วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

[FIC – Star Trek] + [Prat 3] You Or You? – McCoy x Chakov [After Rain 3]



สวัสดีค่ารีดเดอร์ทุกท่านนนนนน  ตอนที่ 3 ของ You Or You? กลับมาแล้วตามที่ Ray ได้ให้สัญญาเอาไว้ พะเอิญช่วงนี้ใกล้สอบแล้วค่ะ อีกแค่อาทิตย์เดี๋ยวเอง ฮ่าาาาาาาา ---- เซ็งจริงๆ ค่ะ

            เอาล่ะ  อย่าบ่นนู้นนี่นั้นให้รีดฟังอยู่เลยเนอะ ไปอ่านกันดีกว่าค่ะ

ป.ล. ถ้าไรท์พิมพ์ผิดบ้างไรบ้างก็อย่าถือสานะค่ะ คือ......เอาตรงๆ ไรท์รีบค่ะ -*- กลัวโดนบ่น แฮ่ๆๆ  รู้สึก Prat 4 มีผิดอยู่ 4 ตรงรีบไปแก้ด่วนนนนนนน


-------------------------------------------------------------------------------------


บทที่ 3


กริ๊งงง!!!!

ฮิคารุ   ซูลู มายืนอยู่ที่หน้าบ้านคุณแล้วคุณหมอ’ 


--------------------------------------------------------------------------


เสียงคอมพิวเตอร์ดังขึ้น เป็นเหตุให้แมคคอยหลุดจากห้วง แล้วกระพริบตาถี่ๆ เหมือนกับได้สติ ร่างสูงผงะกับความใกล้ชิดของใบหน้าที่เพิ่งจะรู้ตัว ก่อนจะดึงหน้าตัวเองออกมาแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวบางของเด็กน้อย

เชคอฟกลืนน้ำลาย และยังไม่หายใจเต้น หนำซ้ำมันยิ่งเต้นระรัวยิ่งกว่าเดิม เมื่อหมอหนุ่มยังไม่ยอมปล่อยมือออกไปจากตัวเค้า

แมคคอยมองเชคอฟด้วยสายตาที่อ่อนลง “ถ้านายยืนยันว่าร่างกายตัวเองไหว ฉันก็ไม่....”

กริ๊งงงงงงง!!!! กริ๊งงงงงงงงงงงงงง!!!! กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!

ฮิคารุ   ซูลูมายืนอยู่หน้าบ้านคุณนานแล้วคุณหมอ.....ขอแนะนำให้คุณเปิดประตู หากไม่ต้องการให้เสียงดังขึ้นอีก หรือคุณต้องการใช้มาตรการซิคิวริตี้

โอ๊ย ไอ้บ้านี่มันไม่มีอะไรทำรึไงว้าา!” ร่างสูงเจ้าของบ้านเผลออุทานออกมาเสียงดังเพราะหงุดหงิดอย่างเคยชิน จนลืมไปว่ายังมีเด็กที่ทำหน้าตาตกใจนี้อยู่ใต้ร่างของเค้า  แมคคอยรีบทำหน้าปรกติแล้วเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวที่อยากจะเอามีดผ่าตัดไปเฉาะหน้าซูลูไว้ ก่อนจะแกล้งทำหน้าตกใจเล็กๆ กับเสียงของตัวเองแล้วยักไหล่ให้เชคอฟเป็นเชิงว่า

............โทษที ก็มันชินน่ะ..........

เออ! ก็มันอดไม่ได้นี่หว่า...น่ารำคาญจริง ไอ้ญี่ปุ่นนี่.........ถึงแม้จะทำทีขอโทษแต่ในใจก็กดด่าคนข้างนอกไปด้วย

“ให้ตาย แต่ฉันก็อยากใช้จริงๆ นะไอ้มาตรการซีคิวริตี้เนี่ย” แมคคอยบ่นพึมพำกับตัวเองเพราะหมั่นไส้คนที่หน้าประตูบ้านจนอยากเตะมันโด่งไปถึงดาวอังคาร เป็นเหตุให้เด็กขี้ตื่นตูมจนน่ารักอย่างเชคอฟตาโตคิดไปไกลว่าร่างสูงจะใช้เข้าจริงๆ เลยรีบคว้าไหล่แข็งแรงของอีกคนไว้แล้วเขย่าแรงๆ พลางพูดเร็วรัวออกสำเนียงบ้านเกิดจนแมคคอยแทบฟังไม่ออก

“งั้นให้ผมออกไปเถอะนะฮะ! นะฮะ!  ผมทำให้เค้าหยุดกดได้เค้าจะไม่รบกวนคุณแล้วผมสัญญา แค่ให้ผมออกไปหาคุณซูลูนะฮะ นะฮะ...คุณอย่าใช้มาตรการซิคิวริตี้นะ” แต่ก็เป็นประโยคแรพที่น่ารักไม่เบาเมื่อประกอบเข้ากับตาโตๆ ดวงหน้าขาวใส และกลุ่มผมเด๋งดึ๋งสีอ่อนที่ขยับไปมา โดยเฉพาะ “มาตรการซิคิวริตี้” ที่รัวเร็วเป็นพิเศษซะแทบเป็นสำเนียงรัสเซียจ๋าแบบเต็มขั้น แต่ไอ้ที่ทำให้แมคคอยค้างไม่น้อยก็คือที่เค้าอุตส่าห์เอาหน้าตัวเองออกมาให้ห่างจากเชคอฟแล้วนะ แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มกลับเอาหน้าของตัวเองเข้ามาหาเค้าซะเองจนแทบจะประกบจูบกันได้อีกรอบอยู่แล้ว

แต่เชคอฟเป็นเด็กหนุ่มมุ่งมั่น เค้ายังคงไม่ยอมเอาหน้าผละออกจนกว่าจะได้รับคำตอบ (หรือบางทีเค้าอาจจะยังไม่รู้ตัวกันแน่นะ)

เจ้าของร่างสีแทนจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากแล้ว จับเข้าที่ไหล่ขาวเนียนของอีกคนก่อนจะดันออกเบาๆ “งั้นก็ได้ ฉันอนุญาตให้นายลุกจากเตียงได้” เค้าจึงตัดบทอย่างง่ายๆ ก่อนจะเด้งตัวลุกออกมาจากที่นอนแล้วหยิบเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่เค้านำมาพับไว้ วางไว้ข้างเตียงให้เชคอฟ

“ขอบคุณครับ” เชคอฟมองกองเสื้อผ้าของตัวเองที่พับซะเรียบร้อยอย่างเนียมอายเมื่อมันพาลทำให้นึกถึงเรื่องของเมื่อคืน........แต่จะว่าจริงๆ การพับผ้าของร่างสูงผู้เชี่ยวชาญการจับมีดผ่าตัดคนนี้ยังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าเค้าซะอีก

.............คงอาจเป็นเพราะหมอแมคคอยอยู่คนเดียว และเค้าไม่ชอบให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรๆ ให้ทั้งหมดจึงทำอะไรหลายๆ อย่างออกมาได้ดี................

แต่ร่างสูงที่หันหลังให้ทันทีที่วางเสร็จก็ไม่ได้หันมาแต่อย่างใด เชคอฟจึงไม่รู้ว่าร่างสูงทำสีหน้าแบบใดอยู่กันแน่ “นายเปลี่ยนเสื้อเถอะ ฉันจะลงไปรอข้างล่างเมื่อนายเสร็จแล้ว...” ว่าเพียงเท่านั้นก็เดินออกประตูไปอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ

ในห้องนั้นจึงเงียบสนิทและไร้ซึ่งบทสนทนาอีกครั้ง  เชคอฟลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าและรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่ความเจ็บปวดจากเมื่อคืนทุเลาลงแล้ว และแทบจะหายสนิทจนไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

อืม ก็เค้าเป็นหมอนี่เนอะ...........เชคอฟจรดดวงตาใสๆ จ้องมองพื้นอย่างน่าสงสาร

ครั้นก็อยากคิดไปเองว่าที่อีกฝ่ายยอมช่วยและรักษาตนก็เพราะความห่วงใยหรือความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ที่มีให้แก่กัน  แต่แท้จริงแล้วก็อดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ร่างสูงได้กระทำไปก็มาจากคำว่าจรรยาบรรณล้วนๆ

จนเชคอฟรู้สึกว่าตัวเองนี่บ้าสินดี ที่ดันไปคิดกับคนที่จริงจังกับชีวิตอย่างนั้นและอีกฝ่ายก็คงจะไม่สนใจเด็กต้นกลเล็กๆ อย่างเค้าเป็นแน่.............

เพราะนี่มันเป็นเรื่องของเด็กๆ ผู้ใหญ่อย่างแมคคอยน่ะเค้าไม่สนใจกันแล้วล่ะ

เชคอฟถอนหายใจ “เฮ้ออ ......โอ๊ะ ปวดเอว”

..............แต่ก็ยังรู้สึกว่าอาการปวดก็ยังไม่หายไปซะทีเดียว..............


***************************************************************


เมื่อใส่เสื้อผ้าและจัดแจงกับตัวเองเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มก็พาร่างกายที่ค่อนข้างเกร็งนิดๆ ลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน  และเค้าก็เห็นร่างสูงเด่นของแมคคอยกำลังนั่งรออย่างใจเย็นโดยไม่สนใจเสียงกดกริ่งของซูลูเลยสักนิด

ประจวบเหมาะกับที่ใบหน้าคมหันมาเห็นเค้ากำลังเดินลงมาพอดี “มานั่งนี่สิ” เอ่ยเพียงเท่านั้น ร่างสูงก็ยืนขึ้นแล้วเดินมาดึงมือเด็กหนุ่มให้ไปนั่งบนโซฟาชุดสีเทาครีม ด้านหน้าของเชคอฟคือTV บานใหญ่เบ้อเร่อที่เด็กหนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อน  ซึ่งกำลังแช่อยู่ในช่องรายการ TV รายการโปรดของเค้าอยู่

...........แมคคอยจะรู้ไหมนะว่าช่องนี้น่ะมีแต่รายการโปรดของเค้าทั้งนั้นเลย.............

(ถึงแม้ว่าคนที่บ้านจะบอกว่ามันไม่เหมาะกับเค้าก็ตามเถอะ  เชคอฟก็ยังคงชอบแอบลงไปเปิดดูอยู่กับคุณย่าในห้องของท่านเป็นประจำ)

เชคอฟมองดูรายการโปรดและแมคคอยสลับกันไป  ร่างสูงผิวคมเข้มตามแบบฉบับคนใต้ซึ่งสวนเสื้อแล้วกำลังไปเปิดประตู............

เชคอฟได้ยินเสียงสบถของแมคคอยและตามมาด้วยการปรากฏตัวของซูลู ซึ่งไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่เชคอฟเลย แต่กลับสร้างความหวั่นเกรงให้เค้าแทน

หน้าตาในคราแรกซูลูดูหวาดหวั่นมาก เหมือนตอนเด็กๆ ที่เชคอฟเคยเล่นซ้อนแอบแล้วไม่มีใครหาเค้าเจอจนกระทั่งตกเย็น พ่อของเค้าเจอเค้ากำลังนอนหลับอยู่ในห้องของคุณย่า.........ซูลูเป็นคนที่ชวนเค้าเล่นแต่กลับหาเค้าไม่เจอ เพราะงั้นเจ้าตัวจึงปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้เชคอฟคลาดสายตาเด็ดขาด

แต่ก็นะ....พอโตกันแล้วเวลาผ่านไปเราก็ต่างมีเวลาส่วนตัวกันทั้งนั้น 

ซูลูพาเค้าออกมาจากบ้านของแมคคอยแล้วเชคอฟก็ร้องไห้ต่อหน้าซูลู เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ซูลูต้องโมโหและตามหาเค้าตลอดทั้งคืน  จนกระทั่งฝ่ายนั้นกลับเข้าสู่โหมดพี่ชายเต็มตัว  ทุกๆ อย่างจึงดูผ่อนคลายลงและเชคอฟก็ถูกส่งกลับบ้านโดยมีซูลูตามประกบแบบตัวติดกันทั้งวัน อย่างเช่นที่อีกฝ่ายชอบทำอยู่บ่อยๆ

แต่วันนั้นทั้งวัน เด็กหนุ่มกลับไม่ได้จดจ่ออยู่กับซูลูเลย หรือแม้แต่อาหารมื้อค่ำที่เต็มไปด้วยของโปรดของเค้า

ในใจเด็กหนุ่มคิดแต่เพียงว่า ตอนนี้หมอแมคคอยกำลังทำอะไรอยู่หนอ..............

และร่างสูงของบุรุษแดนใต้คิดสิ่งใดอยู่กันแน่..................

และคิดกับเค้าเช่นไร.......................

เด็กหนุ่มถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะระบายยิ้มเศร้าออกมา........อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้คิดแบบเดียวเหมือนกันกับนายล่ะกันเชคอฟ...........เด็กหนุ่มบอกตัวเอง

ไหล่เล็กๆ ลู่ลงกับเก้าอี้ไม้พนักพิงลื่นๆ ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับเก้าอี้ซึ่งสร้างจากวัสดุชั้นพิเศษอย่างพลาสติกเนื้อดีต่างๆ ที่ใครๆ เค้าก็นิยมใช้กัน  แต่สำหรับเชคอฟไม่ เด็กหนุ่มมีความรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นั่งและใช้ไหล่กับหลังถูกไถบนพนักพิงลื่นๆ ที่ทำจากไม้  มันทำให้เค้ารู้สึกเย็นและผ่อนคลาย

...............และเชคอฟรู้สึกชอบมันมากๆ.............

เก้าอี้ไม้ตัวนี้เป็นของๆ คุณปู่ที่เสียไปแล้วของเค้า เชคอฟติดใจมันตั้งแต่แรกที่ได้ลองนั่ง  และถ้าจำไม่ผิดเด็กหนุ่มคิดว่าที่ บ้านของแมคคอย ก็มีเก้าอี้ไม้แบบนี้อยู่เหมือนกัน.........แต่ดูนั่งสบายและตัวใหญ่กว่าเก้าอี้ไม้ของคุณปู่เค้าหลายเท่านัก

เชคอฟยิ้มขำน้อยๆ ให้กับตัวเองเมื่ออดคิดเล่นๆ ไม่ได้ว่ามันเป็นเพราะความบังเอิญหรือเพราะไม่บังเอิญกันแน่นะ ที่ทั้งเค้าและอีกฝ่ายกลับมีเก้าอี้ไม้หายากเหมือนกันทั้งสองคน (เพราะในปีนี้ถ้าอยากเห็นเก้าอี้ไม้ คุณต้องไปดูที่พิพิธพันธ์ของเก่าโบราณของลอนดอน)

เด็กหนุ่มยิ่งยกมุมปากทั้งสองกว้างขึ้นและถูไถแผ่นหลังเข้ากับพนักผิง เมื่อความคิดเล่นๆ ของเค้าเริ่มเตลิดไปไกล...........แล้วถ้าไม่ใช่เพราะความบังเอิญล่ะ?............เชคอฟอมยิ้มจนแทบจะฉีกยิ้มออกมาให้ได้อยู่แล้วในตอนนี้

จะเป็นไปได้ไหมนะ? ถ้าเค้าจีโอกาสได้ลองนั่งเก้าอี้ตัวนั้นของแมคคอย เก้าอี้ที่แมคคอยเคยได้นั่ง  แค่เก้าอี้เคลือบแล็กเกอร์ที่เค้านั่งเอนเอียงอยู่ตอนนี้ก็ทำให้เค้ารู้สึกดีแล้ว แล้วถ้าเป็นเก้าอี้ตัวนั้นล่ะมันจะดีขนาดไหน

อยากลองนั่งดูสักครั้งบ้างจัง  นั่งอ่านหนังสือที่ทำมาจากแผ่นกระดาษจริงๆ มันคงจะดีไม่น้อยเลย...........

แต่แล้วเสียงเปิดประตูห้องนอนของเค้าก็ดังขึ้น พร้อมกับคนที่ทำเอาใจเค้าตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“อะ อ่า! คุณซูลู อะ เออ....” เด็กหนุ่มเด้งตัวขึ้นมานั่งตัวตรงบนเก้าอี้ตัวโปรด ทำหน้ายิ้มเจื้อนๆ ให้แขก ก่อนที่คำพูดท้ายประโยคจะถูกกลืนหายไปราวกับถูกน้ำกรดกัดกร่อน  คนที่เพิ่งเข้ามาปิดประตูหันหน้ามาประจันกับเค้าแล้วกอดอก ก่อนจะเอียงศีรษะแล้วทำหน้าเหมือนจะบอกว่าเชคอฟลืมอะไรไปรึเปล่า

“......เออ พี่ซูลู” ซูลูยิ้มอย่างพอใจเมื่อเชคอฟพูดคำที่ใช้เรียกเค้าบ่อยๆ ออกมาได้เสียที

หมู่นี้ชอบทำเป็นลืม

ร่างสูงลูกครึ่งญี่ปุ่นลดมือลงแล้วเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มของเค้าที่นั่งตัวตรงแหน่วอยู่บนเก้าอี้แปลกๆ (ใช่ ซูลูเรียกมันแบบนั้นแหละ) ซูลูยิ้ม “เฮ้” เค้าเอ่ย ดูเหมือนพี่ชายที่กำลังจะส่งน้องชายเข้านอน

“เฮ้” เชคอฟเอ่ยตอบกลับไป ด้วยน้ำเสียงที่เล็กๆ น่ารักตามแบบฉบับเด็กรัสเซีย  ซูลูเม้มปากก่อนจะยักไหล่เล็กน้อย แล้วพูดว่า “พี่คงต้องกลับแล้วล่ะ พี่เพิ่งคุยเรื่องท่องอวกาศครั้งล่าสุดกับโอตเตส*ไปน่ะ และดูเหมือนว่าชิชิ* ของพี่ก็คงจะอยากคุยเรื่องงานกับพี่ในคืนนี้เหมือนกันน่ะ เพราะเมื่อวานไม่ได้แวะไปหาท่านเลย” ซูลูไหวไหล่  แต่เชคอฟลู่ไหล่ลงและรู้สึกตัวเล็กลงทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเค้าเองที่เป็นสาเหตุทำให้ซูลูไม่ได้กลับบ้าน

[โอตเตส* แปลว่าพ่อในภาษารัสเซียค่ะ   ส่วน ชิชิ* ก็แปลว่าพ่อของตัวเองในภาษาญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ^^ : Ray - Aund]

“ขอโทษฮะ” เด็กหนุ่มอ้อมแอ้มตอบไปแล้วทำหน้าบูดทันที  เป็นเหตุให้อีกคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ใกล้ตัวเค้าระบายยิ้มออกมาแล้วใช้แขนโอบไหล่เล็กๆ ของเชคอฟไว้

“เลิกคิดถึงมันสักทีเถอะน่า พี่บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร.....ท่องในอวกาศเป็นเดือนยังเคยทำมาแล้ว กะอีแค่ไม่ได้กลับบ้านคืนเดียวมันไม่เป็นอะไรหรอกน่า”

“แล้ว.....พรุ่งนี้จะมาไหมฮะ?” เชคอฟเงยหน้าขึ้นมาถาม

ครุ่นคิดพลางครางในลำคอ “อืมม ไม่รู้สิ น่าจะได้มานะ”

โอ งั้นเหรอฮะ” เชคอฟตอบรับกลับไป  อันที่จริงที่ถามออกไปก็เพราะว่ามันถูกพูดขึ้นบ่อยๆ ซะจนเค้าชินปากต้องพูดเวลาแก้เก้อไปแล้วต่างหาก

“งั้นฝันดีฮะพี่ซูลู” เชคอฟลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปส่งซูลูข้างล่างแล้วค่อยบอกลาอีกรอบ  แต่แล้วเค้าก็ถูกจับเข้าที่ไหล่ด้วยมือใหญ่ทั้งสองข้าง ก่อนจะถูกจูบเข้าที่แก้มเนียนใส

“ฝันดีนะเชคอฟ....” ทันทีที่ริมฝีปากผละออกจากแก้มของเชคอฟ ซูลูก็ยิ้มให้ทีหนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกไปเองอย่างรวดเร็วโดยไม่รอเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย  ข้อนี้เชคอฟเข้าใจเพราะเป็นสัญญาณเพื่อบอกว่า “ไม่ต้องไปส่งเพราะรีบมาก เดี๋ยวจะเสียเวลาทางนี้เอา...เข้านอนเถอะเชคอฟ” อะไรประมาณนี้  แต่ที่เชคอฟรู้สึกไม่เข้าใจเลยก็คือ

จูบลาเมื่อกี้นี้มันต่างจากตอนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง ซึ่งโดยปรกติแล้วซูลูจะจูบเพียงแค่ผิวเผิน และเบาบางเสียจนรู้สึกได้ว่าริมฝีปากของซูลูเรียวบางและอบอุ่น  แต่ทว่าเมื่อกี้ มันเป็นอะไรที่กดย้ำลงไปจนเด็กหนุ่มรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นของริมฝีปาก  ความชื่น  และความร้อนแรงที่เอาแต่ใจ.......หรือเค้าคิดไปเองนะ? แต่ว่าอีกฝ่ายจูบลงมาแรงมากๆ เสียจนเค้าเองก็ประหลาดใจ

“บางทีพี่ซูลูอาจจะรีบก็ได้มั้ง” เชคอฟพูดกับตัวเอง ก่อนจะบุ้ยปากขึ้นแล้วหันไปปีนขึ้นเตียงนอนของตัวเอง  ร่างเล็กตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวแล้วขยับดุกดิก ซุกหัวลงกับหมอนนุ่มฟูฟองที่ทำให้เค้ารู้สึกดีจนยิ้มออกมาเพราะการนอนบนเตียงที่เค้าแสนจะชื่นชอบ  จนกระทั่งสั่งปิดไฟทั้งหมด ห้องของเด็กหนุ่มก็มืดลง  มีเพียงแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้านอกหน้าต่างบานใหญ่เท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างอยู่เป็นเพื่อนเชคอฟ

****************************************************************************

ถึงแม้จะพรวดพราดออกประตูมาแล้ว แต่ร่างสูงก็ยังไม่ได้ไปไหน  ซูลูยังคงสงบนิ่งและยืนพิงประตูห้องของเชคอฟอยู่ ใบหน้าของเค้าเรียบเฉย  จนกระทั่งเมื่อเค้าได้ยินเสียงสั่งปิดไฟของเชคอฟแล้วใบหน้าของเค้าก็บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดหัวใจทันที  คิ้วเข้มขมวดแน่นในขณะที่เบนสายตาไปมองประตูด้านหลังราวกับว่าจะสามารถเห็นเด็กที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องนั้นได้

ซูลูเงียบเรื่องนี้มานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องบอกเสียที........

ก่อนที่เชคอฟจะคิดถึงคนอื่น

 แล้วทุกอย่างมันก็จะสายเกินไป......

มีแค่พี่คนเดียวก็พอเชคอฟ อย่าคิดถึงคนอื่นอีกเลยนะ.........


**********************************************************************


หลังดับไฟได้ไม่นาน เด็กหนุ่มก็รู้สึกง่วงขึ้นมาเร็วเป็นพิเศษหลังจากที่นอนมองดวงดาวระยิยระยับบนท้องฟ้าได้ไม่นานนัก  เชคอฟกระชับผ้าห่มเข้าไปในอ้อมกอดแล้วขยับตัวอีกเล็กน้อย จนรู้สึกเคล็ดที่สะโพกนิดหน่อยแต่เด็กหนุ่มก็ไม่สนใจมัน  ก่อนที่จะกระซิบแผ่วเบากับดวงดาวแล้วหลับตาพริ้มลงสู่ห้วงนิทรา

ในใจของเด็กหนุ่มอยากเหลือเกิน ที่จะให้คนๆ นั้นได้รับฟังและรู้ว่าเค้าบอกราตรีสวัสดิ์คนๆ นั้นแทบทุกคืน

“ราตรีสวัสดิ์ครับ หมอแมคคอย.....”


.


.


.


.


TBC.


-----------------------------------------------------------------------------------------------

ถึงจะแต่งของคู่อื่นๆ แต่ตอนนี้ไรท์ต้องขอสารภาพเลยค่ะว่า รู้สึกบ้าRonalSi [Ronaldo x Messi] ยังไงบอกไม่ถูกแฮะ -_-^ แบบว่าฟินระเบิดระเบ้อค่ะ  วางแผนจะเข......อุ๊บบบ!! ไม่เอานะ Ray – Aundddddddd อย่าพวดดดดดด //// เอากำปั้นยัดปาก ////

อา ช่วงนี้ไรท์คงต้องขอออกตัวก่อนเลยค่ะว่า คงจะหายหน้าหายตาไปสอบสักพักนะคะ  สอบนัดนี้มีชีวิตไรท์เป็นเดิมพัน!! เอาใจช่วยกันด้วยนะค่ะ

ป.ล. เหนือสิ่งอื่นใด เค้าอยากได้คอมเม้นท์อ่ะ

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray – Aund


2 ความคิดเห็น:

leely กล่าวว่า...

อย่าน๊า!!! พรีสๆๆเหอะแต่งคู่นี้ก่อนนนน..เริ่มสงสารซูลู แต่ก็เชียร์หมออยู่ดี5556

The Elder กล่าวว่า...

ง่าสงสารซูลู แต่เชียร์หมอ(เอ๊า) ไรท์เตอร์สนใจหาคู่ให้ซูลูมั๊ย