให้ได้มีแรงไปต่อเท่านั้นก็ดีแล้วค่ะ

ถ้าเป็นไปได้  อยากจะลงตอนต่อไปซึ่งเป็นตอนจบให้ทันจบ World Cup 2014 จังเลยค่ะ ><!!  แต่ไม่รู้ว่าจะทันไหม  เพราะว่าอาทิตย์หน้ามีสอบ........อ๊ากก เซ็งเบยยย

55555 ถึงไงก็รักทุกท่านมั่กมากเลยค่าาาาา >//<!!!

ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund




5 ความคิดเห็น:

โบว์ กล่าวว่า...

กี๊ซซซซซ! พี่โด้แอบจิตแฮะ 55555555
เหมียวน่ารักมากกกก! คือแบบ ใจตรงกันแต่ไม่มีใครคิดเข้าข้างตัวเองเลย TT'

เฮียโด้นี่แบบ.. แหมมมม ติดขอบสนามเลยนะเฮีย ฮ่าาาา เหมียวนี่แอบอิจฉาหกห่อโด้ช้ะ? กับสามีตัวเองนี่ยังไม่วายจะอิจฉา 5555555

แต่ตอนอาร์เจนเจอเบลเยี่ยมนี่หนักจริง เหมียวเจอเข้าไป 2-3คน คือบั่บ.. เฮ้ยยย! ดูตัวด้วย ต่างกันเยอะเหอะ แต่ก็นะ ขนาดเจอรุมงี้ยังล้มเมสซี่ไม่ได้ 5555555
แต่นัดที่เจอกับสวิตฯนี่ก็หนักนะ ทำเอาเราขยาดเบห์รามี่ไปพักเลยทีเดียว 555555 /เสียดายที่โด้พาโปรตุเกสไปไม่ถึงฝัน ช็อตโด้ร้องไห้นี่สะเทือนใจมาก แต่ชไวนี่ก็เข้าไปกอดปลอบ ฮ่าาาา ><'

ปล. เราโบว์เน้อออ~ กว่าจะเม้นจบนี่นานมาก คอมก็ติดๆดับๆ 555555555

demon กล่าวว่า...

ใจเราตรงกัน ฟันเฟิร์ม! >0<

พี่โด้เขาก็อะไรจะตามไปเกาะติดขนาดสนามเลยนะแหม เหมียวเขินล่ะสิหน่าา เรารู้ //หัวเราะแบบมีเลศนัย

จริงๆนะคะ เวลาดูนัดไหนที่เหมียวเมสลงนี่แบบว่า.. ตาต้องโฟกัสไปที่คนตัวเล็กๆขาวๆทุกที น่ารักจริงนะ เชื่อแล้วว่าทำไมพี่โด้รักพี่โด้หลง -.,-

Unknown กล่าวว่า...

เพิ่งได้อ่านแป็นครั้งแรก สนุกมากๆๆๆๆเลยค่ะแอด เป็นกำลังใจให้นะคะ ><

T.Lalita Ma-Iam กล่าวว่า...

เริศมากเลยคร้าาาาา สนุกมากๆเลยยยย

T.Lalita Ma-Iam กล่าวว่า...

เริศมากเลยคร้าาาาา สนุกมากๆเลยยยย