วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[FIC - TMI]+[Prat 6] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec




มาคิดๆ และตัดสินใจดูแล้วก็ว่าลงมันไปอีกตอนไปเลย  เพราะว่านานเหลือเกินกว่าจะลงที  และฟิคเรามันก็รุดหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว  เอ่อ...จะได้ลง Ncเร๊วๆ  ........อร๊ายย  หลุดโลกกก!! >[]<เฮ้ยย ไม่อยากจะเมาท์อ่ะ  แต่ก็ต้องอุดไว้ค่ะ เพราะมันบอกไหมด้ายยยยยย 55555 /// ปั๊กกก /// โดนรีดเดอร์กระโดดถีบหลัง

            โอ๊ยยย ขอโทษค่ะ  งั้นเชิญอ่านกันได้เลยค่ะ

            ----------------------------------------------------------------------------------------------------

นายโกรธฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ.........ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนะ  ฉันขอโทษที่เอาคีย์การ์ดห้องนายมา แต่ฉันก็ทำไปเพราะหวังดี........เพราะหวังดีกับนายนะ........

-----------------------------------------------------------------------------------------------


--------------------------------------------


“ฮือออ...แม็กนัส” อเล็คสะอื้นฮักอย่างน้อยใจ

ทุกครั้งที่วิ่งตาม นายจะหันมายิ้มแล้วจับมือฉัน แล้วเดินไปด้วยกัน  นาย....ให้ความหวังกับฉัน ทำให้ฉันรู้ว่าจะอยู่ต่อไปยังไง ฉันอยากอยู่ข้างนาย  อย่าผลักไสฉันไปเลยนะ

“ฮึก......ฉัน....ฮือ” อเล็คเอื้อมมือออกไป ทำท่าจะเดินไปหาแม็กนัส

แม็กนัสหักห้ามใจ..........บางทีอาจเป็นเพราะเค้าใจดีกับเพื่อนตัวเล็กมากเกินไปจึงทำให้อีกคนที่ไม่มีใครเหลียวแลคิดไปว่ารักเค้าก็ได้

มันเป็นความรักระหว่างพี่น้องเท่านั้น......ที่อเล็ครู้สึก

“นายไปซะ  แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก....” แม็กนัสขบกรามแน่น แต่ประโยคนั้น  เป็นเหมือนกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของอเล็ค

ร่างสูงผลักคนที่น้ำตานองหน้าออกไปน้อยๆ หลังจากค้นเอาคีย์การ์ดเจ้าปัญหาออกมาจากกระเป๋าของอเล็ค

..............เค้าต้องทำให้เด็ดขาด.............

ร่างสูงผิวสีแทนหักคีย์การ์ดต่อหน้าร่างบางแล้วโยนมันทิ้งไป  ก่อนที่จะหันหลังให้

“ออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย.....” เค้าว่า  เสียงแข็งกร้าวของเค้าทำให้อเล็คหลงเชื่อว่าแม็กนัสจริงจังขนาดไหน

ด้วยความน้อยใจกอปรกับคำพูดเสียดแทงของแม็กนัสที่เน้นย้ำว่า ไม่รักเค้าทำให้อเล็คกลั้นเสียงสะอื้นไว้แล้ววิ่งออกจากห้องนั้นไป  ทิ้งร่างสูงผู้มีหัวใจเบาหวองไว้ในห้องนั้นแต่เพียงผู้เดียว

.......เค้าทำถูกแล้ว.....แม็กนัสทำถูกแล้ว.......

............คิดว่านะ.......!?

อเล็คไม่ใช่ทุกอย่างสำหรับนายซะหน่อยหนิแม็กนัสเอลซ่าต่างหาก  ใช่...เธอต่างหากที่เป็น  อเล็คทำอาหารเช้าให้นายรึเปล่า  ทำความสะอาดห้องให้นายรึเปล่า  ดูแลนายตอนที่นายไม่รู้ตัวหรือเปล่า.....ก็ไม่  เอลซ่าต่างหากที่ทำทั้งหมด และนายควรจะสนใจเธอมากกว่าต้องมานั่งกังวลเรื่องบ้าๆ.......!

เมื่อคิดได้ดังนั้น แม็กนัสก็ร่าเริงขึ้นมาได้ทันที แม้จะไม่สนิทใจนักแต่ร่างสูงก็สะบัดเรื่องเล็กน้อยทิ้งไปซะ  แล้วคว้ามือถือขึ้นมากดหาคนที่เค้ากำลังคิดถึงอยู่

            ..........ตรู๊ด.........ตรู๊ด.........

            “ฮัลโหลที่รัก.....วันนี้ผมอยากทานอาหารฝีมือคุณจัง....”

[คำตอบ :ผิดนะค้าบบบบบบ.......เป็นยัยนั่นที่ไหนกันเล่า เจ้าโง่ห์! -0- : Ray - Aund]


***********************************************************************************


ครืน.....ครืน......ครืน......

สายฝนข้างนอกกำลังตกอย่างหนัก..........

ผู้คนที่เดินกันอยู่ตามถนน เริ่มออกวิ่งหาที่หลบฝนกันจ้าละหวั่น  ไม่ว่าจะเป็นในร้านกาแฟหรือใต้ผ้าใบที่ยื่นออกมาจากชายคาของร้านก็ต่างเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ไม่ได้พกร่มติดตัวกันมาทั้งนั้น  เหตุเพราะฝนเจ้ากรรมดันตกนอกเหนือจากคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าวันนี้จะมีอากาศแจ่มใสตลอดทั้งวัน!...........

ผู้คนต่างพากันอารมณ์เสียกับสภาพอากาศที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้............

.............ต่างจาก อเล็คที่เอาแต่นั่งมองหน้าตักของตัวเองมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว..............

น้ำฝนเม็ดใหญ่นับไม่ถ้วนพากันตกกระทบกับกระจกรถ จนดูเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต.......

เช่นเดียวกับน้ำตาที่พร่วงพรูของอเล็ค.........

.........อเล็คพยายามแล้ว  พยายามอย่างหนักเลยด้วย  เพื่อที่จะห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล...........แต่ก็ทำไม่ได้..............

..........ทำไม่ได้อีกตามเคย......

คำพูดสุดท้ายของแม็กนัส ยังคงตอกย้ำลงกลางใจของอเล็ค  ไหล่บางๆ นั้นสั่นเทาอย่างน่าสงสารเหมือนลูกนกที่บินไม่ได้ติดอยู่ใจกลางพายุโหมกระหน่ำ

........เค้าสิ้นหวัง......

.........เค้าทำให้แม็กนัสเกลียด.........

แม็กนัสเกลียดนายแล้ว อเล็ค......เค้าเกลียดนายแล้ว.......เค้าไม่อยากเห็นหน้านาย

“ฮึก! ฮืออออ” ร่างบางบีบมือตัวเองแน่นในขณะที่สะอื้นอย่างสุดกลั้น  เค้ากัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง หวังว่าเสียงสะอื่นคงจะไม่เล็ดรอดออกไปให้ลุงคนขับรถแท็กซี่ได้ยินหรอกนะ.......

หยุดร้องสิอเล็ค.....นายต้อง อึก กลับไปทำงานนะ.......แม้จะบอกตัวเองเช่นนั้น แต่ก็ไม่ต่างไปจากเดิมเลย  อเล็คยังคงพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะไม่ร้องไห้ในรถแท็กซี่ จนกระทั่งลุงคนขับรถออกปากพูด

“ไหวไหมพ่อหนุ่ม....ดูท่าทางอาการไม่ค่อยดีเลยนะ” เสียงของคุณลุงฟังดูเป็นห่วงอย่างยิ่ง

อเล็คไม่ตอบเพราะติดเสียงสะอื้น  และเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดนั้น.......บางที เค้าก็ไม่ควรต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอีกแล้ว  อเล็คควรอยู่กับตัวเองสักพักหนึ่ง

วันนี้คนผิวขาวรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินแล้ว........

อ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ........

เมื่อคืนก็แทบไม่ได้พักเพราะนอนไม่ค่อยหลับ แล้วยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเข้ากะแรก จนกระทั่งต้องมาเจอกับเรื่องที่เค้าเองก็ไม่ได้คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น..........

.......อเล็คกดด่าตัวเองในใจว่าไม่ควรเข้าไปในห้องของแม็กนัสเลย  ถ้าเค้าไม่เข้าไปอะไรๆ ก็คงไม่เป็นอย่างนี้  ไม่แย่ขนาดนี้  เค้าไม่น่าเชื่อสัญชาติญาณงี่เง่าของตัวเองเลย..........

ถ้าเชื่อใจตัวเองก็เป็นแบบนี้ไปซะทุกอย่างแหละอเล็ค ทั้งซวยทั้งแย่!.......แย่ชะมัดเลย!  ไม่น่าเลย

อเล็คกลั้นสะอื้นก่อนหายใจเข้าลึกๆ  “คุณลุงฮะ....ผมอยากกลับบ้าน”

คุณลุงคนขับพยักหน้า  แล้วต่อมาก็หักเลี้ยวไปทางขาวซึ่งเป็นทางตรงข้ามกับร้านลาเฟ่  ฝนข้างนอกตกกระหน่ำ แต่อเล็คก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู้ดแล้วส่งข้อความสั้นๆ ไปบอกเจซ

ขอโทษนะ  วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ลาคุณบีพอทท์ให้ด้วยนะ....ในขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความหยดน้ำตาก็หล่นแหมะลงบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวของเค้า อเล็คจึงเช็ดมันกับแขนเสื้ออย่างลวกๆ แล้วพิมพ์ต่อ....เป็นอย่างนี้....จนกระทั่งเค้าพิมพ์เสร็จ  แล้วส่งมันไปยังผู้รับปลายทาง

อเล็คเก็บมือถือกลับเข้าไปในกระเป๋าแล้วใช้แขนเสื้อฮู้ดปาดเช็ดน้ำตาที่ไม่เคยขาดสายนั้นออกไป.......ทว่ากลับไร้ประโยชน์  ความรู้สึกเสียใจพรั่งพรูออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจดวงน้อยๆ อย่างไม่ขาดสาย

คำถามๆ หนึ่งผุดขึ้นมาในใจของอเล็คอีกเช่นกัน...........ทำไม....ทำไมแม็กนัสถึงเกลียดเค้า

แม็กนัสรู้หรือ  ว่าเค้าแอบขึ้นไปบนห้องของร่างสูงแทบทุกคืน

แม็กนัสรู้หรือ  ว่ากาแฟกับคุกกี้ที่เค้าบอกว่าคนที่ร้านฝากมาให้  แท้จริงแล้วมันคือความตั้งใจของอเล็คเอง

แม็กนัสรู้หรือ  ว่าเค้ายังคงชอบแม็กนัสอยู่..........

นายรู้อะไรแม็กนัส  นายโกรธฉันเพราะเรื่องอะไรงั้นเหรอ  ฉันไม่อยากให้นายเกลียดเลยนะแม็กนัส..........ฉันทำอะไรผิดไป ฉันขอโทษ อย่าเกลียดฉันเลยนะ

อเล็คไม่เข้าใจควบคู่ไปกับอาการกลัดกลั้นสะอื้นจนเค้าเองก็รู้สึกปวดหัวหนึบๆ อย่างเจ็บปวด   หัวที่ปกคลุมไปด้วยกลุ่มไหมสีดำเอนพิงกับกระจกข้างศีรษะ  และท้ายที่สุดคำว่า

....ทำไม – ถึง - เกลียด.....

ก็ไล่ต้อนอเล็คให้จนมุม  คนผิวขาวจึงมีน้ำตาที่เพิ่งไหลทะลักออกมาจากดวงตาสีฟ้าสวยเต็มไปบนใบหน้าหวานแต่ทว่าเวลานี้กลับดูไร้ชีวิตชีวามากมายนัก

อเล็คนั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่คนเดียวอย่างพยายาม............แม้จะพยายามแล้ว ว่าจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นเด็ดขาด

แต่เค้าก็เค้าล้มเหลว........แม้จะพยายามให้มันเสียงดังน้อยที่สุดแล้ว

แต่เค้าก็ยังคงปล่อยเสียงสะอื้นออกมาตลอดเวลา ................อย่างไม่หยุดหย่อน

ในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเครื่องยนต์ก็นิ่ง เมื่อถึงที่หมาย  แต่สำหรับอเล็คแล้วมันนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์  ร่างบางยกศรีษะออกมาจากผิวกระจกเย็นเฉียบแล้วมองไปข้างนอกรถ

อา  ถึงแล้วเหรอ........

อเล็คยื่นเงินให้แล้วรีบออกมาจากรถทันที........ที่ๆ เดียวที่เค้ากลับมา.....ไม่สิ

ที่ๆ เดียวที่เค้า ซมซาน กลับมาก็คือบ้าน   ถ้าเหมารวมไปว่าห้องเช่าราคาถูก  สาธารณูปโภคแย่  แถมแคบเป็นรังหนูนี่เป็นบ้านน่ะนะ

............ก็ใช่  หลังจากที่เรียนจบแล้ว  พ่อกับแม่ก็เรียกร้องให้คนตัวเล็กแยกตัวออกมาพักคนเดียว และหางานทำซะ  เพราะว่าเค้า โตแล้ว  ควรจะหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งและเรียนรู้ทกอย่างได้ด้วยตัวเองสักที  (และต่อมาไม่นาน ทางครอบครัวก็รู้สึกเศร้าที่ตัดสินใจผิด ปล่อยให้อเล็คแยกออกมาอยู่คนเดียว เพราะงานบ้านกว่า 90 % เป็นหน้าที่ของอเล็คซึ่งพวกเค้าก็แทบไม่จำไม่ได้เลยว่าอเล็คเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด)

ร่างบางเดินขึ้นบันไดเก่าๆ ซึ่งมีราวไม้แล็กเกอร์ถลอกหลุดล่อนคอยช่วยพยุงเค้าให้ขึ้นไปถึงห้องของตัวเอง

แกร๊ก

เสียงไขกุญแจเงียบลง แทนที่ด้วยเสียงเปิดประตู แล้วตามด้วยร่างบางอ่อนปวกเปียกของอเล็คที่พยายามพาร่างกายอันอ่อนล้าของตัวเองเข้าห้องมาจนได้  และทันทีที่ปิดประตูเค้าก็วางกระเป๋าไว้บนชั้นวางรองเท้าแล้วเดินเซๆ ไปนอนขดตัวบนโซฟาหม่นๆ ตัวเดิมของเค้า

“แม็กนัส” แม้แต่คำพูดเพียงแผ่วเบา ก็สามารถเรียกสายธารแห่งความเสียใจและความอ้างว้างของอเล็คออกมาได้

ฉันขอโทษ....ไม่ว่าฉันทำอะไรผิดไป ฉันขอโทษ

“ฉันขอโทษ” อเล็คพูดออกมาเสียงอู้อี้ ในขณะที่มือก็ขยำเบาะโซฟาสีหม่นไปด้วย “....ฉันขอโทษแม็กนัส....ฉันขอ อึก...อืออ” แต่เพียงไม่กี่คำที่พูดออก ก็พาให้เสียงของร่างบางเปลี่ยนไป.....แรงสะอื้นที่หายไปเมื่อครู่ก็กลับเข้ามาถาโถมใส่เค้าอีกครั้ง

“ฮึก...ฮือออ  อยะ อย่าเกลียดฉันเลยนะ ฮึก ” และท้ายที่สุดอเล็คก็พรั่งพรูสิ่งที่เค้าเกลียดออกมา

..........นั่นคือน้ำตา  และการที่โดนแม็กนัสเกลียด............

ฉันมันไม่เป็นที่ต้องการเอาซะเลย....ไม่ว่าใคร ฉันก็ทำให้พวกเค้าผิดหวังไปซะหมด

เค้ายังจำครั้งแรกที่เจอกับแม็กนัสได้......ตอนนั้น ที่โดนแกล้ง แม็กนัสก็เข้ามาช่วยไว้โดนไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น

ตอนที่เค้าไม่รู้ว่าคุณครูสั่งการบ้าน  แม็สนัสก็ทำให้เค้าจนเสร็จภายในเวลาสิบนาที

ตอนที่ป่วย  แม็กนัสก็ค่อยหายาให้เค้า

ตอนที่เค้ากลัว  แม็กนัสก็จะคอยกุมมืออยู่ข้างๆ

แล้วตอนนี้  แม็กนัสไปไหนซะล่ะ............

แม็กนัสคิดยังไง หรือรู้สึกยังไงกับเค้าในตอนนี้...............

แต่อเล็คก็คาดเดาไปแล้วว่าคงถูกเพื่อนตัวสูงเกลียดเข้าไปแล้วเกินกว่าครึ่ง

สิ่งนั้นเป็นเหมือนมีดคม ทิ่มแทงลงกลางหัวใจเค้า

........จะให้ทำยังไงก็ได้ ให้แม็กนัสไม่เกลียดเค้า เพราะทุกอย่างที่ทำมาทั้งการที่ต้องคอยวิ่งตามแม็กนัสอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และการทำทุกอย่างโดนไม่หวังผลตอบแทนจากเค้า ก็เป็นเพียงเพราะอเล็ครักเค้า......

.............รักแม็กนัสอย่างสุดหัวใจ

เพราะตลอดมา ไม่มีใครเลยสักคนที่จะอยู่ข้างหลังอเล็ค คอยอยู่เคียงข้างเสมอทั้งๆ ที่ไม่มีใครเคยมอบสิ่งนั้นให้เค้าเลย.....แม้แต่ครอบครัว

แม็กนัสเป็นคนเดียวเท่านั้นที่อเล็คจะยินดีทำให้ทุกอย่าง..............และยินดีจะรักเค้าตลอดไป

................แต่สุดท้ายสิ่งนั้นก็เป็นได้แค่เพียงความฝันลมๆ แล้งๆ ของเค้าคนเดียว...........

................เด็กที่อยู่คนเดียว กับโลกภายนอกที่ต่อไปนี้จะปราศจากแม็กนัสโดยสิ้นเชิง............

โดนเค้าเกลียดแล้วอเล็ค........

“อะ ฮือออ..ฮึก”  ร่างบางย้ำคำนั้นกรีดแทงหัวใจของตนเองอย่างหยุดไม่ได้  เพราะเป็นเค้าเองที่ทำให้แม็กนัสรู้และทำให้แม็กนัสไม่พอใจ

อเล็คไลท์วู้ตนอนขดตัวอยู่บนโซฟาตัวนั้น.....ในห้องของเค้า และร้องไห้จนหมดแรง.............

...............อย่างเดียวดาย

แล้วหลับไป


---------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------


-------------------------------------------

.


.


.


.


TBC.


----------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่เราทำอะไรกับอเล็คไลท์วู้ตผู้ถือตัวนิดๆ หยิ่งหน่อยๆ แห่งเรื่อง “นักรบครึ่งเทวดา” เนี่ยยยย  ในหนังสือเค้าก็ไม่ขนาดนี้นะ  แล้วแกจะทำให้เค้าดูรันทดไปไหนว่ะRay – Aundddddddddddd............รู้สึกว่าเลยเถิดไปไกลเหลือเกินค่ะ กับการเรียกคะแนความเห็นใจจากรีดเดอร์ทุกท่าน

            เดี๋ยวต่อไปสักพักเถอะ อเล็คของเราจะน่าสงสารยิ่งกว่านี้ 555 บ้าไปแล้วจริงๆ ด้วยเรา

เมื่อกี้เพิ่งเข้าไปในเฟส..เพื่อนแทร็กงานมาให้อีกแล้วค่ะ  ไม่รู้มันไปสรรค์หามาจากไหน  หรึออ. นี่ก็ส่งไม่รู้เรื่องเป็นน้ำป่าไหลหลาก (อ้าว เฮ้ยยย...จะเอาไหมคะแนนอ่ะ)

โอ๊ยยย เซ็งชีวิต

ไปแล้วค่ะ  รักรีดเดอร์ทุกท่านนะค่าาาา^0^

 แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่ะ (?) ^3^

            หรือมาเป็นเพื่อนกันที่ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<ก็ได้ค่ะ

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อร้ากกกกกกกกกกกกกมันเศร้าอะไรอย่างนี้้~~~~~

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปวดใจอะไรอย่างเนรรร้