วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[SF – ควันหลงบอลโลก] + [Prat 2...END] Time Machine – CR. x Thiago


            มาแล้วค่ะๆๆ กับ Prat สุดท้ายของ SF เรื่องนี้  ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากค่ะ (ไรท์ไม่รู้จะเมาท์อะไรจริงๆ ค่ะ -..-) เอิ่มมม เว้นซะแต่ฝากเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< มาเป็นเพื่อนกันและติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของฟิคในบล็อกเราได้ค่ะ (ร่วมทั้งเรื่องไร้สาระของไรท์ด้วยนะเออ)

            ปล. บอกแบบชัดเจนเลยค่ะ ว่าในเรื่องนี้ ซีอาร์ อายุ 13  ติอาร์โก้อายุ 11 ค่ะ  เป็นฟิคคู่ลูก แต่คู่พ่อก็ร้อนแรงสุดยอดไปเลยค่ะ -..- ไรท์เขียนเสร็จแล้วกลับมาอ่านทวน ก็แอบ “เฮ้ยยย!” เหมือนกันค่ะ.....อะไรมันจะสวดยอดขนาดเน่

            หึๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่พูดแล้วค่ะ  ไปอ่านกันเลยยยยย >[]<!!!

            อุ๊บ ฝากเฟสให้ Like หน่อยค่ะ >>Fic สป็อค เคิร์ก<<  ///ผลั๊กก!! /// โดนถีบ.....พอได้แล้วแก!!


…………………………………………………………………………………………


“โอเค...” หนุ่มร่างสูงพึมพำกับตัวเอง แล้วหันหลังเดินกลับไปที่หน้าประตูซึ่งเค้าไม่ได้เปิดมันออกแต่อย่างใด

“นายรู้ไหม  พ่อเราคบกันหลังเสียประตูนะ” ซีอาร์ในวัยชายหนุ่มยกแขนขึ้นกอดอก พิงเข้ากับขอบประตู

“ห๊ะ!.....คบกันหลังเสียประตู?!” ร่างในวัยเด็กของเค้าขมวดคิ้วแน่น  ในขณะที่พูดเกือบเสียงดัง   จนทำให้ตัวเค้าเองที่โตกว่าต้องพรูลมหายใจออกมาเล็กน้อย

“ก็พ่อของเราไง  คบกับอาลีโอตั้งแต่ที่เค้า เอ่อ....แกร๊ะ.....กันน่ะ” ซีอาร์ที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ยักไหล่ข้างหนึ่งพร้อมกับส่งเสียงเดาะลิ้นกับฟันดัง แกร๊ะ  เมื่อถึงคำที่เค้าจงใจละไว้ในฐานที่เข้าใจ

แค่นี้เอง....นายเองก็น่าจะรู้แล้วนี่!

“หะ...”

“มาห่ง มาหะ...อะไรอีกเล่า  หุบปากนายไปเลย  แล้วรีบไปหาติอาร์เดี๋ยวนี้เลย!” ชายหนุ่มที่มาจากอนาคตเริ่มหัวเสีย เค้าถลึงตาใส่เด็กที่นั่งหน้าเหวออยู่ตรงหน้าเค้า

เด็กชายทำหน้าสงสัยปนระแวง “นาย.....เรียกติอาร์โก้ว่า ติอาร์ ยังนั้นเหรอ  นายรู้ได้ยังไงว่าฉันเรียกเค้าชื่อนั้น.....ฉันเพิ่งเริ่มเรียกเค้าเมื่อสองวันก่อน”

ร่างสูงที่ยืนอยู่กลอกตาแล้วถอนหายใจออกมาอีกรอบอย่างเหลืออด “ก็ฉันเป็นนายฉันก็ต้องรู้ดิ!....แล้วนี่.....เออ ถ้านายยังไม่เชื่อว่าฉันเป็นนาย  นายก็คงจะยังสงสัยอะไรอีกมากใช่ไหม?” ร่างสูงพูดเหมือนพึมพำกับตัวเอง  แล้วก็เลิกกอดออก สาวเท้าเข้ามาหาเด็กหนุ่มรูปหล่อ

“ฟังนะ ซีอาร์   จูเนียร์......ที่นายเรียกติอาร์โก้ว่า ติอาร์ ก็เพราะว่ามันคล้องจองกับชื่อของนายไง.......ซีอาร์ – ติอาร์  ติอาร์ – ซีอาร์......และน้องก็ชอบชื่อนี้เอามากๆ แต่ที่จริงแล้วเค้าไม่รู้หรอกว่านายแอบจูบเค้าตั้งแต่ตอนที่นายอายุแค่ 6 ขวบน่ะ  ฉันรู้ว่าติอาร์ก็เป็นเด็กดีนะ แต่เค้าใสซื่อซะจนไม่รู้ทันแผนของนาย  เอ่อ...ของนายกับฉันน่ะ  แล้วนาย เอ่อ...ฉัน ก็แอบลักโขมยจูบติอาร์โก้ทุกครั้งที่มีโอกาส........แล้วนายอยากฟังเรื่องฝันเปียกครั้งแรกตอน 8 ขวบของนายไหมล่ะ  แล้วมันก็ตามมาด้วยการช่วยตัวเองครั้งแรกของนาย....”

“เฮ้ยยย  พอแล้วว!....ไม่ๆๆๆ  ฉันเชื่อแล้ว  เชื่อแล้วว่านายเป็นฉันจริงๆ” เด็กชายที่นั่งหน้าร้อนอยู่ก็รีบยกมือขึ้นห้ามทัพอีกคนที่ทำหน้าได้ใจอย่างพัลวัน..........

............ใช่  นี่มันเป็นเค้าจริงๆ ด้วย  ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา  แต่ ความลับระดับรหัสแดง นี่ก็มีแต่เค้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้........

...............มีแต่เค้าเค้าเดียวเท่านั้น.............

หนุ่มน้อยซีอาร์มองเข้าไปในดวงตาของคนที่อ้างว่าเป็นเค้าในอนาคต  มองลึกลงไปเห็นดวงตาสีน้ำตาลอ่อนส่อประกายมุ่งมั่น  สุขุม  เยือกเย็น  และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน...........

“นายต้องการอะไร ซีอาร์” ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ส่งสายตามุ่งมั่นในแบบเดียวกันถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

พลันสายตาคมซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าก็สบขึ้นมองตอบ  แล้วยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก “ต้องยังงี้สิไอ้น้อง.....”

แล้วซีอาร์ที่แข็งแรงตามแบบฉบับผู้เป็นพ่อก็เดินเข้ามาอีกสามกว้าและกอดอกก่อนจะเอ่ยว่า “......นายต้องเข้าไปหาติอาร์....บอกให้เค้ารู้ซะ ว่านายคิดยังไง.....” แล้วเค้าก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างทันควัน

“นายจะบ้าเรอะ!

“เออน่า....ฉันรู้น่า ว่านายประคบประหงมน้องดีขนาดไหน  เค้าเปรียบเสมือนเทวดาตัวน้อยๆ เลยใช่ไหมล่ะ” ซีอาร์ในอนาคตทำหน้าเคลิ้มชวนฝันเมื่อนึกถึง เทวดาตัวน้อยๆ  ส่วนเค้าในวัยเด็กมีอาการคิ้วกระตุกนิดๆ

ให้ตายเถอะ  ถึงจะเป็นตัวฉันเองในอนาคตก็อย่ามายุ่งกับติอาร์โก้ของฉันในตอนนี้สิ......ในตอนนี้เค้าเป็นของฉัน

“เฮ้ พวก....นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเมื่อนายอายุ 26 ” คนถามเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

คนถูกถามยักคิ้วอีกข้างหนึ่งตอบ  ยียวนไม่แพ้กัน (มันได้เชื้อพ่อมันมาเต็มๆ : Ronaldo)

“นายเสียติอาร์โก้ไป   นายเสียเค้าไปด้วยความปอดแหกของนายเอง เพราะนายไม่กล้าที่จะบอกเค้าตั้งแต่แรกว่านายอยากปกป้องเค้า  ดูแลเค้า  หรือทำอะไรที่มากกว่าพี่น้องเค้าทำกัน.....” ร่างสูงยกมือขึ้นกอดอกทำให้แลเห็นสันกล้ามเนื้อเซ็กซี่บนลำแขน และชายหนุ่มก็พูดเสียงสุขุมพลางส่ายหน้าเล็กน้อย

เด็กหนุ่มยังคงนิ่งและฟังต่อ

“เพราะงั้นมันเลยเกิดขึ้น......ติอาร์โก้ไปกับคนอื่น  เค้าจับมือคนๆ นั้นไปพร้อมกับใจที่แตกสลาย  ความเศร้าและความรวดร้าวในสายตาของเค้ามองมาทางฉัน  เมื่อเค้ารู้ว่าฉันก็รักเค้าเหมือนกับที่เค้าไม่เคยแน่ใจมาตลอด  และเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างที่เค้าเคยฝันไว้.......เชื่อเถอะ  ฉันยังคงจำสายตานั้นได้ สายตาที่เหมือนจะบอกฉันว่า นับจากนั้นไปเค้าจะไม่ได้อยู่อย่างมีความสุขอีกต่อไปแล้ว” ฝ่ามือแกร่งกำเข้าหากันแน่น  เมื่อนึกถึงดวงตาแสนละห้อยที่เค้าเองก็มีส่วนทำให้ติอาร์โก้เสียใจ

..........เพียงเพราะไม่กล้า เลยพลอยให้คนที่เค้ารักที่สุดเสียใจไปด้วย..........

บังเกิดความเงียบขึ้นในห้องนอนขนาดใหญ่ภายใต้แสงโคมไฟดวงเล็กๆ  เด็กหนุ่มวัย 13 จ้องมองตัวเค้าเองที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดและความโมโหไม่พอใจ

............ติอาร์โก้ไปกับคนอื่นเหรอ?  เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเค้าสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะดูแลติอาร์โก้ตลอดไป  และไม่มีวันที่จะทิ้งน้องไปไหน  มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน........

“ก็เพราะความป๊อดของนายไง....” คำพูดที่ทำลายความเงียบของชายหนุ่ม  เปรียบเหมือนคำตอบที่ล้วงรู้ถึงคำถามในใจของเค้า.........มันตอบซีอาร์ได้ จนทะลุปรุโปร่งเลยทีเดียว..............

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง ตัวเค้า ที่ยืนทำหน้าเจ็บปวดใจอยู่  แล้วเอ่ยออกไปเสียงเยือกเย็น “แล้วฉันต้องทำไง”  

“นายแค่ต้องบอกเค้าก่อนสายไป  ทำให้เค้าแน่ใจว่าเราต่างก็คิดตรงกันทั้งสองฝ่าย.........บอกติอาร์โก้ไปว่า นายรักเค้า” ฝ่ามือใหญ่และแข็งแรงตบลงบนไหล่กว้างของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบใหญ่

“ฟังนะซีอาร์  ตอนที่ฉันสารภาพกับติอาร์โก้ครั้งแรกเมื่อตอนเค้าอายุ 24  เค้าร้องไห้....เพราะเสียใจที่เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ฉันช้าไป  ช้าไปมากเหลือเกิน.........และฉันมานี่ ก็เพื่อให้ทั้งนายและฉันไม่ต้องเสียติอาร์โก้ไป”

ทั้งสองหนุ่มมองตากันลึกเข้าไปถึงข้างใน ที่ต่างคนก็ต่างรู้สึกคุ้นเคยราวกับว่ากำลังมองตัวเองอยู่ในกระจก

เด็กหนุ่มจับฝ่ามือนั้นและดันมันออกไปจากไหล่เค้า

“นายแน่ใจใช่ไหม....ว่าน้องจะไม่ร้องไห้น่ะ”

ร่างสูงกำยำยกยิ้มขึ้นอย่างหล่อเหลาตามแบบฉบับพ่อ  “มันก็แล้วแต่วิธีของนายอ่ะนะไอ้น้อง....”

“แล้วถ้าฉันทำสำเร็จ  มันจะเป็นยังไง”

“ทั้งฉันทั้งนายจะได้อยู่กับติอาร์โก้ตลอดไปยังไงล่ะ  ก็อย่างที่พ่อของเราทั้งสองคนเค้าเป็นกันนั่นแหละ”

พ่อของเราทั้งสองคน – เค้า งั้นเหรอ?” ซีอาร์มุ่นคิ้ว อยากรู้ว่าในอนาคตอันใกล้หรือไกลนี้ พ่อของเค้าจะบอกเรื่องนี้กับเค้าเมื่อไรกัน

เค้าอีกคนในอนาคตเลิกคิ้วเข้มขึ้น “ก็....ฉันหมายถึงอีก 4 ปีนายจะมีพ่อสองคนน่ะ   แล้ว.....แล้วมันก็เจ๋งโคตรๆ เลยนายรู้ไหม!?” ชายหนุ่มทำหน้าลิงโลด เหมือนกำลังอยากเล่าอะไรสักอย่างให้ฟัง  แต่อยู่ๆ ทั้งเค้าและซีอาร์ก็รู้สึกจุกอย่างแรงที่ท้องน้อย แล้วพวกเค้าก็รู้สึกเหมือนโลกกำลังถูกหมุนกลับด้วยอาการที่เวียนหัวอย่างรุนแรง และเสียงวิ้งกังวานก็ดังขึ้น

ซีอาร์หนุ่มเซจนเกือบล้มไปถ้าหากไม่ได้เกาะขอบประตูไว้  เค้ายกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นกดหน้าผากของตัวเอง “โอ๊ย อึก ให้ตายสิ....สงสัยฉันคงต้องกลับแล้วล่ะ  แล้วทำไมตอนมามันดูดีกว่านี้เยอะเลยฟะเนี่ย” ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง เพราะกำลังเก็บกดอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอยู่  และสุดท้ายเค้าก็ล้มลง พร้อมๆ กับซีอาร์ที่กลิ้งตัวลงจากเก้าอี้

ความรู้สึกของพวกเค้าเหมือนหัวโดนจับแยกออกเป็นเสี่ยงๆ

“อึก  อ่าา”

“อา...จำไว้นะ นายต้องไปบอกติอาร์ให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงนายต้องไม่เสียเค้าไป” พอเสียงทุ้มเข้มพูดจบ พวกเค้าทั้งคู่ก็รู้สึกเหมือนโดนฟาดหัวด้วยของแข็งอย่างแรง ก่อนทุกอย่างในหัวจะมืดสนิท  ไม่เหลือแล้วความเจ็บปวด  ทุกอย่างเงียบสนิท  เสียงวิ้งหายไป  เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นสักนิดเดียว

.............เหมือนทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะคิดไปเอง............

เปลือกตาค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ  และซีอาร์ก็พบว่าตัวเค้าเองกำลังนอนคุดคู้อยู่กับพรมของพื้นห้อง  ภาพวาดของติอาร์โก้กระจายเกลื่อนเหมือนตอนที่เค้าในอนาคตยังอยู่

เค้าไม่ได้คิดไปเอง

ภาพวาดใบโปรดของเค้าวางอยู่ข้างๆ มือ

.............รูปของซีอาร์กับติอาร์โก้ในทุ่งหญ้าสีเขียว พร้อมกับท้องฟ้าสดใส.................

ซีอาร์หยิบมันขึ้นมาเพ่งมอง แล้วกระพริบตาถี่ๆ “พระเจ้า” เค้าอุทานออกมาเบาๆ   แล้วรีบลุกขึ้นเก็บรูปวาดที่ตกเกลื่อนพื้นเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย ก่อนจะคว้าเสื้อฮู้ดสีดำยี่ห้อ Nike แล้วพุ่งออกประตูห้องไปอย่างรวดเร็ว

ซีอาร์วิ่งตัดทางเดินออกไปเล็กน้อย แล้วระดมเคาะบานประตูของผู้เป็นพ่ออย่างแรง

ตึงๆๆๆ!!

“ป๋า! ป๋า! ไปเร็ว! ผมต้องไปเลยเดี๋ยวนี้” เมื่อเด็กหนุ่มสวมเสื้อสีเข้มเสร็จก็ออกแรงเคาะต่อไปโดยไม่เกรงใจผู้เป็นพ่อเลยสักนิด

..............เค้ารับรู้ได้  รับรู้ได้ถึงความอ้างว้าง ความเจ็บปวด และสิ่งที่บีบอัดหัวใจจนไม่สามารถอะไรอธิบายได้ เมื่อถ้าหากเค้าขาดติอาร์โก้ไป และยิ่งในอนาคตมันยิ่งเจ็บ เมื่อเค้ารู้แล้วว่าความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายจะเปลี่ยนแปลกไปมากแค่ไหน  เมื่อมันไม่ใช่แค่พี่น้องที่ดูแลกันและกัน แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า “คนรัก” เหมือนที่พ่อกับอาลีโอมีให้ต่อกัน

การมาของเค้าในอนาคตทำให้เค้ารับรู้และรู้สึกได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอันไกลนี้ ต่อไปมันจะเป็นยังไง และเค้าจะต้องรักษาติอาร์โก้ไว้ให้ได้  ไม่ว่าจะเป็นใครหรือเพราะอะไรที่ทำให้ติอาร์โก้พรากจากเค้าไป........ซีอาร์จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น

เค้ามีความรู้สึกอย่างแรงกล้ากับติอาร์โก้ --  เค้ารักติอาร์โก้ -- ใช่ และเค้าแน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป

.......ถึงแม้ในวัยแบบนี้ มันจะดุอิโรติคไปหน่อยก็ตามเถอะ..........

“ป๋า! ตื้นเร็ว!” ซีอาร์ทุบประตูด้วยกำปั้นแข็งแรงของเด็กหนุ่ม ซึ่งนั้นก็ทำให้ประตูทั้งบานสะเทือนไปถึงบานพับกันเลยทีเดียว

และทันใดนั้น ประตูที่โดนทุบก็โดนกระชากเปิดออกด้วยน้ำมือเจ้าของห้องที่ซีอาร์ต้องการพบ  ดูท่าคนเปิดจะอารมณ์เสียมาก
“เออ! อะไรว่ะเนี่ย....อ้าว ซีอาร์มีอะไร บ้านไฟไหมหรือ” ร่างสูงผิวสีแทนเปลือยครึ่งท่อนยีหัวตัวเองอยู่อย่างหัวเสียนิดๆ เค้าเพ่งมองลูกตัวดีด้วยสายตาที่เหมือนเพิ่งงีบหลับไปเมื่อกี้นี้เอง

“ไปเหอะป๋า ผมต้องไปหาติอาร์เดี๋ยวนี้” เด็กหนุ่มมีสายตามาดมั่น เค้าผลักประตูให้อ้าออกกว้างมากกว่าเดิมเป็นเชิงบอกว่าให้รีบ

“ไปหา.....เดี๋ยวนี้เลยหรือ โอยย รอพรุ่งนี้ไม่ได้หรือซีอาร์.....” คริสเตียนโน้ทำหน้าติดจะเบื่อหน่าย

“ไม่ได้ป๋า ถ้าคืนนี้ป๋าไม่พาผมไปและถ้าอยากให้ผมนอนตอนนี้ ป๋าก็ต้องชกผมให้สลบก่อนแล้วค่อยแบกเข้าห้องไป  ได้โปรดเถอะ ผมจำเป็นต้องไปเดี๋ยวนี้ และป๋าก็จะได้ไปหาอาลีโอด้วยไง ไม่ใช่ว่าไปส่งผมเฉยๆ” คนที่เพิ่งถูกปลุกมองลูกของเค้านิ่งและอ้าปากค้างเล็กน้อย

นี่มันพูดมากที่สุดในรอบสามอาทิตย์เลยนะเนี่ย เป็นอะไรมากรึเปล่าว่ะ......แต่จริงอย่างมันว่า.....ชายโปรตุเกตุที่ใส่กางเกงผ้ายืดเพียงตัวเดียวยิ้มกริ่มและรีบเก็บอาการทันทีเมื่อหันไปเจอสายตาเร่งรีบของลูกชาย “โอเคๆ เลิกทำสายตาเป็นหมาอยากปลดทุกข์ได้แล้ว ไปก็ได้” ว่าอย่างไว้เชิง ก่อนนักเตะชื่อดังดีกรีหุ่นเซ็กซี่ตลอดกาลก็เดินเข้าไปใส่เสื้อก่อนจะออกรถไปพร้อมกับลูกชายผู้กำลังใจร้อนดังไฟ

และใช้เวลาไม่นานก็ถึงมาบ้านที่มีสนามหญ้าโล่งกว้าง ซึ่งพวกเค้ามักจะใช้ประกอบกิจกรรมกันบ่อยๆ ในวันหยุด  ซีอาร์วิ่งผ่านเจ้าบ้านที่สะลึมสะลือหัวยุ่งชี้ฟูเหมือนเพิ่งกลิ้งลงมาจากเตียง ซึ่งมาเปิดประตูให้เค้า

“โอ่ว หวัดดีซีอาร์.....เฮ้ นั้นเค้า ฮ้าวว จะรีบไปไหนน่ะ” เจ้าของบ้านขยับเท้าออกไปอีกเล็กน้อยก่อนชนเข้ากับแผงออกกว้าง คนโดนชนยิ้มกริ่มแกล้งอุทานเสียงเบา

“อุ๊บเพิ่งตื่นหรือลีโอ....ให้ตาย นายหัวฟูน่ารักจัง”

“อืออ อย่าสิ นายจะกอดฉันทำไม แล้วซีอาร์เค้าเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ……อุ เหวออ!

“โธ่ ช่างมันเถอะน่า แต่ดูท่านายคงจะยังง่วงอยู่ เดี๋ยวฉันจะไปส่งนายเข้านอนเองนะ” ร่างสูงเจ้าเล่ห์พูดขึ้นหลังจากช้อนอีกคนที่งุนงงและง่วงงุนขึ้นแนบอก แล้วเดินพาร่างของลีโอตรงไปยังทางที่คุ้นเคย

“ฉันรู้ นายเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวฉันจะนอนเป็นเพื่อนนายเอง หึๆ” และไม่แม้แต่จะฟังคำทักท้วงใดๆ คริสเตียนโน้ก็กลืนเสียงเหล่านั้นเข้าไปด้วยการบดขยี้ริมฝีปาก กัดกร่อนทุกคำพูดของลีโอจนมลายหายไปสิ้น


*******************************************************************************


ซีอาร์วิ่งตรงมาที่นี่ด้วยความเร็วแสง  แต่แล้วเค้ากลับต้องหยุดชะงักเมื่อมาถึงบานประตูที่มีป้ายเล็กๆ ติดอยู่..........

-- THIAGO –

น้องจะนอนอยู่รึเปล่า  ถ้าเกิดเคาะประตูไปแล้วจะปลุกน้องไหม.............

แต่ชะงักได้ไม่นาน เด็กหนุ่มร่างสูงแข็งแรงก็ตัดสินใจเปิดประตูบานนั้นเข้าไปเผชิญหน้ากับคนที่เค้าโหยหาทันที  และนั่นก็ทำให้เค้ารู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย..........

เมื่อเปิดประตูเข้าไป  ซีอาร์หันมองไปทางซ้ายซึ่งก็คือเตียงของติอาร์โก้ที่ตั้งอยู่ชิดติดผนังห้อง.........ติอาร์โก้นั่งกอดตัวเองอยู่บนนั้น.........ลำตัวที่งองุ้มเข้าหากันราวกับจะคุ้มกันความหนาวจากพายุที่ถาโถมเข้ามาใส่...........ติอาร์โก้เป็นอะไรไป?

ซีอาร์รีบรุดเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึงตัวเด็กหนุ่มกลับค่อยๆ โอบกอดเด็กตัวเล็กไว้อย่างนุ่มนวล “ติอาร์โก้” เค้ากระซิบ  ร่างเล็กๆ ในอ้อมกอดขยับยุกยิกเหมือนตกใจกับสัมผัสที่เกิดขึ้นเล็กน้อย  ก่อนจะเงยหน้าที่มีสีแดงระเรื่อแต้มอยู่ตามจุดต่างๆ บนใบหน้า

เด็กน้อยมีสีหน้าประหลาดใจในคราแรก แต่แล้วความดีใจที่มีมากยิ่งกว่าก็แสดงออกมาอย่างปิดไม่มิด  หนูน้อยติอาร์โก้โผเข้ากอดตอบคนที่ตระคองอยู่ข้างกายเค้า แม้ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมพี่ชายที่แสนดีคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ “พี่ซีอาร์....ผมฝันร้าย ฝันว่า....ฝันว่าอยู่คนเดียว ไม่มีใครอยู่กับผมเลย ฮึก ไม่มีเลยสักคน  เสียงฟ้าร้องดังไปหมด ผมยืนตากฝนอยู่คนเดียว....อึก” เด็กน้อยพูดเสียงอู้อี้ ขณะซุกหน้าอยู่ในอกของพี่ชาย

“ชูว่ ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่อยู่นี้แล้ว  ไม่เป็นไรติอาร์โก้” และซีอาร์ก็ได้รู้แล้วในขณะนั้นเอง ว่าติอาร์โก้ร้องไห้  ทั้งขอบตาสีออกแดงระเรื่อเคล้ากับน้ำตาที่คลออยู่ที่หางตา  และจมูกโด่งรั้นน่ารักตามแบบฉบับผู้เป็นพ่อก็ออกสีแดงระเรื่อที่ชัดเจนยิ่งกว่า............ถ้าไม่ติดว่าหนูน้อยของเค้ากำลังตื่นกลัวอยู่ล่ะก็ ซีอาร์จะแอบหยิกให้หายหมั่นเขี้ยวเลยค่อยดู..............

“ติอาร์ฝันร้ายแล้วทำไมไม่ไปหาป๊ะป๊าล่ะหืม...” เด็กหนุ่มเอ่ยถามออกไปเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเงียบเกินไป

“ก็....ก็ป๊ะป๊าหลับแล้วนี่ฮะ ติอาร์ไม่อยากปลุก....” ว่าแล้วก็หมุดหน้าเข้ากับอกอุ่นๆ ของซีอาร์เข้าไปอีก  และในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มก็รู้สึกใจเต้นอยู่ครู่หนึ่ง  หัวใจเค้ากระตุกเมื่อเด็กในอ้อมกอดของเค้าเรียกแทนตัวเองว่า ติอาร์

..............เป็นเพราะติอาร์กำลังอยากอ้อนเค้าอยู่รึเปล่านะ..............

โอ่ย น่ารัก........เป็นสิ่งเดียวที่ปรากฏอยู่ในหัวของซีอาร์ในตอนนี้

เด็กหนุ่มออกแรงกอดให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นราวกับให้คำมั่นสัญญา “ไม่เป็นไรนะ....พี่จะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน จะอยู่กับติอาร์ตลอดไป....”

“สัญญานะฮะ” เด็กน้อยเงยหน้ารื่นน้ำตาขึ้นมา พร้อมกับชูนิ้วก้อยน้อยๆ นั้นขึ้นมาไว้ตรงหน้าพี่ชายต่างสายเลือดอีกด้วย

ซีอาร์มองกลับไปอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเกี่ยวก้อยกลับไปอย่างไม่ต้องคิด “แน่นอน พี่สัญญา.....” เค้าเปลี่ยนมาเป็นจับมือน้อยๆ ข้างนั้นไว้  ริมฝีปากอุ่นจรดลงบนหลังมือนุ่มขาวอย่างให้คำสัญญา แล้วลดมันลงไว้แนบเข้ากับออกกว้างของเค้าเอง

“พี่ซีอาร์ชอบติอาร์ไหม....” จู่ๆ เสียงอู้อี้น้อยๆ นั้นก็เอ่ยออกมาอีกรอบ

“ไม่” แต่เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูชัดเจน  จนติอาร์โก้ที่อยู่ในอ้อมกอดมีสีหน้าหมองลง

“....พี่ไม่ได้ชอบ แต่รักติอาร์ที่สุดเลยต่างหากล่ะ” แล้วคำตอบสุดท้ายก็ทำให้หัวใจของคนที่ได้รับพองโตขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ  ติอาร์ดโก้ถูหน้าไปมากับอกกว้างของซีอาร์อย่างไม่รู้จะทำเช่นไรเมื่อเด็กน้อยเขินอาย.......

“รู้ใช่ไหม ว่าพี่หมายถึงอะไร” ซีอาร์เอ่ยถาม  และติอาร์โก้ก็พยักหน้าหงึกๆ อยู่ในอ้อมอกของเค้า  มันทำให้พี่ชายตัวสูงรู้สึกจั๊กจี้เล็กๆ แต่ถ้าเป็นน้องที่รักคนนี้ล่ะก็เค้ายอม.....ยอมตลอดชีวิตเลยก็ได้

“พี่จะรักติอาร์ตลอดไปเหมือน....เอ่อ เหมือนที่ป๊ะป๊าของติอาร์กับป๋าของพี่รักกันไง” ถึงแม้จะพูดฟังดูเป็นปริศนาไปสักนิด แต่ซีอาร์แน่ใจว่าในไม่ช้าถ้าหากพวกพ่อๆ ของเค้าทั้งสองยอมเปิดปากบอกเรื่องความลับนั้นสักที  ติอาร์โก้ก็คงจะเข้าใจและแน่ใจในไม่ช้าว่าที่เค้าหมายความนั้น มันคืออะไรกันแน่

“อือ” ติอาร์โก้ส่งเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ แล้วผล็อยหลับไปในที่สุด  ส่วนพี่ชายที่ยังคงโอบอุ้มร่างน้อยๆ อยู่ก็ลูบไปที่กลุ่มผมนุ่มมืออย่างทะนุถนอม  ซีอาร์เอนกายติอาร์โก้ออกมาจากอกของเค้าพอสมควร ก่อนเด็กหนุ่มใบหน้าคมสันจะโน้มลงไปมอบจุมพิตให้กับเด็กน้อยที่หลับตาพริ้ม เด็กหนุ่มหันองศาในการจูบแล้วกอดกายในอ้อมอกนั้นไว้แน่น

แล้วในที่สุดซีอาร์ก็ตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้ติอาร์โก้จะต้องนอนอยู่ในอ้อมกอดของเค้า...........

ในอนาคตอันใกล้นี่ ซีอาร์ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น  รู้แต่ว่าเค้าจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด  คอยย้ำให้ชัดเจนว่าคนที่เค้ารักที่สุดคือใคร

ป๋าจะกลับแล้วเดี๋ยวค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวก็มาเรียกเองนั่นแหละ......ความคิดสุดท้ายของซีอาร์ดับไปพร้อมกับสติที่วูบเข้าสู่ห้วงนิทราตามติอาร์โก้ไป

.

.

.

.

และแล้วสรุปคือ  ในคืนนั้นก็ไม่มีใครได้กลับบ้านใครเลยสักคน

***************************************************

00.49 น. ................

เด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นมาส่งน้องชายตัวน้อยเข้าห้องน้ำ (ถึงแม้ห้องน้ำจะอยู่ห่างไปไม่ถึงหกเมตรก็ตามเถอะ) เด็กน้อยที่สะลึมสะลือ เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็ ปรือตาน้อยๆ ใส่ซีอาร์ก่อนจะพูดว่า “เสียงอะไรเหรอฮะ พี่ซีอาร์”

เสียงที่ติอาร์โก้พูดถึง ซีอาร์ฟังได้ยินชัดเจนตั้งแต่เดินมาถึงแล้ว  มันเป็นเสียงที่เอ่อ...... ซีอาร์เอี้ยวหูเข้าไปติดกำแพง

ปึก!!

“อืม เสียงอะไร..” นั่นเสียงพ่อเค้าหนิ

ปึกๆๆ!!

“เตียง...ฮ้า..า”

“ห๊ะ....อึก อ่าา”

“เตียง.....เสียง อืออ เสียงเตียง....อ๊า อย่าทำ....แบบนั้นสิ ฮึก” และคนที่กำลังตอบอยู่นั่นก็คือ อาลีโอไม่ผิดแน่  และซีอาร์ก็ได้ยินเสียงเหมือนเนื้อผ้าเสียดสีกันกับ.....

“ขอโทษที อ่าๆๆ......แค่เปลี่ยนท่า ฉันน่าจะบอกนายก่อน.....อืม จับผ้าปูที่นอนไว้สิ อ้า...”

ปึกๆๆๆๆ !! ........ฟังดูจากการขยับของเตียงแล้ว พ่อของเค้าน่าจะกำลังขยับอย่างถี่รั่วอยู่เป็นแน่

“ไม่เอาแล้วคริส  อื้ออ! อ้ะๆๆ .....มัน อึก! เสียงดัง....เดี๋ยวลูกตื้น! ฮึก อ๊า!!” ซีอาร์ได้ยินเสียงอาลีโอร้องเสียงหลง ก่อนจะได้ยินเสียงขยับไปมาบนเตียงแล้วเงียบไป

ปึกก! .............แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงเตียง มันคือเสียงกระแทก

โอ้ย  นายเปลี่ยนท่าอีกแล้ว.......อ่าๆๆ อือ พอแล้วน่า ฉัน....อึก เบาๆ ......มันมากไปแล้วนะ” เสียงอาลีโอดังใกล้หูซีอาร์มากเลยทีเดียว

“คืนนี้นายเสียประตูให้ฉันแค่ครั้งเดียวเองง่ะ”

“แค่ประตูเดียวก็เกินพอแล้ว!! อื้มม...วางฉันลง” ซีอาร์ได้ยินเหมือนป๋าของเค้าจะโดนตี

โอ๊ะ.....ไม่เอา ฉันยังไม่พอ พรุ่งนี้นอนยาวเลยล่ะกันเนอะที่รัก” แล้วเสียงต่างๆ ที่อิโรติกเหนือคณาก็ดำเนินไปตามครรลองของมัน..........ซีอาร์ยกหูออกมาจากกำแพงด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยอยู่เป็นนิจ แล้วรุนหลังติอาร์โก้กลับขึ้นเตียงไป

...........ติอาร์ฟังไม่รู้เรื่องน่ะดีแล้ว  ซีอาร์ยิ้มในใจ.......

.

.

.

.

FIN


…………………………………………………………………………………………..

            อ่านจบกันแล้ว ไม่รู้ว่าจะชอบกันรึเปล่านะค่ะ เม้นท์ๆ กันหน่อยนะค่าาาาาา M_ _M  แวะเวียนไปเยี่ยมชมและมาเป็ฯเพื่อนกันได้ในเฟสเลยค่ะ ^0^

ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund