วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[SF – World Cup] + [Part 3…END] Germanyที่รัก...วุ่นรักหนุ่มเยอรมัน – Neuer x Schweiny x Muller


ชูป้ายเยอรมัน// อร๊ายยยย เหล่าลูกเสือจงเจริญ—  ก็เดินทางมาถึงตอนจบแล้วนะค่ะกับเรื่องนี้  Part นี้ไรทืแนะนำให้อ่านมากๆๆๆๆ ยิ่งกว่า Part 1 เลยค่ะ......เพราะว่าฮากว่า 55555

ตอนท้ายๆ หลังจากที่เฮียมานูเอลแกฉุดบาสเตียนของเราแล้ว 5555...อุ ไรท์สปอยล์สิเนี่ย อื้มมมม ไปอ่านกันดีกว่าค่ะ ได้อารมณ์กว่าเยอะ หึๆ //ยิ้มหื่น//


----------------------------------------------------------------------------------------


“อะ อ้าาๆๆ ....บาสเตียน....ฮ้า”

“อื้อ...ฮา...โท..อึ..โทมัส....อ่าา”

“อะ อ่า...นาย อึก รัดแน่นชะมัดเลย...โอ้ อ้าา”

“อึก อือ อ่าๆๆๆ” บาสเตียนเกาะมึลเลอร์แน่และยกสะโพกขึ้น........

เฮือกก….!

“อ๊ะ อื้อ!” ดวงตาเบิกกว้างขึ้น  และอกบางก็กระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงบ่งบอกได้เลยว่าเค้าเพิ่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝัน

...............หรือจะว่าไปแล้ว ฝันของเค้ามันเก็บเอาความทรงจำเข้ามาฉายซ้ำใหม่ในหัวเค้าน่ะสิไม่ว่า.............

ทว่าไม่ใช่ความทรงจำที่เลวร้าย แต่มันเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับเค้า.............

อีกคนหนึ่งถะนุทนอมและอ่อนโยนกับเค้ามากเลยทีเดียว  บาสเตียนขยับตัวพยายามลุกขึ้นแต่ทว่าความเจ็บที่แล่นริ้วมาเล่นงานเค้าจนต้องค้างอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่แบบนั้น  บาสเตียนทำหน้าเหยเกและอุทานออกมาเบาๆ ว่า “เจ็บ” (ถึงแม้มึลเลอร์จะยั้งมือแล้วก็ตามเถอะ)  เค้าหันไปเห็นคนที่กำลังกล่าวถึงนอนหลับสนิทอยู่ข้างตัวเค้า  บาสเตียนตาโต

..........ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องเมื่อคืนจะเป็นความจริง..............

ระ เรานอนกับ....โทมัส   โอ้ แล้วพรุ่งนี้เช้าจะทำหน้ายังไงใส่กันล่ะเนี่ย  นึกไม่ออกเลย.........บาสเตียนคิดในใจ  พลางเริ่มขยับตัวใหม่เมื่อเริ่มชินกับอาการปวดทางด้านหลังแล้ว

พรุ่งนี้เช้าสำหรับมึลเลอร์น่ะไม่ยากหรอก  แต่สำหรับเค้านี้สิไม่รู้จะทำไงดี  ไม่รู้จะพูดยังไง หรือทำหน้ายังไง.........บาสเตียนคนนี้ไม่เก่งในเรื่องแบบนี้เอาหรอกนะ

ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเค้าทำตัวยังไงต่อหน้ามึลเลอร์ลงไปบ้าง..........บาสเตียนยกมือขึ้นทาบหัว

โอ้ แย่แล้ว....ฉันต้องน่าอายมากแน่ๆ เลย  และพรุ่งนี้ถ้าคนอื่นๆ มาปลุกที่ห้องแล้วไม่เจอฉันต้องวุ่นวายกันแน่ๆ เลย  อืมม งั้นกลับก่อนดีกว่า

แล้วเค้าก็พบว่ามันการยากที่จะทำแบบนั้น  เมื่อร่างกายของเค้าเหมือนไม่อยู่ในการควบคุม  อะไรๆ ก็ยากไปหมดเพราะความปวดเมื่อย  แต่ในท้ายที่สุดแล้วบาสเตียนก็แต่งตัวจนเสร็จและกำลังนั่งแปะอยู่ที่ขอบเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน

อาการไข้ลดลงแล้วเพราะยาที่มึลเลอร์บังคับให้เค้ากิน  และพรุ่งนี้เช้าคงต้องขอยาแก้ปวดกินอีก..........บาสเตียนคิดอย่างนั้น  ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้มึลเลอร์ หลังจากที่เจ้าตัวทำการถีบมันออกไปจากตัว

ถึงว่าทำไมหนาวๆ........บาสเตียนคิด ในขณะที่มองดูมึลเลอร์ยกมือขึ้นเกาคางของตัวเองแล้วกรนไปด้วย   [ยอดคน....หยุดกรนแล้วเกาแล้วค่อยกรนใหม่ไม่ได้เหรอ : Ray - Aund]

ไม่อยากจะเชื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้  เค้ากับเพื่อนร่วมทีมของเค้าที่สนิทกันเอามากๆ.......บาสเตียนอมยิ้มแล้วจูบเบาๆ เข้าที่แก้มของคนที่หลับสนิท

“ฝันดีนะโทมัส” เค้าพูด ก่อนจะหันไปเจอนาฬิกาตรงผนังมันบอกเวลาว่านี่เลยเที่ยงมาได้ห้านาทีแล้ว..........หวังว่าดึกขนาดนี้แล้วเพื่อนคนอื่นๆ คงจะกลับห้องนอนกันหมดแล้วนะ  เพราะถ้าไม่เค้าคงจะแย่ทีเดียว  เรื่องโกหกและทำตัวเนียนบาสเตียนไม่ค่อยเก่งเท่าไรนักหรอก.............

ร่างบางโผล่หน้าออกมาจากประตูอย่างระแวดระวัง  พลางมองซ้ายมองขวาและเมื่อไม่เห็นใครเค้าก็ใจชื่นขึ้น  จากนั้นก็เดินเอียงๆ ออกมาจากห้องของมึลเลอร์แล้วปิดกลับเข้าไปเหมือนเดิมอย่างเบามือ

อันที่จริงบาสเตียนไม่ควรทำอย่างนี้ด้วยซ้ำ  เค้าควรจะนอนพักผ่อนให้เต็มทีจนถึงเช้า  แต่ตอนนี้.....ในเวลาเที่ยงคืนแบบนี้ เค้ากลับมาเดินกระโผลกกระเผลกฝ่าลมเย็นของชายทะเลเพื่อไปนอนต่อที่ห้องของตัวเอง  และใช่ มันยากที่จะเดินกลับห้องไปทั้งอย่างนั้น.......ไม่ใช่ง่ายๆ เลย  แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันดี บาสเตียนคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความพยายาม

จนในที่สุดร่างโปร่งบางก็พาตัวเองมาถึงห้องจนได้ โดยที่ไม่มีใครเห็นด้วย

“โอ้ ขอบคุณพระเจ้า” บาสเตียนถอนหายใจอย่างโล่งอกและพึมพำกับตัวเองขณะพิงหลังกับประตูห้อง  เมื่อเค้าเข้ามาเรียบร้อยแล้ว............ภายในห้องที่มืดสลัวของเค้าไม่มีร่องรอยใดเลยของการอยู่อาศัยเพราะบาสเตียนยังไม่ได้เข้ามาห้องเลยหลังจากที่เอากระเป๋าเข้ามาเก็บเมื่อเช้า  ซึ่งนั้นถือเป็นเรื่องดี  บาสเตียนยิ้ม

“เฮ้อ.....นึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว”

............แต่เค้าคิดผิด...........

“โดนจับได้?.....เรื่องอะไรหรือบาสเตียน” พลันเสียงปริศนาก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่บาสเตียนมองไม่เห็น  ร่างบางสะดุ้งเฮือกทันที  หัวใจเค้าหยุดเต้น  และรู้สึกชาไปทั้งตัว  เสียงที่ได้ยินนั้นดังมาจากในห้องของเค้าแน่บาสเตียนฟังไม่ผิดหรอก.........แต่ว่านั้นไม่ดีเอาเสียเลยสำหรับเค้า

โอ้ ไม่นะ!!

มีบางอย่างขยับและเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด  บาสเตียนเกาะลูกบิดประตูแน่น........ผีน่ะเค้าไม่กลัวหรอก เค้ากลัวจะเป็นคนซะมากกว่า............

ร่างบางหอบหายใจและใจเต้นไม่เป็นจังหวะ  จนกระทั่งไฟจากโคมไฟถูกเปิดขึ้น  และแสงสว่างทำให้บาสเตียนเห็นบุคคลนิรนามที่นั่งรอเค้าอยู่บนเตียง

“ไง....นายกลับห้องดึกทีเดียวนะ” เค้าพูด

มะ มานูเอล.....นายมาอยู่นี่ได้ไง  นะ นาย...ป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ...” บาสเตียนหน้าซีดเผือด  เมื่อใบหน้าของคนที่เค้าไม่คาดฝันว่าจะอยู่นี่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ามารอเค้าอยู่นานแล้ว

นอยเออร์ไม่ตอบ เค้ายังคงนิ่งรอคำตอบที่เค้าได้ถามบาสเตียนไปก่อนหน้า  แต่ทว่าการปรากฏตัวของเค้าเขย่าขวัญเจ้าของห้องไปไม่น้อย  ดังนั้นคำถามของเค้าจึงยังไร้คำตอบ

นอยเออร์ใจเย็นมาสี่ชั่วโมงเต็มๆ แล้วจะใจเย็นอีกหน่อยเค้าคิด....ก็คงจะไม่เป็นไรหรอก “นายไปไหนมาบาสเตียน” เค้าถามเสียงเย็น  แต่ความใจเย็นของเค้าไม่ได้ส่งผ่านไปถึงบาสเตียนเลย  อีกคนหนึ่งดูเหมือนจะยิ่งรู้สึกแย่มากกว่า  บาสเตียนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  เค้าไม่รู้ว่าควรบอกความจริงไปดีไหมเพราะนอยเออร์ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งสำหรับเค้า  แต่ถ้าจะให้บาสเตียนเลี่ยง เค้าก็ไม่รู้ว่าจะโกหกออกไปว่าอะไร

“อะ เอ่อ ฉัน.....” แล้วเค้าก็เงียบไปนานจนกระทั่งเป็นนอยเออร์ซะเองที่ทำลายความเงียบ

“นายรู้ไหม ที่จริงฉันไม่ได้ป่วยหรอก.....ก็แค่ไม่อยากลงไปวุ่นวายกับปาร์ตี้ของเจ้าพวกนั้น ก็เท่านั้น” ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงเงียบไป แล้วหันไปมองร่างที่ปักหลักอยู่ตรงประตู อย่างไม่สามารถอ่านความหมายได้

“หระ หระ หระ  เหรอ....ฉันนึกว่านายป่วยจริงๆ ซะอีก” บาสเตียนพยายามยิ้ม  เค้าพยายามแล้วแต่คิดว่ามันคงดูแห้งและฝืนเอามากๆ

“และรู้ไหม ฉันมารอนายอยู่นี่....นานแล้ว” นอยเออร์พูดก่อนจะยืนขึ้นจนเต็มความสูงแล้วเดิมมาหาบาสเตียน  บาสเตียนตกใจรีบถอยหลังออกไปแต่ทว่าหลังของเค้าติดกับประตูเสียแล้ว  และการที่ได้อยู่กับนอยเออร์มานานพอสมควรทำให้บาสเตียนรู้ว่าร่างสูงหกฟุตสี่ตรงหน้านี่เป็นเช่นไรเวลาที่ไม่พอใจ

ใช่ แบบนี้เลยล่ะ....มานูเอลกำลังไม่พอใจ!!.......บาสเตียนกัดริมฝีปากบางๆ ของตัวเองในขณะที่อีกคนกำลังตรงมาหาตน  อาจจะเป็นเพราะต้องมานั่งรอนานๆ แล้วไม่มีคำแก้ตัวดีๆ ให้ก็เป็นได้ร่างสูงเลยรู้สึกเหมือนถูกมองข้าม.............ก็แล้วจะให้บอกได้ยังไงล่ะ ว่าทำไมถึงกลับดึก!!.............

นอยเออร์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของบาสเตียนผู้อกสั่นขวัญแขวน  สายตาซึ่งยากที่จะอ่านออกเพ่งมองสำรวจไปทั่วตัวของคนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้า

“มะ มานูเอล...ฉัน....อ๊ะ! อ๊าา!” บาสเตียนร้องเสียงหลง  เมื่อนอยเออร์ขยุมคอเสื้อของเค้ายกขึ้นแล้วเหวี่ยงร่างของเค้าไปที่เตียงหลังใหญ่

ตุ้บบ!!

“อึก....มะ มานูเอล” บาสเตียนละลำละลักเมื่อตัวของเค้ากระแทกลงกับเตียงนุ่มอย่างแรง  แล้วตามมาด้วยร่างของนอยเออร์ที่ขึ้นคร่อมทับบนตัวเค้า  และด้วยสัญชาติญาณบาสเตียนพยายามผลักไสอกของเพื่อร่างสูงให้ออกไป แต่ทว่าเค้ากลับโดนล็อคมือทั้งสองให้ติดลงกับที่นอนนุ่มแทน

บาสเตียนดิ้น  เค้าไม่สามารถอ่านสถานการณ์ได้ออกเลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น  ตอนนี้เค้ารู้แต่เพียงว่าต้องไม่ให้นอยเออร์อยู่ใกล้เค้ามากนักเพราะเพื่อนร่างสูงอาจสังเกตเห็นร่องรอยที่มึลเลอร์ฝากไว้กับเค้าได้

“มานูเอล” บาสเตียนไม่สามารถบังคับเสียงของตัวเองให้ปรกติได้อีกต่อไปแล้ว  ตอนนี้เค้ารู้สึกได้เลยว่าเสียงเค้าสั่นเครือและเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด  คำขอร้องที่กำลังเอื้อนเอ่ยให้นอยเออร์ออกไปจากตัวเค้าก็ถูกชิงตัดบทก่อนด้วยถอยคำอันเยือกเย็นของนอยเออร์เอง

“ฉันจะไม่ถามนายอีกแล้วบาสเตียน” ร่างที่กำลังพยายามหลุดให้ออกจากอ้อมแขนหยุดชะงักลง แล้วจ้องหน้าคนพูดเช่นเดียวกับที่เจ้าตัวก็ถูกจ้องกลับมาเหมือนกัน......แต่กลับเป็นสายตาที่แข็งกราวและวาวโรจน์.......และในประโยคถัดมาของนอยเออร์ก็ทำให้บาสเตียนต้องสบตาค้างด้วยความไม่เข้าใจ

“นายเป็นของฉันนะบาสเตียน......เป็นมาโดยตลอด” ร่างสูงมีแววเจ็บปวดในดวงตา ในขณะที่มองร่างด้านใต้ไปด้วย  นอยเออร์ส่านหน้าอย่างเหม่อลอย “....นายทำได้ยังไง”

ยังไม่ทันขาดคำ  ร่างสูงก็ก้มลงมาดูดเม้มซอกคอขาวเนียนใต้แสงจากโคมไฟของบาสเตียน  ร่างด้านใต้ออกแรงดิ้นมากขึ้นอย่างตกใจแต่กลับเทียบไม่ได้เลยกับแรงที่กดข้อมือทั้งสองเค้าไว้กับที่นอน

“อยะ...อย่านะมานูเอล อย่าทำแบบนี้ อะ อา...อืออ ” บาสเตียนร้องขอ  แต่ก็ต้องเริดหน้าขึ้นเมื่อลิ้นร้อนของนอยเออร์ไล่วนขึ้นมาสูงเรื่อยๆ ไปตามแนวเส้นเอ็นของบาสเตียน ร่างบางดิ้นขลุกขลักไปมาอย่างงุนงงและหวาดกลัวด้วยความที่ว่าไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้ทำแบบนี้มาก่อนและนี่ก็เปรียบเสมือนว่าเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง......บาสเตียนจำได้ดี ว่ามันเป็นยังไง..... “อย่าทำแบบนี้ได้โปรด....”

อย่าทำแบบนี้ ยังงั้นเหรอ.....” นอยเออร์ชูหัวขึ้นมาพูดเสียงแข็ง ก่อนจะเลื่อนมือมาฉีกเสื้อกล้ามของร่างโปร่งบางออกอย่างไม่ใยดี

“แล้วนี่ล่ะ.....มันหมายความว่าไง!” บาสเตียนตกตะลึงกับการกระทำที่อุกอาจของนอยเออร์...........แต่สิ่งที่ทำให้เค้าหวาดกลัวมากที่สุดก็คือเรือนร่างของเค้าเอง  ทั่วทั้งลำตัวของบาสเตียนเต็มไปด้วยรอยดูดเม้มสีกุหลาบที่มึลเลอร์ทำไว้กับเค้า

“เดี๋ยวก่อน ฟังฉันก่อนนะ....”

“ฉันไม่ฟังแล้ว!” 

“อย่า...อ๊ะ!” บาสเตียนสะดุ้งสุดตัวเมื่อนอยเออร์ใช้ฟันกัดลงไปร่องรอยสีกุหลาบที่มึลเลอร์ฝากเอาไว้  แล้วมันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อร่างสูงไล่ไปซ้ำรอยทุกรอยที่เค้าเห็น และไม่ว่าบาสเตียนจะร่ำร้องเพียงใดก็ตาม มันก็ไม่สามารถเข้าไปถึงโสตประสาทของร่างสูงผู้หื่นกระหายได้เลย

..................ใช่  บาสเตียนเป็นของเค้ามาโดยตลอด และไม่ว่าจะยังไงคนที่มองบาสเตียนมาโดยตลอดอย่างเค้าจะไม่ยอมเสียร่างบางตรงหน้านี้ให้คนอื่นไปเป็นอันขาด  เพราะเป็นเค้าเองที่เฝ้ามองพฤติกรรมและความเป็นไปของคนๆ นี้มาเนินนานแล้ว  และหลายครั้งที่นอยเออร์บอกตัวเองว่าให้เลิกมองบาสเตียนซะ แต่เค้าก็ทำไม่ได้กลับรู้สึกดีซะอีกที่ได้เห็นรอยยิ้มและความน่ารักของบาสเตียน  มันทำให้เค้ารู้สึกว่าชีวิตประจำวันของเค้าไม่ได้น่าเบื่ออีกต่อไป............

แต่วันนี้เค้ากลับหัวเสียอย่างห้ามไม่ได้เมื่อรู้ว่าบาสเตียนกลายเป็นของใครคนอื่นไปแล้ว

........มันน่าโมโหชะมัด.........

“อื้ออ!...อย่า มานูเอล ไม่...ฮึก”

“ใคร?.....มันเป็นใครที่ทำกับนายแบบนี้” นอยเออร์พูดขึ้นเสียงเข้ม แต่บาสเตียนกลับส่ายหน้าแล้วเม้มปากแน่น ร่างบางตัดสินใจจะไม่พูดออกไปเพราะเพียงแค่เห็นร่องรอยนอยเออร์ก็ทำถึงขนาดนี้แล้ว  แต่อาการปากแข็งบวกกับหยดน้ำตาที่ร่วงลงข้างหางตาก็ไม่สามารถทำให้นอยเออร์หยุดคาดคั้นได้

“อย่าให้ฉันต้องกัดนายอีกทีนะ” เค้ากระซิบเยือกเย็น มองดูปฏิกิริยาของบาสเตียน และร่างบางก็ยังคงปิดปากเงียบ  นอยเออร์จึงกระชากเสื้อที่หลุดลุ่ยของบาสเตียนออกมาแล้วใช้มัดมือทั้งสองข้างของร่างบางไพ่หลังเอาไว้

“ฉันคิดว่านายควรจะบอกฉันนะ” ว่าแล้วมือใหญ่ก็ล้วงลงไปใต้ร่มผ้าของกางเกงกีฬาตัวเก่งสีเข้มของบาสเตียน แล้วบีบมันเบาๆ

“อ๊ะ...อ๊า!” บาสเตียนร้อง

“ฉันจะทำมากกว่านี้นะ ถ้านายไม่บอก” นอยเออร์ถอดกางเกงของบาสเตียนออกแล้วยกขาทั้งสองข้างของร่างบางขึ้น  เค้าบีบสะโพกนิ่มมือแล้วแยกมันออก

“ฮึก อย่า! มานูเอลอย่า....อึก โทมัส.....โทมัสเป็นคนทำ” บาสเตียนหลับตาปี๋ในขณะที่พูดออกไป เค้าไม่รู้ว่ายอมพูดออกไปแล้ว นอยเออร์จะยอมหยุดไหม  แต่พอเค้าลืมตาขึ้นมาก็พบว่านอยเออร์นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองอย่างใช้ความคิด  และในที่สุดร่างสูงที่อยู่เหนือตัวของเค้าก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยียบ “โอ่ว....งั้นฉันก็ไม่ใช่คนแรกของนายสินะ”

นอยเออร์พูดเพียงแค่นั้น แล้วก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่บาสเตียนต้องตกตะลึงที่สุดนั้นคือการล่วงนิ้วเข้าไปในช่องบวมช้ำของร่างบางแล้วดันลึกเข้าไปอีกจนสุดโคนนิ้ว...........ตัดสินใจหรือ ไม่หรอก นอยเออร์ไม่แม้แต่จะตัดสินใจด้วยซ้ำ เค้าส่งนิ้วเข้าไปเลยต่างหากทันทีที่พูดจบเค้าก็อยากรู้ว่ามึลเลอร์ทำอะไรกับบาสเตียนบ้าง...........

อ่อ  ดูเหมือนว่าฉันคงไม่ต้องทำอะไรมากสินะ....เจ้านั่นเตรียมไว้ให้แล้วหนิ” เค้าพูดในขณะที่เพิ่มนิ้วเข้าไปตามลำดับ และทุกครั้งที่นิ้วยาวเข้าไปก็ล้วนแต่สุดความยาวทั้งนั้น.........

“อะ อาา.....อย่า อึก พอเถอะ ได้โปรด...ฉัน ฉันเจ็บ ฮะ...” บาสเตียนตัวสั่นเทิ่มในขณะที่พร่ำขอร้องอย่างเปล่าประโยชน์  เค้ารู้สึกแย่พออยู่แล้วหลังจากที่มึลเลอร์ได้เข้ามาในตัวเค้า  และตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งโดยอีกคนหนึ่งที่แตกต่างออกไป......ใช่ มึลเลอร์น่ะแสนอ่อนโยนกับเค้าเอามากๆ แต่สิ่งที่นอยเออร์กำลังทำกับเค้าอยู่ตอนนี้ก็เหมือนกัน  แต่ทว่าไร้ซึ่งความอ่อนโยนและแผ่วเบาโดยสิ้นเชิง มีเพียงแต่ความรุนแรงและความเร่าร้อนของนอยเออร์ที่กำลังแผดเผาเค้า.............

เฮ้ นายกำลังจะบอกฉันว่านายให้ไฟเขียวมัน แล้วจะแจกใบแดงฉันงั้นเหรอ.....โธ่ ไม่เอาน่า บาสตี้” นอยเออร์ไหวไหล่ ในขณะที่เค้าพบว่ามีของเหลวไหลย้อนออกมาจากช่องทางของบาสเตียน......หึ นี่คงจะเป็นของมึลเลอร์.......เค้าล้วงเอาของเหลวนั้นออกมาจนหมด แล้วล้วงเอาแก่นกายของตัวเองออกมาจากกางเกงถูไถไปมาบริเวณช่องทางที่บวมช้ำของบาสเตียน

“มะ มานูเอล..” บาสเตียนน้ำตาไหล เค้าหายใจหอบถี่ อกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด  และเค้าก็ต้องร้องลั่นเมื่อนอยเออร์จับขาเค้าพาดบ่าแล้วสวนแก่นกายเข้ามา

“อะ อ๊าา! ฮะ ฮึก!” บาสเตียนแอ่นตัวขึ้นจนสุด จนใบหน้าของเค้าเงยขึ้นไปด้านหลัง  ปากบางอ้าออกทั้งส่งเสียงร้องและกอบโกยอากาศหายใจ  และทุกครั้งที่ร่างสูงดันกายที่เหลือเข้ามาเค้าก็กระตุกทุกครั้งอย่างเจ็บปวดและไม่อาจห้ามมันได้เลย  บาสเตียนไม่รู้ว่าร่างกายของเค้ามันยั่วยวนแค่ไหนพอๆ กับที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้ออกมามากแค่ไหนเมื่อการชำแรกกายอันใหญ่โตของนอยเออร์ดำเนินมาจนเสร็จ

“อา...”

“อึก ฮึก...อืออ” บาสเตียนสะอื้นฮั่ก  ความตึงแน่นจากการมัดของนอยเออร์ทำให้เค้าเจ็บอีกที่หนึ่ง  แต่แล้วเค้าก็ต้องกัดฟันแล้วเผลอหลุดปากร้องออกมาอีกรอบเมื่อร่างสูงด้านบนจับตัวเค้าพลิกกลับมาเป็นนอนคว่ำกับเตียง

“อะ อ๊าา!

มือใหญ่เอื้อมมากระชากหัวของของบาสเตียนให้สะบัดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มขยับกาย

“อาาา”

“อื้ม ฮึก...อา..อ่า..” บาสเตียนสะอื้นฮั่กอีกครั้ง เมื่อสะโพกที่ถูกยกสูงขึ้นมาของเค้าถูกกระแทกกลับมาอย่างไม่ยอมเบาแรง  ทั้งร่างสูงยังโน้มตัวลงมาขบเม้มทั้งใบหูและลาดไหล่ลามไปถึงแผ่นหลังของเค้าอีกต่างหาก

“เบา...ฮึก อ๊า เบาๆ หน่อย....มานูเอล อ๊าา ช้าหน่อย....” บาสเตียนพูด

“ไม่ อ่าา....ฉันต้องการนายเดี๋ยวนี้ อ่า....นายรู้ไหมบาสเตียน อา...ฉันควรที่จะได้เป็นคนแรกของนาย....ไม่ใช่หมอนั่น” นอยเออร์แก้มัดให้บาสเตียนแล้วดึงตัวของอีกคนให้เข้ามาชิดเค้ามากขึ้น

บาสเตียนผู้ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อเป็นอิสระก็ได้เพียงแค่ใช้แขนยันตัวเองไว้ไม่ให้ถลาล้มลงไปข้างหน้ากับฟูกเตียง  ตัวของเค้าโยกไปตามจังหวะที่นอยเออร์ส่งมาทางด้านหลังและร่างกายของเค้าก็เริ่มชินกับการกระแทก  ดังนั้นจึงมีเพียงเสียงครางที่เกิดจากความเสียวซ่านเท่านั้นที่หลุดลอยออกมาจากปากของบาสเตียน.........

ร่างสูงเริ่มเปลี่ยนจังหวะ เค้าจึงโน้มตัวลงมากอดร่างของบาสเตียนไว้และกำรูดส่วนนั้นของบาสเตียนไปด้วย  เสียงครางหอบถี่ของเค้าทั้งสองดังขึ้นปนผสานกันจนไม่สามารถแยกออกได้ว่าของใครเป็นของใคร  แต่ที่แน่ๆ มันสร้างอารมณ์ให้ทั้งคู่ได้อย่างประหลาดเลยทีเดียว

“อ๊ะ อ๊ะ มานูเอล อ๊ะ...อ่าๆๆ อือ อ้า..”

“ฉันรักนายบาสเตียน อ้า...อาๆๆๆ......รักมาโดยตลอด อึก นาย อ่า....จะเป็นของใครไปไม่ได้” นอยเออร์พูดข้างหูร่างบางเสียงแหบพร่า  แล้วการเสียดสีของร่างกายก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฝ่ามือของนอยเออร์เต็มไปด้วยน้ำรักที่บาสเตียนปลดปล่อยออกมาเมื่อต้านทานความเสียวซ่านนั้นไม่ไหว  เจ้าตัวก็ถึงกับล้มฟุบลงกับที่นอนทันทีที่ปลดปล่อยเสร็จ  แต่ทว่ากลับไม่ใช่กับนอยเออร์

ร่างสูงเปลี่ยนมาเป็นยัดตัวขึ้นสูง แล้วยึดเอวของบาสเตียนไว้ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจังหวะแบบถี่รัว  และไม่นานนักที่เค้าต้องไล่ตามความต้องการของตัวเอง  ร่างสูงก็ยืดตัวขึ้นสูงแล้วฉีดน้ำรักเข้าไปในตัวของอีกคนจนหมดสิ้นทุกความต้องการของเค้า

นอยเออร์หอบหายใจราวกับว่าเพิ่งวิ่งมานับกิโลเมตร  แล้วก้มลงจูบขมับของคนร่างโปร่งบางก่อนจะลูบไปที่กลุ่มผมสีบล์อนนุ่มมืออย่างแสนรักใคร่  และต่อจากนั้นบาสเตียนก็จำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเค้าหมดสติลงหลังจากที่นอยเออร์บอกว่า รักเค้าอีกรอบ

แล้วสติของเค้าก็ดับวูบไป...............


****************************************************************


และเช้าวันต่อมา  คุณคงลุ้นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น

เราบอกเลยก็ได้ว่าบาสเตียนน้อย(?)ยังคงไม่ได้สติจนกระทั่ง เพื่อนๆ คนอื่นในทีมของเค้า(ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย)ร่วมหัวกันจะมาลักพาตัวเค้าจากห้องไปโยนลงน้ำทะเลอีกรอบก่อนอาหารเช้า  แต่กลับเจอเข้ากับนอยเออร์ยืนบังประตูเป็นผู้รักษาประตูอยู่ซะอย่างนั้น  แถมร่างสูงยังบอกอีกด้วยว่า

“พวกนายเลิกเล่นอะไรปัญญานิ่มแล้วไปหามื้อเช้ามาเตรียมไว้ซะเดี๋ยวนี้เลย......เลิกเล่นไร้สาระก่อนอาหารเช้าสักที  หมอนั่นเพลียมากจากเมื่อวานจนลุกไม่ขึ้นแล้ว พวกนายก็น่าจะสำนึกซะบ้าง.......ใช่ นั่นแหละ อ่อ ฉันหมายถึงเลิกแกล้งหมอนั่นก่อนอาบน้ำด้วยนะ ไม่ใช่แค่ตอนก่อนและหลังอาหารเฉยๆ  ฉันมองพวกนายอยู่”

เค้าพูดเสียงเย็น พาให้ขบวนก๊วนเพื่อนนักบอลต้องรีบถอยกรูไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว  แม้ว่าจะสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมนอยเออร์ถึงมาอยู่หน้าห้องของบาสเตียนในเวลาเช้าขนาดนี้ แต่พวกเค้าก็ไม่ได้ติดใจคิดถามอะไรออกไปเพราะท่าทางที่น่าเกรงขามของนอยเออร์ทำให้พวกเค้าต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกไปกันเป็นแถบๆ แล้วรีบถอยร่นออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ไล่เหล่าลูกเสือไปหามื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว  นอยเออร์ก็เห็นว่าอีกนานกว่าบาสเตียนจะตื่น เค้าจึงหาผ้าสะอาดกับน้ำอุ่นๆ มาเช็ดตัวให้อีกคน  แล้วก็ต้องจิปากใส่ตัวเองเมื่อใส่เสื้อผ้าให้อีกฝ่ายเสร็จ...........รอยกัดเมื่อคืนที่เค้าทำไว้ คงทำให้ทั้งทริปนี้บาสเตียนจะต้องใส่เสื้อแขนยาวลงทะเลไปเลยล่ะ  แต่ถึงกระนั้นกล่องปฐมพยาบาลกล่องเล็กแต่ทว่าครบครันก็ช่วยเค้าไว้ได้มากทีเดียว

และพอบาสเตียนตื่นขึ้นมา นอยเออร์ก็เตรียมพร้อมเต็มทีที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลง  เค้าไม่รู้ว่าจะโดนปาหมอนใส่ หรือโวยวายใส่กันแน่  แต่บาสเตียนก็ทำให้เค้าแปลกใจเมื่อเจ้าตัวตื่นขึ้นมาทำตาสั่นใส่เค้าแล้วร้องไห้........บอกว่า “เจ็บชะมัดเลย” แล้วก็เล่าว่าเมื่อคืนนี้เจ้าตัวไปอยู่ที่ห้องของมึลเลอร์ได้ยังไงในอ้อมกอดของนอยเออร์ที่ค่อนข้างงงกับปฏิกิริยาของบาสเตียน

และการร้องห่มร้องไห้ของบาสเตียนก็ถูกหยุดด้วยรสจูบของนอยเออร์  แต่แล้วเรื่องราวกลับยุ่งเหยิงขึ้น  เมื่ออยู่ๆ มึลเลอร์ก็เปิดประตูผ่าง! เข้ามาเห็นฉากจูบอันร้อนแรงของนอยเออร์กับบาสเตียน

มึลเลอร์อ้าปากค้างแล้วปรี่เข้าไปกระชากนอยเออร์ออกจากบาสเตียน ท่ามกลางความตกใจของร่างโปร่งบางที่นั่งแปะอยู่บนเตียง  มึลเลอร์พุ่งตรงมาที่ห้องของบาสเตียนด้วยความไวแสงเมื่อตื่นมาแล้วไม่เห็นเพื่อนผมบล์อน แต่พอมาถึงก็ถึงกับทำให้เค้าต้องรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นไอ้ขี้เต๊ะกำลังจูบกับบาสเตียนของเค้าอยู่

พอมึลเลอร์กับนอยเออร์กำลังจะเปิดฉากต่อยกันในห้อง  บาสเตียนก็ร้องไห้ออกมาอีกรอบ แล้วเล่าให้มึลเลอร์ฟังว่าเมื่อคืนทำไมเจ้าตัวถึงได้เดินกลับห้องมาคนเดียวแล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น นั่นเป็นเพราะบาสเตียนไม่อยากปิดบังอะไรเพื่อนสองคนนี้อีกแล้ว (กลัวเจอคาดคั้นแบบนอยเออร์อีก)

บาสเตียนเล่าทุกอย่างจนหมดเปลือก  แล้วสองคนนนั้นก็ต่อยกันอย่างดุเดือด  ไม่ว่าจะเป็นนอยเออร์หรือมึลเลอร์ก็จัดเต็มกันทั้งคู่ นอยเออร์งัดเทควันโด้ออกมาใช้ ในขณะเดียวกันมึลเลอร์ก็ไม่น้อยหน้างัดมวยไทยเข้ามาอวด  จึงเกิดศึกไทยไฟน์ผสมเทควนโด้รอบชิงแชมป์ขึ้นในห้องอันแสนครึกครืน(?)ของบาสเตียน

เจ้าของห้องก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเพราะตัวเค้าเองก็ไม่เป็นมวยอะไรเลยจะเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคนก็ยังไงอยู่  รึจะให้เข้าไปห้ามก็คงจะทำไม่ได้เพราะแค่ลุกจากเตียงเค้าก็คงจะล้มหน้าคะมำแล้ว  และแค่ขยับตัวบาสเตียนก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บที่เค้ารู้สึกไปทั้งตัว  และเสียงร้องของเค้าก็ทำให้เพื่อนทั้งสองที่อัดกันอยู่ตรงมุมห้องอย่างเมามันส์หยุดชะงักแล้วหันควับมาหาเค้าทันที

“บาสเตียน........แก!! พูดตามฉันทำไม!!” นอยเออร์กับมึลเลอร์ พร้อมใจกันชี้หน้าแล้วทำตาเขียวใส่กัน  มีแววเหมือนจะขยับเวทีมวยมาต่อยกันตรงนี้แต่ทว่า..........

“โอ๊ยยยย...ย...มานูเอลล  โทมาสส โอ๊ยยย” บาสเตียนส่งเสียงร้อง  เป็นเหตุให้ทั้งสองหยุดในทันที  และเมื่อเห็นเช่นนั้นบาสเตียนจึงส่งเสียงร้องดังขึ้นอีก  จนทั้งนอยเออร์และมึลเลอร์แย่งกันเข้ามาดูแล้วนั่นแหละบาสเตียนจึงจะหยุดร้อง

“อย่าตีกันนะ....ฉันไม่อยากให้พวกนายทะเลาะกัน” เค้าพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ทั้งคู่ จนอีกสองคนต้องยอมสงบศึกกันอย่างเสียไม่ได้  พอพวกเค้าลงไปทานมื้อเช้าพร้อมกับคนอื่นๆ ในทีม  ฟิลิปป์   ลาห์มก็โพล่งขึ้น

“โอ้โห.....นั่นพวกนายสองคนไปทำอะไรมาน่ะ ตาเขียวกันคนละข้างเชียว”

“ชนลูกบิดประตู......” มึลเลอร์และนอยเออร์ชะงักค้างแล้วหันไปมองหน้ากันเมื่อเค้าสองคนพูดพร้อมกันอีกแล้ว

“อืม...งั้นเหรอ ชนลูกบิดเหมือนกันเลยเหรอ?” ลาห์มยังคงเดินหน้าสงสัยถามต่อไป  ในขณะที่บาสเตียนที่ค่อยๆ นั่งลงอย่างเนียนๆ ใส่เสื้อแขนยาวเหงื่อแตกพลั่ก  มิวายลาห์มขี้สงสัยก็ดันหันมาเจอเสียนี่

“อ้าว แล้วบาสเตียน  นายใส่เสื้อแบบนี้ทำไมอ่ะ....ไม่ร้อนเหรอ?”

“อะ เอ่อ...คือ.....”

“เฮ้ย....พอแล้วน่าเตี้ย  นายจะถามอะไรนักหนา ฉันหิวแล้วนะเนี่ย” แล้วก็เป็นอลอนโซ่ที่บาสเตียนอยากจะยกนิ้วให้เป็นรางวัล  เพราะเพื่อนสุดหล่อมาช่วยดักคำถามของลาห์มขี้สงสัยไว้ได้ทันเวลาพอดี

............แหม  ดีจริงๆ ที่อลอนโซ่มาด้วย เป็นคนสเปนที่มีน้ำใจดีจริงๆ ..............

บาสเตียนแทบน้ำตาไหลพรากมองหน้าเพื่อนทีมบาร์เยิร์นเชื้อสายสเปนที่ขอติดสอยห้อยตามมาด้วยอย่างปลื้มปิติ  และมื้อเช้าของคู่สมรสใหม่(?)และเหล่าลูกเสือ ก็เริ่มขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทุกๆ คนบนโต๊ะ.........รวมทั้งบาสเตียนผู้ร่าเริงของเราด้วย

และถ้าคุณถามถึงปัจจุบันล่ะก็...........บาสเตียนจะเลือกใครสักคนไหม?

หึ ม่ายยยย ม่ายหรอก.........เค้าคงจะต้องเป็นกรรมการจำเป็นคอยห้ามมวยคู่เอกอยู่แบบนี้ไปตลอดนั้นแหละ  ไม่ว่าเค้าจะต้องการหรือไม่ แต่ทั้งสองที่รักเค้ายิ่งกว่าสิ่งใดก็จะดูแลและปกป้องเค้าอย่างดีตลอดไปแน่นอน............

...............และบาสเตียนเองก็รู้  ว่าตัวเค้าเองก็ขาดสองคนนี้ไปไม่ได้ด้วยเช่นกัน............

.

.

.

THE END

            -------------------------------------------------------------------------------------------------

            กรี๊ดดดดดดดด จบแล้ว.....ไม่รู้ว่าจะเป็นเยี่ยงไร้ในสายตารีดนะค่ะ เม้นท์ติดชม+ให้กำลังใจไรท์หน่อยนะเออ

            ท่านใดที่เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นรีดเดอร์ผู้มีเกียตริรายใหม่ของไรท์ ก็เข้ามาเป็นเพื่อนกันใน >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ได้เลยค่ะ ไรท์ยินดีรับแอดเสมอค่ะ....เฟสไรท์เองค่ะ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและความฟินนิยายของไรท์ได้ที่นี่เลยค่ะ

            ปล. ปิดเทอมนี้ฟิคกระจายเลยนะเออ -..-
           
รักรีดทุกคนค่ะ

            ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund -..-


2 ความคิดเห็น:

โบว์ กล่าวว่า...

อรั้ยยยยย พาร์ทนี้หื่นทีเดียว น้อย! แกมันจิต ของดีๆเค้าให้ทะนุถนอม แกเล่นซะแทบพัง =3=

ชอบมึลจริงๆ อ่อนโยนมากกก แต่ปลื้มน้อยแกมากกว่า
สาบานได้ว่าไม่ชอบ SM จริงๆน้ะ 5555555

บาสตี้ผู้น่าสงสาร เจ็บกายแต่สุขใจ อิอิ
คุณชายโผล่มาด้วยยยยย ถึงจะโผล่มาแค่คนสเปนใจดี 5555555

นุ้งลาห์มมีเคืองค่ะ ด่าน้องเตี้ยได้งายยย น้องไม่ยอม 555555
ชอบศึกชิงนายในห้องนอนจริงๆเลยยยย

3P จงเจริญญญญ งานนี้มีเดี้ยงบาสตี้ =w=

ปล. เป็นไปได้อยากให้ไรท์แต่งคู่ อลอนโซ่ กับ เจอร์ราร์ด บ้างง้าาา~ #เราจิ้นเจิดเคะ

ปล.2 ขอโทษน้ะที่ยังไม่ได้อ่านคู่ Spirk พอดีขี้เกียจเปิดคอม แฮะๆ

ปล.3 พรุ่งนี้เราสัญญาว่าเราจะอ่านให้ได้ TvT

อีกเรื่องนึง สำคัญมากกกก *ขอบคุณมากนะคะที่แต่งให้เราได้ฟิน ไอ้เราจะแต่งเองก็ไม่มีปัญญา ขอบคุณมากๆเน้อ จะติดตามต่อไปนะคะ รักน้ะ* ><'

Unknown กล่าวว่า...

ปกติติดลุคคุณชายนอย มาฟิคนี่มาสายเอสเอมเลย ชอบมั้ย ? ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 555
คิดอยู่แล้วว่านางน่าจะเหมาะกับสายนี้มากกว่า
ส่วนน้องมึลเหมาะกับลุคอย่างงี้สุดแล้ว อ่อนโยน ร่าเริงง จริงๆปกติอ่านคู่ นอย มึล บาสตี้ x ลามป์ รู้สึกว่ากับตันนางให้ฟิลเหมือนปะป๋าลีโอ >-< อ่านอันนี้แล้วรู้สึกว่า เอ้ออ บาสตี้เซะซี่ใช่ย่อย 5555