วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

[FIC – Star Trek] + [Prat 2] You Or You? – Mccoy x Chakov [After Rain 3]



 คือแบบว่าไรท์กดผิดอ่ะค่ะ ลง Prat 3 อยู่ มันก็มีบทความฉบับร่างเด้งขึ้นมาเยอะเเยพเต็มไปหมด ไรท์เลยกดลบที่เกินๆ ออกไป 


แต่-----------!! ไรท์กดผิิดค่ะ ไปลบ Prat 2 ออกด้วยยยย!!! โอ๊ยยยยย แทบดิ้นตาย  ต้องขอโทษด้วยค่ะ ไรท์บ้าไปแล้ววววว


ลงชดเชยให้ใหม่อย่างไม่น่าให้อภัย




-----------------------------------------------------------------------------------------



ทที่ 2


ร่างน้อยบนที่นอนขยับหยุกหยิกไปมาอยู่ใต้ผ้าห่ม ทำให้ร่างสูงที่ยืนบังหน้าต่างอยู่ถึงกับเกือบหยุดหายใจ

เวรแล้วแมคคอย! ไอ้หนูนั่นตื้นแล้วเว้ย........แมคคอยสูดหายใจเข้าเล็กน้อย  และเริ่มคิด  ตัวเค้าเองก็ไม่ใช่คนที่จะวิ่งหนีปัญหาเหมือนคนขี้ขลาดหรือไร้ความรับผิดชอบใดๆ  ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะตั้งหน้ารับปัญหาที่เกิดขึ้นเสมอมา

ใช่.....เพราะเป็นผู้ใหญ่แมคคอยจึงต้องรับผิดชอบ

ร่างสูงผิวกร้านแดดเล็กน้อยสูดหายใจเข้าอีกครั้ง และเดินเข้าไปหาเด็กที่กำลังโกยผ้าห่มออกจากหน้าตัวเอง  แมคคอยเห็นกลุ่มผมหยักซกน้อยๆ โผล่ออกมาจากผ้าห่มนั้นแล้ว เค้ารั้งมือที่กำลังจะเอื้อมไปสัมผัสกลุ่มผมนั้น เหมือนยังชั่งใจว่าตัวเองควรทำเช่นนี้หรือไม่  แต่เสียงครางอืออึงอย่างเจ็บปวดที่เล็ดรอดออกมาจากร่างใต้ผ้าห่มก็ทำให้จิตวิญญาณของหมอใหญ่กลับเข้ามาสวมบทบาทอีกครั้ง

“เฮ้....อย่าเพิ่งขยับสิ” ในที่สุดฝ่ามือใหญ่เชี่ยวชาญการแพทย์นั้นก็ทาบทับลงบนหัวเล็กๆ นั่นจนได้  ร่างที่หยุกหยิกหยุดขยับทันที และไม่ขยับอีกเลย แมคคอยก็เช่นกัน

เอาล่ะสิ นิ่งแบบนี้หมายความว่าไงว่ะเนี่ย.......เจ้าหนูนี่จำเรื่องเมื่อคืนได้หรือไม่ได้กันล่ะ.............

แมคคอยเริ่มคิดเสียใจแล้วว่าไม่น่าเข้าจู่โจมเร็วๆ เลย  แต่ในเมื่อมันเริ่มขึ้นแล้ว เค้าก็ต้องเดินหน้าต่อไป  ดังนั้นร่างสูงจึงตัดสินใจดึงผ้าห่มออกเล็กน้อยให้ช่วงหน้าของเด็กน้อยโผล่ออกมาเพียงเท่านั้น  ใบหน้าของอีกคนเมื่อเจอะเข้ากับเจ้าของบ้านก็แตกตื่นราวกับตัวเองลืมใส่ชั้นในไปโรงเรียน............ยังคงไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน จนกระทั่งร่างที่สูงกว่าตัดสินใจทำลายความเงียบนี้ลง

“นาย....ลุกไหวไหมเชคอฟ” ถึงแม้จะทำเสียงให้ดูเข้มเป็นปรกติแค่ไหน แต่แมคคอยก็ไม่สามารถสบสายตากับเจ้าเด็กหัวนุ่นที่นอนแอ็งแม็งอยู่บนเตียงได้เลย

เชคอฟยังคงเงียบ แต่จริงๆ แล้วเจ้าตัวไม่รู้จะพูดอะไรออกไปมากกว่า ..........กับอีกคนที่เค้าไม่คาดไม่ฝันว่าตื่นมาจะเห็นหน้าคนๆ นั้นอยู่ข้างเตียงเมื่อตื่นขึ้นมา...............

............ไม่รู้สินะ พูดว่าอะไรดีล่ะ..........

แล้วร่างของเด็กน้อยก็ตัดสินใจว่าจะไม่พูดอะไร แต่พยักหน้าขึ้นลงเบาๆ เป็นคำตอบแทน

เมื่อเห็นเชคอฟทำเช่นนั้น หมอแมคคอยก็แทบอยากจะเอาเจ้าหนูนี่ยัดเข้าเครื่องแคสแกนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะเลย

พยักหน้าตอบก็ยังอ่อนเปลียเพลียแรงขนาดนี้ แล้วลุกมันจะไหวไหมว่ะเนี่ย......โอ้ย กลุ้ม

ร่างสูงเผลอถอนหายใจตามแบบฉบับของตัวเองออกมาอีกครั้ง  ซึ่งนั้นทำให้เด็กหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงตรงช่วงจมูก เพราะคิดว่าตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้อีกคนต้องรู้สึกไม่พอใจ และเหลือไว้เพียงดวงตากลมโตทั้งสองที่มองขึ้นมามองแมคคอยด้วยสายตาที่รู้สึกผิดอย่างปิดไม่มิด.........

............เชคอฟเป็นเด็กรู้จักประมาณตัวเองเสมอ  ทำอะไรเค้าก็จะคิดไปก่อนเสมอว่าตัวเองผิด...........

ร่างสูงแห่งบุรุษแดนใต้เพิ่งจะสังเกตเห็นสายตาลูกหมาเว้าวอนที่ส่งมาหาเค้าแบบไม่ได้ตั้งใจของเชคอฟ  แมคคอยรู้สึกเองไปว่าเด็กหนุ่มอาจจะช็อคจนไม่พูดกับเค้า และตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไป ก็รีบพูดไปโดยไม่ได้คิดเลยว่าภาพลักษณ์อันเงียบขรึมที่เค้าพยายามสร้างมาแต่แรกได้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง

“อา โอเค....โอเค  ฟังนะ ฉันขอโทษ  ฉันผิดเองแหละที่....เออ  ที่เมาไม่รู้เรื่องแบบนั้น....แต่นั่นก็เป็นเพราะเจ้าสก็อตตี้ตัวดีนั่นแหละนะที่ทำให้ฉันไม่มีทางเลือก....” แมคคอยชูนิ้วชี้ไปทางเชคอฟ เหมือนอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของร่างสูงทั้งหมด “......และแอลกอฮอล์ที่มากกว่าระดับปรกติถึง 20 เท่า  มันทำให้ฉัน  อา โอเค.....ฉัน  ขอโทษนะเชคอฟ...ขอโทษกับเรื่องทั้งหมด  ฉัน....”

สุดท้ายร่างสูงก็เอ่ยคำขอโทษออกมาจนได้ หลังจากว้าวุ่นอยู่ในใจแทบตายว่าจะพูดออกมายังไงดี  ร่างที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียงส่ายหน้าตัวเองช้าๆ อย่างสุดอธิบายว่าเค้าได้ทำสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับเชคอฟลงไปเสียแล้ว  และมันไม่มีคำขอโทษใดจะสมควรกับสิ่งที่เค้าได้กระทำลงไป

“ฉัน....”

“คุณ....มะ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกฮะ.....“ แต่แล้วก็มีเสียงสั่นๆ ดังลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มให้แมคคอยได้หยุดกล่าว แล้วค่อยๆ หันไปทางต้นเสียงนั่น

หนุ่มน้อยผู้ซึ่งซ่อนอีกครึ่งหน้าไว้ใต้ผ้าห่มก็ยังคงมีแววตาสั่นไหว ราวกับรวบรวมความกล้ามานานกว่าจะพูดประโยคเมื่อครู่นี้ไปได้

“ผะ ผะ โผมรู้ว่า....ว่ามันไม่น่าเกิดขึ้น” ดวงตาของเชคอฟฉายแววไหวระริกยิ่งกว่าเดิม

“และ...และผมก็..ตั้งใจจะมาส่งคุณเอง....คุณไม่ผิดหรอกฮะ  อึก  ผมเอง.....” น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงมาอย่างรวดเร็วจากหางตาของเด็กน้อย  และในความคิดของแมคคอยถึงแม้เด็กคนนี้จะพยายามอย่างยิ่งที่จะมองโลกในแง่ดีแค่ไหน  แต่ด้วยภาพและความรู้สึกที่ตกค้างจากเหตุการณ์ของเมื่อคืนก็ยังคงทำให้เชคอฟช็อคอยู่  และรวมทั้งร่างกายกับจิตใจของเด็กคนนี้ก็มากเกินจะรับไหวแล้วด้วย

.............สภาพอารมณ์ของเด็กวัย 17 ยังคงไม่สามารถที่จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้หรอก.............

แมคคอยลูบไปที่หัวน้อยๆ ของเชคอฟ “ใช่ ฉันเข้าใจแล้ว....ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ” แต่สัมผัสแรกที่เชคอฟรู้สึกกลับทำให้เจ้าตัวสั่นและหดคอหนีทันที  และถึงตอนนี้แมคคอยก็เข้าใจแล้วว่าเชคอฟเคยกลัวมากแค่ไหน...............

ร่างสูงของบุรุษแดนใต้สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างรวบรวมสมาธิ  แสงสีทองของดวงอาทิตย์อาบอยู่ทั่วแผ่นหลังแกร่งกำยำของเค้า  ก่อนน้ำเสียงทุ้มจะเอ่ยออกไปเบาๆ

“ฉันรู้ว่านายคิดยังไงเชคอฟ.....นายกล้าหาญมาก  เอาล่ะ ทีนี้จะไม่มีใครทำร้ายนายได้แล้วนะ  ไม่ต้องห่วง  ฉันจะดูแลนายเอง  ไม่เป็นไร....” แม้จะรู้สึกตะขิดตะข่วงใจตัวเองอยู่ไม่น้อยที่เป็นคนทำร้ายเด็กคนนี้เองแท้ๆ แต่กลับบอกว่าจะดูแลเค้า..........หึ  น่าขำจริงๆ แมคคอย.......แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ คือเค้าต้องทำให้เชคอฟรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเสียก่อน จึงจำเป็นจะต้องพูดเรื่องนี้ออกไปถึงแม้มันจะขัดความเป็นจริงก็ตามเถอะ

แล้วร่างสูงก็พยายามอีกครั้ง  เค้าค่อยๆ ทาบทับฝ่ามืออุ่นลงไปบนหัวนุ่นของเด็กหนุ่ม และมันก็ได้ผล...เชคอฟยอมอยู่นิ่งๆ ให้เค้าได้ปลอบโยน..... แมคคอยเผยยิ้มบาง แล้วลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มนั้นไปมา

“คุณโกรธผมรึเปล่าครับ” จู่ๆ เสียงอู่อี่ใต้ผ้าห่มก็ดังลอดออกมาอีกครั้ง  พร้อมกับสายตาที่เป็นกังวลช้อนขึ้นมามองเจ้าของบ้าน

“เฮ้ออ... ใครจะไปโกรธนายได้เล่า  นายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย  และอีกอย่างฉันเองก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนั้นด้วยเหมือนกัน  ที่....”

“ไม่ๆๆๆๆ  คุณไม่ผิดหรอกฮะ ไม่ผิดสักนิดเดียว...โอ๊ย!” แมคคอยโดนตัดบทโดยเชคอฟ  และเชคอฟก็โดนตัดบทโดยอาการเจ็บแปลบที่แล่นริ้วเข้ามาหาสะโพกของเค้า เมื่อเจ้าตัวเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนนุ่ม และในทันทีที่เด็กหนุ่มร้องโอดโอยออกมา หมอแมคคอยก็เอ็ดขึ้นมาทันที

“เอ้าเชคอฟ....บ้าเอ้ย อย่าเพิ่งลุกขึ้นมาสิ ถึงจะฉีดยาเข้าไปแล้วแต่พลีพลามลุกขึ้นมาแบบนี้ เดี๋ยวแผลก็ฉีกขึ้นมาหรอก”

เชคอฟหน้าเสียเพราะความเจ็บและรู้สึกผิดที่โดนดุ เลยกลับลงมานอนห่อตัวในผ้าห่มเหมือนเดิม “ผะ ผมขอโทษฮะ....” .....และแมคคอยก็เพิ่งนึกได้

น่าน....ดูสิ ทำหน้าเป็นลูกหมาโดนดุไปเลย....เอาอีกแล้วแมคคอย แกกำลังจะทำให้เจ้าเด็กนี่ร้องไห้อีกแล้ว

เพราะเสียงไหวๆ นั่นทำให้รู้สึกใจหวิวขึ้นมาในทันที  เมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากเสียงดังออกไปตามภาษาคนเจ้าอารมณ์  หมอใหญ่แห่ง Enterprise จึงรีบเปลี่ยนโทนเสียงทันที

“เออ  ช่างมันเถอะเชคอฟ ฉันเองที่พูดมากไป แต่นายเองก็ต้องสัญญานะว่าจะไม่ขยับตัวกะทันหันแบบนั้นอีก...” เหมือนจะสำนึกผิด แต่ก็ถือโอกาสตักเตือนอีกคนไปด้วยซะงั้น  แมคคอยชี้นิ้วใส่เชคอฟเหมือนตอนที่เค้าใช้คำสั่งของหมอกับเพื่อนกัปตันตัวแสบ

เชคอฟพยักหน้า

“....โอเค  ก่อนอื่นเราก็ต้องทำอะไรสักอย่างก่อน เพื่อไล่เจ้าซูลูให้ออกไปจากหน้าบ้านฉัน” ร่างสูงพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง  แต่คำกล่าวนั่นกลับทำให้เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง หัวใจแทบหยุดเต้น

“คุณซูลูมาเหรอฮะ!...โอ  แย่แล้ว  เค้าต้องมาตามหาผมแน่ๆ เลย!” เชคอฟลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท “เค้าเพิ่งมาเหรอฮะ”

“ออ...สักพักหนึ่งได้แล้วมั่ง”

“อ๊าาา....แย่แล้ว  โอไม่นะ  ผมแย่แน่เลย”

“ทำไมล่ะ...ออ..” แล้วร่างสูงก็เพิ่งใคร่ครวญได้ ว่าเป็นเพราะอะไร

ก็แค่เจ้าซูลูมา  ไม่เห็นจะต้องทำท่าทางวุ่นวายเลย.....ก็แค่พี่น้องต่างสายเลือด อะไรกัน ทำยังกะพ่อตัวเองมาตามอย่างงั้นล่ะ....แมคคอยมองเชคอฟอย่างไม่เข้าใจ กับท่าทีเป็นกังวลโอเวอร์ของเด็กน้อย

“โธ่  ช่างมันเถอะน่า  ฉัน....อะ เฮ้ย  นายห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด ห้าม....ฉันจะไปบอกให้ไอ้หมอนั่นกลับไปก็ได้  ถ้านายต้องการ” แมคคอยบอก แต่เมื่อกี้ก็ยังมิวายเอ็ดเด็กดื้อที่พยายามลุกขึ้นมาอีกที

เชคอฟกลับไปม้วนตัวในผ้าห่มตามเดิม “ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกฮะ  ผมไม่อยากรบกวนคุณ....แล้วก็อีกอย่าง....” ครานี้เชคอฟเงียบไป ไม่ช่างจ่อเหมือนเมื้อครู่   แมคคอยเห็นดังนั้น...ก็อย่างที่รู้ๆ กัน....จึงถือโอกาสสรุปว่า เชคอฟถึงแม้จะอายุเกือบบรรลุนิติภาวะแล้วแต่ก็เข้มแข็งไม่น้อยเลยทีเดียว

...............ทำไมน่ะเหรอ?............

ก็คนบ่นมาหาถึงที่ แล้วยังจะดั้นด้นบากหน้าไปให้เค้าบ่นอีกน่ะสิ!

.............โอ๊ย ไม่ไหวจะเคลียร์............

ไม่เคยเป็นคนไม่ดีเลยใช่ไหมเนี่ย ตรงเหน่วเป็นไม้บรรทัดตลอด........แมคคอยคิดพลางส่ายหน้าน้อยๆ แต่เค้าก็ยอมรับจริงๆ ว่าทำไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาทำเสียงแข็งแล้วออกคำสั่งแบบตัดบทเหมือนเคยอย่างที่เคยทำมากับคนไข้ทุกๆ ราย

.........แต่สำหรับเจ้าหนูรัสเซียหัวฟูรายนี้เค้ากลับทำไม่ได้  ต้องบอกว่าตัดใจทำไม่ได้มากกว่า  เพราะดูเหมือนการคิดจะตวาดและขึ้นเสียงกับเด็กคนนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมากเหลือเกิน...........

..............แมคคอยแค่รู้ว่า เห็นหน้าแล้วไม่อยากทำ  ไม่อยากทำให้รู้สึกไม่ดีก็เท่านั้น..........

ทำไมกันนะ?  ทำไม.....ทำไมกัน?

ช่างหัวมันเถอะ ถ้าไม่รู้ว่าทำไมก็เอาไว้ก่อน  ตอนนี้จำเป็นจะต้องจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ให้ได้เสียก่อน..............

และหมอแมคคอยก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า “นายลุกไหวรึเปล่าเชคอฟ” ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงจังเพราะต้องการให้ชัวร์จริงๆ ว่าลุกไหวจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ไม่อยากให้ไอ้คนที่ยืนทำเสียงหน้ารำคาญอยู่ที่หน้าบ้านเค้าต้องหัวเสียกันแน่

แต่ดูท่าทางของเด็กหนุ่มจะบ่งบอกว่าอยากลุกเต็มทีแล้ว เพราะถ้าหากไม่ตอบเค้าจะไม่ยอมให้เจ้าหนูนี่ลุกขึ้นเป็นแน่........ถ้าตัวยาที่ใช้ไปไม่ได้ผลก็อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ

แต่ทว่าตัวยาสูตรขั้นเทพราคาไม่ติดดินนั่นก็ใช้กับเชคอฟได้ผลชะงัดทีเดียว  เพราะงั้นเด็กหนุ่มจึงรีบพยักหน้าพรืดจนกลุ่มผมบนหัวเด๋งดึ๋งไปมา มือทั้งสองข้างก็เกาะผ้าห่มที่เลื่อนขึ้นมาปิดตรงช่วงจมูกแน่น

พอได้คำตอบเช่นนั้น  แมคคอยก็ขมวดคิ้วเป็นปมให้กับตัวเอง แล้วยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่

............ถามไปกะไม่เอาคำตอบ แต่เจ้าหนูนี่ก็ดันตอบมาซะดิบดีว่าจะเอาๆๆๆๆ............

เออ! ฉันกะจะเล่นรางวัลตุ๊กตาทองบอกซูลูมันไปสักหน่อยว่านายไม่อยู่.....ลุกไหวแน่หรือ เชคอฟ...........แต่หมอหนุ่มก็อดเป็นห่วงในใจไม่ได้ และจิตวิญญาณของความเป็นหมอก็บอกให้เค้าพูดห้ามไว้ ซึ่งเค้ายังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนตัดบทด้วยเสียงอ่อยๆ นั่นเสียแล้ว

“แต่ฉันว่านาย.....”

“คุณซูลูรอผมอยู่ข้างนอกนะฮะ  ให้ผมออกไปเถอะ....” เสียงน้อยๆ นั่นอู่อี่ลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มของแมคคอย

ร่างสูงถึงกับเบรกสนิททันที เมื่อได้ยินเสียงของประโยคนั้น

“ทำไม” นั่นเป็นคำถามเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจของแมคคอย  ซึ่งสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองให้ร่างสูงไม่น้อย  การที่คนไข้ไม่ดูแลตัวเองแล้วห่วงเรื่องของคนอื่นแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ.............

เจ้าหมอนั่นมีอะไรให้ห่วงนักหนาหรือ...........แมคคอยส่งสายตาถามเชคอฟไปแบบนั้นอย่างเรียบเฉย

เด็กหนุ่มกลอกตาไปซ้ายทีขวาที ก่อนจะอู่อี่สำเนียงรัสเซียจ๋าตอบออกมาอีกรอบ “เค้าต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าผมอยู่ที่นี่.....คุณซูลูต้องไม่ยอมกลับไปแน่จนกว่าจะได้เจอผม” เชคฟรู้ดี  รู้จักผู้ชายคนนั้นจนทะลุปรุโปร่งเหมือนเป็นคนๆ เดียวกันเลยทีเดียวล่ะ

.................ก็พวกเค้าโตมาด้วยกันนี่นา.............

แต่ทว่าดูท่าตอนนี้แมคคอยจะเป็นห่วงอาการของเชคอฟอยู่มาก

“เอาจริง?” พลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วถอนหายใจตามแบบฉบับลีโอนร์าด   แมคคอย

เชคอฟก็ตอบแบบไม่คิดทันที.........ถ้าปล่อยให้ซูลูรอนานแล้วเกิดโมโหขึ้นมาล่ะก็......อา เชคอฟคนนี้ไม่อยากคิดเลยล่ะ  ไม่เอาน่าาา

“ครับๆ ผมลุกไหว ผมทำได้!” เด็กน้อยกระเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับโดนเข็มทิ่ม  แต่หมอแมคคอยก็ไวพอที่จะเข้าไปดึงเข็มเล่มนั้นออกด้วยการโถมตัวเข้าไปปรามไว้

“เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆๆ! อย่างเพิ่ง.....” และคงเป็นเพราะร่างสูงโถมตัวลงไปมากเกินไป จึงทำให้ทั้งสองจมูกปะทะกันแบบปุบปับรับโชค

“?!

เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ ศีรษะของเค้าเพิ่งผละจากหมอนมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น และด้วยความอ่อนแรงซึ่งยังไม่ฟื้นตัวดีของเด็กหนุ่มก็ทำให้เค้าไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวเองไว้ได้  และร่างน้อยๆ นั่นก็กำลังตกลงกระแทกกับที่นอนเสียด้วยแล้ว  แต่โชคยังดีที่ได้วงแขนแกร่งของบุรุษแดนใต้มาเกี่ยวประคองไว้ได้ทันเวลา

และด้วยสัญชาติญาณ แมคคอยเกี่ยวรั้งเชคอฟไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มีจึงทำให้ปลายจมูกของทั้งสองบดขยี้กันอย่างแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ  ดวงตาทั้งคู่กระพริบถี่อย่างตกใจในคราแรก แต่ดวงตาสีเฉดเดียวกันก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งมนต์สะกดของกันและกัน จนมิอาจละออกมาได้...............

..................ดวงหนึ่งกลมโตแลดูไร้เดียงสา.............

....................อีกดวงหนึ่งคมกริบประดุจเหยี่ยว.................

ดูเหมือนนอกจากอ้อมกอดแล้ว ดวงตาของทั้งคู่ก็ยังเกาะเกี่ยวกันด้วย  แต่พอนานเข้าดวงตาคู่น้อยนั่นก็เริ่มสั่นระริกใส่อีกคนเสียอย่างนั้น พร้อมกับริ้วสีแดงที่ขึ้นทาบทับบนผิวแก้มเนียนใส  ทว่า...........

กริ๊งงง!!!!


ฮิคารุ   ซูลู มายืนอยู่ที่หน้าบ้านคุณแล้วคุณหมอ’ 

.

.

.

.

TBC.

--------------------------------------------------------------------------------------------

ตามไปแกะกระแสกันในเฟสเลยค่าาาาา >>แฟนฟิค ฮอลีวู้ด<<


2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

อยากไปออกรายการ วันนี้ที่รอคอย มากอะ... กว่าเราจะได้เม้นท์ให้ 555 ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้ขึ้นดอย แล้วคณะนัดตีห้าป่ะ...เหอๆๆๆ ก็กะจะนอนเช้าๆ นะ(เหรอ?) ช่างเหอะเม้นท์ดีกว่า เย้ๆๆๆ

เย้ๆ ได้รู้ละว่าหมอกะน้อง คุยไรกันตอนตื่นมา เหอะๆๆ คือแบบตอนนี้ขอเคืองน้องนิดนึงนะ แบบ...ให้หมอโกหกไปก็ได้นะว่าไม่อยู่อะ -*- คือถ้าหมอไม่นึกขึ้นมาว่าน้องอายุ 17 นะ เราก็ลืมไปแล้วค่ะ 555 แบบตอกย้ำว่า "หมอเอ้ยยย แกโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ" วะฮะฮะๆๆๆ *ฉึก<<<มีดปักอก

งุงิ ตอนที่ล้มลมทับกันอะ เรานึกว่าจะจุ๊บุกันแล้วซะอีก (ความคิดแกนี่ไม่ค่อยอะ...) ฟีลแบบ Lying beside you...Here in the dark...Feeling your heartbeat with mine...เราว่าจริงๆ นะคะ เพลง Open Arms แอบตรงกับฟีลลิ่งหมอนะ คึคึคึคึคึ

เช่นเคยค่ะ ขอบคุณไรท์เตอร์ผู้น่ารักที่อุตส่าห์เขียนฟิคให้เราอ่าน ลัลล้าๆ สู้ๆ นะคะ จุ๊บๆๆๆ